บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 458 ยอดค่ายกลดาราครอบฟ้า

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 458 ยอดค่ายกลดาราครอบฟ้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 458 ยอดค่ายกลดาราครอบฟ้า

เมื่อเห็นราชาเซียนฟ้าขุ่นเหมือนจะสนใจในความลับในตัวเสิ่นเทียน เยี่ยฉิงชางก็ตกใจจนเหงื่อตก

เขารีบส่งกระแสจิต “ผู้อาวุโสฟ้าขุ่น เจ้าหนูนี่เกี่ยวข้องกับท่านผู้นั้น!”

เยี่ยฉิงชางรู้ว่าเสิ่นเทียนมีความลับเยอะมาก กระทั่งของบางอย่างยังทำให้แม้แต่ราชาเซียนใจสั่นไหว!

โดยเฉพาะของที่เกี่ยวกับท่านผู้นั้น หากไปอยู่ในโลกเซียน จะทำให้ขุมอำนาจสูงสุดมากมายแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง!

เขากังวลว่าราชาเซียนฟ้าขุ่นจะคิดไม่ดีกับเสิ่นเทียน จึงรีบยกท่านผู้นั้นออกมา มีเพียงท่านผู้นั้นที่จะทำให้ราชาเซียนฟ้าขุ่นตื่นตกใจได้

“อ้อ”

ราชาเซียนฟ้าขุ่นมีน้ำเสียงตกใจ เขาย่อมรู้ว่าเยี่ยฉิงชางพูดหมายถึงใคร

แต่เขาไม่เชื่อว่าเจ้าหนูนี่จะมีความสัมพันธ์กับท่านผู้นั้น

ท่านผู้นั้นสูงส่งไม่อาจกล่าว แม้แต่ราชาเซียนฟ้าขุ่นยังไม่กล้าเอ่ยถึงง่ายๆ กับอีแค่เจ้าหนูโลกมนุษย์จะไปเกี่ยวข้องกับท่านผู้นั้นได้อย่างไร

ประกายดาราบนผิวกายราชาเซียนฟ้าขุ่นกระเพื่อม เผยสายตาลึกล้ำออกมามองเสิ่นเทียน เหมือนจะส่องความลับทุกอย่าง

แต่จากนั้นประกายดาราสั่นไหวอย่างรุนแรง แม้แต่ราชาเซียนฟ้าขุ่นยังตัวสั่น

ราชาเซียนฟ้าขุ่นพบว่าดวงจิตที่เขาทิ้งไว้ในโลกมนุษย์ไม่อาจส่องพลังบำเพ็ญและศักยภาพแท้จริงของเสิ่นเทียนได้

นี่มันน่าเหลือเชื่อ!

ด้วยพลังบำเพ็ญของราชาเซียนฟ้าขุ่น ต่อให้เป็นมหาจักรพรรดิก็ไม่อาจอำพรางพลังต่อหน้าเขาได้

เสิ่นเทียนมีพลังบำเพ็ญแกร่งอย่างไรก็ไม่มีทางก้าวข้ามมหาจักรพรรดิได้

ประกายดาราบนผิวกายราชาเซียนฟ้าขุ่นไหลหลากไม่หยุด ตื่นตกใจอย่างยิ่ง

กระทั่งเขายังเห็นผิวกายเสิ่นเทียนมีหมอกขาววนเวียนลับๆ อากาศธาตุสลัวขมุกขมัว แผ่พลังที่ทำให้คนหวาดกลัว

ราชาเซียนฟ้าขุ่นพึมพำกับตัวเอง “หลอมรวมไอเบิกฟ้า หรือจะฝึกวิชานั้น! ดูท่าเด็กหนุ่มนี่คงจะมีความพิเศษกับท่านผู้นั้นจริงๆ เจ้าหนูนี่ไม่ธรรมดา จะปฏิบัติตามใจไม่ได้! อืม ต้องผูกวาสนาดีก่อน”

…..

ราชาเซียนฟ้าขุ่นพลันเปลี่ยนน้ำเสียง พูดด้วยรอยยิ้ม “สหายน้อย ข้าเคยเห็นผลงานของเจ้าแล้ว ตามหลัก เจ้าต่างหากคือผู้สืบทอดที่แท้จริงของข้า!”

สิ่งที่เสิ่นเทียนกับสือเทียนจื่อทำในโลกภายนอกก่อนหน้านี้อยู่ในสายตาราชาเซียนฟ้าขุ่นทั้งหมด ในมุมมองเขา เป็นเสิ่นเทียนที่คุมการเดินหมากทั้งหมด

สือเทียนจื่อเพียงแค่กอดต้นขาเขาถึงเข้ามาที่นี่ได้

ราชาเซียนฟ้าขุ่นเองก็ไม่ใช่คนขี้เหนียว จึงพาสือเทียนจื่อเข้ามาด้วย ถึงอย่างไรขอแค่เป็นผู้มีวาสนาก็จะได้มรดกของเขา อีกทั้งสือเทียนจื่อยังมีพรสวรรค์ไม่ธรรมดา ต่อให้เทียบกับโอรสสวรรค์โลกเซียนก็ยังไม่ด้อยกว่า

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้มีพรสวรรค์สูงสุดในรุ่นเยาว์ราชวงศ์เซียนต้าฮวง และยังมีกระดูกจักรพรรดิดวงตาซ้อนทับ เป็นยอดผู้สูงส่งหนุ่มสมคำร่ำลือ

โดยเฉพาะเขามาจากห้าดินแดนโลกมนุษย์ มีอนาคตไร้ขีดจำกัด

แม้ศักยภาพแฝงของโลกมนุษย์จะเทียบกับโลกเซียนไม่ได้ แต่หากผู้แข็งแกร่งโลกนี้ลอยขึ้นโลกเซียน จะถูกลิขิตไว้ว่าประสบความสำเร็จไม่ธรรมดา

เพราะโลกมนุษย์ต้องผ่านการขัดเกลามานับครั้งไม่ถ้วน ฝ่าเคราะห์สวรรค์ยี่สิบสองครั้งถึงจะลอยขึ้นโลกเซียนได้

ถึงโอรสสวรรค์โลกเซียนจะก้าวสูงมาก แต่ก็ขาดการขัดเกลาตนเองและปณิธานอันแน่วแน่

ดังนั้น ราชาเซียนฟ้าขุ่นจึงมั่นใจว่าหากสือเทียนจื่อขึ้นโลกเซียน ไม่กี่หมื่นปีก็จะเป็นยักษ์ใหญ่ในโลกเซียน

ผู้สืบทอดเช่นนี้ ราชาเซียนฟ้าขุ่นย่อมไม่พลาดไป

แต่สือเทียนจื่อเทียบกับเสิ่นเทียนแล้วยังห่างกันมาก เกี่ยวข้องกับท่านผู้นั้นว่าอย่างไรก็เป็นบุคคลระดับปีศาจ

อัจฉริยะระดับปีศาจเช่นนี้ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับท่านนั้น ทำให้ราชาเซียนฟ้าขุ่นต้องให้ความสำคัญ

…..

เมื่อได้ฟังคำพูดของราชาเซียนฟ้าขุ่น เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย

ในโชคลิขิตเดิม ผู้สืบทอดของราชาเซียนฟ้าขุ่นคือสือเทียนจื่อ

แต่เสิ่นเทียนเห็นภาพโชคลิขิตในวงรัศมีดวงชะตาสือเทียนจื่อจึงได้ชี้นำให้เขาแก้กระดานหมากฟ้าขุ่น ถึงได้ทำให้ราชาเซียนฟ้าขุ่นเข้าใจผิด

ตอนนี้ราชาเซียนฟ้าขุ่นมั่นใจแล้วว่าเสิ่นเทียนต่างหากคือผู้สืบทอดที่แท้จริง ทำให้เขารู้สึกกระดากอายนิดๆ

แต่สือเทียนจื่อก็ได้โชคลิขิตที่ควรได้ ไม่ถึงกับเสียหาย

สรุปคือไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก

……

ราชาเซียนฟ้าขุ่นเอ่ยต่อ “สหายน้อยมีใบหน้าไม่ธรรมดาเป็นที่สุด ต่อให้อยู่ในโลกเซียนก็มีน้อยคนนักที่เทียบได้ ข้าเห็นเงาสมัยข้าหนุ่มๆ ในตัวเจ้า! ข้าปลื้มใจยิ่งนัก ดังนั้นจึงตั้งใจจะมอบของขวัญพบหน้าให้กับเจ้า”

เมื่อเห็นใบหน้าเสิ่นเทียน ราชาเซียนฟ้าขุ่นก็ตกใจอยู่ภายใน

ใบหน้าสุดยอดเช่นนี้คล้ายกับเขาสมัยหนุ่มๆ มาก ทำให้เขาเกิดการรำลึกถึงอดีตนิดๆ

และที่สำคัญที่สุดคือเจ้าหนูนี่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับท่านผู้นั้น ต้องให้ความสำคัญให้ดี

ดังนั้นราชาเซียนฟ้าขุ่นถึงได้นำสวัสดิการออกมาสร้างความรู้สึกดีๆ

เสิ่นเทียนได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจอยู่ข้างใน

ดูท่าหน้าตาดีก็มีประโยชน์เหมือนกัน!

ไม่ใช่แค่ทำให้คนอื่นเกิดความรู้สึกดีกับตน แต่ยังได้ของเปล่าอีก

แม้ข้าจะอาศัยศักยภาพหากิน แต่ในเมื่อพึ่งพาใบหน้าได้ จะไปปฏิเสธได้อย่างไร

…..

เสิ่นเทียนยิ้ม “ผู้อาวุโส นี่จะได้อย่างไรกัน!”

ราชาเซียนฟ้าขุ่นส่ายหน้า “คัมภีร์มรรคครอบฟ้าเป็นสุดยอดวิชาของข้า ระดับความลึกซึ้งและซับซ้อนเหนือกว่าคัมภีร์จักรพรรดิ ต่อให้ให้เวลาพวกเจ้าพันปีก็ไม่มีทางตระหนักรู้ได้ทั้งหมด

ในนี้แฝงไว้ด้วยมหามรรคจักรวาล พัวพันไปถึงทุกสรรพสิ่งฟ้าดิน ทำให้คนหลงทางได้ง่ายมาก ตอนนี้ข้าจะเหนี่ยวนำตะวันจันทราและดาราของโลกนี้เข้ามา ลอกแบบเป็นภาพดาราจักรวาล ให้พวกเจ้าได้ตระหนักลึกซึ้งยิ่งขึ้น คงจะใช้เวลาราวๆ ร้อยปี พวกเจ้าน่าจะฝึกถึงขั้นสูง หวังว่าพวกเจ้าจะตระหนักรู้ได้ อย่าทำให้ข้าผิดหวัง”

เพื่อมอบของขวัญพบหน้า ราชาเซียนฟ้าขุ่นต้องจ่ายหนัก

แม้ผู้แข็งแกร่งราชาเซียนจะเคลื่อนตะวันจันทราของโลกหนึ่งทิศมาไม่ได้ยากขนาดนั้น!

แต่ตอนนี้ราชาเซียนฟ้าขุ่นเป็นเพียงดวงจิต การจะทำเช่นนี้ไม่ได้ง่ายเลย ดีที่ว่าที่นี่เป็นโลกเล็กที่ราชาเซียนฟ้าขุ่นสร้างขึ้นเอง จึงเคลื่อนกฎเกณฑ์ที่นี่ได้สบายกว่าโลกภายนอก

แม้จะเป็นเช่นนั้น ราชาเซียนฟ้าขุ่นก็ต้องลงแรงอย่างมาก

แต่เพื่อผูกมิตรกับเสิ่นเทียนก็ต้องออกแรงตรงนี้

เสิ่นเทียนได้ยินดังนั้นก็ยิ้ม “ขอบคุณผู้อาวุโสมาก!”

ถึงอย่างไรก็ได้ฟรี ไม่ฟรีไม่เอา

…..

ราชาเซียนฟ้าขุ่นพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนโบกมือใหญ่ พลันมีกฎเกณฑ์ไม่มีสิ้นสุดลอยขึ้นมารอบๆ

ดาราสว่างจ้าแต่ละดวงลากผ่าน สายรุ้งหลากสีลากในอากาศ

ภายใต้การเหนี่ยวนำด้วยพลังแห่งกฎเกณฑ์ ดารามากมายกำลังพุ่งมาที่นี่ด้วยความเร็วน่าสะพรึงอย่างยิ่ง

แสงสว่างจ้า แสงเรืองรองสว่างไปรอบๆ จุดทั้งผืนฟ้ายามราตรี

ดวงดาราที่เดิมทีอยู่ไกลตรงเส้นขอบฟ้า มาลอยอยู่ตรงหน้าทุกคนทั้งหมด

ยังไม่ใช่แค่นั้น ราชาเซียนฟ้าขุ่นยังกำมือ ทำให้ห้วงอากาศบิดเบี้ยว

ธารน้ำเงินที่อยู่ห่างไกลล้านล้านลี้ถูกย้ายมาอยู่ข้างล่างทุกคนเหมือนภาพวาด

พวกเขาลอยอยู่บนฟ้าธารน้ำเงิน รอบๆ เป็นดวงดารา เปล่งประกายแสงสว่างถึงที่สุด

ภาพในที่นี้ แม้จะเทียบกับภาพดาราจักรวาลไม่ได้ แต่ก็ไม่ด้อยกว่าเท่าไร

เมื่อเห็นภาพนี้ เสิ่นเทียนใจสั่นสะท้าน

ความยิ่งใหญ่เช่นนี้ยากจะจินตนาการได้

ราชาเซียนฟ้าขุ่นน่ากลัวขนาดนี้เชียว ถึงขนาดเคลื่อนดาราฟ้าดินมาได้

นี่คือการชิงโชควาสนาของทุกสรรพสิ่งฟ้าดิน รวมแก่นสำคัญของตะวันจันทราและดารา

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่าในหมู่ดาวมีพลังมหาศาลกำลังหลั่งไหลออกมา

พลังแห่งดาราตกลงมา ไหลเข้าไปในกายเขาทั้งหมดเหมือนธารวิญญาณ

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนมีแสงดาวสว่างจ้าวนเวียน จิตใจเปิดโล่ง

สือเทียนจื่อก็ได้รับประโยชน์เช่นกัน กลิ่นอายพลังเขาหนาแน่นขึ้น รอบตัวเริ่มเหนี่ยวนำพลังแห่งดารา หลอมรวมเข้าสู่ร่างกาย

การตระหนักภาพดาราจักรวาลคือใช้พลังจิตสร้างเป็นจักรวาลฟ้าดินในความคิด จากนั้นค้นหาหลักการสูงสุดมหามรรค

และตอนนี้พวกเขาได้อยู่ในทะเลดาราไร้พรมแดน ใช้พลังแห่งดาราชะล้างทั่วร่างกาย

การตระหนักรู้ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้จะเพิ่มความเร็วได้ร้อยเท่า พันเท่า!

เสิ่นเทียนนั่งขัดสมาธิลงอย่างไม่ลังเลอีก เริ่มตระหนักรู้ภาพดาราจักรวาล ไม่นานเขาก็เข้าสู่ความเงียบ รอบกายแผ่พลังลี้ลับยิ่ง

พลังแห่งกฎเกณฑ์ตกลงมาทั้งหมด ปรากฏน้ำวนกฎเกณฑ์ยักษ์ลอยขึ้นเหนือศีรษะเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนเปล่งแสงทั้งตัว แสงเทพวนเวียน แสงเรืองรองหนาทึบ ทำให้กฎเกณฑ์มหามรรคเข้าใจยากใกล้ชิดเข้ามาอย่างยิ่ง

เขาตระหนักรู้เร็วมาก แซงหน้าสือเทียนจื่อไปได้ง่ายดาย

เวลานี้ ทั้งโลกเล็กกระดานหมากฟ้าขุ่นอยู่ในทะเลขอบเขตมรรค

เมื่อเห็นภาพนี้ ราชาเซียนฟ้าขุ่นตัวแข็งทื่อ ในคำพูดมีความตกใจเสี้ยวหนึ่ง

“เจ้าหนูนี่มีกายมรรคสวรรค์ประทานรึ”

เขาพบว่าความลับในตัวเสิ่นเทียนเหมือนจะมีมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้

ราชาเซียนฟ้าขุ่นจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ากายมรรคสวรรค์ประทานหมายถึงอะไร

สมัยเขาเยาว์วัยก็สำเร็จกายมรรคสวรรค์ประทานสูงสุด กลายเป็นยอดผู้สูงส่งที่สุดแห่งยุค

กายมรรคนั้น ท่องโลกเซียนด้วยท่าทีไร้พ่ายในโลก สู้ศึกจนโอรสสวรรค์มากมายหวาดกลัวในใจ

กายมรรคสวรรค์ประทานคือกายสูงสุดในประวัติการณ์ เข้าใกล้หมื่นกฎเกณฑ์โลก ไม่ว่าวิชาใดเมื่ออยู่ต่อหน้ากายมรรคสวรรค์ประทานจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย

ดังนั้นคนที่มีคุณสมบัติกายนี้จึงยกระดับพลังได้เร็วมาก คุมหมื่นกฎเกณฑ์ฟ้าดินได้ง่ายดาย

ไม่นึกเลยว่าเจ้าหนูนี่จะไม่ใช่แค่สืบทอดมรดกของท่านผู้นั้น แต่ยังมีกายมรรคสวรรค์ประทาน!

ไม่ธรรมดาเกินไปแล้ว!

เยี่ยฉิงชางแบะปาก “เจ้าหนูนี่บ้ามากอยู่แล้ว”

เขาได้เห็นเสิ่นเทียนเดินทางมาตลอดกับตาตัวเอง รู้ว่าเขาบ้าเพียงใด

ราชาเซียนฟ้าขุ่นเกิดความสนใจขึ้นมา “ดูท่าเจ้าตาเฒ่าน้อยคงจะรู้เยอะ รีบเล่ามาให้ข้าฟัง เราเล่นหมากไปสนทนามรรคไปเถอะ”

เยี่ยฉิงชางทำหน้าขมขื่น “ท่านราชาเซียน ไม่เล่นหมากได้หรือไม่”

เขาจะไม่รู้เป้าหมายของราชาเซียนฟ้าขุ่นได้อย่างไร นี่ใช่เล่นหมากที่ไหน นี่คงจะคันมืออยากทุบตีคนมากกว่า

ราชาเซียนฟ้าขุ่นมีศาสตร์การเล่นหมากมีชื่อเสียงก้องโลกเซียน ทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายหวาดกลัว

เขาใช้คำว่าสนทนามรรค นั่นไม่ใช่แค่การเล่นหมากธรรมดา แต่ยังเป็นการต่อสู้!

เขาเคยวางกระดานหมากในโลกเซียน เชื้อเชิญคนมากมายให้เข้ามาสนทนามรรค สุดท้ายไม่มีใครไม่จากไปด้วยใบหน้าบวมจมูกเขียว

‘ศาสตร์การเล่นหมาก’ ของราชาเซียนฟ้าขุ่นมีชื่อเสียงโด่งดังในโลกเซียน!

พอได้ยินว่าราชาเซียนฟ้าขุ่นจะเล่นหมากสนทนามรรคกับตน เยี่ยฉิงชางก็มุมปากกระตุก เกิดความขมขื่นในใจ

ราชาเซียนฟ้าขุ่นส่ายหน้า “นี่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้า!”

เมื่อเอ่ยจบ เขาก็ยื่นมือออกมาลากเยี่ยฉิงชางเข้าไปในมิติไร้พรมแดน

จากนั้นไม่นานห้วงอากาศสั่นไหวอย่างรุนแรง เกิดคลื่นน่ากลัวขึ้น และยังมีเสียงร้องน่าสงสารดังลับๆ!

…..

ตอนนี้ เสิ่นเทียนกำลังตระหนักรู้ภาพดาราจักรวาล ฝึกคัมภีร์มรรคครอบฟ้า มีเพียงสัมผัสด้วยตนเองเท่านั้นถึงจะรู้ว่าคัมภีร์ราชาเซียนนี้ลึกล้ำและเข้าใจยากเพียงใด!

คัมภีร์จักรพรรดิเทียบกับมันแล้วต่างกันเหมือนเมฆและดินเลน ห่างไกลไม่อาจเอื้อมถึงกัน

ต่อให้เสิ่นเทียนจะมีกายมรรคสวรรค์ประทาน ก็ไม่ได้จะตระหนักคัมภีร์มรรคครอบฟ้าได้ง่ายขนาดนั้น

คัมภีร์มรรคครอบฟ้าซับซ้อนเข้าใจยาก ครอบจักรวาล

ในมรดกระดับราชาเซียนนี้แฝงไว้ด้วยวิชาแข็งแกร่งหลายชนิด อานุภาพกับการใช้งานของมันเหนือกว่าบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิ

มรดกทั้งหมดแบ่งเป็นวิชาสูงสุดเช่นเหนี่ยวเทพครอบฟ้า หมัดเทพฟ้าขุ่น กระบี่เทพผนึกดาราสวรรค์กับยอดค่ายกลดาราครอบฟ้า!

วิชาแรกที่เสิ่นเทียนฝึกคือเหนี่ยวเทพครอบฟ้า!

เหนี่ยวเทพครอบฟ้าคือการดูดซับพลังแห่งดาราไร้ขีดจำกัดจากต่างแดนมาเสริมความแกร่งให้ตนเอง

เขาสามารถใช้วิชานี้ดูดพลังแห่งดาราได้ ประสิทธิภาพของมันเหนือยิ่งกว่าดูดซับพลังวิญญาณฟ้าดิน!

โดยเฉพาะราชาเซียนฟ้าขุ่นย้ายดาราไร้พรมแดนมาไว้ข้างๆ ทำให้วิชานี้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาก ดังนั้นเสิ่นเทียนจึงเลือกฝึกเหนี่ยวเทพครอบฟ้าก่อนอย่างแน่วแน่

ไม่นานนักก็มีลวดลายพิเศษขึ้นบนผิวกายเสิ่นเทียน เหมือนลายมรรคแกะสลัก แผ่กลิ่นอายพลังลึกล้ำไม่อาจคาดเดา

ลายมรรคพวกนั้นพลันเปล่งแสงกลายเป็นน้ำวนพุ่งขึ้นฟ้า ทำให้ดวงดาราบนฟ้าสั่นไหว

พลังแห่งดาราที่สว่างจ้าถึงที่สุดถาโถมลงมา เหมือนมหาสมุทร ไหลไปรวมในกายเสิ่นเทียนทั้งหมด

กลิ่นอายพลังเขากำลังเพิ่มขึ้นไม่หยุดด้วยความเร็วน่ากลัว

เวลาไหลผ่านไป!

…..

สามปีต่อมา!

เสิ่นเทียนพลันลืมตาขึ้น ยิงประกายแสงเทพสว่างจ้า

กลิ่นอายพลังเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ กลายเป็นหนาแน่นลึกล้ำ มหาศาลดั่งทะเล

รอบกายเสิ่นเทียนวนเวียนด้วยแสงดารา ส่วนลึกในดวงตาเหมือนทะเลดารา

เมื่อพิจารณามองดูดีๆ กระทั่งยังเห็นหมู่ดาวทอดยาวอยู่ในนั้น

ใช้เวลาไปสามปี ในที่สุดเสิ่นเทียนก็ฝึกคัมภีร์มรรคครอบฟ้าถึงขั้นสูง

นี่สมกับเป็นคัมภีร์ราชาเซียนสูงสุด ระดับความยากเหนือกว่าคัมภีร์จักรพรรดิ ทำให้เขาใช้เวลามากกว่าเมื่อก่อน

แต่เสิ่นเทียนก็ได้ประโยชน์มากมาย เขาฝึกวิชาส่วนใหญ่ของคัมภีร์มรรคครอบฟ้าสำเร็จ

“สมกับเป็นคัมภีร์ราชาเซียน เพิ่มศักยภาพให้ข้าได้มากเลย!”

เสิ่นเทียนตาเป็นประกาย จนถึงตอนนี้เขาเพิ่งรู้ว่าคัมภีร์ราชาเซียนแกร่งเพียงใด

เขาเข้าใจวิชาต่างๆ ในคัมภีร์มรรคครอบฟ้า ทุกวิชาเป็นมรดกสูงสุด

มองจากในบางระดับ กระทั่งเหนือกว่าคัมภีร์จักรพรรดิไปไกล!

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็อดใจอยากลองดูมิได้

เขาพุ่งขึ้นบินไปทางทะเลดารา เริ่มโคจรคัมภีร์มรรคครอบฟ้าในกาย

ดารารอบกายกระจาย พลังแห่งดาราไร้ที่สิ้นสุดเหมือนคลื่นยักษ์จู่โจม พุ่งขึ้นสวรรค์เก้าชั้น

เสิ่นเทียนยืนกลางอากาศอย่างโอหัง แสงดาราวนเวียนรอบกาย กลิ่นอายพลังน่าเกรงขามยิ่ง ก่อนจะพุ่งโจมตีห้วงอากาศไร้ที่สิ้นสุด

ชกหมัดหนึ่งออกไป สั่นสะเทือนจักรวาล!

ประกายหมัดของเสิ่นเทียนปกคลุมโลก กำปั้นเขามีแสงดาราสว่างพร่างพราววนเวียน ทำลายอากาศแตกเป็นผุยผง

แสงดารามากมายปรากฏขึ้น ตกลงมายังฟ้าดิน เหมือนดารานับพันนับหมื่นดวงตกลงมา

การโจมตีนี้มาพร้อมกับพลังแห่งดาราไม่มีสิ้นสุด เหมือนกับมหาดาราตกลงมากระแทกลงไป

ทันใดนั้น ดวงดาวที่อยู่ไม่ไกลพลันแตกกระจาย ดับสูญเป็นผุยผง แม้แต่จักรวาลท้องนภายังถูกทะลวง กฎเกณฑ์แหลกสลาย ลำดับพังทลายลง!

การโจมตีนี้เหมือนจะสังหารศัตรูได้ทุกคน

น่ากลัวอย่างยิ่ง

นี่ก็คือหมัดเทพฟ้าขุ่นในคัมภีร์มรรคครอบฟ้า สามารถกระตุ้นพลังแห่งดารา ระเบิดพลังที่ยากจะกล่าวได้

อานุภาพของหมัดนี้ระเบิดเจ้าอริยะได้!

แต่ก็ยังไม่จบ เสิ่นเทียนทำมุทรามือ มีพลังมหาศาลยากจะคาดเดาลอยขึ้นในกาย!

พลังแห่งดาราไม่มีสิ้นสุดถูกเหนี่ยวนำเข้ามาอีกครั้ง รวมเป็นกระบี่แห่งดาราที่แหลมคมอย่างยิ่งมากมายในอากาศ

หมื่นกระบี่พุ่งทะลวง ปกคลุมทะเลดารา แผ่พลังที่น่าสะพรึงถึงที่สุด

ลำแสงหมื่นสาย ทุกสายจะเหมือนหางของดาวหาง แกว่งไกวแสงเทพสว่างจ้า ทำให้ห้วงอากาศโดยรอบแตกกระจาย

“ฆ่า!”

เสิ่นเทียนคำรามเสียงดัง พลันกระตุ้นกระบี่เทพดาราโจมตีใส่ทะเลดาราไร้พรมแดน

บึ้มๆๆ!

กระบี่เทพผ่านไปที่ใด ดวงดาราจะระเบิดกระจายกันกลายเป็นประกายไฟหลากสี ปกคลุมจักรวาล

ฟ้าดินแห่งนี้เหมือนกำลังสั่นไหว ห้วงอากาศแตกกลายเป็นความว่างเปล่าไร้ที่สิ้นสุด ต้านการทำลายล้างของประกายกระบี่ไม่ได้

ตอนนี้เองเกิดเสียงน่าเกรงขามดังขึ้น

“เป็นเจ้าหนูเหม็นโฉ่ตัวไหนที่มาก่อเรื่องที่นี่ คิดจะทำลายกระดานหมากของข้ากัน”

ราชาเซียนฟ้าขุ่นก้าวออกมาจากอากาศ ประกายเซียนดาราบนผิวกายกระเพื่อมอย่างรุนแรง

เขากำลังสนทนามรรคกับเยี่ยฉิงชางอยู่ดีๆ จู่ๆ ก็พบว่าโลกนี้สั่นสะเทือน เหมือนรับพลังไม่มีสิ้นสุด จะพังทลายลง

นี่ทำให้ราชาเซียนฟ้าขุ่นโกรธจัด คิดว่ามีคนที่ไม่มีตาจะทำลายที่นี่

แต่เมื่อเขาเห็นภาพนี้ ก็ตะลึงค้างอยู่กับที่

บึ้ม!

กระบี่แห่งดาราฟันลงมาอีกครั้ง ระเบิดพลังที่น่ากลัวที่สุด

หากหมัดก่อนหน้านี้เพียงแค่ทำลายเป็นรูใหญ่ เช่นนั้นแสงกระบี่พวกนี้ก็ทำให้ทั้งฟ้าดินเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว จะพังลงทุกเมื่อ

หากพลังพวกนี้รวมกัน บางทีอาจจะฟันฟ้าดินแห่งนี้ขาดจริงๆ ก็ได้

พอเห็นภาพนี้ เสิ่นเทียนมีสีหน้าดีใจ และยังแอบตกใจอยู่ข้างใน

สมกับเป็นกระบี่เทพผนึกดาราสวรรค์ มีอานุภาพไม่มีสิ้นสุดจริงๆ

ไม่ผิด เคล็ดกระบี่นี้คือวิชาที่สองที่เสิ่นเทียนตระหนักรู้ในคัมภีร์มรรคครอบฟ้า…กระบี่เทพผนึกดาราสวรรค์

กระบี่เทพผนึกดาราสวรรค์ ใช้พลังแห่งดารารวมหมื่นกระบี่ ตกลงมาจากฟ้าเก้าชั้นสังหารศัตรู

หากบอกว่าหมัดเทพฟ้าขุ่นเป็นทักษะเทพที่มีการโจมตีสูงสุดต่อเป้าหมายเดี่ยว เช่นนั้นกระบี่เทพผนึกดาราสวรรค์ก็เป็นทักษะเทพที่มีการโจมตีเป็นแบบหมู่ที่มีพื้นที่และพลังโจมตีแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

เมื่อตระหนักวิชาแข็งแกร่งสองอย่างนี้ ทำให้กำลังรบของเสิ่นเทียนเพิ่มขึ้น

และสองวิชานี้ยังไม่ใช่วิชาที่แกร่งที่สุดในคัมภีร์มรรคครอบฟ้า

และวิชาที่แกร่งที่สุดคือยอดค่ายกลดาราครอบฟ้า

ยอดค่ายกลครอบฟ้าสูงสุดนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งสามสิบหกคนว่างค่ายกล สำแดงอานุภาพที่แกร่งที่สุดได้

จากที่เสิ่นเทียนคาดการณ์ หากมีอริยะแท้สามสิบหกคนวางค่ายกลและควบคุมได้อย่างชำนาญ ก็จะสังหารเตรียมจักรพรรดิได้

หากเป็นเจ้าอริยะเหนือกว่าเจ็ดด่านเคราะห์สามสิบหกคนวางค่ายกล ถึงขั้นต่อต้านผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิได้

และถ้าเป็นมหาอริยะสามสิบหกท่านวางค่ายกลก็จะกำราบมหาจักรพรรดิได้!

นี่หมายความว่าอย่างไร ระหว่างมหาอริยะกับมหาจักรพรรดิมีความต่างเหมือนร่องหุบเขาฟ้า ไม่ใช่ระดับเดียวกันเลย

อย่าว่าแต่มหาอริยะสามสิบหกคนเลย ต่อให้เป็นเตรียมเซียนสามสิบหกคนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้มหาจักรพรรดิ

ทว่าด้วยยอดค่ายกลดาราครอบฟ้า ทำให้มหาอริยะกำราบมหาจักรพรรดิได้

แค่ฟังก็น่าเหลือเชื่อแล้ว!

ตระหนักวิชานี้ ต่อให้วิญญาณร้ายต่างแดนบุกเข้ามาก็ไม่ต้องกลัว

แม้ผู้แข็งแกร่งมหาอริยะจะหาได้ยากยิ่ง แต่ขุมอำนาจห้าดินแดนยังมียอดฝีมืออาวุโสซ่อนตัวอยู่และยังก้าวถึงขอบเขตนี้

วิญญาณร้ายต่างแดนเป็นศัตรูร่วมกันของขุมอำนาจห้าดินแดน ไม่มีใครนิ่งดูดาย

ดังนั้น การจะรวมมหาอริยะสามสิบหกท่านไม่ถือว่าเป็นเรื่องยาก

เสิ่นเทียนดีใจนิดๆ ในใจ เมื่อตระหนักวิชานี้ จะทำให้เขาเอาตัวรอดในกลียุคได้

…..

ตอนนี้เอง ราชาเซียนฟ้าขุ่นยังอยู่ในสภาวะมึนงง

เขามองทะเลดาราจักรวาลพังทลาย อดสงสัยในชีวิตไม่ได้

มีอะไรผิดพลาดหรือไม่!

มีคนเรียนคัมภีร์มรรคครอบฟ้าของข้าได้เร็วขนาดนี้เลยหรือ

ล้อเล่นอะไรกัน นี่คัมภีร์ราชาเซียน วิชาไร้พ่ายสูงสุดในโลกเซียน

คนธรรมดาไม่ฝึกหลายพันปีก็ไม่อาจก้าวสู่เส้นทางได้

ต่อให้เป็นโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุค ก็ต้องใช้เวลาหลายร้อยปีถึงจะสำเร็จขั้นต้น

แล้วนี่ข้าเห็นอะไรอยู่

แค่สามปีสั้นๆ เจ้าหนูนี่ฝึกคัมภีร์มรรคครอบฟ้าถึงขั้นสูงแล้ว!

แม้แต่วิชาแข็งแกร่งในนั้นยังใช้ได้ตามใจนึก

หรือว่าข้าจะเห็นผีกัน!

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด