บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 402 โอสถเสริมสวรรค์ เกรงว่าคงไม่ใช่ยาปลอมกระมัง!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 402 โอสถเสริมสวรรค์ เกรงว่าคงไม่ใช่ยาปลอมกระมัง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 402 โอสถเสริมสวรรค์ เกรงว่าคงไม่ใช่ยาปลอมกระมัง!

ในสุสานจักรพรรดิชิง กลิ่นโอสถคละคลุ้ง

ทุกคนมองไปที่เตาสำริดจักรพรรดิชิง จ้องโอสถเสริมสวรรค์สิบสองเม็ดในนั้น

“นี่คือโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ารึ”

จักรพรรดิชิงกลืนน้ำลาย อดแอบร้องตกใจมิได้

ยาลูกกลอนสิบสองเม็ดในหม้อ ทุกเม็ดกลมอิ่มเอิบใสแวววาว ส่งกลิ่นหอมสดชื่น

ยาลูกกลอนพวกนี้มีลายเทพบนพื้นผิว ตัดสลับกัน เต็มไปด้วยท่วงทำนองวิญญาณ เหมือนกระแสชีวิต

นี่จะเห็นได้ชัดว่านี่คือโอสถสูงสุดที่ชิงโชควาสนาฟ้าดิน รุกรานความลี้ลับของตะวันจันทรา

หลังผ่านการหลอมด้วยไฟศักดิ์สิทธิ์เบิกฟ้า ดูดซับท่วงทำนองวิญญาณเบิกฟ้า ประสิทธิผลของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านี้ก็มากพอจะพลิกฟ้าปรับแก้ดวงชะตาได้!

โอสถระดับนี้เหนือธรรมดา ไม่น่าจะปรากฏอยู่ในโลกมนุษย์!

โอสถเทพเช่นนี้ ต่อให้เป็นจักรพรรดิชิงในสภาพสมบูรณ์ ทั้งยังควบคุมไฟศักดิ์สิทธิ์เบิกฟ้า ก็อาจจะหลอมออกมาไม่ได้

“พี่เสิ่นเทียนสุดยอดจริงๆ!”

ด้านข้าง องค์หญิงหลิงหลงมีใบหน้าเต็มไปด้วยความเลื่อมใสและกระตือรือร้นที่สุด

โอสถสูงสุดที่แม้แต่มหาจักรพรรดิยังหลอมไม่ได้ พี่เสิ่นเทียนกลับหลอมได้ นี่ไม่ได้หมายความว่าพี่เสิ่นเทียนแกร่งกว่ามหาจักรพรรดิอีกหรือ

ซี้ด~!

พี่เสิ่นเทียนไม่ได้แค่มีใบหน้าหล่อเหลา แม้แต่พรสวรรค์ยังสุดยอดขนาดนี้!

เพื่ออนาคตของราชวงศ์เซียนต้าฮวง ไม่ว่าอย่างไร ข้าก็ต้องเชื้อเชิญพี่เสิ่นเทียนมาให้ได้ ต่อให้ต้องใช้ร่างกายเข้าแลก ข้าก็ยินดี!

องค์หญิงหลิงหลงแอบตัดสินใจอยู่ข้างใน ใบหน้างามแดงเรื่อขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

แต่ว่า…

เหตุใดพี่เสิ่นเทียนถึงจ้องข้าตลอดล่ะ

หรือว่าพี่เสิ่นเทียนต้องการ…

หากพี่เสิ่นเทียนต้องการ ข้าจะให้หรือไม่ให้ดีล่ะ!

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาเร่าร้อนและเฝ้ารอคอยจากเสิ่นเทียนแล้ว องค์หญิงหลิงหลงก็หน้าแดงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ!

ใช่ ตอนนี้เสิ่นเทียนไม่ได้จ้องโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า เขาเบนสายตามามององค์หญิงหลิงหลง…มองวงรัศมีดวงชะตาเหนือศีรษะนาง

หากเป็นเมื่อก่อน ขอแค่เกาะบุตรแห่งโชคได้มหาโชคลิขิตร่วมกัน ก็จะเพิ่มดวงชะตาขึ้นสูงพร้อมกัน ตอนนี้จักรพรรดิชิงมอบมรดกให้แล้ว เหตุใดวงรัศมีเหนือศีรษะองค์หญิงหลิงหลงถึงไม่เปลี่ยนไปล่ะ!

ตั้งแต่ดวงชะตาลดลงครั้งก่อนก็เจอเรื่องซวยเป็นกอง ถ้ายังไม่เพิ่มดวงชะตาอีก ข้าก็จะยังเป็นกังวลอยู่ในใจนะ!

ตอนนี้เอง ในที่สุดวงรัศมีเหนือศีรษะองค์หญิงหลิงหลงก็เกิดการเปลี่ยนแปลง

วงรัศมีดวงชะตาจากเดิมทีสีม่วงอ่อนค่อยๆ กลายเป็นสีม่วงเข้ม

แสงสีม่วงลึกล้ำ เหมือนตะวันม่วงลุกโชตช่วงขึ้นมา สว่างจ้าอย่างยิ่ง

อีกด้านหนึ่ง เสิ่นเทียนพลันตัวเบาขึ้นมา ลอยล่องจะเป็นเซียน มีความสุขหลังจากห่างหายมานาน~

ขึ้นแล้ว!

ขึ้นแล้ว!

ในที่สุดดวงชะตาของข้าก็เพิ่มขึ้นแล้ว!

วงรัศมีดวงชะตาที่ลดมาเหลือสีทองอ่อนบนศีรษะเสิ่นเทียนเปล่งแสงสว่างจ้าเช่นกัน

แสงสีทองจ้าเหมือนคลื่นลูกใหญ่รุกราน มโหฬารพันลึกไม่ขาดสาย ทำให้วงรัศมีดวงชะตาของเสิ่นเทียนเพิ่มขึ้นเป็นสีทองคำ

ถึงจะยังไม่กลับมาเหมือนตอนแรก แต่อย่างน้อยก็ทำให้เขามีความมั่นใจเพิ่มมาหลายส่วน

ถึงอย่างไรดวงชะตาลดอะไรนี่จะเจอเรื่องซวยได้ง่าย ไม่รู้สึกปลอดภัย

ดีที่ตอนนี้ฟื้นกลับมาบ้างแล้ว!

ต่อไปก็พยายามเกาะคนอื่นเยอะๆ!

ตัดสินใจแล้ว!

ก่อนที่ดวงชะตาจะเพิ่มกลับไป ก็ต้องเอาตัวรอดต่อไปก่อน!

……

“ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิง พวกเราแบ่งโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าพวกนี้เท่าๆ กันเถอะ!”

เสิ่นเทียนเอ่ยขึ้น คิดจะแบ่งโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าพวกนี้เท่าๆ กัน หากเป็นคนปกติ ถ้าได้โอสถสูงสุดที่ปรับแก้ดวงชะตาชนิดนี้ ต้องเอาเป็นของตนเองแน่นอน

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นโอสถจักรพรรดิสูงสุด ไม่อาจใช้ราคามาเปรียบเทียบได้

ใช้มันแลกกับอาวุธอริยะ ยังเป็นการเหยียดหยามมัน!

มองผู้บำเพ็ญทั้งหมดตอนนี้ทั้งห้าดินแดน เกรงว่าคงมีไม่กี่คนที่ทนความเย้ายวนเช่นนี้ได้ แต่เสิ่นเทียนกลับไม่คิดจะครอบครองไว้ทั้งหมด สามมุมมองของเขาไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้น

เพราะหากไม่ใช่เพราะจักรพรรดิชิงมอบตำราโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้ากับบัวครามระดับสิบสองโอสถจักรพรรดิ เขาก็คงหลอมยาลูกกลอนเสริมสวรรค์เบิกฟ้าระดับจักรพรรดิไม่ได้

เสิ่นเทียนไม่ใช่คนเห็นผลประโยชน์แล้วจะลืมคุณธรรม ไม่คิดจะฮุบโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าพวกนี้ไว้คนเดียวเลย

อีกทั้งเสิ่นเทียนยังมองว่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านี้ ไม่ได้มีประโยชน์กับเขามากนัก

ตามบันทึกตำราโอสถ ประโยชน์ของมันคือการยกระดับคุณสมบัติและพรสวรรค์การตระหนักรู้ เติมเต็มข้อบกพร่องของตนเอง ทำให้คุณสมบัติกายโน้มเอียงไปทางสมบูรณ์แบบ

แต่จะมีประสิทธิภาพตอนใช้เม็ดแรกเท่านั้น

ถึงอย่างไรโอสถที่พลิกฟ้าแก้ดวงชะตา ชิงโชควาสนาฟ้าดินเช่นนี้ ก็ไม่มีทางใช้ได้อย่างไร้ขีดจำกัด

ด้วยคุณสมบัติกายตอนนี้ของเสิ่นเทียน ไม่ว่าจะคุณสมบัติหรือพรสวรรค์การตระหนักรู้ก็ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดแล้ว พื้นฐานไม่มีที่ให้ยกระดับอีก

โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านี้คงจะเพิ่มให้เขาได้ไม่มากเท่าไร

……

เมื่อได้ฟังคำพูดของเสิ่นเทียน จักรพรรดิชิงเผยแววตาตื่นตกใจเสี้ยวหนึ่ง

“สหายน้อยมีจิตใจกว้างขวาง แม้แต่โอสถระดับจักรพรรดิเช่นนี้ยังมอบให้ได้ตามใจ ไม่เลว เยี่ยมมากจริงๆ”

โอสถจักรพรรดิไม่ใช่ของธรรมดา เป็นโอสถสูงสุดที่ทำให้มหาจักรพรรดิใจสั่น ผู้อริยะคลุ้มคลั่งได้

ต่อให้เป็นยุคดึกดำบรรพ์ ลูกคุณหนูที่มีเหมืองแร่ในบ้านยังไม่กล้าใจกว้าง มอบโอสถจักรพรรดิให้คนอื่นตามใจเช่นนี้ มิหนำซ้ำ นี่ยังเป็นโอสถจักรพรรดิที่เพิ่มคุณสมบัติและพรสวรรค์การตระหนักรู้ได้ ทั้งยังเป็นระดับสูงสุดในโอสถจักรพรรดิ ประเมินค่าไม่ได้

ตอนนี้เสิ่นเทียนกลับเสนอจะแบ่งเท่าๆ กัน นี่ทำให้จักรพรรดิชิงปลื้มใจยิ่งนัก

“ผู้อาวุโสชมเกินไปแล้ว เส้นทางการบำเพ็ญก็ต้องเน้นที่หลักการความเป็นจริง ยาลูกกลอนเป็นเพียงของนอกกาย เป็นแค่ตัวเสริม มีเพียงตัวเองแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะเป็นศักยภาพที่แท้จริง อีกอย่างเดิมทีโอสถก็ไว้ให้ผู้คนใช้ ย่อมต้องใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุด”

เสิ่นเทียนพูดด้วยรอยยิ้ม แววตาแน่วแน่

“เน้นที่หลักการความจริงก็ดี แต่โอสถนี่ไม่มีประโยชน์กับข้า ข้าเป็นเพียงเสี้ยววิญญาณ ใช้ไม่ได้ เจ้าหนูเก็บไว้ใช้เองเถอะ!”

จักรพรรดิชิงยิ้มมุมปาก มองจากทัศนคติของเสิ่นเทียนก็รู้ว่าเขาเป็นคนซื่อตรง ไม่ละโมบสมบัติ มีความถูกต้องเข้มงวด หาได้ยากจริงๆ

มรดกข้าไปอยู่ในมือเจ้าหนูนี่ ไม่เสียชื่อเสียงของข้าแน่นอน!

…..

“หลิงหลง ตามที่เราตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ที่ต้องแบ่งโชคลิขิตร่วมกัน มรดกที่จักรพรรดิชิงถ่ายทอดให้ก่อนหน้านี้ ผู้อาวุโสอาจจะไม่ยอมให้ถ่ายทอดเองได้ แต่โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าพวกนี้ เราสองคนมาแบ่งกันคนละครึ่งเถอะ!”

ในเมื่อจักรพรรดิชิงใช้ไม่ได้ เช่นนั้นก็ให้องค์หญิงหลิงหลงแล้วกัน!

นี่คือน้องกุยช่าย…สตรีชะตาสวรรค์ลิขิตที่มีวงรัศมีสีม่วงเชียว!

ก่อนหน้านี้ได้เกาะนางครั้งหนึ่ง ฟินพลิกฟ้าเลย

ดวงชะตากลับมา ทำให้ข้าได้เพิ่มดวงชะตาขึ้นมากเลย!

นี่ก็ต้องขุนนางให้ขาวๆ อ้วนๆ หน่อย จากนี้มีเวลาจะได้เกาะนางเยอะๆ ไง

อืม เพียงแค่เกาะเฉยๆ เท่านั้น!

คนที่คิดไปไกลไปหันหน้าเข้ากำแพงเลยไป!

เสิ่นเทียนนำโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าออกมาหกเม็ด ส่งให้องค์หญิงหลิงหลง

“พี่เสิ่นเทียน หลิงหลงรับไว้ไม่ได้! โชคลิขิตของพี่เสิ่นเทียน จะแบ่งให้ข้าเยอะเช่นนี้ได้อย่างไร พี่เสิ่นเทียนเป็นคนหลอมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า ก็ต้องเป็นของท่าน พี่เสิ่นเทียน รีบเก็บกลับไปเถอะ”

องค์หญิงหลิงหลงรีบปฏิเสธ ใบหน้าแดงขึ้นมา

นางเกรงใจจริงๆ ที่จะรับไว้มากขนาดนี้ ไม่ได้เสแสร้งเลย

ในมุมมองขององค์หญิงหลิงหลง หากไม่ใช่เพราะเสิ่นเทียนนำทาง นางก็อาจจะไม่เจอสุสานจักรพรรดิชิงด้วยซ้ำ

ตอนนี้องค์หญิงหลิงหลงได้มรดกจักรพรรดิชิงมาครึ่งหนึ่ง พอใจมากแล้ว ตอนนี้เสิ่นเทียนจะให้โอสถระดับจักรพรรดิกับนางอีก

องค์หญิงหลิงหลิงซาบซึ้งใจมาก แต่ก็เริ่มคิดไปไกลเช่นกัน

พี่เสิ่นเทียนดีกับข้าเช่นนี้ ขนาดโอสถระดับจักรพรรดิ บอกจะให้ก็ให้เลย!

เขาจะชอบข้าหรือไม่นะ!

อืม จะต้องชอบข้าแน่ๆ ถึงดีกับข้าเช่นนี้!

มีความสุขมาก~

องค์หญิงหลิงหลงหน้าแดงเล็กน้อย จิตใจตกอยู่ในห้วงนั้น

เมื่อเห็นองค์หญิงหลิงหลงปฏิเสธ เสิ่นเทียนก็เกาศีรษะ ทำหน้ามึนงง

นี่มันอะไรกัน

คนสมัยนี้เป็นอะไรกันหมด ให้โชคลิขิตเปล่าๆ ก็ไม่เอารึ

ตอนนี้เองเสียงของจักรพรรดิชิงดังขึ้น “สาวน้อย โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านั่นมีประโยชน์กับเจ้ามาก ทำให้กายศักดิ์สิทธิ์วิจิตรเกิดการผลัดเปลี่ยน รับไว้เถอะ! อีกอย่าง หากเจ้าไม่กินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า จากนี้จะตามฝีก้าวของเจ้าหนูนี่ไม่ทันแล้ว”

เมื่อเห็นองค์หญิงหลิงหลงปฏิเสธ จักรพรรดิชิงถึงกับมุมปากกระตุก

นี่เป็นสาวน้อยจากที่ใดกัน โชคลิขิตดีๆ ส่งมาให้ถึงมือ กลับผลักออกรึ

ที่บ้านมีเหมืองแร่เยอะ ร่ำรวยมากเลยรึ

ต้องรู้นะว่านี่ไม่ใช่ผักกาดขาวข้างถนน แต่เป็นโอสถระดับจักรพรรดิที่พลิกฟ้าปรับแก้ดวงชะตาได้เชียวนะ!

โอสถระดับจักรพรรดิกลายเป็นไร้ค่าเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไร

ให้เปล่าๆ ก็ไม่เอารึ

จักรพรรดิชิงรู้สึกว่าโลกทัศน์ของตนพังทลายลงนิดๆ!

หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าสาวน้อยคนนี้สืบทอดมรดกของข้าไปครึ่งหนึ่ง ถือว่าเป็นผู้สืบทอดครึ่งหนึ่งของข้า ข้าก็คงขี้เกียจจะบอก ช่างไม่รู้อะไรเลย!

โง่ชะมัด~!

“อ้อ เช่นนั้นก็ได้! เช่นนั้นพี่เสิ่นเทียน หลิงหลงขอแค่เม็ดเดียวพอ!”

พอได้ยินว่าจะโดนเสิ่นเทียนทิ้งระยะห่าง องค์หญิงหลิงหลงก็ใจสั่นขึ้นมา

ผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงพูดถูก พี่เสิ่นเทียนมีพรสวรรค์แข็งแกร่งมาก เห็นทีว่าคงจะไปได้ทั่วห้าดินแดน ไร้พ่ายในโลกหล้า หากศักยภาพของข้าไม่เพิ่มขึ้น จะตามพี่เสิ่นเทียนไม่ทันใช่หรือไม่

เกิดยังมีนางสารเลวชั่วช้าคนอื่นมาแย่งเขากับข้าอีกล่ะ~

ควรลงมือก็ต้องลงมือ!

ไม่ได้การ!

ข้าจะต้องเพิ่มศักยภาพ แบบนี้ถึงจะตามไปอยู่ข้างกายพี่เสิ่นเทียนได้

องค์หญิงหลิงหลงกำโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า แววตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่

นับจากวันนี้ไป ข้าจะต้องแข็งแกร่งขึ้น!

…..

“เอาละๆ พวกเจ้าหลอมรวมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก่อนเถอะ ข้าจะได้คุ้มกันให้พวกเจ้าได้พอดีด้วย”

จักรพรรดิชิงเอ่ยขึ้น เขาก็อยากรู้ประสิทธิภาพของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเช่นกันว่าจะน่ากลัวเพียงใดกันแน่ เพราะอย่างไรนี่ก็เป็นตำราโอสถสูงสุดจากยุคดึกดำบรรพ์ แฝงไว้ด้วยพลังยิ่งใหญ่พลิกฟ้าปรับแก้ดวงชะตาได้

ต่อให้เป็นจักรพรรดิชิงก็อยากรู้ว่ามันจะให้ผลแข็งแกร่งเพียงใด!

“รบกวนผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงด้วย!”

เสิ่นเทียนกับองค์หญิงหลิงหลงพยักหน้าพร้อมกัน ขอบคุณในความปรารถนาดีของจักรพรรดิชิง

องค์หญิงหลิงหลงอยากเพิ่มศักยภาพและพรสวรรค์ให้เร็วที่สุด จะได้ตามฝีก้าวของเสิ่นเทียนให้ทัน

ส่วนเสิ่นเทียน เหตุใดถึงตอบตกลง หลักๆ เป็นเพราะความตะกละ…

เขามองโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าที่กลมอิ่มเอิบ แสงเทพขยับวูบไหวและยังส่งกลิ่นหอมสดชื่นคละคลุ้งพลางเลียริมฝีปาก

แม้สิ่งนี้จะดูเหมือนไม่มีผลอะไรกับเขา แค่ก็ชนะในเรื่องความหอม!

ที่เสิ่นเทียนเรียนศาสตร์หลอมโอสถก็เพื่อเปลี่ยนรสชาติ ตอนนี้มีโอสถระดับจักรพรรดิ ก็ต้องลองรสชาติหน่อยไม่ใช่รึ

ข้า ยังไม่เคยกินโอสถระดับจักรพรรดิมาก่อนเลย!

ยุ่งหน้ายุ่งหลังมามากกว่าครึ่งเดือน ก็จะทำงานให้เปล่าๆ ไม่ได้หรอกนะ!

……

ไม่นาน สองคนก็กินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าไปคนละเม็ด

องค์หญิงหลิงหลงนั่งขัดสมาธิลง หลับตาปิดสนิทและเริ่มหลอมรวมฤทธิ์ยา

ทางด้านเสิ่นเทียน เมื่อกินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าดังแจ๊บๆ ไปแล้ว ตาก็เป็นประกายขึ้นมา

“หืม รสชาติไม่เลว มีรสชาติของบัวครามผสมช็อกโกแลตด้วย…เมื่อครู่กินเร็วไป ยังไม่ได้สัมผัสรสอย่างละเอียดเลย กินอีกเม็ดได้หรือไม่”

เสิ่นเทียนมองโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าที่เหลืออยู่สิบเม็ด ดูต้องการนิดๆ

จักรพรรดิชิงด้านข้างมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง

เจ้าหนูนี่คิดว่าโอสถระดับจักรพรรดิเป็นอะไรกัน

เป็นของกินเล่นข้างทางรึ

ทั้งยังมีบัวครามผสมช็อกโกแลตอีก

มันคืออะไร…ฟังดูน่าอร่อยมากเลย…

ถุยๆๆ เจ้านี่คือโอสถ โอสถจักรพรรดินะ!

มีอย่างที่ไหนกันเอาโอสถจักรพรรดิมาเป็นอาหารว่าง!

“แค่กๆ สหายน้อย โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าจะกินเยอะไม่ได้ รีบหลอมรวมสรรพคุณยาเถอะ!”

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนคิดจะกินเม็ดที่สองจริงๆ จักรพรรดิชิงก็รีบเตือน

โอสถระดับจักรพรรดิมีฤทธิ์ยาแข็งแกร่งยิ่ง เม็ดเดียวต้องให้ผู้อริยะหลอมรวมหลายปี ก็เหมือนกับองค์หญิงหลิงหลงกินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า ตอนนี้หลอมรวมฤทธิ์ยาได้มากสุดไม่เกินหนึ่งส่วนพัน กระทั่งไม่ถึงด้วยซ้ำ

ฤทธิ์ยามหาศาลที่เหลือจะซ่อนอยู่ในกายขององค์หญิงหลิงหลง จะค่อยๆ ถูกดูดซับเมื่อพลังบำเพ็ญของนางเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ขณะเดียวกันยังปรับแก้คุณสมบัติกายของนางให้ดีขึ้นไปอย่างเงียบเชียบ มีประโยชน์ต่อการบำเพ็ญของนางในภายภาคหน้ามาก

โอสถจักรพรรดิที่มีฤทธิ์ยาแข็งแกร่งเช่นนี้ เจ้าหนูนี่กลับมองเป็นลูกกวาด!

ยังมีชิมไม่ได้รสชาติ จะกินอีกเม็ด เจ้าไม่กลัวร่างระเบิดตายจริงๆ รึ!

ถึงจากการคาดการณ์ ด้วยคุณสมบัติกายพิสดารของเจ้าหนูนี่ กินสองเม็ดไม่มีทางร่างระเบิดได้ แต่ร่างไม่ระเบิด ก็ไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองสมบัติสวรรค์นะ!

เอาโอสถระดับจักรพรรดิมากินเป็นลูกกวาดรึ

แค่ฟัง จักรพรรดิชิงก็รู้สึกปวดตับนิดๆ แล้ว…

เสิ่นเทียนเกาศีรษะ รู้สึกว่าจักรพรรดิชิงพูดมีเหตุผล

เขาจึงนั่งขัดสมาธิลง เริ่มหลอมรวมฤทธิ์ยาของโอสถจักรพรรดินี้

เสิ่นเทียนก็อยากรู้ว่าโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าจะเพิ่มศักยภาพให้เขาได้เท่าไรเหมือนกัน

เวลาผ่านไปทีละวินาที ไม่นานองค์หญิงหลิงหลงก็หลอมรวมฤทธิ์ยาถึงขีดจำกัด

สำหรับนางในตอนนี้แล้ว การหลอมรวมโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าอย่างสมบูรณ์ไม่สอดคล้องกับความจริงเลย กายเนื้อดูดซับได้ไม่นานก็เต็มอิ่ม ฤทธิ์ยาที่เหลือจะกระจายไปในทุกส่วนของร่างกาย กลายเป็นศักยภาพแฝงของกายเนื้อนี้

ภายภาคหน้าหมั่นฝึกบำเพ็ญ ย่อมถูกดูดซับต่อไปเรื่อยๆ อย่างเงียบเชียบ

แต่โอสถเม็ดหนึ่งนี้ มากพอจะทำให้คุณสมบัติการบำเพ็ญขององค์หญิงหลิงหลงเพิ่มขึ้นไม่ใช่แค่ขั้นเดียว

เรียกได้ว่าผลัดเปลี่ยนกระดูก ตัวอ่อนฝักออกจากไข่

ไม่ใช่แค่นั้น พลังบำเพ็ญขององค์หญิงหลิงหลงตอนนี้ยังเพิ่มขึ้นด้วยความเร็วสูงมาก

ถึงอย่างไรก็เป็นโอสถระดับจักรพรรดิ ต่อให้สรรพคุณหลักไม่ใช่การเพิ่มพลังบำเพ็ญ แต่ก็ยังทำให้พลังบำเพ็ญขององค์หญิงหลิงหลงพุ่งพรวดขึ้น

ตอนนี้ ภายในกายนางระเบิดแสงสว่างพร่างพราวยิ่ง

แสงเรืองรองไหลเวียน ปกคลุมทั้งตัวนางกลายเป็นขมุกขมัวไปทั้งหมด

กลิ่นอายพลังแก่กล้าปะทุมาจากในกายองค์หญิงหลิงหลง ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน

กฎเกณฑ์ตัดไปมา ลำดับตัดสลับกัน ร่างเป็นภาพมหัศจรรย์

วิมานเทพไฟลุกโชตช่วงขึ้นมาข้างหลังองค์หญิงหลิงหลง มีพลังหนาทึบวนเวียน แสงเทพสว่างจ้า เหมือนแฝงไว้ด้วยอานุภาพมหาศาล

ภายใต้การผลักดันของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า กายศักดิ์สิทธิ์วิจิตรกำลังเกิดการผลัดเปลี่ยนอย่างชัดเจน

บึ้ม!

เกิดเสียงดังครึกโครม!

ร่างองค์หญิงหลิงหลงสั่นไหวอย่างรุนแรง แสงเทพในกายขึ้นๆ ลงๆ เหมือนจะแสดงออกเป็นฟ้าดินหนึ่งทิศ

วิมานเทพดวงนั้นข้างหลังนางสั่นไหวอย่างรุนแรง ยิงแสงสว่างมากมายออกมา

จากนั้นแสงสว่างพลันระเบิดกระจายออก กลายเป็นวิมานเทพดวงที่สอง วิมานเทพดวงที่สาม คงอยู่กลางอากาศ

วิมานเทพสามดวงส่องแสงตัดสลับกัน แผ่อำนาจคุกคามเทพเจ้าออกมา

กลิ่นอายพลังขององค์หญิงหลิงหลงเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง

ดวงจิตดรุณตอนต้น!

ดวงจิตดรุณตอนกลาง!

ดวงจิตดรุณตอนปลาย!

ชั่วพริบตาเดียว เมื่อพรสวรรค์คุณสมบัติกายเพิ่มขึ้น พลังบำเพ็ญขององค์หญิงหลิงหลงก็เพิ่มขึ้นถึงดวงจิตดรุณตอนปลาย

“โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านี้ไม่ธรรมดาจริงๆ ทำให้กายศักดิ์สิทธิ์วิจิตรเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ได้”

จักรพรรดิชิงพยักหน้าอย่างพอใจ สมกับเป็นโอสถที่พลิกฟ้าแก้ดวงชะตาได้

แม้แต่คุณสมบัติกายสุดยอดอย่างกายศักดิ์สิทธิ์วิจิตรยังได้ผลประโยชน์ ผลัดเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์

“ขอบคุณพี่เสิ่นเทียนกับผู้อาวุโสจักรพรรดิชิงมาก!”

องค์หญิงหลิงหลงเก็บวิชาและยืนขึ้นช้าๆ ภายในใจเปี่ยมไปด้วยความซาบซึ้งใจ

นางรู้สึกได้ว่าการผลัดเปลี่ยนของตนนำมาซึ่งการทะลวงพลังอย่างที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน กระทั่งเมื่อคุณสมบัติกายและพรสวรรค์การตระหนักรู้เพิ่มมากขึ้น ร่างกายนางยังเกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วย

รูปร่างนางอ่อนนุ่มละเอียดและเรียวยาวมากขึ้น เหมือนกับไข่มุกเปล่งแสง เหนือธรรมดาและมีอิริยาบถมากมาย

นางยังเปล่งประกายระยิบระยับภายใต้การส่องสะท้อนของวิมานเทพทั้งสอง

ตอนนี้นางอาบแสงสว่างจ้าทั้งตัว ขมุกขมัวลอยล่อง เหมือนกับเซียนหญิงจากโลกเซียนตกลงมายังโลกมนุษย์

บอกว่าเป็นเซียนหญิงงดงามที่สุดแห่งยุคก็ไม่เกินจริงไปเลย!

องค์หญิงหลิงหลงเหมือนจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเอง นางก็ยิ้มมุมปากขึ้น

ถึงอย่างไร มีสตรีคนใดบ้างที่ไม่อยากให้ตัวเองสวยสุด

ยิ่งสวยเท่าไรยิ่งดีต่างหากละ!

โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าแกร่งมากจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะทำให้หน้าตาข้างดงามขึ้นขนาดนี้

ดูท่าพี่เสิ่นเทียนเห็นข้าแล้วน่าจะชอบยิ่งกว่าเดิมกระมัง!

องค์หญิงหลิงหลงมองเสิ่นเทียนด้วยจิตใจเฝ้ารอคอย

ปรากฏว่าเสิ่นเทียนกำลังขมวดคิ้วครุ่นคิด ไม่ได้สนใจนาง

เวลานี้ ในห้วงอากาศมีกลิ่นอายความคับอกคับใจเพิ่มมา

“นายท่าน จิ่วเอ๋อร์รู้สึกถึงแรงอาฆาตอีกแล้ว…”

ลูกประคำตรงหน้าอกสั่นไหวเบาๆ มีเสียงเตือนของจิ่วเอ๋อร์ดังขึ้น แต่เสิ่นเทียนก็ยังคงครุ่นคิดอยู่

อาจจะพูดได้ว่าเขากำลังสงสัยในชีวิต~

…….

“แปลก เหตุใดข้าถึงไม่เปลี่ยนไปเลย”

เสิ่นเทียนเกาศีรษะ เขาพบว่าเมื่อกินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าแล้ว ตนไม่เปลี่ยนไปเลย

อย่าว่าแต่พรสวรรค์การตระหนักรู้เลย แม้แต่ระดับความแกร่งของกายเนื้อยังไม่เพิ่มขึ้นแม้แต่นิด

แม้ข้าจะมีพรสวรรค์สุดยอด บุคลิกองอาจห้าวหาญที่สุดแห่งยุค

แต่โอสถจักรพรรดิให้ผลแค่นี้รึ

แค่นี้ แค่นี้รึ

ข้าระบายไฟหยางไปมากขนาดนั้น หลอมออกมาได้แค่นี้หรือ

เหตุใดถึงรู้สึกแปลกๆ เหมือนถูกหลอกล่ะ

นี่คงไม่ใช่ยาปลอมหรอกกระมัง!

อย่างแย่ที่สุดก็สร้างปรากฏการณ์อะไรให้ข้าบ้างสิ!

ให้ดูเจ๋งๆ หน่อยน่ะ!

ต้องบอกว่าตอนนี้เสิ่นเทียนสงสัยในชีวิตนิดๆ

และตอนนี้เอง ผิวกายเสิ่นเทียนเปล่งแสงสว่างจ้าขึ้นมา ในที่สุดโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าก็เริ่มออกฤทธิ์แล้ว

เสิ่นเทียนดีใจอยู่ข้างใน

มาแล้ว!

มาแล้ว!

มันพาปรากฏการณ์มาแล้ว!

แสงสว่างจ้ายิ่งขึ้นเรื่อยๆ พลันปกคลุมตัวเสิ่นเทียนไว้

ข้างหลังเขามีเงามายาบัวครามยักษ์ลอยขึ้นมา บัวครามระดับสิบสองแกว่งไกวตามสายลม

ทุกใบบัวเต็มไปด้วยกฎเกณฑ์อันลี้ลับยิ่ง กลายเป็นมหามรรค

“นี่มัน…ปรากฏการณ์บัวครามเบิกฟ้ารึ”

เมื่อเห็นภาพนี้ จักรพรรดิชิงใจสั่นสะท้าน

ตัวจักรพรรดิชิงเองเป็นบัวครามระดับสิบสอง พิสูจน์มรรคสำเร็จเป็นจักรพรรดิในยุคบรรพกาล

ดังนั้นจักรพรรดิชิงจึงรู้สึกได้ชัดเจนว่าในกายเสิ่นเทียนมีพลังแห่งบัวครามที่เข้มข้นถึงที่สุดอยู่ แผ่ซ่านไปทั่วร่างผ่านอวัยวะภายใน

เห็นได้ชัดว่านี่เกิดจากการหลอมรวมสรรพคุณยาของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าถึงขีดสุด

….

แต่ยังไม่ใช่แค่นี้!

พลังแห่งบัวครามนี้ยังผสมผสานกับปราณเบิกฟ้าในกายเสิ่นเทียน รวมเป็นบัวครามเบิกฟ้าเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์!

พึงรู้ไว้ว่านั่นคือโอสถสูงสุดต้องห้ามในตำนานที่อยู่เหนือกว่าโอสถจักรพรรดิ!

ต่อให้เกิดเพียงปรากฏการณ์เช่นนี้ ก็มีพลังยิ่งใหญ่ที่ยากจะจินตนาการได้

อย่างน้อยจักรพรรดิชิงก็เคยเห็นแค่คำบรรยายส่วนหนึ่งเกี่ยวกับปรากฏการณ์ชนิดนี้จากในคัมภีร์โบราณเก่าแก่ที่สืบต่อมาจากยุคดึกดำบรรพ์

และในตำนานดึกดำบรรพ์ บัวครามเบิกฟ้าคือปรากฏการณ์สร้างโลก…ที่บุกเบิกฟ้าดิน!

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด