บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 440 คนหนุ่มเจ้าทำเกินไปแล้ว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 440 คนหนุ่มเจ้าทำเกินไปแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 440 คนหนุ่มเจ้าทำเกินไปแล้ว

เมืองทะเลบูรพา

ผู้แข็งแกร่งทุกตระกูลมีใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง

ลัทธิวิญญาณร้ายมีศักยภาพแข็งแกร่งมาก ไม่ใช่แค่วางยอดค่ายกลเซ่นไหว้โลหิต แต่ยังมีเจ้าอริยะร่วมต่อสู้ด้วย!

แม้แต่ฉีจ้านที่เป็นความหวังสุดท้ายยังแพ้ให้กับเจ้าอริยะเสียหั่ว

ทุกคนยิ่งขาดความมั่นใจไปใหญ่

พวกเขาได้แต่เฝ้ารอว่าราชวงศ์เซียนต้าฮวงจะรู้สถานการณ์ของเมืองทะเลบูรพาโดยเร็วและส่งผู้แข็งแกร่งมาช่วย

เดิมทีเสิ่นเทียนปรากฏตัวมาทำให้ทุกคนตกใจระคนดีใจกันมาก โดยเฉพาะผู้อริยะอย่างพวกสวีอัน มีสีหน้าดีใจ คิดว่ากำลังเสริมมาถึงแล้ว

คนที่ต้านการโจมตีของเจ้าอริยะเสียหั่วได้ อย่างไรก็เป็นผู้แข็งแกร่ง!

ทว่าพริบตาเดียวฉีจ้านก็เคลื่อนย้ายกำลังเสริมออกไป

ทุกคนมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง

เจ้าไม่รู้หรือว่าพวกเราจะตายกันอยู่แล้ว การคงอยู่แข็งแกร่งขนาดนี้ เจ้าบอกส่งไปก็ส่งไปเลยรึ เช่นนั้นก็ตายกันแน่แล้ว!

ทุกคนทำหน้าทุกข์ใจ คิดว่าวันนี้เกรงว่าคงต้องตายกันที่นี่แล้ว

….

อีกด้านหนึ่ง เจ้าอริยะเสียหั่วตกใจสะดุ้ง!

กระทั่งเขายังคิดว่าเรื่องแดงแล้ว ราชวงศ์เซียนต้าฮวงส่งผู้แข็งแกร่งมาปิดล้อม แต่จากนั้นก็โล่งอก

พอเจ้านั่นโผล่มาก็หนีไปเลย ดูท่าคงไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งอะไร ไม่ต้องกลัวเลย!

ประมุขวิหารมายาเผยแววตามืดทะมึนพลางหัวเราะเยาะ “เจ้าลิงนี่จะตายอยู่แล้วยังคิดช่วยคนอื่นอีก! มีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ยังไม่ใช้เอง มีน้ำใจหยั่งลึกคุณธรรมหนักแน่นจริงๆ ใช้สมบัติสุดยอดไปแล้ว คราวนี้เจ้าจะหนีไปได้อย่างไรอีก”

ที่นี่วางยอดค่ายกลสะท้านฟ้าไว้นานแล้ว ไม่มีใครหนีไปได้

เจ้าหนูนั่นเพิ่งโผล่มาก็ทำลายมิติหนีไปแล้ว

เห็นได้ชัดว่าใช้สมบัติสุดยอดข้ามมิติบางอย่าง สมบัติเช่นนี้ล้ำค่ามาก หาได้ยากยิ่ง ดูท่าฉีจ้านคงจะไม่มีชิ้นที่สองแล้ว!

เจ้าลิงนี่ตายแน่!

เมื่อนึกได้ว่าจะได้สังหารฉีจ้านที่นี่ ประมุขวิหารมายาก็เผยแววตาเหี้ยมโหด หัวเราะเยาะไม่หยุด!

ฉีจ้านแค่นเสียงขึ้นจมูกด้วยความเหยียดหยาม “เจ้ากำลังสอนข้าอยู่รึ เจ้าลูกวิญญาณร้าย เก่งจริงก็มาสู้กันตัวต่อตัว ดูสิว่าข้าจะทุบหัวสุนัขเจ้าหรือไม่”

ฉีจ้านมีสายเลือดวานรอริยะสัประยุทธ์ย่อมชอบการต่อสู้ ไม่เกรงกลัวผู้ใด

ต่อให้เป็นเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์ เขาก็กล้าลองสู้

แน่นอน แค่ลองก็ตายเลย

แต่ประมุขวิหารมายาเคยแพ้ให้กับเขามาแล้ว ฉีจ้านจึงไม่เห็นอยู่ในสายตาเลย

ประมุขวิหารมายาทำเสียงขึ้นจมูก “กลัวว่าเจ้าจะสู้ไม่ได้ล่ะสิ!”

มีเจ้าอริยะเสียหั่วอยู่ ประมุขวิหารมายาไม่กลัวฉีจ้านเลย

แม้ประมุขวิหารมายาจะมีกำลังรบสู้ฉีจ้านไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ถูกสังหารง่ายขนาดนั้น!

ขอแค่รั้งฉีจ้านไว้ รอเจ้าอริยะเสียหั่วบุกเข้ามา เขาต้องตายแน่นอน!

อีกทั้ง ประมุขวิหารมายายังได้รู้สึกสนุกกับการเข่นฆ่า ได้ลบล้างความแค้นในใจเขา!

เจ้าอริยะเสียหั่วทำเสียงหึ “อย่าพูดมาก รีบจัดการไอ้เด็กนี่ จะได้ไม่เกิดเหตุไม่คาดคิดอะไร!”

ไอชั่วร้ายไหลเวียนทั่วร่างเขา กลิ่นอายชั่วร้ายถึงที่สุด เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและบ้าคลั่ง

เจ้าอริยะเสียหั่วไม่อยากเสียเวลา เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายใดๆ อีก

เรื่องเมื่อครู่ทำเขาตกใจสะดุ้ง

เจ้าอริยะเสียหั่วรู้ดีว่าตนมีพลังน่ากลัวเพียงใด ด้วยพลังบำเพ็ญเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์กระตุ้นเข็มอริยะอัคคีชาดจะมีอานุภาพไร้ขีดจำกัด สังหารอริยะแท้ได้ง่ายดาย

ทว่าการโจมตีนั้นกลับถูกค้อนใหญ่ฟาดกระจาย

เจ้าอริยะเสียหั่วรู้สึกว่าค้อนใหญ่นั่นมีพลังแข็งแกร่ง และเป็นอาวุธมหาอริยะเช่นกัน!

นี่หมายความว่าบุรุษคนนั้นมีกำลังรบไม่ธรรมดา แข็งแกร่งกว่าฉีจ้านอีก

คู่ค่อสู้ระดับนี้ แม้แต่เจ้าอริยะเสียหั่วยังไม่กล้าดูถูก ดีที่อีกฝ่ายมีสมาชิกหมู ส่งเขาออกไป ไม่เช่นนั้นเจ้าอริยะเสียหั่วคงคิดจะครองเมืองทะเลบูรพาได้ไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว

ประมุขวิหารมายาพยักหน้าตกลง ก่อนพูดด้วยความเคารพ “ขอรับ ท่านเจ้าอริยะ!”

เขามองฉีจ้านด้วยดวงตาน่าสะพรึงกลัว “มีเจ้าอริยะอยู่ วันนี้จะเอาหัวลิงเจ้ามาตุ๋นน้ำแกงหัวลิง!”

ประมุขวิหารมายารวมพลังฤทธิ์ เตรียมร่วมมือกับเจ้าอริยะเสียหั่วรวมเพลิงสังหารฉีจ้าน!

ฉีจ้านสูดลมหายใจเข้าลึก สองมือกำกระบองเทพแน่น มีสีหน้าจริงจัง

ครั้งนี้คือวิกฤติเป็นตาย แม้แต่เขายังไม่มั่นใจว่าจะมีชีวิตรอดกลับไปได้!

ฉีจ้ายแยกเขี้ยวแสยะปาก “ต่อให้แซ่ฉีตายก็ต้องเฉือนเนื้อพวกเจ้าให้ได้! เจ้าลูกวิญญาณร้าย เก่งจริงก็เข้ามา!”

กลิ่นอายพลังในกายเขาพลันปะทุขึ้น แสงสีทองสว่างจ้าปกคลุมรอบกาย กลิ่นอายพลังบ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ!

กระบองเทพตามใจนึกแผ่อำนาจเทพมหาศาล เหมือนกับเสาสวรรค์จะกำราบทุกสรรพสัตว์!

ฉีจ้านตั้งใจจะสู้สุดชีวิต ตายก็จะไม่ยอมให้ลัทธิวิญญาณร้ายได้ดี!

ประมุขวิหารมายาแสยะยิ้ม “ตายเสียเถอะ!”

เขาออกมือโจมตีฉีจ้านอย่างสุดกำลังก่อน

ทว่าตอนนี้เอง มิติพลันแตกออก มีกลิ่นอายพลังน่ากลัวแผ่ออกมา

ปราณกระบี่น่าตกใจยิ่งพุ่งออกมาจากมิติ น่ากลัวถึงที่สุด

กระบี่นี้น่าตกใจและงดงามชั่วกัปชั่วกัลป์ เหมือนจะตัดฟ้าดินและจักรวาล!

พริบตาเดียว ห้วงอากาศสลายเป็นความว่างเปล่าทั้งหมด!

มีเพียงแสงเทพสว่างจ้าแสบตาสายหนึ่งขวางฟ้าดิน ตรงดิ่งลงมา!

“ระวัง!”

เจ้าอริยะเสียหั่วตะโกนเสียงดัง เขาหรี่ตาลง น้ำเสียงจริงจัง

กลิ่นอายพลังนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง ทำให้เขาหวาดกลัว

ประมุขวิหารมายาอึ้งไปเล็กน้อย งุนงงหน่อยๆ

ทว่าจนเมื่อเขาหมุนตัวกลับมาก็เห็นเพียงแสงสีสันหลากสีพุ่งเข้ามา!

พรวด!

โลหิตกระจายสามฉื่อ!

ศีรษะคนพุ่งขึ้นฟ้า โลหิตเหมือนกระฉูดขึ้นเมฆนภา

ศีรษะยังอยู่กลางอากาศ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

เพียงแค่กระบี่เดียวก็ตัดศีรษะของประมุขวิหารมายาได้!

แต่จากนั้นก็มีแสงเงามืดพุ่งออกมาจากศีรษะประมุขวิหารมายาที่ลอยขึ้น นั่นคือดวงจิตเทพของเขา ตอนนี้กำลังหนีไปด้วยความลนลานอย่างยิ่ง

แม้กายเนื้อจะตายแล้ว แต่ดวงจิตเทพไม่ดับสูญก็ยังยึดร่างเกิดใหม่ได้ มีโอกาสกลับมาสู่จุดสูงสุด!

ประมุขวิหารมายาเป็นอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ ย่อมไม่อยากตายไปเช่นนี้

ทว่าปราณกระบี่มีพลังมหาศาล เจตจำนงกระบี่น่ากลัวเหมือนทะเลกระบี่ถาโถมลงมา ยิงแสงกระบี่น่าสะพรึงนับไม่ถ้วน

ดวงจิตเทพประมุขวิหารมายาเพิ่งสัมผัสโดนแสงกระบี่ก็ถูกตีแตกสลายไป

กระทั่งกายเนื้อเขายังถูกแสงกระบี่ตีแตกเป็นโจ๊กเนื้อ ตายจนไม่รู้จะตายอย่างไรได้อีก!

ภาพนี้ทำให้ทุกคนอึ้งค้างอยู่ที่เดิม

เมืองทะเลบูรพากว้างใหญ่เงียบเป็นเป่าสาก!

ทุกคนใจสั่นสะท้าน แววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!

อริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ผู้ยิ่งใหญ่ ประมุขวิหารลัทธิวิญญาณร้ายกลับถูกสังหารในกระบวนท่าเดียว

เป็นใครกันที่มีกำลังรบเช่นนี้

“หรือจะมีผู้แข็งแกร่งมา!”

“กำลังเสริมมาแล้ว!”

“ในที่สุดพวกเราก็รอดแล้ว!”

สังหารอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ได้ในพริบตา จะต้องเป็นการคงอยู่ที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งแน่นอน!

มีคนนี้อยู่เมืองทะเลบูรพา พวกเขาก็อาจจะรอดจากหายนะครั้งนี้ไปก็ได้

…….

เจ้าอริยะเสียหั่วตัวสั่นอย่างรุนแรง แววตามีความจริงจังขึ้นมา

แสงกระบี่นี้น่ากลัวเกินไปแล้ว ถึงขนาดสังหารอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ได้ในพริบตา!

ประมุขวิหารมายาไม่ใช่ผักกาดขาวข้างถนนนะ!

นั่นคืออริยะแท้ห้าด่านเคราะห์เชียว!

แต่ตายไปเช่นนี้หรือ

กระบี่นั่นเป็นของใครกัน หรือจะเป็นเจ้าอริยะจากราชวงศ์เซียนต้าฮวงมาถึง

เจ้าอริยะเสียหั่วพิจารณามองไปรอบๆ อย่างจริงจัง อยากจะหาคนที่ออกมือ

ห้วงมิติบิดเบี้ยว ก่อนบุรุษชุดคลุมขาวจะเดินออกมา มือถือกระบี่ยาวอาวุธอริยะสีม่วง

กระบี่ยาวมีประกายเย็นยะเยือก ด้านบนยังมีโลหิตไหลเวียน

“เป็นเจ้ารึ”

เจ้าอริยะเสียหั่วหรี่ตาลงเล็กน้อย ไม่นึกเลยว่าเจ้านี่จะยังอยู่ที่นี่!

ฉีจ้านทำหน้างุนงง “พี่ใหญ่เสิ่นเทียน เหตุใดท่านยังอยู่ที่นี่ล่ะ”

เขามีแววตาเหม่อลอย เมื่อครู่ข้าใช้ยันต์เคลื่อนย้ายส่งพี่ใหญ่ไปแล้วนะ!

เหตุใดถึงกลับมาอีก

หรือว่าพี่ใหญ่มีศักยภาพน่าสะพรึง แค่ไม่กี่นาทีก็เดินทางกลับมาในระยะหลายแสนลี้ได้กัน

ไม่ใช่กระมัง ไม่ใช่กระมัง ไม่ใช่กระมัง!

เร็วขนาดนั้นเลยรึ

ฉีจ้านเกาศีรษะ ไม่เข้าใจเลย

เสิ่นเทียนเหมือนอ่านความคิดฉีจ้านออก ถึงกับมุมปากกระตุกขึ้นมานิดๆ

ต้องไม่ใช่อยู่แล้ว!

พริบตาเดียวหมื่นลี้ คิดว่าข้าใช้สูตรโกงรึ

มีศักยภาพขนาดนั้น ข้าคงใช้ฝ่ามือเดียวตบเจ้าพวกลูกวิญญาณร้ายพวกนี้ตายไปหมดแล้ว!

เสิ่นเทียนส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา “ยันต์เคลื่อนย้ายหมดอายุแล้ว ไม่ได้เคลื่อนย้ายข้าไป!”

แต่เขากลับยิ้มแห้งในใจ ‘เจ้าลิงนี่ยึดมั่นในความเป็นธรรมจริงๆ’

เสิ่นเทียนรู้ความคิดฉีจ้าน เนื่องจากเมืองทะเลบูรพาถูกยึด ประกอบกับเจ้าอริยะเสียหั่วมีอำนาจคุกคามสูงมาก

ฉีจ้านกลัวว่ากองทัพจะแตกพ่ายย่อยยับ มียันต์เคลื่อนย้ายอยู่จึงให้เขาหนีไปก่อน

แต่เจ้าเด็กนี่เหมือนจะไม่เข้าใจสถานการณ์!

ข้าไปแล้ว เจ้าจะทำอย่างไรล่ะ ยังดีที่เหลือลูกมือไว้ ไม่อย่างนั้นเจ้าอาจจะตายไปแล้ว!

ฉีจ้านพูดไม่ออก

ครั้งนี้ฉีจ้านงุนงงยิ่งกว่าเดิม

ยันต์ที่จักรพรรดิฮวงสือให้ข้าหมดอายุได้ด้วยหรือ

ท่านจักรพรรดิให้ของปลอมกับข้า หลอกข้ารึ

แม้จะเชื่อได้ยาก แต่ก็ได้แต่ยอมรับแล้ว

นอกจากนี้เหมือนจะไม่มีเหตุผลอะไรมาอธิบายได้ชัดเจน

…..

ทางด้านฉีจ้านเองก็ได้สติกลับมา รีบเดินมาข้างกายเสิ่นเทียน “พี่ใหญ่ ขออภัยด้วย ครั้งนี้ข้าทำร้ายท่านแล้ว ต่อให้ตาย ข้าก็จะตายตรงหน้าพี่!”

แม้เสิ่นเทียนจะสังหารประมุขวิหารมายาแล้ว แต่ก็ยังไม่แก้วิกฤติ

ถึงอย่างไรคนที่มีอำนาจคุกคามมากที่สุดในลัทธิวิญญาณร้ายคือเจ้าอริยะเสียหั่วเจ็ดด่านเคราะห์!

สังหารประมุขวิหารมายาได้ แต่ก็อาจจะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเสียหั่วอยู่ดี!

เจ้าอริยะกับอริยะแท้มีความต่างของพลังมากเกินไปจริงๆ

……

เจ้าอริยะเสียหั่วตั้งตัวกลับมาได้ก็พบว่าเจ้าอริยะราชวงศ์เซียนต้าฮวงไม่ได้มา จึงโล่งอกในทันที

เขาทำหน้าเหี้ยมโหด “หากเมื่อครู่เจ้าลอบโจมตีข้า ข้าก็อาจจะรักษาตัวไม่ให้บาดเจ็บไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้พวกเจ้าไม่มีโอกาสแล้ว”

รุ่นเยาว์ตัวเล็กๆ กลับมีกำลังรบเช่นนี้ ไม่ใช่แค่ต้านอาวุธมหาอริยะได้ แต่ยังสังหารประมุขวิหารมายาได้อีก

หากให้เติบโตต่อไป จะคุกคามถึงลัทธิวิญญาณร้ายอย่างใหญ่หลวง!

วันนี้ข้าจะต้องสังหารมันลงที่นี่!

พอคิดได้ดังนั้น เจ้าอริยะเสียหั่วก็ย่างก้าวเดินมา ไฟชั่วร้ายพุ่งทะลัก จิตสังหารเฉียบคม!

นี่คือเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์ออกมืออย่างเต็มที่ กลิ่นอายพลังน่ากลัวถึงขีดสุด!

ไฟชั่วร้ายประหลาดบดบังฟ้าบังดวงตะวัน ปกคลุมพวกเขาไว้ทั้งหมด ไม่ให้โอกาสหนีไปได้เลยแม้แต่น้อย!

เสิ่นเทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย รู้สึกเจ็บตรงทรวงอกเล็กน้อย

เขาไม่เคยสู้กับคู่ต่อสู้อย่างอริยะแท้เจ็ดด่านเคราะห์มาก่อน พูดตามตรง เขาไม่มั่นใจเลย!

เขาถอนหายใจว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะร่างนั้นถูกเคลื่อนย้ายออกไป งานยากเช่นนี้จะมาตกที่ตัวแซ่เสิ่นหรือ”

แต่เสิ่นเทียนก็ไม่ยอมแพ้ เรียกอาวุธอริยะออกมาเป็นกองเพื่อป้องกันตนเอง อาวุธอริยะลอยออกมาทีละชิ้น มีลักษณะระฆัง ลักษณะหม้อสำริด และยังมีลักษณะกระจก ล้วนเป็นอาวุธอริยะสายป้องกัน!

ยังไม่ใช่แค่นั้น เสิ่นเทียนยังเรียกอาวุธอริยะสายโจมตีออกมาอีกกองใหญ่

พวกนั้นมีลักษณะกระบี่ ดาบ ขวานและค้อน เปล่งแสงดั่งดวงตะวัน สว่างจ้าอย่างยิ่ง

อาวุธมหาอริยะกองใหญ่ลอยอยู่กลางอากาศ แผ่อำนาจอริยะแก่กล้า เหมือนจะกำราบฟ้าดิน

แม้อาวุธอริยะพวกนี้จะสู้อาวุธมหาอริยะไม่ได้ แต่ก็ชนะในด้านจำนวน!

จำนวนเปลี่ยนคุณภาพเปลี่ยน!

ตอนนี้เสิ่นเทียนมีความมั่นใจขึ้นมาเล็กน้อย!

“เจ้ามีอาวุธอริยะเยอะขนาดนี้เชียวรึ”

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนวางอาวุธอริยะเต็มไปหมด เจ้าอริยะเสียหั่วถึงกับเผยแววตาละโมบ

อาวุธอริยะมีมูลค่าสูงยิ่ง ผู้อริยะยังใจสั่น

แม้เจ้าอริยะเสียหั่วจะมีอาวุธมหาอริยะสองชิ้น แต่ก็สนใจอาวุธอริยะเช่นกัน

ต่อให้เขาไม่ใช้ก็เอาไปแลกเป็นทรัพยากรบำเพ็ญได้ หรือเอามาใช้เพิ่มศักยภาพของลูกน้องได้!

ไม่นึกเลยว่าการเดินทางครั้งนี้ไม่ใช่แค่ได้สังหารโอรสสวรรค์จี้เซี่ย แต่ยังได้อาวุธอริยะกองใหญ่ นี่เรียกว่ายิงศรนัดเดียวได้นกสองตัว!

เจ้าอริยะเสียหั่วมีจิตสังหารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะยิ้มเยาะ “เจ้ามีอาวุธอริยะเยอะขนาดนี้แล้วอย่างไร เจ้าจะใช้ได้หมดหรือ หรือเจ้ามีมือเท้าหลายสิบข้างกัน”

อาวุธอริยะต้องใช้พลังฤทธิ์แข็งแกร่งค้ำไว้ถึงจะสำแดงออกมาได้ มิหนำซ้ำการควบคุมอาวุธอริยะต้องใช้พลังจิต ไม่ใช่ยิ่งมากยิ่งดี

เมื่อเห็นเจ้าอริยะเสียหั่วเย้ยเยาะ เสิ่นเทียนก็หัวเราะเยาะ “ขออภัยด้วย ข้ามีจริงๆ!”

พอเอ่ยจบ เขาก็สำแดงบทต้องห้ามคัมภีร์จักรพรรดิดึกดำบรรพ์ จำแลงกายสรรพสัตว์

พริบตาเดียวเกิดแสงสว่างจ้าส่องสะท้อนฟ้าดิน ระเบิดพลังแข็งแกร่งออกมา

ร่างเงาหลายร่างเดินออกมาจากข้างหลังเสิ่นเทียน ทุกคนคล้ายกับเขาอย่างยิ่ง ทั้งยังมีกลิ่นอายพลังแข็งแกร่ง!

ร่างแยกเก้าร่างปรากฏขึ้นพร้อมกัน แบ่งกันถืออาวุธอริยะคนละสองชิ้น โจมตีและป้องกันอย่างละชิ้น คุมเชิงกับเสียหั่ว!

“ระยำ มีจริงๆ รึ”

เจ้าอริยะเสียหั่วทำหน้ามึนงง เขาไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะชำนาญวิชาร่างแยก อีกทั้งยังเรียกร่างแยกออกมาได้เยอะขนาดนี้!

ต้องรู้ว่าหลังจากผู้บำเพ็ญถึงระดับหลอมรวมเทพก็จะหลอมดวงจิตเทพเป็นร่างจำแลงนอกร่างได้ แต่ผู้บำเพ็ญระดับหลอมรวมเทพส่วนใหญ่จะมีร่างจำแลงเพียงร่างเดียวเท่านั้น!

อีกทั้ง ร่างจำแลงนอกร่างยังมีกำลังเทียบกับร่างจริงไม่ได้เลย!

แม้จะมีวิชาพิเศษ แบ่งร่างแยกได้หลายร่าง อย่างเช่นเจ้าผู้คุมกฎอู๋เซิงแห่งลัทธิวิญญาณร้ายก็หลอมสร้างกายสามโลกขึ้น

แบ่งเป็นร่างอดีต ร่างปัจจุบันและร่างอนาคต สามร่างจำแลง!

แต่อย่างมากสุดก็ได้เพียงสามร่างแยก อีกทั้งยังต้องใช้สมบัติล้ำค่าไปจำนวนมาก!

แต่เสิ่นเทียนมีเก้าร่างแยก รวมกับร่างหลักเป็นสิบร่าง!

ทุกร่างแผ่กลิ่นอายพลังแก่กล้า มากพอจะคุกคามถึงอริยะแท้!

ล้อเล่นอะไรกัน!

สวรรค์เปิดประตูหลังให้เจ้ารึ

เจ้าอริยะเสียหั่วตกตะลึงในใจ ผ่านไปนานก็ยังไม่สงบลง!

ฉีจ้านก็ทำหน้ามึนงงเช่นกัน อดกลืนน้ำลายมิได้

พี่ใหญ่ ไม่อยากเชื่อว่าจะเรียกพี่ใหญ่ออกมาได้มากขนาดนี้

น่ากลัวยิ่งนัก!

ยังดีที่ตอนแรกในสำนักศึกษาไม่ได้ล่วงเกินพี่ใหญ่ถึงตาย

ไม่เช่นนั้นได้ถูกพี่ใหญ่สิบคนทุบตี แค่คิดศีรษะก็ดังวิ้งๆ แล้ว!

……

เสิ่นเทียนสิบคนยืนล้อมรอบเจ้าอริยะเสียหั่ว ปิดล้อมเขาไว้

เขาตะโกนเสียงดัง “เหล่าพี่น้อง ลุย!”

เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนสิบคนพากันเรียกอาวุธอริยะ กระตุ้นวิชาจักรพรรดิสูงสุด

เวลานี้เกิดปรากฏการณ์ขึ้น ลากผ่านจักรวาล สีสันหลากสีสว่างถึงที่สุด!

มีปรากฏการณ์มังกรเทพคำรามฟ้าดิน มีปรากฏการณ์หงส์ท่องสวรรค์เก้าชั้น มีปรากฏการณ์กระบี่ฟ้าขวางห้วงอากาศ มีสายฟ้าไม่มีสิ้นสุดชะล้างฟ้าดิน…

คัมภีร์จักรพรรดิทั้งหมดที่เสิ่นเทียนฝึกฝนมีจำนวนมาก ทั้งยังชำนาญอย่างยิ่ง

แต่ปกติเขาจะใช้เพียงอย่างเดียว

ตอนนี้ร่างแยกเก้าร่างจากร่างจำแลงสรรพสัตว์ ทั้งยังมีศักยภาพร่างหลัก ขณะเดียวกันทุกร่างแยกยังใช้คัมภีร์จักรพรรดิชนิดหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ศักยภาพของร่างแยกพวกนี้น่าสะพรึงเป็นอย่างยิ่ง!

ปรากฏการณ์น่ากลัวสิบชนิดส่องสะท้อนฟ้าดิน ทำให้ฟ้าดินอ่อนแสงลง ตะวันจันทราไร้แสงสว่าง!

แม้แต่ยอดค่ายกลเซ่นไหว้โลหิตยังถูกพลังอำนาจกดลงไป

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนก็มีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา “รอดแล้วๆ!”

“สุดยอดผู้แข็งแกร่งจากราชวงศ์เซียนต้าฮวงมาถึงแล้ว!”

“ดูจากพลังอำนาจนี้ อย่างน้อยต้องมีผู้อริยะสูงสุดสิบคน!”

ทุกคนเกิดความหวังในใจ คิดว่ากำลังเสริมจากราชวงศ์เซียนต้าฮวงมาถึง แต่มีประกายไฟบดบัง พวกเขาจึงไม่รู้ว่ามีผู้แข็งแกร่งเท่าไร

แต่มองจากปรากฏการณ์ อย่างน้อยต้องมีอริยะแท้สูงสุดสิบคนถึงจะสำแดงได้!

อริยะแท้สูงสุดสิบคนมาเยือน มากพอจะสังหารเจ้าอริยะลัทธิชั่วร้ายได้!

ในที่สุดพวกเขาก็รอดแล้ว!

…….

“ฆ่า!”

เสียงคำรามดังสนั่นฟ้า!

เสิ่นเทียนสิบคนพุ่งเข้าไปทั้งหมด

พวกเขากระตุ้นคัมภีร์จักรพรรดิเคลื่อนอาวุธอริยะ ฟาดใส่ศีรษะเจ้าอริยะเสียหั่ว!

พริบตาเดียวนั้น แสงเทพไม่มีสิ้นสุดพุ่งออกมา แสงเทพสว่างพร่างพราวส่องสะท้อนฟ้าดิน กลิ่นอายพลังมากมายมหาศาลถึงขีดสุด

คัมภีร์จักรพรรดิสิบชนิดควบคู่กับอาวุธอริยะ ทำให้มีอานุภาพน่าสะพรึงถึงที่สุด!

เจ้าอริยะเสียหั่วถูกคนสิบคนปิดล้อมและรุมทุบตี!

เสียงน่ากลัวเหมือนฟ้าร้อง ปรากฏการณ์น่าสะพรึงหมุนม้วนฟ้าดิน!

เจ้าอริยะเสียหั่วพลันถูกทุบตีจนมึน ได้แต่กระตุ้นอาวุธมหาอริยะเกราะอัคคีดวงจิตมาร สร้างเป็นปราการไฟชั่วร้ายไม่มีสิ้นสุด

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น เขาก็ยังถูกทุบตีจนแสงเทพแตกกระจาย ร่างสั่นสะท้าน

ความเจ็บปวดรุนแรงแล่นมาจากทุกส่วนของร่างกาย หากไม่ใช่เพราะมีอาวุธมหาอริยะป้องกัน เจ้าอริยะเสียหั่วคงถูกทุบเป็นแผ่นเนื้อไปแล้ว!

เขาคำรามด้วยความโกรธไม่หยุด “เจ้าเด็กนี่ เจ้ามันไร้คุณธรรม! คนเยอะขนาดนี้รุมข้าคนเดียว! ข้าว่าเจ้ามีศักดิ์ศรีหน่อยเถอะ เก่งจริงก็มาสู้กับข้าตัวต่อตัว ข้าจะฉีกเจ้าแน่!”

เสิ่นเทียนสิบคนปิดล้อมโจมตีทำให้เขาสวนกลับไม่ได้เลย ได้แต่คลุ้มคลั่ง

“ตาแก่นี่ยังกล้าอวดดีอีก พวกพี่น้องทุบตีให้ตายเลย!”

มีเสียงตะโกนดังมาจากปรากฏการณ์มากมาย เสิ่นเทียนสิบคนเร่งรัดคัมภีร์จักรพรรดิมังกรแท้โจมตีใส่เจ้าอริยะเสียหั่ว!

คัมภีร์จักรพรรดิเทพสวรรค์ คัมภีร์จักรพรรดิอมตะ คัมภีร์จักรพรรดิเทพหงส์ สามสิบหกค้อนสวรรค์ หัตถ์ปฐมกาลทลายเวหา แสงเทพห้าสี คัมภีร์จักรพรรดิสุริยัน คัมภีร์จักรพรรดิคุนเผิง กระบองตามใจนึกกำราบสมุทร…

คัมภีร์จักรพรรดิสูงสุดสิบชนิดกลายเป็นกฎเกณฑ์ไม่มีสิ้นสุดจู่โจมเข้าไป

พริบตาเดียว ห้วงอากาศก็ถูกทำลายเป็นเสี่ยงๆ

แสงเทพไร้พรมแดนพุ่งออกไป กดเจ้าอริยะเสียหั่วถูไปกับพื้นอย่างบ้าคลั่ง!

เพียงไม่กี่ลมหายใจ เจ้าอริยะเสียหั่วก็ถูกทุบตีจนจมูกเขียวหน้าบวม แม้แต่ฟันยังร่วงไปหลายซี่!

ฉีจ้านเห็นภาพนี้แล้วตกใจจนเนื้อเต้น ดูโง่งมไปเลย!

นี่คือกำลังรบที่แท้จริงของพี่ใหญ่หรือ!

แม้แต่เจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์ยังถูกทุบตีราวกับลูกสุนัข ไม่มีที่ให้สวนกลับเลย!

โหดเกินไปแล้ว!

ทางด้านเจ้าอริยะเสียหั่วดวงตาแดงก่ำ ไม่รู้เพราะโกรธหรือถูกทุบตี รู้สึกเหมือนจะร้องไห้แล้ว

มารดาเถอะ ข้าต้องเคยอัปยศเช่นนี้ด้วยหรือ

เจ้าหนูรอก่อนเถอะ ข้าจะเรียกพวกมาเดี๋ยวนี้แล้ว!

เจ้าอริยะเสียหั่วถูกทุบตีจนสงสัยในชีวิต จึงจะส่งสารออกไปขอความช่วยเหลือ!

แต่เสิ่นเทียนกลับไม่ให้โอกาสเขาเลย

ยังไม่ทันนำป้ายคำสั่งสื่อสารออกมา เสียหั่วก็ถูกอาวุธอริยะหลายชิ้นทุบกระเด็นถอยไปเรื่อยๆ

“สมควรตาย!”

เจ้าอริยะเสียหั่วแผดเสียงคำราม แม้การโจมตีพวกนี้จะยังสังหารเขาไม่ได้ในตอนนี้ แต่มีจำนวนคนมาก เขาไม่มีโอกาสสวนกลับเลย

ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ต่อให้เป็นเจ้าอริยะก็ยังถูกทุบตีแตกได้!

พอคิดได้ดังนั้น เจ้าอริยะเสียหั่วก็ทำหน้าเหี้ยมโหด ก่อนระเบิดอาวุธมหาอริยะเข็มอริยะอัคคีชาด!

บึ้ม!

ประกายไฟลามฟ้า อำนาจเทพกระจายไปรอบๆ!

อานุภาพของอาวุธมหาอริยะถูกกระตุ้นถึงขีดสุด พลังเทพน่ากลัวหมุนม้วนไปรอบๆ ทำให้ท้องนภาพลิกกลับ เหมือนจะทำลายดวงดารา

เข็มอริยะอัคคีชาดสามสิบหกเล่มพุ่งออกไปใส่เสิ่นเทียนสิบคนเหมือนกับดาวตก

อาวุธมหาอริยะถูกกระจายออก พลังอำนาจย่อมลดลงอย่างมาก

แต่เจ้าอริยะเสียหั่วไม่ได้คิดจะสังหารเสิ่นเทียน ถึงอย่างไรก็มีสิบคน สังหารไม่หมด!

เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อถ่วงเวลา!

…..

เมื่อเห็นเจ้าอริยะเสียหั่วคิดจะระเบิดเข็มอริยะอัคคีชาด เสิ่นเทียนก็โกรธจัดอยู่ในใจ

เขาคำรามด้วยความโกรธ “ไอ้โจรสุนัข กล้าทำลายสมบัติวิเศษของข้ารึ”

เจ้าอริยะเสียหั่วงุนงง

ข้าระเบิดอาวุธมหาอริยะของข้า มันเกี่ยวอะไรกับเจ้า

เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเสิ่นเทียนมองอาวุธมหาอริยะของเจ้าอริยะเสียหั่วเป็นของของตนแล้ว

จะไปยอมให้สมบัติสุดยอดเช่นนี้ถูกทำลายไปต่อหน้าต่อตาได้อย่างไร

เสิ่นเทียนสิบคนออกมือพร้อมกัน แบ่งกันคุมเข็มอริยะอัคคีขาดสามสิบหกเล่ม กำราบมันไว้

ควบคุมหลายต่อหลายครั้งได้อย่างยอดเยี่ยม เจ้าอริยะเสียหั่วเห็นแล้วยังมุมปากกระตุกรัว

เจ้าหนุ่มนี่เกินไปแล้ว บอกว่าตัวต่อตัวกลับรุมกัน ไม่ใช่แค่รุม แต่ยังหมายปองสมบัติสุดยอดของข้าอีก!

นี่มัน…จะรังแกกันเกินไปแล้ว!

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด