บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 65 แก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้าง!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 65 แก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้าง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 65 แก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้าง!
ใช่ เขียวแล้ว

เสิ่นเทียนถือกระจกด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจ

ตัวเองในกระจกตอนนี้ยังคงมีคิ้วกระบี่ดวงตาดารา หล่อเหลาอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลจากการรับมรดกวิชาหรือไม่ ตรงระหว่างคิ้วยังปรากฏสัญลักษณ์หนึ่งด้วย

สัญลักษณ์นั้นเป็นสีทอง รูปทรงคล้ายกับสายฟ้าสายหนึ่ง ดูยิ่งใหญ่ทรงพลัง

แต่นี่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือวงรัศมีเหนือศีรษะเสิ่นเทียนในยามนี้ เหนือวงรัศมีเขาไม่มีสีดำแม้แต่น้อย กลิ่นอายความซวยสีดำทั้งหมดหายไปแล้ว

บนวงรัศมีสีขาวส่องแสงพร่างพราว กระทั่งเสิ่นเทียนยังเห็นว่ารอบนอกวงรัศมีสีขาวเกิดแสงสีเขียวขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับพลังชีวิตเข้มข้น

แม้แสงสีเขียวนี่จะไม่ถือว่าสว่างไสวอะไรเป็นพิเศษ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือการเริ่มต้นที่ดี อย่างน้อยก็พิสูจน์ว่าเสิ่นเทียนไม่ใช่คนดวงซวยคนนั้นในอดีตอีกแล้ว

จากนี้เลี้ยงนก ไม่ต้องกังวลว่าจะจมน้ำตายในสระน้ำอุทยานหลวงอีก

จากนี้ปลูกดอกไม้ ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนเด็กดื้อจากตำหนักข้างๆ มาถอนทิ้งอีก

จากนี้เป็นวีรบุรุษช่วยหญิงงาม ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเหยียบเปลือกกล้วยวิญญาณอีก

ข้าไม่ใช่เด็กหนุ่มคนนั้นในอดีตแล้ว แต่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ต่อจากนี้ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ให้มันสีเขียวสดขึ้นเรื่อยๆ!

…….

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ยิ้มจนแม้แต่หนวดตรงมุมปากยังกระดกขึ้น

“องค์ชาย เรื่องอะไรที่ทำให้ท่านมีความสุขเช่นนี้รึ”

กุ้ยกงกงกับฉินเกาเดินมาทางเสิ่นเทียนก่อนเอ่ยถาม

“ไม่มีอะไร ตระหนักรู้การบำเพ็ญเล็กน้อยเท่านั้น”

เสิ่นเทียนมองกุ้ยกงกงกับฉินเกา ก่อนจะอดอึ้งไปมิได้ เพราะเหนือศีรษะสองคนนี้ก็ปรากฏสัญลักษณ์สีทองเช่นกัน สัญลักษณ์สีทองนี้เหมือนกันบนหน้าผากเสิ่นเทียนมาก แทบจะทุกประการ

สองคนผมตั้งยุ่งเป็นกระเซิง หน้าดำมืด ประกอบกับสัญลักษณ์สีทองสว่างจ้านั่น ดูๆ ไปอย่าให้เอ่ยเลยว่ามันเฉียบคมเพียงใด

เสิ่นเทียนเหมือนนึกอะไรออกจึงรีบมองพวกหลิวไท่อี่ ก่อนจะพบว่าบนศีรษะหลิวไท่อี่ เจินจื้อเจี่ยและสยงเหมิ่งก็ปรากฏสัญลักษณ์เช่นกัน

เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เสิ่นเทียนถึงรู้สึกว่าสัญลักษณ์บนศีรษะตนถึงสีเข้มสุด

พวกกุ้ยกงกงและฉินเการองลงมา ส่วนพวกหลิวไท่อี่จางลงมาอีกเล็กน้อย

อีกทั้งหลังปรากฏสัญลักษณ์แล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกว่าพลังวิญญาณคบเพลิงในร่างกายเหมือนจะกะปรี้กระเปร่าขึ้น ราวกับเด็กน้อยเจอของอร่อยอะไรบางอย่าง

………..

“นี่ข้าเป็นอะไร” ตอนนี้เอง เถ้าแก่ซ่งฟื้นสติขึ้นมา

เขาหยัดกายขึ้นมาเนิบๆ ใบหน้าดำยิ่งกว่ากุ้ยกงกงเสียอีก

จุดที่ควรค่าเอ่ยถึงคือ ตรงระหว่างคิ้วเขาก็ปรากฏสัญลักษณ์สีทองเช่นกัน อีกทั้งสัญลักษณ์สีทองของเถ้าแก่ซ่งยังเข้มกว่าของพวกกุ้ยกงกง

เสิ่นเทียนคิดอะไรได้ จึงมองไปที่วงรัศมีเหนือหัวของทุกคน ก่อนจะพบว่าหลังจากปรากฏสัญลักษณ์สีทองแล้ว วงรัศมีของทุกคนเปลี่ยนไป

ระดับความสว่างของวงรัศมีทุกคนเพิ่มขึ้นมาก

จากคนที่ตอนแรกเขียวอ่อน ตอนนี้เป็นเขียวเข้มหรือเขียวแก่

คนที่ตอนแรกสีเขียวอมแดง ตอนนี้แสงสีแดงมากขึ้น กระทั่งปรากฏจุดสีแดง

โดยเฉพาะเถ้าแก่ซ่ง เดิมทีวงรัศมีเป็นสีเขียวอ่อน แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นวงรัศมีสีเขียวมีจุดแดงแล้ว

เรียกได้ว่าดวงชะตาแกร่งขึ้น เหมือนลอกคราบใหม่!

เสิ่นเทียนอดคาดเดาอย่างหนึ่งในใจมิได้ หรือว่าสัญลักษณ์สายฟ้านี้จะเกี่ยวข้องกับจี้หยกคู่นั้น เพราะทุกคนได้แบ่งโชควาสนาของจางอวิ๋นซีไปด้วยเล็กน้อย ดังนั้นดวงชะตาของทุกคนที่นี่จึงเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย

พอนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนก็เอ่ยขึ้น “ทุกคนตรวจสอบตัวเองหน่อยว่ามีอะไรเปลี่ยนไปหรือไม่”

เมื่อได้ฟังคำพูดเสิ่นเทียนแล้ว ทุกคนอดอึ้งไปมิได้ ก่อนจะพบสัญลักษณ์สายฟ้าสีทองตรงระหว่างคิ้วคนอื่น

“ซู้ด เถ้าแก่ซ่ง ทำไมตรงระหว่างคิ้วถึงมีภาพสายฟ้าล่ะ?”

“เจ้ามีหน้ามาว่าข้ารึ บนหน้าผากเจ้ามีสัญลักษณ์โผล่มาต่างหากล่ะ!”

“บนหัวพวกเจ้าเหมือนจะมีสัญลักษณ์นี้กันหมดนะ หือ ข้าก็เหมือนกัน!”

…….

ทันใดนั้น เถ้าแก่ซ่งเหมือนนึกอะไรออก

เขาร้องตกใจว่า “หรือว่าจะเป็นอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง”

เจินจื้อเจี่ยถาม “อะไรนะ อะไรคืออัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง?”

นัยน์ตาเถ้าแก่ซ่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “นี่คือสมบัติล้ำค่าลำดับที่แปดสิบแปดในรายนามอัสนีเทพ! ขณะเดียวกัน ยังเป็นอัสนีเทพที่หลอมขึ้นได้สำเร็จเพียงอย่างเดียวในร้อยสิ่งแข็งแกร่งบนรายนามอัสนีเทพ”

เถ้าแก่ซ่งดูตื่นเต้นมาก ขณะอธิบายยังเสียงสั่นเครือ

อัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง ในโลกบำเพ็ญเซียนเป็นที่ยอมรับโดยนัยว่าเป็นอัสนีเทพแบบมานะสร้าง เพราะอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางแบบสวรรค์ประทานยากจะปรากฏมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว

เมื่อปรากฏ ถึงขนาดยังแย่งชิงอันดับสามในรายนามอัสนีเทพได้

แม้จะเป็นอัสนีเทพกำเนิดฟ้ามานะสร้างก็มากพอจะทำให้คนอกสั่นขวัญหาย

เหตุผลนั้นง่ายมาก อัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้างสามารถสร้างขึ้นได้จำนวนมาก

ในโลกบำเพ็ญเซียนเมื่อหมื่นปีก่อน อัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางคืออัสนีเทพที่เป็นสัญลักษณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

จากบันทึกตำราโบราณ หากผู้สืบทอดโดยตรงของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ฝึกฝนคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีได้ถึงขอบเขตพลังที่มั่นคงแล้ว พวกเขาก็จะผสานรวมอัสนีเทพปัญจธาตุเข้ากับหยินหยาง หลอมขึ้นเป็นอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง

สายฟ้าชนิดนี้แม้จะอยู่เพียงอันดับแปดสิบแปดในรายนามอัสนีเทพ แต่ก็มีจำนวนมาก!

………

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เมื่อหมื่นปีก่อน บุตรศักดิ์สิทธิ์ดำรงอยู่ร้อยปี เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ดำรงอยู่พันปี

สะสมสามถึงห้าพันปี บ่อยเข้าก็จะมีผู้สืบทอดสายตรงของคัมภีร์จักรพรรดิสามสิบห้าท่าน

พวกเขามีสิทธิ์ฝึกฝนบทต้องห้าม แทบทุกคนต่างมีอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางหนึ่งชุด

สายฟ้าที่ทรงพลังเช่นนี้ ใช้ควบคู่กับวิชาธาตุสายฟ้าที่เลิศล้ำต่างๆ ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ อีกทั้งยังวางยอดค่ายกลอาคมสายฟ้าสวรรค์เทพสวรรค์ได้

สามอย่างรวมกัน ไม่ต้องคิดถึงพลานุภาพสังหารก็รู้แล้ว

เมื่อหมื่นปีก่อนมารร้ายต่างแดนพวกนั้นโดนการจู่โจมชุดนี้เข้าไปจนเกิดเงามืดในจิตใจ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่บุกทำลายแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทั้งบนกลางและล่างพร้อมกัน!

เสิ่นเทียนคิดว่าน่าจะเป็นเพราะจี้มังกรพยัคฆ์นั่น

จี้มังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์ผนึกตัวเองหมื่นปีในสนามรบบรรพกาล

หนึ่งหมื่นปีมานี้ อักขระมหามรรคบนจี้หยกสูบรับพลังวิญญาณฟ้าดินตลอด ก็เหมือนกับผู้แข็งแกร่งที่ฝึกฝนคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพท่านหนึ่งกำลังรวมอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง

สะสมมามาหมื่นปี ย่อมรวมออกมาเป็นแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าไม่น้อย

ก่อนหน้านี้ ทัณฑ์สวรรค์จู่โจมจี้หยกมังกรพยัคฆ์ก็น่าจะเพื่อทำลายแก่นรากนี้เอง

และเหตุที่เสิ่นเทียนสัมผัสได้ว่ามีพลังมุดเข้ามาในร่างของตนก็น่าจะเป็นอันนี้

………

“แปลกมาก พลังวิญญาณของข้ามีคุณสมบัติสายฟ้าด้วย”

เถ้าแก่ซ่งร้องตกใจ

เมื่อครู่เขาลองปล่อยพลังวิญญาณออกมาเล็กน้อยให้พันปลายนิ้ว แต่ตอนนี้ปลายนิ้วเขากลับเปล่งแสงสายฟ้าสีเงินออกมา

แสงสายฟ้านั้นขยับวูบวาบไม่หยุด สว่างจ้าเป็นพิเศษ

เห็นดังนั้น แม้แต่เสิ่นเทียนยังอึ้งไปแทบจะตกใจจนร้องออกมา

“ข้าก็จะลองดูด้วย!”

สยงเหมิ่งตะโกนเสียงดังก่อนปะทุพลังวิญญาณทั่วร่าง

ทันใดนั้นสายฟ้าสีขาววนเวียนรอบตัวเขา ส่องแสงเขาเหมือนกับหมีขาวตัวใหญ่

กุ้ยกงกงกับฉินเกามองหน้ากันและรวมพลังวิญญาณเช่นกัน

ร่างมายาทานตะวันมารสีทองสองดอกลอยขึ้นมาข้างหลังสองคน แผ่กลิ่นอายแปลกประหลาด

แต่รอบๆ ร่างมายาทานตะวันมารในตอนนี้มีประกายสายฟ้าสีม่วงอมฟ้าวนเวียนอยู่ ประกายสายฟ้านี้ไม่ยิ่งใหญ่ทรงพลังเหมือนประกายสายฟ้าสีขาว กระทั่งดูทะมึนทึบเล็กน้อย

กุ้ยกงกงเหมือนคิดอะไรได้จึงสำแดงท่าร่างทานตะวัน

วินาทีนั้นพบว่ามีร่างมายาสีม่วงอมแดงขยับวูบไหว

กุ้ยกงกงไปปรากฏห่างไปหลายจั้ง

สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง “ความเร็วข้าเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแล้ว!”

ไม่นึกเลยว่าองค์ชายเลือกแร่วิญญาณมาตามอำเภอใจก้อนหนึ่งจะผ่าได้สมบัติล้ำค่าสูงสุด

ในที่สุดดวงชะตาองค์ชายก็เปลี่ยนไปแล้ว หากพระสนมหลานที่แดนปรโลกรู้เข้า จะต้องยิ้มร่าไปทั่วแดนปรโลกอย่างแน่นอน!

………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 65 แก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้าง!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 65 แก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้าง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 65 แก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้าง!
ใช่ เขียวแล้ว

เสิ่นเทียนถือกระจกด้วยความรู้สึกหลากหลายในใจ

ตัวเองในกระจกตอนนี้ยังคงมีคิ้วกระบี่ดวงตาดารา หล่อเหลาอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผลจากการรับมรดกวิชาหรือไม่ ตรงระหว่างคิ้วยังปรากฏสัญลักษณ์หนึ่งด้วย

สัญลักษณ์นั้นเป็นสีทอง รูปทรงคล้ายกับสายฟ้าสายหนึ่ง ดูยิ่งใหญ่ทรงพลัง

แต่นี่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือวงรัศมีเหนือศีรษะเสิ่นเทียนในยามนี้ เหนือวงรัศมีเขาไม่มีสีดำแม้แต่น้อย กลิ่นอายความซวยสีดำทั้งหมดหายไปแล้ว

บนวงรัศมีสีขาวส่องแสงพร่างพราว กระทั่งเสิ่นเทียนยังเห็นว่ารอบนอกวงรัศมีสีขาวเกิดแสงสีเขียวขึ้น ซึ่งมาพร้อมกับพลังชีวิตเข้มข้น

แม้แสงสีเขียวนี่จะไม่ถือว่าสว่างไสวอะไรเป็นพิเศษ แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือการเริ่มต้นที่ดี อย่างน้อยก็พิสูจน์ว่าเสิ่นเทียนไม่ใช่คนดวงซวยคนนั้นในอดีตอีกแล้ว

จากนี้เลี้ยงนก ไม่ต้องกังวลว่าจะจมน้ำตายในสระน้ำอุทยานหลวงอีก

จากนี้ปลูกดอกไม้ ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนเด็กดื้อจากตำหนักข้างๆ มาถอนทิ้งอีก

จากนี้เป็นวีรบุรุษช่วยหญิงงาม ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเหยียบเปลือกกล้วยวิญญาณอีก

ข้าไม่ใช่เด็กหนุ่มคนนั้นในอดีตแล้ว แต่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ต่อจากนี้ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่ให้มันสีเขียวสดขึ้นเรื่อยๆ!

…….

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ยิ้มจนแม้แต่หนวดตรงมุมปากยังกระดกขึ้น

“องค์ชาย เรื่องอะไรที่ทำให้ท่านมีความสุขเช่นนี้รึ”

กุ้ยกงกงกับฉินเกาเดินมาทางเสิ่นเทียนก่อนเอ่ยถาม

“ไม่มีอะไร ตระหนักรู้การบำเพ็ญเล็กน้อยเท่านั้น”

เสิ่นเทียนมองกุ้ยกงกงกับฉินเกา ก่อนจะอดอึ้งไปมิได้ เพราะเหนือศีรษะสองคนนี้ก็ปรากฏสัญลักษณ์สีทองเช่นกัน สัญลักษณ์สีทองนี้เหมือนกันบนหน้าผากเสิ่นเทียนมาก แทบจะทุกประการ

สองคนผมตั้งยุ่งเป็นกระเซิง หน้าดำมืด ประกอบกับสัญลักษณ์สีทองสว่างจ้านั่น ดูๆ ไปอย่าให้เอ่ยเลยว่ามันเฉียบคมเพียงใด

เสิ่นเทียนเหมือนนึกอะไรออกจึงรีบมองพวกหลิวไท่อี่ ก่อนจะพบว่าบนศีรษะหลิวไท่อี่ เจินจื้อเจี่ยและสยงเหมิ่งก็ปรากฏสัญลักษณ์เช่นกัน

เพียงแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เสิ่นเทียนถึงรู้สึกว่าสัญลักษณ์บนศีรษะตนถึงสีเข้มสุด

พวกกุ้ยกงกงและฉินเการองลงมา ส่วนพวกหลิวไท่อี่จางลงมาอีกเล็กน้อย

อีกทั้งหลังปรากฏสัญลักษณ์แล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกว่าพลังวิญญาณคบเพลิงในร่างกายเหมือนจะกะปรี้กระเปร่าขึ้น ราวกับเด็กน้อยเจอของอร่อยอะไรบางอย่าง

………..

“นี่ข้าเป็นอะไร” ตอนนี้เอง เถ้าแก่ซ่งฟื้นสติขึ้นมา

เขาหยัดกายขึ้นมาเนิบๆ ใบหน้าดำยิ่งกว่ากุ้ยกงกงเสียอีก

จุดที่ควรค่าเอ่ยถึงคือ ตรงระหว่างคิ้วเขาก็ปรากฏสัญลักษณ์สีทองเช่นกัน อีกทั้งสัญลักษณ์สีทองของเถ้าแก่ซ่งยังเข้มกว่าของพวกกุ้ยกงกง

เสิ่นเทียนคิดอะไรได้ จึงมองไปที่วงรัศมีเหนือหัวของทุกคน ก่อนจะพบว่าหลังจากปรากฏสัญลักษณ์สีทองแล้ว วงรัศมีของทุกคนเปลี่ยนไป

ระดับความสว่างของวงรัศมีทุกคนเพิ่มขึ้นมาก

จากคนที่ตอนแรกเขียวอ่อน ตอนนี้เป็นเขียวเข้มหรือเขียวแก่

คนที่ตอนแรกสีเขียวอมแดง ตอนนี้แสงสีแดงมากขึ้น กระทั่งปรากฏจุดสีแดง

โดยเฉพาะเถ้าแก่ซ่ง เดิมทีวงรัศมีเป็นสีเขียวอ่อน แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นวงรัศมีสีเขียวมีจุดแดงแล้ว

เรียกได้ว่าดวงชะตาแกร่งขึ้น เหมือนลอกคราบใหม่!

เสิ่นเทียนอดคาดเดาอย่างหนึ่งในใจมิได้ หรือว่าสัญลักษณ์สายฟ้านี้จะเกี่ยวข้องกับจี้หยกคู่นั้น เพราะทุกคนได้แบ่งโชควาสนาของจางอวิ๋นซีไปด้วยเล็กน้อย ดังนั้นดวงชะตาของทุกคนที่นี่จึงเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย

พอนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนก็เอ่ยขึ้น “ทุกคนตรวจสอบตัวเองหน่อยว่ามีอะไรเปลี่ยนไปหรือไม่”

เมื่อได้ฟังคำพูดเสิ่นเทียนแล้ว ทุกคนอดอึ้งไปมิได้ ก่อนจะพบสัญลักษณ์สายฟ้าสีทองตรงระหว่างคิ้วคนอื่น

“ซู้ด เถ้าแก่ซ่ง ทำไมตรงระหว่างคิ้วถึงมีภาพสายฟ้าล่ะ?”

“เจ้ามีหน้ามาว่าข้ารึ บนหน้าผากเจ้ามีสัญลักษณ์โผล่มาต่างหากล่ะ!”

“บนหัวพวกเจ้าเหมือนจะมีสัญลักษณ์นี้กันหมดนะ หือ ข้าก็เหมือนกัน!”

…….

ทันใดนั้น เถ้าแก่ซ่งเหมือนนึกอะไรออก

เขาร้องตกใจว่า “หรือว่าจะเป็นอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง”

เจินจื้อเจี่ยถาม “อะไรนะ อะไรคืออัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง?”

นัยน์ตาเถ้าแก่ซ่งเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “นี่คือสมบัติล้ำค่าลำดับที่แปดสิบแปดในรายนามอัสนีเทพ! ขณะเดียวกัน ยังเป็นอัสนีเทพที่หลอมขึ้นได้สำเร็จเพียงอย่างเดียวในร้อยสิ่งแข็งแกร่งบนรายนามอัสนีเทพ”

เถ้าแก่ซ่งดูตื่นเต้นมาก ขณะอธิบายยังเสียงสั่นเครือ

อัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง ในโลกบำเพ็ญเซียนเป็นที่ยอมรับโดยนัยว่าเป็นอัสนีเทพแบบมานะสร้าง เพราะอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางแบบสวรรค์ประทานยากจะปรากฏมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว

เมื่อปรากฏ ถึงขนาดยังแย่งชิงอันดับสามในรายนามอัสนีเทพได้

แม้จะเป็นอัสนีเทพกำเนิดฟ้ามานะสร้างก็มากพอจะทำให้คนอกสั่นขวัญหาย

เหตุผลนั้นง่ายมาก อัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางมานะสร้างสามารถสร้างขึ้นได้จำนวนมาก

ในโลกบำเพ็ญเซียนเมื่อหมื่นปีก่อน อัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางคืออัสนีเทพที่เป็นสัญลักษณ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

จากบันทึกตำราโบราณ หากผู้สืบทอดโดยตรงของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ฝึกฝนคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีได้ถึงขอบเขตพลังที่มั่นคงแล้ว พวกเขาก็จะผสานรวมอัสนีเทพปัญจธาตุเข้ากับหยินหยาง หลอมขึ้นเป็นอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง

สายฟ้าชนิดนี้แม้จะอยู่เพียงอันดับแปดสิบแปดในรายนามอัสนีเทพ แต่ก็มีจำนวนมาก!

………

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เมื่อหมื่นปีก่อน บุตรศักดิ์สิทธิ์ดำรงอยู่ร้อยปี เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ดำรงอยู่พันปี

สะสมสามถึงห้าพันปี บ่อยเข้าก็จะมีผู้สืบทอดสายตรงของคัมภีร์จักรพรรดิสามสิบห้าท่าน

พวกเขามีสิทธิ์ฝึกฝนบทต้องห้าม แทบทุกคนต่างมีอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางหนึ่งชุด

สายฟ้าที่ทรงพลังเช่นนี้ ใช้ควบคู่กับวิชาธาตุสายฟ้าที่เลิศล้ำต่างๆ ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ อีกทั้งยังวางยอดค่ายกลอาคมสายฟ้าสวรรค์เทพสวรรค์ได้

สามอย่างรวมกัน ไม่ต้องคิดถึงพลานุภาพสังหารก็รู้แล้ว

เมื่อหมื่นปีก่อนมารร้ายต่างแดนพวกนั้นโดนการจู่โจมชุดนี้เข้าไปจนเกิดเงามืดในจิตใจ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่บุกทำลายแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทั้งบนกลางและล่างพร้อมกัน!

เสิ่นเทียนคิดว่าน่าจะเป็นเพราะจี้มังกรพยัคฆ์นั่น

จี้มังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์ผนึกตัวเองหมื่นปีในสนามรบบรรพกาล

หนึ่งหมื่นปีมานี้ อักขระมหามรรคบนจี้หยกสูบรับพลังวิญญาณฟ้าดินตลอด ก็เหมือนกับผู้แข็งแกร่งที่ฝึกฝนคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพท่านหนึ่งกำลังรวมอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยาง

สะสมมามาหมื่นปี ย่อมรวมออกมาเป็นแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าไม่น้อย

ก่อนหน้านี้ ทัณฑ์สวรรค์จู่โจมจี้หยกมังกรพยัคฆ์ก็น่าจะเพื่อทำลายแก่นรากนี้เอง

และเหตุที่เสิ่นเทียนสัมผัสได้ว่ามีพลังมุดเข้ามาในร่างของตนก็น่าจะเป็นอันนี้

………

“แปลกมาก พลังวิญญาณของข้ามีคุณสมบัติสายฟ้าด้วย”

เถ้าแก่ซ่งร้องตกใจ

เมื่อครู่เขาลองปล่อยพลังวิญญาณออกมาเล็กน้อยให้พันปลายนิ้ว แต่ตอนนี้ปลายนิ้วเขากลับเปล่งแสงสายฟ้าสีเงินออกมา

แสงสายฟ้านั้นขยับวูบวาบไม่หยุด สว่างจ้าเป็นพิเศษ

เห็นดังนั้น แม้แต่เสิ่นเทียนยังอึ้งไปแทบจะตกใจจนร้องออกมา

“ข้าก็จะลองดูด้วย!”

สยงเหมิ่งตะโกนเสียงดังก่อนปะทุพลังวิญญาณทั่วร่าง

ทันใดนั้นสายฟ้าสีขาววนเวียนรอบตัวเขา ส่องแสงเขาเหมือนกับหมีขาวตัวใหญ่

กุ้ยกงกงกับฉินเกามองหน้ากันและรวมพลังวิญญาณเช่นกัน

ร่างมายาทานตะวันมารสีทองสองดอกลอยขึ้นมาข้างหลังสองคน แผ่กลิ่นอายแปลกประหลาด

แต่รอบๆ ร่างมายาทานตะวันมารในตอนนี้มีประกายสายฟ้าสีม่วงอมฟ้าวนเวียนอยู่ ประกายสายฟ้านี้ไม่ยิ่งใหญ่ทรงพลังเหมือนประกายสายฟ้าสีขาว กระทั่งดูทะมึนทึบเล็กน้อย

กุ้ยกงกงเหมือนคิดอะไรได้จึงสำแดงท่าร่างทานตะวัน

วินาทีนั้นพบว่ามีร่างมายาสีม่วงอมแดงขยับวูบไหว

กุ้ยกงกงไปปรากฏห่างไปหลายจั้ง

สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง “ความเร็วข้าเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวแล้ว!”

ไม่นึกเลยว่าองค์ชายเลือกแร่วิญญาณมาตามอำเภอใจก้อนหนึ่งจะผ่าได้สมบัติล้ำค่าสูงสุด

ในที่สุดดวงชะตาองค์ชายก็เปลี่ยนไปแล้ว หากพระสนมหลานที่แดนปรโลกรู้เข้า จะต้องยิ้มร่าไปทั่วแดนปรโลกอย่างแน่นอน!

………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+