บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 499 กระบี่นี้ เป็นที่สุดในประวัติการณ์

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 499 กระบี่นี้ เป็นที่สุดในประวัติการณ์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 499 กระบี่นี้ เป็นที่สุดในประวัติการณ์

เซียนชั่วร้ายสามตนยืนกลางอากาศ ภายในกายมีปราณชั่วร้ายมหาศาลไหลเวียน บดบังฟ้าบังดวงตะวัน

ท้องนภามืดครึ้ม ลึกไร้แสงสว่าง

กลิ่นอายชั่วร้ายกระจายไปรอบๆ กระชากจิตวิญญาณคน

วิญญาณร้ายพวกนี้ ถึงขั้นแกร่งกว่าเซียนแท้วิญญาณร้ายสามตนก่อนหน้านี้

วิญญาณร้ายที่นำหน้ามามีเปลวเพลิงร้อนแรงวนเวียนรอบกาย อานุภาพสั่นสะท้านจิตวิญญาณ เผาผลาญห้วงอากาศหมื่นลี้ได้สบาย

มันเหมือนเทพชั่วร้ายมาเยือนโลกจากเหวลึกขุมนรก ไม่อาจเอาชนะได้เลย

เห็นได้ชัดว่าศักยภาพของมันเหนือเกินกว่าเซียนแท้ตนอื่นมาก

มันคือผีร้ายผู้นำเผ่าวิญญาณร้าย!

วิญญาณร้ายต่างแดนก็นำทัพโดยมัน บุกเข้ามาดินแดนทักษิณ

ภาพนี้ทำให้ทุกคนหน้าเหมือนเถ้าถ่าน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ผู้บำเพ็ญที่มีพลังบำเพ็ญอ่อนแอล้มลงหมดสติไปแล้ว ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งเตรียมเซียนก็ยังมีสีหน้าหวาดกลัว ทำอะไรไม่ถูก

ด้วยกำลังตอนนี้ของห้าดินแดน ไม่มีใครต้านเซียนแท้สามตนนี้ได้เลย

หรือว่าดินแดนทักษิณจะต้องล่มสลายลงจริงๆ

……..

เซียนแท้สามตนมองไปรอบๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม

ในมุมมองพวกมัน คนพวกนี้เป็นดั่งมดปลวก ก่อคลื่นลมอะไรไม่ได้เลย

มีเพียงเสิ่นเทียนที่ทำให้ยอดเซียนแท้ทั้งสามสนใจ

ราชาภูตยิ้มเยาะ “เจ้าหนู คิดดีรึยัง เจ้ามอบสมบัติมาเสียดีๆ หรือว่าอยากถูกทรมานจนตายล่ะ”

มันมองกระดานหมากฟ้าขุ่นเป็นของในกระเป๋าตนแล้ว แค่อยากดูการดิ้นรนก่อนตายของมนุษย์เท่านั้น

เสิ่นเทียนเผยดวงตาเฉียบคม เอ่ยเหมือนแท่งน้ำแข็งทิ่มแทงกระดูก “เก่งจริงก็เข้ามาเอาเองสิ!”

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งเซียนแท้ในสภาพสูงสุด

เซียนชั่วร้ายในตอนนั้นไม่นับ ถึงอย่างไรมันก็บาดเจ็บสาหัส กำลังรบลดลงอย่างมาก อีกทั้งเสิ่นเทียนยังอาศัยกระดานหมากฟ้าขุ่นหลอมละลายมัน ไม่ได้ปะทะ

ตอนนี้โอรสสวรรค์ห้าดินแดนควบคุมกระดานหมากฟ้าขุ่นอยู่ ทำให้เสิ่นเทียนเสียกำลังเสริมไปอย่างมาก

แต่เขาไม่สนใจ เพราะเขาไม่ได้มีไพ่ตายแค่นี้

เขาก็อยากจะรู้เหมือนว่ากำลังรบตนไปถึงระดับใดแล้ว

…..

ราชาภูตหัวเราะเยาะ ก่อนทำเสียงขึ้นจมูก “เจ้าเด็กอวดดี พวกเจ้าไปฆ่ามัน!”

“ขอรับท่านราชาภูต!”

เซียนแท้วิญญาณร้ายสองตนได้ยินเช่นนั้นพลันพุ่งไปหาเสิ่นเทียน

พวกมันระเบิดแสงชั่วร้ายจากในกาย พลานุภาพโหมซัดสาดมาไม่ขาดสาย พุ่งขึ้นทะเลเมฆฟ้าเก้าชั้น

ปราณชั่วร้ายน่ากลัวพุ่งทะลักออกมา ส่องสะท้อนเป็นเงาชั่วร้ายสะท้านโลก

เงาชั่วร้ายสูงหลายหมื่นจั้ง ปกคลุมฟ้าดินเหมือนเทพชั่วร้าย

เซียนแท้สองตนดวงตาแดงฉาน คุมพลังแห่งฟ้าดินตบใส่เสิ่นเทียนอย่างเหี้ยมโหด

พริบตานั้นห้วงอากาศทลายลง

เงาชั่วร้ายน่ากลัวมาพร้อมกับพลังยิ่งใหญ่ เหมือนจะทำลายโลกนี้

เสิ่นเทียนดวงตาแวววาว พุ่งขึ้นเป็นแสงทองสว่างจ้าพุ่งขึ้นชั้นเมฆ

เขากำหมัด กลิ่นอายพลังสั่นสะเทือนแปดทิศ

พลังเลือดลมไหลหลากไปทั่วร่างเสิ่นเทียน ในสองหมัดมีพลังแห่งมังกรแท้วนเวียน อานุภาพหนักหมื่นชั่ง

หมัดหนึ่งชกออกไป สี่ทิศแตกกระจาย

ลำแสงหมัดเสิ่นเทียนปกคลุมโลก เหมือนมังกรเทพบรรพกาล เข่นฆ่ากับเซียนแท้วิญญาณร้าย

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นปานฟ้าร้อง สั่นสะเทือนฟ้าดิน

แขนเงาชั่วร้ายนั้นถูกหมัดทำลาย หมอกเทาฟุ้งกระจาย

เซียนแท้วิญญาณร้ายตัวสั่นอย่างรุนแรง ถูกแว้งกัดอย่างน่ากลัวยิ่ง พลันกระเด็นลอยไปหมื่นจั้ง

…..

และตอนนี้เอง เซียนแท้อีกตนลอบโจมตี

หมอกชั่วร้ายไร้ขอบเขตไหลหลากเข้ามา เหมือนธารน้ำยาวปฐพีเก้าชั้น พุ่งมาจากทะเลโลหิตขุมนรก

ในนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังที่ทำให้คนหวาดกลัว หลอมละลายเซียนแท้ได้ง่ายดาย!

เสิ่นเทียนตาลุกวาว เปลวไฟพุ่งขึ้นฟ้าจากข้างหลัง!

เพลิงเทพหมุนม้วนฟ้าดิน กดทับท้องนภา ทำให้สิ่งชั่วร้ายเงามืดถอยไป

ข้างหลังเขารวมเป็นเงาหงส์หมื่นจั้ง โผบินฟ้าเก้าชั้น เพลิงเทพหมื่นสาย

เพลิงหงส์เทพอมตะกับไฟแท้สุริยะถาโถมออกไป ย้อมท้องนภาเป็นสีแดงเพลิง

เพลิงเทพร้อนแรงกับธารน้ำยาวขุมนรกไหลมารวมกัน เปล่งแสงสว่างจ้าถึงขีดสุด

ทว่าภายใต้เพลิงเทพนี้ ปราณชั่วร้ายเต็มฟ้าพลันถอยไปเหมือนหิมะ แตกสลายไปไม่หยุดหย่อน

เปลวเพลิงพุ่งขึ้นฟ้าสามฉื่อ จู่โจมใส่เซียนแท้วิญญาณร้ายอย่างต่อเนื่อง

เซียนแท้วิญญาณร้ายเห็นเช่นนั้นก็มีสีหน้าหวาดกลัว

มันรีบถอยไป ไม่กล้าให้โดนตัวแม้แต่นิด

พลังนี้น่ากลัวยิ่งนัก ทำให้เซียนแท้บาดเจ็บสาหัสได้

…..

เมื่อเห็นกำลังรบเสิ่นเทียน เซียนแท้สองตนก็มีสีหน้าจริงจัง

พวกมันพบว่าเจ้ามนุษย์นี่จัดการยากกว่าที่คิดไว้

“เราช่วยกัน ดูว่ามันจะต้านอย่างไร!”

เซียนแท้ตนหนึ่งก้าวออกมา เหนี่ยวนำให้ท้องนภาสั่นไหวอย่างรุนแรง

เงาชั่วร้ายข้างหลังเขาเคลื่อนตาม พลานุภาพล้นฟ้า จู่โจมเข้ามา

เซียนแท้อีกตนคอยจ้องหาโอกาสและเคลื่อนไหว เคลื่อนปราณชั่วร้ายมหาศาลกลายเป็นอาวุธชั่วร้ายแหลมคม ทะลวงห้วงอากาศ

สองฝ่ายพลันปะทะกัน พลังเทพน่ากลัวสะท้านฟ้าดิน ท้องนภาแตกกระจาย

ต่อให้เผชิญหน้ากับเซียนแท้สองตน เสิ่นเทียนก็ยังไม่ตื่นตระหนก

ข้างหลังเขาทยอยกันเกิดปรากฏการณ์ขึ้น แสงเรืองรองส่องสว่าง เกิดภาพสีสันหลากสีขึ้น

บางครั้งเสิ่นเทียนสำแดงวิชาเทพสวรรค์ เคลื่อนอัสนีเทพกำเนิดฟ้ามากมายพุ่งฟ้าเก้าชั้น

ประกายสายฟ้าทะลวงผ่าน น่ากลัวยิ่ง ทำลายปราณชั่วร้ายเซียนแท้วิญญาณร้ายแตกกระจาย ใบหน้าดำเกรียม

บางครั้งสำแดงวิชากิเลน เดินเก้าก้าวกิเลน ทุกก้าวเต็มไปด้วยอำนาจคุกคาม เหมือนขุนเขาเทพบรรพกาลตกลงมา อีกทั้งอานุภาพยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเสิ่นเทียนเดินก้าวสุดท้าย เซียนแท้สองตนถูกกระแทกถอยไปหมื่นลี้

ทว่าทุกอย่างยังไม่จบลง เสิ่นเทียนออกมือไม่หยุด สำแดงวิชาสูงสุดของร้อยแปดขุนพลบรรพกาลถึงขีดสุด

ทุกวิชาจะเป็นสัญลักษณ์ของเจตจำนงมรรคสูงสุดอย่างหนึ่ง มีอานุภาพมหาศาล!

เซียนแท้สองตนหนังแตกเนื้อฉีกขาด ร้องโอดครวญไม่หยุด

พวกมันรู้สึกเหมือนตนถูกผู้แข็งแกร่งสุดยอดร้อยแปดคนปิดล้อมโจมตี ศีรษะดังวิ้งๆ ไปหมด

ทว่าทุกครั้งที่พวกมันคิดจะสวนกลับ เสิ่นเทียนจะหนีเข้ามิติ หลบการโจมตี

เซียนแท้สองตนโมโหคลั่ง ตะโกนด้วยความโกรธ “เจ้าเด็กเหม็นโฉ่ เก่งจริงก็อย่าหนีสิ! กล้าสู้กับพวกข้าซึ่งหน้าหรือไม่!”

พวกมันทนการโดนทรมานเช่นนี้ไม่ไหว อยากจะตัดสินแบบลูกผู้ชายกับเสิ่นเทียน

และตอนนี้เอง ในที่สุดเสิ่นเทียนก็หยุดนิ่ง ก่อนเอ่ยอย่างเฉยชา “ไฉนจะไม่กล้า ฝึกมาพอแล้ว ถึงเวลาจบการเล่นครั้งนี้เสียที”

เขาเพียงแค่เอาเซียนแท้สองตนเป็นหินลับดาบ ใช้ขัดเกลาเจตจำนงมรรคของตน

หลังผ่านการขัดเกลาในช่วงนี้ไป เสิ่นเทียนยิ่งตระหนักในเจตจำนงมรรคร้อยแปดชนิดลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

กระทั่งแม้แต่ยอดพลังวิเศษปรากฏการณ์ครอบจักรวาลยังพัฒนาไปอีกขั้น

ถึงเวลาจบการต่อสู้น่าเบื่อนี่แล้ว!

….

เซียนแท้สองตนเห็นดังนั้นก็เผยแววตาเหี้ยมโหด

เจ้าหนูนี่อวดดีนัก โดนข้ายั่วยุทีเดียวก็ติดกับ!

ครั้งนี้ข้าอยากรู้นักว่ามันจะตายอย่างไร!

เสิ่นเทียนมีกลอุบายลี้ลับ หากใช้เจตจำนงมรรคตลอด ก็คงทำอะไรเขาไม่ได้

แต่ตอนนี้ เสิ่นเทียนกลับโอหังเสียจนจะปะทะกับพวกมันซึ่งหน้า เซียนแท้วิญญาณร้ายจะไม่ดีใจได้อย่างไร

เซียนแท้สองตนหัวเราะเยาะ “ฆ่า!”

พวกมันพุ่งทะยานไปข้างหน้า กดดันเสิ่นเทียน

พริบตานั้น ฟ้าดินพลันมืดครึ้มลงมาก

หมอกชั่วร้ายมหาศาลปกคลุมฟ้าดิน แสงสีเลือดพุ่งออกไป

ดวงตาสีเลือดปรากฏขึ้นกลางหมอกเทา สีแดงฉานแสบตาเหมือนตะวันโลหิต กระชากจิตวิญญาณคน

แสงสีเลือดมากมายตกลงมาจากฟ้า ปกคลุมโลกเหมือนพายุฝนดอกสาลี่

นี่คือวิชาต้องห้ามสูงสุดของเผ่าวิญญาณร้าย น่าสะพรึงถึงขั้นสังหารเตรียมจักรพรรดิได้

……

ทุกคนตื่นตกใจ หนาวสั่นอย่างยิ่ง

พวกเขาเผยแววตากังวล ไม่รู้ว่าเสิ่นเทียนจะต้านไหวหรือไม่

ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นกระบวนท่าสังหารของเซียนแท้!

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนเคลื่อนไหวแล้ว

ข้างหลังเขาปรากฏแสงเทพไร้ขอบเขต

แสงเรืองรองพร่างพราวส่องสว่างไปรอบๆ วนเวียนหนาทึบ แสบตาถึงที่สุด

ปรากฏการณ์ร้อยแปดชนิดลุกโชนขึ้น กลายเป็นเทพโบราณร้อยแปดท่าน คำรามดังสนั่นจักรวาล

ขณะเดียวกันเสิ่นเทียนเปล่งแสงเทพทั้งตัว สว่างจ้าอย่างยิ่ง

ทวารพลันถูกปลุกขึ้น พลานุภาพสั่นสะเทือนฟ้าดิน

เสิ่นเทียนเหมือนราชันที่สุดแห่งยุค นำเทพโบราณร้อยแปดท่านสู้กับหมื่นโลก

เขามีสีหน้าเฉยเมย ชำเลืองตามองทุกสรรพสัตว์ “หมื่นวิถีครอบจักรวาล!”

ทันใดนั้นเทพโบราณร้อยแปดองค์เคลื่อนไหวพร้อมกัน แต่ละองค์มีหน้าตาน่าเกรงขาม กลิ่นอายพลังเอ่อล้นฟ้า

ฟ้าดินพลันแผ่พลังเทพมหาศาล ดินแดนหมื่นลี้พังทลายลงทันที

เทพโบราณร้องคำราม เหมือนดาราต่างแดนตกลงมา หมุนตลบฟ้าดิน

ชั่วพริบตาเดียว ดวงตาโลหิตมากมายถูกกดอัดระเบิดกระจายด้วยพลังนี้

วิชาต้องห้ามถูกทำลาย เซียนแท้สองตนกระอักเลือดคำใหญ่

พวกมันเผยแววตาตื่นกลัวยิ่ง รู้สึกถึงพลังที่ไม่อาจต่อต้านได้จู่โจมเข้ามา

“สู้ตาย!”

เซียนแท้สองตนกัดฟันด้วยความโกรธ โลหิตบริสุทธิ์ปะทุขึ้นในกาย กลายเป็นหมอกโลหิตหนาปกคลุมทั่วกาย

พวกมันกำลังปลุกพลังต้นกำเนิด ไม่เสียดายชีวิตเพื่อป้องกัน

พลังนี้น่ากลัวเกินไป ทำให้เซียนแท้ยังหวาดกลัว

บึ้ม!

การโจมตีนี้ฟ้าดินพังทลาย ผีร่ำไห้เทพโหยหวน

ห้วงอากาศไร้ขอบเขตพลันดับสลายเป็นความว่างเปล่า สภาพการณ์แทรกซึมถึงคน

ฝนโลหิตตกลงมากลางฟ้า เหมือนสัมผัสถึงขีดจำกัดฟ้าดิน ไม่อาจต้านทานได้

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตาพร่ามัว พวกเขาเหมือนเห็นมหาศึกเทพมารมากมาย มารร้ายถูกเทพโบราณฉีกเป็นชิ้นๆ

…..

จนเมื่อฝนโลหิตหายไป ฟ้าดินไม่มีร่างของเซียนแท้ทั้งสองตนอีก

พวกมันดับสลายไปด้วยอำนาจเทพนี้ จิตสลาย ไม่เหลือซากศพ

มีเพียงเสิ่นเทียนที่ยืนกลางฟ้า ท่วงท่าสง่างามเหนือธรรมดา

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนเหม่อลอย

พวกเซิ่งหยางซวีเบิกตาโตอ้าปากค้าง ตื่นตกใจอย่างยิ่ง

“สวรรค์ นี่ข้าเห็นอะไรอยู่กันแน่”

“สหายเสิ่นเขา สังหารเซียนแท้ได้ในพริบตารึ”

“แกร่งเกินไปแล้ว!”

ไม่มีใครคาดคิดว่าเซียนแท้สองตนจะสลายเป็นเถ้าถ่านในการโจมตีนี้

ราชาภูตหน้าดำเป็นเถ้าถ่าน ดวงตาเหี้ยมโหดยิ่ง

มันก็ไม่นึกเหมือนกันว่าเซียนแท้สองตนจะสิ้นชีพด้วยน้ำมือรุ่นเยาว์คนหนึ่ง

น่าเหลือเชื่อ น่าเหลือเชื่อจริงๆ!

ในตัวเจ้าเด็กนี่มีความลับอะไรอยู่กันแน่

…..

แม้เสิ่นเทียนจะสังหารเซียนแท้สองตน แต่ราชาภูตก็ยังไม่ได้กังวลอะไรมาก

มันต่างกับเซียนแท้พวกนั้น ศักยภาพแข็งแกร่งมาก

เพราะมันคือเซียนแท้ที่สำเร็จด้วยเตรียมเซียนยี่สิบห้าด่านเคราะห์ มีศักยภาพแข็งแกร่งสุดยอด

ตอนที่มันยังไม่ทะลวงเซียนแท้ก็ข้ามขั้นไปสังหารผู้แข็งแกร่งเซียนแท้มาแล้ว

ตอนนี้ทะลวงพลัง กำลังรบจึงเหนือกว่าเซียนแท้ปกติสิบเท่า

เว้นแต่มหาจักรพรรดิจะออกม้า ไม่อย่างนั้นมันก็ยังมีความมั่นใจไร้พ่าย

ถึงเสิ่นเทียนจะมีกำลังรบไม่ธรรมดา แต่ในสายตาราชาภูตก็ยังเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม

เขาพูดอย่างน่ากลัว ตะโกนด้วยน้ำเสียงเหมือนผีร้าย “เจ้าหนู เจ้าช่างกล้าหาญนัก! กล้าสังหารมือซ้ายขวาของข้า เจ้าอยากตายอย่างไร”

มันเดินเข้ามา พลันเหยียบอากาศหมื่นจั้งแตกกระจาย ทำให้ฟ้าดินสั่นสะเทือน

……

เสิ่นเทียนมีแววตาจริงจัง เกิดแรงกดดันในใจ

ราชาภูตเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งมากเท่าที่เสิ่นเทียนเคยพบมาจริงๆ

แต่เขาก็หน้าไม่เปลี่ยนสีไป ยังเอ่ยอย่างเฉยชา “พูดมาก จะสู้ก็สู้!”

ราชาภูตยิ้มเยาะ ใบหน้าเหี้ยมโหดยิ่ง “น่าสนใจ เจ้าคิดว่าข้าจะเหมือนขยะพวกนั้นรึ วันนี้ข้าจะดึงเส้นเอ็นหักกระดูกเจ้า!”

ราชาภูตระเบิดพลังออกมา เหมือนคลื่นยักษ์ถาโถมฟ้าดิน

มันยันกลางฟ้าดิน อำนาจชั่วร้ายเหี้ยมเกรียม ชำเลืองตามองมหาโลก

ดวงตาสองดวงกระชากจิตวิญญาณ เหมือนดวงตะวันมืดมิดสองดวง กลืนกินวิญญาณเทพได้

กวาดสายตามองไป ตะเกียงฟ้าวิญญาณเทพของผู้แข็งแกร่งเตรียมเซียนพลันมอดดับ ถูกสังหารลงทันที

ทุกคนตื่นกลัวอย่างยิ่ง ไม่มีใครกล้าสบตามัน นี่สังหารคนได้จริงๆ

“สู้เถอะ!”

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ในมือมีแสงสีเงินสว่างไหลเวียน

กระบี่ดาราเบิกฟ้าพลันลอยขึ้นมา พลังรวดเร็วและดุดันยิ่ง เหมือนจะทะลวงท้องนภาห้าดินแดน!

แสงเทพวนเวียนบนผิวกายเสิ่นเทียน กลิ่นอายพลังกลายเป็นน่าเกรงขามยิ่ง เหมือนเทพเจ้าที่สุดแห่งยุค ท่วงทำนองเป็นหนึ่ง

“ฆ่า!”

เสิ่นเทียนคำรามเสียงดัง กระบี่ดาราฟ้าแทงใส่อากาศ ทะลวงผืนดารา พุ่งตกลงมา

แสงกระบี่เย็นยะเยือกแหลมคมไม่อาจต้าน บุกรุดหน้าไปอย่างกล้าหาญ เกิดธุลีตีแตกจันทรา ดวงดาราแตกกระจาย

แก๊ง!

ในมือราชาภูตมีบรรทัดกระดูกสีดำลอยขึ้นมา แผ่พลังชั่วร้าย

นี่คือกระดูกสันหลังของสิ่งมีชีวิตระดับเซียนแท้ ใช้โลหิตสิ่งมีชีวิตนับล้านเซ่นไหว้เป็นอาวุธชั่วร้าย บรรลุถึงระดับเตรียมจักรพรรดิแล้ว

ชิ้ง!

เสียงโลหะกระทบดังขึ้น!

กระบี่ดาราเบิกฟ้าปะทะกับบรรทัดกระดูกสีดำเมี่ยม ยิงสะเก็ดไฟออกมามากมาย

เสิ่นเทียนตัวสั่นไหวเบาๆ แขนชนเล็กน้อย

เขาหรี่ตาลงนิดๆ “เจ้านี่แข็งแกร่งจริงๆ”

แต่ราชาภูตก็ลำบากไม่แพ้กัน

มันตัวสั่นอย่างแรง ถอยไปหลายก้าว เห็นได้ชัดว่ารับแรงกดดันมหาศาล

“ถือว่ามีความสามารถอยู่บ้าง!”

ราชาภูตทำเสียงขึ้นจมูกก่อนจะพ่นภูเขากระดูกออกมาลูกหนึ่ง กดทับใส่เสิ่นเทียน

ภูเขากระดูกขาวสะอาดแวววาว แต่กลับแผ่พลังที่น่ากลัวยิ่ง

ดูก็รู้ว่านี่เป็นอาวุธชั่วร้ายที่หลอมขึ้นจากซากศพสิ่งมีชีวิตมากมาย มีอานุภาพไร้ขีดจำกัด

เสิ่นเทียนโบกมือกว้าง เตาหลอมเทพสุริยะขวางกลางอากาศ ลอยอยู่เหนือศีรษะกำราบทุกสรรพสิ่ง

ภูเขากระดูกชนกับเตาหลอมเทพสุริยะ เกิดรอยร้าวขึ้น แทบแตกกระจาย

ราชาภูตไม่สนใจ แต่กลับตกใจระคนดีใจ “ในตัวเจ้ามีสมบัติเยอะขนาดนี้เชียว!”

อำนาจจักรพรรดิที่แผ่มาจากเตาหลอมเทพสุริยะทำให้เซียนแท้น้ำลายไหล

ยอดอาวุธเช่นนี้ มันยังไม่เคยมีมาก่อนเลย

ราชาภูตหัวเราะเยาะ “แต่ว่า สมบัติพวกนี้จะเป็นของข้าแล้ว! ตายเสียเถอะ!”

ราชาภูตปล่อยเปลวเพลิงท่วมฟ้า พลังโหมซัดสาดมาอย่างรุนแรง

มันพุ่งเข้าใส่เสิ่นเทียนอย่างฉับพลัน ทันใดนั้นห้วงอากาศแตกร้าว กฎเกณฑ์พังลง

ห้วงอากาศหมื่นลี้ถูกลบหายไปทีละนิดภายใต้พลังอำนาจนี้

ปราณเบิกฟ้าบนผิวกายเสิ่นเทียนเปล่งสว่างจ้าแสบตา เขาพุ่งไปข้างหน้า แสงเทพหมื่นสาย ในนั้นยังปะปนปราณเบิกฟ้าที่ทำให้ทุกชีวิตหวาดกลัวไปด้วย

ผ่านไปที่ใดห้วงอากาศจะแตกกระจาย เผยเป็นรอยแยกดำมืดลึกๆ

เสิ่นเทียนกำหมัด ลำแสงหมัดปกคลุมโลก

ปราณเบิกฟ้ามหาศาลรวมเป็นมังกรแท้วนเวียนระหว่างสองหมัด สั่นสะเทือนภูผานที

ครั้งนี้ เสิ่นเทียนกระตุ้นกายเบิกฟ้าสวรรค์ประทาน สู้กับราชาภูตอย่างดุเดือด

…..

สองฝ่ายปะทะกัน ทำให้อากาศระเบิดกระจาย

พลานุภาพน่ากลัวกระจายไปหมื่นลี้ ทำให้รอยแยกเงามืดสั่นไหว ดับสลายไปในการโจมตีครั้งนี้

ดีที่สองคนกำลังสู้กันกลางนภาไร้ขอบเขต ไม่อย่างนั้นด้วยอานุภาพของการโจมตีนี้คงมากพอจะทำลายภูเขาแสนลูก

สองฝ่ายยิ่งสู้ยิ่งกล้าหาญ อานุภาพน่ากลัวกว่าการต่อสู้ของพวกเตรียมจักรพรรดิสุญญะ

เพียงแต่ยิ่งสู้ต่อไป ราชาภูตกลับยิ่งหน้ามืดทะมึนลงเรื่อยๆ

มันรู้สึกว่าเสิ่นเทียนเหมือนสิ่งมีชีวิตโลหะในร่างคน ไม่ใช่แค่มีกำลังแข็งแกร่ง แม้แต่กายเนื้อยังทนทานอย่างยิ่ง

ต้องรู้ว่าราชาภูตเคยฝ่าเคราะห์สวรรค์ยี่สิบห้าครั้ง

รับการชะล้างจากเคราะห์อัสนีจนสำเร็จเป็นกายแห่งเซียนแท้ แข็งแกร่งยิ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทว่ากายเนื้อที่แกร่งขนาดนี้ยังเทียบเสิ่นเทียนไม่ได้

อีกทั้งตอนที่สู้กัน ราชาภูตยังพบความลับบางอย่าง

แม้เสิ่นเทียนจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังใช้พลังแห่งกฎเกณฑ์

ราชาภูตอยู่มาหลายแสนปี จะมองจุดนี้ไม่ออกได้อย่างไร

มันมั่นใจได้เลยว่าพลังบำเพ็ญเสิ่นเทียนยังอยู่ที่ระดับฝ่าด่านเคราะห์

พอนึกถึงตรงนี้ ราชาภูตก็สูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง

มันรู้สึกเหลือเชื่อ ไม่อยากเชื่อว่าห้าดินแดนจะปรากฏโอรสสวรรค์เช่นนี้ขึ้น

คนระดับฝ่าด่านเคราะห์คนเดียวกลับต่อต้านเซียนแท้ได้

หรือว่าเจ้านี่จะเป็นผู้สืบทอดของเจ้านั่นกัน

ราชาภูตพลันหรี่ตาแคบลง เหมือนนึกถึงเรื่องน่ากลัวบางอย่าง

จากนั้นแววตามันแน่วแน่ขึ้นเรื่อยๆ

มีเพียงคุณสมบัติกายสูงสุดนั้นเท่านั้นถึงอาจจะบ้าได้เท่านี้

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังหารเจ้าเด็กนี่ลงที่นี่

ผีร้ายเผยแววตาเหี้ยมเกรียม ปลุกพลังแห่งสายเลือด ระเบิดอำนาจชั่วร้ายน่ากลัว

ข้างหลังมันสะท้อนเป็นลูกตายักษ์ชั่วร้ายดวงหนึ่ง บังฟ้าและดวงตะวัน

บนลูกตาเต็มไปด้วยลายมรรคชั่วร้าย และยังมีพลังแห่งคำสาปแก่กล้าออกมา

เสิ่นเทียนหรี่ตาลงเล็กน้อย “เป็นสายเลือดนั้นรึ”

เขายังจำได้ว่าตอนแรกที่เข้าไปในโถงสวรรค์โบราณก็เจอวิญญาณร้ายสูงสุดลงคำสาปไว้

ตัวพาหะของพลังแห่งคำสาปนั้นก็คือลูกตาเช่นนี้

หรือก็คือเจ้านี่เป็นสายเลือดเดียวกับตนที่สาปโถงสวรรค์โบราณ

ดีมาก จะต้องทำลายสายเลือดนี้ให้สิ้นซาก!

…….

เมื่อนึกได้ดังนั้น ดวงตาเสิ่นเทียนเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างยิ่ง

จิตสังหารเขาเอ่อล้นเหมือนคลื่นลูกใหญ่หมุนม้วนฟ้าดิน

เสิ่นเทียนประสานมุทรา เคลื่อนพลังของสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินทั้งหมดในกาย!

เขาเอ่ยอย่างเฉยชา น้ำเสียงน่าเกรงขามยิ่ง!

“เปลี่ยนเทพสงคราม!”

ทันใดนั้น เสิ่นเทียนเปล่งแสงทองสว่างจ้าทั้งตัว เส้นผมตั้งชี้บนศีรษะพลิ้วไหวตามสายลม

กำลังรบเขากำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยกระดับเป็นสิบเท่าของก่อนหน้า

แต่ยังไม่จบเท่านี้ ไม่นานผิวกายเขาก็มีจิตต่อสู้สีแดงลอยขึ้น

เปลวเพลิงลุกโชติช่วงพุ่งออกมาพร้อมกับจิตต่อสู้รุนแรงยิ่ง เสริมกับตัวเขา

กลิ่นอายพลังเสิ่นเทียนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวอีกครั้ง น่ากลัวถึงที่สุด

ตอนนี้ เขาเหมือนราชานักรบที่สุดแห่งยุค ใช้กำราบเข้าปราบเหล่าทวยเทพ

ขณะเดียวกัน ทวารมากมายบนผิวกายเสิ่นเทียนพลันจุดแสงขึ้น ส่องสว่างหมื่นจั้ง

กลิ่นอายดึกดำบรรพ์แผ่ออกมา มากมายมหาศาล

พลังนี้น่ากลัวยิ่งนัก มาพร้อมพลังยิ่งใหญ่ฟ้าดิน สัมผัสถึงขีดจำกัดของโลก

เสิ่นเทียนยกกระบี่ดาราเบิกฟ้าขึ้นช้าๆ ปากพ่นคำที่ทำให้ทุกชีวิตหนาวสั่น

“เบิก!

ฟ้า!

ผ่า!

ปฐพี!”

เมื่อคำพูดเสิ่นเทียนดังนั้น กระบี่ดาราเบิกฟ้าวนเวียนไปด้วยปราณเบิกฟ้าเข้มข้น

ขณะเดียวกัน พลังน่าสะพรึงกลัวพุ่งออกมา

การโจมตีนี้เหมือนจะฉีกฟ้าดินเป็นสองส่วน

ราชาภูตตับและถุงน้ำดีแทบแตก ลูกตาแทบจะระเบิดออกมา

“ไม่มีทาง! ไม่มีทาง!

ระดับฝ่าด่านเคราะห์จะกุมพลังน่ากลัวเช่นนี้ได้อย่างไร

ข้าไม่เชื่อ ไม่เชื่อ!”

ราชาภูตพลันคำรามเสียงดัง ตื่นกลัวอย่างยิ่ง

มันกระตุ้นดวงตาชั่วร้ายยักษ์พุ่งเข้าไป จะสังหารเสิ่นเทียนก่อน

ทว่ากระบี่นี้ฟันลงช้าๆ

กึก!

เกิดเสียงดังขึ้นเบาๆ!

ห้วงอากาศหน้าเสิ่นเทียนถูกฟันเป็นสองส่วน

แสงกระบี่สว่างจ้ายิ่งกวาดล้างเข้าไป ทะลวงร่างราชาภูตได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังกวนตัวเขาแหลกเป็นเศษเนื้อกองหนึ่ง

ขณะเดียวกัน แสงกระบี่ยิ่งใหญ่ตัดรูหนอนมิติบนน่านฟ้าภูเขาอมตะ

การโจมตีนี้เหมือนข้ามผ่านโลกหนึ่งไปยังต่างแดน

พริบตาเดียว รูหนอนมิติพังทลายลงทันที

และยังได้ยินเสียงร้องโหยหวนดังแว่วมาจากต่างแดน นั่นคือเสียงร้องของวิญญาณร้าย

…..

เทือกเขาอมตะใหญ่ยักษ์เงียบเป็นเป่าสาก

ทุกคนตกอยู่ห้วงท่วงท่าสง่างามของกระบี่นั้น ถอนตัวไม่ขึ้น

ดวงตาพวกเขาเร่าร้อน มองร่างเงาที่มีเพียงหนึ่งบนฟ้าด้วยความเคารพยิ่ง

กระบี่นี้เป็นที่สุดในประวัติการณ์!

สังหารเซียนแท้ ตัดท้องนภา สะท้านหมื่นปี!

สหายเสิ่นหยวน เทพเจ้าตลอดกาล!

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด