บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 442 แดนลับมหาจักรพรรดิ จวนศักดิ์สิทธิ์สัประยุทธ์!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 442 แดนลับมหาจักรพรรดิ จวนศักดิ์สิทธิ์สัประยุทธ์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 442 แดนลับมหาจักรพรรดิ จวนศักดิ์สิทธิ์สัประยุทธ์!

เสิ่นเทียนเพิ่งจู่โจมเจ้าอริยะเสียหั่วถอยไปได้ไม่นาน เจ้าอริยะจากราชวงศ์เซียนก็มาถึงเมืองทะเลบูรพา

เจ้าอริยะท่านนี้ทำลายยอดค่ายกลเซ่นไหว้โลหิต ทั้งยังประจำการอยู่ที่นี่

จะว่าไป เจ้าอริยะคนนี้ก็เป็นคนรู้จักเก่ากับเสิ่นเทียน

เป็นเขาที่พาเสิ่นเทียนเข้าดินแดนกลาง

เจ้าอริยะท่านนี้คือราชันนักรบ!

เขาเป็นเจ้าอริยะเก้าด่านเคราะห์ ศักยภาพแข็งแกร่งอย่างยิ่ง!

มีเขาประจำการอยู่ ต่อให้มีเจ้าอริยะลัทธิวิญญาณร้ายมาอีกก็ไม่ต้องกลัว!

“สหายน้อยไม่ธรรมดาจริงๆ ดูท่าช่วงนี้คงได้อะไรมาในตำหนักศึกษาไม่น้อยเลย!”

ราชันนักรบมองเสิ่นเทียนด้วยรอยยิ้ม

ราชันนักรบถือว่าเป็นคนรู้จักเก่ากับเสิ่นเทียน เข้าใจในตัวเขาอย่างแน่นอน

ตอนแรกในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เสิ่นเทียนก็ใช้ค้อนทุบอริยะแท้หกด่านเคราะห์ปลิวไปได้!

และตอนนี้ แม้แต่เจ้าอริยะยังแพ้ให้กับเขา!

เมื่อได้ยินผลการรบนี้ ราชันนักรบตกใจอย่างยิ่ง

ต้องรู้ว่าความต่างระหว่างเจ้าอริยะกับอริยะแท้เหมือนกับเมฆและดินเลน

เสิ่นเทียนเอาชนะเจ้าอริยะได้ ความก้าวหน้าไม่ใช่เล่นๆ เลย!

เสิ่นเทียนป้องมือ “ผู้อาวุโสราชันนักรบชมเกินไปแล้ว การต่อต้านลัทธิชั่วร้ายเป็นหน้าที่ของพวกเรา!”

“ดี ข้ากลับไปแล้วจะรายงานเรื่องนี้กับองค์จักรพรรดิสือ”

ราชันนักรบหัวเราะเสียงดัง พึงพอใจในตัวเสิ่นเทียนมาก

ไม่โอหังไม่บุ่มบ่าม จิตใจเช่นนี้ดีมาก!

“ขอบคุณผู้อาวุโสราชันนักรบ!”

เสิ่นเทียนรู้ความคิดราชันนักรบ ทำเช่นนี้จะทำให้เสิ่นเทียนได้รางวัล ถึงอย่างไรเขาก็ถือว่าช่วยทั้งเมืองทะเลบูรพา

ในเมื่อให้เปล่า เสิ่นเทียนย่อมไม่ปฏิเสธ

“ผู้อาวุโสราชันนักรบ ผู้เยาว์ยังมีธุระ ขอตัวก่อนขอรับ”

เสิ่นเทียนกับฉีจ้านลาไป พวกเราต้องไปตามหาแดนลับอีก!

……

เขตทะเลบูรพา

สองร่างเงากำลังมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว

พวกเขารวดเร็วปานสายฟ้าแลบ เหยียบสายรุ้งเทพสีสันหลากสี

สองคนกลายเป็นลำแสงทะลวงไปหลายแสนลี้แล้วถึงหยุดลง

สองคนนี้ก็คือฉีจ้านกับเสิ่นเทียน

ฉีจ้านมองมหาสมุทรกว้างใหญ่ไร้พรมแดนด้วยความมึนงง “พี่ใหญ่ ที่นี่มีแดนลับจริงๆ รึ”

แม้จะรู้ว่าเสิ่นเทียนมีดวงชะตาสูงสุด ต้องพบแดนลับแน่นอน

แต่ดูจากสถานการณ์ที่นี่ ฉีจ้านก็ยังคงมึนงง

ไม่มีแม้แต่แผ่นดิน จะมีแดนลับได้ที่ใด

เสิ่นเทียนเอ่ยอย่างเฉยชา “เจ้ารอที่นี่ก่อนเถอะ!”

