บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 507 ที่แท้ข้าคือเซียนรุ่นสาม!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 507 ที่แท้ข้าคือเซียนรุ่นสาม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 507 ที่แท้ข้าคือเซียนรุ่นสาม!

อาณาจักรต้าเหยียน

เขตแดนที่นี่ห่างไกลผู้คน ผู้แข็งแกร่งน้อย เป็นอาณาจักรโลกมนุษย์

ทว่าก็ยังถูกเผ่าวิญญาณร้ายรุกราน

มีวิญญาณร้ายระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์นำทัพโจมตีอาณาจักรต้าเหยียน

ทว่าก็ยังไม่ทันเข้าใกล้พวกเขา จะมีมือยักษ์ยื่นมาจากกลางฟ้า ตบวิญญาณร้ายแหลกเป็นผุยผง

เห็นได้ชัดว่าที่นี่มีผู้แข็งแกร่งอยู่ คอยปกป้องอาณาจักรนี้

เพราะว่าที่นี่เป็นบ้านเกิดของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน

จางหลงหยวนให้ผู้อาวุโสสูงสุดแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์มาอยู่ที่นี่ กันวิญญาณร้ายรุกราน ดังนั้นอาณาจักรต้าเหยียนจึงเป็นอาณาจักรจำนวนไม่มากที่ไม่ถูกวิญญาณร้ายยึดครอง

…..

สุสานพระสนมหลาน

จักรพรรดิเหยียนเสิ่นเซี่ยวมองป้ายหลุมศพ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความคิดถึง

เขาพึมพำเสียงเบา “หลานเอ๋อร์ ห้าดินแดนเจอวิกฤติแล้ว ไม่รู้ว่าเทียนเอ๋อร์จะเป็นอย่างไรบ้าง!”

ตอนนี้หายนะมาเยือน อันตรายถึงห้าดินแดน

ต่อให้รุกรานไม่ถึงที่นี่ เสิ่นเซี่ยวก็ยังรู้สึกไม่อุ่นใจ

เขาไม่ได้ข่าวของเสิ่นเทียนมาร้อยปีแล้ว จึงเป็นกังวลอย่างยิ่ง

ตอนนี้เองเกิดแสงเทพสว่างขึ้นกลางหลุมศพพระสนมหลาน

แสงสว่างมารวมกัน กระจายเหมือนฝนวิญญาณ สุดท้ายกลายเป็นผีเสื้อตัวหนึ่ง

ผีเสื้อมีแสงเทพสว่างวนเวียน สว่างจ้าแสบตา

มันบินไปตามสายลม บินรอบกายเสิ่นเซี่ยว จากนั้นพุ่งขึ้นฟ้า หายไปในอากาศ

เมื่อเห็นภาพนี้ เสิ่นเซี่ยวตัวสั่นไหวเบาๆ

“หลานเอ๋อร์ เป็นเจ้ารึ”

…….

ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนกำลังเจอกับวิกฤติที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน

เยี่ยฉิงชางพ่ายแพ้ถอยไป โลกนี้ไม่มีใครต่อต้านเทพโบราณได้อีก

อีกทั้งสามเทพโบราณยังเพ่งเล็งไปที่เสิ่นเทียน พวกเขามาที่นี่ก็เพื่อสังหารกายราชันมนุษย์

เอาชนะเยี่ยฉิงชางได้ เหยียนกุ่ยก็พุ่งไปหาเสิ่นเทียนอย่างไม่ลังเล พลังอำนาจน่ากลัวหมุนม้วนเข้ามา สะท้านฟ้าดิน

เหยียนกุ่ยยื่นมือใหญ่ บดบังฟ้าบังตะวัน ทำลายผืนดารา

การโจมตีนี้สังหารผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิได้ง่ายดาย

เสิ่นเทียนขนลุกขึ้น หวาดกลัวอย่างยิ่ง

เหยียนกุ่ยเป็นศัตรูที่แกร่งที่สุดที่เขาเคยพบมา น่ากลัวสุดขีด

แม้เสิ่นเทียนจะสังหารมหาจักรพรรดิได้ แต่ก็ยังต่างกับเทพโบราณมากเกินไป

เมื่อเห็นเหยียนกุ่ยพุ่งเข้ามา เสิ่นเทียนก็เรียกตำหนักราชันมนุษย์กับตราราชันมนุษย์มาป้องกันไว้

วูบ!

ยอดอาวุธสองชิ้นเปล่งแสงเทพสว่างจ้า กลายเป็นม่านแสงทองพร่างพราวปกคลุมฟ้าดิน

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น!

เหยียนกุ่ยโจมตีลงมา ทำลายม่านแสงทองแตกกระจาย

เสิ่นเทียนตัวสั่นอย่างรุนแรง ถอยไปหลายก้าว

พลังบำเพ็ญเขาต่ำเกินไป แม้จะกระตุ้นยอดอาวุธสูงสุดสองชิ้น ก็ยากจะต่อต้านกับเทพโบราณได้

เหยียนกุ่ยเผยแววตาละโมบ แสยะยิ้ม “อาวุธราชันมนุษย์อันยิ่งใหญ่กลับไปอยู่ในมือมดปลวก เสียของจริงๆ! ยกมันให้ข้าเถอะ!”

เขายื่นมือใหญ่ออกมาคว้าไปยังตราราชันมนุษย์และตำหนักราชันมนุษย์

ยอดอาวุธระดับนี้ เทพโบราณยังน้ำลายไหลหมื่นส่วน

ห้วงอากาศพลันกดอัดรวมกัน กำราบยอดอาวุธสองชิ้น

จากนั้นเหยียนกุ่ยใช้วิชาชั่วร้ายสูงสุด จะชิงมันมา

เสิ่นเทียนหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย เขาพบว่ายอดอาวุธสองชิ้นนี้กำลังสั่นไหวอย่างรุนแรง

มีพลังแปลกประหลาดกำลังช่วงชิงอำนาจควบคุมของเขา

เหยียนกุ่ยแผดเสียงแหลมเล็ก “เหยียนหมัว เหยียนหลิง ฆ่ากายราชันมนุษย์ อย่าให้มีโอกาสเด็ดขาด!”

ต่อให้ใช้กลอุบายของเทพโบราณ แต่การจะชิงยอดอาวุธราชันมนุษย์ก็ไม่ง่ายขนาดนั้น

ดังนั้นเหยียนกุ่ยถึงได้ให้เทพโบราณอีกสองตนออกมือ ขอแค่สังหารเสิ่นเทียนได้ ยอดอาวุธสองชิ้นนี้ก็ไร้เจ้าของ ถึงตอนนั้นเขาก็จะเก็บมันเข้ากระเป๋าไป

……

เหยียนหมัวกับเหยียนหลิงพุ่งเข้ามาพร้อมกับพลังมหาศาล จู่โจมใส่เสิ่นเทียน

เทพโบราณสองตนบุกเข้ามา พลานุภาพสั่นสะเทือนฟ้าดิน

ห้วงอากาศถูกปราณชั่วร้ายปกคลุม น่าสะพรึงถึงที่สุด เหมือนจะฆ่าล้างทุกสรรพสัตว์

ภาพนี้ทำให้คนมากมายดวงตาแทบปริแตก

“ไม่!”

พวกเขาเห็นเสิ่นเทียนตกอยู่ในอันตราย แต่ช่วยอะไรไม่ได้เลย เพราะพลังของพวกเขาไม่อาจต้านเทพโบราณได้

“ไปให้พ้น!”

เยี่ยฉิงชางลากร่างสะบักสะบอมเข้ามา สำแดงกลอุบายสุดท้าย

ทว่าสองเทพโบราณร่วมมือกัน โจมตีให้เขากระอักเลือดใหญ่

“เทียนเอ๋อร์ หนีไป!”

เยี่ยฉิงชางคำรามด้วยความโกรธ เต็มไปด้วยความไร้เรี่ยวแรง

เขาบาดเจ็บสาหัสแล้ว ต่อให้สู้ตายก็เอาชนะเทพโบราณสองตนไม่ได้

“เจ้าหนู ตายเสียเถอะ!”

เทพโบราณสองคนยิ้มเยาะ จู่โจมใส่เสิ่นเทียน

ครั้งนี้พวกเขาจะต้องสังหารกายราชันมนุษย์รุ่นนี้ให้ได้

……

ทันใดนั้นเอง เกิดแสงเทพไร้ที่สิ้นสุดขึ้นทางตะวันออก

แสงสว่างปกคลุม บดบังฟ้าและตะวัน

ห่างไปไม่ไกลเป็นผีเสื้อใหญ่เท่าฝ่ามือบินมา

มันพัดพายุหมุนขึ้น พลันหมุนไปสามล้านลี้

ผีเสื้อเร็วขึ้นเรื่อยๆ ร่างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนปกคลุมไปเกือบครึ่งดินแดนกลาง

“หืม”

เหยียนหมัวกับเหยียนหลิงขมวดคิ้วมุ่น รู้สึกว่าจะเกิดเหตุไม่คาดคิดบางอย่าง

ถึงอย่างไรผีเสื้อตัวนี้ก็ไม่ธรรมดาเลย ทำให้คนหวาดกลัว

แต่พวกเขายังไม่หยุดมือ ยังโจมตีเสิ่นเทียน

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังหารกายราชันมนุษย์ก่อน

……

“รนหาที่ตาย”

เสียงเย็นชาดังขึ้นในอากาศ สั่นสะเทือนทะเลดาราทั้งหมด

ผีเสื้อกระพือปีก หมุนม้วนดินแดนล้านลี้

พายุคลั่งไร้ขอบเขตรวมเป็นคมดาบเต็มฟ้า พลันจู่โจมเข้ามา

ฟ้าถล่มดินทลาย ทะเลดาราดับสลาย

พลังนี้ก้าวข้ามมิติ มาปรากฏตรงหน้าเทพโบราณในพริบตา

“อ๊าก!”

เสียงร้องโอดครวญดังขึ้น

เทพโบราณสองตนกายเนื้อแตก ถูกพายุหมุนกวนกระจาย แม้แต่วิญญาณแท้ยังหนีไปไม่ได้

ภาพนี้สร้างหวาดกลัวกับทุกคน

พวกเขาจ้องผีเสื้อนั้น เกิดคลื่นลูกใหญ่ขึ้นในใจ

ไม่มีใครคาดคิดว่าผีเสื้อตัวนี้จะระเบิดพลังน่ากลัวเช่นนี้ได้ สังหารเทพโบราณสองตนได้ในพริบตา

เหยียนกุ่ยตัวสั่นรุนแรง จิตใจแทบปริแตก

เขาอ้าปากกว้าง สั่นไม่หยุด แม้แต่พูดยังพูดไม่ออก

เหยียนกุ่ยรู้ดีว่าเทพโบราณสองตนนั้นแกร่งเพียงใด

แม้พวกเขาจะเป็นเทพโบราณชั้นล่าง แต่ก็เป็นการคงอยู่สุดยอดในเทพโบราณชั้นล่าง

สองคนร่วมมือกัน ถึงขั้นต่อกรกับเทพโบราณชั้นกลางได้

ตอนนี้กลับถูกสังหารในพริบตารึ

เป็นใครกันแน่

…..

ผีเสื้อลอยลงมาตรงหน้าเสิ่นเทียน

แสงสว่างพร่างพราวแสบตา กลายเป็นหญิงงดงามคนหนึ่ง

นางรูปร่างสูงเพรียว เหมือนแกะสลักจากหยกเซียนอย่างดีที่สุด เอกลักษณ์เย็นชาสูงส่ง ทำให้คนไม่กล้าดูหมิ่นแม้แต่นิด

ผิวพรรณดั่งหิมะ ใสแวววาว นางเหมือนเซียนหญิงในตำหนักวัง อยู่อิสระในโลก

ทุกคนเผยแววตาหลงใหล ตกอยู่ในห้วงนั้น

สตรีหลายคนถอดสี ก้มหน้าลง ละอายใจในตนเองที่เทียบไม่ได้

ในนั้นยังมีสตรีศักดิ์สิทธิ์และเทพธิดาอันดับต้นๆ ในห้าดินแดน

ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าคนนี้ ทุกอย่างกลับถอดสี

….

เสิ่นเทียนตัวสั่นไหวเบาๆ

เขาจ้องร่างเงานี้ เกิดความรู้สึกใกล้ชิด

ความรู้สึกนี้มาจากสายเลือด ไม่อาจปกปิดได้

คนนี้เหมือนญาติพี่น้องที่สนิทที่สุดของเขา เชื่อมต่อกันทางสายเลือด

ในค่ายเทพสวรรค์

ผู้อาวุโสบัวทองเพ่งสายตามอง กำสองหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว

นางพึมพำกับตัวเอง “เจ้านี่ ไม่อยากเชื่อว่าจะแกร่งขนาดนี้!”

กุ้ยกงกงถึงกับตะลึงงันอยู่กับที่

น้ำตาเขาไหลพราก พูดเสียงสั่น “พระ…พระสนมหลานรึ”

ใช่!

คนนั้นคือพระสนมหลาน!

และมีเพียงพระสนมหลานที่งดงามเช่นนี้

แต่พระสนมหลานสิ้นพระชนม์ไปหลายร้อยปีแล้ว เหตุใดจู่ๆ ถึงคืนชีพกลับมา

ไม่ใช่แค่คืนชีพ แต่ยังแกร่งเช่นนี้อีก

ชั่วครู่เดียว ก็สังหารเทพโบราณสองตนได้

ช่างน่าตกใจยิ่งนัก น่าตกใจจริงๆ!

…..

เมื่อรู้สึกถึงกลิ่นอายพลังน่ากลัวที่แผ่มาจากพระสนมหลานแล้ว เหยียนกุ่ยตื่นกลัวมาก

พลังนี้น่ากลัวยิ่งนัก กว้างใหญ่ไร้พรมแดนเหมือนทะเลดารา

ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่ใช่การคงอยู่ที่เขาจะต่อต้านได้เลย!

“หนี!”

เหยียนกุ่ยไม่พูดไม่จาก็หนีไปต่างแดน

เขาฉีกธารดาราหนีไปอย่างรวดเร็ว ไม่กล้าอยู่เลยแม้แต่นิด

คนนี้น่ากลัวเกินไป ทำให้เขาเกิดวิกฤติความเป็นตาย

ทว่าทันใดนั้นเอง พระสนมหลานมองมา

นางยกมืองามกดอากาศ ธารดาราล้านลี้ส่องสะท้อนออกมาเป็นดอกกล้วยไม้ เผยเป็นภาพที่งดงามอย่างยิ่ง

จากนั้นดอกกล้วยไม้หุบลงช้าๆ ทำลายทะเลดาราทั้งหมด!

ปัง!

เหยียนกุ่ยที่เดิมทีหนีออกไปล้านลี้กายเนื้อระเบิดกระจาย วิญญาณแท้ดับสลายไป

สังหารเหยียนกุ่ยแล้ว พระสนมหลานยังมีสีหน้าราบเรียบ

นางหมุนตัวกลับมาช้าๆ มองเสิ่นเทียนที่แข็งทื่ออยู่ที่เดิมก่อนจะเผยรอยยิ้ม

เสียงของนางสั่นอยู่นิดๆ “เทียนเอ๋อร์!”

เมื่อเห็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตน พระสนมหลานก็ยังต้องแสดงสีหน้า

ถึงอย่างไรก็นางก็ตั้งครรภ์เขามา เลือดข้นกว่าน้ำ

อีกทั้งตั้งแต่เสิ่นเทียนกำเนิด พระสนมหลานยังไม่ทันได้มองเขาเลยก็แสร้งตายนิพพาน

ตอนนี้นางนิพพานกลับมา ได้เห็นบุตรชายแท้ๆ จะไม่ตื้นตันใจได้อย่างไร

เสิ่นเทียนตัวสั่นไหวอย่างแรง พูดงึมงำ “ทะ…ท่านแม่!”

เขามั่นใจได้ว่าคนนี้คือพระสนมหลานมารดาของเขา

เพราะกลิ่นอายสายเลือดไม่มีทางหลอกกันได้

…….

พระสนมหลานสีหน้าอ่อนโยน

“ขอโทษนะเทียนเอ๋อร์ แม่มาช้าไป!”

นางยื่นมืองามมาลูบใบหน้าเสิ่นเทียน ในดวงตาเต็มไปด้วยความคิดถึง

มีมารดาคนใดบ้างที่ไม่คิดถึงลูก มิหนำซ้ำพวกเขายังพลัดพรากจากกันมาหลายร้อยปี

เสิ่นเทียนพูดด้วยสีหน้าฉงน “ท่านแม่ท่าน…!”

เขาไม่นึกเลยว่าพระสนมหลานจะยังไม่ตาย อีกทั้งยังแกร่งขนาดนี้ สังหารเทพโบราณได้ง่ายดาย

เยี่ยฉิงชางเดินออกมา ก่อนพูดด้วยความปลื้มใจ “คัมภีร์มรรครังไหมเทพไม่ธรรมดาจริงๆ นิพพานอมตะ แปลงเป็นผีเสื้อกลับมา!

หลานเอ๋อร์ ในที่สุดเจ้าก็ตื่นแล้ว!”

เมื่อพบเยี่ยฉิงชาง พระสนมหลานเผยสีหน้ารู้สึกผิด “ท่านพ่อ ลูกอกตัญญู หากไม่ใช่เพราะข้า…”

ทว่าพระสนมหลานยังไม่ทันพูดจบ

เยี่ยฉิงชางก็โบกมือห้ามไว้ “ไม่เป็นไร เรื่องมันผ่านไปแล้ว! ตอนนี้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย พ่อก็สบายใจ”

หลังได้ฟังคำพูดของสองคน เสิ่นเทียนตาลุกวาว

พระสนมหลานคืนชีพนี่ทำให้เขาตื่นตกใจแล้ว ปรากฏว่าพระสนมหลานกลับเป็นบุตรสาวของเยี่ยฉิงชาง

นั่นเท่ากับว่าเยี่ยฉิงชางเป็นตาของตนจริงๆ ไม่ใช่หรือ

มิน่า เยี่ยฉิงชางถึงจะให้เขารับเขาเป็นตาบุญธรรมมาตลอด

แม้แต่ยอดสมบัติสูงสุดอย่างหอคอยเทพสงคราม บอกจะให้ก็ให้เลย

ที่แท้ เยี่ยฉิงชางก็รู้เรื่องนี้มานานแล้ว

พอนึกถึงตรงนี้ เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย

ข้าก็คิดว่าตัวเองเป็นลูกชาวบ้านธรรมดา ไม่มีรากฐานอะไร

ปรากฏว่าเซียนรุ่นสองก็คือข้าเองรึ

ท่านแม่กับท่านตา เป็นผู้แข็งแกร่งสูงสุดของโลกเซียน

ข่าวนี้รุนแรงยิ่งนัก!

เดิมทีอยากใช้ฐานะคนธรรมดาฝึกบำเพ็ญ แต่ไม่นึกเลยว่าจะแลกกลับมาเป็นการถูกปิดล้อม

ไม่เสแสร้งแล้ว!

ข้าคือเซียนรุ่นสอง ข้าแบไพ่แล้ว!

ข้าอยากรู้นักว่าจะมีลูกวิญญาณร้ายสักกี่ตนที่กล้าส่งมาตาย

…….

ชั่วขณะที่เสิ่นเทียนกำลังลำพองใจอยู่นั้น ท้องนภาเปลี่ยนไปอีกครั้ง

มีเสียงคำรามด้วยความโกรธดังมาจากต่างแดง “กายราชันมนุษย์ วันนี้ต้องตาย!”

เสียงดังสนั่นกึกก้องฟ้าเก้าชั้น

เมื่อได้ยินเสียงนี้ เสิ่นเทียนใจเต้นระรัว

ไม่กระมัง มาอีกแล้วรึ

ไม่จบไม่สิ้นเลย

บึ้ม!

ท้องนภาถูกฉีกเป็นหลุมดำยักษ์

นิ้วมือยักษ์เชื่อมฟ้ากดลงมา บดบังฟ้าบังดวงตะวัน

มันทำลายดาราล้านดวง พุ่งลงมา

มือนี้ใหญ่ยักษ์ บดบังไปมากกว่าครึ่งดินแดนกลาง

เปลือกโลกห้าดินแดนสั่นไหว ฟ้าถล่มดินทลาย

พลังแห่งสวรรค์ไหลหลากในอากาศ มหามรรคทั้งหมดคืนชีพ

พลังแห่งฟ้าดินสร้างเป็นโซ่ลำดับผนึกฟ้าดินแห่งนี้ไว้ ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าพลังนี้กลับรับการโจมตีเดียวไม่ไหว

แค่พลังของนิ้วเดียวก็ทำให้พลังแห่งสวรรค์ทลายลงทั้งหมด

ทุกคนตื่นกลัวกันอย่างยิ่ง นัยน์ตาฉายแววสิ้นหวัง

นี่คือยักษ์ใหญ่สูงสุด ทำให้สวรรค์ห้าดินแดนยังตัวสั่น

ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ หากบุกเข้ามาจะต้องทำลายล้างห้าดินแดนแน่นอน

หรือว่าห้าดินแดนจะไม่รอดจากหายนะจริงๆ

…..

ยอดของพระราชวังอาณาจักรต้าเหยียน

เสิ่นเซี่ยวแววตาวาววับ มองดินแดนกลาง

เขามองเจตจำนงมรรคลายพร้อยเต็มฟ้า นัยน์ตาเกิดแสงสีม่วงไร้ที่สิ้นสุดขึ้น

ตอนนี้ เจตจำนงมรรคพังทลายพวกนั้นพุ่งมาทางอาณาจักรต้าเหยียน เจตจำนงมรรคพวกนี้ลี้ลับยากจะคาดเดา เก่าแก่และยิ่งใหญ่

นั่นคือต้นกำเนิดฟ้าดิน เป็นราชาเซียนสามสิบหกท่านที่แปลงกายเป็นมรรค

ก็เพื่อปกป้องห้าดินแดน

และตอนนี้พวกมันกลายเป็นโซ่ลำดับไหลเข้าไปในกายเสิ่นเซี่ยวทั้งหมด

ตอนนี้พลังเขาเปลี่ยนไป

ไอม่วงจำนวนมากวนเวียนรอบกายเสิ่นเซี่ยว ดวงตาลึกล้ำดั่งทะเลดารา พลังยิ่งใหญ่ ค้ำฟ้าดิน

ตอนนี้เสิ่นเซี่ยวไม่ใช่จักรพรรดิโลกมนุษย์อีก แต่เป็นราชาเซียนที่สุดแห่งยุคผู้ปกครองสวรรค์

แสงสีม่วงพุ่งขึ้นท้องนภา

พลังเสิ่นเซี่ยวบรรลุถึงจุดสูงสุด สั่นสะเทือนจักรวาล

เขามองดินแดนกลางพลางงึมงำกับตัวเอง

“วัฏจักรหมื่นปี ชีวิตคนเราก็ต้องตาย ราชาเซียนจื่อเวย ฝ่าเคราะห์กลับมา”

บึ้ม!

ฟ้าดินพังทลาย ไอม่วงถาโถมสิบล้านลี้

เสิ่นเซี่ยวกลายเป็นแสงสุดขั้วสีม่วง ย่างก้าวออกไป หายวับไปในพริบตา!

……

เมื่อสวรรค์ห้าดินแดนพังทลาย ผู้แข็งแกร่งเผ่าวิญญาณร้ายก็เข้ามา

ท้องนภาถูกฉีก เผยหลุมดำลึก

ร่างเงาหนึ่งก้าวออกมา พลิกกลับท้องนภา

คนนี้มีปราณชั่วร้ายวนเวียนรอบกาย มากมายมหาศาลดั่งทะเลดารา ไร้ขอบเขต

เขายืนกลางอากาศ จักรวาลสั่นไหว จะพังทลายลง

นี่คือผู้แข็งแกร่งสูงสุด เหนือกว่าเทพโบราณ เป็นราชาเซียนที่แท้จริง!

เมื่อเห็นคนนี้ ผู้คนมากมายจิตใจสั่นไหว

ไม่มีใครคาดคิดว่าเผ่าวิญญาณร้ายจะบ้าคลั่งขนาดนี้

ตอนแรกส่งเก้าจักรพรรดิมาก่อน จากนั้นเป็นสามเทพโบราณ

ตอนนี้ราชาเซียนเคลื่อนไหว เพียงเพื่อสังหารเสิ่นเทียน

การกระทำเช่นนี้ยิ่งใหญ่จริงๆ!

……

พระสนมหลานสีหน้าจริงจังเล็กน้อย

แม้นางจะนิพพานกลับมา พลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก

แต่ก็แค่จุดสูงสุดเทพโบราณชั้นสูง ห่างจากราชาเทพหนึ่งก้าว

แต่หนึ่งก้าวนี้เหมือนร่องหุบเขาสวรรค์ ไม่อาจข้ามผ่านได้

ตอนนี้ราชาเซียนปรากฏตัว พระสนมหลานจึงรู้สึกกดดันอย่างหนัก

แต่นางก็ยืนขวางหน้าเสิ่นเทียนอย่างแน่วแน่ ไม่เกรงกลัว

เพราะนางคือมารดา

เป็นมารดา นางจะไม่ยอมให้บุตรของตนเป็นอะไรไปแม้แต่น้อย

ตอนนี้ราชาเซียนวิญญาณร้ายเคลื่อนไหวแล้ว

เขาชำเลืองตามองเสิ่นเทียนทีหนึ่ง ทำให้เขาเลือดเดือดพล่านไปทั้งตัว เหมือนจะทะลวงกายออกมา!

“กำราบ!”

พระสนมหลานพ่นลมหายใจเบา ประสานมุทราปกป้องเสิ่นเทียน

โลหิตในกายเสิ่นเทียนถึงสงบลง คิ้วขมวดมุ่น

นี่คือผู้แข็งแกร่งระดับราชาเซียนรึ

แค่มองก็สังหารเขาได้แล้วหรือ

ราชาเซียนวิญญาณร้ายเอ่ยอย่างเฉยชา “เทพโบราณชั้นสูง ไม่ธรรมดาเลย แต่คิดจะขวางข้า ฝันไปเถอะ”

ราชาเซียนมาเยือน ก่อนคว้าไปทางเสิ่นเทียน

ทันใดนั้นดาราเต็มฟ้ากลายเป็นเถ้าธุลี จักรวาลไร้ขอบเขตทลายเป็นซากปรักหักพัง

พลังแห่งราชาเซียนสังหารทุกสรรพสัตว์ได้

พระสนมหลานมีสีหน้าจริงจัง เคลื่อนพลังทั้งหมด

แสงเทพไร้ที่สิ้นสุดส่องสะท้อนฟ้าดิน รวมเป็นดอกกล้วยไม้ยักษ์

ดอกกล้วยไม้ขยายออกเต็มกำลัง มาพร้อมกับพลังเทพทั้งหมดขวางราชาเซียนไว้ ทว่าพลังนี้ก็ยังต้านการโจมตีของราชาเซียนไม่ได้เลย

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่น!

ดอกกล้วยไม้โรยรา กลีบดอกโปรยปราย แห้งเหี่ยวลงทั้งหมด

พระสนมหลานตัวสั่นอย่างแรง โลหิตไหลมาจากมุมปาก

แค่การโจมตีเดียวก็ทำให้พระสนมหลานที่บรรลุเทพโบราณชั้นสูงบาดเจ็บสาหัส

“ตาย!”

ราชาเซียนยื่นนิ้วมือออกมาด้วยใบหน้าเฉยชา

เหมือนทั้งจักรวาลกดทับลงมา

การสังหารเทพโบราณชั้นสูงไม่มีแรงกดดันใดๆ เลยสำหรับเขา

เขาจะสังหารพระสนมหลานกับเสิ่นเทียน ฆ่าไปพร้อมกัน

…..

ตอนนี้เองไอม่วงอบอวลเต็มฟ้า

แสงม่วงสว่างพร่างพราว หมุนม้วนไปสิบล้านลี้

“โอหัง!”

บุรุษชุดคลุมม่วงยืนตรงหน้าพระสนมหลาน ยื่นมือใหญ่มาต้านการโจมตีราชาเซียนวิญญาณร้ายไว้

เมื่อเห็นคนนี้ พระสนมหลานกับเสิ่นเทียนตัวสั่นสะท้าน

พระสนมหลานดวงตาพร่ามัว ดีใจมาก

ในความดีใจยังมีความประหม่าอยู่หลายส่วน

นางพึมพำเสียงเบา “อาจารย์ ท่านกลับมาแล้ว!”

ทางด้านเสิ่นเทียน นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

“นี่คือ…ท่านพ่อรึ”

เขาจำได้ว่าคนนี้คือเสิ่นเซี่ยว

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกรัว

นี่มันอะไรกัน

ไม่ใช่แค่ท่านแม่กับท่านตาที่เป็นยอดฝีมือโลกเซียน แม้แต่ท่านพ่อยังเป็นยอดฝีมือสูงสุดด้วย!

พวกเขาเล่นอะไรกับข้า แต่งเป็นหมูกินเสือกันรึ

โลกทัศน์ของข้าพังลงนิดๆ แล้ว!

……….

ราชาเซียนวิญญาณร้ายหรี่ตาลงเล็กน้อย ก่อนพูดด้วยความตกใจ “ราชาเซียนจื่อเวยรึ เจ้ายังไม่ตายอีก”

เขาตื่นตะลึงในใจ

ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอราชาเซียนจื่อเวยที่นี่

ราชาเซียนจื่อเวยเป็นราชาเซียนที่สุดแห่งยุคของโลกเซียน มีกำลังรบเป็นหนึ่ง

แค่ไม่กี่พันปีก็สำเร็จเป็นราชาเซียน พาเผ่ามนุษย์ต่อต้านวิญญาณร้าย

ราชาเซียนจื่อเวยมีชื่อเสียงโด่งดัง

เขาเคยสังหารผู้แข็งแกร่งมามากมาย ทำให้วิญญาณร้ายหนาวสั่น

ตอนนั้นเผ่าวิญญาณร้ายยอมส่งราชาเซียนเจ็ดตนมาเพื่อสังหารจื่อเวย

สุดท้ายราชาเซียนจื่อเวยสู้กับเจ็ดตนด้วยตัวคนเดียว ฝืนพาราชาเซียนเจ็ดตนตายไปพร้อมกัน

ศึกนี้สร้างความหวาดกลัวไปทั้งหมื่นเผ่าพันธุ์

แม้เผ่าวิญญาณร้ายจะเสียเจ็ดราชาเซียน แต่ก็สังหารจื่อเวยได้ ไม่ได้ขาดทุนมาก

ถึงอย่างไรเขาก็มีกำลังแข็งแกร่งมาก เป็นราชาเซียนที่สุดแห่งยุค กระทั่งมีท่วงท่าของจักรพรรดิเซียน

ดังนั้นเผ่าวิญญาณร้ายจึงจ่ายทุกอย่างเพื่อสังหารเขา

ทว่า ราชาเซียนจื่อเวยกลับยังไม่ตาย

……

ราชาเซียนจื่อเวยเอ่ยอย่างเฉยชา “เอ้อไจ ไม่เจอกันมาหมื่นปี เจ้ายังไร้ศีลธรรมเหมือนเดิมเลย ราชาเซียนผู้ยิ่งใหญ่ กลับลงมือกับรุ่นเยาว์!”

ราชาเซียนเอ้อไจทำเสียงขึ้นจมูก “กายราชันมนุษย์ไม่เป็นที่ต้อนรับของหมื่นเผ่าพันธุ์ ข้าแค่ทำหน้าที่แทนสวรรค์เท่านั้น!”

ราชาเซียนจื่อเวยเผยแววตาเย้าหยอก “หมื่นเผ่าพันธุ์รึ คนพวกนั้นคู่ควรเรียกว่าหมื่นเผ่าพันธุ์หรือ”

ราชาเซียนเอ้อไจยิ้มเยาะ “ยอมสยบต่อเผ่าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ข้า จะไม่มีวันสูญสิ้น!”

ราชาเซียนจื่อเวยส่ายหน้า “เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ถ้าจะทำร้ายบุตรข้า ก็ข้ามศพข้าไปก่อน!”

ราชาเซียนเอ้อไจเผยแววตาเย็นเยือก ทำเสียงขึ้นจมูก “ข้าก็อยากจะรู้นักว่าราชาเซียนที่สุดแห่งยุคในตอนนั้น จะเหลือศักยภาพอยู่กี่ส่วน!”

“ฆ่า!”

ราชาเซียนเอ้อไจคำรามเสียงดัง สั่นทำลายดินแดนนับพันนับหมื่น ก่อนจะพุ่งลงมา

เขากำหมัดมาพร้อมกับอานุภาพทำลายล้างโลก พลิกกลับฟ้าดิน

ราชาเซียนจื่อเวยพุ่งขึ้น ไอม่วงโหมซัดสาดสิบล้านลี้

เขาง้างหมัดเทพ เข้าปะทะกับราชาเซียนเอ้อไจ

บึ้ม!

ฟ้าถล่มดินทลาย ดาราดับสลาย

สองคนปะทะกัน ทำให้ผืนดาราไร้พรมแดนแตกกระจาย กระแสมิติปั่นป่วนดับสลาย

นี่คือศึกของผู้แข็งแกร่ง ภาพน่ากลัวอย่างยิ่ง

ฟ้าดินห้าดินแดนสั่นสะเทือน รับแรงปะทะนี้ไม่ไหว

กระทั่งแทบจะถล่มทลายลง

บึ้ม!

หลังจบการโจมตีสุดท้าย สองคนต่างแยกออกจากกัน

ราชาเซียนเอ้อไจเผยแววตาเฉียบคม “สมกับเป็นราชาเซียนจื่อเวย ต่อให้กลับชาติมาเกิด กำลังรบก็ยังแกร่งเช่นนี้! เพียงแต่ว่ารากฐานมรรคเจ้าไม่มั่นคง ยังขวางข้าไม่ได้! วันนี้ กายราชันมนุษย์ต้องตาย!”

เขาตะโกนเสียงดัง แสงกระบี่รอบกายพุ่งขึ้นฟ้า

ข้างหลังราชาเซียนเอ้อไจมีกระบี่เทพนับล้านๆ เล่มลอยขึ้นมา

ทำลายทะเลดาราฟ้าเก้าชั้น น่าสะพรึงสุดขีด

เขาปลุกปราณกระบี่พุ่งเข้ามา ตัดทะเลดารากว้างใหญ่ ทะลวงจักรวาลฟ้าดิน

…..

หัวใจของทุกคนลอยขึ้นไปอยู่ที่ลำคอ

ไม่รู้ว่าราชาเซียนจื่อเวยจะเอาชนะราชาเอ้อไจได้หรือไม่

ชนะก็รอด แพ้ก็ตาย!

ความหวังทุกอย่างขึ้นอยู่กับราชาเซียนจื่อเวย!

อืม~

ตอนนี้เสิ่นเทียนงุนงงแล้ว

ลำบากฝึกมาหลายร้อยปี กว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในห้าดินแดนด้วยตัวเองไม่ใช่ง่ายๆ

ปรากฏว่าเจ้าบอกข้าว่า ผู้พิทักษ์โลกนี้ไม่ใช่ข้า

และยังต้องยกบิดาตนเองไปข่มคนอื่นอีก

ชิ หลอกลวงเกินไปแล้ว!

……………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด