บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 308 ผู้รอดตายรังแกฉัน!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 308 ผู้รอดตายรังแกฉัน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 308 ผู้รอดตายรังแกฉัน!

น่าขนลุก!

ภาพนี้ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคนอย่างชัดเจน

โอรสสวรรค์เผ่าทะเลห้าคน ทุกคนมีศักยภาพระดับผู้สูงศักดิ์ขึ้นไป

ไม่ว่าจะอยู่เผ่าพันธุ์ใด ระดับพลังเหนือว่าผู้สูงศักดิ์ก็เป็นผู้แข็งแกร่งแล้ว เป็นผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสูง

ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้ายอดค่ายกลเบิกฟ้า ไม่ว่าปีศาจใดหรือสมบัติใดล้วนอ่อนแอจนเหมือนเรื่องตลก ต้านรับไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว

หมอกเบิกฟ้าหมุนม้วนเข้ามา ไม่ว่าจะใช้ยอดวิชาหรือสมบัติลับสะท้านโลกอะไรก็ไร้ผล พลันถูกหมอกเบิกฟ้าแยกและหลอมละลายเป็นอากาศธาตุ

ต่อให้ทะลวงเขตแดนทะเลเบิกฟ้าเข้าไปได้ ก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะโดนสาปกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไร้สติปัญญา

“พวกเขาน่าจะอายุเกินห้าร้อยปีแล้ว ยังคิดจะแอบเนียนเข้าไปในยอดค่ายกลเบิกฟ้าอีก”

นัยน์ตาองค์หญิงเงือกอวี้เผียนเซียนดูหมดความอดทนเสี้ยวหนึ่ง “ทุกครั้งที่เกาะดาราเบิกฟ้าเปิด จะต้องมีโอรสสวรรค์เช่นนี้”

ไม่ว่าโลกใดก็ต้องมีคนที่รู้ทั้งรู้ว่าผิดแต่ก็ยังทำ

เขตทะเลเบิกฟ้าจะเปิดรับเฉพาะโอรสสวรรค์อายุต่ำกว่าห้าร้อยปีเท่านั้น หากเกินห้าร้อยปีก็จะโดนยอดค่ายกลโจมตี

แต่ต่อให้รู้ทั้งรู้ก็ยังมีโอรสสวรรค์เผ่าทะเลมากมายยับยั้งความละโมบต่อเขตทะเลเบิกฟ้าไม่ได้ คิดหาทางตีเนียนผ่านเข้าไป

อย่างเช่น ‘นิพพานฝึกบำเพ็ญใหม่’ ‘เปลี่ยนอายุกระดูก’ ‘ยึดร่างเกิดใหม่’ รวมถึงฝึกวิชาลับต้องห้ามบางอย่าง

ความเป็นจริง การใช้วิชาลับพวกนี้บุกเกาะดาราเบิกฟ้า ในประวัติศาสตร์ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเคยทำสำเร็จมาก่อน ในทางตรงข้ามยังมีตัวอย่างประสบความสำเร็จไม่น้อย

แทบทุกครั้งที่เกาะดาราเบิกฟ้าเปิด จะเกิดเหตุการณ์ว่าใครต่อใครอายุเกินห้าร้อยปีแล้ว แต่ยังเข้าไปในค่ายกลสำเร็จ

แต่วิธีของเจ้าพวกนี้ไม่เหมือนนักผจญภัยคนอื่นๆ เลย

เหมือนว่าจะตีเนียนผ่านไปได้หรือไม่ ต้องดูว่าโชคดีหรือไม่ต่างหาก

อืม ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะโชคไม่ดี ต่างคิดว่าตัวเองเป็นบุตรแห่งโชคกันทั้งนั้น

เพราะเหตุนี้เอง ทุกครั้งที่เกาะดาราเบิกฟ้าเปิดจะมีหลายคนที่ไม่มีทางเลือกจึงต้องเสี่ยง นี่เป็นเรื่องที่เห็นจนชินตาไปนานแล้ว

ได้แต่บอกว่าผู้รอดตายรังแกฉัน

…….

“ปีศาจดีๆ เหตุใดถึงกลายเป็นปลาน้อยกัน”

เมื่อเห็นลูกปลาที่พุ่งในคลื่นทะเล กระทั่งยังมีความสุขซื่อๆ นั้น อู่อู๋ตี๋สนใจเป็นอย่างมาก

ตัวเขาลงมาหน้าปลาน้อยตัวนั้น สำแดงวิชาดูดน้ำทะเลที่ปลาน้อยอยู่เข้ามา ก่อนพิจารณามองมันด้วยความแปลกใจ

พบว่าปลาน้อยมีเกล็ดสีเงินทั้งตัว มีเพียงเกล็ดส่วนหางที่เป็นสีแดง ดูเหมือนปลาหลีฮื้อนิดๆ ทั่วร่างไม่มีกลิ่นอายพลังของผู้แข็งแกร่งเลย

ราวกับว่านี่เป็นปลาธรรมดาๆ เท่านั้น

เขายื่นกรงเล็บเต่าออกไปจิ้มหางปลาน้อย “ไม่รู้ว่าปลาที่เกิดจากคำสาปของหมอกเบิกฟ้าจะกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่”

คุณชายไป๋แห่งเผ่าเทพหมึกยักษ์พูดด้วยความจนปัญญา “เคยมีคนลองนำปลาต้องสาปออกจากเขตทะเลเบิกฟ้า ปรากฏว่าปลานั่นกลายเป็นอากาศธาตุ”

“ปล่อยมันไปเถอะ! ในเมื่อพวกเขาเสี่ยงตายฝ่ายอดค่ายกลนี้ ก็น่าจะเตรียมตัวโดนยอดค่ายกลโจมตีไว้แล้ว ถึงอย่างไรแม้ทุกครั้งจะมีคนผ่านไปได้สำเร็จ แต่คนที่พลาดก็มีมากกว่าเก้าส่วนเสียอีก”

คุณชายอู่หมดความสนใจไปแล้ว “พูดเช่นนี้ ปลานี่พิการแล้วหรือ”

คุณชายไป๋กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “อย่าเบาใจเชียว ถึงปลานี่จะสิ้นสติปัญญา แต่ระดับพลังก่อนแปลงร่างยังอยู่…”

พรูด~

ยังพูดไม่ทันขาดคำ ก็เห็นปลาน้อยที่คุณชายอู่ดูดไว้กลางอากาศพลันพ่นน้ำทะเลใส่หน้าคุณชายเต่าดำอู่อู๋ตี๋

จากนั้นปลาน้อยใช้หางสีแดงฟันใส่อู่อู๋ตี๋อีกที

ตอนนี้ห้วงอากาศพังทลายลง ทุกคนเหมือนเห็นดาบยาวสีชาดฟันใส่อู่อู๋ตี๋

อู่อู๋ตี๋ยังไม่ทันเช็ดน้ำบนใบหน้าสะอาด ดาบยาวนั่นก็ฟันใส่กระดองเต่าเขา เกิดสะเก็ดไฟสว่างจ้าแตกกระเซ็น

บึ้ม~

อู่อู๋ตี๋ถูกหางปลาฟาดกระเด็นออกไปร้อยจั้ง กระดองเต่าตรงหน้าอกเกิดรอยร้าวชัดเจน กระทั่งเห็นเนื้อเต่าขาวๆ

ส่วนใบหน้าของอู่อู๋ตี๋เกิดรอยชัดเจนเช่นกัน เหมือนกับโดนคนเอาส้นรองเท้าฟาด

เจ้าชายแห่งเผ่าเทพเต่าดำผู้ยิ่งใหญ่โดนฟาดจนหัวโน

จู่ๆ ก็โดนปลาหลีฮื้อน้อยฟาดหน้าบวม ทำให้คุณชายเต่าดำอู่อู๋ตี๋โกรธจนตัวสั่นไปหมด

“ว้ากๆๆๆๆ!”

เลือดลมทั่วร่างเดือดพล่าน กระดองเต่าสองด้านบนตัวอู่อู๋ตี๋เปล่งแสงพร้อมกัน ระเบิดแสงเทพสีดำสว่างจ้า

เหมือนกับดวงตะวันสีดำดวงหนึ่งพลันปรากฏขึ้นเหนือมหาสมุทร ทำให้คนรู้สึกถึงแรงกดดันรุนแรง

“เป็นปลาแล้วยังกล้าหยาบคายใส่ข้ารึ ดูหมัดเทพราชันอหังการของข้า!”

คุณชายเต่าดำอู่อู๋ตี๋ดูเหมือนเป็นแค่เด็กหนุ่มก็จริง อายุมากกว่าเอ๋าอูนิดเดียวเท่านั้น แต่ระดับพลังของเขาค่อนข้างแข็งแกร่งเลย ตอนนี้สำแดงหมัดเทพราชันอหังการวิชาลับที่ไม่เผยแพร่ของเผ่าเทพเต่าดำ สองหมัดพลันเปล่งแสงสว่างมากขึ้น

ปัง!

ปังๆๆ!

ปังๆๆๆๆ!

อู่อู๋ตี๋ออกทุกหมัด ไอหมัดจะรวมเป็นศีรษะเต่าดำมหึมาชกใส่ปลาน้อยนั้น

แม้ระดับพลังของเขาจะอยู่เพียงกายทอง แต่กำลังรบแท้จริงกับความชำนาญในวิชาหมัดไม่อ่อนแอเลย ต่อต้านกับระดับผู้สูงศักดิ์ส่วนใหญ่ได้จริงๆ

เวลานี้ ปลาน้อยนั่นถูกเต่าดำหมัดเทพราชันอหังการของอู่อู๋ตี๋กระแทกตกลงไปกลางทะเล

ก็แค่นี้ เผ่าเทพเต่าดำชำนาญการป้องกันมากที่สุด ในด้านการโจมตีไม่ถือว่าน่าตกใจ สุดท้ายก็ยังเอาปลาน้อยนั่นไม่ลง

มันตกลงน้ำแล้วก็มุดหายไปในก้นทะเล สะบัดหางไปไม่ทิ้งคลื่นน้ำ

เพียงแค่ฝากรอยบนใบหน้าอู่อู๋ตี๋อย่างชัดเจน

……..

“หลังจากเจ้านี่โดนยอดค่ายกลเบิกฟ้าเปลี่ยนร่างแล้ว กำลังรบไม่อ่อนแอลงเลย!”

เนตรสวรรค์เคหาสน์ม่วงตรงระหว่างคิ้วของฉีเซ่าเสวียนขยับแสงสว่างเทพ เหมือนจะส่องอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่พบ

“แซ่ฉีใช้เนตรสวรรค์ตรวจสอบแล้ว ปลาน้อยนั่นดูเหมือนจะไม่เผยกลิ่นอายพลังใดๆ เลย ราวกับว่าเป็นเพียงปลาธรรมดาเท่านั้น”

ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง “แปลก แปลกมาก! สหายเสิ่น เจ้ามองอย่างไร”

เสิ่นเทียนตอบนิ่งๆ “ก็อย่างที่ผู้อาวุโสเผ่ามังกรบอก ในเขตทะเลเบิกฟ้าอาจจะปรากฏสิ่งมีชีวิตประหลาดได้ทุกที่ อีกทั้งยังไม่ต่างอะไรกับสัตว์ปกติอีก ดังนั้นขณะที่ทุกคนเดินทางจะต้องระวังให้มาก จำไว้ว่าอย่าบุ่มบ่าม ไม่เช่นนั้นเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ จะยุ่งยาก”

อวี้เผียนเซียนพยักหน้าช้าๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโอนอ่อนผ่อนตาม “เผียนเซียนจะฟังสหายเสิ่นทุกอย่าง”

อืม ดูเหมือนยังมีความหลงใหลอยู่นิดๆ ด้วย

ท่าทีเช่นนี้เทียบกับท่าทีที่ปฏิบัติกับเหล่าโอรสสวรรค์คนอื่นในหอเสียงสวรรค์ก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้หลายคนเปรี้ยวจนฟันแทบร่วง

สี่คุณชายใหญ่มองเสิ่นเทียนอย่างคับแค้นใจ สารภาพตามตรง ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นมิตรกับเกาะมังกรดำ ตอนนี้คงจะอดใจร่วมกับกองกำลังของคุนหมิงไม่ได้แล้ว

เจ้าเผ่ามนุษย์นี่หน้าตาดีไม่เท่าไร ทำร้ายเผ่ามนุษย์ไม่พอ จะมาทำร้ายเผ่าปีศาจถึงทะเลอุดรอีกหรือ

คิดว่าปีศาจบุรุษของทะเลอุดรหาคู่ครองกันได้ง่ายจริงๆ รึ

เสิ่นเทียนมองหน้าผากของอวี้เผียนเซียนก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อทุกท่านเชื่อแซ่เสิ่น เช่นนั้นก็ตามแซ่เสิ่นมาเถอะ!”

พูดจบ ก็มีปีกเทพทองคำคู่หนึ่งงอกมาจากข้างหลังเสิ่นเทียน ก่อนจะบินไปทางตะวันออกของเขตทะเลไร้ที่สิ้นสุด

เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าตนถูกจำกัดในเขตทะเล

ความเร็วของทองคำเซียนปีกปักษาใช้ได้ไม่ถึงหนึ่งถึงสองส่วนสิบ อีกทั้งยังต้องระวังหมอกเบิกฟ้าอีก

แม้จะมีหมอกเบิกฟ้ากระจัดกระจายในอากาศไม่มาก แต่การหลบก็ยังยุ่งยากมาก เจออันตรายได้ง่ายมาก

ทุกคนอ้อมตะวันออกอ้อมตะวันตกตามเสิ่นเทียน เจอหมู่เกาะระหว่างทางไม่น้อย

หมู่เกาะรอบนอกพวกนั้นส่วนใหญ่จะมีเพียงหมอกเบิกฟ้าเบาบางวนเวียนอยู่ แทบจะไม่มีอันตรายใดๆ สำหรับนักผจญภัย และเพราะเหตุนี้เองจึงมีผู้แย่งชิงกันเยอะมาก

หลังจากผ่านการแย่งชิงกันมาไม่รู้นานเท่าไร ปกติจะไม่มีสมบัติล้ำค่าอะไรแล้ว ไม่มากพอจะทำให้เสิ่นเทียนสนใจ

…….

เมื่อทุกคนเข้าไปในเขตทะเลลึกขึ้นเรื่อยๆ ระดับความหนาของหมอกเบิกฟ้าก็เริ่มหนาขึ้น

หากมองไปสุดสายตา ห่างไปหลายร้อยลี้จะดูสุดลูกหูลูกตา แทบจะแยกเหนือใต้ออกตกได้ยากมาก

หากไม่ใช่เพราะโอรสสวรรค์ที่เข้ามาฝึกฝนพกศิลาตำแหน่งมาด้วย อาศัยศิลาตำแหน่งนี้กำหนดตำแหน่งทางเข้าที่แม่นยำไว้ ก็อาจจะหลงทางกันได้

ส่วนหมู่เกาะพวกนั้นตรงส่วนลึกของเขตทะเล ภายนอกเริ่มถูกหมอกเบิกฟ้าเบาบางปกคลุม มองจากข้างนอกไปข้างในจะขมุกขมัวเหมือนมองดอกไม้ในม่านหมอก

ช่วงที่ค่ายกลเปิดอยู่นี้ หมอกเบิกฟ้าพวกนี้จะแตกกระจายออกในเวลาที่ไม่แน่นอน

ตอนนั้น ก็จะเป็นโอกาสดีที่สุดที่ผู้ฝึกบำเพ็ญจะเข้าไปในหมู่เกาะ เสี่ยงอันตรายหาสมบัติ

แต่โอกาสเช่นนี้ก็จะผ่านไปเรื่อยๆ บางทีเจ้าอาจจะเฝ้าอยู่หน้าหมู่เกาะแบบนี้หลายวันถึงจะเจอหมอกเบิกฟ้าแตกออกสักครั้ง

การรอเช่นนี้ต้องใช้สมาธิทั้งหมด ไม่ใช่จะทนกันได้ง่ายๆ

และทุกครั้งที่หมอกเบิกฟ้าแตกออกก็จะอยู่แค่ไม่กี่ลมหายใจ หากเจ้าออกไปในระหว่างนั้นก็จะพลาดโอกาสเข้าเกาะ

ดังนั้นสิ่งต้องห้ามที่สุดคือยอมแพ้กลางคัน นั่นไม่มีความหมายอะไรเลย

ขณะเดียวกันต่อให้หมอกเบิกฟ้าแตกออก การจะเข้าเกาะก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ต้องรับแรงต่อต้านทรงพลังอีก

การฝืนเข้าไปภายใต้แรงต่อต้านนี้ อีกทั้งอยู่ในเพียงไม่กี่ลมหายใจ นี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ หากระดับพลังไม่แข็งแกร่งพอ กระทั่งอาจจะถูกหมอกเบิกฟ้าปกคลุมระหว่างเข้าเกาะ กลายเป็นสัตว์ประหลาดก็ได้

นี่คือหนึ่งในสาเหตุหลักของเรื่องเหนือความคาดหมายที่โอรสสวรรค์มากมายเจอในการผจญภัยเขตทะเลเบิกฟ้า

ความโลภ ถือดี ลังเล เดินไปเดินมา จะทำให้เจ้าไม่ได้อะไรเลยในเกาะดาราเบิกฟ้า กระทั่งสูญเสียทุกอย่าง

“สหายเสิ่น ระหว่างทางมาเราเจอเกาะดาราตั้งหลายเกาะ เหตุใดถึงไม่ดูเลยล่ะ”

คุณชายเซี่ยทำหน้าอาลัยอาวรณ์ เผ่าปูเทพทองคำเป็นพ่อค้า สิ่งที่รับไม่ได้ที่สุดคือพลาดสมบัติล้ำค่า

เสิ่นเทียนนำทุกคนมุ่งหน้าไปตลอดทาง เจอเกาะที่ถูกหมอกเบิกฟ้าปกคลุมสองสามแห่ง กลับไม่หยุดสักครู่ แต่ไปต่อเลย

ความคิดเช่นนี้ไม่ดี เพราะเมื่อก่อนมีโอรสสวรรค์แข็งแกร่งมากมายคิดว่ายิ่งเป็นเกาะดาราที่อยู่ลึกเท่าไรก็ยิ่งดี โชคลิขิตก็ยิ่งแกร่งมากเท่านั้น

แต่ความเป็นจริงในหมู่เกาะที่มีหมอกเบิกฟ้าปกคลุมทุกเกาะอาจมีมหาโชคลิขิตสะท้านฟ้าซ่อนอยู่ และอาจจะมีแค่ว่านวิญญาณธรรมดาก็ได้

การเลือกอย่างชาญฉลาดคือน่าจะเห็นคุณค่าของเกาะด้านหน้ามากกว่า

……

เสิ่นเทียนยิ้มมีเลศนัย “วางใจเถอะ ขอแค่ตามแซ่เสิ่น จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน”

ขณะพูดอยู่นั้น เสิ่นเทียนก็มองอวี้เผียนเซียนอีกที ดวงตาเป็นประกายลุกวาว

หัวใจของอวี้เผียนเซียนพลันถูกกวางน้อยพุ่งชนแตกทันที

ระหว่างทางมานี้ ไม่รู้ว่าสหายเสิ่นแอบมองข้ากี่ครั้งกันแล้ว ถึงจะไม่รู้ว่าเหตุใดทุกครั้งสหายเสิ่นเหมือนจะไม่ได้มองหน้าข้า แต่เป็นกลางกระหม่อมก็เถอะ

แต่แอบมองข้าถี่เช่นนี้ จะต้องคิดอะไรกับข้าแน่นอน

อืม ต้องเป็นเช่นนี้ไม่ผิดแน่ ข้านี่ฉลาดจริงๆ!

อวี้เผียนเซียนกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนหน้าแดง ทันใดนั้นเองเสิ่นเทียนมาหยุดอยู่หน้าเกาะแห่งหนึ่ง!

ภายนอกเกาะนี้มีหมอกเบิกฟ้าเบาบางวนเวียนอยู่ ลอยอยู่บนเขตทะเลเบิกฟ้า เคลื่อนที่ไม่หยุดตามยอดค่ายกล ดูแล้วไม่ต่างอะไรกับเกาะดาราอื่นๆ เลย ดูปกติมาก

ทว่าตอนที่มาถึงเกาะนี้ เสิ่นเทียนเผยรอยยิ้มลึกซึ้ง “แซ่เสิ่นคิดว่า บนเกาะนี้น่าจะมีสมบัติล้ำค่าไม่น้อย”

เมื่อเห็นรอยยิ้มมั่นใจในตนเองของเสิ่นเทียนแล้ว อวี้เผียนเซียนก็เคลิบเคลิ้มไปทีละนิด “ใช่ เผียนเซียนก็คิดว่าเกาะนี้ต้องมีสมบัติแน่”

เจ้าก็ด้วย?

เผ่าเงือกเก่งกาจเช่นนี้เชียวรึ

ถึงขนาดสัมผัสได้ถึงสมบัติผ่านยอดค่ายกลหมอกเบิกฟ้าหรือ

เสิ่นเทียนอึ้งไปแล้ว การประเมินต่อความสามารถของอวี้เผียนเซียนสูงขึ้นไม่น้อย

……..

เนื่องจากเสิ่นเทียนเลือกเกาะนี้ พวกฉีเซ่าเสวียนจึงหยุดพักหน้าเกาะ รอหมอกเปิดออก

ความจริงหากต้องการให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ทุกคนต้องแบ่งกันไปผจญภัยในเกาะที่ต่างกัน จะเจอโชคลิขิตได้ง่ายที่สุด ได้ทรัพยากรมาจำนวนมาก

แต่บางครั้ง การผจญภัยก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะการหาโชคลิขิตคนเดียว กำลังรบที่มีไว้ต่อต้านอันตรายจะอ่อนแอลงมากเช่นกัน

หากเจอสัตว์ประหลาดปิดล้อมหรืออันตรายอื่นๆ สหายก็อาจจะช่วยชีวิตเจ้าได้

นอกจากนี้ แม้หมู่เกาะในเขตทะเลเบิกฟ้าจะกระจัดกระจายกัน มีจำนวนไม่น้อย แต่นักผจญภัยทะเลอุดรก็มีเยอะเช่นกัน

นักผจญภัยต่างกันถูกใจหมู่เกาะเดียวกัน อาจจะเกิดการสังหารชิงสมบัติกันในที่ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกเช่นนี้ได้

หากเจ้าผจญภัยตามหาโชคลิขิตคนเดียว ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า กว่าจะสู้ตายเข้าไปในเกาะดาราได้ กวาดโชคลิขิตเสร็จแล้วเตรียมจะกลับบ้านอย่างมีความสุข ปรากฏว่าเจอกับชายร่างกำยำห้าคนที่เพิ่งมุดเข้ามาจากรอยแยกหมอก ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่เสียของให้เขาไปหมด แม้แต่ชีวิตน้อยๆ ก็อาจจะต้องสิ้นลง

ความจริงแล้ว ในการผจญภัยทะเลอุดรเมื่อนานมาแล้วก็มีนักผจญภัยหลายคนทำเช่นนี้

มีโอรสสวรรค์มากมายคับแค้นใจเพราะเหตุนี้!

ในหมู่คณะของเสิ่นเทียนก็มีเพียงเสิ่นเทียนกับฉีเซ่าเสวียนสองคนที่เป็นผู้แข็งแกร่งสุดยอดในการผจญภัยทะเลอุดรครั้งนี้อย่างแท้จริง

ส่วนเอ๋าอูกับสี่คุณชายใหญ่ ได้แต่ถือว่าผู้ค่อนข้างแข็งแกร่งเท่านั้น ถึงอย่างไรเอ๋าอูกับอู่อู๋ตี๋ก็ยังอายุน้อยเกินไป ไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ

ส่วนอีกสามคุณชาย รากฐานพรสวรรค์สายเลือดห่างไกลจากเอ๋าอู ถึงระดับพลังนี้ได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

ยังมีองค์หญิงเงือกอวี้เผียนเซียนอีกคน อืม ด้วยกำลังรบของนาง ให้เป็นสิ่งมงคลก็พอ

…..

ทุกคนนั่งอยู่หน้าเกาะแห่งนี้ รอหมอกเปิดเงียบๆ

รอทีผ่านไปสามวันเต็มๆ ระหว่างนั้นก็มีนักผจญภัยคนอื่นผ่านทางมาเช่นกัน

แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าคนที่อยู่หน้าเกาะคือเสิ่นเทียนกับฉีเซ่าเสวียนแล้วต่างก็จากไปอย่างชาญฉลาด

ถึงอย่างไรฉีเซ่าเสวียนก็เป็นโอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์ที่กล้าหาเรื่องคุนหมิง บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังใช้ระดับกายทองเอาชนะอสูรสูงศักดิ์เอ้อทงเทียนได้ในพริบตาอีก

นอกจากเจ้าคุนหมิงแล้ว ปกติในทะเลอุดรจะไม่มีใครกล้าล่วงเกินกลุ่มนี้

ขณะนั่งสมาธิ เวลาผ่านไปสามวันในพริบตา ในที่สุดหมอกปกคลุมจากหมอกเบิกฟ้าก็ค่อยๆ แตกออกเป็นรูขนาดหลายจั้ง

ทุกคนตาเป็นประกายขึ้นมา พุ่งทะยานไปยังรูนั้นพร้อมกัน เข้าไปในนั้นกันอย่างสุดกำลัง

ฟู่ว~

ผ่านรอยแตกมา ทุกคนมาปรากฏตัวเหนือเกาะแห่งนี้พร้อมกัน

ทันใดนั้นพลังวิญญาณไร้ที่สิ้นสุดก็ถาโถมเข้ามา

ทุกคนทำหน้าเคลิบเคลิ้ม พลังวิญญาณบนเกาะนี่…

หนาแน่นมากจริงๆ!

…………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 308 ผู้รอดตายรังแกฉัน!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 308 ผู้รอดตายรังแกฉัน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 308 ผู้รอดตายรังแกฉัน!

น่าขนลุก!

ภาพนี้ปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคนอย่างชัดเจน

โอรสสวรรค์เผ่าทะเลห้าคน ทุกคนมีศักยภาพระดับผู้สูงศักดิ์ขึ้นไป

ไม่ว่าจะอยู่เผ่าพันธุ์ใด ระดับพลังเหนือว่าผู้สูงศักดิ์ก็เป็นผู้แข็งแกร่งแล้ว เป็นผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสูง

ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้ายอดค่ายกลเบิกฟ้า ไม่ว่าปีศาจใดหรือสมบัติใดล้วนอ่อนแอจนเหมือนเรื่องตลก ต้านรับไม่ได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว

หมอกเบิกฟ้าหมุนม้วนเข้ามา ไม่ว่าจะใช้ยอดวิชาหรือสมบัติลับสะท้านโลกอะไรก็ไร้ผล พลันถูกหมอกเบิกฟ้าแยกและหลอมละลายเป็นอากาศธาตุ

ต่อให้ทะลวงเขตแดนทะเลเบิกฟ้าเข้าไปได้ ก็ไม่มีประโยชน์ มีแต่จะโดนสาปกลายเป็นสิ่งมีชีวิตไร้สติปัญญา

“พวกเขาน่าจะอายุเกินห้าร้อยปีแล้ว ยังคิดจะแอบเนียนเข้าไปในยอดค่ายกลเบิกฟ้าอีก”

นัยน์ตาองค์หญิงเงือกอวี้เผียนเซียนดูหมดความอดทนเสี้ยวหนึ่ง “ทุกครั้งที่เกาะดาราเบิกฟ้าเปิด จะต้องมีโอรสสวรรค์เช่นนี้”

ไม่ว่าโลกใดก็ต้องมีคนที่รู้ทั้งรู้ว่าผิดแต่ก็ยังทำ

เขตทะเลเบิกฟ้าจะเปิดรับเฉพาะโอรสสวรรค์อายุต่ำกว่าห้าร้อยปีเท่านั้น หากเกินห้าร้อยปีก็จะโดนยอดค่ายกลโจมตี

แต่ต่อให้รู้ทั้งรู้ก็ยังมีโอรสสวรรค์เผ่าทะเลมากมายยับยั้งความละโมบต่อเขตทะเลเบิกฟ้าไม่ได้ คิดหาทางตีเนียนผ่านเข้าไป

อย่างเช่น ‘นิพพานฝึกบำเพ็ญใหม่’ ‘เปลี่ยนอายุกระดูก’ ‘ยึดร่างเกิดใหม่’ รวมถึงฝึกวิชาลับต้องห้ามบางอย่าง

ความเป็นจริง การใช้วิชาลับพวกนี้บุกเกาะดาราเบิกฟ้า ในประวัติศาสตร์ก็ใช่ว่าจะไม่มีใครเคยทำสำเร็จมาก่อน ในทางตรงข้ามยังมีตัวอย่างประสบความสำเร็จไม่น้อย

แทบทุกครั้งที่เกาะดาราเบิกฟ้าเปิด จะเกิดเหตุการณ์ว่าใครต่อใครอายุเกินห้าร้อยปีแล้ว แต่ยังเข้าไปในค่ายกลสำเร็จ

แต่วิธีของเจ้าพวกนี้ไม่เหมือนนักผจญภัยคนอื่นๆ เลย

เหมือนว่าจะตีเนียนผ่านไปได้หรือไม่ ต้องดูว่าโชคดีหรือไม่ต่างหาก

อืม ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะโชคไม่ดี ต่างคิดว่าตัวเองเป็นบุตรแห่งโชคกันทั้งนั้น

เพราะเหตุนี้เอง ทุกครั้งที่เกาะดาราเบิกฟ้าเปิดจะมีหลายคนที่ไม่มีทางเลือกจึงต้องเสี่ยง นี่เป็นเรื่องที่เห็นจนชินตาไปนานแล้ว

ได้แต่บอกว่าผู้รอดตายรังแกฉัน

…….

“ปีศาจดีๆ เหตุใดถึงกลายเป็นปลาน้อยกัน”

เมื่อเห็นลูกปลาที่พุ่งในคลื่นทะเล กระทั่งยังมีความสุขซื่อๆ นั้น อู่อู๋ตี๋สนใจเป็นอย่างมาก

ตัวเขาลงมาหน้าปลาน้อยตัวนั้น สำแดงวิชาดูดน้ำทะเลที่ปลาน้อยอยู่เข้ามา ก่อนพิจารณามองมันด้วยความแปลกใจ

พบว่าปลาน้อยมีเกล็ดสีเงินทั้งตัว มีเพียงเกล็ดส่วนหางที่เป็นสีแดง ดูเหมือนปลาหลีฮื้อนิดๆ ทั่วร่างไม่มีกลิ่นอายพลังของผู้แข็งแกร่งเลย

ราวกับว่านี่เป็นปลาธรรมดาๆ เท่านั้น

เขายื่นกรงเล็บเต่าออกไปจิ้มหางปลาน้อย “ไม่รู้ว่าปลาที่เกิดจากคำสาปของหมอกเบิกฟ้าจะกลับมาเป็นปกติได้หรือไม่”

คุณชายไป๋แห่งเผ่าเทพหมึกยักษ์พูดด้วยความจนปัญญา “เคยมีคนลองนำปลาต้องสาปออกจากเขตทะเลเบิกฟ้า ปรากฏว่าปลานั่นกลายเป็นอากาศธาตุ”

“ปล่อยมันไปเถอะ! ในเมื่อพวกเขาเสี่ยงตายฝ่ายอดค่ายกลนี้ ก็น่าจะเตรียมตัวโดนยอดค่ายกลโจมตีไว้แล้ว ถึงอย่างไรแม้ทุกครั้งจะมีคนผ่านไปได้สำเร็จ แต่คนที่พลาดก็มีมากกว่าเก้าส่วนเสียอีก”

คุณชายอู่หมดความสนใจไปแล้ว “พูดเช่นนี้ ปลานี่พิการแล้วหรือ”

คุณชายไป๋กลืนไม่เข้าคายไม่ออก “อย่าเบาใจเชียว ถึงปลานี่จะสิ้นสติปัญญา แต่ระดับพลังก่อนแปลงร่างยังอยู่…”

พรูด~

ยังพูดไม่ทันขาดคำ ก็เห็นปลาน้อยที่คุณชายอู่ดูดไว้กลางอากาศพลันพ่นน้ำทะเลใส่หน้าคุณชายเต่าดำอู่อู๋ตี๋

จากนั้นปลาน้อยใช้หางสีแดงฟันใส่อู่อู๋ตี๋อีกที

ตอนนี้ห้วงอากาศพังทลายลง ทุกคนเหมือนเห็นดาบยาวสีชาดฟันใส่อู่อู๋ตี๋

อู่อู๋ตี๋ยังไม่ทันเช็ดน้ำบนใบหน้าสะอาด ดาบยาวนั่นก็ฟันใส่กระดองเต่าเขา เกิดสะเก็ดไฟสว่างจ้าแตกกระเซ็น

บึ้ม~

อู่อู๋ตี๋ถูกหางปลาฟาดกระเด็นออกไปร้อยจั้ง กระดองเต่าตรงหน้าอกเกิดรอยร้าวชัดเจน กระทั่งเห็นเนื้อเต่าขาวๆ

ส่วนใบหน้าของอู่อู๋ตี๋เกิดรอยชัดเจนเช่นกัน เหมือนกับโดนคนเอาส้นรองเท้าฟาด

เจ้าชายแห่งเผ่าเทพเต่าดำผู้ยิ่งใหญ่โดนฟาดจนหัวโน

จู่ๆ ก็โดนปลาหลีฮื้อน้อยฟาดหน้าบวม ทำให้คุณชายเต่าดำอู่อู๋ตี๋โกรธจนตัวสั่นไปหมด

“ว้ากๆๆๆๆ!”

เลือดลมทั่วร่างเดือดพล่าน กระดองเต่าสองด้านบนตัวอู่อู๋ตี๋เปล่งแสงพร้อมกัน ระเบิดแสงเทพสีดำสว่างจ้า

เหมือนกับดวงตะวันสีดำดวงหนึ่งพลันปรากฏขึ้นเหนือมหาสมุทร ทำให้คนรู้สึกถึงแรงกดดันรุนแรง

“เป็นปลาแล้วยังกล้าหยาบคายใส่ข้ารึ ดูหมัดเทพราชันอหังการของข้า!”

คุณชายเต่าดำอู่อู๋ตี๋ดูเหมือนเป็นแค่เด็กหนุ่มก็จริง อายุมากกว่าเอ๋าอูนิดเดียวเท่านั้น แต่ระดับพลังของเขาค่อนข้างแข็งแกร่งเลย ตอนนี้สำแดงหมัดเทพราชันอหังการวิชาลับที่ไม่เผยแพร่ของเผ่าเทพเต่าดำ สองหมัดพลันเปล่งแสงสว่างมากขึ้น

ปัง!

ปังๆๆ!

ปังๆๆๆๆ!

อู่อู๋ตี๋ออกทุกหมัด ไอหมัดจะรวมเป็นศีรษะเต่าดำมหึมาชกใส่ปลาน้อยนั้น

แม้ระดับพลังของเขาจะอยู่เพียงกายทอง แต่กำลังรบแท้จริงกับความชำนาญในวิชาหมัดไม่อ่อนแอเลย ต่อต้านกับระดับผู้สูงศักดิ์ส่วนใหญ่ได้จริงๆ

เวลานี้ ปลาน้อยนั่นถูกเต่าดำหมัดเทพราชันอหังการของอู่อู๋ตี๋กระแทกตกลงไปกลางทะเล

ก็แค่นี้ เผ่าเทพเต่าดำชำนาญการป้องกันมากที่สุด ในด้านการโจมตีไม่ถือว่าน่าตกใจ สุดท้ายก็ยังเอาปลาน้อยนั่นไม่ลง

มันตกลงน้ำแล้วก็มุดหายไปในก้นทะเล สะบัดหางไปไม่ทิ้งคลื่นน้ำ

เพียงแค่ฝากรอยบนใบหน้าอู่อู๋ตี๋อย่างชัดเจน

……..

“หลังจากเจ้านี่โดนยอดค่ายกลเบิกฟ้าเปลี่ยนร่างแล้ว กำลังรบไม่อ่อนแอลงเลย!”

เนตรสวรรค์เคหาสน์ม่วงตรงระหว่างคิ้วของฉีเซ่าเสวียนขยับแสงสว่างเทพ เหมือนจะส่องอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่พบ

“แซ่ฉีใช้เนตรสวรรค์ตรวจสอบแล้ว ปลาน้อยนั่นดูเหมือนจะไม่เผยกลิ่นอายพลังใดๆ เลย ราวกับว่าเป็นเพียงปลาธรรมดาเท่านั้น”

ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความจริงจัง “แปลก แปลกมาก! สหายเสิ่น เจ้ามองอย่างไร”

เสิ่นเทียนตอบนิ่งๆ “ก็อย่างที่ผู้อาวุโสเผ่ามังกรบอก ในเขตทะเลเบิกฟ้าอาจจะปรากฏสิ่งมีชีวิตประหลาดได้ทุกที่ อีกทั้งยังไม่ต่างอะไรกับสัตว์ปกติอีก ดังนั้นขณะที่ทุกคนเดินทางจะต้องระวังให้มาก จำไว้ว่าอย่าบุ่มบ่าม ไม่เช่นนั้นเกิดปัญหาขึ้นมาจริงๆ จะยุ่งยาก”

อวี้เผียนเซียนพยักหน้าช้าๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความโอนอ่อนผ่อนตาม “เผียนเซียนจะฟังสหายเสิ่นทุกอย่าง”

อืม ดูเหมือนยังมีความหลงใหลอยู่นิดๆ ด้วย

ท่าทีเช่นนี้เทียบกับท่าทีที่ปฏิบัติกับเหล่าโอรสสวรรค์คนอื่นในหอเสียงสวรรค์ก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้หลายคนเปรี้ยวจนฟันแทบร่วง

สี่คุณชายใหญ่มองเสิ่นเทียนอย่างคับแค้นใจ สารภาพตามตรง ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นมิตรกับเกาะมังกรดำ ตอนนี้คงจะอดใจร่วมกับกองกำลังของคุนหมิงไม่ได้แล้ว

เจ้าเผ่ามนุษย์นี่หน้าตาดีไม่เท่าไร ทำร้ายเผ่ามนุษย์ไม่พอ จะมาทำร้ายเผ่าปีศาจถึงทะเลอุดรอีกหรือ

คิดว่าปีศาจบุรุษของทะเลอุดรหาคู่ครองกันได้ง่ายจริงๆ รึ

เสิ่นเทียนมองหน้าผากของอวี้เผียนเซียนก่อนพูดด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อทุกท่านเชื่อแซ่เสิ่น เช่นนั้นก็ตามแซ่เสิ่นมาเถอะ!”

พูดจบ ก็มีปีกเทพทองคำคู่หนึ่งงอกมาจากข้างหลังเสิ่นเทียน ก่อนจะบินไปทางตะวันออกของเขตทะเลไร้ที่สิ้นสุด

เขาสัมผัสได้ชัดเจนว่าตนถูกจำกัดในเขตทะเล

ความเร็วของทองคำเซียนปีกปักษาใช้ได้ไม่ถึงหนึ่งถึงสองส่วนสิบ อีกทั้งยังต้องระวังหมอกเบิกฟ้าอีก

แม้จะมีหมอกเบิกฟ้ากระจัดกระจายในอากาศไม่มาก แต่การหลบก็ยังยุ่งยากมาก เจออันตรายได้ง่ายมาก

ทุกคนอ้อมตะวันออกอ้อมตะวันตกตามเสิ่นเทียน เจอหมู่เกาะระหว่างทางไม่น้อย

หมู่เกาะรอบนอกพวกนั้นส่วนใหญ่จะมีเพียงหมอกเบิกฟ้าเบาบางวนเวียนอยู่ แทบจะไม่มีอันตรายใดๆ สำหรับนักผจญภัย และเพราะเหตุนี้เองจึงมีผู้แย่งชิงกันเยอะมาก

หลังจากผ่านการแย่งชิงกันมาไม่รู้นานเท่าไร ปกติจะไม่มีสมบัติล้ำค่าอะไรแล้ว ไม่มากพอจะทำให้เสิ่นเทียนสนใจ

…….

เมื่อทุกคนเข้าไปในเขตทะเลลึกขึ้นเรื่อยๆ ระดับความหนาของหมอกเบิกฟ้าก็เริ่มหนาขึ้น

หากมองไปสุดสายตา ห่างไปหลายร้อยลี้จะดูสุดลูกหูลูกตา แทบจะแยกเหนือใต้ออกตกได้ยากมาก

หากไม่ใช่เพราะโอรสสวรรค์ที่เข้ามาฝึกฝนพกศิลาตำแหน่งมาด้วย อาศัยศิลาตำแหน่งนี้กำหนดตำแหน่งทางเข้าที่แม่นยำไว้ ก็อาจจะหลงทางกันได้

ส่วนหมู่เกาะพวกนั้นตรงส่วนลึกของเขตทะเล ภายนอกเริ่มถูกหมอกเบิกฟ้าเบาบางปกคลุม มองจากข้างนอกไปข้างในจะขมุกขมัวเหมือนมองดอกไม้ในม่านหมอก

ช่วงที่ค่ายกลเปิดอยู่นี้ หมอกเบิกฟ้าพวกนี้จะแตกกระจายออกในเวลาที่ไม่แน่นอน

ตอนนั้น ก็จะเป็นโอกาสดีที่สุดที่ผู้ฝึกบำเพ็ญจะเข้าไปในหมู่เกาะ เสี่ยงอันตรายหาสมบัติ

แต่โอกาสเช่นนี้ก็จะผ่านไปเรื่อยๆ บางทีเจ้าอาจจะเฝ้าอยู่หน้าหมู่เกาะแบบนี้หลายวันถึงจะเจอหมอกเบิกฟ้าแตกออกสักครั้ง

การรอเช่นนี้ต้องใช้สมาธิทั้งหมด ไม่ใช่จะทนกันได้ง่ายๆ

และทุกครั้งที่หมอกเบิกฟ้าแตกออกก็จะอยู่แค่ไม่กี่ลมหายใจ หากเจ้าออกไปในระหว่างนั้นก็จะพลาดโอกาสเข้าเกาะ

ดังนั้นสิ่งต้องห้ามที่สุดคือยอมแพ้กลางคัน นั่นไม่มีความหมายอะไรเลย

ขณะเดียวกันต่อให้หมอกเบิกฟ้าแตกออก การจะเข้าเกาะก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ต้องรับแรงต่อต้านทรงพลังอีก

การฝืนเข้าไปภายใต้แรงต่อต้านนี้ อีกทั้งอยู่ในเพียงไม่กี่ลมหายใจ นี่ไม่ง่ายเลยจริงๆ หากระดับพลังไม่แข็งแกร่งพอ กระทั่งอาจจะถูกหมอกเบิกฟ้าปกคลุมระหว่างเข้าเกาะ กลายเป็นสัตว์ประหลาดก็ได้

นี่คือหนึ่งในสาเหตุหลักของเรื่องเหนือความคาดหมายที่โอรสสวรรค์มากมายเจอในการผจญภัยเขตทะเลเบิกฟ้า

ความโลภ ถือดี ลังเล เดินไปเดินมา จะทำให้เจ้าไม่ได้อะไรเลยในเกาะดาราเบิกฟ้า กระทั่งสูญเสียทุกอย่าง

“สหายเสิ่น ระหว่างทางมาเราเจอเกาะดาราตั้งหลายเกาะ เหตุใดถึงไม่ดูเลยล่ะ”

คุณชายเซี่ยทำหน้าอาลัยอาวรณ์ เผ่าปูเทพทองคำเป็นพ่อค้า สิ่งที่รับไม่ได้ที่สุดคือพลาดสมบัติล้ำค่า

เสิ่นเทียนนำทุกคนมุ่งหน้าไปตลอดทาง เจอเกาะที่ถูกหมอกเบิกฟ้าปกคลุมสองสามแห่ง กลับไม่หยุดสักครู่ แต่ไปต่อเลย

ความคิดเช่นนี้ไม่ดี เพราะเมื่อก่อนมีโอรสสวรรค์แข็งแกร่งมากมายคิดว่ายิ่งเป็นเกาะดาราที่อยู่ลึกเท่าไรก็ยิ่งดี โชคลิขิตก็ยิ่งแกร่งมากเท่านั้น

แต่ความเป็นจริงในหมู่เกาะที่มีหมอกเบิกฟ้าปกคลุมทุกเกาะอาจมีมหาโชคลิขิตสะท้านฟ้าซ่อนอยู่ และอาจจะมีแค่ว่านวิญญาณธรรมดาก็ได้

การเลือกอย่างชาญฉลาดคือน่าจะเห็นคุณค่าของเกาะด้านหน้ามากกว่า

……

เสิ่นเทียนยิ้มมีเลศนัย “วางใจเถอะ ขอแค่ตามแซ่เสิ่น จะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน”

ขณะพูดอยู่นั้น เสิ่นเทียนก็มองอวี้เผียนเซียนอีกที ดวงตาเป็นประกายลุกวาว

หัวใจของอวี้เผียนเซียนพลันถูกกวางน้อยพุ่งชนแตกทันที

ระหว่างทางมานี้ ไม่รู้ว่าสหายเสิ่นแอบมองข้ากี่ครั้งกันแล้ว ถึงจะไม่รู้ว่าเหตุใดทุกครั้งสหายเสิ่นเหมือนจะไม่ได้มองหน้าข้า แต่เป็นกลางกระหม่อมก็เถอะ

แต่แอบมองข้าถี่เช่นนี้ จะต้องคิดอะไรกับข้าแน่นอน

อืม ต้องเป็นเช่นนี้ไม่ผิดแน่ ข้านี่ฉลาดจริงๆ!

อวี้เผียนเซียนกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยจนหน้าแดง ทันใดนั้นเองเสิ่นเทียนมาหยุดอยู่หน้าเกาะแห่งหนึ่ง!

ภายนอกเกาะนี้มีหมอกเบิกฟ้าเบาบางวนเวียนอยู่ ลอยอยู่บนเขตทะเลเบิกฟ้า เคลื่อนที่ไม่หยุดตามยอดค่ายกล ดูแล้วไม่ต่างอะไรกับเกาะดาราอื่นๆ เลย ดูปกติมาก

ทว่าตอนที่มาถึงเกาะนี้ เสิ่นเทียนเผยรอยยิ้มลึกซึ้ง “แซ่เสิ่นคิดว่า บนเกาะนี้น่าจะมีสมบัติล้ำค่าไม่น้อย”

เมื่อเห็นรอยยิ้มมั่นใจในตนเองของเสิ่นเทียนแล้ว อวี้เผียนเซียนก็เคลิบเคลิ้มไปทีละนิด “ใช่ เผียนเซียนก็คิดว่าเกาะนี้ต้องมีสมบัติแน่”

เจ้าก็ด้วย?

เผ่าเงือกเก่งกาจเช่นนี้เชียวรึ

ถึงขนาดสัมผัสได้ถึงสมบัติผ่านยอดค่ายกลหมอกเบิกฟ้าหรือ

เสิ่นเทียนอึ้งไปแล้ว การประเมินต่อความสามารถของอวี้เผียนเซียนสูงขึ้นไม่น้อย

……..

เนื่องจากเสิ่นเทียนเลือกเกาะนี้ พวกฉีเซ่าเสวียนจึงหยุดพักหน้าเกาะ รอหมอกเปิดออก

ความจริงหากต้องการให้ได้ประโยชน์มากที่สุด ทุกคนต้องแบ่งกันไปผจญภัยในเกาะที่ต่างกัน จะเจอโชคลิขิตได้ง่ายที่สุด ได้ทรัพยากรมาจำนวนมาก

แต่บางครั้ง การผจญภัยก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะการหาโชคลิขิตคนเดียว กำลังรบที่มีไว้ต่อต้านอันตรายจะอ่อนแอลงมากเช่นกัน

หากเจอสัตว์ประหลาดปิดล้อมหรืออันตรายอื่นๆ สหายก็อาจจะช่วยชีวิตเจ้าได้

นอกจากนี้ แม้หมู่เกาะในเขตทะเลเบิกฟ้าจะกระจัดกระจายกัน มีจำนวนไม่น้อย แต่นักผจญภัยทะเลอุดรก็มีเยอะเช่นกัน

นักผจญภัยต่างกันถูกใจหมู่เกาะเดียวกัน อาจจะเกิดการสังหารชิงสมบัติกันในที่ที่ตัดขาดจากโลกภายนอกเช่นนี้ได้

หากเจ้าผจญภัยตามหาโชคลิขิตคนเดียว ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า กว่าจะสู้ตายเข้าไปในเกาะดาราได้ กวาดโชคลิขิตเสร็จแล้วเตรียมจะกลับบ้านอย่างมีความสุข ปรากฏว่าเจอกับชายร่างกำยำห้าคนที่เพิ่งมุดเข้ามาจากรอยแยกหมอก ถึงตอนนั้นอย่าว่าแต่เสียของให้เขาไปหมด แม้แต่ชีวิตน้อยๆ ก็อาจจะต้องสิ้นลง

ความจริงแล้ว ในการผจญภัยทะเลอุดรเมื่อนานมาแล้วก็มีนักผจญภัยหลายคนทำเช่นนี้

มีโอรสสวรรค์มากมายคับแค้นใจเพราะเหตุนี้!

ในหมู่คณะของเสิ่นเทียนก็มีเพียงเสิ่นเทียนกับฉีเซ่าเสวียนสองคนที่เป็นผู้แข็งแกร่งสุดยอดในการผจญภัยทะเลอุดรครั้งนี้อย่างแท้จริง

ส่วนเอ๋าอูกับสี่คุณชายใหญ่ ได้แต่ถือว่าผู้ค่อนข้างแข็งแกร่งเท่านั้น ถึงอย่างไรเอ๋าอูกับอู่อู๋ตี๋ก็ยังอายุน้อยเกินไป ไม่ถึงร้อยปีด้วยซ้ำ

ส่วนอีกสามคุณชาย รากฐานพรสวรรค์สายเลือดห่างไกลจากเอ๋าอู ถึงระดับพลังนี้ได้ก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

ยังมีองค์หญิงเงือกอวี้เผียนเซียนอีกคน อืม ด้วยกำลังรบของนาง ให้เป็นสิ่งมงคลก็พอ

…..

ทุกคนนั่งอยู่หน้าเกาะแห่งนี้ รอหมอกเปิดเงียบๆ

รอทีผ่านไปสามวันเต็มๆ ระหว่างนั้นก็มีนักผจญภัยคนอื่นผ่านทางมาเช่นกัน

แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าคนที่อยู่หน้าเกาะคือเสิ่นเทียนกับฉีเซ่าเสวียนแล้วต่างก็จากไปอย่างชาญฉลาด

ถึงอย่างไรฉีเซ่าเสวียนก็เป็นโอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์ที่กล้าหาเรื่องคุนหมิง บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังใช้ระดับกายทองเอาชนะอสูรสูงศักดิ์เอ้อทงเทียนได้ในพริบตาอีก

นอกจากเจ้าคุนหมิงแล้ว ปกติในทะเลอุดรจะไม่มีใครกล้าล่วงเกินกลุ่มนี้

ขณะนั่งสมาธิ เวลาผ่านไปสามวันในพริบตา ในที่สุดหมอกปกคลุมจากหมอกเบิกฟ้าก็ค่อยๆ แตกออกเป็นรูขนาดหลายจั้ง

ทุกคนตาเป็นประกายขึ้นมา พุ่งทะยานไปยังรูนั้นพร้อมกัน เข้าไปในนั้นกันอย่างสุดกำลัง

ฟู่ว~

ผ่านรอยแตกมา ทุกคนมาปรากฏตัวเหนือเกาะแห่งนี้พร้อมกัน

ทันใดนั้นพลังวิญญาณไร้ที่สิ้นสุดก็ถาโถมเข้ามา

ทุกคนทำหน้าเคลิบเคลิ้ม พลังวิญญาณบนเกาะนี่…

หนาแน่นมากจริงๆ!

…………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+