เมื่อเอ่ยจบเขาก็เคลื่อนไหวเล็กน้อย มุดเข้าไปในมิติ

ทิ้งไว้เพียงลิงตัวเดียว ยืนอึ้งค้างอยู่ที่เดิม!

….

กลางมิติ เสิ่นเทียนลอยขึ้นมาอย่างเงียบเชียบ

มีร่างเงาหนึ่งรวมขึ้นตรงหน้าเขาไม่ไกล

“มาแล้วหรือ”

“มาแล้ว!”

“เมืองทะเลบูรพาดีที่มีเจ้านะ!”

“ที่ไหนกัน เพราะร่างหลักมีสายตามองการณ์ไกลต่างหาก!”

“ดี ตอนนี้เราไปกันเถอะ”

……

เสิ่นเทียนออกจากมิติ หมุนตัวกลับบินไปทางฉีจ้าน

“พี่ใหญ่ ท่านไปทำอะไรน่ะ”

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนกลับมา ฉีจ้านก็ถามด้วยความแปลกใจ

เขาเพ่งมองเสิ่นเทียนด้วยดวงตาวาววับ

ฉีจ้านรู้สึกว่าเหมือนเสิ่นเทียนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

แต่เขากระตุ้นเนตรทองเนตรอัคคีแล้วก็ยังมองไม่ออกว่าแปลกที่ใด

เสิ่นเทียนส่ายหน้ายิ้มๆ “ไม่มีอะไร พบแดนลับแล้ว อยู่ก้นทะเลที่นี่”

ฉีจ้านทำหน้าตื่นเต้น “เช่นนั้นเรารีบไปกันเถอะ!”

ซุ่ม!

ลิงลงไปในน้ำ พุ่งลงไปยังก้นทะเล!

เสิ่นเทียนก็ตามไปเช่นกัน คนกับลิงจมลงไปก้นทะเลเรื่อยๆ

พวกเขารวดเร็วยิ่ง ชั่วครู่เดียวก็ดำลงมาก้นทะเลหกแสนหกหมื่นลี้

ที่นี่เต็มไปด้วยแรงดันน้ำ พลังหนักหน่วงดั่งขุนเขา

แรงดันน้ำบดขยี้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้ง่ายดาย แม้แต่ผู้อริยะยังยืนหยัดได้ไม่นานนัก

แต่สองคนมีกายเนื้อแข็งแกร่งยิ่ง ผ่านไปได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องสนใจอะไร!

…..

ไม่นานพวกเขาก็มาถึงก้นทะเล

ที่นี่กว้างใหญ่ไร้พรมแดน ไม่มีสิ่งใดเลย

ฉีจ้านถามด้วยความตกใจระคนสงสัย “พี่ใหญ่ ตรงไหนคือแดนลับกัน”

เขามองไปรอบๆ ไม่เห็นแม้แต่เงาของแดนลับ

เสิ่นเทียนยิ้ม “อย่าถูกภาพลักษณ์ลวงตาเอา ในนี้มีความลี้ลับซ่อนอยู่ เจ้าสำแดงเนตรทองเนตรอัคคีมองดูก็จะรู้เอง!”

ฉีจ้านได้ยินดังนั้นก็รีบสำแดงเนตรทองเนตรอัคคี

ลูกตาเขาเปล่งแสงสีสันหลากสี ประกายไฟร้อนแรงกับแสงทองวนเวียน แผ่กลิ่นอายพลังดึงดูดคน

เนตรทองเนตรอัคคีกวาดมองไป ภาพรอบกายพลันเปลี่ยนแปลง

ก้นทะเลที่เดิมทีไม่มีอะไรเลย พลันมีภูเขาเทพบรรพกาลลอยขึ้นมา ภูเขาเทพสูงตระหง่านหมื่นจั้ง แผ่อำนาจเทพยิ่งใหญ่!

มันตั้งอยู่ตรงก้นทะเล แต่เหมือนค้ำยันฟ้าดิน ทำให้น้ำทะเลถอยออก ไม่อาจรุกล้ำเข้ามาได้แม้แต่น้อย

บนตัวภูเขาเทพบรรพกาลแกะสลักอักษรใหญ่แสงทองสว่างพร่างพราวหลายตัว!

อักษะดั่งมังกรน้ำ ฉวัดเฉวียนมีพลัง แผ่กลิ่นอายยิ่งใหญ่!

สี่คำนี้ก็คือจวนอริยะสัประยุทธ์!

เมื่อเห็นภาพนี้ ฉีจ้านอึ้งไปหมด หลุดเสียงร้องตกใจว่า “บ้าจริง มีความลับอยู่จริงๆ ด้วย นี่คือจวนอริยะสัประยุทธ์ของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์หรือ”

จักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เกิดขึ้นในยุคบรรพกาล เป็นมหาจักรพรรดิสุดยอดเมื่อแสนแปดหมื่นปีก่อน!

เขาเป็นวานรอริยะสัประยุทธ์ตัวที่สองในฟ้าดิน ใช้การต่อสู้พิสูจน์มรรค สำเร็จผลมหาจักรพรรดิ ลอยขึ้นโลกเซียน!

ต้องรู้ว่ากำลังรบของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ดุดันเป็นหนึ่ง

ต่อให้อยู่ในการคงอยู่ระดับมหาจักรพรรดิ ก็ยังเป็นจ้าวที่บ้าคลั่งทำเลวไม่สนสิ่งใดที่สุด!

ฉีจ้านไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะเจอจวนอริยะสัประยุทธ์!

พึงรู้ไว้ว่าในกายฉีจ้านก็มีสายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์เช่นกัน!

มรดกของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์เหมาะกับการฝึกบำเพ็ญของเขาที่สุด!

หากได้มรดกของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์มา จะเพิ่มศักยภาพขึ้นอย่างมาก!

…….

ฉีจ้านดีใจเป็นอย่างยิ่ง พูดด้วยความซึ้งใจ “พี่ใหญ่ ตามท่านมีแต่ความสุขจริงๆ!”

หากไม่ได้เสิ่นเทียน ไม่ว่าอย่างไรเขาก็คงหาจวนอริยะสัประยุทธ์ไม่พบ!

เสิ่นเทียนส่ายหน้ายิ้มๆ นี่เป็นโชคลิขิตของฉีจ้านอยู่แล้ว

ตอนนี้เองมิติพลันบิดเบี้ยวขึ้นมา พลังมหาศาลพุ่งออกมาจากทางเข้าภูเขาเทพ แสงสว่างจ้า พลังวนเวียนหนาทึบ

แสงสีดำวูบวาบ บิดเบี้ยวไม่หยุด พลังยิ่งใหญ่ยากจะคาดเดากลายเป็นน้ำวนสีดำขวางหน้าสองคนไว้!

“ยังมีค่ายกลอีกรึ”

ฉีจ้านเลิกคิ้วขึ้น ดูท่าจวนอริยะสัประยุทธ์คงไม่ได้เข้าไปง่ายขนาดนั้นแล้ว!

ที่นี่ไม่ใช่แค่ต้องมีวิชาเนตรที่ทำลายภาพมายาถึงจะหาพบได้เท่านั้น! แต่ต้องมีศักยภาพที่แน่นอนถึงจะเข้าไปได้

มิน่าหลายปีมานี้ ถึงไม่เคยมีข่าวของจวนอริยะสัประยุทธ์ปรากฏมาในโลกภายนอกเลย

เงื่อนไขการเข้าไปยากเกินไป คนธรรมดาทำไม่ได้!

“พี่ใหญ่ ให้ข้าลองดูหน่อยเถอะ!”

ฉีจ้านขันอาสา เขากอดความมั่นใจว่าจะต้องได้มรดกของบรรพบุรุษ!

เสิ่นเทียนพยักหน้า แม้ค่ายกลนี้จะแข็งแกร่ง แต่ก็ขวางฉีจ้านไม่ได้

ภายใต้การระเบิดพลังทั้งหมดของฉีจ้าน น้ำวนสีดำก็ถูกทุบแตกกระจายทั้งหมด จากนั้นมีพลังมิติแก่กล้าพุ่งออกมาห่อหุ้มทั้งสองคนไว้

สองคนรู้สึกตามืดลง ร่างหายวับไป

จนเมื่อพวกเขามองเห็นอีกครั้งก็มาปรากฏในอีกมิติหนึ่ง!

ที่นี่แปลกยิ่ง พลังวิญญาณอัดแน่นไปรอบๆ หมอกหนาทึบ ดูลอยล่องเป็นมายา

ห่างไปไม่ไกลเป็นภูเขาสูงยิ่งใหญ่มากมาย สูงเสียดเมฆ

ยอดเขาหลายสิบลูกทอดยาว ล้อมรอบกันและกัน ดูเลิศล้ำ!

บนภูเขามีต้นไม้หนาเท่าถังน้ำมากมาย กิ่งก้านใบงอกงาม เขียวชอุ่ม

และยังมีแม่น้ำเล็ก นกร้องดอกไม้หอม เต็มไปด้วยความเงียบสงบเหมือนแดนสุขาวดี

“พลังวิญญาณที่นี่เข้มข้นมาก เข้มกว่าภูเขาผลบุปผาของเผ่าข้าอีก!”

ฉีจ้านสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณหนาแน่นพุ่งเข้าไปในกาย ทำให้เขาสบายไปทั้งตัว!

“และยังมีโครงสร้าง ก็คล้ายเขาผลบุปผามาก!”

ฉีจ้านรู้ว่าตอนนี้พวกเขาเข้ามาในจวนอริยะสัประยุทธ์แล้ว

วานรอัคคีเนตรทองเป็นชนรุ่นหลังจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ ในเผ่าเลียนแบบลานมรรคมหาจักรพรรดิ

ที่นี่เหมือนกับเขาผลบุปผามาก หรืออาจพูดได้ว่าที่นี่ต่างหากคือเขาผลบุปผาขนานแท้!

ฉีจ้านดีใจใหญ่ มาถึงที่นี่ก็รู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน

……

สองคนเดินหน้าต่อไป หลังข้ามยอดเขาสูงตระหง่านก็มาถึงสวนผลไม้แห่งหนึ่ง

ที่นี่ปลูกต้นไม้วิญญาณเป็นแถว เขียวชอุ่ม แผ่พลังวิญญาณแข็งแกร่ง

บนต้นไม้พวกนี้ยังมีผลไม้วิญญาณต่างๆ เต็มไปหมด สีสันหลากสี สดใหม่ ส่งกลิ่นหอมคละคลุ้ง

“ว้าว ที่นี่สุดยอดมาก!”

ฉีจ้านมองได้ครู่เดียวก็ต้องเบนสายตาออก กระทั่งอดใจไม่ไหวน้ำลายไหลลงมา

ช่วยไม่ได้ ผลไม้ที่นี่เย้ายวนต่อลิงมากจริงๆ แต่ฉีจ้านไม่ใช่ลิงใจร้อน แค่มองไปรอบๆ

เขาพบว่าตรงหน้าต้นไม้พวกนี้มีศิลาหินตั้งอยู่ แบ่งกันบันทึกประเภทและอายุของต้นไม้วิญญาณ

ผลไม้ที่เพิ่งออกผลมาล้วนเป็นระดับสมุนไพรวิญญาณสูงสุด!

ผลไม้ที่ออกผลมาหลายปี ถึงขั้นไปถึงระดับสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์

กล่าวได้ว่าที่นี่มีแต่สมบัติ!

เมื่อเห็นคำแนะนำพวกนี้ ฉีจ้านก็ตาเป็นประกายขึ้นมา “ข้าไม่เคยเห็นผลไม้ระดับสูงมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย! ถึงในเผ่าจะมีอยู่บ้าง แต่ผู้อาวุโสจะควบคุมไว้ กินไม่ได้เลย! วันนี้ ข้าจะกินให้หนำใจเลย!”

ผลไม้พวกนี้กระตุ้นความอยากอาหารของฉีจ้านอย่างเต็มที่ ทำให้เขาอดใจไม่ไหวอยากจะกินให้มีความสุข!

ไม่นานฉีจ้านก็อึ้งค้างอยู่กับที่ ดวงตาจ้องแถวหลังของสวนผลไม้เขม็ง

ตรงนั้นไม่มีต้นไม้วิญญาณลักษณะต่างๆ!

มีเพียงต้นกล้วยหอมเรียงกันแถวหนึ่ง!

ต้นกล้วยหอมแบ่งเป็นทั้งหมดสามแถว

แถวแรก บนต้นกล้วยจะมีกล้วยหอมสีเหลืองอร่ามห้อยอยู่เต็มไปหมด!

กล้วยหอมทุกต้นจะส่งกลิ่นหอมเข้มข้นและพลังวิญญาณหนาแน่น ล้วนเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับล่าง ขณะเดียวกัน กล้วยหอมแถวนี้ยังมีศิลาหินตั้งอยู่แผ่นหนึ่ง

ศิลาหินพวกนี้บันทึกข้อมูลของกล้วยหอม

นาม ‘กล้วยอริยะทองกำเนิดฟ้า!’

อายุ ‘สุกงอมทุกสามพันปี!’

ระดับ ‘สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับล่าง!’

เมื่อเห็นภาพนี้ ฉีจ้านถึงกับผงะไปเลย

กล้วยหอมเหลืองอร่ามพวกนี้ล้วนเป็นสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์หรือ

ต่อให้ฝัน เขาก็ยังไม่กล้าฝันเลย

อีกทั้งยังไม่ใช่แค่นั้น

กล้วยหอมพวกนี้มีทั้งหมดสามแถว ท่วงทำนองวิญญาณที่แผ่มาจากสองแถวหลังยังแกร่งยิ่งกว่า!

ด้านหน้าต้นกล้วยหอมสองแถวหลังยังมีศิลาหินเช่นกัน

นาม ‘กล้วยอริยะทองกำเนิดฟ้า!’

อายุ ‘สุกงอมทุกหกพันปี!’

ระดับ ‘สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับกลาง!’

นาม ‘กล้วยอริยะทองกำเนิดฟ้า!’

อายุ ‘สุกงอมทุกเก้าพันปี!’

ระดับ ‘สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง!’

…..

“ข้าคงไม่ฝันไปหรอกกระมัง!”

นัยน์ตาฉีจ้านเต็มไปด้วยความตกตะลึง ไม่กล้าเชื่อเลย

สรรพคุณยาของกล้วยอริยะทองกำเนิดฟ้าทรงพลังอย่างยิ่ง แฝงไว้ด้วยพลังวิญญาณแก่กล้าและพลังชีวิต

กล่าวได้ว่าหากโยนกล้วยหอมที่นี่ไปในโลกบำเพ็ญเซียนสักลูก ก็มากพอจะให้ผู้บำเพ็ญมากมายแย่งชิงกันเลือดนองเป็นสายน้ำ!

หากใช้หลอมโอสถ กระทั่งหลอมเป็นโอสถศักดิ์สิทธิ์ได้จำนวนมาก

และยังมีอีกสิ่งที่สำคัญที่สุด นี่ไม่ใช่แค่สมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นผลไม้ที่มีรสชาติหวานยิ่ง!

สำหรับลิงแล้ว กล้วยอริยะทองกำเนิดฟ้ามีความเย้ายวนเรียกว่าไร้พ่าย!

หากเอากล้วยอริยะทองกำเนิดฟ้าที่สุกงอมทุกสามพันปีหลายต้นไปให้เผ่าวานรอัคคีเนตรทอง ก็ยังทำให้อริยะแท้ต้องเคารพเจ้าได้

หากนำกล้วยอริยะที่สุกงอมทุกเก้าพันปีไป เดาว่ามหาอริยะของเผ่าวานรอัคคีเนตรทองคงยินดีจะเป็นสหายกับเจ้า

ถึงอย่างไรหลังจากจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์นำต้นแม่หายสาบสูญไปนั้น กล้วยอริยะทองของเผ่าวานรอัคคีเนตรทองก็ทยอยกันเหี่ยวเฉาลง

กับผลไม้ที่มีรสชาติดีเลิศยิ่งเช่นนี้ ผู้แข็งแกร่งเผ่าวานรอัคคีเนตรทองเฝ้าใฝ่ฝันมาเป็นแสนปีแล้ว

หากได้ลิ้มลองรสชาติที่บรรพบุรุษยังหลงใหลจริงๆ เช่นนั้นก็ตายอย่างคุ้มค่าแล้ว!

……

มาถึงที่นี่ ฉีจ้านไม่ใช่แค่เจอกล้วยอริยะทองส่วนใหญ่ แต่ทุกต้นยังสุกงอมหมดแล้ว

แค่กล้วยอริยะสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงที่สุกทุกเก้าพันปีก็มีหลายร้อยต้นแล้ว จำนวนขนาดนี้ทำให้ฉีจ้านดีใจจนแทบกระโดดขึ้น!

ทว่าไม่นานนัก ฉีจ้านก็พบว่าบนศิลาหินหน้ากล้วยหอมเก้าพันปียังมีอักษรแกะสลักไว้เป็นพิเศษ

‘อู้ๆ ข้าตามหามาครึ่งชีวิต ตามหาท้อเซียนอมตะ แต่ก็ไร้วาสนาไม่เคยพบในชีวิต ได้เพียงกล้วยหอมอมตะ ไม่ใช่สิ่งที่ข้ารัก ต่อให้หลอมรวมกล้วยอริยะเป็นพันเป็นหมื่นจะมีประโยชน์อันใด’

ฉีจ้านมองด้วยความงุนงง ก่อนเกาศีรษะ “พี่ใหญ่ นี่หมายความว่าอย่างไรกัน”

อักษรของแถวนี้เป็นข้อความของจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์แน่นอน อีกทั้งยังมีอารมณ์เหมือนจะเสียใจและผิดหวังมาก!

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย “เห็นได้ชัดว่าเขากำลังอยากกินลูกท้อ!”

“ลูกท้อรึ ข้าก็ชอบเหมือนกัน!”

“แต่ว่าที่นี่ไม่มีลูกท้อ มีแต่กล้วยหอม!”

ฉีจ้านตาเป็นประกาย เมื่อเอ่ยถึงของกินก็ตาเป็นประกายขึ้นมา

เสิ่นเทียนทำหน้าจนปัญญา ‘เจ้าลิงกังนี่มีอะไรไม่ชอบกินบ้าง’

ดวงตาเขาเบิกโตเหมือนกับกระดิ่ง น้ำลายแทบจะหยดลงพื้น รู้สึกว่าอยากจะกินผลไม้ที่นี่ให้หมด!

ลูกลิงจะไปปฏิเสธกล้วยหอมได้อย่างไร

เป็นอย่างที่คิดไว้ ในที่สุดฉีจ้านก็กดความตื่นเต้นในใจไม่ไหว

เขาตะโกนเสียงดัง “ไม่ไหวๆ ข้าทนไม่ไหวแล้ว! เจ้ากล้วยหอม ข้ามาแล้ว!”

เมื่อเอ่ยจบ ฉีจ้านก็พุ่งไปยังสวนผลไม้

เขาพุ่งขึ้นไป ยื่นมือใหญ่ที่มีขนปุกปุยคว้าไปทางต้นกล้วย

บึ้ม!

อำนาจเทพเจ้าสั่นสะเทือน!

ฉีจ้านยังไม่ทันสัมผัสกล้วยหอมก็มีม่านแสงสีทองพุ่งขึ้นมา ปกคลุมสวนผลไม้นี้ไว้ทั้งหมด

ส่วนมือใหญ่เขาถูกม่านแสงขวางไว้ก่อนถูกกระแทกลอยออกไปทั้งตัว ตกลงไปเป็นลิงกินหญ้า!

“มารดาเถอะ ยังมีค่ายกลคุ้มกันอีกรึ คิดว่าแซ่ฉีทำลายค่ายกลบ้านี่ไม่ได้รึ!”

พอไม่ได้กินผลไม้วิญญาณ ฉีจ้านก็เกาหูเกาแก้มด้วยความโกรธ เขาควักกระบองตามใจนึกออกมาจะทำลายค่ายกล!

“กระบองกวาดฟ้าดิน!”

ฉีจ้านควงกระบองใหญ่ พลังหลั่งทะลักทั่วร่าง ระเบิดพละกำลังบ้าคลั่ง

กระบองเทพยักษ์ทุบใส่ค่ายกลอย่างแรง กระเทือนเป็นคลื่นกระเพื่อมไม่มีสิ้นสุด พลังวนเวียนหนาทึบ

แสงเทพส่องสว่างไปรอบๆ เหมือนกับทะเลเซียนถูกกระแทก

แต่การโจมตีของฉีจ้านไม่เป็นผลเลย ในทางตรงข้ามตัวเขากลับถูกกระแทกออกไปอีกครั้ง แผ่นดินยุบเป็นหลุมลึก!

“ข้าไม่เชื่อ!”

ฉีจ้านแสยะปาก ขนทองตั้งขึ้นทั้งตัว กลิ่นอายพลังถาโถมเข้าไปราวกับกระแสน้ำไหลหลาก

เขาออกมืออีกครั้ง ควงกระบองใหญ่ฟาดเข้าไปด้วยพลังหมื่นชั่ง!

กระบองกวาดฟ้าดิน!

กวาดล้างพันทัพ!

กระบองกำราบภูผา!

…..

ฉีจ้านออกวิชากระบองตามใจนึกชุดหนึ่ง อานุภาพแข็งแกร่งเหมือนดาวตก สามารถสังหารอริยะแท้ได้อย่างง่ายดาย

ต่อให้เผชิญหน้ากับเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์ เขาก็ยังไม่บ้าคลั่งขนาดนี้!

ความรู้สึกที่ได้แต่มองเอื้อมไม่ถึงนี้ ทำให้เจ้าลิงร้อนใจจนคันยิบๆ ในใจ!

ตึง!

ตึง!

ตึง!

เสียงดังปานฟ้าผ่า สั่นสะเทือนฟ้าดิน!

ทุกครั้งที่เขาฟาดกระบองยาวลงมา จะกระเทือนอากาศแตกเป็นเสี่ยงๆ พละกำลังน่ากลัวถึงที่สุด

แต่ก็ยังไม่อาจสั่นคลอนค่ายกลได้ ถูกแรงสะท้อนกลับกระแทกถอยไปไกลมาก!

ฉีจ้านศีรษะปักลงพื้น ในที่สุดก็ยอมแพ้

“ท่านบรรพบุรุษนี่จริงๆ เลย แค่สวนผลไม้จะวางค่ายกลแกร่งขนาดนี้เพื่ออะไรกัน! ขี้เหนียวเกินไปแล้ว ไม่ให้ข้ากินผลไม้สักลูกเลย!”

ฉีจ้านพึมพำด้วยความโกรธ ได้แต่เกาะม่านแสงจ้องกล้วยหอมตาเขม็ง!

แต่จากนั้นเขาเหมือนนึกอะไรได้ ดวงตาเปล่งประกายขึ้นมา

ฉีจ้านทำหน้าขอร้องอ้อนวอน “พี่ใหญ่ ท่านเปิดที่นี่ให้ข้าได้หรือไม่”

ช่วยไม่ได้ กล้วยหอมเย้ายวนเกินไป ทำให้ลิงอยากจะเลิกก็เลิกไม่ได้

เมื่อเห็นฉีจ้านทำหน้าคาดหวังแล้ว เสิ่นเทียนก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “ก็ได้! ข้าจะลองดู! แต่ข้ารับรองไม่ได้ว่าจะเปิดได้นะ!”

ถึงอย่างไรจักรพรรดิอริยะสัประยุทธ์ก็เป็นคนวางค่ายกลนี้ ต่อให้เป็นเขาก็ยังไม่มั่นใจ

“อืมๆ พี่ใหญ่สู้ๆ!”

ฉีจ้านพยักหน้าลิงถี่ๆ เสิ่นเทียนตกลงออกมือแล้วก็มีหวัง

เพราะกำลังรบที่เสิ่นเทียนสำแดงออกมาแข็งแกร่งมาก แม้แต่เจ้าอริยะยังถูกปราบ

แม้ฉีจ้านจะเปิดผนึกไม่ได้ แต่เขาสัมผัสได้ว่าผนึกไม่ได้แกร่งมาก อย่างมากสุดก็มีกำลังรบเจ้าอริยะ!

ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนใช้สิบร่างแยกทุบตีเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์ นั่นแสดงว่าพละกำลังของเขาไม่ด้อยไปกว่าเจ้าอริยะเท่าไร

ลองดูสักสองสามครั้งต้องไม่มีปัญหาแน่!

เสิ่นเทียนไม่พูดมาก เขาควักค้อนสยบฟ้าออกมา เตรียมจะลงมือ

เขาควงค้อนสยบฟ้าและพุ่งเข้าไป แผ่พลังทำลายภูผานทีออกมา!

ตึงๆๆ!

เสิ่นเทียนรัวไปสามค้อน ทุบค่ายกลแสงเทพสั่นกระเพื่อม กฎเกณฑ์วนเวียน

พละกำลังนี้ดุดันกว่าตอนสู้กับฉีจ้านมาก แต่แม้จะเป็นเช่นนั้น ค่ายกลก็ไม่มีท่าทีว่าจะแตกเลย

พอเห็นดังนั้น เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย

ดูท่าค่ายกลนี้คงแข็งมาก!

ให้ข้าได้ฝึกมือพอดีเลย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนก็ไม่ออมมืออีก

เขาใช้กำลังทั้งหมดกระตุ้นสามสิบหกค้อนสวรรค์ร้างพุ่งเข้าใส่ผนึก

ค้อนตะวันเดือด!

ค้อนงัดจันทร์!

ค้อนทุบดาว!

…..

เสิ่นเทียนระเบิดพลังออกมามากพอจะออกวิชาค้อนทั้งชุด พละกำลังเหมือนดาวตก พลังอำนาจเอ่อล้นยากจะปัดป้อง

เพียงพริบตาเดียว ห้วงมิติสั่นไหวอย่างรุนแรง เกิดเสียงดังสนั่นหู!

เสิ่นเทียนเหมือนกับเทพสงครามไร้พ่าย รัวไปทีละค้อน ทุกค้อนจะเกิดพายุขึ้น แสงเทพไหลเวียน เหนี่ยวนำเป็นราศีสีสันหลากสี!

ตึง!

เมื่อเสียงดังสนั่นครั้งสุดท้ายดังขึ้น ก็ทุบไปครบสามสิบหกค้อน

เสิ่นเทียนเก็บค้อนสยบฟ้าก่อนจะพ่นลมหายใจทีหนึ่ง “เก็บงานเรียบร้อย!”

ค่ายกลไม่ได้ทลายลง แต่แสงอ่อนลงเล็กน้อย

ฉีจ้านทำหน้าถอดใจ “ตาแก่นี่ขี้เหนียวชะมัด ยังวางค่ายกลไว้สวนหลังบ้านตนเองอีก ไม่ให้โอกาสเลยสักนิดจริงๆ รึ ข้าเป็นหลานของหลานของหลานของหลานของหลานของหลานแท้ๆ ของเขานะ!”

ทำลายค่ายกลไม่ได้ เขาก็ไม่ได้กินกล้วยหอม ย่อมเกิดความกรุ่นโกรธ

ทว่าตอนนี้เองพลันเกิดเสียงดังกึกขึ้นในสวนผลไม้!

ก่อนจะเห็นม่านแสงนั้นเกิดรอยร้าวเล็กๆ ขึ้นมา

“หืม มีหวังแล้วรึ”

ฉีจ้านตาโต จ้องรอยแยกนั้นตาเขม็ง

ก่อนจะเห็นรอยแตกลุกลามไปไม่หยุด กระทั่งลามไปทั้งม่านแสง!

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น!

ฉีจ้านเบิกตาโตอ้าปากค้าง ปากกว้างมาก!

“ทะ…ทำลายได้จริงๆ รึ พี่ใหญ่โหดมาก รู้สึกว่าโหดกว่าเดิมอีก!”

ฉีจ้านตกตะลึงในใจไม่หยุด เขาพบว่าพละกำลังของเสิ่นเทียนแกร่งกว่าตอนสู้กับเจ้าอริยะเสียหั่วในเมืองทะเลบูรพาอีก หรือว่าพี่ใหญ่ยังซ่อนศักยภาพไว้อีก

ฉีจ้านตื่นตะลึงในใจ แต่จากนั้นก็โยนทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะค่ายกลสวนผลไม้เปิดแล้ว ก็หมายความว่าเขาเข้าไปกินกล้วยได้!

“เหอะๆ ข้ามาแล้ว!”

ฉีจ้านตื่นเต้นจนแทบจะลอยขึ้น กระโดดไปๆ มาๆ วิ่งไปทางสวนผลไม้

ไม่นานฉีจ้านก็เริ่มกินอย่างมีความสุข เริ่มยัดผลไม้ใส่ปากไม่หยุด!

เสิ่นเทียนเข้ามารับผลประโยชน์ครั้งใหญ่เช่นกัน

สมุนไพรวิญญาณพวกนี้ไม่ถือว่ามีประโยชน์กับเขามากนัก

แต่ดีที่มีจำนวนเยอะ ใช้แก้กระหายหรือต้อนรับโอรสสวรรค์คนอื่นได้ หรือเอามาหลอมโอสถก็เป็นวัตถุดิบที่ไม่เลว

หลักๆ คือมีสมบัติไม่เก็บ ก็คงจะไร้หลักการธรรมชาติไปหน่อย!

…..

ดังนั้น เสิ่นเทียนจึงไม่เกรงใจเช่นกัน เริ่มเก็บผลไม้วิญญาณกับฉีจ้านกันครั้งใหญ่

ทางด้านฉีจ้านก็กินไปพลางเก็บไปพลาง เศษผลไม้ เปลือกกล้วยอะไรโยนไว้เต็มพื้น

สวนวิญญาณที่เดิมทีเต็มไปด้วยผลไม้วิญญาณถูกเก็บหมดเกลี้ยง

ส่วนฉีจ้านกินจนอิ่ม!

มีความสุข มีความสุขจริงๆ!

ข้าไม่เคยกินผลไม้เยอะขนาดนี้มาก่อนเลย

ตามพี่ใหญ่เสิ่นเทียนจะมีกินอิ่มหนำสำราญจริงๆ!

ข้าแซ่ฉีมีความสุขจริงๆ!

……………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด