บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 27 สนับสนุนเสี่ยวหลิงเซียนเสมอ!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 27 สนับสนุนเสี่ยวหลิงเซียนเสมอ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 27 สนับสนุนเสี่ยวหลิงเซียนเสมอ!
“เถ้าแก่ซ่งเกรงใจเช่นนี้ ข้าจะรับไว้ได้อย่างไร!”

“ท่านเซียนยอมมาร้านของข้า ถือว่าเป็นการไว้หน้าข้า แหวนโลกาสวรรค์วงเดียว เป็นเพียงน้ำใจเล็กน้อย”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว!”

เสิ่นเทียนรับแหวนโลกาสวรรค์มาสวมใส่บนนิ้วชี้ ขนาดของมันเกือบจะพอดี

ส่วนลวดลายของมันก็ถือว่าสวยทีเดียว

มีเพียงสิ่งเดียวที่เป็นปัญหาก็คือ ทำไมต้องหยดเลือดทำพันธะเจ้าของอีกแล้ว

ของประเภทสมบัติอาคม สมบัติวิญญาณ สมบัติลับเหล่านี้ เวลาทำพันธะเจ้าของล้วนแต่จำเป็นต้องกรีดเนื้อหยดเลือด

เมื่อวานนี้เพื่อที่จะเป็นเจ้าของป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่แผ่นนั้น เสิ่นเทียนต้องหยดเลือดของตนเองไปถึงหนึ่งถ้วยจึงทำสำเร็จ

ก็ไหนพวกการ์ตูนในทีวีแค่หยดเลือดหยดเดียวก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ!

แต่ทำไมโลกบำเพ็ญเซียนแห่งนี้จึงแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง!

ตอนนี้ เถ้าแก่ซ่งก็มามอบแหวนโลกาสวรรค์ให้เสิ่นเทียนอีกหนึ่งวง

ยิ่งไปกว่านั้นจำเป็นต้องหยดเลือดทำพันธะเจ้าของเช่นกัน ถึงจะสามารถควบคุมและใช้งาน

บอกตามตรง เสิ่นเทียนเริ่มไม่กล้ารับแล้ว

อย่างไรก็ดี ถ้าหากปล่อยเลือดออกมาอีกหนึ่งถ้วย

เขาก็คงจะเสียเลือดมากเกินไปแล้ว!

ปวดหัวชะมัด!

……

“เถ้าแก่ซ่ง เจ้าแน่ใจหรือว่าจะมอบแหวนวงนี้ให้ข้า?”

“แม้คำพูดของข้าจะไม่หนักแน่นดั่งกระถางธูป แต่พูดแล้วก็ทำได้เช่นกัน”

“แหวนโลกาสวรรค์วงนี้ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับข้าว่าจะจัดการอย่างไรใช่หรือไม่!”

“แน่นอนอยู่แล้ว”

ถ้าอย่างนั้นก็ดี

เสิ่นเทียนครุ่นคิด ถอดแหวนออกมาส่งให้กุ้ยกงกง

“ลุงกุ้ย แหวนโลกาสวรรค์วงนี้เป็นของท่านแล้ว!”

กุ้ยกงกงสะดุ้งตกใจ “เช่นนี้จะได้อย่างไร นี่เป็นของที่เถ้าแก่ซ่งมอบให้ท่าน บ่าวจะรับไว้ได้อย่างไร!”

แหวนโลกาสวรรค์ที่มีเนื้อที่เก็บของหนึ่งร้อยตารางเมตร มูลค่าสูงถึงศิลาวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อนขึ้นไป

สมบัติชั้นสูงเช่นนี้ ถึงเป็นเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรต้าเหยียนก็มีเพียงไม่กี่คนที่มี

แหวนโลกาสวรรค์วงนี้ สำหรับตระกูลซ่งเป็นสมบัติชั้นสูงที่ไม่เหมือนใคร มีมูลค่าสูงมาก

ปัจจุบัน องค์ชายกลับมอบให้บ่าวอย่างง่ายดาย

นี่เป็นความเชื่อใจเพียงใด!

เสิ่นเทียนกล่าว “ลุงกุ้ยกับข้าเป็นเหมือนญาติ แหวนโลกาสวรรค์วงเดียวทำไมถึงรับไว้ไม่ได้?”

เห็นรอยยิ้มที่เชื่อใจบนใบหน้าของเสิ่นเทียน กุ้ยกงกงอึ้งไปชั่วขณะ

ความอบอุ่นสายหนึ่งถาโถมเข้ามาในจิตใจ

ที่แท้ในใจขององค์ชาย บ่าวเป็นเหมือนกับญาติคนหนึ่ง

องค์ชายพูดเช่นนี้ ถึงบ่าวตายก็คุ้มค่าแล้ว!

……

กุ้ยกงกงไม่บ่ายเบี่ยงอีก

เขารับแหวนโลกาสวรรค์มาสวมใส่บนนิ้วชี้ โคจรพลังวิญญาณเค้นเลือดออกมาหนึ่งหยด

หยดเลือดลงบนแหวนโลกาสวรรค์ โดนแหวนดูดซับเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ในพริบตาเดียว ระหว่างกุ้ยกงกงและแหวนโลกาสวรรค์เกิดความเชื่อมโยงพิเศษแบบหนึ่ง

ขอเพียงคิดในใจ ก็จะสามารถเรียกของออกมาจากแหวนโลกาสวรรค์ เป็นของที่สะดวกมาก

“องค์ชาย ทำพันธะเจ้าของเรียบร้อยแล้ว”

เห็นกุ้ยกงกงทำพันธะเจ้าของเสร็จสิ้นได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ บอกตามตรง เสิ่นเทียนรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม

ที่แท้แหวนโลกาสวรรค์ ใช้เลือดเพียงแค่หยดเดียวก็สามารถทำพันธะเจ้าของ?

แต่ว่า เพราะอะไรป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ถึงต้องใช้เลือดเป็นถ้วยล่ะ!

ต้องเป็นเพราะหลี่ฉางเกอเจ้าคนหวงน้องสาวแอบคิดร้ายต่อข้าแน่ บัดซบ!

“ในเมื่อทำพันธะเจ้าของเรียบร้อยแล้ว ศิลาวิญญาณทั้งสี่พันก้อนนี้ ลุงกุ้ยก็ช่วยข้าเก็บไว้ด้วยเถอะ!”

กล่าวจบ เสิ่นเทียนเดินออกจากร้านวิญญาณสวรรค์อย่างสงบ

……

อย่างไรลุงกุ้ยก็ซื่อสัตย์ต่อตนเอง เก็บไว้ที่เขากับเก็บไว้ที่เสิ่นเทียนก็ไม่แตกต่างกัน

ส่วนเพราะอะไรเสิ่นเทียนถึงไม่เก็บเอง

เหอะๆ พูดราวกับว่าเสิ่นเทียนมีแหวนเก็บของวงที่สอง

นี่คือความคิดที่แท้จริงของเสิ่นเทียน แต่ในสายตาของฝูงชน ไม่ใช่เช่นนี้อย่างแน่นอน

“โอ้โห ท่านเซียนใจกว้างยิ่งนัก!”

“แม้แต่คนใช้ที่ติดตามท่านเซียน ก็ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้!”

“แหวนโลกาสวรรค์หนึ่งวง ศิลาวิญญาณสี่พันก้อน มอบให้คนใช้ของตนเองอย่างง่ายดาย ตกลงท่านเซียนมีทรัพย์สินมากแค่ไหนกันแน่!”

“เป็นห่วงว่าคนรับใช้จะเหนื่อยตายเพราะแบกศิลาวิญญาณ ถึงขั้นมอบแหวนโลกาสวรรค์ที่มีมูลค่าสูงถึงศิลาวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อน”

“พี่เซียนอบอุ่นยิ่งนัก นี่แหละคือชายในฝันของข้า!”

“พี่เซียนยังต้องการคนรับใช้หรือไม่? แบบที่สามารถแต่งเป็นจิ้งจอกเซียน ปีศาจแมวอะไรเช่นนั้น”

……

อีกด้านหนึ่ง เถ้าแก่ซ่งเห็นเสิ่นเทียนมอบแหวนโลกาสวรรค์ให้ลุงกุ้ย ในใจไม่ได้รู้สึกไม่สบอารมณ์

กลับกัน เขากลับมีความรู้สึกเหมือนโชคดีที่รอดพ้นหายนะ

ทำเป็นเล่น คนที่สามารถมอบแหวนโลกาสวรรค์ให้กับคนใช้อย่างง่ายดาย ใช่คนที่เขาสามารถล่วงเกินได้หรือไม่?

ยิ่งไปกว่านั้น ฟังจากน้ำเสียงคำพูดของลุงกุ้ยท่านนั้น เหมือนเป็นขันทีในวังหลวง

สิ่งนี้ยิ่งช่วยยืนยันความคิดในใจของเถ้าแก่ซ่ง

ผู้ที่อยู่ตรงหน้าท่านนี้ไม่ต้องสงสัยเลย เขาต้องเป็นเสิ่นเอ้า องค์ชายหกแห่งอาณาจักรต้าเหยียนแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น ภูมิหลังขององค์ชายหกท่านนี้น่ากลัวเกินกว่าที่เขาจินตนาการ

ตอนนี้เถ้าแก่ซ่งเริ่มสังเกตลุงกุ้ย จึงพบรายละเอียดอย่างหนึ่ง

นั่นก็คือกระบี่เล่มสะพายอยู่บนแผ่นหลังของลุงกุ้ยในตอนนี้ มันคือกระบี่วารีครามของหลี่เหลียงเอ๋อร์ องค์หญิงน้อยแห่งตระกูลหลี่

ต้องบอกก่อน มูลค่าของกระบี่วารีครามทิ้งห่างแหวนโลกาสวรรค์ถึงสิบถนน

เสิ่นเทียนถึงขั้นยอมให้ลุงกุ้ยสะพายแม้กระทั่งกระบี่วารี แล้วนับประสาอะไรกับการมอบแหวนโลกาสวรรค์ให้เขาเก็บไว้?

ยิ่งไปกว่านั้น หลี่เหลียงเอ๋อร์ถึงขั้นมอบกระบี่วารีครามที่พกติดตัว จะเห็นได้ชัดว่าข่าวลือของคนทั้งสองใช่ว่าจะไม่มีมูลเหตุ

ต้องบอกก่อน ตระกูลหลี่เป็นถึงตระกูลอันดับหนึ่งในแดนเทวาดาวประกายพรึก มียอดฝีมือมากมาย

ได้รับความโปรดปรานจากเทพธิดาเหลียงเอ๋อร์ สามารถประหยัดเวลาความพยายามสองร้อยปีได้อย่างง่ายดาย

ตระกูลซ่งของเขา ไม่กล้าล่วงเกินบุคคลที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้!

……

นึกถึงตรงนี้ เถ้าแก่ซ่งยิ่งเกรงใจเสิ่นเทียนมากขึ้น

ยืนอยู่ด้านข้างด้วยความเคารพ รอจนกระทั่งกุ้ยกงกงเก็บศิลาวิญญาณสี่พันก้อนเข้าไปในแหวนโลกาสวรรค์

ถึงกล้าส่งเสิ่นเทียนและคนอื่นออกจากประตูราวกับสามารถเกิดอันตรายขึ้นได้ทุกเมื่อ

หลังจากที่เสิ่นเทียนและคนอื่นไปจากร้านวิญญาณสวรรค์ ด้านหลังเสื้อของเถ้าแก่ซ่งเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

น่าตกใจมาก!

หันกลับมา เถ้าแก่ซ่งใช้มือตบใส่ศีรษะของคุณชายซ่งทันที

“เจ้าฟังให้ดี ครั้งนี้ท่านเซียนน่าจะหายคับข้องใจแล้ว ต่อไปเจ้าให้ความเคารพต่อท่านเซียนด้วย ไม่เช่นนั้นข้าเองจะเฆี่ยนเจ้าตายคนแรกแน่!”

คุณชายซ่ง “…”

……

อีกด้านหนึ่ง เสิ่นเทียนไม่ได้เก็บเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านวิญญาณสวรรค์ไว้ในใจ

จนกระทั่งออกจากร้านวิญญาณสวรรค์ เขาก็ยังไม่เคยสัมผัสถึงการหาทางรอดของเถ้าแก่ซ่ง

เขาคิดว่าสองพ่อลูกตระกูลซ่งจำตนเองไม่ได้ด้วยซ้ำ!

ผู้มีวาสนายี่สิบคนชุดแรก สี่คนที่ร้านวิญญาณสวรรค์ได้รับโชคลิขิตหมดแล้ว

ใช้หลักของเยอะก่อนน้อยหลัง เป้าหมายต่อไปของเสิ่นเทียนคือหอวิญญาณหงส์ที่อยู่ทางตะวันออกของสวนหมื่นวิญญาณ

ตามภาพที่ปรากฏของโชคลิขิต ในบรรดาผู้มีวาสนายี่สิบคน มีคนได้รับโชคลิขิตในหอวิญญาณหงส์สามคน

เสิ่นเทียนพาผู้มีวาสนาทั้งสามคนเดินเข้าไปในหอวิญญาณหงส์ ภายใต้สายตาที่คาดหวังของผู้คน

มีการชี้แนะจากภาพ เสิ่นเทียนช่วยผู้มีวาสนาทั้งสามเลือกหินแร่วิญญาณในเวลาไม่กี่นาที

หินแร่วิญญาณทั้งสามก้อนถูกผ่าออกทีละก้อนภายใต้การจับจ้องของฝูงชน

ออกมาแล้ว!

ออกมาแล้ว!

ออกมาแล้ว!

ระเบิด!

ระเบิด!

ระเบิด!

ศิลาวิญญาณที่เปิดออกมาจากหินแร่วิญญาณทุกก้อนล้วนแต่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า

ผลตอบแทนสูงที่สุดคือก้อนที่ซื้อมาในราคาแปดก้อน ขายออกไปในราคาสูงถึงหนึ่งพันหนึ่งร้อยก้อน มูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งร้อยเท่า

ได้กำไรเลือดสาด!

ส่วนผู้มีวาสนาทั้งสามคนก็กลายเป็นผู้ศรัทธาที่ซื่อสัตย์ ภายใต้การอบรมสั่งสอนของเหล่าผู้อาวุโส

ล้วนแต่ต้องการมอบผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งให้เสิ่นเทียน ไม่รับก็ไม่ได้!

เพราะเหตุนี้ เสิ่นเทียนจึงไม่มีทางเลือกอื่น!

อันที่จริงข้าไม่อยากรับจริงๆ

เหอะเหอะเหอะเหอะ…

……

ในตอนที่เสิ่นเทียนเตรียมตัวพาผู้มีวาสนาอีกสิบสามคนไปเปิดหินต่อ

ทันใดนั้น มีเสียงที่วุ่นวายดังมาจากนอกหอวิญญาณหงส์

เสิ่นเทียนมองไปตามทิศทางของเสียง กลับพบว่าตอนนี้มีคนสองกลุ่มกำลังล้อมอยู่นอกหอวิญญาณหงส์

กลุ่มแรกส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งหมด ส่วนอีกกลุ่มส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

ตอนนี้ คนทั้งสองกลุ่มกำลังโต้เถียงกันไม่ยอมเลิกรา

สิ่งที่คู่ควรแก่การกล่าวถึงคือบนมือของผู้ชายเหล่านั้นกำลังถือป้าย

มีตัวอักษรเขียนไว้ด้านบนหนึ่งแถว ‘สนับสนุนเสี่ยวหลิงเซียนเสมอ!’

…………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 27 สนับสนุนเสี่ยวหลิงเซียนเสมอ!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 27 สนับสนุนเสี่ยวหลิงเซียนเสมอ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 27 สนับสนุนเสี่ยวหลิงเซียนเสมอ!
“เถ้าแก่ซ่งเกรงใจเช่นนี้ ข้าจะรับไว้ได้อย่างไร!”

“ท่านเซียนยอมมาร้านของข้า ถือว่าเป็นการไว้หน้าข้า แหวนโลกาสวรรค์วงเดียว เป็นเพียงน้ำใจเล็กน้อย”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว!”

เสิ่นเทียนรับแหวนโลกาสวรรค์มาสวมใส่บนนิ้วชี้ ขนาดของมันเกือบจะพอดี

ส่วนลวดลายของมันก็ถือว่าสวยทีเดียว

มีเพียงสิ่งเดียวที่เป็นปัญหาก็คือ ทำไมต้องหยดเลือดทำพันธะเจ้าของอีกแล้ว

ของประเภทสมบัติอาคม สมบัติวิญญาณ สมบัติลับเหล่านี้ เวลาทำพันธะเจ้าของล้วนแต่จำเป็นต้องกรีดเนื้อหยดเลือด

เมื่อวานนี้เพื่อที่จะเป็นเจ้าของป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่แผ่นนั้น เสิ่นเทียนต้องหยดเลือดของตนเองไปถึงหนึ่งถ้วยจึงทำสำเร็จ

ก็ไหนพวกการ์ตูนในทีวีแค่หยดเลือดหยดเดียวก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ!

แต่ทำไมโลกบำเพ็ญเซียนแห่งนี้จึงแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง!

ตอนนี้ เถ้าแก่ซ่งก็มามอบแหวนโลกาสวรรค์ให้เสิ่นเทียนอีกหนึ่งวง

ยิ่งไปกว่านั้นจำเป็นต้องหยดเลือดทำพันธะเจ้าของเช่นกัน ถึงจะสามารถควบคุมและใช้งาน

บอกตามตรง เสิ่นเทียนเริ่มไม่กล้ารับแล้ว

อย่างไรก็ดี ถ้าหากปล่อยเลือดออกมาอีกหนึ่งถ้วย

เขาก็คงจะเสียเลือดมากเกินไปแล้ว!

ปวดหัวชะมัด!

……

“เถ้าแก่ซ่ง เจ้าแน่ใจหรือว่าจะมอบแหวนวงนี้ให้ข้า?”

“แม้คำพูดของข้าจะไม่หนักแน่นดั่งกระถางธูป แต่พูดแล้วก็ทำได้เช่นกัน”

“แหวนโลกาสวรรค์วงนี้ ตอนนี้ขึ้นอยู่กับข้าว่าจะจัดการอย่างไรใช่หรือไม่!”

“แน่นอนอยู่แล้ว”

ถ้าอย่างนั้นก็ดี

เสิ่นเทียนครุ่นคิด ถอดแหวนออกมาส่งให้กุ้ยกงกง

“ลุงกุ้ย แหวนโลกาสวรรค์วงนี้เป็นของท่านแล้ว!”

กุ้ยกงกงสะดุ้งตกใจ “เช่นนี้จะได้อย่างไร นี่เป็นของที่เถ้าแก่ซ่งมอบให้ท่าน บ่าวจะรับไว้ได้อย่างไร!”

แหวนโลกาสวรรค์ที่มีเนื้อที่เก็บของหนึ่งร้อยตารางเมตร มูลค่าสูงถึงศิลาวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อนขึ้นไป

สมบัติชั้นสูงเช่นนี้ ถึงเป็นเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรต้าเหยียนก็มีเพียงไม่กี่คนที่มี

แหวนโลกาสวรรค์วงนี้ สำหรับตระกูลซ่งเป็นสมบัติชั้นสูงที่ไม่เหมือนใคร มีมูลค่าสูงมาก

ปัจจุบัน องค์ชายกลับมอบให้บ่าวอย่างง่ายดาย

นี่เป็นความเชื่อใจเพียงใด!

เสิ่นเทียนกล่าว “ลุงกุ้ยกับข้าเป็นเหมือนญาติ แหวนโลกาสวรรค์วงเดียวทำไมถึงรับไว้ไม่ได้?”

เห็นรอยยิ้มที่เชื่อใจบนใบหน้าของเสิ่นเทียน กุ้ยกงกงอึ้งไปชั่วขณะ

ความอบอุ่นสายหนึ่งถาโถมเข้ามาในจิตใจ

ที่แท้ในใจขององค์ชาย บ่าวเป็นเหมือนกับญาติคนหนึ่ง

องค์ชายพูดเช่นนี้ ถึงบ่าวตายก็คุ้มค่าแล้ว!

……

กุ้ยกงกงไม่บ่ายเบี่ยงอีก

เขารับแหวนโลกาสวรรค์มาสวมใส่บนนิ้วชี้ โคจรพลังวิญญาณเค้นเลือดออกมาหนึ่งหยด

หยดเลือดลงบนแหวนโลกาสวรรค์ โดนแหวนดูดซับเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ในพริบตาเดียว ระหว่างกุ้ยกงกงและแหวนโลกาสวรรค์เกิดความเชื่อมโยงพิเศษแบบหนึ่ง

ขอเพียงคิดในใจ ก็จะสามารถเรียกของออกมาจากแหวนโลกาสวรรค์ เป็นของที่สะดวกมาก

“องค์ชาย ทำพันธะเจ้าของเรียบร้อยแล้ว”

เห็นกุ้ยกงกงทำพันธะเจ้าของเสร็จสิ้นได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ บอกตามตรง เสิ่นเทียนรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม

ที่แท้แหวนโลกาสวรรค์ ใช้เลือดเพียงแค่หยดเดียวก็สามารถทำพันธะเจ้าของ?

แต่ว่า เพราะอะไรป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ถึงต้องใช้เลือดเป็นถ้วยล่ะ!

ต้องเป็นเพราะหลี่ฉางเกอเจ้าคนหวงน้องสาวแอบคิดร้ายต่อข้าแน่ บัดซบ!

“ในเมื่อทำพันธะเจ้าของเรียบร้อยแล้ว ศิลาวิญญาณทั้งสี่พันก้อนนี้ ลุงกุ้ยก็ช่วยข้าเก็บไว้ด้วยเถอะ!”

กล่าวจบ เสิ่นเทียนเดินออกจากร้านวิญญาณสวรรค์อย่างสงบ

……

อย่างไรลุงกุ้ยก็ซื่อสัตย์ต่อตนเอง เก็บไว้ที่เขากับเก็บไว้ที่เสิ่นเทียนก็ไม่แตกต่างกัน

ส่วนเพราะอะไรเสิ่นเทียนถึงไม่เก็บเอง

เหอะๆ พูดราวกับว่าเสิ่นเทียนมีแหวนเก็บของวงที่สอง

นี่คือความคิดที่แท้จริงของเสิ่นเทียน แต่ในสายตาของฝูงชน ไม่ใช่เช่นนี้อย่างแน่นอน

“โอ้โห ท่านเซียนใจกว้างยิ่งนัก!”

“แม้แต่คนใช้ที่ติดตามท่านเซียน ก็ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้!”

“แหวนโลกาสวรรค์หนึ่งวง ศิลาวิญญาณสี่พันก้อน มอบให้คนใช้ของตนเองอย่างง่ายดาย ตกลงท่านเซียนมีทรัพย์สินมากแค่ไหนกันแน่!”

“เป็นห่วงว่าคนรับใช้จะเหนื่อยตายเพราะแบกศิลาวิญญาณ ถึงขั้นมอบแหวนโลกาสวรรค์ที่มีมูลค่าสูงถึงศิลาวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อน”

“พี่เซียนอบอุ่นยิ่งนัก นี่แหละคือชายในฝันของข้า!”

“พี่เซียนยังต้องการคนรับใช้หรือไม่? แบบที่สามารถแต่งเป็นจิ้งจอกเซียน ปีศาจแมวอะไรเช่นนั้น”

……

อีกด้านหนึ่ง เถ้าแก่ซ่งเห็นเสิ่นเทียนมอบแหวนโลกาสวรรค์ให้ลุงกุ้ย ในใจไม่ได้รู้สึกไม่สบอารมณ์

กลับกัน เขากลับมีความรู้สึกเหมือนโชคดีที่รอดพ้นหายนะ

ทำเป็นเล่น คนที่สามารถมอบแหวนโลกาสวรรค์ให้กับคนใช้อย่างง่ายดาย ใช่คนที่เขาสามารถล่วงเกินได้หรือไม่?

ยิ่งไปกว่านั้น ฟังจากน้ำเสียงคำพูดของลุงกุ้ยท่านนั้น เหมือนเป็นขันทีในวังหลวง

สิ่งนี้ยิ่งช่วยยืนยันความคิดในใจของเถ้าแก่ซ่ง

ผู้ที่อยู่ตรงหน้าท่านนี้ไม่ต้องสงสัยเลย เขาต้องเป็นเสิ่นเอ้า องค์ชายหกแห่งอาณาจักรต้าเหยียนแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น ภูมิหลังขององค์ชายหกท่านนี้น่ากลัวเกินกว่าที่เขาจินตนาการ

ตอนนี้เถ้าแก่ซ่งเริ่มสังเกตลุงกุ้ย จึงพบรายละเอียดอย่างหนึ่ง

นั่นก็คือกระบี่เล่มสะพายอยู่บนแผ่นหลังของลุงกุ้ยในตอนนี้ มันคือกระบี่วารีครามของหลี่เหลียงเอ๋อร์ องค์หญิงน้อยแห่งตระกูลหลี่

ต้องบอกก่อน มูลค่าของกระบี่วารีครามทิ้งห่างแหวนโลกาสวรรค์ถึงสิบถนน

เสิ่นเทียนถึงขั้นยอมให้ลุงกุ้ยสะพายแม้กระทั่งกระบี่วารี แล้วนับประสาอะไรกับการมอบแหวนโลกาสวรรค์ให้เขาเก็บไว้?

ยิ่งไปกว่านั้น หลี่เหลียงเอ๋อร์ถึงขั้นมอบกระบี่วารีครามที่พกติดตัว จะเห็นได้ชัดว่าข่าวลือของคนทั้งสองใช่ว่าจะไม่มีมูลเหตุ

ต้องบอกก่อน ตระกูลหลี่เป็นถึงตระกูลอันดับหนึ่งในแดนเทวาดาวประกายพรึก มียอดฝีมือมากมาย

ได้รับความโปรดปรานจากเทพธิดาเหลียงเอ๋อร์ สามารถประหยัดเวลาความพยายามสองร้อยปีได้อย่างง่ายดาย

ตระกูลซ่งของเขา ไม่กล้าล่วงเกินบุคคลที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้!

……

นึกถึงตรงนี้ เถ้าแก่ซ่งยิ่งเกรงใจเสิ่นเทียนมากขึ้น

ยืนอยู่ด้านข้างด้วยความเคารพ รอจนกระทั่งกุ้ยกงกงเก็บศิลาวิญญาณสี่พันก้อนเข้าไปในแหวนโลกาสวรรค์

ถึงกล้าส่งเสิ่นเทียนและคนอื่นออกจากประตูราวกับสามารถเกิดอันตรายขึ้นได้ทุกเมื่อ

หลังจากที่เสิ่นเทียนและคนอื่นไปจากร้านวิญญาณสวรรค์ ด้านหลังเสื้อของเถ้าแก่ซ่งเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ

น่าตกใจมาก!

หันกลับมา เถ้าแก่ซ่งใช้มือตบใส่ศีรษะของคุณชายซ่งทันที

“เจ้าฟังให้ดี ครั้งนี้ท่านเซียนน่าจะหายคับข้องใจแล้ว ต่อไปเจ้าให้ความเคารพต่อท่านเซียนด้วย ไม่เช่นนั้นข้าเองจะเฆี่ยนเจ้าตายคนแรกแน่!”

คุณชายซ่ง “…”

……

อีกด้านหนึ่ง เสิ่นเทียนไม่ได้เก็บเรื่องที่เกิดขึ้นในร้านวิญญาณสวรรค์ไว้ในใจ

จนกระทั่งออกจากร้านวิญญาณสวรรค์ เขาก็ยังไม่เคยสัมผัสถึงการหาทางรอดของเถ้าแก่ซ่ง

เขาคิดว่าสองพ่อลูกตระกูลซ่งจำตนเองไม่ได้ด้วยซ้ำ!

ผู้มีวาสนายี่สิบคนชุดแรก สี่คนที่ร้านวิญญาณสวรรค์ได้รับโชคลิขิตหมดแล้ว

ใช้หลักของเยอะก่อนน้อยหลัง เป้าหมายต่อไปของเสิ่นเทียนคือหอวิญญาณหงส์ที่อยู่ทางตะวันออกของสวนหมื่นวิญญาณ

ตามภาพที่ปรากฏของโชคลิขิต ในบรรดาผู้มีวาสนายี่สิบคน มีคนได้รับโชคลิขิตในหอวิญญาณหงส์สามคน

เสิ่นเทียนพาผู้มีวาสนาทั้งสามคนเดินเข้าไปในหอวิญญาณหงส์ ภายใต้สายตาที่คาดหวังของผู้คน

มีการชี้แนะจากภาพ เสิ่นเทียนช่วยผู้มีวาสนาทั้งสามเลือกหินแร่วิญญาณในเวลาไม่กี่นาที

หินแร่วิญญาณทั้งสามก้อนถูกผ่าออกทีละก้อนภายใต้การจับจ้องของฝูงชน

ออกมาแล้ว!

ออกมาแล้ว!

ออกมาแล้ว!

ระเบิด!

ระเบิด!

ระเบิด!

ศิลาวิญญาณที่เปิดออกมาจากหินแร่วิญญาณทุกก้อนล้วนแต่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าสิบเท่า

ผลตอบแทนสูงที่สุดคือก้อนที่ซื้อมาในราคาแปดก้อน ขายออกไปในราคาสูงถึงหนึ่งพันหนึ่งร้อยก้อน มูลค่าเพิ่มขึ้นมากกว่าหนึ่งร้อยเท่า

ได้กำไรเลือดสาด!

ส่วนผู้มีวาสนาทั้งสามคนก็กลายเป็นผู้ศรัทธาที่ซื่อสัตย์ ภายใต้การอบรมสั่งสอนของเหล่าผู้อาวุโส

ล้วนแต่ต้องการมอบผลประโยชน์ครึ่งหนึ่งให้เสิ่นเทียน ไม่รับก็ไม่ได้!

เพราะเหตุนี้ เสิ่นเทียนจึงไม่มีทางเลือกอื่น!

อันที่จริงข้าไม่อยากรับจริงๆ

เหอะเหอะเหอะเหอะ…

……

ในตอนที่เสิ่นเทียนเตรียมตัวพาผู้มีวาสนาอีกสิบสามคนไปเปิดหินต่อ

ทันใดนั้น มีเสียงที่วุ่นวายดังมาจากนอกหอวิญญาณหงส์

เสิ่นเทียนมองไปตามทิศทางของเสียง กลับพบว่าตอนนี้มีคนสองกลุ่มกำลังล้อมอยู่นอกหอวิญญาณหงส์

กลุ่มแรกส่วนใหญ่เป็นผู้ชายทั้งหมด ส่วนอีกกลุ่มส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง

ตอนนี้ คนทั้งสองกลุ่มกำลังโต้เถียงกันไม่ยอมเลิกรา

สิ่งที่คู่ควรแก่การกล่าวถึงคือบนมือของผู้ชายเหล่านั้นกำลังถือป้าย

มีตัวอักษรเขียนไว้ด้านบนหนึ่งแถว ‘สนับสนุนเสี่ยวหลิงเซียนเสมอ!’

…………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+