บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 428 แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ผู้โดดเด่นกว่าใครเพียงหนึ่งเดียว!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 428 แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ผู้โดดเด่นกว่าใครเพียงหนึ่งเดียว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 428 แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ผู้โดดเด่นกว่าใครเพียงหนึ่งเดียว!

แสงสว่างข้างหลังกุ้ยกงกงสว่างขึ้นเรื่อยๆ ดวงตะวันร้อนแรงหกดวงเหมือนเตาหลอมฟ้าดิน!

เขาเดินหน้า เหยียบสายรุ้งเทพดวงตะวัน สว่างแสบตาถึงที่สุด เดินกดดันไปทางยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ด

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันพุ่งไปยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ดแล้ว!”

“เขาจะทำได้จริงๆ รึ”

ทุกคนมีสีหน้าหวาดกลัว ดวงตาไม่กะพริบ

คัมภีร์จักรพรรดิสุริยันที่กุ้ยกงกงฝึกฝนเดิมทีมีต้นกำเนิดเดียวกับคัมภีร์เทพยุทธ์เก้าตะวัน!

คัมภีร์เทพยุทธ์เก้าตะวันเป็นเพียงส่วนแตกแขนงของคัมภีร์จักรพรรดิสุริยัน

คัมภีร์จักรพรรดิสุริยันต่างหากคือของแท้ พลังที่เผยออกมาย่อมทำให้คนตื่นตกใจได้ง่ายกว่า

ดังนั้น ทุกคนจึงคิดเหมือนกันว่ากุ้ยกงกงคือบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันที่แท้จริงมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง

มองบุตรศักดิ์สิทธิ์ปลอมที่แกร่งกว่าเขาพลางอยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

บึ้ม!

แสงสว่างจ้า ส่องสะท้อนฟ้าดิน!

กุ้ยกงกงเคลื่อนหกตะวันกลายเป็นดาวตกฝนเพลิงพุ่งโจมตีใส่ยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ด!

พริบตาเดียวประกายไฟพุ่งขึ้นฟ้า สีสันหลากสีโดดเด่น!

ยอดเขาวิญญาณยิงแสงสว่างพร่างพราวออกมา เหนี่ยวนำหมื่นวิชาตกลงมา พลังวนเวียนหนาทึบยิ่งใหญ่

ประกายเซียนมันวาวปกคลุมรอบนอกยอดเขา กลายเป็นม่านเซียนธารน้ำเงินตกลงมาจากยอดเขา ตัดขาดทุกอย่าง

ดวงตะวันร้อนแรงปะทะกับม่านแสง เกิดคลื่นกระเพื่อมไม่มีสิ้นสุด ทำให้กฎเกณฑ์สั่นกระเพื่อม!

โอรสสวรรค์ทุกคนมีสีหน้าจริงจัง “เปิดไม่ได้รึ”

พลังที่กุ้ยกงกงกระตุ้นออกมาน่ากลัวอย่างยิ่ง แม้จะเทียบกับการโจมตีของจุดสูงสุดดวงจิตดรุณที่สำเร็จด้วยแก่นพลังทองเก้ารอบไม่ได้ แต่ก็ไม่ต่างกันมาก

แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังไม่อาจเปิดยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ดได้หรือ

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันถอนหายใจโล่งอก “ยังดีๆ”

หากกุ้ยกงกงเปิดได้จริงๆ บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันกังวลว่าผู้อาวุโสในแดนศักดิ์สิทธิ์พวกนั้นจะกำจัดเขาออกจากตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์จริงๆ

จากนั้นก็โยนกิ่งใบสมอสันติภาพให้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์ปลอมที่โผล่มาจากที่ใดไม่รู้

ถึงอย่างไรกุ้ยกงกงก็แสดงกำลังรบออกมาได้แกร่งมาก บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันยังละอายใจเทียบไม่ได้ เกิดความรู้สึกอันตรายในใจอย่างรุนแรง

ทว่าจากนั้นบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันก็ดวงตาเหม่อลอย ตัวสั่นอย่างรุนแรง

เพราะเขาเห็นว่ากุ้ยกงกงไม่ได้ยอมแพ้ แต่นำกระบี่ยาวที่มีแสงทองไหลเวียนออกมา

กระบี่ยาวขยับแสงวาววับ มีอัคคีเทพสุริยันวนเวียน พลานุภาพน่าสะพรึงถึงที่สุด!

เมื่อรู้สึกถึงอานุภาพของกระบี่ยาวนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันถึงกับหลุดเสียง “ไม่ใช่กระมัง ยังมีอาวุธอริยะอีกรึ”

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรู้สึกเหลือเชื่อ ไม่อยากเชื่อว่ากุ้ยกงกงจะมีอาวุธอริยะอีก!

อีกทั้งยังเป็นกระบี่อริยะที่ประสานกับวิชา เพิ่มกำลังรบได้อย่างมากที่สุด!

ต้องรู้ว่าเขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน ยังไม่มีอาวุธอริยะเลย แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ปลอมนี่กลับมีอาวุธอริยะกระบี่ยาว!

ขอพูดความจริง บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันอิจฉาแล้ว!

เขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ ยังเทียบกับพวกไร้ชื่อเสียงเรียงนามไม่ได้!

มีสิทธิ์อะไรกัน

….

ตอนนี้ ในใจโอรสสวรรค์คนอื่นมีความคิดไม่ต่างกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันเท่าไร เพราะอย่างไรอาวุธอริยะก็ไม่ใช่ผักกาดขาวข้างถนน แต่เป็นทรัพยากรหายาก!

ต่อให้เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์จากทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ได้มาครองกันง่ายๆ ดังนั้น ทุกคนจึงยิ่งมั่นใจว่ากุ้ยกงกงคือบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน

ถึงอย่างไรแม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์ยังอาจจะไม่ได้มีกันง่ายๆ หากไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์ จะไปมีอาวุธอริยะที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร

เหตุผลนี้ก็ชัดเจนอยู่แล้ว!

ความจริง กระบี่อริยะตะวันเดือดในมือกุ้ยกงกง เสิ่นเทียนได้มาจากสุสานจักรพรรดิอีกาทอง!

มหาจักรพรรดิอีกาทองมอบป้ายคำสั่งมหานทีให้เสิ่นเทียน ย่อมมอบสมบัติในสุสานทั้งหมดให้กับเขา

เสิ่นเทียนก็เจอกระบี่อริยะเล่มนี้จากในกองสมบัติของมหาจักรพรรดิอีกาทอง

กระบี่อริยะเล่มนี้ไม่ได้มีประโยชน์กับเสิ่นเทียนมาก เขามีกระบี่คู่ม่วงครามและกระบี่ฟ้าสังหารแล้ว

จึงมอบกระบี่อริยะตะวันเดือดให้กับกุ้ยกงกง ถึงอย่างไรก็ไม่อยากให้ผลประโยชน์ไปตกอยู่ในมือคนนอก ประจวบเหมาะกับที่กระบี่อริยะตะวันเดือดสอดคล้องกับคัมภีร์จักรพรรดิอีกาทองที่กุ้ยกงกงฝึกฝน ทำให้กำลังรบของกุ้ยกงกงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

หลังจากกุ้ยกงกงได้กระบี่อริยะตะวันเดือดมา ก็ชอบจนวางไม่ลง

ตอนนั้นถึงกับจะใช้กระบี่อริยะตะวันเดือดนี้ตอบแทนคุณองค์ชาย ปกป้องความปลอดภัยและเกียรติขององค์ชาย

และตอนนี้คือโอกาสดีมาก!

…..

กุ้ยกงกงถือกระบี่อริยะตะวันเดือด อาบอัคคีเทพตะวัน เหมือนกับควบคุมดวงตะวันฟ้าดิน!

แสงเทพดวงตะวันยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ส่องสะท้อนฟ้าดิน ทำให้แสงเทพบนยอดเขาวิญญาณถอดสีออกทั้งหมด!

กุ้ยกงกงกวัดแกว่งกระบี่อริยะตะวันเดือด ฟันแสงกระบี่ค้ำฟ้า ข้ามผ่านฟ้าดินลงมาอย่างเหี้ยมโหด!

ปราณกระบี่ร้อนแรงเหมือนกับแสงสว่างวูบวาบของดวงตะวัน พลันระเบิดออก เหนี่ยวนำฟ้าดินสั่นไหว กฎเกณฑ์ปั่นป่วน

ผนึกยอดเขาวิญญาณที่แข็งแกร่งไม่อาจทำลายได้ก็ยังถูกฟันแตกลาย แสงเทพสว่างจ้า!

“มีหวังรึ”

เมื่อเห็นภาพนี้ โอรสสวรรค์ทุกคนตาเป็นประกาย

พวกเขาก็อยากดูว่ายอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ดจะอัศจรรย์เพียงใดกัน

ถึงอย่างไรโอรสสวรรค์รุ่นนี้ก็ไม่มีใครแตะต้องยอดเขาวิญญาณลูกใกล้กับด้านหน้าได้มากขนาดนี้!

…..

กุ้ยกงกงมีสีหน้าตื่นเต้น เห็นความหวังจะเปิดได้แล้วก็ระเบิดพลังไม่มีกักไว้อีก!

“ทำลายให้ข้า!”

กุ้ยกงกงตะโกนเสียงเบา กระบี่อริยะตะวันเดือดฟันออกไปกลางอากาศ

แสงเทพถูกเหนี่ยวนำ อัคคีเทพสุริยันตัดสลับกันรวมเป็นทานตะวันสุริยันตกลงมาทันที

ตึง!

ฟ้าดินสั่นสะเทือน ยอดเขาวิญญาณโคลงเคลง!

ในที่สุดยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ดก็รับไม่ไหว ถูกกุ้ยกงกงฟันสองกระบี่พังลง แสงเทพกระจายไปรอบๆ

พลังวิญญาณเข้มข้นเหมือนกับคลื่นยักษ์ล้นฟ้า กระเพื่อมโหมซัดสาด ระบายออกมาจากยอดเขาวิญญาณ ลุกลามไปในฟ้าดิน

โอรสสวรรค์ทุกคนตื่นตกใจอย่างยิ่ง เหมือนอยู่ในมหาสมุทรพลังวิญญาณ รับแรงกระแทกของพลังวิญญาณ

สมกับเป็นยอดเขาวิญญาณที่อยู่แถวหน้า ยอดเขาวิญญาณแถวหลังไม่อาจเทียบได้เลย

ระดับความเข้มข้นของพลังวิญญาณยอดเขาลูกที่ยี่สิบเอ็ดเหนือกว่ายอดเขาวิญญาณลูกที่สามสิบหลายเท่า พลังวิญญาณรวมเป็นหมอกแล้ว

…..

แต่เทียบกับยอดเขาวิญญาณแล้ว ทุกคนให้ความสำคัญกับกุ้ยกงกงที่เปิดยอดเขาวิญญาณได้มากกว่า

นั่นคือยอดเขาวิญญาณที่ต้องมีกำลังรบจุดสูงสุดดวงจิตดรุณที่สำเร็จด้วยแก่นพลังทองเก้ารอบถึงจะทำลายได้ แต่กลับถูกกุ้ยกงกงฟันทำลายด้วยสองสามกระบี่!

นี่จะไม่ทำให้คนตกใจได้อย่างไร

โอรสสวรรค์หลายคนพากันสนทนากัน “แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันมีบุตรศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ ถูกลิขิตไว้ว่าไม่ให้ธรรมดาจริงๆ!”

“แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันได้สมบัติล้ำค่าไปจริงๆ ไม่อยากเชื่อว่าจะหาโอรสสวรรค์เช่นนี้มาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้!”

“เฮ้ย ดูท่าแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าจันทราของข้าคงถูกแซงหน้าไปแล้ว!”

…..

ไม่ใช่แค่มีคนชมเชยความแกร่งของกุ้ยกงกง กระทั่งยังมีคนเดินเข้ามาจะผูกมิตรกับกุ้ยกงกง

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน ข้าคือบุตรศักดิ์สิทธิ์ผลาญฟ้า หวังว่าจะได้ศึกษาบำเพ็ญร่วมกับบุตรศักดิ์สิทธิ์”

“ข้าคือศิษย์สายตรงแดนเทวา หวังว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันจะชี้แนะได้”

“บ่าวมาจากแดนเทวาครองคู่ ไม่รู้ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันมีคู่ครองแล้วหรือไม่”

…..

โอรสสวรรค์แก่นพลังทองหกรอบเจ็ดรอบพวกนี้ ไม่มีศักยภาพพอจะเปิดยอดเขาวิญญาณ ดังนั้นพวกเขาจึงอยากผูกมิตรกับโอรสสวรรค์ที่เกิดยอดเขาวิญญาณได้

บางทีอาจจะได้เกาะเข้าไปฝึกในยอดเขาวิญญาณ!

ไม่มีใครปฏิเสธโอกาสในการเข้ายอดเขาวิญญาณได้!

มิหนำซ้ำ นี่ยังเป็นยอดเขาวิญญาณลูกที่ยี่สิบเอ็ด

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันได้ฟังคำพูดพวกนี้แล้วก็มุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง “ข้าต่างหากบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน! ข้าต่างหาก!”

กุ้ยกงกงทำหน้ามึนงง บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันเป็นใครกัน

แต่ไม่นานเขาก็ตั้งสติกลับมาได้ จึงเผยรอยยิ้ม “สหายทุกท่าน ข้าไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน! เป็นเพียงบ่าวรับใช้ของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เท่านั้น ข้าประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ได้ก็เพราะความเมตตาอันล้นพ้นขององค์ชาย”

หากไม่ได้เสิ่นเทียน กุ้ยกงกงก็ยังเป็นขันทีอยู่อาณาจักรต้าเหยียน จะไปได้รับความรู้สึกเป็นดาวล้อมเดือนได้อย่างไร

ความซาบซึ้งใจที่มีต่อเสิ่นเทียนในใจเขารุนแรงยิ่งกว่าเดิม

พอได้ฟังคำพูดของกุ้ยกงกง ทุกคนนิ่งอึ้งไป ตั้งตัวไม่ทัน

โอรสสวรรค์ที่แกร่งขนาดนี้ไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน แต่เป็นบ่าวรับใช้รึ

ล้อเล่นอะไรกัน

บ่าวรับใช้บ้านใครจะโหดได้ขนาดนี้

กำลังรบเทียบเท่ากับจุดสูงสุดดวงจิตดรุณที่สำเร็จด้วยแก่นพลังทองเก้ารอบ ทั้งยังให้อาวุธอริยะกับบ่าวรับใช้ แต่ข้ายังไม่มีอาวุธอริยะด้วยซ้ำ!

หืม ไม่ใช่สิ!

บ่าวรับใช้ของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์!

เช่นนั้นก็ไม่แปลกแล้ว!

แต่ว่าบ่าวรับใช้ของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังแกร่งขนาดนี้!

แล้วบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะไม่ขึ้นฟ้าไปเลยรึ

จิ๊ คนมีเงินขี้อวดจริงๆ!

…..

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีชื่อเสียงเลื่องลือห้าดินแดนมานานแล้ว โอรสสวรรค์พวกนี้ย่อมเคยได้ยินมา

หลังจากรู้ฐานะแท้จริงของกุ้ยกงกง โอรสสวรรค์ทุกคนก็มีแววตาเปลี่ยนไป เป็นตื่นตกใจและเคารพ!

โอรสสวรรค์ทุกคนพากันเยินยอ “ที่แท้สหายก็เป็นผู้ใต้บัญชาบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เสียมารยาทแล้วๆ!”

“ข้าก็ว่าแล้วสหายต้องไม่ใช่บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน กับอีแค่แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันจะมีท่วงท่าเซียนอย่างสหายได้อย่างไร”

…..

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันมุมปากกระตุกรัว รู้สึกสงสัยในชีวิต

เมื่อครู่ยังพูดประจบแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน ตอนนี้มาเริ่มทำลายกันแล้วรึ

ข้าเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันผู้ยิ่งใหญ่ หรือจะเทียบกับบ่าวรับใช้ข้างกายบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้กัน

ก็ได้ ถ้ามองจากกำลังรบ เหมือนจะสู้ไม่ได้ เช่นนั้นถ้าเทียบกับพรสวรรค์…ก็เหมือนจะสู้ไม่ได้เช่นกัน

ระยำ พวกเจ้าจะให้ข้าเทียบอย่างไร

คงสังหารข้าในกระบี่เดียวกระมัง!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวัน ไม่เป็นมันแล้ว!

น่าคับอกคับใจชะมัด!

…..

เมื่อเห็นกุ้ยกงกงเปิดยอดเขาวิญญาณ สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ก็ทนไม่ไหว พากันก้าวออกมา

ยอดเขาวิญญาณพวกนี้ไม่ใช่ที่อาศัย แต่ยังเพิ่มพลังบำเพ็ญได้อย่างมหาศาล ไม่มีใครยอมแพ้

มิหนำซ้ำ สิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์ดินแดนกลางที่สู้กันก่อนหน้านี้ สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ยังได้ตระหนักรู้ด้วย

พลังบำเพ็ญพวกเขาทะลวงถึงจุดสูงสุดดวงจิตดรุณพร้อมกัน กระทั่งห่างจากระดับหลอมรวมเทพไม่ไกล

ด้วยพรสวรรค์สูงสุดกับกำลังรบจุดสูงสุดดวงจิตดรุณ การที่สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์จะเอาเขาวิญญาณลูกหนึ่งไม่ยากเลย!

สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์พากันพุ่งขึ้น ประกายสายฟ้าสั่นไหวข้างหลัง เหมือนเทพเจ้าผู้คุมสายฟ้า พลังอำนาจน่าเกรงขาม!

สี่คนยืนกลางฟ้าอย่างโอหัง เหมือนเทพเหมือนมาร พลังอำนาจสั่นสะเทือนฟ้าดิน!

เหล่าโอรสสวรรค์ถูกดึงดูดเข้ามา สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังน่าสะพรึงจากในอากาศ พวกเขาตัวสั่นสะท้านขึ้น “เป็นสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์!”

“พวกเขาจะออกมือรึ จะเลือกยอดเขาวิญญาณใด”

โลกภายนอกมีคำเล่าขานว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่แกร่งที่สุดของดินแดนบูรพา โอรสสวรรค์ในนั้นมีสุดยอดพรสวรรค์!

โดยเฉพาะสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ นั่นคือโอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดรองจากบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เทียบได้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น!

ศักยภาพของกุ้ยกงกงก็สยบทุกคนแล้ว!

สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ที่แกร่งกว่ากุ้ยกงกงจะแกร่งเพียงใดกัน!

ทุกคนเพ่งสมาธิมองสี่คน นัยน์ตาเต็มไปด้วยการเฝ้ารอคอย!

……

สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ข้ามยอดเขาวิญญาณด้านหลังมาอยู่หน้ายอดเขาวิญญาณสิบลูกแรก

เหล่าโอรสสวรรค์เบิกตาโต ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นกลัว “ไม่กระมัง ไม่กระมัง ไม่กระมัง!”

“สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ เลือกท้าสู้ภูเขาวิญญาณสิบลูกแรกรึ”

เหล่าโอรสสวรรค์ตื่นตกใจ แม้สี่อัจฉริยะจะมีชื่อเสียงเลื่องลือ ได้รับขนานนามว่าสุดยอดโอรสสวรรค์ แต่นี่ก็อาจจะน่าตกใจไปหน่อย

บุตรศักดิ์สิทธิ์สุดยอดคนอื่นยังหยั่งเชิงกับยอดเขาวิญญาณหลายลูกสุดท้ายกันอย่างบ้าคลั่งอยู่เลย

สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ก็วิ่งไปยอดเขาวิญญาณสิบลูกแรกแล้วรึ

ความรู้สึกต่างกันนี้อาจจะมากไปหน่อยกระมัง!

เหล่าโอรสสวรรค์เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง “ผู้อาวุโสซูบอกว่ายอดเขาวิญญาณสิบลูกแรกต้องมีกำลังรบเทียบเท่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตอนกลางถึงจะทำลายได้กระมัง”

“สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ท้าสู้กับยอดเขาวิญญาณสิบลูกแรก นี่จะต้องกล้าหาญ ต้องมั่นใจเพียงใดกัน”

“หรือว่าพวกเขาแค่อยากเด่นกัน”

เหล่าโอรสสวรรค์ยังคงไม่เชื่อว่าสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์จะโจมตีภูเขาวิญญาณสิบลูกแรกได้!

ทุกคนล้วนเป็นผู้สืบทอดของแดนศักดิ์สิทธิ์ สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์มีสิทธิ์อะไรถึงกล้าโอ้อวดเช่นนี้

แม้แต่ผู้อาวุโสซูยังดึงสติกลับมา ชมการต่อสู้อย่างสนใจ!

ยอดเขาวิญญาณสามสิบหกลูกไม่ธรรมดาเลย วางผนึกฟ้าดินเต็มไปหมด มีเพียงโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคถึงจะมีคุณสมบัติทำลายได้

ธรณีประตูต่ำที่สุดจะต้องมีกำลังรบดวงจิตดรุณตอนปลายที่สำเร็จด้วยแก่นพลังทองแปดรอบ

ยอดเขาวิญญาณลูกที่สิบถึงห้ายังต้องมีกำลังรบของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตอนกลางถึงจะทำลายได้!

ในทุกรุ่นที่ผ่านมา มีโอรสสวรรค์ที่เปิดยอดเขาวิญญาณสิบลูกแรกได้น้อยยิ่งกว่าน้อย เปิดได้ลูกหนึ่งก็มากพอจะมีชื่อเสียงเลื่องลือจี้เซี่ย

สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์จะท้าสู้กับยอดเขาวิญญาณสิบลูกแรก เรียกได้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทุกคนยังสนทนากัน แต่สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ออกมือแล้ว

“ศิษย์พี่ทุกท่าน ศิษย์น้องขอไปก่อนละ!”

จ้าวเฮ่าป้องมือก่อนจะนำหน้าไปก่อน

เขาแบกบรรทัดอริยะเมฆาชาดพุ่งไปยอดเขาวิญญาณลูกที่แปด!

จ้าวเฮ่าควงบรรทัดอริยะใหญ่ ดูไม่หนักเลยสักนิด แต่กลับเบามาก

บรรทัดยักษ์หมุนวนอากาศ เปลวไฟและสายฟ้าถาโถมออกมา พลังน่ากลัวถึงที่สุดเหมือนจะพลิกทะเล ทำลายภูแม่น้ำ!

จ้าวเฮ่าควงบรรทัดยักษ์เดินหน้าเข้าไปเหมือนควงภูเขาเทพบรรพกาล พลังหนักอึ้งหมื่นชั่ง!

ยอดเขาวิญญาณลูกที่แปดมีผนึกแข็งแกร่งยิ่ง กฎเกณฑ์มากมายรวมเป็นรูปร่าง เกิดเป็นโล่ยักษ์กฎเกณฑ์ แข็งแกร่งจนไม่อาจทำลายได้!

ทว่าภายใต้การโจมตีอย่างบ้าคลั่งของจ้าวเฮ่ากลับเกิดเสียงเหมือนฟ้าผ่า แสงเทพสั่นสะท้าน ถูกทำลายเป็นรูใหญ่!

….

จางอวิ๋นถิงส่ายหน้าพลางยิ้มแห้งๆ “ศิษย์น้องจ้าว ป่าเถื่อนจริงๆ เลย!”

เขาเดินหน้าเข้าไป ร่างรวดเร็วดั่งห่านป่าบิน นำพิณเจ็ดสายมังกรฟ้าออกมา

ดีดเสียงพิณละเอียดอ่อนโจมตีใส่ยอดเขาวิญญาณลูกที่เจ็ด

เสียงพิณนุ่มนวลอ่อนหวาน ทำให้คนตกอยู่ในห้วงดนตรีงดงามที่สุด แต่เมื่อตั้งใจสัมผัสกลับพบว่าเสียงพิณพวกนี้ดังชิ้งๆ เหมือนกองทหารนับพันนับหมื่นตะโกนเข่นฆ่ากัน

เสียงพิณกลายเป็นดาบแหลมคมลากผ่านท้องนภา ประกายคมแหลมเหมือนจะฉีกฟ้าดิน

ผนึกของยอดเขาวิญญาณลูกที่เจ็ดสร้างคลื่นยักษ์ภายใต้การจู่โจมของจางอวิ๋นถิง กฎเกณฑ์มากมายพังทลายลง!

ฟางฉางดวงตาวาววับ ส่ายหน้าพลางถอนหายใจ “ศิษย์น้องรองซ่อนพลังไว้ลึกจริงๆ!”

จางอวิ๋นถิงอยู่เงียบๆ มาตลอด ศักยภาพเป็นความลับ แต่กำลังรบที่เขาสำแดงออกมาตอนนี้ไม่อ่อนแอไปกว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตอนกลางเลย!

ฟางฉางกลอกตาก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น “ศิษย์น้องหญิง เจ้าจะสู้กับลูกใด”

จนเมื่อเขาละสายตากลับมาก็เห็นจางอวิ๋นซีพุ่งไปทางยอดเขาวิญญาณลูกที่หก

ฟางฉางพูดเสียงดัง “ศิษย์น้องหญิงเจ้าไปไม่บอกสักคำ รอข้าด้วย!”

พูดจบ ฟางฉางก็เรียกทวนราชันอหังการมังกรกล้าออกมาพุ่งไปที่ยอดเขาวิญญาณลูกที่ห้า!

ตึงๆๆ!

บึ้มๆๆ!

เกิดเสียงดังสนั่นไปทั้งโลกเล็ก!

จางอวิ๋นซีกวัดแกว่งกระบี่อริยะหงส์ทอง อัสนีเทพกำเนิดฟ้าธาตุทองมากมายไหลมารวมกันเป็นกระบี่ชี้ฟ้า ขวางกลางฟ้าดิน!

บึ้ม!

ประกายกระบี่สว่างจ้าพุ่งไปยังยอดเขาวิญญาณลูกที่หก เหนี่ยวนำผนึกมากมายพุ่งขึ้นฟ้า แสงเรืองรองบดบังดวงตะวัน ปกคลุมท้องนภา

หนึ่งกระบี่!

สองกระบี่!

สามกระบี่!

ผนึกของยอดเขาวิญญาณลูกที่หกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง กฎเกณฑ์วนเวียนเหมือนถูกฟันขาดเป็นรอยแยกใหญ่!

ฟางฉางควงทวนราชันอหังการมังกรกล้าโจมตีใส่ยอดเขาวิญญาณลูกที่ห้า

พริบตาเดียว พลังทวนไม่มีสิ้นสุดก็ไหลหลากออกไป พลังเทพน่าสะพรึงหมุนม้วนฟ้าดิน แทงผนึกแตกเป็นรูมากมาย!

ผ่านไปไม่นานนัก ยอดเขาวิญญาณลูกที่สี่ก็ถูกสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ทำลายลงทั้งหมด

แสงเรืองรองบดบังฟ้าบังดวงตะวัน สั่นสะเทือนส่องสว่างท้องนภา!

คนมากมายเบิกตาโตอ้าปากค้าง มองสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์หน้ายอดเขาวิญญาณสี่ลูก ภายในใจเกิดคลื่นลูกใหญ่

มีคนถึงกับหลุดเสียงร้องตกใจ “เป็นไปได้อย่างไร”

สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ใช้พลังบำเพ็ญจุดสูงสุดดวงจิตดรุณระเบิดกำลังรบของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตอนกลางได้!

แม้แต่สี่ยอดเขาวิญญาณยังยืนหยัดไม่ได้นานนัก ก็พังทลายลงหลังสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์จู่โจมใส่ร้อยกระบวนท่า

แม้จะใช้อาวุธอริยะก็ยังน่าตกใจอย่างยิ่ง!

ถึงอาวุธอริยะจะหายาก แต่ก็มีเพียงบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ได้!

แต่พวกเขาใช้อาวุธอริยะก็ไม่มีทางไปถึงกำลังรบเท่าสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์!

นี่เปรียบได้กับเด็กสามขวบถือดาบมาข่มขู่ย่อมน่าเกรงขามกว่าเด็กที่ไม่มีดาบ!

แต่จะเทียบกับชายวัยกลางคนได้หรือ สองสิ่งนี้มันคนละระดับกันเลย!

…..

น่ากลัวมาก!

ศิษย์สายตรงเทพสวรรค์รุ่นนี้แข็งแกร่งที่สุดจริงๆ!

ไม่รู้ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่ยังไม่ออกมือคนนั้นจะมีพรสวรรค์สูงสุดเพียงใด ถึงทำให้โอรสสวรรค์สูงสุดยอมติดตามกันมากขนาดนี้!

แค่คิดก็ทำให้คนเลือดร้อนขึ้นมาแล้ว!

……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด