บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 221 มีเอกลักษณ์เหมือนตอนข้ายังหนุ่ม!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 221 มีเอกลักษณ์เหมือนตอนข้ายังหนุ่ม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 221 มีเอกลักษณ์เหมือนตอนข้ายังหนุ่ม!

เมื่อหมื่นปีก่อนมีเซียนแท้จริงลงมาจะเอาหอคอยนี่ไป แต่ถูกกำราบสิ้นชีพ

แล้วเจ้าจะให้เสิ่นเทียนเอามันไปหรือ

ทุกคนมองฉินอวิ๋นตี๋ เวลานี้หมดคำจะพูดนิดๆ

แต่ก็คิดได้ว่าเสิ่นเทียนรู้สึกถึงการเรียกหาของหอคอยนี้ห่างไปห้าร้อยลี้ อีกทั้งตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แม้เสิ่นเทียนจะไปเกิดเรื่องที่ใด แต่ก็เปลี่ยนจากเรื่องร้ายกลายเป็นดีได้โชคลิขิตมาตลอด

ด้วยรูปแบบชะตาบุตรแห่งโชคของเสิ่นเทียน บางทีอาจจะกำราบหอคอยเทพนี่ได้!

ข่งเมิ่งอธิบาย “หอคอยเทพสงครามนี่ เล่าลือว่าเป็นของวิเศษเทพชั้นยอดของโลกเซียน แต่ถ้าจะกำราบมัน แม้แต่เซียนแท้จริงยังไม่มีทาง มีเพียงคนที่ได้รับการยอมรับเท่านั้นถึงจะมีโอกาส”

จินอวี่เกาหัว ดวงตาสีทองวาววับในตอนแรกสว่างยิ่งกว่าเดิม “จะได้รับการยอมรับอย่างไร”

ตอนนี้ในใจจินอวี่เร่าร้อนอย่างยิ่ง นี่คือสมบัติสุดยอดสูงสุดที่เคยสังหารเซียนแท้จริงมาแล้ว หากดวงดีได้รับการยอมรับจากหอคอยนี่ จะไม่เท่ากับไร้พ่ายในห้าดินแดนทันทีเลยหรือ

ถึงตอนนั้นข้าต้องกลัวเจ้าหนูเสิ่นเทียนอีกรึ คงจะเหยียบย่ำเขาได้ทุกนาทีเลย!

เมื่อคิดได้ดังนั้น จินอวี่ก็เผยรอยยิ้มแปลกๆ “หน้าหอคอยเทพมีประตู ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับต่ำกว่ามหายานเข้าไปได้ทุกคน เล่าลือว่าทุกชั้นของหอคอยจะรวมเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเดียวกับผู้ที่บุกมา หากเอาชนะร่างเงาที่หอคอยนี้สร้างออกมาได้ก็จะได้รับรางวัลล้ำค่า

รางวัลเช่นนี้อาจจะเป็นสมบัติวิญญาณ สมบัติศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า หรือสมบัติจากโลกเซียน วิชา กระทั่งอาจจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดิน!

หากพ่ายแพ้จะถูกเคลื่อนย้ายออกมา อีกทั้งผู้ฝึกบำเพ็ญทุกคนจะเข้าไปฝึกในหอคอยได้ครั้งเดียว เข้าไปซ้ำไม่ได้อีก แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ข้าอ่านเจอในตำราโบราณของเผ่าเทพนกยูง รายละเอียดจริงเท็จประการใดยังยืนยันไม่ได้”

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนยิ้ม “จะจริงหรือไม่จริง เราเข้าไปดูก็รู้แล้วไม่ใช่รึ”

เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็ก้าวเท้ายาวไปทางประตูใหญ่ของหอคอยเทพสงคราม ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย

ทันทีที่เห็นเสิ่นเทียนรุดหน้าไปอย่างไม่เกรงกลัวแล้ว ทุกคนข้างหลังอดเลื่อมใสมิได้

ถึงจะรู้ว่าหอคอยนี่เคยสังหารเซียนแท้จริงมาแล้ว ก็ยังเข้าไปฝึกฝนในหอคอยอย่างไม่ลังเลเลย

ความกล้าหาญตรงนี้มากพอจะทำให้คนนับถือ

สมกับเป็นเจ้า เสิ่นเทียน!

“สหายพูดถูก เข้าไปดูก็รู้เองว่าจริงหรือไม่”

ข่งเมิ่งตามหลังติดๆ เข้าไปหน้าประตูใหญ่หอคอยเทพสงคราม เคียงบ่าเคียงไหล่กับเสิ่นเทียน

ปัง~

ประตูใหญ่หอคอยเทพสงครามนั้นเปิดออก เปล่งแสงสว่างหลากสี ดูดเสิ่นเทียนกับข่งเมิ่งเข้าไป

“รอข้าก่อน หอคอยบ้านี้เป็นของข้า!”

จินอวี่มาถึงหน้าประตูใหญ่หอคอยสงครามด้วยความฮึกเหิม “รีบดูดข้าเข้าไป!”

ประตูใหญ่หอคอยเทพสงครามเปล่งแสงหลากสีอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้ดูดเขาเข้าไป แต่ผลักเขาปลิวไป

ร่างจินอวี่กระเด็นไปหลายร้อยจั้ง ทั้งตัวฝังอยู่ในภูเขา ทั้งยังเห็นเป็นรอยกางแขนกางขา

ฉินอวิ๋นตี๋ส่ายหน้าอย่างจำใจ “เจ้าอินทรีโง่นี่ กล้าเสียมารยาทกับหอคอยเทพสงคราม นั่นคือสุดยอดสมบัติสูงสุดเชียวนะ!”

ซ่งฟู้กุ้ยข้างกายกลอกตาไปมาเหมือนนึกอะไรได้ จึงเดินมาหน้าประตูใหญ่

เขาแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม “หอคอยเทพที่เคารพ ข้าคือสาวกของบุรุษรูปงามคนเมื่อครู่ ไม่ทราบว่าจะเข้าร่วมการฝึกฝนด้วยได้หรือไม่”

เมื่อเห็นซ่งฟู้กุ้ยประกาศความภักดีต่อเสิ่นเทียนตรงหน้าหอคอยเทพสงคราม เผ่าปีศาจเช่นเฮ่ออู๋ซวงถึงกับปาดเหงื่อ

นี่คือของวิเศษเทพสูงสุดเมื่อหมื่นปีก่อน เจ้าคิดว่ามันจะไว้หน้าคนธรรมดาอย่างเสิ่นเทียนหรือ

ต้องบอกว่าตาแก่คนนี้เพ้อฝันจริงๆ…

ปึง~

ทว่าตอนนี้เอง ประตูใหญ่ของหอคอยเทพสงครามก็เปิดออกช้าๆ จริง

ยิงแสงหลากสีใส่ตัวซ่งฟู้กุ้ยและรับเขาเข้าไปเหมือนก่อนหน้านี้

วินาทีนั้น เจ้านกเฮ่ออู๋ซวง ไป๋หลิง และทูจิ้วสามคนอึ้งไปแล้ว

นี่มันบ้าอะไรกัน!

แบบนี้ก็ได้หรือ

“มหัศจรรย์ มหัศจรรย์มากจริงๆ ต้องบันทึกไว้!”

หลิวไท่อี่หยิบพู่กันและแผ่นหยกออกมาจากแหวนเก็บของอย่างลำพองใจ ก่อนจะบันทึกไว้อย่างระมัดระวัง

‘ในการฝึกฝนสนามรบบรรพกาล หน้าหอคอยเทพสงคราม เพียงขานนามของท่านปรมาจารย์สวรรค์ก็จะมีแสงเทพหลากสีดูดเข้าไปในหอคอย ไปรับโชคลิขิต’

เจินจื้อเจี่ยทำเสียงจิ๊ๆ แปลกใจ ‘สมกับเป็นท่านปรมาจารย์สวรรค์บุตรศักดิ์สิทธิ์ ไม่นึกเลยว่าแม้แต่หอคอยเทพยังให้เกียรติ!’

สองคนเดินเคียงข้างกันมาหน้าหอคอยเทพสงคราม “ท่านหอคอยเทพ พวกเราก็เป็นสาวกของท่านปรมาจารย์สวรรค์เช่นกัน ขอร่วมการฝึกฝนได้หรือไม่”

ปึง~

แสงหลากสีสาดบนตัวเจินจื้อเจี่ยกับหลิวไท่อี่ ก่อนดูดสองคนเข้าไปในหอคอย

เวร ได้จริงๆ ด้วย!

ทุกคนที่เหลือตาเป็นประกายขึ้นมาทันที

ฉินอวิ๋นตี๋หรี่ตาลงก่อนเดินช้าๆ มาหน้าหอคอย “ข้าเป็นศิษย์น้องของศิษย์พี่เสิ่น ขอให้หอคอยเทพรับข้าเข้าร่วมการฝึกฝนด้วย”

ปึง~

เสิ่นเอ้าเดินมาหน้าหอคอยด้วยความสับสนในใจ “ข้าคือพี่ชายของน้องสิบสาม ขอให้หอคอยเทพรับข้าร่วมการฝึกฝนด้วย”

ปึง~

เซียวหลิงกับหลี่เหลียนเอ๋อร์เดินข้างกันมาหน้าหอคอย “ข้าเป็นภรรยาของพี่เสิ่นเทียน ขอ…”

ยังพูดไม่จบ เซียวหลิงกับเหลียนเอ๋อร์ก็มองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย

ภรรยาหรือ

เหมือนจะมีประกายสายฟ้าวูบไหวบางๆ

ปึง~

ท่านหญิงเซียนเผ่ามนุษย์สองคนที่กำลังตึงเครียดถูกแสงหลากสีดูดเข้าหอคอยไปพร้อมกัน

‘ศิษย์พี่เสิ่นสมกับเป็นบุตรแห่งโชคจริงๆ นับถือๆ!’

จ้าวเฮ่าแอบปลงอยู่ในใจ ก่อนจะมาหน้าหอคอยเช่นกัน “แซ่จ้าวเป็นศิษย์น้องของบุตรศักดิ์สิทธิ์ หวังว่าหอคอยเทพจะไว้หน้า”

ปึง~

แสงเทพหลากสีดูดจ้าวเฮ่าหายเข้าไป

เฮ่ออู๋ซวงกับไป๋หลิงมองหน้ากัน ไป๋หลิงพูดอย่างจำใจ “ตอนนี้ก็ชัดมากแล้วนะ บุตรศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์คนนี้คือผู้มีมหาดวงชะตาที่มีชะตาสวรรค์จริงๆ การจะเข้าหอคอยไปเอาโชคลิขิตก็ต้องยอมรับความรู้สึกตรงนี้!”

เมื่อเอ่ยจบ ไป๋หลิงก็เดินมาหน้าหอคอยด้วยใบหน้าแดง “ท่านหอคอยเทพ ข้าคือไป๋หลิงแห่งเผ่าเทพนกจาบฝน เป็นผู้เลื่อมใสบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ขอเข้าไปได้หรือไม่”

ปึง~

ไป๋หลิงก็ถูกแสงเทพดูดเข้าไปเช่นกัน เหมือนกับทุกคนก่อนหน้านี้

เฮ่ออู๋ซวงตื่นตกใจในทันที แบบนี้ก็ได้หรือ แสร้งเป็นผู้เลื่อมใสบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เข้าไปได้หรือ

แต่เจ้าคิดว่าโชคลิขิตในหอคอยเทพสงครามเล็กจ้อยนี่จะทำให้ข้าละทิ้งความโอหังและศักดิ์ศรีความบริสุทธิ์ของเผ่าเทพกระเรียนขาวได้รึ

ไม่ผิด ได้!

เฮ่ออู๋ซวงเดินมาหน้าหอคอยด้วยแววตาเร่าร้อน “หอคอยเทพที่เคารพ ข้าก็เป็นผู้เลื่อมใสบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เช่นกัน ขอให้ข้าเข้าไปด้วย”

ปึง~

……

จินอวี่คลานออกมาจากหลุมภูเขาหน้าดำๆ เห็นทุกคนถูกหอคอยเทพสงครามดูดเข้าไปหมดแล้ว เจ้านกนี่ผงะไปเลย

นี่มันบ้าอะไรกัน

ไหนบอกว่าในหอคอยเทพสงครามมีการฝึกฝน หลังผ่านการฝึกฝนถึงจะได้โชคลิขิตไม่ใช่หรือ

เหตุใดแค่ขานนามเสิ่นเทียนก็เข้าไปได้ หอคอยนี่คงไม่ใช่ว่ามีเบื้องหลังไม่ดีหรอกนะ!

จินอวี่กัดฟันเดินมาหน้าหอคอย ก่อนจะทำเสียงขึ้นจมูก “เจ้าหอคอยบ้า ข้าคือศัตรูตัวฉกาจของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ รีบให้ข้าเข้าไปตัดสินกับเขาอย่างยุติธรรม”

ปึง~

ฟิ้ว~

โครม~

“เจ้าหอคอยบ้า ครั้งที่แล้วอาจจะแสดงออกไม่ชัดเจน ข้ากับเสิ่นเทียนหากไม่สู้กันคงไม่รู้จักกัน เป็นคู่ต่อสู้ที่ยอมรับกันและกันแล้ว เจ้าอย่าเข้าใจผิด”

ปึง~

ฟิ้ว~

โครม~

“ข้าพูดไม่ชัดเจนพอหรือ ข้ากับเสิ่นเทียนเป็นสหายกัน! สะ…หาย เพื่อน…กัน เจ้าหอคอยบ้าเข้าใจหรือไม่!”

ปึง~

ฟิ้ว~

โครม~

“ฮือๆ เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่ เจ้าหอคอยบ้านี่! ได้ๆๆ ข้าคือผู้เลื่อมใสของเจ้าหนูเสิ่นเทียน เป็นผู้ติดตาม เป็นมันสมอง…”

ปึง~

ฟิ้ว~

โครม~

ฝุ่นควันตลบหลายครั้ง ภูเขาถูกชนแตกหลายครั้ง

โอรสสวรรค์หนุ่มสีทองลากร่างมาหน้าหอคอยเทพสงครามหลายต่อหลายครั้ง

จากหัวดื้อมาเป็นยอมรับว่าเสิ่นเทียนคือสหาย ก่อนจะฝืนใจพูดประจบเสิ่นเทียนด้วยความเคารพ

จินอวี่รู้สึกว่าตนจะทำให้เผ่าพญาอินทรีปีกทองเสียหน้าหมดแล้ว แต่หอคอยบ้านี่ก็ไม่ยอมให้เขาเข้าไปสักที

นกตัวนี้รู้สึกว่าโลกนี้ช่างโหดร้ายกับเขาเหลือเกิน

เขาไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ใดกันแน่ เห็นๆ อยู่ว่านกอีกสามตัวก็เข้าไปได้!

เจ้าหอคอยบ้านี่ ไม่ยุติธรรมเลย!

…….

จินอวี่กำลังสิ้นหวัง ทว่าตอนนี้เสิ่นเทียนมาปรากฏในอีกมิติแล้ว

นี่เป็นโลกสีม่วงทั้งหมด ไอสีม่วงใต้เท้าลอยขึ้นมาดูสวยและโออ่ายิ่ง ค่อนข้างไม่ธรรมดาเลย

ตรงกลางโลกนี้มีต้นชาสีม่วงอยู่ต้นหนึ่ง ใต้ต้นมีชายชราชุดคลุมม่วงกำลังชงชาเองดื่มเอง

หืม~!

ไม่ถูกต้อง!

เหตุใดนี่ไม่เหมือนกับในบท!

ก็ในภาพโชคลิขิตของจ้าวเฮ่ากับข่งเมิ่งไม่มีเจ้านี้นี่นา!

หรือจะเกิดทฤษฎีผีเสื้อขยับปีกอีกแล้ว วงรัศมีสีแดงจุดเขียวของข้ายังเอาโชคลิขิตนี้ไม่อยู่หรือ

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็กระวนกระวายใจ

แต่มาก็มาแล้ว จะไปก็ไปไม่ได้ สู้ไปดูดีกว่าว่าตาแก่นี่คิดจะทำอะไร

เสิ่นเทียนเดินอย่างทะนงองอาจมาหน้าชายชราชุดคลุมม่วง “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนขอคารวะผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสมีนามว่าอะไร”

ชายชราชุดคลุมม่วงเห็นเสิ่นเทียนไม่ถ่อมตัวและไม่โอหัง เขาก็พยักหน้าน้อยๆ “คนรุ่นเยาว์ หน้าตาสง่าผ่าเผย เอกลักษณ์ก็ถือว่าเหนือธรรมดา มีบุคลิกและเสน่ห์เหมือนกับข้าในตอนนั้นหลายส่วน”

เขาลูบแขนเสื้อเบาๆ บนโต๊ะปรากฏถ้วยขึ้นมาอีกใบ

ชายชรารินน้ำชาใส่แก้วนี้ “มา ลองชิมชาตระหนักรู้ของโลกเซียนดู”

เสิ่นเทียนมองถ้วยชานี้ด้วยความสงสัย ตาแก่นี่คงไม่วางยาพิษข้าหรอกนะ!

แต่ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น ถึงอย่างไรหอคอยเทพสงครามนี่ก็สังหารได้กระทั่งเซียนแท้จริง ถ้าจะจัดการข้าก็ไม่คงไม่ต้องวางยาพิษ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่มชาตระหนักรู้อึกเดียวหมด

อืม~

อืม~!

สมกับเป็นชานำเข้าของโลกเซียน หอมจริงๆ!

เมื่อชาตระหนักรู้ลงท้อง เสิ่นเทียนรู้สึกสบายไปทั้งตัว

พลังจิตเหมือนหลอมรวมกับฟ้าดินและยกระดับขึ้นสูงสุด จุดที่ยังคลุมเครือในวิชาพลันเปิดโล่ง

คัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ คัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้และคัมภีร์จักรพรรดินกยูง เคล็ด วิชา และทักษะยุทธ์ในคัมภีร์จักรพรรดิสามเล่มนี้กำลังเพิ่มพูนความเข้าใจอย่างรวดเร็ว

เสิ่นเทียนรู้สึกเหมือนว่าตนคลำเจอความหมายแท้จริงของมรรค ทักษะการตระหนักรู้เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

สายฟ้า ลายมังกรและแสงเทพห้าสีบนผิวกายเขาขยับแสงไม่หยุด บริสุทธิ์และหลอมรวมกันมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเมื่อเข้าใจในวิชามากขึ้น ฐานรากมรรคตรงจุดตันเถียนเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นช้าๆ

นั่นหมายความว่าระดับพลังของเสิ่นเทียนกำลังเพิ่มขึ้นไม่หยุด!

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร

เสิ่นเทียนลืมตาขึ้นช้าๆ ในดวงตาสองข้างมีแสงเทพขยับประกายแสง

ชายชราชุดคลุมม่วงยิ้ม “ชาตระหนักรู้แก้วเดียวก็ตระหนักเก้าวันเก้าคืน หายากๆ!”

เก้าวันเก้าคืน!

เสิ่นเทียนอึ้งไป เขารู้สึกว่าตนเหม่อไปเพียงครู่เดียวเท่านั้น

เหตุใดถึงผ่านไปเก้าวันเก้าคืนแล้ว!

แต่จะว่าไป เสิ่นเทียนรู้สึกเบาสบายไปทั้งตัว ความเข้าใจในวิชาทั้งหมดขึ้นไปสู่ขั้นใหม่

เสิ่นเทียนหยัดกายขึ้นก่อนโค้งตัวถาม “ขอบคุณของขวัญจากผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าเหตุใดผู้อาวุโสถึงต้อนรับแซ่เสิ่นดีเช่นนี้ พวกสหายของแซ่เสิ่นตอนนี้อยู่ที่ใด”

ชายชราชุดคลุมม่วงมองเสิ่นเทียนลึกๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกสหายของเจ้าตอนนี้กำลังฝึกฝนอยู่! ส่วนเหตุใดเจ้าไม่ต้องฝึกฝนก็มาพบข้าที่ชั้นสูงสุดได้”

ชายชรามองเสิ่นเทียนเชิงเย้าหยอก “เหอะๆ เจ้าเดาสิ!”

………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 221 มีเอกลักษณ์เหมือนตอนข้ายังหนุ่ม!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 221 มีเอกลักษณ์เหมือนตอนข้ายังหนุ่ม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 221 มีเอกลักษณ์เหมือนตอนข้ายังหนุ่ม!

เมื่อหมื่นปีก่อนมีเซียนแท้จริงลงมาจะเอาหอคอยนี่ไป แต่ถูกกำราบสิ้นชีพ

แล้วเจ้าจะให้เสิ่นเทียนเอามันไปหรือ

ทุกคนมองฉินอวิ๋นตี๋ เวลานี้หมดคำจะพูดนิดๆ

แต่ก็คิดได้ว่าเสิ่นเทียนรู้สึกถึงการเรียกหาของหอคอยนี้ห่างไปห้าร้อยลี้ อีกทั้งตั้งแต่ไหนแต่ไรมา แม้เสิ่นเทียนจะไปเกิดเรื่องที่ใด แต่ก็เปลี่ยนจากเรื่องร้ายกลายเป็นดีได้โชคลิขิตมาตลอด

ด้วยรูปแบบชะตาบุตรแห่งโชคของเสิ่นเทียน บางทีอาจจะกำราบหอคอยเทพนี่ได้!

ข่งเมิ่งอธิบาย “หอคอยเทพสงครามนี่ เล่าลือว่าเป็นของวิเศษเทพชั้นยอดของโลกเซียน แต่ถ้าจะกำราบมัน แม้แต่เซียนแท้จริงยังไม่มีทาง มีเพียงคนที่ได้รับการยอมรับเท่านั้นถึงจะมีโอกาส”

จินอวี่เกาหัว ดวงตาสีทองวาววับในตอนแรกสว่างยิ่งกว่าเดิม “จะได้รับการยอมรับอย่างไร”

ตอนนี้ในใจจินอวี่เร่าร้อนอย่างยิ่ง นี่คือสมบัติสุดยอดสูงสุดที่เคยสังหารเซียนแท้จริงมาแล้ว หากดวงดีได้รับการยอมรับจากหอคอยนี่ จะไม่เท่ากับไร้พ่ายในห้าดินแดนทันทีเลยหรือ

ถึงตอนนั้นข้าต้องกลัวเจ้าหนูเสิ่นเทียนอีกรึ คงจะเหยียบย่ำเขาได้ทุกนาทีเลย!

เมื่อคิดได้ดังนั้น จินอวี่ก็เผยรอยยิ้มแปลกๆ “หน้าหอคอยเทพมีประตู ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับต่ำกว่ามหายานเข้าไปได้ทุกคน เล่าลือว่าทุกชั้นของหอคอยจะรวมเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเดียวกับผู้ที่บุกมา หากเอาชนะร่างเงาที่หอคอยนี้สร้างออกมาได้ก็จะได้รับรางวัลล้ำค่า

รางวัลเช่นนี้อาจจะเป็นสมบัติวิญญาณ สมบัติศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า หรือสมบัติจากโลกเซียน วิชา กระทั่งอาจจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดิน!

หากพ่ายแพ้จะถูกเคลื่อนย้ายออกมา อีกทั้งผู้ฝึกบำเพ็ญทุกคนจะเข้าไปฝึกในหอคอยได้ครั้งเดียว เข้าไปซ้ำไม่ได้อีก แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ข้าอ่านเจอในตำราโบราณของเผ่าเทพนกยูง รายละเอียดจริงเท็จประการใดยังยืนยันไม่ได้”

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนยิ้ม “จะจริงหรือไม่จริง เราเข้าไปดูก็รู้แล้วไม่ใช่รึ”

เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็ก้าวเท้ายาวไปทางประตูใหญ่ของหอคอยเทพสงคราม ไม่มีความหวาดกลัวแม้แต่น้อย

ทันทีที่เห็นเสิ่นเทียนรุดหน้าไปอย่างไม่เกรงกลัวแล้ว ทุกคนข้างหลังอดเลื่อมใสมิได้

ถึงจะรู้ว่าหอคอยนี่เคยสังหารเซียนแท้จริงมาแล้ว ก็ยังเข้าไปฝึกฝนในหอคอยอย่างไม่ลังเลเลย

ความกล้าหาญตรงนี้มากพอจะทำให้คนนับถือ

สมกับเป็นเจ้า เสิ่นเทียน!

“สหายพูดถูก เข้าไปดูก็รู้เองว่าจริงหรือไม่”

ข่งเมิ่งตามหลังติดๆ เข้าไปหน้าประตูใหญ่หอคอยเทพสงคราม เคียงบ่าเคียงไหล่กับเสิ่นเทียน

ปัง~

ประตูใหญ่หอคอยเทพสงครามนั้นเปิดออก เปล่งแสงสว่างหลากสี ดูดเสิ่นเทียนกับข่งเมิ่งเข้าไป

“รอข้าก่อน หอคอยบ้านี้เป็นของข้า!”

จินอวี่มาถึงหน้าประตูใหญ่หอคอยสงครามด้วยความฮึกเหิม “รีบดูดข้าเข้าไป!”

ประตูใหญ่หอคอยเทพสงครามเปล่งแสงหลากสีอีกครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ไม่ได้ดูดเขาเข้าไป แต่ผลักเขาปลิวไป

ร่างจินอวี่กระเด็นไปหลายร้อยจั้ง ทั้งตัวฝังอยู่ในภูเขา ทั้งยังเห็นเป็นรอยกางแขนกางขา

ฉินอวิ๋นตี๋ส่ายหน้าอย่างจำใจ “เจ้าอินทรีโง่นี่ กล้าเสียมารยาทกับหอคอยเทพสงคราม นั่นคือสุดยอดสมบัติสูงสุดเชียวนะ!”

ซ่งฟู้กุ้ยข้างกายกลอกตาไปมาเหมือนนึกอะไรได้ จึงเดินมาหน้าประตูใหญ่

เขาแสดงความเคารพอย่างนอบน้อม “หอคอยเทพที่เคารพ ข้าคือสาวกของบุรุษรูปงามคนเมื่อครู่ ไม่ทราบว่าจะเข้าร่วมการฝึกฝนด้วยได้หรือไม่”

เมื่อเห็นซ่งฟู้กุ้ยประกาศความภักดีต่อเสิ่นเทียนตรงหน้าหอคอยเทพสงคราม เผ่าปีศาจเช่นเฮ่ออู๋ซวงถึงกับปาดเหงื่อ

นี่คือของวิเศษเทพสูงสุดเมื่อหมื่นปีก่อน เจ้าคิดว่ามันจะไว้หน้าคนธรรมดาอย่างเสิ่นเทียนหรือ

ต้องบอกว่าตาแก่คนนี้เพ้อฝันจริงๆ…

ปึง~

ทว่าตอนนี้เอง ประตูใหญ่ของหอคอยเทพสงครามก็เปิดออกช้าๆ จริง

ยิงแสงหลากสีใส่ตัวซ่งฟู้กุ้ยและรับเขาเข้าไปเหมือนก่อนหน้านี้

วินาทีนั้น เจ้านกเฮ่ออู๋ซวง ไป๋หลิง และทูจิ้วสามคนอึ้งไปแล้ว

นี่มันบ้าอะไรกัน!

แบบนี้ก็ได้หรือ

“มหัศจรรย์ มหัศจรรย์มากจริงๆ ต้องบันทึกไว้!”

หลิวไท่อี่หยิบพู่กันและแผ่นหยกออกมาจากแหวนเก็บของอย่างลำพองใจ ก่อนจะบันทึกไว้อย่างระมัดระวัง

‘ในการฝึกฝนสนามรบบรรพกาล หน้าหอคอยเทพสงคราม เพียงขานนามของท่านปรมาจารย์สวรรค์ก็จะมีแสงเทพหลากสีดูดเข้าไปในหอคอย ไปรับโชคลิขิต’

เจินจื้อเจี่ยทำเสียงจิ๊ๆ แปลกใจ ‘สมกับเป็นท่านปรมาจารย์สวรรค์บุตรศักดิ์สิทธิ์ ไม่นึกเลยว่าแม้แต่หอคอยเทพยังให้เกียรติ!’

สองคนเดินเคียงข้างกันมาหน้าหอคอยเทพสงคราม “ท่านหอคอยเทพ พวกเราก็เป็นสาวกของท่านปรมาจารย์สวรรค์เช่นกัน ขอร่วมการฝึกฝนได้หรือไม่”

ปึง~

แสงหลากสีสาดบนตัวเจินจื้อเจี่ยกับหลิวไท่อี่ ก่อนดูดสองคนเข้าไปในหอคอย

เวร ได้จริงๆ ด้วย!

ทุกคนที่เหลือตาเป็นประกายขึ้นมาทันที

ฉินอวิ๋นตี๋หรี่ตาลงก่อนเดินช้าๆ มาหน้าหอคอย “ข้าเป็นศิษย์น้องของศิษย์พี่เสิ่น ขอให้หอคอยเทพรับข้าเข้าร่วมการฝึกฝนด้วย”

ปึง~

เสิ่นเอ้าเดินมาหน้าหอคอยด้วยความสับสนในใจ “ข้าคือพี่ชายของน้องสิบสาม ขอให้หอคอยเทพรับข้าร่วมการฝึกฝนด้วย”

ปึง~

เซียวหลิงกับหลี่เหลียนเอ๋อร์เดินข้างกันมาหน้าหอคอย “ข้าเป็นภรรยาของพี่เสิ่นเทียน ขอ…”

ยังพูดไม่จบ เซียวหลิงกับเหลียนเอ๋อร์ก็มองหน้ากันโดยไม่ได้นัดหมาย

ภรรยาหรือ

เหมือนจะมีประกายสายฟ้าวูบไหวบางๆ

ปึง~

ท่านหญิงเซียนเผ่ามนุษย์สองคนที่กำลังตึงเครียดถูกแสงหลากสีดูดเข้าหอคอยไปพร้อมกัน

‘ศิษย์พี่เสิ่นสมกับเป็นบุตรแห่งโชคจริงๆ นับถือๆ!’

จ้าวเฮ่าแอบปลงอยู่ในใจ ก่อนจะมาหน้าหอคอยเช่นกัน “แซ่จ้าวเป็นศิษย์น้องของบุตรศักดิ์สิทธิ์ หวังว่าหอคอยเทพจะไว้หน้า”

ปึง~

แสงเทพหลากสีดูดจ้าวเฮ่าหายเข้าไป

เฮ่ออู๋ซวงกับไป๋หลิงมองหน้ากัน ไป๋หลิงพูดอย่างจำใจ “ตอนนี้ก็ชัดมากแล้วนะ บุตรศักดิ์สิทธิ์เผ่ามนุษย์คนนี้คือผู้มีมหาดวงชะตาที่มีชะตาสวรรค์จริงๆ การจะเข้าหอคอยไปเอาโชคลิขิตก็ต้องยอมรับความรู้สึกตรงนี้!”

เมื่อเอ่ยจบ ไป๋หลิงก็เดินมาหน้าหอคอยด้วยใบหน้าแดง “ท่านหอคอยเทพ ข้าคือไป๋หลิงแห่งเผ่าเทพนกจาบฝน เป็นผู้เลื่อมใสบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ขอเข้าไปได้หรือไม่”

ปึง~

ไป๋หลิงก็ถูกแสงเทพดูดเข้าไปเช่นกัน เหมือนกับทุกคนก่อนหน้านี้

เฮ่ออู๋ซวงตื่นตกใจในทันที แบบนี้ก็ได้หรือ แสร้งเป็นผู้เลื่อมใสบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เข้าไปได้หรือ

แต่เจ้าคิดว่าโชคลิขิตในหอคอยเทพสงครามเล็กจ้อยนี่จะทำให้ข้าละทิ้งความโอหังและศักดิ์ศรีความบริสุทธิ์ของเผ่าเทพกระเรียนขาวได้รึ

ไม่ผิด ได้!

เฮ่ออู๋ซวงเดินมาหน้าหอคอยด้วยแววตาเร่าร้อน “หอคอยเทพที่เคารพ ข้าก็เป็นผู้เลื่อมใสบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เช่นกัน ขอให้ข้าเข้าไปด้วย”

ปึง~

……

จินอวี่คลานออกมาจากหลุมภูเขาหน้าดำๆ เห็นทุกคนถูกหอคอยเทพสงครามดูดเข้าไปหมดแล้ว เจ้านกนี่ผงะไปเลย

นี่มันบ้าอะไรกัน

ไหนบอกว่าในหอคอยเทพสงครามมีการฝึกฝน หลังผ่านการฝึกฝนถึงจะได้โชคลิขิตไม่ใช่หรือ

เหตุใดแค่ขานนามเสิ่นเทียนก็เข้าไปได้ หอคอยนี่คงไม่ใช่ว่ามีเบื้องหลังไม่ดีหรอกนะ!

จินอวี่กัดฟันเดินมาหน้าหอคอย ก่อนจะทำเสียงขึ้นจมูก “เจ้าหอคอยบ้า ข้าคือศัตรูตัวฉกาจของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ รีบให้ข้าเข้าไปตัดสินกับเขาอย่างยุติธรรม”

ปึง~

ฟิ้ว~

โครม~

“เจ้าหอคอยบ้า ครั้งที่แล้วอาจจะแสดงออกไม่ชัดเจน ข้ากับเสิ่นเทียนหากไม่สู้กันคงไม่รู้จักกัน เป็นคู่ต่อสู้ที่ยอมรับกันและกันแล้ว เจ้าอย่าเข้าใจผิด”

ปึง~

ฟิ้ว~

โครม~

“ข้าพูดไม่ชัดเจนพอหรือ ข้ากับเสิ่นเทียนเป็นสหายกัน! สะ…หาย เพื่อน…กัน เจ้าหอคอยบ้าเข้าใจหรือไม่!”

ปึง~

ฟิ้ว~

โครม~

“ฮือๆ เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่ เจ้าหอคอยบ้านี่! ได้ๆๆ ข้าคือผู้เลื่อมใสของเจ้าหนูเสิ่นเทียน เป็นผู้ติดตาม เป็นมันสมอง…”

ปึง~

ฟิ้ว~

โครม~

ฝุ่นควันตลบหลายครั้ง ภูเขาถูกชนแตกหลายครั้ง

โอรสสวรรค์หนุ่มสีทองลากร่างมาหน้าหอคอยเทพสงครามหลายต่อหลายครั้ง

จากหัวดื้อมาเป็นยอมรับว่าเสิ่นเทียนคือสหาย ก่อนจะฝืนใจพูดประจบเสิ่นเทียนด้วยความเคารพ

จินอวี่รู้สึกว่าตนจะทำให้เผ่าพญาอินทรีปีกทองเสียหน้าหมดแล้ว แต่หอคอยบ้านี่ก็ไม่ยอมให้เขาเข้าไปสักที

นกตัวนี้รู้สึกว่าโลกนี้ช่างโหดร้ายกับเขาเหลือเกิน

เขาไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ที่ใดกันแน่ เห็นๆ อยู่ว่านกอีกสามตัวก็เข้าไปได้!

เจ้าหอคอยบ้านี่ ไม่ยุติธรรมเลย!

…….

จินอวี่กำลังสิ้นหวัง ทว่าตอนนี้เสิ่นเทียนมาปรากฏในอีกมิติแล้ว

นี่เป็นโลกสีม่วงทั้งหมด ไอสีม่วงใต้เท้าลอยขึ้นมาดูสวยและโออ่ายิ่ง ค่อนข้างไม่ธรรมดาเลย

ตรงกลางโลกนี้มีต้นชาสีม่วงอยู่ต้นหนึ่ง ใต้ต้นมีชายชราชุดคลุมม่วงกำลังชงชาเองดื่มเอง

หืม~!

ไม่ถูกต้อง!

เหตุใดนี่ไม่เหมือนกับในบท!

ก็ในภาพโชคลิขิตของจ้าวเฮ่ากับข่งเมิ่งไม่มีเจ้านี้นี่นา!

หรือจะเกิดทฤษฎีผีเสื้อขยับปีกอีกแล้ว วงรัศมีสีแดงจุดเขียวของข้ายังเอาโชคลิขิตนี้ไม่อยู่หรือ

พอคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็กระวนกระวายใจ

แต่มาก็มาแล้ว จะไปก็ไปไม่ได้ สู้ไปดูดีกว่าว่าตาแก่นี่คิดจะทำอะไร

เสิ่นเทียนเดินอย่างทะนงองอาจมาหน้าชายชราชุดคลุมม่วง “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนขอคารวะผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสมีนามว่าอะไร”

ชายชราชุดคลุมม่วงเห็นเสิ่นเทียนไม่ถ่อมตัวและไม่โอหัง เขาก็พยักหน้าน้อยๆ “คนรุ่นเยาว์ หน้าตาสง่าผ่าเผย เอกลักษณ์ก็ถือว่าเหนือธรรมดา มีบุคลิกและเสน่ห์เหมือนกับข้าในตอนนั้นหลายส่วน”

เขาลูบแขนเสื้อเบาๆ บนโต๊ะปรากฏถ้วยขึ้นมาอีกใบ

ชายชรารินน้ำชาใส่แก้วนี้ “มา ลองชิมชาตระหนักรู้ของโลกเซียนดู”

เสิ่นเทียนมองถ้วยชานี้ด้วยความสงสัย ตาแก่นี่คงไม่วางยาพิษข้าหรอกนะ!

แต่ก็คงไม่ถึงขนาดนั้น ถึงอย่างไรหอคอยเทพสงครามนี่ก็สังหารได้กระทั่งเซียนแท้จริง ถ้าจะจัดการข้าก็ไม่คงไม่ต้องวางยาพิษ

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็หยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่มชาตระหนักรู้อึกเดียวหมด

อืม~

อืม~!

สมกับเป็นชานำเข้าของโลกเซียน หอมจริงๆ!

เมื่อชาตระหนักรู้ลงท้อง เสิ่นเทียนรู้สึกสบายไปทั้งตัว

พลังจิตเหมือนหลอมรวมกับฟ้าดินและยกระดับขึ้นสูงสุด จุดที่ยังคลุมเครือในวิชาพลันเปิดโล่ง

คัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์ คัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้และคัมภีร์จักรพรรดินกยูง เคล็ด วิชา และทักษะยุทธ์ในคัมภีร์จักรพรรดิสามเล่มนี้กำลังเพิ่มพูนความเข้าใจอย่างรวดเร็ว

เสิ่นเทียนรู้สึกเหมือนว่าตนคลำเจอความหมายแท้จริงของมรรค ทักษะการตระหนักรู้เพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

สายฟ้า ลายมังกรและแสงเทพห้าสีบนผิวกายเขาขยับแสงไม่หยุด บริสุทธิ์และหลอมรวมกันมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเมื่อเข้าใจในวิชามากขึ้น ฐานรากมรรคตรงจุดตันเถียนเขาก็ขยายใหญ่ขึ้นช้าๆ

นั่นหมายความว่าระดับพลังของเสิ่นเทียนกำลังเพิ่มขึ้นไม่หยุด!

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร

เสิ่นเทียนลืมตาขึ้นช้าๆ ในดวงตาสองข้างมีแสงเทพขยับประกายแสง

ชายชราชุดคลุมม่วงยิ้ม “ชาตระหนักรู้แก้วเดียวก็ตระหนักเก้าวันเก้าคืน หายากๆ!”

เก้าวันเก้าคืน!

เสิ่นเทียนอึ้งไป เขารู้สึกว่าตนเหม่อไปเพียงครู่เดียวเท่านั้น

เหตุใดถึงผ่านไปเก้าวันเก้าคืนแล้ว!

แต่จะว่าไป เสิ่นเทียนรู้สึกเบาสบายไปทั้งตัว ความเข้าใจในวิชาทั้งหมดขึ้นไปสู่ขั้นใหม่

เสิ่นเทียนหยัดกายขึ้นก่อนโค้งตัวถาม “ขอบคุณของขวัญจากผู้อาวุโส ไม่ทราบว่าเหตุใดผู้อาวุโสถึงต้อนรับแซ่เสิ่นดีเช่นนี้ พวกสหายของแซ่เสิ่นตอนนี้อยู่ที่ใด”

ชายชราชุดคลุมม่วงมองเสิ่นเทียนลึกๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “พวกสหายของเจ้าตอนนี้กำลังฝึกฝนอยู่! ส่วนเหตุใดเจ้าไม่ต้องฝึกฝนก็มาพบข้าที่ชั้นสูงสุดได้”

ชายชรามองเสิ่นเทียนเชิงเย้าหยอก “เหอะๆ เจ้าเดาสิ!”

………………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+