บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 155 เสิ่น ซูเปอร์ไซย่า เทียน

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 155 เสิ่น ซูเปอร์ไซย่า เทียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 155 เสิ่น ซูเปอร์ไซย่า เทียน

หลังจากได้ฟังเหตุและผลหน้าหลังของเรื่องราวแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็มองไปที่เมืองหมอกลับแล

เขายื่นมือขวาออกมาช้าๆ ประกายเซียนกระเพื่อมเบาๆ ก่อนจะดูดหมอกวิญญาณสายหนึ่งเข้ามาในมือ

เมื่อสัมผัสอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็พยักหน้านิ่งๆ “นี่คือวิชาจำพวกมายาที่พิเศษอย่างหนึ่ง ผู้ใช้วิชามีพลังบำเพ็ญไม่อ่อนแอเลย ครึ่งก้าวถึงขอบเขตอริยะแล้ว กำลังรบอาจจะไม่ด้อยไปกว่าผู้อริยะธรรมดาทั่วไป”

จางอวิ๋นซีถาม “ท่านพ่อ ตอนนี้ศิษย์น้องเสิ่นเทียนหายตัวไป ท่านมีวิธีทะลวงหมอกวิญญาณนี่หรือไม่”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตอบอย่างเย็นชา “แค่หมอกวิญญาณใกล้ๆ เมืองนี่เอง กำจัดไม่ยาก”

กล่าวจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ประสานมุทรา พลันเกิดประกายสายฟ้าหมื่นจั้งกลางมวลอากาศพุ่งใส่หมอกวิญญาณเบาบางนั้น

สายฟ้าผ่านไปที่ใด หมอกวิญญาณทั้งหมดจะเหมือนระเหยหายไปทั้งหมด

เพียงชั่วครู่สั้นๆ หมอกวิญญาณใกล้ๆ เมืองหมอกลับแลกับเมืองเล็กหมอกลับแลก็หายไปจนหมด พริบตาเดียวฟ้าดินสว่างใส วิสัยทัศน์ไม่มีอุปสรรคใดๆ อีก

ทุกคนในเมืองหมอกลับแลต่างเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์บนฟ้าชัดเจนก่อนจะก้มลงคารวะ

ถึงอย่างไรในโลกบำเพ็ญเซียนก็มองผู้แข็งแกร่งเป็นจ้าว โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งระดับฝ่าด่านเคราะห์คือผู้แข็งแกร่งจุดสูงสุดของโลกนี้แล้ว

แก่นพลังทองคือผู้จริงแท้ ดวงจิตดรุณคือผู้สูงศักดิ์ หลอมรวมเทพคือผู้สูงศักดิ์สวรรค์ แต่ผู้ที่อยู่ใต้ผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์ล้วนเป็นมดปลวกทั้งสิ้น!

พบผู้อริยะไม่คารวะคือโทษมหันต์ ตายไปก็ไม่มีใครเรียกร้องความเป็นธรรมให้

ตอนนี้เห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ปรากฏกาย พวกฉินอวิ๋นตี๋ก็รีบขี่กระบี่บินเข้ามาบนชั้นเมฆ

“ขอคารวะท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์!”

ทุกคนแสดงความเคารพพร้อมกัน นัยน์ตาพวกกุ้ยกงกงเต็มไปด้วยความกังวล “ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์!”

เขาคุกเข่าลงกับพื้นน้อมคำนับ “องค์ชายหายตัวไปนานมากแล้ว ขอให้ท่านช่วยเขาด้วย!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยกมือขึ้นช้าๆ กุ้ยกงกงที่กำลังโขกศีรษะอย่างแรงรู้สึกว่าถูกพลังอ่อนนุ่มยกลอยขึ้นทำให้คุกเข่าไม่ได้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า “มีจิตใจจงรักภักดี มีใจปกป้องนาย เทียนเอ๋อร์มีบ่าวรับใช้อย่างเจ้าถือว่าโชคดี”

จางอวิ๋นซีข้างๆ ถามเช่นกัน “ท่านพ่อ ท่านสัมผัสได้หรือไม่ว่าศิษย์น้องเสิ่นเทียนอยู่ที่ใด”

เมื่อเห็นใบหน้าจางอวิ๋นซีเต็มไปด้วยความกังวลแล้ว ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นกระเพื่อมเบาๆ “ดีมาก เป็นสหายฝ่ายเดียวกันก็ควรจะเป็นห่วงศิษย์พี่ศิษย์น้อง เจ้าไม่ต้องกังวล ตอนนี้เทียนเอ๋อร์น่าจะไม่มีอันตราย”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หยิบป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ออกมาหลับตาลงใช้พลังจิตกระตุ้นสัมผัส ผ่านไปนานถึงลืมตาขึ้น ประกายเซียนบนผิวกายสั่นไหวเบาๆ

“เป็นอย่างที่ข้าคาดไว้ไม่ผิดจริงๆ สัมผัสของป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ตัดขาดไปในที่ราบหมอกลับแล เขาน่าจะเดินทางลึกเข้าไปในที่ราบหมอกลับแลแล้ว แต่พวกเจ้าวางใจ มีข้าอยู่ ไม่มีใครในที่ราบหมอกลับแลทำร้ายเทียนเอ๋อร์ได้แม้แต่ขนเส้นเดียว!”

คำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำให้ทุกคนถอนหายใจโล่งอก กุ้ยกงกงตื้นตันจนกระบอกตาร้อนผ่าว

เขาเฝ้ามองเสิ่นเทียนเดินข้ามอุปสรรคมาตลอดตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ เป็นเหมือนลูกหลานแล้ว

ทุกเค่อที่เสิ่นเทียนหายตัวไป กุ้ยกงกงจะทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง

ตอนนี้ในที่สุดเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ปรากฏตัว ทั้งยังยินดีช่วยปกป้ององค์ชายอย่างเต็มที่

กุ้ยกงกงโล่งอก ‘มีคนห่วงองค์ชายเช่นนี้ หากพระสนมหลานในแดนปรโลกรู้เข้าจะต้องปลื้มใจมากแน่ๆ’

จางอวิ๋นซีพูดขึ้น “ท่านพ่อ ตอนนี้ที่ราบหมอกลับแลโดนหมอกวิญญาณปกคลุมปิดกั้นพลังจิต เราเข้าไปได้หรือไม่”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ที่ราบหมอกลับแลโดนปีศาจนั่นยึดเป็นถิ่นฐานของมันแล้ว จัดการยากมาก การจะเข้าไปช่วยคนในถิ่นนางต้องทำลายอาณาเขตของปีศาจนี่ก่อน ถ้าเทียนเอ๋อร์ไม่อยู่ในที่ราบหมอกลับแลก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ครู่เดียวก็จัดการได้แล้ว!

แต่ตอนนี้เทียนเอ๋อร์อยู่ในที่ราบหมอกลับแล ข้าก็คงทำรุนแรงเกินไปไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่ระวังไปทำร้ายเทียนเอ๋อร์เอา”

สายฟ้าประกายเซียนยิงธงออกมาทีละผืน พุ่งไปบนฟ้าไกลๆ ก่อนจะปักไว้แปดทิศบนที่ราบหมอกลับแล

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กล่าว “ข้าใช้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์วางยอดค่ายกลผลาญฟ้าเทพสวรรค์แล้ว ข้าจะเผาหมอกวิญญาณทั้งที่ราบหมอกลับแลให้แหลกลาญ! ถึงตอนนั้นจะไม่มีหมอกวิญญาณพวกนี้มาปิดกั้นพลังจิต ไม่นานเราก็ไปถึงตัวเทียนเอ๋อร์และช่วยเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย”

คำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำให้ทุกคนตกตะลึง ผลาญหมอกวิญญาณทั้งที่ราบหมอกลับแล นี่เป็นไปได้จริงๆ หรือ

พึงรู้ไว้ว่าหมอกวิญญาณในที่ราบหมอกลับแลแห่งนี้อยู่มาหลายพันปี ยังไม่เคยสลายไปเลย!

จางอวิ๋นซีกล่าวด้วยความกังวล “ท่านพ่อ ไล่หมอกวิญญาณจะไม่ทำอันตรายศิษย์น้องเสิ่นรึ!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ข้าย่อมควบคุมค่ายกลได้ รับรองว่าจะไม่ทำอันตรายเทียนเอ๋อร์ แม้ทำเช่นนี้ข้าจะเสียพลังฤทธิ์มากขึ้นหลายเท่าก็ตาม กระทั่งพลังปราณเดิมบาดเจ็บหนัก แต่เป็นอาจารย์หนึ่งวันต้องเป็นบิดาไปตลอดชีวิต ในเมื่อเทียนเอ๋อร์คือศิษย์ข้า ข้าย่อมต้องปกป้องเขาสุดชีวิต

ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อไล่หมอกวิญญาณไปให้เร็วที่สุด รอช่วยเทียนเอ๋อร์แล้ว พวกเจ้าห้ามบอกอะไรกับเทียนเอ๋อร์”

สายฟ้าประกายเซียนวนเวียนรอบกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ดูเคร่งขรึมยิ่งใหญ่ คำพูดยังแฝงไว้ด้วยความกล้าหาญและสง่างามไม่เกรงกลัวใคร

เวลานี้ พวกหลิวไท่อี่ เถ้าแก่ซ่ง กุ้ยกงกงและฉินเกาได้ยินแล้วก็รู้สึกเลือดร้อนขึ้นมา รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มากขึ้น

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่เสียดายยอมพลังปราณเดิมบาดเจ็บหนักเพื่อลูกศิษย์ จิตใจที่อุทิศตัวด้วยความจริงใจและไม่ขอสิ่งตอบแทนเช่นนี้มันไม่มีความเห็นแก่ตัวเลย

ใบไม้ร่วงจากต้นไม่ใช่สิ่งไร้หัวใจ ต่อให้เป็นโคลนก็ยังยอมเป็นปุ๋ยให้ดอกไม้ใบไม้ผลิเติบใหญ่ ใบไม้ร่วงโรยที่ใดจะเป็นดั่งเปลวไฟไม่มอดดับ

นี่ ก็คือปณิธานของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เราหรือ มันน่าซึ้งใจยิ่งนัก!

ขอข้ามเรื่องศิษย์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ฟังคำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วซาบซึ้งใจจนดวงตาร้อนผ่าวไปแล้วกัน

นักพรตชราข้างๆ กลับกลอกตาไม่หยุด หน้าไม่อาย เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่หน้าไม่อายเช่นนี้เลยรึ!

อะไรคือวางยอดค่ายกลผลาญฟ้าเทพสวรรค์อาจจะทำอันตรายพลังปราณเดิม เจ้าเป็นผู้อริยะที่สุดแห่งยุคผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งยังมีธงจักรพรรดิอัสนี

มาบอกข้าว่าการแก้ค่ายกลหมอกวิญญาณบนที่ราบหมอกลับแลจะทำให้พลังปราณเดิมบาดเจ็บสาหัส เจ้าช่วยหน้าด้านให้มันน้อยๆ กว่านี้ไม่ได้รึ

แล้วยังทุ่มพลังทั้งหมดสลายหมอกวิญญาณช่วยเสิ่นเทียน รอช่วยกลับมาแล้ว พวกเจ้าห้ามบอกเขาอีก

มีเจ้าหนูหลี่อวิ๋นเฟิงนั่นอยู่ คนพวกนี้เก็บความลับอยู่สิแปลก

ขอแค่เจ้าหนูหลี่อวิ๋นเฟิงนั่นพูดคำนี้ออกไปก็เท่ากับรู้กันทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว

เจ้าคิดจะเสแสร้งทำเป็นเย็นชาข้างนอกแต่อบอุ่นภายในให้เสิ่นเทียนรู้โดยบังเอิญใช่หรือไม่ จากนั้นก็ซาบซึ้งใจ กระบอกตาร้อนจนร้องไห้น้ำมูกไหลใช่หรือไม่

จิ๊ๆ สกปรก!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์นี่สกปรกจริงๆ!

เห็นๆ อยู่ว่าทำเรื่องหน้าด้าน แต่กลับไม่มีใครรู้ กลับกัน แทบทุกคนต่างคิดว่าเจ้าคือผู้อริยะสูงส่ง

ตอนนี้นักพรตชราเจ็บปวดจริงๆ เขากำลังใคร่ครวญอยู่ว่าตนควรจะอ่านหนังสือเยอะๆ หรือไม่ อ่านหนังสือเยอะๆ ถึงจะทำเรื่องหน้าไม่อายได้อย่างสวยงาม ให้คนหาข้อติไม่เจอ!

อิจฉาเลย!

ช่วงที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์วางยอดค่ายกลผลาญฟ้าเทพสวรรค์เผาหมอกวิญญาณทั้งที่ราบนั้น ในที่สุดเสิ่นเทียนกลางหุบเขาก็ลืมตาขึ้น

สายฟ้าสีทองไหลเวียนบนผิวกายเขาดั่งสายน้ำ สุดท้ายหุบเข้าไปในกายทั้งหมด รวมกันเข้าไปในระหว่างคิ้ว เส้นผมก็ตั้งขึ้นภายใต้การกระตุ้นของอัสนีเทพกำเนิดฟ้าเช่นกัน โดนสายฟ้าย้อมผมเป็นสีทองสว่างจ้า

เขารู้สึกว่ากายหยาบตนแกร่งขึ้นมาก ระดับความใกล้ชิดกับสายฟ้าพุ่งทะยานขึ้นสูง

ขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนยังรู้สึกว่าอัสนีเทพกำเนิดฟ้าตรงระหว่างคิ้วเชื่อฟังคำสั่งอย่างยิ่ง ใช้ได้ตามใจเลย กระทั่งยังพบว่าเขาใช้สายฟ้ากำเนิดฟ้ากระตุ้นกายหยาบได้ ทำให้กายหยาบแข็งแกร่งขึ้นถึงขีดสุด

เสิ่นเทียนในสภาพนี้เหมือนกับชาวซูเปอร์ไซย่า[1]ในตำนานยิ่ง!

ไม่ใช่แค่ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก การโจมตียังติดคุณสมบัติเป็นอัมพาต

เสิ่นเทียนรู้สึกว่าเขาในตอนนี้แข็งแกร่งระเบิดไปเลย!

…………………………………..

[1] ชาวไซย่า เผ่าพันธุ์หนึ่งในการ์ตูนดรากอนบอล เมื่อแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าผมจะตั้งขึ้นและเป็นสีทอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 155 เสิ่น ซูเปอร์ไซย่า เทียน

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 155 เสิ่น ซูเปอร์ไซย่า เทียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 155 เสิ่น ซูเปอร์ไซย่า เทียน

หลังจากได้ฟังเหตุและผลหน้าหลังของเรื่องราวแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็มองไปที่เมืองหมอกลับแล

เขายื่นมือขวาออกมาช้าๆ ประกายเซียนกระเพื่อมเบาๆ ก่อนจะดูดหมอกวิญญาณสายหนึ่งเข้ามาในมือ

เมื่อสัมผัสอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็พยักหน้านิ่งๆ “นี่คือวิชาจำพวกมายาที่พิเศษอย่างหนึ่ง ผู้ใช้วิชามีพลังบำเพ็ญไม่อ่อนแอเลย ครึ่งก้าวถึงขอบเขตอริยะแล้ว กำลังรบอาจจะไม่ด้อยไปกว่าผู้อริยะธรรมดาทั่วไป”

จางอวิ๋นซีถาม “ท่านพ่อ ตอนนี้ศิษย์น้องเสิ่นเทียนหายตัวไป ท่านมีวิธีทะลวงหมอกวิญญาณนี่หรือไม่”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตอบอย่างเย็นชา “แค่หมอกวิญญาณใกล้ๆ เมืองนี่เอง กำจัดไม่ยาก”

กล่าวจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ประสานมุทรา พลันเกิดประกายสายฟ้าหมื่นจั้งกลางมวลอากาศพุ่งใส่หมอกวิญญาณเบาบางนั้น

สายฟ้าผ่านไปที่ใด หมอกวิญญาณทั้งหมดจะเหมือนระเหยหายไปทั้งหมด

เพียงชั่วครู่สั้นๆ หมอกวิญญาณใกล้ๆ เมืองหมอกลับแลกับเมืองเล็กหมอกลับแลก็หายไปจนหมด พริบตาเดียวฟ้าดินสว่างใส วิสัยทัศน์ไม่มีอุปสรรคใดๆ อีก

ทุกคนในเมืองหมอกลับแลต่างเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์บนฟ้าชัดเจนก่อนจะก้มลงคารวะ

ถึงอย่างไรในโลกบำเพ็ญเซียนก็มองผู้แข็งแกร่งเป็นจ้าว โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งระดับฝ่าด่านเคราะห์คือผู้แข็งแกร่งจุดสูงสุดของโลกนี้แล้ว

แก่นพลังทองคือผู้จริงแท้ ดวงจิตดรุณคือผู้สูงศักดิ์ หลอมรวมเทพคือผู้สูงศักดิ์สวรรค์ แต่ผู้ที่อยู่ใต้ผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์ล้วนเป็นมดปลวกทั้งสิ้น!

พบผู้อริยะไม่คารวะคือโทษมหันต์ ตายไปก็ไม่มีใครเรียกร้องความเป็นธรรมให้

ตอนนี้เห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ปรากฏกาย พวกฉินอวิ๋นตี๋ก็รีบขี่กระบี่บินเข้ามาบนชั้นเมฆ

“ขอคารวะท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์!”

ทุกคนแสดงความเคารพพร้อมกัน นัยน์ตาพวกกุ้ยกงกงเต็มไปด้วยความกังวล “ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์!”

เขาคุกเข่าลงกับพื้นน้อมคำนับ “องค์ชายหายตัวไปนานมากแล้ว ขอให้ท่านช่วยเขาด้วย!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยกมือขึ้นช้าๆ กุ้ยกงกงที่กำลังโขกศีรษะอย่างแรงรู้สึกว่าถูกพลังอ่อนนุ่มยกลอยขึ้นทำให้คุกเข่าไม่ได้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า “มีจิตใจจงรักภักดี มีใจปกป้องนาย เทียนเอ๋อร์มีบ่าวรับใช้อย่างเจ้าถือว่าโชคดี”

จางอวิ๋นซีข้างๆ ถามเช่นกัน “ท่านพ่อ ท่านสัมผัสได้หรือไม่ว่าศิษย์น้องเสิ่นเทียนอยู่ที่ใด”

เมื่อเห็นใบหน้าจางอวิ๋นซีเต็มไปด้วยความกังวลแล้ว ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นกระเพื่อมเบาๆ “ดีมาก เป็นสหายฝ่ายเดียวกันก็ควรจะเป็นห่วงศิษย์พี่ศิษย์น้อง เจ้าไม่ต้องกังวล ตอนนี้เทียนเอ๋อร์น่าจะไม่มีอันตราย”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หยิบป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ออกมาหลับตาลงใช้พลังจิตกระตุ้นสัมผัส ผ่านไปนานถึงลืมตาขึ้น ประกายเซียนบนผิวกายสั่นไหวเบาๆ

“เป็นอย่างที่ข้าคาดไว้ไม่ผิดจริงๆ สัมผัสของป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ตัดขาดไปในที่ราบหมอกลับแล เขาน่าจะเดินทางลึกเข้าไปในที่ราบหมอกลับแลแล้ว แต่พวกเจ้าวางใจ มีข้าอยู่ ไม่มีใครในที่ราบหมอกลับแลทำร้ายเทียนเอ๋อร์ได้แม้แต่ขนเส้นเดียว!”

คำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำให้ทุกคนถอนหายใจโล่งอก กุ้ยกงกงตื้นตันจนกระบอกตาร้อนผ่าว

เขาเฝ้ามองเสิ่นเทียนเดินข้ามอุปสรรคมาตลอดตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ เป็นเหมือนลูกหลานแล้ว

ทุกเค่อที่เสิ่นเทียนหายตัวไป กุ้ยกงกงจะทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง

ตอนนี้ในที่สุดเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ปรากฏตัว ทั้งยังยินดีช่วยปกป้ององค์ชายอย่างเต็มที่

กุ้ยกงกงโล่งอก ‘มีคนห่วงองค์ชายเช่นนี้ หากพระสนมหลานในแดนปรโลกรู้เข้าจะต้องปลื้มใจมากแน่ๆ’

จางอวิ๋นซีพูดขึ้น “ท่านพ่อ ตอนนี้ที่ราบหมอกลับแลโดนหมอกวิญญาณปกคลุมปิดกั้นพลังจิต เราเข้าไปได้หรือไม่”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ที่ราบหมอกลับแลโดนปีศาจนั่นยึดเป็นถิ่นฐานของมันแล้ว จัดการยากมาก การจะเข้าไปช่วยคนในถิ่นนางต้องทำลายอาณาเขตของปีศาจนี่ก่อน ถ้าเทียนเอ๋อร์ไม่อยู่ในที่ราบหมอกลับแลก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ครู่เดียวก็จัดการได้แล้ว!

แต่ตอนนี้เทียนเอ๋อร์อยู่ในที่ราบหมอกลับแล ข้าก็คงทำรุนแรงเกินไปไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่ระวังไปทำร้ายเทียนเอ๋อร์เอา”

สายฟ้าประกายเซียนยิงธงออกมาทีละผืน พุ่งไปบนฟ้าไกลๆ ก่อนจะปักไว้แปดทิศบนที่ราบหมอกลับแล

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กล่าว “ข้าใช้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์วางยอดค่ายกลผลาญฟ้าเทพสวรรค์แล้ว ข้าจะเผาหมอกวิญญาณทั้งที่ราบหมอกลับแลให้แหลกลาญ! ถึงตอนนั้นจะไม่มีหมอกวิญญาณพวกนี้มาปิดกั้นพลังจิต ไม่นานเราก็ไปถึงตัวเทียนเอ๋อร์และช่วยเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย”

คำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำให้ทุกคนตกตะลึง ผลาญหมอกวิญญาณทั้งที่ราบหมอกลับแล นี่เป็นไปได้จริงๆ หรือ

พึงรู้ไว้ว่าหมอกวิญญาณในที่ราบหมอกลับแลแห่งนี้อยู่มาหลายพันปี ยังไม่เคยสลายไปเลย!

จางอวิ๋นซีกล่าวด้วยความกังวล “ท่านพ่อ ไล่หมอกวิญญาณจะไม่ทำอันตรายศิษย์น้องเสิ่นรึ!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ข้าย่อมควบคุมค่ายกลได้ รับรองว่าจะไม่ทำอันตรายเทียนเอ๋อร์ แม้ทำเช่นนี้ข้าจะเสียพลังฤทธิ์มากขึ้นหลายเท่าก็ตาม กระทั่งพลังปราณเดิมบาดเจ็บหนัก แต่เป็นอาจารย์หนึ่งวันต้องเป็นบิดาไปตลอดชีวิต ในเมื่อเทียนเอ๋อร์คือศิษย์ข้า ข้าย่อมต้องปกป้องเขาสุดชีวิต

ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อไล่หมอกวิญญาณไปให้เร็วที่สุด รอช่วยเทียนเอ๋อร์แล้ว พวกเจ้าห้ามบอกอะไรกับเทียนเอ๋อร์”

สายฟ้าประกายเซียนวนเวียนรอบกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ดูเคร่งขรึมยิ่งใหญ่ คำพูดยังแฝงไว้ด้วยความกล้าหาญและสง่างามไม่เกรงกลัวใคร

เวลานี้ พวกหลิวไท่อี่ เถ้าแก่ซ่ง กุ้ยกงกงและฉินเกาได้ยินแล้วก็รู้สึกเลือดร้อนขึ้นมา รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มากขึ้น

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่เสียดายยอมพลังปราณเดิมบาดเจ็บหนักเพื่อลูกศิษย์ จิตใจที่อุทิศตัวด้วยความจริงใจและไม่ขอสิ่งตอบแทนเช่นนี้มันไม่มีความเห็นแก่ตัวเลย

ใบไม้ร่วงจากต้นไม่ใช่สิ่งไร้หัวใจ ต่อให้เป็นโคลนก็ยังยอมเป็นปุ๋ยให้ดอกไม้ใบไม้ผลิเติบใหญ่ ใบไม้ร่วงโรยที่ใดจะเป็นดั่งเปลวไฟไม่มอดดับ

นี่ ก็คือปณิธานของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เราหรือ มันน่าซึ้งใจยิ่งนัก!

ขอข้ามเรื่องศิษย์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ฟังคำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วซาบซึ้งใจจนดวงตาร้อนผ่าวไปแล้วกัน

นักพรตชราข้างๆ กลับกลอกตาไม่หยุด หน้าไม่อาย เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่หน้าไม่อายเช่นนี้เลยรึ!

อะไรคือวางยอดค่ายกลผลาญฟ้าเทพสวรรค์อาจจะทำอันตรายพลังปราณเดิม เจ้าเป็นผู้อริยะที่สุดแห่งยุคผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งยังมีธงจักรพรรดิอัสนี

มาบอกข้าว่าการแก้ค่ายกลหมอกวิญญาณบนที่ราบหมอกลับแลจะทำให้พลังปราณเดิมบาดเจ็บสาหัส เจ้าช่วยหน้าด้านให้มันน้อยๆ กว่านี้ไม่ได้รึ

แล้วยังทุ่มพลังทั้งหมดสลายหมอกวิญญาณช่วยเสิ่นเทียน รอช่วยกลับมาแล้ว พวกเจ้าห้ามบอกเขาอีก

มีเจ้าหนูหลี่อวิ๋นเฟิงนั่นอยู่ คนพวกนี้เก็บความลับอยู่สิแปลก

ขอแค่เจ้าหนูหลี่อวิ๋นเฟิงนั่นพูดคำนี้ออกไปก็เท่ากับรู้กันทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว

เจ้าคิดจะเสแสร้งทำเป็นเย็นชาข้างนอกแต่อบอุ่นภายในให้เสิ่นเทียนรู้โดยบังเอิญใช่หรือไม่ จากนั้นก็ซาบซึ้งใจ กระบอกตาร้อนจนร้องไห้น้ำมูกไหลใช่หรือไม่

จิ๊ๆ สกปรก!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์นี่สกปรกจริงๆ!

เห็นๆ อยู่ว่าทำเรื่องหน้าด้าน แต่กลับไม่มีใครรู้ กลับกัน แทบทุกคนต่างคิดว่าเจ้าคือผู้อริยะสูงส่ง

ตอนนี้นักพรตชราเจ็บปวดจริงๆ เขากำลังใคร่ครวญอยู่ว่าตนควรจะอ่านหนังสือเยอะๆ หรือไม่ อ่านหนังสือเยอะๆ ถึงจะทำเรื่องหน้าไม่อายได้อย่างสวยงาม ให้คนหาข้อติไม่เจอ!

อิจฉาเลย!

ช่วงที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์วางยอดค่ายกลผลาญฟ้าเทพสวรรค์เผาหมอกวิญญาณทั้งที่ราบนั้น ในที่สุดเสิ่นเทียนกลางหุบเขาก็ลืมตาขึ้น

สายฟ้าสีทองไหลเวียนบนผิวกายเขาดั่งสายน้ำ สุดท้ายหุบเข้าไปในกายทั้งหมด รวมกันเข้าไปในระหว่างคิ้ว เส้นผมก็ตั้งขึ้นภายใต้การกระตุ้นของอัสนีเทพกำเนิดฟ้าเช่นกัน โดนสายฟ้าย้อมผมเป็นสีทองสว่างจ้า

เขารู้สึกว่ากายหยาบตนแกร่งขึ้นมาก ระดับความใกล้ชิดกับสายฟ้าพุ่งทะยานขึ้นสูง

ขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนยังรู้สึกว่าอัสนีเทพกำเนิดฟ้าตรงระหว่างคิ้วเชื่อฟังคำสั่งอย่างยิ่ง ใช้ได้ตามใจเลย กระทั่งยังพบว่าเขาใช้สายฟ้ากำเนิดฟ้ากระตุ้นกายหยาบได้ ทำให้กายหยาบแข็งแกร่งขึ้นถึงขีดสุด

เสิ่นเทียนในสภาพนี้เหมือนกับชาวซูเปอร์ไซย่า[1]ในตำนานยิ่ง!

ไม่ใช่แค่ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก การโจมตียังติดคุณสมบัติเป็นอัมพาต

เสิ่นเทียนรู้สึกว่าเขาในตอนนี้แข็งแกร่งระเบิดไปเลย!

…………………………………..

[1] ชาวไซย่า เผ่าพันธุ์หนึ่งในการ์ตูนดรากอนบอล เมื่อแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าผมจะตั้งขึ้นและเป็นสีทอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 155 เสิ่น ซูเปอร์ไซย่า เทียน

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 155 เสิ่น ซูเปอร์ไซย่า เทียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 155 เสิ่น ซูเปอร์ไซย่า เทียน

หลังจากได้ฟังเหตุและผลหน้าหลังของเรื่องราวแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็มองไปที่เมืองหมอกลับแล

เขายื่นมือขวาออกมาช้าๆ ประกายเซียนกระเพื่อมเบาๆ ก่อนจะดูดหมอกวิญญาณสายหนึ่งเข้ามาในมือ

เมื่อสัมผัสอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็พยักหน้านิ่งๆ “นี่คือวิชาจำพวกมายาที่พิเศษอย่างหนึ่ง ผู้ใช้วิชามีพลังบำเพ็ญไม่อ่อนแอเลย ครึ่งก้าวถึงขอบเขตอริยะแล้ว กำลังรบอาจจะไม่ด้อยไปกว่าผู้อริยะธรรมดาทั่วไป”

จางอวิ๋นซีถาม “ท่านพ่อ ตอนนี้ศิษย์น้องเสิ่นเทียนหายตัวไป ท่านมีวิธีทะลวงหมอกวิญญาณนี่หรือไม่”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ตอบอย่างเย็นชา “แค่หมอกวิญญาณใกล้ๆ เมืองนี่เอง กำจัดไม่ยาก”

กล่าวจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ประสานมุทรา พลันเกิดประกายสายฟ้าหมื่นจั้งกลางมวลอากาศพุ่งใส่หมอกวิญญาณเบาบางนั้น

สายฟ้าผ่านไปที่ใด หมอกวิญญาณทั้งหมดจะเหมือนระเหยหายไปทั้งหมด

เพียงชั่วครู่สั้นๆ หมอกวิญญาณใกล้ๆ เมืองหมอกลับแลกับเมืองเล็กหมอกลับแลก็หายไปจนหมด พริบตาเดียวฟ้าดินสว่างใส วิสัยทัศน์ไม่มีอุปสรรคใดๆ อีก

ทุกคนในเมืองหมอกลับแลต่างเห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์บนฟ้าชัดเจนก่อนจะก้มลงคารวะ

ถึงอย่างไรในโลกบำเพ็ญเซียนก็มองผู้แข็งแกร่งเป็นจ้าว โดยเฉพาะผู้แข็งแกร่งระดับฝ่าด่านเคราะห์คือผู้แข็งแกร่งจุดสูงสุดของโลกนี้แล้ว

แก่นพลังทองคือผู้จริงแท้ ดวงจิตดรุณคือผู้สูงศักดิ์ หลอมรวมเทพคือผู้สูงศักดิ์สวรรค์ แต่ผู้ที่อยู่ใต้ผู้อริยะระดับฝ่าด่านเคราะห์ล้วนเป็นมดปลวกทั้งสิ้น!

พบผู้อริยะไม่คารวะคือโทษมหันต์ ตายไปก็ไม่มีใครเรียกร้องความเป็นธรรมให้

ตอนนี้เห็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ปรากฏกาย พวกฉินอวิ๋นตี๋ก็รีบขี่กระบี่บินเข้ามาบนชั้นเมฆ

“ขอคารวะท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์!”

ทุกคนแสดงความเคารพพร้อมกัน นัยน์ตาพวกกุ้ยกงกงเต็มไปด้วยความกังวล “ท่านเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์!”

เขาคุกเข่าลงกับพื้นน้อมคำนับ “องค์ชายหายตัวไปนานมากแล้ว ขอให้ท่านช่วยเขาด้วย!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยกมือขึ้นช้าๆ กุ้ยกงกงที่กำลังโขกศีรษะอย่างแรงรู้สึกว่าถูกพลังอ่อนนุ่มยกลอยขึ้นทำให้คุกเข่าไม่ได้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พยักหน้า “มีจิตใจจงรักภักดี มีใจปกป้องนาย เทียนเอ๋อร์มีบ่าวรับใช้อย่างเจ้าถือว่าโชคดี”

จางอวิ๋นซีข้างๆ ถามเช่นกัน “ท่านพ่อ ท่านสัมผัสได้หรือไม่ว่าศิษย์น้องเสิ่นเทียนอยู่ที่ใด”

เมื่อเห็นใบหน้าจางอวิ๋นซีเต็มไปด้วยความกังวลแล้ว ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เกิดคลื่นกระเพื่อมเบาๆ “ดีมาก เป็นสหายฝ่ายเดียวกันก็ควรจะเป็นห่วงศิษย์พี่ศิษย์น้อง เจ้าไม่ต้องกังวล ตอนนี้เทียนเอ๋อร์น่าจะไม่มีอันตราย”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หยิบป้ายคำสั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ออกมาหลับตาลงใช้พลังจิตกระตุ้นสัมผัส ผ่านไปนานถึงลืมตาขึ้น ประกายเซียนบนผิวกายสั่นไหวเบาๆ

“เป็นอย่างที่ข้าคาดไว้ไม่ผิดจริงๆ สัมผัสของป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ตัดขาดไปในที่ราบหมอกลับแล เขาน่าจะเดินทางลึกเข้าไปในที่ราบหมอกลับแลแล้ว แต่พวกเจ้าวางใจ มีข้าอยู่ ไม่มีใครในที่ราบหมอกลับแลทำร้ายเทียนเอ๋อร์ได้แม้แต่ขนเส้นเดียว!”

คำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำให้ทุกคนถอนหายใจโล่งอก กุ้ยกงกงตื้นตันจนกระบอกตาร้อนผ่าว

เขาเฝ้ามองเสิ่นเทียนเดินข้ามอุปสรรคมาตลอดตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ เป็นเหมือนลูกหลานแล้ว

ทุกเค่อที่เสิ่นเทียนหายตัวไป กุ้ยกงกงจะทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง

ตอนนี้ในที่สุดเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ปรากฏตัว ทั้งยังยินดีช่วยปกป้ององค์ชายอย่างเต็มที่

กุ้ยกงกงโล่งอก ‘มีคนห่วงองค์ชายเช่นนี้ หากพระสนมหลานในแดนปรโลกรู้เข้าจะต้องปลื้มใจมากแน่ๆ’

จางอวิ๋นซีพูดขึ้น “ท่านพ่อ ตอนนี้ที่ราบหมอกลับแลโดนหมอกวิญญาณปกคลุมปิดกั้นพลังจิต เราเข้าไปได้หรือไม่”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ที่ราบหมอกลับแลโดนปีศาจนั่นยึดเป็นถิ่นฐานของมันแล้ว จัดการยากมาก การจะเข้าไปช่วยคนในถิ่นนางต้องทำลายอาณาเขตของปีศาจนี่ก่อน ถ้าเทียนเอ๋อร์ไม่อยู่ในที่ราบหมอกลับแลก็คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ครู่เดียวก็จัดการได้แล้ว!

แต่ตอนนี้เทียนเอ๋อร์อยู่ในที่ราบหมอกลับแล ข้าก็คงทำรุนแรงเกินไปไม่ได้ เดี๋ยวจะไม่ระวังไปทำร้ายเทียนเอ๋อร์เอา”

สายฟ้าประกายเซียนยิงธงออกมาทีละผืน พุ่งไปบนฟ้าไกลๆ ก่อนจะปักไว้แปดทิศบนที่ราบหมอกลับแล

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กล่าว “ข้าใช้ธงจักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์วางยอดค่ายกลผลาญฟ้าเทพสวรรค์แล้ว ข้าจะเผาหมอกวิญญาณทั้งที่ราบหมอกลับแลให้แหลกลาญ! ถึงตอนนั้นจะไม่มีหมอกวิญญาณพวกนี้มาปิดกั้นพลังจิต ไม่นานเราก็ไปถึงตัวเทียนเอ๋อร์และช่วยเขาออกมาได้อย่างปลอดภัย”

คำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทำให้ทุกคนตกตะลึง ผลาญหมอกวิญญาณทั้งที่ราบหมอกลับแล นี่เป็นไปได้จริงๆ หรือ

พึงรู้ไว้ว่าหมอกวิญญาณในที่ราบหมอกลับแลแห่งนี้อยู่มาหลายพันปี ยังไม่เคยสลายไปเลย!

จางอวิ๋นซีกล่าวด้วยความกังวล “ท่านพ่อ ไล่หมอกวิญญาณจะไม่ทำอันตรายศิษย์น้องเสิ่นรึ!”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่ายหน้า “ข้าย่อมควบคุมค่ายกลได้ รับรองว่าจะไม่ทำอันตรายเทียนเอ๋อร์ แม้ทำเช่นนี้ข้าจะเสียพลังฤทธิ์มากขึ้นหลายเท่าก็ตาม กระทั่งพลังปราณเดิมบาดเจ็บหนัก แต่เป็นอาจารย์หนึ่งวันต้องเป็นบิดาไปตลอดชีวิต ในเมื่อเทียนเอ๋อร์คือศิษย์ข้า ข้าย่อมต้องปกป้องเขาสุดชีวิต

ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อไล่หมอกวิญญาณไปให้เร็วที่สุด รอช่วยเทียนเอ๋อร์แล้ว พวกเจ้าห้ามบอกอะไรกับเทียนเอ๋อร์”

สายฟ้าประกายเซียนวนเวียนรอบกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ดูเคร่งขรึมยิ่งใหญ่ คำพูดยังแฝงไว้ด้วยความกล้าหาญและสง่างามไม่เกรงกลัวใคร

เวลานี้ พวกหลิวไท่อี่ เถ้าแก่ซ่ง กุ้ยกงกงและฉินเกาได้ยินแล้วก็รู้สึกเลือดร้อนขึ้นมา รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มากขึ้น

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่เสียดายยอมพลังปราณเดิมบาดเจ็บหนักเพื่อลูกศิษย์ จิตใจที่อุทิศตัวด้วยความจริงใจและไม่ขอสิ่งตอบแทนเช่นนี้มันไม่มีความเห็นแก่ตัวเลย

ใบไม้ร่วงจากต้นไม่ใช่สิ่งไร้หัวใจ ต่อให้เป็นโคลนก็ยังยอมเป็นปุ๋ยให้ดอกไม้ใบไม้ผลิเติบใหญ่ ใบไม้ร่วงโรยที่ใดจะเป็นดั่งเปลวไฟไม่มอดดับ

นี่ ก็คือปณิธานของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เราหรือ มันน่าซึ้งใจยิ่งนัก!

ขอข้ามเรื่องศิษย์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ฟังคำพูดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แล้วซาบซึ้งใจจนดวงตาร้อนผ่าวไปแล้วกัน

นักพรตชราข้างๆ กลับกลอกตาไม่หยุด หน้าไม่อาย เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่หน้าไม่อายเช่นนี้เลยรึ!

อะไรคือวางยอดค่ายกลผลาญฟ้าเทพสวรรค์อาจจะทำอันตรายพลังปราณเดิม เจ้าเป็นผู้อริยะที่สุดแห่งยุคผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งยังมีธงจักรพรรดิอัสนี

มาบอกข้าว่าการแก้ค่ายกลหมอกวิญญาณบนที่ราบหมอกลับแลจะทำให้พลังปราณเดิมบาดเจ็บสาหัส เจ้าช่วยหน้าด้านให้มันน้อยๆ กว่านี้ไม่ได้รึ

แล้วยังทุ่มพลังทั้งหมดสลายหมอกวิญญาณช่วยเสิ่นเทียน รอช่วยกลับมาแล้ว พวกเจ้าห้ามบอกเขาอีก

มีเจ้าหนูหลี่อวิ๋นเฟิงนั่นอยู่ คนพวกนี้เก็บความลับอยู่สิแปลก

ขอแค่เจ้าหนูหลี่อวิ๋นเฟิงนั่นพูดคำนี้ออกไปก็เท่ากับรู้กันทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว

เจ้าคิดจะเสแสร้งทำเป็นเย็นชาข้างนอกแต่อบอุ่นภายในให้เสิ่นเทียนรู้โดยบังเอิญใช่หรือไม่ จากนั้นก็ซาบซึ้งใจ กระบอกตาร้อนจนร้องไห้น้ำมูกไหลใช่หรือไม่

จิ๊ๆ สกปรก!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์นี่สกปรกจริงๆ!

เห็นๆ อยู่ว่าทำเรื่องหน้าด้าน แต่กลับไม่มีใครรู้ กลับกัน แทบทุกคนต่างคิดว่าเจ้าคือผู้อริยะสูงส่ง

ตอนนี้นักพรตชราเจ็บปวดจริงๆ เขากำลังใคร่ครวญอยู่ว่าตนควรจะอ่านหนังสือเยอะๆ หรือไม่ อ่านหนังสือเยอะๆ ถึงจะทำเรื่องหน้าไม่อายได้อย่างสวยงาม ให้คนหาข้อติไม่เจอ!

อิจฉาเลย!

ช่วงที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์วางยอดค่ายกลผลาญฟ้าเทพสวรรค์เผาหมอกวิญญาณทั้งที่ราบนั้น ในที่สุดเสิ่นเทียนกลางหุบเขาก็ลืมตาขึ้น

สายฟ้าสีทองไหลเวียนบนผิวกายเขาดั่งสายน้ำ สุดท้ายหุบเข้าไปในกายทั้งหมด รวมกันเข้าไปในระหว่างคิ้ว เส้นผมก็ตั้งขึ้นภายใต้การกระตุ้นของอัสนีเทพกำเนิดฟ้าเช่นกัน โดนสายฟ้าย้อมผมเป็นสีทองสว่างจ้า

เขารู้สึกว่ากายหยาบตนแกร่งขึ้นมาก ระดับความใกล้ชิดกับสายฟ้าพุ่งทะยานขึ้นสูง

ขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนยังรู้สึกว่าอัสนีเทพกำเนิดฟ้าตรงระหว่างคิ้วเชื่อฟังคำสั่งอย่างยิ่ง ใช้ได้ตามใจเลย กระทั่งยังพบว่าเขาใช้สายฟ้ากำเนิดฟ้ากระตุ้นกายหยาบได้ ทำให้กายหยาบแข็งแกร่งขึ้นถึงขีดสุด

เสิ่นเทียนในสภาพนี้เหมือนกับชาวซูเปอร์ไซย่า[1]ในตำนานยิ่ง!

ไม่ใช่แค่ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก การโจมตียังติดคุณสมบัติเป็นอัมพาต

เสิ่นเทียนรู้สึกว่าเขาในตอนนี้แข็งแกร่งระเบิดไปเลย!

…………………………………..

[1] ชาวไซย่า เผ่าพันธุ์หนึ่งในการ์ตูนดรากอนบอล เมื่อแปลงร่างเป็นซูเปอร์ไซย่าผมจะตั้งขึ้นและเป็นสีทอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+