บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 266 ดินที่ให้บุตรแห่งโชคเติบโต

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 266 ดินที่ให้บุตรแห่งโชคเติบโต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เรื่องการปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหาร เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้คิดจะรับประโยชน์เพียงคนเดียว

ด้านหนึ่งคือแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็รู้เรื่องสาวกวิญญาณร้ายจู่โจม จะไม่แบ่งถ้วยน้ำแกงไม่ได้

อีกด้าน ลัทธิวิญญาณร้ายอยู่รอดมาหมื่นปีภายใต้การร่วมมือกันปิดล้อมของห้าดินแดน ย่อมมีศักยภาพแฝงลึกไม่อาจคาดเดาได้

จากในระดับหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายเดียวจะทำได้ง่ายๆ แต่เหมือนเป็นพันธมิตรของฝ่ายชั่วร้ายมากมายเสียมากกว่า

หากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทุ่มกำลังเต็มที่เพื่อทำลายล้างวิหารย่อยเจ็ดสังหารเล็กๆ ก็ไม่เหมาะสมเท่าไร

แต่หากเสียกำลังไปจนถึงศักยภาพแฝงของแดนศักดิ์สิทธิ์เพราะเหตุนี้ หรืออาจจะถูกลัทธิวิญญาณร้ายล้างแค้นอย่างบ้าคลั่ง ก็ไม่คุ้มค่าเลย

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เมื่อหมื่นปีก่อนแสดงออกให้เห็นว่าแข็งแกร่งมากเกินไป ดังนั้นจึงถูกปิดล้อมในผลึก เกือบจะถูกล้างบาง

ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ได้บุตรแห่งโชคเสิ่นเทียนมาไม่ใช่ง่ายๆ มีหวังจะยิ่งใหญ่ขึ้นแล้ว

จางหลงหยวนไม่อยากให้เกิดเหตุไม่คาดคิดในช่วงเวลาสำคัญ

เขาจึงมอบผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งของการปิดล้อมครั้งนี้ไปอย่างใจกว้าง แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกได้สามส่วน แดนเทวาแดนผาสุกอื่นๆ ได้สองส่วน

แน่นอนว่าผลประโยชน์พวกนี้จะให้กับสำนักที่ออกแรงช่วยเท่านั้น

หลังผ่านการหารือกัน ในพันธมิตรการปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหารครั้งนี้จึงมีสองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ หกแดนเทวารวมถึงสิบสองแดนผาสุก

สองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ในนั้นมีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกสองผู้อริยะเป็นผู้นำ

นอกจากนี้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังส่งผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์อย่างผู้อาวุโสบัวมรกต ผู้อาวุโสบัวขาวและผู้อาวุโสบัวแดงและผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณอีกสิบแปดคนมา

แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกส่งผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์อย่างผู้อาวุโสเสวี่ยอู่ ผู้อาวุโสหลิงอู่และผู้อาวุโสตันอู่กับผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณอีกสิบแปดคนมาเช่นกัน

ทางด้านหกแดนเทวาใหญ่ก็ส่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์หนึ่งคน ผู้สูงศักดิ์หกคนและผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองสิบแปดคน

สิบสองแดนผาสุกต่างส่งจุดสูงสุดระดับดวงจิตดรุณสามคนรวมถึงผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองสิบแปดคน

รวมกันแล้วมีผู้อริยะสองคน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สิบสองคน ผู้สูงศักดิ์หนึ่งร้อยแปดคน ผู้จริงแท้สามร้อยหกสิบคน

กองกำลังผู้บำเพ็ญเซียนยิ่งใหญ่เช่นนี้มากพอจะกวาดล้างสี่ทิศ

ต่อให้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เผชิญหน้ากับพันธมิตรเช่นนี้ก็ต้องเลี่ยงหลบไปชั่วคราว

นี่คือพลังของความสามัคคี!

…….

หลังจากงานเลี้ยงในวิหารแสวงบุญจบลง จางหลงหยวนไม่ได้ให้เวลาชนชั้นสูงของแดนเทวาและแดนผาสุกเตรียมตัวมากนัก

เพราะยามศึกต้องลงมือไม่ให้ข้าศึกทันระวังตัว เรื่องที่ประมุขเสวี่ยซาถูกจับคงจะไปถึงหูลัทธิวิญญาณร้ายในอีกไม่นาน

หากคนของวิหารเจ็ดสังหารรู้ข่าวนี้ก็อาจจะคิดเชื่อมโยงไปถึงอะไรบางอย่าง

หนูที่ซ่อนอยู่ในเงามืดพวกนี้ก็จะระวังตัวกันมากขึ้น หากไม่รีบลงมือจะมีโอกาสคว้าน้ำเหลวสูงมาก!

มิหนำซ้ำ ไม่มีใครรู้ว่าในแดนเทวาแดนผาสุกจะมีหนอนของลัทธิวิญญาณร้ายหรือไม่ ก่อนเริ่มปฏิบัติการ จะไว้ใจใครไม่ได้เด็ดขาด!

“เทียนเอ๋อร์ การปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหารครั้งนี้เป็นโอกาสดีในการหาประสบการณ์ เจ้าก็ไปด้วยเถอะ!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตบบ่าเสิ่นเทียน “เจ้าคือบุตรแห่งโชคที่สวรรค์ดูแล หากมีเจ้าอยู่ ศึกนี้จะต้องมีชัยอย่างแน่นอน!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงความสำคัญที่ ‘ไร้ที่สิ้นสุด’ ในคำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต่อเสิ่นเทียนแล้ว อัจฉริยะหนุ่มสาวจากแดนเทวาและแดนผาสุกต่างอิจฉาอยู่ในใจ

หึ มีแต่คนบอกว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนเป็นผู้เหี้ยมโหดที่ยากจะพานพบได้ในหลายพันปี กระทั่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่ตกต่ำทุกคืนวันก็รุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งภายใต้การนำของเขา

ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะได้เห็นคนที่เอาแต่พึ่งดวงชะตา

แม้ต้องยอมรับว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนมีดวงชะตาใช้ได้ หามรดกกับหอคอยเทพสงครามมาให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

แต่เจ้ามองเสิ่นเทียนเป็นสิ่งมงคลของแดนศักดิ์สิทธิ์เพราะเหตุนี้ กระทั่งพาเดินทางไปปราบลัทธิวิญญาณร้ายด้วย นี่ก็อาจจะเล่นตลกกันเกินไปหน่อย!

ไม่กลัวว่าถึงตอนนั้นมีผู้แข็งแกร่งลัทธิวิญญาณร้ายบางคนคิดร้ายส่งศิษย์เจ้าไปแดนสุขาวดีหรือ

ความจริงแล้วจางหลงหยวนก็ไม่กลัวจริงๆ ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนศิษย์เขาก็เป็นบุตรแห่งโชค!

บุตรแห่งโชคบ้านใครสู้กับคนใหญ่คนโตในการตะลุมบอนบ้าง เขามีแต่เก็บศีรษะ เก็บโชคลิขิตพัฒนาตัวเองไป!

ความวุ่นวาย การฝึกฝน สงครามชุลมุน ล้วนแล้วแต่คือดินที่ให้บุตรแห่งโชคเติบโตได้ดีที่สุด

ในตำราโบราณพวกนั้นก็มีให้เห็นทั้งหมด!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนคิดว่าตนได้สร้างโอกาสให้กับเทียนเอ๋อร์ ให้เขาแสดงดวงชะตาของตัวเอกแห่งชะตาสวรรค์ให้ถึงจุดสูงสุด!

……

แน่นอน ภายในใจเสิ่นเทียนปฏิเสธการตัดสินใจนี้ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

ถึงอย่างไรก็มีเพียงคนยากจนเท่านั้นที่ต้องเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงอันตรายในการต่อสู้เพื่อหาทรัพยากรและวิชา

ตอนนี้ยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางของเขาโด่งดัง หอคอยเทพสงครามก็โด่งดัง และยังมีคัมภีร์จักรพรรดิที่ไม่ได้ฝึกเป็นกอง

ตอนนี้ไม่ปิดด่านบำเพ็ญขายผ้าเอาหน้ารอดในแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างว่าง่าย แต่จะไปปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหารแห่งลัทธิวิญญาณร้ายอะไรนั่น สมองมีปัญหาหรือไร?

เมื่อคิดแล้วเสิ่นเทียนก็ตัดสินใจจะเรียนรู้การปฏิเสธ

เขาพูดกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ว่า “อาจารย์รับสั่งมา ศิษย์ไม่กล้าไม่ปฏิบัติตาม”

ใช่ เขาปฏิเสธความคิดปฏิเสธในใจตัวเอง

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นคำขอจากผู้นำอาจารย์ ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธจริงๆ

ประกายเซียนบนผิวกายของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมอีกครั้ง “ดี เสี่ยงอันตรายอย่างไม่เกรงกลัวต่างหากถึงจะมีเส้นทางเซียนยาวไกล”

ป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ในอกเสื้อเสิ่นเทียนลอยออกมาอีกครั้ง ผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แบ่งสายฟ้าประกายเซียนออกมาสายหนึ่งและหลอมรวมเข้าไปในนั้น

เมื่อประกายเซียนสายนี้แยกออก ก็เห็นได้ชัดว่าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เบาบางลงไปไม่น้อย

เหมือนกับเสียพลังไปอย่างมาก!

ป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์วางลงกลางฝ่ามือเสิ่นเทียน ก่อนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเอ่ยเสียงเฉยชา “ข้าเติมการโจมตีสามครั้งในป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ให้ใหม่แล้ว

เทียนเอ๋อร์ หากระหว่างปิดล้อมถูกสาวกวิญญาณร้ายระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ขึ้นไปโจมตี จำไว้ว่าต้องปกป้องตัวเองให้ดี ต้องรู้ว่าความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ต่อให้เป็นชีวิตของผู้อริยะลัทธิวิญญาณร้ายสิบคนก็ไม่สำคัญเท่าเจ้า”

แม้เสียงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเฉยชาไร้คลื่นอารมณ์ แต่เสิ่นเทียนรู้สึกได้ถึงความห่วงใยและให้ความสำคัญในคำพูดอาจารย์

เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา “อาจารย์วางใจเถอะ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”

ความจริง ตอนที่หอคอยเทพสงครามมาลงโลกเล็กเทพสวรรค์ เยี่ยฉิงชางได้มอบป้ายคำสั่งหนึ่งให้เสิ่นเทียน

เมื่อถือป้ายคำสั่งเทพสงครามนี้จะติดต่อกับเยี่ยฉิงชางได้ตลอดเวลา กระทั่งหากจำเป็นยังเหนี่ยวนำให้หอคอยเทพสงครามทะลุมิติมาเยือนได้

เมื่อมีป้ายคำสั่งนี้ เสิ่นเทียนรู้สึกว่าขอแค่ตนระวังหน่อย การปิดล้อมลัทธิวิญญาณร้ายครั้งนี้ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อตกลงเรื่องการปิดล้อมลัทธิชั่วร้ายกันแล้ว สองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างพาผู้สูงศักดิ์สวรรค์สิบสองคนกับผู้สูงศักดิ์หนึ่งร้อยแปดคนออกเดินทางไปก่อน

ส่วนผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองสามร้อยกว่าคนที่เหลือจะทยอยกันได้รับข้อมูลไปสู่จุดเป้าหมายและกวาดล้างมารร้ายสาวกวิญญาณร้าย

พวกเขาคงสอดมือในการต่อสู้ตรงๆ ไม่ได้

ถึงอย่างไรในการต่อสู้ของระดับผู้อริยะและผู้สูงศักดิ์สวรรค์ ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับแก่นพลังทองไม่มีอำนาจต่อต้านอะไรเลยจริงๆ

แค่คลื่นพลังจากการต่อสู้ระดับผู้อริยะก็อาจจะสังหารผู้จริงแท้ได้เป็นกอง

แน่นอนว่าเสิ่นเทียนเปิดสูตรโกง จึงเป็นกรณีพิเศษ

…….

บนเรือเหาะเทพสวรรค์ลำมหึมา มีกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งทยอยกันพุ่งขึ้นฟ้า

เสียงกลองสงครามดังขึ้น ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สว่างมากขึ้น

มองผ่านประกายเซียนไปจะเห็นตราที่ลึกลับอย่างยิ่งประสานมุทราออกมาจากมือเขา

ประตูมิติยักษ์อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนปรากฏขึ้นตรงหน้าเรือเหาะเทพสวรรค์ แผ่คลื่นแสงหม่นออกมา ไม่รู้ว่าไปที่ใด

“สร้างประตูมิติเคลื่อนย้ายเรือเหาะเทพสวรรค์ได้สบายเช่นนี้เลยหรือ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกที่อยู่ใต้ประกายเซียนเมฆเรืองรองพูดพึมพำ “เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์หลงหยวน เจ้าแกร่งกว่าที่ข้าคิดไว้อีก!”

อากาศสั่นสะเทือน เรือเหาะเทพสวรรค์เคลื่อนไปในประตูมิติช้าๆ

สงครามครั้งใหม่กำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้ว

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 266 ดินที่ให้บุตรแห่งโชคเติบโต

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 266 ดินที่ให้บุตรแห่งโชคเติบโต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เรื่องการปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหาร เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้คิดจะรับประโยชน์เพียงคนเดียว

ด้านหนึ่งคือแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็รู้เรื่องสาวกวิญญาณร้ายจู่โจม จะไม่แบ่งถ้วยน้ำแกงไม่ได้

อีกด้าน ลัทธิวิญญาณร้ายอยู่รอดมาหมื่นปีภายใต้การร่วมมือกันปิดล้อมของห้าดินแดน ย่อมมีศักยภาพแฝงลึกไม่อาจคาดเดาได้

จากในระดับหนึ่งไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายเดียวจะทำได้ง่ายๆ แต่เหมือนเป็นพันธมิตรของฝ่ายชั่วร้ายมากมายเสียมากกว่า

หากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทุ่มกำลังเต็มที่เพื่อทำลายล้างวิหารย่อยเจ็ดสังหารเล็กๆ ก็ไม่เหมาะสมเท่าไร

แต่หากเสียกำลังไปจนถึงศักยภาพแฝงของแดนศักดิ์สิทธิ์เพราะเหตุนี้ หรืออาจจะถูกลัทธิวิญญาณร้ายล้างแค้นอย่างบ้าคลั่ง ก็ไม่คุ้มค่าเลย

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เมื่อหมื่นปีก่อนแสดงออกให้เห็นว่าแข็งแกร่งมากเกินไป ดังนั้นจึงถูกปิดล้อมในผลึก เกือบจะถูกล้างบาง

ตอนนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ได้บุตรแห่งโชคเสิ่นเทียนมาไม่ใช่ง่ายๆ มีหวังจะยิ่งใหญ่ขึ้นแล้ว

จางหลงหยวนไม่อยากให้เกิดเหตุไม่คาดคิดในช่วงเวลาสำคัญ

เขาจึงมอบผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งของการปิดล้อมครั้งนี้ไปอย่างใจกว้าง แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกได้สามส่วน แดนเทวาแดนผาสุกอื่นๆ ได้สองส่วน

แน่นอนว่าผลประโยชน์พวกนี้จะให้กับสำนักที่ออกแรงช่วยเท่านั้น

หลังผ่านการหารือกัน ในพันธมิตรการปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหารครั้งนี้จึงมีสองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ หกแดนเทวารวมถึงสิบสองแดนผาสุก

สองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ในนั้นมีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกสองผู้อริยะเป็นผู้นำ

นอกจากนี้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังส่งผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์อย่างผู้อาวุโสบัวมรกต ผู้อาวุโสบัวขาวและผู้อาวุโสบัวแดงและผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณอีกสิบแปดคนมา

แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกส่งผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์อย่างผู้อาวุโสเสวี่ยอู่ ผู้อาวุโสหลิงอู่และผู้อาวุโสตันอู่กับผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณอีกสิบแปดคนมาเช่นกัน

ทางด้านหกแดนเทวาใหญ่ก็ส่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์หนึ่งคน ผู้สูงศักดิ์หกคนและผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองสิบแปดคน

สิบสองแดนผาสุกต่างส่งจุดสูงสุดระดับดวงจิตดรุณสามคนรวมถึงผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองสิบแปดคน

รวมกันแล้วมีผู้อริยะสองคน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สิบสองคน ผู้สูงศักดิ์หนึ่งร้อยแปดคน ผู้จริงแท้สามร้อยหกสิบคน

กองกำลังผู้บำเพ็ญเซียนยิ่งใหญ่เช่นนี้มากพอจะกวาดล้างสี่ทิศ

ต่อให้เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์เผชิญหน้ากับพันธมิตรเช่นนี้ก็ต้องเลี่ยงหลบไปชั่วคราว

นี่คือพลังของความสามัคคี!

…….

หลังจากงานเลี้ยงในวิหารแสวงบุญจบลง จางหลงหยวนไม่ได้ให้เวลาชนชั้นสูงของแดนเทวาและแดนผาสุกเตรียมตัวมากนัก

เพราะยามศึกต้องลงมือไม่ให้ข้าศึกทันระวังตัว เรื่องที่ประมุขเสวี่ยซาถูกจับคงจะไปถึงหูลัทธิวิญญาณร้ายในอีกไม่นาน

หากคนของวิหารเจ็ดสังหารรู้ข่าวนี้ก็อาจจะคิดเชื่อมโยงไปถึงอะไรบางอย่าง

หนูที่ซ่อนอยู่ในเงามืดพวกนี้ก็จะระวังตัวกันมากขึ้น หากไม่รีบลงมือจะมีโอกาสคว้าน้ำเหลวสูงมาก!

มิหนำซ้ำ ไม่มีใครรู้ว่าในแดนเทวาแดนผาสุกจะมีหนอนของลัทธิวิญญาณร้ายหรือไม่ ก่อนเริ่มปฏิบัติการ จะไว้ใจใครไม่ได้เด็ดขาด!

“เทียนเอ๋อร์ การปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหารครั้งนี้เป็นโอกาสดีในการหาประสบการณ์ เจ้าก็ไปด้วยเถอะ!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตบบ่าเสิ่นเทียน “เจ้าคือบุตรแห่งโชคที่สวรรค์ดูแล หากมีเจ้าอยู่ ศึกนี้จะต้องมีชัยอย่างแน่นอน!”

เมื่อสัมผัสได้ถึงความสำคัญที่ ‘ไร้ที่สิ้นสุด’ ในคำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต่อเสิ่นเทียนแล้ว อัจฉริยะหนุ่มสาวจากแดนเทวาและแดนผาสุกต่างอิจฉาอยู่ในใจ

หึ มีแต่คนบอกว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนเป็นผู้เหี้ยมโหดที่ยากจะพานพบได้ในหลายพันปี กระทั่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่ตกต่ำทุกคืนวันก็รุ่งเรืองขึ้นอีกครั้งภายใต้การนำของเขา

ไม่นึกเลยว่าวันนี้จะได้เห็นคนที่เอาแต่พึ่งดวงชะตา

แม้ต้องยอมรับว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนมีดวงชะตาใช้ได้ หามรดกกับหอคอยเทพสงครามมาให้แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

แต่เจ้ามองเสิ่นเทียนเป็นสิ่งมงคลของแดนศักดิ์สิทธิ์เพราะเหตุนี้ กระทั่งพาเดินทางไปปราบลัทธิวิญญาณร้ายด้วย นี่ก็อาจจะเล่นตลกกันเกินไปหน่อย!

ไม่กลัวว่าถึงตอนนั้นมีผู้แข็งแกร่งลัทธิวิญญาณร้ายบางคนคิดร้ายส่งศิษย์เจ้าไปแดนสุขาวดีหรือ

ความจริงแล้วจางหลงหยวนก็ไม่กลัวจริงๆ ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนศิษย์เขาก็เป็นบุตรแห่งโชค!

บุตรแห่งโชคบ้านใครสู้กับคนใหญ่คนโตในการตะลุมบอนบ้าง เขามีแต่เก็บศีรษะ เก็บโชคลิขิตพัฒนาตัวเองไป!

ความวุ่นวาย การฝึกฝน สงครามชุลมุน ล้วนแล้วแต่คือดินที่ให้บุตรแห่งโชคเติบโตได้ดีที่สุด

ในตำราโบราณพวกนั้นก็มีให้เห็นทั้งหมด!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางหลงหยวนคิดว่าตนได้สร้างโอกาสให้กับเทียนเอ๋อร์ ให้เขาแสดงดวงชะตาของตัวเอกแห่งชะตาสวรรค์ให้ถึงจุดสูงสุด!

……

แน่นอน ภายในใจเสิ่นเทียนปฏิเสธการตัดสินใจนี้ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

ถึงอย่างไรก็มีเพียงคนยากจนเท่านั้นที่ต้องเอาชีวิตเข้าไปเสี่ยงอันตรายในการต่อสู้เพื่อหาทรัพยากรและวิชา

ตอนนี้ยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางของเขาโด่งดัง หอคอยเทพสงครามก็โด่งดัง และยังมีคัมภีร์จักรพรรดิที่ไม่ได้ฝึกเป็นกอง

ตอนนี้ไม่ปิดด่านบำเพ็ญขายผ้าเอาหน้ารอดในแดนศักดิ์สิทธิ์อย่างว่าง่าย แต่จะไปปิดล้อมวิหารเจ็ดสังหารแห่งลัทธิวิญญาณร้ายอะไรนั่น สมองมีปัญหาหรือไร?

เมื่อคิดแล้วเสิ่นเทียนก็ตัดสินใจจะเรียนรู้การปฏิเสธ

เขาพูดกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ว่า “อาจารย์รับสั่งมา ศิษย์ไม่กล้าไม่ปฏิบัติตาม”

ใช่ เขาปฏิเสธความคิดปฏิเสธในใจตัวเอง

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นคำขอจากผู้นำอาจารย์ ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธจริงๆ

ประกายเซียนบนผิวกายของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมอีกครั้ง “ดี เสี่ยงอันตรายอย่างไม่เกรงกลัวต่างหากถึงจะมีเส้นทางเซียนยาวไกล”

ป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ในอกเสื้อเสิ่นเทียนลอยออกมาอีกครั้ง ผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แบ่งสายฟ้าประกายเซียนออกมาสายหนึ่งและหลอมรวมเข้าไปในนั้น

เมื่อประกายเซียนสายนี้แยกออก ก็เห็นได้ชัดว่าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เบาบางลงไปไม่น้อย

เหมือนกับเสียพลังไปอย่างมาก!

ป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์วางลงกลางฝ่ามือเสิ่นเทียน ก่อนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเอ่ยเสียงเฉยชา “ข้าเติมการโจมตีสามครั้งในป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ให้ใหม่แล้ว

เทียนเอ๋อร์ หากระหว่างปิดล้อมถูกสาวกวิญญาณร้ายระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ขึ้นไปโจมตี จำไว้ว่าต้องปกป้องตัวเองให้ดี ต้องรู้ว่าความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก ต่อให้เป็นชีวิตของผู้อริยะลัทธิวิญญาณร้ายสิบคนก็ไม่สำคัญเท่าเจ้า”

แม้เสียงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะเฉยชาไร้คลื่นอารมณ์ แต่เสิ่นเทียนรู้สึกได้ถึงความห่วงใยและให้ความสำคัญในคำพูดอาจารย์

เขารู้สึกอบอุ่นหัวใจขึ้นมา “อาจารย์วางใจเถอะ ข้าจะดูแลตัวเองให้ดี”

ความจริง ตอนที่หอคอยเทพสงครามมาลงโลกเล็กเทพสวรรค์ เยี่ยฉิงชางได้มอบป้ายคำสั่งหนึ่งให้เสิ่นเทียน

เมื่อถือป้ายคำสั่งเทพสงครามนี้จะติดต่อกับเยี่ยฉิงชางได้ตลอดเวลา กระทั่งหากจำเป็นยังเหนี่ยวนำให้หอคอยเทพสงครามทะลุมิติมาเยือนได้

เมื่อมีป้ายคำสั่งนี้ เสิ่นเทียนรู้สึกว่าขอแค่ตนระวังหน่อย การปิดล้อมลัทธิวิญญาณร้ายครั้งนี้ก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อตกลงเรื่องการปิดล้อมลัทธิชั่วร้ายกันแล้ว สองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างพาผู้สูงศักดิ์สวรรค์สิบสองคนกับผู้สูงศักดิ์หนึ่งร้อยแปดคนออกเดินทางไปก่อน

ส่วนผู้จริงแท้ระดับแก่นพลังทองสามร้อยกว่าคนที่เหลือจะทยอยกันได้รับข้อมูลไปสู่จุดเป้าหมายและกวาดล้างมารร้ายสาวกวิญญาณร้าย

พวกเขาคงสอดมือในการต่อสู้ตรงๆ ไม่ได้

ถึงอย่างไรในการต่อสู้ของระดับผู้อริยะและผู้สูงศักดิ์สวรรค์ ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับแก่นพลังทองไม่มีอำนาจต่อต้านอะไรเลยจริงๆ

แค่คลื่นพลังจากการต่อสู้ระดับผู้อริยะก็อาจจะสังหารผู้จริงแท้ได้เป็นกอง

แน่นอนว่าเสิ่นเทียนเปิดสูตรโกง จึงเป็นกรณีพิเศษ

…….

บนเรือเหาะเทพสวรรค์ลำมหึมา มีกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งทยอยกันพุ่งขึ้นฟ้า

เสียงกลองสงครามดังขึ้น ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สว่างมากขึ้น

มองผ่านประกายเซียนไปจะเห็นตราที่ลึกลับอย่างยิ่งประสานมุทราออกมาจากมือเขา

ประตูมิติยักษ์อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อนปรากฏขึ้นตรงหน้าเรือเหาะเทพสวรรค์ แผ่คลื่นแสงหม่นออกมา ไม่รู้ว่าไปที่ใด

“สร้างประตูมิติเคลื่อนย้ายเรือเหาะเทพสวรรค์ได้สบายเช่นนี้เลยหรือ”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกที่อยู่ใต้ประกายเซียนเมฆเรืองรองพูดพึมพำ “เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์หลงหยวน เจ้าแกร่งกว่าที่ข้าคิดไว้อีก!”

อากาศสั่นสะเทือน เรือเหาะเทพสวรรค์เคลื่อนไปในประตูมิติช้าๆ

สงครามครั้งใหม่กำลังจะเปิดฉากขึ้นแล้ว

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+