บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 422 สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ ข้าจะสู้กับสิบคน!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 422 สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ ข้าจะสู้กับสิบคน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 422 สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ ข้าจะสู้กับสิบคน!

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางทุกคนไม่ยอมอยู่ในใจ

ไม่นึกเลยว่าองค์หญิงหลิงหลงจะกล่าวโทษพวกเขาเพื่อโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาไม่กี่คน แม้แต่สององค์ชายยังหนีไม่รอด

แต่ก็จนปัญญาเพราะองค์หญิงหลิงหลงมีฐานะสูงส่ง ทำให้พวกเขาไม่กล้าล่วงเกิน

แต่ไม่กล้าล่วงเกิน ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ยอมอยู่ในใจ

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันพูดพึมพำ “ก็แค่ทุบตีพวกขยะดินแดนบูรพาเองไม่ใช่รึ ศักยภาพตัวเองอ่อนแอ จะไปโทษใครได้”

ในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย โอรสสวรรค์ดินแดนกลางอยู่รั้งท้ายมาตลอด

ไม่ว่าจะศักยภาพแฝงหรือภูมิหลัง ก็ไม่อาจเทียบกับโอรสสวรรค์ดินแดนกลางได้ โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาถูกสั่งสอน ก็จงยอมรับเสียดีๆ เถอะ มีน้อยคนมากที่จะกู้หน้ากลับมาได้

พวกเขาเอาชนะโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาบนเวทีประลองสุญญะอย่างถูกต้อง ต่อให้เป็นสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยก็ไม่สอดมือ

โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาได้ยินดังนั้นพลันโกรธจัด แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ แพ้ก็คือแพ้ พูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์

เทพสวรรค์รุ่นเก้าฝืนพูดยิ้มแย้ม “พวกศิษย์น้องทั้งหลาย เราเปลี่ยนที่กันเถอะ!”

“ไม่ได้!”

จางอวิ๋นซีกับฟางฉางเจ้าคนเจ้าอารมณ์สองคนนี้โกรธแล้ว!

คนอื่นมารังแกศิษย์พี่ตน นี่จะไปทนได้อย่างไร

สองคนพุ่งขึ้นเวทีประลองสุญญะ ยืนอยู่กลางฟ้าดินอย่างโอหัง มองโอรสสวรรค์ดินแดนกลางพวกนั้นอย่างเย็นชา

“พวกเจ้าว่าอะไรนะ เก่งจริงพูดมาอีกทีสิ!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันทำเสียงขึ้นจมูก “พวกเขายินดีจะประลองกับเรา แพ้ก็ได้แต่บอกว่าศักยภาพไม่ได้เรื่อง!”

ถึงจางอวิ๋นซีจะมากับองค์หญิงหลิงหลง แต่พวกเขากลัวองค์หญิงหลิงหลง ไม่ได้กลัวคนอื่น

…..

ฟางฉางยิ้มเยาะ “เหอะๆ ดีมาก! เช่นนั้นเราก็มาลองดูกัน! ข้าอยากรู้นักว่าโอรสสวรรค์ดินแดนกลางจะแกร่งเพียงใด!”

“ข้าไม่สู้กับคนไร้ชื่อเสียง!”

ดวงตาฟางฉางเหมือนกระบี่ เอ่ยอย่างเฉยชา “แซ่ฟาง คือศิษย์สายตรงรุ่นสิบของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!”

เมื่อเอ่ยจบ โอรสสวรรค์ดินแดนกลางต่างหัวเราะเยาะ!

“กับอีแค่ศิษย์สายตรง ยังกล้ามายั่วยุพวกข้ารึ พวกโอหัง ไม่รู้ว่าคำว่าตายเขียนอย่างไรหรือ”

“ไม่เห็นใครในสายตาจริงๆ!”

“สหายเก้าตะวัน ไปสั่งสอนมันให้เป็นคนหน่อยเถอะ!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันดวงตามืดทะมึน แผ่กลิ่นอายดุร้ายออกมาทั้งตัว

กับอีแค่ศิษย์สายตรงเล็กจ้อยคนเดียว กลับกล้ายั่วยุบุตรศักดิ์สิทธิ์แดนแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันอย่างเขารึ

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันทำเสียงขึ้นจมูก “ช่างไม่รู้อะไรเสียเลย!”

เขาพุ่งขึ้นเวทีประลองสุญญะ จากนั้นมีดวงตะวันร้อนแรงลอยขึ้นสามดวง แผ่พลังอำนาจยิ่งใหญ่!

เขามองออกว่าฟางฉางบรรลุเพียงดวงจิตดรุณตอนปลาย แต่เขาเป็นเก้าตะวันรุ่นเก้า บรรลุจุดสูงสุดดวงจิตดรุณมานานแล้ว

รับมือกับศิษย์สายตรงของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คนเดียว แค่เรื่องง่ายๆ ไม่ใช่รึ

แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ลงรอยกันมาตลอด แอบประชันกันมาตลอด โดยเฉพาะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สังหารผู้อริยะของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันด้วยกระบี่เดียว ทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันขายหน้ายับเยิน

แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันไม่กล้าไปกู้หน้าคืนจากเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ได้แต่มาหาเรื่องบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทุกรุ่นในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

เก้าตะวันรุ่นเก้าคิดจะสั่งสอนฟางฉางสักตั้ง กู้ศักดิ์ศรีของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันคืนมา!

เขาชิงออกมือก่อน ดวงตะวันร้อนแรงสามดวงข้างหลังเปล่งประกายระยิบระยับ หมุนม้วนเข้ามาพร้อมกับอุณหภูมิร้อนระอุ เผาห้วงอากาศเป็นความว่างเปล่า

คัมภีร์เทพยุทธ์เก้าตะวันที่แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันฝึกฝนกับคัมภีร์จักรพรรดิเก้าตะวันของมหาจักรพรรดิอีกาทองมาจากแหล่งที่มาเดียวกัน

เก้าตะวันรุ่นเก้าอาศัยพลังบำเพ็ญดวงจิตดรุณตอนปลายก็เคลื่อนสามตะวันได้ มีพรสวรรค์ไม่ธรรมดาเลย

ดวงตะวันร้อนแรงสามดวงอยู่ค้ำฟ้า ประกายไฟร้อนแรงพลันปะทุขึ้น กลายเป็นเปลวไฟไหลหลากถาโถมเข้าใส่ฟางฉาง

ฟางฉางสีหน้าไม่เปลี่ยน ประกายสายฟ้ารอบตัวกระจายออก แสงเทพสีสันหลากสีพุ่งขึ้นฟ้า

ข้างหลังเขารวมเป็นปรากฏการณ์กิเลนใหญ่ตัวหนึ่ง แสงเทพปัญจธาตุหมุนวนไม่ขาด กลิ่นอายพลังทรงอำนาจ

โฮก!

ปรากฏการณ์กิเลนผนึกแดนกลางส่งเสียงคำราม ก่อนพุ่งเข้าใส่สามดวงตะวันพร้อมกับประกายสายฟ้าปัญจธาตุ

บึ้ม!

แสงเทพกระจายออก พลานุภาพน่าสะพรึงกลัว!

สองคนพลันถูกแสงเทพไม่มีสิ้นสุดปกคลุม คลื่นพลังน่าสะพรึงถาโถมเข้าไป ทำให้ท้องนภาสั่นสะเทือน หากไม่ใช่เพราะที่นี่มีค่ายกลคุ้มกัน เกรงว่าแม้แต่อากาศยังถูกทำลาย พลังอำนาจแข็งแกร่งถึงที่สุด

เมื่อสัมผัสได้ถึงคลื่นพลังการต่อสู้ที่ระเบิดมาจากเวทีประลองสุญญะแล้ว เหล่าโอรสสวรรค์ดินแดนกลางต่างแอบตกใจ

ศิษย์สายตรงรุ่นนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีศักยภาพแข็งแกร่งขนาดนี้เชียว ถึงขนาดสูสีกับเก้าตะวันรุ่นเก้าได้!

จางอวิ๋นซีด้านข้างมีสีหน้าเฉยชา ก่อนจะกวาดสายตามองไปที่ยอดฟ้ารุ่นเจ็ด

จางอวิ๋นซีพูดด้วยความเย็นชา “เจ้า ขึ้นมา!”

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดพลันโกรธจัด ทำเสียงหึทีหนึ่ง “รนหาที่ตาย!”

ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะถูกนางแพศยาดูถูก นี่จะไปยอมได้อย่างไร

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดพลันระเบิดพลังออกมา เคลื่อนหม้อหลอมยักษ์กดทับใส่จางอวิ๋นซี

หม้อหลอมยักษ์ขยับแสงวาววับ ปะปนกับแสงสีเงินสว่างแสบตา ทำให้ปรากฏการณ์หม้อหลอมยักษ์น่าสะพรึงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

เหมือนกับขุนเขาเทพบรรพกาลกดทับลงมา

เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของบุตรศักดิ์สิทธิ์ ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดจึงใช้อาวุธวิญญาณระดับสูงสุด จะกำราบจางอวิ๋นซีด้วยพลังแก่กล้า!

จางอวิ๋นซีมีดวงตาดั่งหิมะ แสงเทพสว่างทั่วตัว พลังทรงอำนาจขึ้นเรื่อยๆ

อัสนีเทพกำเนิดฟ้าธาตุทองสีทองสว่างจ้าปะทุออกมาจากในกายนาง พุ่งขึ้นฟ้าไปพร้อมกับกลิ่นอายพลังทำลายล้าง ประกายสายฟ้าตัดสลับ สายฟ้ากระจายออก เหมือนเคราะห์สวรรค์มาเยือน!

พยัคฆ์ขาวธาตุทองหมื่นจั้งคำรามฟ้าดิน ทำลายห้วงอากาศแตกกระจาย ทำให้เขตนี้ถล่มทลายลง จะกลายเป็นซากปรักหักพัง

ปรากฏการณ์พยัคฆ์ขาวคำรามนภาพลันปะทุขึ้น เหมือนสัตว์เทพบรรพกาลปรากฏกายและพุ่งเข้าใส่หม้อหลอมยักษ์

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดพลันรู้สึกถึงแรงกดดันเพิ่มมากขึ้น แม้แต่แววตายังจริงจังขึ้นมา

“หม้อหลอมกำราบฟ้าดิน!”

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดคำรามเสียงดัง เคลื่อนปรากฏการณ์หม้อหลอมยักษ์ปกคลุมใส่พยัคฆ์ขาวธาตุทอง

หม้อหลอมยักษ์กลายเป็นแสงสีขาวหนาทึบ พลันปกคลุมใส่พยัคฆ์ขาวธาตุทอง

เงามายาควบแน่นเป็นของจริง กดอัดพยัคฆ์ขาวธาตุทองไว้ในหม้อหลอม แสงเทพสว่างพร่างพราวไหลเวียนในหม้อหลอมยักษ์ แฝงไว้ด้วยพลังมหาศาลหดตัวเข้ามาเรื่อยๆ จะบดขยี้พยัคฆ์ขาวธาตุทองในนั้นให้แหลกเป็นเสี่ยงๆ!

ขณะเดียวกัน หม้อหลอมเล็กนั้นยังคลุมใส่จางอวิ๋นซี กดอัดนางไปพร้อมๆ กัน!

จางอวิ๋นซีทำเสียงขึ้นจมูกทีหนึ่ง นางเคลื่อนอัสนีเทพธาตุทองเต็มผืนฟ้าขึ้นมา กลายเป็นคมสายฟ้าที่เฉียบคมและบ้าคลั่งพุ่งเข้าไป

ชิ้ง!

เกิดเสียงโลหะกระทบกัน!

หม้อหลอมเล็กสีเงินถูกอัสนีเทพกำเนิดฟ้าธาตุทองกระแทกถอยไป ประกายสายฟ้าที่พุ่งออกมาวนเวียนรอบตัวยอดฟ้ารุ่นเจ็ด ทำให้เขาตัวสั่นอย่างรุนแรง!

ประกายสายฟ้ากระจายออก งูอัสนีปลิวว่อน หลากสีและยังสว่างพร่างพราว!

ชั่วพริบตาเดียว ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดถูกผ่าไหม้เกรียม เส้นผมตั้งชี้ ตกลงบนเวทีประลองสุญญะ

…..

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร”

ยอดฟ้ารุ่นเจ็ดมีศักยภาพไม่ธรรมดา อาศัยอานุภาพของอาวุธวิญญาณระดับสูงสุด สู้กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้!

ทว่าในการสู้กับจางอวิ๋นซี กลับพ่ายแพ้เร็วเช่นนี้เลยหรือ

อีกด้านหนึ่ง สุดท้ายดวงตะวันร้อนแรงสามดวงก็ถูกกิเลนกำราบลง อัสนีเทพปัญจธาตุพุ่งออกไปย้อมท้องนภา

ท้ายที่สุดดวงตะวันสามดวงถูกทำลาย และยังมีร่างคนหนึ่งกระเด็นออกมา ตกลงพื้นอย่างแรง นั่นคือเก้าตะวันรุ่นเก้า ถูกฟางฉางถีบออกจากเวทีประลองสุญญะ!

“อะไรกัน”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางตกใจเล็กน้อย เก้าตะวันรุ่นเก้าก็แพ้รึ

ศิษย์สายตรงรุ่นสิบของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แกร่งขนาดนี้เชียว

จางอวิ๋นซีกับฟางฉางสองคนยืนบนเวทีประลองสุญญะ มองโอรสสวรรค์ดินแดนกลางจากด้านบน

“นี่คือศักยภาพของโอรสสวรรค์ดินแดนกลางรึ เหอะ ก็ได้แค่นี้!”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางโมโหจัด พวกเขาเคยถูกใครหยามเกียรติเช่นนี้ด้วยรึ

ก่อนจะมีโอรสสวรรค์อีกสองคนพุ่งขึ้นไป ยืนประจันหน้าสองคน พลังเย็นยะเยือก

นั่นคือบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันกับแดนศักดิ์สิทธิ์ฟ้าทมิฬ พลังบำเพ็ญอยู่จุดสูงสุดดวงจิตดรุณ

พวกเขาเปล่งแสงเทพทั้งตัว แสงเทพสว่างจ้า เผยกลิ่นอายพลังแข็งแกร่ง

นั่นคืออาวุธวิญญาณระดับสูงสุด สวมจากศีรษะจรดเท้า ทำให้กำลังรบพวกเขาพลันพุ่งพรวดขึ้น!

“จะไปยอมให้พวกเจ้าหยามศักดิ์ศรีของโอรสสวรรค์ดินแดนกลางได้อย่างไร”

บุตรศักดิ์สิทธิ์สองคนทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะกระตุ้นอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดจู่โจมใส่สองคน

โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาด้านล่างตะโกนเสียงดัง “พวกเจ้าอย่าหน้าไม่อายให้มากนัก! สู้ไม่ได้ก็เปลี่ยนอาวุธ! ไม่อยากเชื่อว่าจะสวมอาวุธวิญญาณทั้งชุดมาสู้กับพวกศิษย์น้อง!”

โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาจะไม่โกรธได้อย่างไร ก่อนหน้านี้ที่พวกเขาแพ้ให้โอรสสวรรค์ดินแดนกลางไม่ใช่เพราะศักยภาพไม่พอ แต่เป็นเรื่องความต่างของอุปกรณ์

ตอนนี้โอรสสวรรค์ดินแดนกลางกลับจะใช้ไม้นี้มารับมือกับจางอวิ๋นซีและฟางฉาง ถ้าไม่ใช่เพราะบาดเจ็บ พวกเขาก็เตรียมจะเข้าไปสู้อีกรอบแล้ว!

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางมองเหยียด ขี้เกียจจะสนใจเจ้าพวกนี้ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่คิดว่าการใช้อุปกรณ์เสริมพลังเป็นเรื่องไม่ถูกต้องอะไร!

แสงเทพหลากสีพุ่งมาจากอาวุธวิญญาณระดับสูงสุด แผ่พลังอำนาจเทพ ทำให้ท้องนภาสั่นสะเทือน

เวทีประลองสุญญะพลันถูกแสงเทพมากมายวนเวียน สว่างแสบตาถึงที่สุด ทำให้คนมองเห็นไม่ชัด

บุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดทั้งสองมองออกว่าจางอวิ๋นซีกับฟางฉางมีศักยภาพไม่ธรรมดา ฝึกคัมภีร์จักรพรรดิเทพสวรรค์ถึงระดับสูงสุด หากสู้กันตามปกติ พวกเขาก็อาจจะไม่ชนะ

แต่พวกเขามีศักยภาพแฝงลึกล้ำ ต่อให้เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์ก็อาจจะไม่มีอาวุธวิญญาณระดับสูงสุด แต่พวกเขาเอาออกมาได้

บุตรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองไม่เชื่อว่าอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดทั้งชุดจะกำราบเจ้าสองคนนี้ไม่ได้

บึ้ม!

บึ้ม!

บึ้ม!

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นกลางเวทีประลองสุญญะ!

แสงเทพหลากสีพุ่งกระจายไปรอบๆ ทะลวงผ่านห้วงอากาศไม่มีสิ้นสุด

คลื่นพลังน่าสะพรึงเหมือนจะทำลายภูผานที แผ่กลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่ากำลังเกิดมหาศึกสะท้านฟ้า

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางเต็มไปด้วยความมั่นใจ ด้วยศักยภาพของบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดทั้งสอง ประกอบกับอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดทั้งตัว ก็เพียงพอจะกำราบบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเดียวกันได้

การรับมือกับเจ้าหนูรุ่นสิบสองคน เป็นเรื่องง่ายๆ ไม่ใช่รึ

ตึง!

ตึง!

…..

เสียงกายเนื้อปะทะกันดังขึ้น

กลางแสงเรืองรองไม่มีสิ้นสุด สองร่างพุ่งออกมากระแทกกับพื้นอย่างแรง เกิดฝุ่นดินคละคลุ้ง

“ข้าบอกแล้วว่าโอรสสวรรค์จากแดนป่าเถื่อนจะไปเทียบกับดินแดนกลางได้อย่างไร”

มีบุตรศักดิ์สิทธิ์หัวเราะเสียงดัง คิดว่าพวกเขาชนะแน่แล้ว

แต่เมื่อฝุ่นดินกระจายหายไป โอรสสวรรค์ดินแดนกลางตัวแข็งทื่อ แววตาเหม่อลอย

“สหายทั้งสองท่าน เหตุใด…พวกเจ้าถึงพ่ายแพ้ล่ะ”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางเหม่อลอย สองร่างที่ลอยออกมานั้นคือบุตรศักดิ์สิทธิ์สองคนนั้น

แม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ที่สวมอาวุธวิญญาณระดับสูงสุดทั้งตัวยังสู้ไม่ได้รึ

ไม่กระมัง ไม่กระมัง ไม่กระมัง!

บุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดทั้งสองลุกขึ้นจากพื้น สภาพน่าเวทนาอย่างยิ่ง

ฟ้าทมิฬรุ่นเจ็ดตาแดงแล้ว ทั้งยังมีน้ำตา “ฮือๆ พวกเจ้าสองคนไม่มีคุณธรรม! ไม่อยากเชื่อว่าจะใช้อาวุธอริยะมาสู้กับข้า ทุบจนหน้าขาบวมเลย!”

ฟ้าทมิฬรุ่นเจ็ดหน้าบวมครึ่งซีก อาวุธวิญญาณระดับสูงสุดทั้งตัวอ่อนลงไร้แสงสว่าง แสดงว่าพังแล้ว!

เก้าตะวันรุ่นเจ็ดอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาเช่นกัน “พวกเจ้าจะโหดเกินไปแล้ว! ขะ…ข้าถูกแทงตั้งแปดสิบกว่าทวน! ถึงกับฟันร่วงเลย!”

อาวุธวิญญาณระดับสูงสุดถูกแทงแตกเป็นรูทั้งตัว ฟันร่วงไปสองซี่ การพูดมีลมรอดออกมา

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางมองด้วยความตกใจจนเนื้อเต้น ต่อให้พวกเขาขึ้นไปก็คงไม่ต่างกันเท่าไรกระมัง!

จางอวิ๋นถิงพูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์พี่ใหญ่ทำเกินไปหน่อยแล้ว แทงคนอื่นรัวตั้งแปดสิบกว่าครั้ง แบบนี้ดีจริงๆ หรือ แบบนี้ไม่ดี กลมเกลียวกันไว้ดีกว่า”

ทุกคนข้างกายได้ยินดังนั้นก็มุมปากกระตุกขึ้นมา

แบบนี้ไม่ดี เจ้าก็ไปขวางศิษย์พี่เจ้าสิ!

พูดดูเหมือนกลมเกลียวกันไปพลาง ยิ้มมองบุตรศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นถูกทรมานไปพลาง

เชื่อเจ้าก็บ้าแล้ว!

นี่คงจะเป็นคนหน้าเนื้อใจเสือสิ!

……

แสงสว่างกระจายออก จางอวิ๋นซีกับฟางฉางปรากฏออกมาอีกครั้ง

เพียงแต่พวกเขาคนหนึ่งถือกระบี่อริยะหงส์ทอง อีกคนถือทวนราชันอหังการมังกรกล้า

พลังอาวุธทรงอำนาจถึงที่สุด แผ่อำนาจอริยะรุนแรงออกมา

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางหรี่ตาลงเล็กน้อย เป็นอาวุธอริยะจริงๆ!

มิน่าบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดสองคนถึงพ่ายแพ้!

อาวุธวิญญาณระดับสูงสุดจะไปต้านอานุภาพของอาวุธอริยะได้อย่างไร

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางเดินเข้ามาสอบถาม “นี่พวกเจ้าใช้อาวุธอริยะรึ”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางทำเสียงหึ “ใช้อาวุธอริยะแล้วอย่างไร พวกยากจน เก่งจริงพวกเจ้าก็ใช้บ้างสิ!”

โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาเยาะเย้ยกลับอย่างไม่เกรงใจเลย

ก่อนหน้านี้พวกเขาคับอกคับใจยิ่งนัก ตอนนี้ถือว่าได้ระบายความแค้นแล้ว!

ยิ่งเห็นสภาพของโอรสสวรรค์ดินแดนกลางสองคนน่าเวทนากว่าพวกเขา ก็มีความสุขขึ้นมาในใจ!

สมน้ำหน้า!

ใครให้พวกเจ้ารังแกพวกข้าก่อนกัน

……

โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาแอบตกใจ ไม่นึกเลยว่าสองคนจะมีศักยภาพแฝงลึกล้ำ ขนาดอาวุธอริยะยังเอาออกมาได้ หรือว่าหลายปีมานี้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะหลุดพ้นจากความยากจนไปร่ำรวยแล้ว

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง ไม่อยากเชื่อว่าจะถูกโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาเยาะเย้ยกลับ

มีบุตรศักดิ์สิทธิ์อาวุโสนำอาวุธอริยะสองชิ้นมาให้บุตรศักดิ์สิทธิ์สองคน “ใช้อาวุธอริยะสั่งสอนพวกมัน! ดินแดนกลางจะถูกหยามศักดิ์ศรีไม่ได้!”

แดนศักดิ์สิทธิ์ดินแดนกลางมีศักยภาพแฝงลึกล้ำมาก พวกเขาก็มีอาวุธอริยะเช่นกัน เพียงแต่อาวุธอริยะจะใช้ในยามสำคัญ ปกติจะมอบให้บุตรศักดิ์สิทธิ์ระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ และต้องเป็นผู้โดดเด่น

ตอนนี้บุตรศักดิ์สิทธิ์อาวุโสไม่อยากเห็นดินแดนกลางถูกดินแดนบูรพาเหยียบย่ำศักดิ์ศรี จึงนำอาวุธอริยะออกมาให้บุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดสองคนยืมใช้

บุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดสองคนถืออาวุธอริยะในมือแล้วพลันรู้สึกมีความมั่นใจกลับมา รู้สึกว่าตนสู้ไหวแล้ว

“สหายทุกท่านวางใจ พวกข้าจะให้พวกมันได้เห็นดีแน่นอน!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดสองคนถืออาวุธอริยะพุ่งเข้าไปอีกครั้ง จะกู้หน้ากลับมา!

บึ้มๆๆ!

ตึงๆๆ!

ไม่นานนัก บุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดสองคนก็กลับมาด้วยรูปแบบเหมือนเดิม!

เพียงแต่สภาพเปลี่ยนไปเล็กน้อย

ฟ้าทมิฬรุ่นเจ็ดที่เดิมทีหน้าบวมครึ่งซีก ตอนนี้บวมขึ้นมาอีกข้างแล้ว

ศีรษะบวมเหมือนกับหัวหมู!

เก้าตะวันรุ่นเจ็ดอนาถยิ่งกว่า ฟันร่วงมาทั้งแถบ

ต่อให้เปลี่ยนเป็นอาวุธอริยะ พวกเขาก็ยังสู้จางอวิ๋นซีกับฟางฉางสองคนไม่ได้!

พ่ายแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า ประกอบกับการสิ้นชีพทางสังคม ทำให้บุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเจ็ดทั้งสองแทบจะร้องไห้

แม้แต่โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาเห็นดังนั้นยังอดเห็นใจมิได้

เทพสวรรค์รุ่นเก้าพูดลมไหลผ่านซอกฟัน “เฮ้อ ไฉนสหายต้องทำเช่นนี้ล่ะ! ไม่อยากเชื่อว่าจะยอมเสียฟันหนึ่งแถบมาชดใช้ให้ข้า ยอมรับไม่ได้จริงๆ!”

คนฟันหักสุดหล้าฟ้าเขียวเดียวกัน แต่เจ้าฟันหักมากกว่าข้าอีก! นี่คือคุณธรรมยิ่งใหญ่! พวกข้าเทียบไม่ได้เลย!”

เทพสวรรค์รุ่นเก้าแสร้งให้ดูลึกลับ แต่กลับกลั้นใจแอบหัวเราะไม่ได้

ฟันที่หายไปชัดเจนมาก

เก้าตะวันรุ่นเก้าหน้าแดงก่ำ แต่กลับพูดออกมาไม่ชัด “อวกเอ้า!”

แต่เทพสวรรค์รุ่นเก้ากลับฟังเข้าใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความซื่อตรง “ใช่ คนที่ทุบตีเจ้าบนเวทีคือศิษย์น้องหญิงข้าเอง!”

พรวด!

เต้าตะวันรุ่นเก้ากระอักเลือด ไม่รู้ว่าเพราะถูกอัดหรือเพราะโกรธกันแน่

…..

ท้องนภากลับมาสดใส จางอวิ๋นซีกับฟางฉางสองคนเปล่งประกายสายฟ้าทั้งตัว มองโอรสสวรรค์ดินแดนกลางมากมายจากเบื้องบนราวกับเทพเจ้า

“นี่คือโอรสสวรรค์ดินแดนกลางรึ แค่นี้รึ รับการโจมตีเดียวไม่ได้ด้วยซ้ำ! ให้ระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ขึ้นมาเถอะ!”

จางอวิ๋นซีกับฟางฉางสองคนใช้โอรสเสริมสวรรค์เบิกฟ้ามาแล้ว ไม่ว่าจะคุณสมบัติกายหรือพรสวรรค์ก็พุ่งขึ้นถึงขีดจำกัด

ศักยภาพของพวกเขาอยู่เหนือกว่าโอรสสวรรค์ธรรมดาอย่างสมบูรณ์

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางระดับดวงจิตดรุณไม่คุกคามถึงพวกเขาเลย!

เมื่อได้ฟังคำพูดของสองคน โอรสสวรรค์ดินแดนกลางก็โกรธแล้ว ตะโกนเสียงดัง “ไอ้พวกโอหัง! วันนี้จะให้พวกเจ้าได้รู้ว่าเป็นคนก็ต้องมีใจยำเกรงบ้าง”

บุตรศักดิ์สิทธิ์อาวุโสดินแดนกลางนั่งไม่ติดพื้นแล้ว ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป โอรสสวรรค์ดินแดนกลางได้ขายหน้าหมดแน่!

คนสิบคนก้าวออกมา พวกเขาคือบุตรศักดิ์สิทธิ์อาวุโสของทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ ศักยภาพแข็งแกร่งมาก ระดับพลังถึงผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตอนต้น

สิบคนก้าวออกมาพร้อมกัน พลังอำนาจถาโถมเหมือนคลื่นลูกใหญ่ ทำให้ท้องนภาถอดสี

บุตรศักดิ์สิทธิ์อาวุโสพวกนี้โมโหอยู่ในใจ ขึ้นมาก็กระตุ้นพลังทั้งหมด หมายจะกำราบด้วยพลังแก่กล้า!

“ศิษย์พี่ ศิษย์พี่หญิง ข้าช่วยท่านเอง!”

จ้าวเฮ่าพุ่งขึ้นไป ทั่วร่างเขาอาบด้วยเพลิงเทพร้อนแรง กลายเป็นวิหคชาดบินฉวัดเฉวียน คำรามสะท้านสวรรค์เก้าชั้น

จางอวิ๋นถิงก้าวเข้าไปเช่นกัน รวมเป็นปรากฏการณ์มังกรเขียว สอดคล้องกับฟางฉางและจางอวิ๋นซี

ในที่สุดตอนนี้สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ก็ร่วมมือกันสู้กับโอรสสวรรค์ดินแดนกลาง!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สิบคนดินแดนกลางมีสีหน้าเฉยชา “มาอีกสองคนแล้วจะมีประโยชน์อะไร ต่อให้โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาเข้ามาพร้อมกันหมด วันนี้ก็ต้องไสหัวลงไปจากเวทีประลองสุญญะ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สิบคนอวดดีอย่างยิ่ง พวกเขาไม่ใช่แค่ผู้โดดเด่นของทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์!

ด้วยศักยภาพของพวกเขา จะจัดการรุ่นเยาว์ดวงจิตดรุณไม่กี่คนไม่ได้ได้อย่างไร

“สู้!”

“สู้!”

“สู้!”

“สู้!”

เสียงตะโกนสี่เสียงดังสนั่นฟ้า!

สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ยิงประกายสายฟ้าน่ากลัวออกมารอบตัว กลายเป็นทะเลสายฟ้าเต็มฟ้า มายืนยันความคิดของพวกเขา!

ต่อให้อีกฝ่ายเป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์ แล้วอย่างไร

พวกเขาก็จะใช้กำลังของตัวเอง สู้ข้ามขั้นเอาชนะผู้สูงศักดิ์สวรรค์ให้ได้!

“ฆ่า!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สิบคนตะโกนเสียงดัง ปรากฏการณ์น่ากลัวขวางฟ้าและโลก

ห้วงอากาศสั่นสะเทือนจนพังทลายลง ทำให้ผู้บำเพ็ญดวงจิตดรุณมากมายหนาวสั่น

โทสะของผู้สูงศักดิ์สวรรค์เหมือนจะถาโถมใส่ฟ้าดิน!

ฟางฉางเดินหน้าไปก่อน ตะโกนเสียงดังทีหนึ่ง “วางยอดค่ายกลเทพสวรรค์!”

ฟางฉางนำหน้าไปก่อน ปรากฏการณ์กิเลนข้างหลังปะทุขึ้น จากนั้นเป็นปรากฏการณ์พยัคฆ์ขาว ปรากฏการณ์มังกรเขียวและปรากฏการณ์วิหคชาด

ปรากฏการณ์มากมายขวางท้องนภา บดบังฟ้าและดวงตะวัน ทำให้ฟ้าดินมืดครึ้มลง

เมฆเคราะห์ภัยรวมกัน แสงสีดำสว่างวูบวาบ แผ่พลังอำนาจเทพทำลายล้าง เหมือนจะทำลายฟ้าดินแห่งนี้

นี่คือค่ายกลอัสนีฟ้าเทพสวรรค์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ภายใต้การเสริมพลังของสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ ทำให้อานุภาพมากพอจะสังหารผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้!

บึ้ม!

ประกายสายฟ้าสั่นสะท้าน แสงสายฟ้าวนเวียน!

เมฆสายฟ้ารวมเหนือเวทีประลองสุญญะ แผ่กลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหวาดกลัว

เก้าตะวันรุ่นเจ็ดตัวสั่น เห็นได้ชัดว่าเกิดเงามืดในใจกับสายฟ้า

ถึงอย่างไรเขาก็เพิ่งถูกแขวนทุบตียกหนึ่ง และยังถูกสายฟ้าผ่าอีกหลายร้อยครั้ง

เก้าตะวันรุ่นเจ็ดพูดลมรอดผ่านฟัน “อำไออึงอู้อึกอ่าอ่ายอลอี้โอดอิงๆ!”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางงุนงง

นี่เจ้าพูดอะไร

ความจริงเป็นเพราะเจ้านี่ฟันร่วงไปแถบหนึ่ง เลยพูดไม่ชัด

เทพสวรรค์รุ่นเก้าก้าวออกมา พูดยิ้มๆ “ข้ารู้! สหายท่านนี้บอกว่าเขารู้สึกว่ายอดค่ายกลนี้โหดจริงๆ!”

…….

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางกับดินแดนบูรพางุนงง

นี่เจ้าฟังออกด้วยรึ!

สุดยอดเลย!

เก้าตะวันรุ่นเจ็ดอึ้งไปเล็กน้อย

หันกลับไปก็เห็นเทพสวรรค์รุ่นเก้ายิ้มให้

ทันใดนั้น เก้าตะวันรุ่นเจ็ดพลันอบอุ่นอยู่ในใจ ‘ผู้รู้ใจข้า คือเทพสวรรค์รุ่นเก้า!’

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด