บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 416 โอสถเสริมสวรรค์ ข้ากินเองไม่ดีกว่ารึ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 416 โอสถเสริมสวรรค์ ข้ากินเองไม่ดีกว่ารึ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 416 โอสถเสริมสวรรค์ ข้ากินเองไม่ดีกว่ารึ

เมื่อฟังคำพูดของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตจบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวก็มีสีหน้ากังวล

ไร้ความรู้สึกรึ…ซี้ด แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว!

ศิษย์พี่ใหญ่เหมือนจะพูดมีเหตุผล

ข้าควรจะรุกก่อนหรือไม่

เกิดตอนนั้นศิษย์พี่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ไร้ความรู้สึกจริงๆ…

ไม่ได้การ ต้องรีบแล้ว!

…..

หืม

เหมือนจะมีอะไรแปลกๆ

เหตุใดถึงถูกศิษย์พี่ใหญ่วนเข้าไปล่ะ

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังคงอบรม “ศิษย์น้องหญิงไม่ต้องกลัวนะ! ชอบเขา ก็ต้องครอบครองเขา ไม่ว่าจะเขาจะปฏิเสธหรือไม่! หรือว่าเขาจะเอาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าผ่าเจ้าได้กัน ขอแค่ไม่ผ่าก็อย่ากลัว!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวทำหน้าทั้งโกรธและอาย “ศิษย์พี่ไม่กลัว แล้วเหตุใดถึงปฏิเสธผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ล่ะ ศิษย์น้องหญิงตันอูรอท่านมานานหลายปี แสดงความจริงใจแล้ว เหตุใดท่านถึงยังทำเป็นทองไม่รู้ร้อนมาตลอด”

บุพเพสันนิวาสระหว่างผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวก็พัวพันไม่จบไม่สิ้นเช่นกัน

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มีใจมาตลอด แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกลับไม่ไยดี นี่ทำให้ทั้งสองคนไม่อาจเดินเคียงข้างกันได้

“แค่ก เจ้าเด็กนี่อย่าพูดมั่วนะ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตทำหน้าเก้อเขินอย่างพบเห็นได้ยาก “ด้วยพรสวรรค์ของข้า จะต้องลอยขึ้นโลกเซียนแน่นอน พรสวรรค์ของตันอู่ต่ำเกินไป ไม่มีหวังบินขึ้น จะไปคู่ควรกับข้าได้อย่างไร!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่ใช่คนโง่ จะไม่รู้ความคิดของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ได้อย่างไร เพียงแต่ว่าระหว่างสองคนต่างกันจริงๆ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่กล้าลงมือเลย!

ตั้งแต่โบราณมาความรักต่างแดนเป็นเรื่องเศร้า จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรักต่างโลก

ถึงตอนนั้นเขาอยู่โลกเซียนลงมาไม่ได้ จะไม่ทำให้คนอื่นเขาเป็นหม้ายสาวรึ

ไม่เป็นหม้ายก็ต้องถูกสวมเขา สรุปความรักต่างแดนไม่มีอะไรดีเลยจริงๆ

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวหัวเราะเบาๆ “ศิษย์พี่ใหญ่ก็หาทางมอบโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ากับศิษย์น้องหญิงตันอู่ได้ โอสถนี้ปรับแก้คุณสมบัติของศิษย์น้องหญิงตันอู่ได้ บินขึ้นโลกเซียนได้ไม่ยากเลย!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแบะปาก ก่อนหัวเราะเยาะ “หากมีโอสถเสริมสวรรค์จริงๆ ข้าก็กินเองสิ จะไปแบ่งให้คนอื่นได้อย่างไร”

ตอนนี้เอง ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มาปรากฏตรงหน้าสองคน

นางมองผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตด้วยแววตาชื่นชอบ แม้แต่จังหวะก้าวยังเร็วขึ้นมาก

เหมือนยอดฝีมือผู้สูงศักดิ์สวรรค์ที่ใดกัน นี่มันแม่นางร้อยที่เพิ่งมีความรักครั้งแรกชัดๆ!

“ศิษย์พี่ฉู่เหอ! ศิษย์พี่หญิงบัวขาว! ในที่สุดข้าก็หาพวกท่านพบ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมุมปากกระตุกเล็กน้อย “นางมาได้อย่างไรกัน แค่กๆ ศิษย์น้องหญิง นี่ก็สายแล้ว ข้ายังไม่เก็บผ้าห่มเลย ขอตัวก่อน”

เพิ่งเอ่ยจบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็กลายเป็นแสงสีทองหายไป

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวพูดไม่ออก

“ศิษย์พี่ฉู่เหอ ท่านจะไปที่ใดกัน”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มาอยู่ข้างผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาว แต่เห็นได้แต่เงาแผ่นหลัง

นี่ทำให้นางจิตตกนิดๆ “ศิษย์พี่หญิงบัวขาว เหตุใดศิษย์พี่ฉู่เหอพบข้าแล้วถึงไปเลยล่ะ เขารังเกียจข้าหรือไม่ ข้าทำอะไรผิดไปหรือ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวพูดด้วยความจนปัญญา “ศิษย์น้องหญิงตันอู่อย่าคิดเองเออเอง ศิษย์พี่ใหญ่อาจจะมีงานต้องทำก็ได้”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมองแผ่นหลังผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแล้วอดถอนหายใจอยู่ภายในมิได้

เรื่องนี้ได้แต่ให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตจัดการเอง ใครสอดมือก็ไม่มีประโยชน์

เมื่อนึกถึงตรงนี้ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวก็จนปัญญาอยู่ในใจ

ตัวเองก็เหมือนกันไม่ใช่รึ!

…..

ยามกลางคืน สียามราตรีค่อยๆ มืดลง!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่กำลังฝึกฝนอยู่ในห้อง แต่กลับหยุดตลอดเวลา สงบนิ่งไม่ได้

ผ่านไปนานนางถึงอดถอนหายใจมิได้ “ข้าทำอะไรผิดไป เหตุใดศิษย์พี่ฉู่เหอถึงไม่ยอมสนใจข้า”

การมาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ครั้งนี้ นางไม่ได้แค่มาร่วมพิธีแต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์ เป้าหมายที่สำคัญกว่านั้นคืออยากพบผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต!

แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกลับไม่สนใจนาง ทำให้ในใจนางเต็มไปด้วยความหดหู่

ตอนนี้เองพลันมีของชิ้นหนึ่งโยนมาจากนอกหน้าต่าง

“ใคร”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่รีบตามออกไป พบว่านอกห้องว่างเปล่าเงียบสงบ ไม่เห็นเงาใครเลย

“แปลก ดึกดื่นป่านนี้จะมีใครมาอีก”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ส่ายหน้า แม้นางจะไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ มาตรการความปลอดภัยดีพร้อมยิ่ง

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่กลับมาในห้อง พบว่าบนพื้นมีขวดหยกสีขาวอยู่

เห็นได้ชัดว่าเจ้านั่นโยนเข้ามาก่อนหน้านี้

“ของอะไร”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่เปิดขวดด้วยความแปลกใจ พลันมีกลิ่นหอมสดชื่นอบอวลเข้ามา

เมื่อหลิ่นหอมโชยเข้ามา ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่รู้สึกว่าจิตใจพลันใสสะอาดอย่างยิ่ง จุดที่เมื่อก่อนไม่ชัดเจนมากมายในการฝึกบำเพ็ญ ตอนนี้พลันเปิดโล่ง

ดมแค่กลิ่นหอมโอสถก็มีความรู้สึกเหมือนนั่งตระหนักรู้บางอย่าง

“นี่มัน…โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่มองโอสถสีทองกลมอิ่มเอิบในขวด พลางอดใจสั่นขึ้นมามิได้

นางเสียงสั่นนิดๆ เต็มไปด้วยความตื่นเต้น “จะต้องเป็นศิษย์พี่ฉู่เหอแน่ๆ! ศิษย์พี่ฉู่เหอเขาจะต้องชอบข้าแน่!”

ยอมมอบโอสถเทพสูงสุดอย่างโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าให้กับนาง นอกจากผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแล้ว นางไม่นึกถึงใครอีก!

เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ก็หน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย ภายในใจเต็มไปด้วยความอบอุ่น

….

อีกด้าน ตำหนักเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์

บางคนมองสัญญาขายตัวห้าร้อยปีในมือ สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมอย่างบ้าคลั่ง

ฮิๆๆๆๆๆๆ~

…..

เปรี้ยง!

สียามราตรีมืดมิด ไม่มีแสงดาวแม้แต่น้อย

รอบนอกแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดเสียงฟ้าร้องดังสนั่น ประกายสายฟ้าสว่างวูบวาบ

มองไป ห่างไปหลายร้อยลี้มีสายฟ้าผ่า เมฆเคราะห์ภัยมารวมกัน เห็นได้ชัดว่ามีผู้อริยะกำลังฝ่าด่านเคราะห์ อีกทั้งไม่ใช่ผู้อริยะแค่คนเดียว แต่เป็นหลายคนกำลังฝ่าด่านเคราะห์พร้อมกัน

พวกนี้คือผู้อริยะที่ประมูลได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าไป

พวกเขาอดทนความตื่นเต้นในใจไม่ไหว จึงกินโอสถในทันที

เวลานี้ ในระยะหลายร้อยลี้รอบแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ พลังวิญญาณธาตุสายฟ้าหนาแน่นขึ้นไม่น้อย กระทั่งในโลกเล็กเทพสวรรค์ ศิษย์ระดับสร้างฐานและแก่นพลังทองยังเพิ่มความเร็วในการฝึกบำเพ็ญไปเป็นเท่าตัว!

เมื่อเห็นดังนั้น เยวี่ยอวิ๋นเต๋อตาเปล่งประกายสีทอง “พลังวิญญาณธาตุสายฟ้าเข้มข้นขนาดนี้ จะรวมอัสนีเทพกำเนิดฟ้าได้เท่าไรกัน!”

ใช่ เยวี่ยอวิ๋นเต๋อสนใจแล้ว!

คัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์สามารถใช้พลังวิญญาณธาตุสายฟ้ารวมอัสนีเทพกำเนิดฟ้าได้

เคราะห์สวรรค์คือยาบำรุงชั้นดีสำหรับศิษย์สายตรงเทพสวรรค์

ดังนั้น เยวี่ยอวิ๋นเต๋อจึงพุ่งมาเกาะเคราะห์อัสนีอยู่ข้างๆ ผู้อริยะพวกนั้น ไม่ใช่แค่เขา ศิษย์สายตรงคนอื่นก็พากันมาเกาะเคราะห์อัสนีกันตามความยุยงของเยวี่ยอวิ๋นเต๋อ

ชั่วประเดี๋ยวเดียว ก็ปรากฏภาพแปลกประหลาดขึ้นตรงหน้าขุมอำนาจใหญ่ทุกฝ่าย

ใจกลางเคราะห์อัสนี ผู้อริยะสู้กับเคราะห์อัสนีอย่างเต็มที่ แผ่อำนาจเทพไม่มีสิ้นสุด นอกเคราะห์อัสนีเป็นศิษย์เทพสวรรค์นั่งล้อมรอบ กำลังเกาะเคราะห์อัสนี รวมอัสนีเทพกำเนิดฟ้า

สองอย่างเข้ากันมาก ไม่รบกวนกันและกัน!

นี่ทำให้ผู้อาวุโสจากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อดปลงอนิจจังไม่ได้ “เยวี่ยอวิ๋นเต๋อ ฉลาดจริงๆ! ไม่สิ้นเปลืองทรัพยากรแม้แต่นิด เห็นทีว่าผู้อริยะฝ่าด่านเคราะห์พวกนั้น ตอนนี้คงจนปัญญากันน่าดูเลย!”

แต่ผู้อริยะฝ่าด่านเคราะห์ก็ไม่ได้ปฏิเสธที่ศิษย์เทพสวรรค์จะมาขอเคราะห์อัสนีเปล่าๆ ที่พวกเขาฝ่าด่านเคราะห์ได้เป็นเพราะโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า

โอสถสูงสุดเช่นนี้ ทำให้คุณสมบัติกายของผู้อริยะที่ใช้ผลัดเปลี่ยน ปกติจะฝ่าเคราะห์อัสนีสองขั้น

นี่ทำให้พวกเขาได้สัมผัสอย่างลึกซึ้งว่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าแกร่งเพียงใด

ทุกอย่างเป็นเพราะแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

ดังนั้น พวกเขาจึงถือโอกาสคืนน้ำใจให้กลับไปด้วย ถึงอย่างไรจากนี้อาจจะมีเรื่องต้องร้องขอแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อีก!

เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ไม่จำเป็นต้องไปคิดเล็กคิดน้อย

…..

มีแดนศักดิ์สิทธิ์ใดบ้างไม่มีผู้อริยะ

มีผู้อริยะคนใดบ้างที่ไม่อยากเสพโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า

ระดับฝ่าด่านเคราะห์จะยกระดับพลังได้ยากยิ่ง ปกติจะใช้เวลาพันปีเป็นหน่วยวัด

ผู้อริยะมากมายพลังบำเพ็ญถึงคอขวดแล้ว หลายพันปีก็อาจจะพัฒนาไม่ได้สักก้าวด้วยซ้ำ กระทั่งอายุขัยหมดลงก็ยังทะลวงคอขวดไม่ได้ก็ตายลงแล้ว

เมื่อมีโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก็จะไม่เหมือนเดิม!

โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าลงท้องเม็ดหนึ่ง เคราะห์อัสนีจะให้เจ้าฝ่าได้ตามใจ!

แต่ขอแค่ฝ่าเคราะห์อริยะ อายุขัยของผู้อริยะก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก

พวกวัตถุโบราณที่อยู่มาหลายปี อายุขัยใกล้จะสิ้นแล้วไม่มีทางไม่สนใจ!

หากพวกเขาอาศัยโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าทะลวงคอขวดเพิ่มอายุขัยได้ บางทีอาจจะได้พัฒนาไปอีกก้าว หากดวงดีบางทีอาจได้กลายเป็นเซียน!

ถึงอย่างไรโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก็มีสรรพคุณปรับแก้คุณสมบัติและพรสวรรค์การตระหนักรู้!

นี่ทำให้ทุกอย่างที่เป็นไปไม่ได้กลายเป็นเป็นไปได้!

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ จึงยิ่งไม่มีใครอยากไปล่วงเกินแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

….

แม้แต่ผู้อริยะยังไม่อยาก ย่อมไม่มีใครขวางพวกเยวี่ยอวิ๋นเต๋อที่มาเกาะโชคเปล่าๆ

ดังนั้น เยวี่ยอวิ๋นเต๋อจึงหาผลประโยชน์ไปทีละแห่งอย่างไม่เกรงกลัวเลย เกาะจนต้องร้องเฮ้!

ขอใช้คำพูดเขา ‘ผลประโยชน์เปล่าทำให้ข้ามีความสุข!’

อีกด้าน ฉินอวิ๋นตี๋เองก็หาผลประโยชน์เช่นกัน!

เพียงแต่วิธีหาผลประโยชน์ของเขาต่างกับคนอื่นอย่างสิ้นเชิง

คนอื่นเอาตัวเองไปหาผลประโยชน์ ใช้คัมภีร์จักรพรรดิเทพสวรรค์รวมอัสนีเทพกำเนิดฟ้า

แต่ฉินอวิ๋นตี๋ปล่อยหุ่นเกราะของเขาออกมา ใช้ค่ายกลเชื่อมกัน ดูดซับพลังแห่งเคราะห์อัสนี นี่ทำให้ฉินอวิ๋นตี๋ดูดซับเคราะห์อัสนีได้เร็วกว่าศิษย์สายตรงเทพสวรรค์คนอื่น

“บ้า เจ้าเด็กนี่เกาะผลประโยชน์ได้เร็วกว่าข้าอีก! ข้าจะบอกเจ้าให้นะ บุรุษแท้เขาไม่เร็วกันขนาดนี้หรอก!”

ใบหน้าอ้วนของเยวี่ยอวิ๋นเต๋อเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา

หากข้าสร้างค่ายกลนี้ออกมาได้ ฐานะจะไม่สูงขึ้นฟ้าไปเลยรึ

……

ไม่นานนัก เยวี่ยอวิ๋นเต๋อก็สร้างค่ายกลขึ้นรอบตัวเอง ทันใดนั้น พลังวิญญาณธาตุสายฟ้าที่แผ่มาไม่มีสิ้นสุดก็ไหลมารวมที่ตัวเขา

นี่ทำให้เยวี่ยอวิ๋นเต๋อมีใบหน้าตื่นเต้น เตรียมการครั้งใหญ่อย่างปลื้มปิติ ทว่าจากนั้นเขาก็หน้าเปลี่ยนสีไป เหงื่อเย็นๆ ไหลลงมา

เพราะค่ายกลนี้ไม่ใช่แค่เหนี่ยวนำพลังวิญญาณธาตุสายฟ้า แต่ยังเหนี่ยวนำเคราะห์อัสนีส่วนหนึ่งมาด้วย

แม้พวกนี้จะเป็นเคราะห์อัสนีส่วนหนึ่งที่กระจายออกมาตอนผู้อริยะฝ่าด่านเคราะห์ อานุภาพไม่น่ากลัวเท่าเคราะห์อริยะที่แท้จริง แต่ก็ยังมีอานุภาพไม่มีสิ้นสุด ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ไม่อาจต้านได้เลย

ฉินอวิ๋นตี้กลับไม่ต้องสนใจ เขาใช้หุ่นเหล็กดูดซับเคราะห์อัสนี ทั้งยังใช้ค่ายกลเชื่อมต่อกัน

หุ่นเหล็กแบกรับไว้ พอจะต้านเคราะห์อัสนีพวกนี้ได้

แต่เยวี่ยอวิ๋นเต๋อไม่เหมือนกัน!

เขาใช้ตัวเองเป็นรากฐาน ทำให้เคราะห์อัสนีพวกนั้นผ่าลงกลางศีรษะเขา!

“ระยำ เข้าใจผิดไปหรือไม่ นี่มันอะไรกัน ข้าก็ถูกฟ้าผ่าด้วยรึ ไม่นะ!”

…..

บึ้ม!

เปรี้ยง!

แหงกๆๆ!

เยวี่ยอวิ๋นเต๋อพลันถูกเคราะห์อัสนีปกคลุม ผ่านไปช่วงหนึ่ง เยวี่ยอวิ๋นเต๋อถึงออกมาจากเคราะห์อัสนี

เขาตัวไหม้เกรียมทั้งตัว จีวรเต๋าตัวใหญ่ขาดรุ่งริ่ง เส้นผมยังระเบิดตั้งชี้

ปากยังพ่นควันขาว สภาพเรียกได้ว่าน่าเวทนาแต่ก็ดูเฉียบคม

ไม่รู้ว่าถูกผ่าไปกี่ครั้ง

ดีที่ใต้จีวรเต๋าเขายังสวมสมบัติที่มีการป้องกันแข็งแกร่งยิ่ง ถึงได้พอจะต้านอานุภาพเคราะห์อัสนีได้

ต่อให้เป็นเช่นนั้น เยวี่ยอวิ๋นเต๋อก็ยังอดร้องโอดครวญไม่ได้

“มารดาเถอะ วางแผนพลาดๆ หากไม่ใช่เพราะข้ามีพื้นฐานหนาแน่น ครั้งนี้คงกลายเป็นหมูหันไปแล้ว!”

ซี้ด~

เหมือนว่าจะไปดึงแผลบนตัว เยวี่ยอวิ๋นเต๋อถึงกับแยกเขี้ยวด้วยความเจ็บปวด “มารดาเถอะ ข้าจะไม่เกาะผลประโยชน์อีกแล้ว เกาะแล้วถูกฟ้าผ่า เกาะแล้วถูกฟ้าผ่า เกาะแล้วถูกฟ้าผ่า!”

…..

วันต่อมา พิธีแต่งตั้งจัดขึ้นตามกำหนดการบนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์

“พิธีใหญ่แต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ”

เสียงดังก้องกังวานพลันดึงดูดความสนใจของคนมากมาย

บทเพลงเซียนบรรเลง กลีบดอกไม้โปรยปราย เสิ่นเทียนสวมเกราะนักรบหุบเหวมังกรเดินเข้ามา

ใบหน้าหล่อเหลา เอกลักษณ์เหนือธรรมดา ราวกับเซียนมาเยือน ทำให้เขากลายเป็นจุดเด่นของทั้งงาน

สายตามากมายมองรวมมาที่เขา แววตาเต็มไปด้วยความเร่าร้อน

โดยเฉพาะยอดฝีมือผู้สูงศักดิ์สวรรค์และระดับผู้อริยะพวกนนั้น แววตาจะร้อนแรงเป็นพิเศษ

เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวานทำให้ทุกคนรู้ว่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ามีสรรพคุณยาน่ากลัวเพียงใด

และเสิ่นเทียนคือผู้หลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า ทำให้ผู้อริยะที่นี่ต้องให้ความสำคัญ!

ต้องรู้ว่าเมื่อคืนวาน ไม่ใช่แค่ผู้อริยะห้าคนที่ประมูลได้โอสถเสริมสวรรค์ได้ฝ่าด่านเคราะห์ แต่ยังมีผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวและผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ พวกนางก็บรรลุเป็นผู้อริยะเช่นกัน!

นี่ทำให้ผู้อริยะคนอื่นอดใจไว้ไม่อยู่แล้ว!

หากได้ผูกมิตรกับเสิ่นเทียน นี่จะไม่ได้เดินเข้าประตูหลัง ได้โอสถเสริมสวรรค์มารึ ถึงตอนนั้นญาติพี่น้องและคู่ครองของพวกเขาก็จะได้บรรลุเป็นผู้อริยะ!

ทุกคนยังคงคึกคักกับงานประมูลเมื่อวานอยู่เลย ถึงอย่างไรก็มีผู้อริยะในงานมากขนาดนั้น แต่โอสถเสริมสวรรค์เหลือเพียงสี่เม็ด นี่ทำให้พวกเขาอดใจประท้วงไม่ได้

ดีที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ออกหน้า โอสถเสริมสวรรค์ที่เหลือจะประมูลในอีกสามเดือน ถึงทำให้ผู้อริยะพวกนี้สงบลงบ้าง

แต่หลายคนก็ยังทนไม่ไหว ลองเชิงอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งมีคนอยากใช้ความสัมพันธ์เชิญให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตออกหน้า หวังว่าจะซื้อโอสถเสริมสวรรค์จากเสิ่นเทียนมาได้สักเม็ด

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเดิมทีอารมณ์ไม่ดีอยู่แล้ว บ่นอยู่ตลอดว่า “ห้าร้อยปี ห้าร้อยปี! เหตุใดข้าถึงถูกผีเข้าเช่นนี้กัน นั่นห้าร้อยปีเชียว!”

ตอนนี้เอง พลันมีคนมาขอให้เขาช่วยถึงหน้าบ้าน

ทันใดนั้น ดวงตาเขาเป็นประกายขึ้นมา

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแสร้งทำทีลึกลับ “อยากจะให้ข้าออกหน้าก็ใช่ว่าจะไม่ได้ ข้าออกม้า เทียนเอ๋อร์ก็ต้องให้เกียรติข้าหลายส่วน แต่พวกเจ้าก็ต้องเข้าใจธรรมเนียม ขอไม่รับรองว่าจะสำเร็จนะ!”

ผู้อริยะได้ยินดังนั้นก็ทำหน้าปั้นยาก

ถึงอย่างไรผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็มีชื่อเสียงที่…เหม็นโฉ่อย่างยิ่ง!

คนก็สมฉายา ไม่ต้องคิดก็รู้ว่านี่จะหลอกเอาค่าตอบแทน แต่ก็มีคนอดใจไม่ไหว มอบค่าจ้างให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต

ถึงอย่างไรโอสถเสริมสวรรค์ก็เย้ายวนเกินไป ทำให้คนปฏิเสธไม่ได้

จากนั้น แค่กๆ ไม่มีจากนั้นแล้ว!

ทุกอย่างเป็นหินตกมหาสมุทร

คนน่าสงสารพวกนั้น สุดท้ายก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต!

สุดท้ายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ออกหน้า แก้ปัญหาให้

นี่ทำให้บัวมรกตมีชื่อเสียงเหม็นโฉ่ยิ่งกว่าเดิม

……

พิธีแต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์สิ้นสุดลงอย่างเป็นทางการ งานเลี้ยงก็เริ่มตามปกติ

เสิ่นเทียนยืนอยู่ข้างกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ “อาจารย์ งานประมูลโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเมื่อวานเป็นอย่างไรบ้างขอรับ”

เสิ่นเทียนสงสัยเล็กน้อย เขาพบว่าผู้คนรอบตัวกำลังมองตน

เกิดอะไรขึ้น

ถึงข้าจะหน้าตาหล่อเหลา แต่ก็ไม่ต้องมองขนาดนี้ก็ได้กระมัง!

หรือว่าโอสถเสริมสวรรค์จะประมูลได้ไม่ได้อย่างที่คิด

คนพวกนี้เลยไม่พอใจกันรึ

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ ก่อนพูดนิ่งๆ “เทียนเอ๋อร์ งานประมูลเมื่อวานราบรื่นมาก สมบัติที่ประมูลได้จากโอสถเสริมสวรรค์จะเป็นของเจ้าทั้งหมด นี่ถือว่าเป็นของขวัญอวยพรให้เจ้าจากแดนศักดิ์สิทธิ์ด้วย”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เอ่ยเสียงไม่ดัง แต่ผู้อริยะในที่นี้ได้ยินกันอย่างชัดเจน

นี่ทำให้พวกเขาถึงกับสูดลมหายใจเข้าลึก

ซี้ด~

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใจกว้างจริงๆ!

ต้องรู้ว่ามูลค่าที่ได้มาจากโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเมื่อวาน ยากจะจินตนาการได้!

นั่นคือสมบัติที่ผู้อริยะเก่าแก่ต้องควักสมบัติในบ้านออกมาทั้งหมดถึงจะเอาออกมาได้!

ของขวัญอวยพรเช่นนี้ กลับมอบให้บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทั้งหมด

ฟุ้งเฟ้อ!

ฟุ้งเฟ้อยิ่งนัก!

เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้อริยะบางส่วนเกิดอารมณ์ความคิดเอ่อล้นขึ้นมาในใจ

หากข้าผูกมิตรที่ดีกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ก็อาจจะได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก่อนใช่หรือไม่

ถึงแดนศักดิ์สิทธิ์จะเป็นคนจัดงานประมูล แต่นักหลอมโอสถคือบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องใช้ความใกล้ชิดเอาผลประโยชน์มาให้ได้!

ผู้อริยะมากมายต่างใจสั่นไหวกันอย่างยิ่ง!

ใจสั่นไหวไม่สู้ลงมือทำ!

ไม่นานก็มีผู้อริยะเดินเข้ามา นัยน์ตาฉายแววเจ็บปวด

เขานำหม้อเล็กออกมาใบหนึ่ง “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ช่างสมกับมีพรสวรรค์เลิศล้ำ อายุยังน้อยก็ประสบความสำเร็จเช่นนี้แล้ว เหนือธรรมดาจริงๆ!

นี่คืออาวุธอริยะ ‘หม้อหลอมอัคคีเหลว’ ภายในเป็นอัคคีเหลวหมื่นปี มีส่วนช่วยในการหลอมโอสถอย่างยิ่ง เป็นหม้อโอสถที่ผู้อริยะโอสถหลงหั่วหลอมเมื่อหมื่นปีก่อน วันนี้ข้าจะมอบหม้อนี้ให้กับสหายน้อย เป็นของขวัญอวยพร และยังเป็นการผูกวาสนาดีกัน!”

อาวุธอริยะที่ผู้อริยะคนนี้มอบให้ เป็นของที่เขาตั้งใจเลือกมา ไม่ใช่แค่เพื่อได้ความรู้สึกดีๆ จากเสิ่นเทียน แต่ยังหวังว่าเสิ่นเทียนจะพิจารณามอบโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าที่หลอมมาให้เขาก่อน!

ผู้อริยะรอบข้างเห็นดังนั้นก็อดด่าทอเขาเจ้าเล่ห์ในใจมิได้!

ผู้อริยะผู้ยิ่งใหญ่ ยอมมอบอาวุธอริยะใช้เป็นเส้นสายเพื่อโอสถเม็ดเดียวรึ

สารเลว ข้าจะไม่ทำเช่นนี้เด็ดขาด!

แต่จากนั้นเมื่อถึงตาคนพวกนี้ พวกเขาต่างมอบของขวัญอวยพรให้

ในของขวัญพวกนี้เริ่มจากโอสถศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสุด ส่วนใหญ่จะเป็นอาวุธอริยะ

ผู้อริยะพวกนี้ต่างนำของดีมาอยากจะผูกวาสนาดีกับเสิ่นเทียน

ทั้งยังบอกว่าอาวุธอริยะเล็กจ้อย ไม่พอให้อุดฟันด้วยซ้ำ~

นั่นเรียกว่าไมตรีจิต!

…..

เสิ่นเทียนมองอาวุธอริยะกองใหญ่ตรงหน้า พลางทำหน้ามึนงง

ตั้งแต่เมื่อไรกันที่อาวุธอริยะกลายเป็นไร้ราคาเช่นนี้

ให้มาทีเป็นเข่ง นี่ทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นของเกรดเอหรือไม่

ผู้อาวุโสผู้อริยะพวกนี้จริงๆ เลย เจ้าว่าพวกเจ้าเกรงใจเช่นนี้จะดีจริงๆ หรือ

อึดใจเดียวก็ให้มาเยอะขนาดนี้ จะทำให้คนอื่นเขาเอาแบบอย่างที่ไม่ดีได้ง่ายๆ นะ

ข้าจะรับไว้! หรือว่ารับไว้!

หรือว่ารับไว้ดีนะ

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด