บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 188 ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 188 ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 188 ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม

ฝูงยุงโลหิตนอกเมืองมีมากจริงๆ ทั้งยังเข้ามากันไม่ขาดสาย

เดิมทีผู้ฝึกบำเพ็ญจำนวนมากคิดว่ายุงโลหิตระดับสร้างฐานจะมีแค่ประมาณสามถึงห้าสิบตัว

แต่เมื่อยุงโลหิตระดับสร้างฐานถูกฆ่าไปทีละตัว ก็มียุงโลหิตระดับสร้างฐานใหม่โผล่มาอีก

เห็นได้ชัดมากว่า จำนวนของยุงโลหิตฝูงนี้มากกว่าที่ทุกคนจินตนาการไว้ ไม่ง่ายเลย

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก คิดว่าต้องเผยไพ่ตายออกออกมาทีละอย่างแล้ว

เขาทำสัญลักษณ์มือ ปืนปทุมฆาตเทพที่ลอยอยู่ตรงหน้าก็พุ่งออกไป ปืนสั้นสีดำมืดทุกส่วนนั้นขยับวูบผ่านไปกลางอากาศในพริบตา

เพียงพริบตาสั้นๆ ก็ทะลวงผ่านร่างยุงโลหิตหลายสิบตัว โลหิตสาดกระจาย

ปืนปทุมฆาตเทพไม่ใช่ของธรรมดา แต่ได้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำหลอมขึ้นมาอย่างสุดกำลัง ขอไม่เอ่ยถึงยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางกับกระสุนชั้นยอดจากเหล็กทมิฬในนั้น ลำพังแค่กระบี่บินสังหารศัตรูก็ค่อนข้างแข็งแกร่งแล้ว

ขนาดผู้ฝึกบำเพ็ญระดับแก่นพลังทองเก้าส่วนเก้ายังยากจะหาอาวุธทรงพลังเช่นนี้ได้

เดิมทีเสิ่นเทียนมีพลังบำเพ็ญเหนือกว่ายุงโลหิตระดับล่างพวกนั้นไปไกลมากอยู่แล้ว ทั้งยังมีสมบัติวิญญาณกับตัวอีก ถึงฝูงยุงโลหิตจะมีจำนวนนับมาหวัดไม่ไหว แต่ก็ได้แค่ถูกสังหาร

ทว่ายิ่งสังหารยุงโลหิตไปมากเท่าไร เสิ่นเทียนกลับยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้นเท่านั้น

เพราะจนถึงตอนนี้ปีศาจยุงนั่นยังไม่ออกมาเลย เห็นได้ชัดว่ากำลังซุ่มดูอยู่ในเงามืด

ตอนนี้เกือบจะถึงตีสามอยู่แล้ว สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนร้อนใจนิดๆ แล้ว

ทันใดนั้นเขาก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ มีความคิดดีๆ แล้ว

ยันต์ระเบิดอัสนีที่โปรยไปข้างนอกทีละสิบแผ่นเปลี่ยนเป็นโปรยไปทีละแผ่น ขณะเดียวกันเขายังควบคุมพลังวิญญาณของตัวเองให้เกราะมังกรเขียวอ่อนแสงลง

ตัวเขาซวนเซ มือขวาประคองกำแพงเมือง ใบหน้าซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเสียพลังไปอย่างมาก

ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานเผ่ามนุษย์ที่อยู่ข้างๆ มองด้วยความเป็นห่วงมาก “ท่านเซียน ท่านพักหน่อยเถอะ!”

“ใช่ ตอนนี้ท่านเซียนคือความหวังสุดท้ายของเมืองเราแล้ว!”

“เราจะปกป้องหอเมืองนี่เอง ท่านรีบนั่งฌานพักผ่อนเถอะ!”

“ปีศาจยุงนั่นยังไม่มา ท่านเซียนจะต้องเก็บพลังปราณเดิมไว้!”

“ขอให้ท่านเซียนวางใจ มีพวกเราอยู่ จะไม่มียุงโลหิตข้ามปราการสายฟ้ามาได้แม้แต่ก้าวเดียว!”

……

เสิ่นเทียนฝืนพยักหน้าก่อนเดินช้าๆ ไปนั่งขัดสมาธิอีกด้านของกำแพงเมืองและหยิบศิลาวิญญาณออกมาดูดซับ

อีกทั้งทุกๆ ช่วงหลายนาที เสิ่นเทียนจะขี่ปืนปทุมฆาตเทพออกจากค่ายกลไป ยุงโลหิตระดับสร้างฐานพวกนั้นรวดเร็วยิ่ง ทั้งยังโต้ตอบกับอันตรายไวมาก

การโจมตีกระบี่บินของผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานธรรมดาในเมืองได้ผลยากมาก ทางด้านทหารรักษาการณ์เมืองระดับหลอมปราณที่ยิงธนูออกไป ก็ยิ่งคุกคามถึงพวกมันได้ยากกว่า

ทว่าตอนนี้อยู่ต่อหน้าเสิ่นเทียน ยุงโลหิตระดับสร้างฐานพวกนี้ชัดเจนราวกับเป้าปืน

ทุกครั้งที่เสิ่นเทียนยิงปืนปทุมฆาตเทพใส่กลางฝูงยุง จะมียุงโลหิตระดับสร้างฐานตัวหนึ่งร่วงลงมาข้างล่างเมือง

ปืนปทุมฆาตเทพจากสีดำ ตอนนี้โดนเลือดสดของยุงโลหิตย้อมเป็นสีแดงทุกส่วนแล้ว แต่ว่าเมื่อออกมือมากขึ้นเรื่อยๆ เสิ่นเทียนก็หน้าซีดขาวยิ่งกว่าเดิม

ถึงอย่างไรพลังวิญญาณในตัวผู้ฝึกเซียนก็มีจำกัด สำนักเซียนส่วนใหญ่เวลาปิดล้อมโจมตีผู้แข็งแกร่งจะให้พวกอ่อนแอโจมตีไปก่อนเพื่อลดพลังฤทธิ์ของอีกฝ่ายลง ให้อีกฝ่ายไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมจะใช้กระบวนท่าใหญ่ๆ

ตอนนี้เสิ่นเทียนจะให้ปีศาจยุงคิดว่าตนเสียพลังฤทธิ์ไปจนหมดในการต่อสู้กับยุงจำนวนมากแล้ว

ยามนี้มียันต์ระเบิดอัสนีสามแผ่นลอยอยู่ตรงหน้าเขา แต่กลับไม่ได้เรียกออกไปนอกเมืองอีก ขณะเดียวกันเกราะสายฟ้ามังกรเขียวบนตัวเขายังค่อยๆ สลายไป

มองไปเสิ่นเทียนดูถึงขีดจำกัดแล้ว

…..

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ฝูงยุงโลหิตนอกเมืองแยกออก ปรากฏยุงโลหิตยักษ์สูงหลายจั้งขึ้นช้าๆ ปีกโลหิตสามคู่ข้างหลังมันขยับด้วยความเร็วสูงจนเกิดพายุคลั่งขึ้น!

ดวงตากระหายเลือดจ้องเมืองภูเขาดำเขม็ง และยังจ้องเสิ่นเทียนที่กำลังนั่งฟื้นพลังอยู่ตรงหัวเมือง

ทันทีที่ปีศาจยุงนี่ปรากฏตัว ทุกคนในเมืองภูเขาดำต่างหน้าเปลี่ยนสี ดูสิ้นหวังอย่างยิ่ง!

โดยเฉพาะผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานพวกนั้น พวกเขารู้สึกว่ากลิ่นอายพลังของปีศาจนี่แกร่งขึ้นกว่าเดิมอีก!

ในช่วงเวลาไม่กี่วันสั้นๆ มันย่อยโลหิตบริสุทธิ์ของผู้ฝึกบำเพ็ญมากขนาดนั้นเสร็จแล้ว จนพัฒนาไปอีกขั้น ทะลวงสู่ระดับแก่นพลังทองสำเร็จ

เดิมทีมองจากภายนอกของเซียนท่านนี้แล้ว เขาสู้กับระดับแก่นพลังทองได้ แต่ไม่นานมานี้ตอนสู้กับฝูงยุงโลหิต ท่านเซียนเสียพลังปราณเดิมมากเกินไป อยู่ในสภาพแย่มาก!

ตอนนี้ปีศาจยุงปรากฏตัวขึ้น ทั้งเมืองภูเขาดำยังมีใครสู้ปีศาจกระหายเลือดนี่ได้อีก

ยุงดำปีกแดงบินมาหน้าเมืองภูเขาดำช้าๆ มองมนุษย์ทุกคนกลางเมืองเชิงหยอกล้อ

มีเสียงมนุษย์ดังมาจากอวัยวะปากมัน “ข้ากลับมาอีกแล้ว ข้าเสวี่ยเหวินเค่อมีแค้นต้องชำระเสมอ พวกเจ้าต้องตายกันทั้งหมด!”

เมื่อเห็นค่ายกลมังกรเขียวที่คลุมทั้งเมืองภูเขาดำแล้ว เสวี่ยเหวินเค่อก็แค่นยิ้ม

มันอ้าปาก พลันปรากฏทวนเล็กสีแดงสดกลางปาก ขยับประกายโลหิตวาววับ

ทวนเล็กนั้นมีรูปร่างคล้ายกับปากของเสวี่ยเหวินเค่อมาก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นอาวุธเซ่นไหว้โลหิตชีวิตของเสวี่ยเหวินเค่อ

การเอาอาวุธมาเป็นส่วนประกอบของร่างกายเป็นความชอบพิเศษของเผ่าอสูรมากมาย เพียงแต่ผู้ฝึกบำเพ็ญในเมืองไม่เข้าใจว่าเหตุใดเสวี่ยเหวินเค่อถึงมีสมบัติวิเศษชีวิตอยู่ด้วย!

ควรรู้ไว้ว่าเมื่อหลายเดือนก่อนมันยังอยู่แค่ระดับหลอมปราณเท่านั้น ในเวลาสั้นๆ แค่นี้ ไม่ใช่แค่รวมแก่นพลังสำเร็จ แต่ยังหลอมออกมาเป็นอาวุธเซ่นไหว้โลหิตได้อีก

หรือว่าปีศาจยุงตัวนี้จะเป็นโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคของเผ่าอสูร เพียงแค่ออกมาล่าเหยื่อเองก็เท่านั้นกัน

ทุกคนยังไม่ทันสงสัย ปีศาจยุงก็โจมตีใส่ยอดค่ายกลมังกรเขียว ทวนยาวสีโลหิตพุ่งออกไป

ในทวนยามนี้มีพลังของเขตแดนเวทอยู่ ซึ่งน่ากลัวกว่ากระบี่บินสังหารปกติ

ทันทีที่มันปะทะกับการป้องกันของค่ายกลก็แทงออกเป็นรูหนึ่ง สายฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งสว่างพร่างพราวแนบกับทวนยาว เหมือนจะหลอมรวมอาวุธชิ้นนี้

เงาโลหิตปรากฏขึ้นกลางเมืองก่อนเขย่าร่างกลายเป็นชายวัยกลางคนดุร้ายในชุดคลุมสีแดงตัวใหญ่

เขาถือทวนยาวสีแดงในมือ มองเสิ่นเทียนที่หน้าขาวซีดเชิงเย้าหยอก

“หายากๆ ระดับสร้างฐานก็มีกำลังรบถึงเพียงนี้ น่าเสียดายก็แต่โอรสสวรรค์ของเผ่ามนุษย์พวกเจ้าอ่อนแอเกินไป รับการดูแลอันดีเยี่ยมจากเผ่าอสูรเราไป แต่กลับโง่เขลาเสียจนช่วยไม่ได้ เมื่อครู่เจ้าเสกยันต์ระเบิดอัสนีระดับสูงสุดเยอะขนาดนั้นเพื่อช่วยคนธรรมดาพวกนี้ในเมืองภูเขาดำรึ

สิ้นเปลืองจริงๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกนั้นคือของของข้า มีโทษที่ไม่อาจให้อภัยได้!”

ขณะพูดอยู่นั้น แววตาชายวัยกลางเต็มไปด้วยจิตสังหาร “เจ้าหนูคงรู้ตัวแล้วสิ!”

เมื่อเอ่ยจบ เขาก็กลายเป็นเศษเงาสีแดงพุ่งไปหาเสิ่นเทียน

ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานรอบๆ อยากจะขวางไว้ แต่จะขวางไว้ได้หรือ

ในชั่วครู่สั้นๆ ชายวัยกลางคนนั้นก็อยู่ห่างจากตรงหน้าเสิ่นเทียนไปสามฉื่อแล้ว

เห็นทวนยาวในมือชายวัยกลางคนจะแทงร่างเสิ่นเทียนในวินาทีต่อมา จะสังหารเสิ่นเทียนแล้ว ตอนนี้เองเสิ่นเทียนลืมตาขึ้นทันที ปืนปทุมฆาตเทพข้างกายพุ่งขึ้นฟ้า

ปืนสั้นสามฉื่อกลายเป็นแสงดำยิงใส่เสวี่ยเหวินเค่อ

เสวี่ยเหวินเค่อยิ้มเยาะ “เจ้าหนู ยังจะดิ้นรนอีกรึ”

ทวนยาวสีแดงพลันแกว่งไกวก่อนฟันใส่ปืนปทุมฆาตเทพ

ขณะที่ทวนยาวกับปืนสั้นจะปะทะกันระยะประชิด ตัดสินแพ้ชนะกันนั้น ทันใดนั้นเองก็มีลางสังหรณ์ไม่เป็นมงคลเด่นชัดปกคลุมไปทั่วร่างเสวี่ยเหวินเค่อ

ตรงหัวปืนปทุมฆาตเทพนั้นแตกกระจายเป็นดอกบัวสีทอง ขณะเดียวกันเถาวัลย์สีเขียวมรกตยังมุดขึ้นมาจากพื้นดิน เถาวัลย์มัดขาสองข้างเสวี่ยเหวินเค่อไว้แน่น ทำให้เขาดิ้นหลุดไม่ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

ส่วนตรงกลางดอกบัวสีทองเบ่งบานนั้นมีแสงสีทองสว่างจ้าสายหนึ่งยิงออกมา รวดเร็วจนน่าตกใจ!

เสวี่ยเหวินเค่อโต้ตอบค่อนข้างไวเช่นกัน เขารีบขยับทวนยาวสีทองมาบังไว้ข้างหน้า

แกร๊ง!

เสียงโลหะตัดสลับกันดังขึ้น เสวี่ยเหวินเค่อหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง

เห็นได้ชัดว่าพลังแห่งตะปูเทพทะลวงเขตแดนนี่เหนือกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้

หลังจากต้านตะปูเทพทะลวงเขตแดนดอกแรกได้ ปากพยัคฆ์ของเสวี่ยเหวินเค่อสั่นไหวอย่างรุนแรง ทวนยาวสั่นไหวเช่นกัน และสิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าคือดอกบัวสีทองดอกนั้นหมุนวนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิงตะปูทะลวงเขตแดนมาอีกดอก!

นี่…อาวุธเร้นลับบ้านี่ยังยิงรัวออกมาได้อีก นี่จะรังแกอสูรกันเกินไปแล้ว!

เสวี่ยเหวินเค่อเตรียมพร้อมรับมือ รวมสมาธิทั้งหมดไว้ที่ตะปูทะลวงเขตแดน

ไม่มีปัญหา เขาต้านได้หนึ่งดอก ก็ต้านดอกที่สองได้เช่นกัน!

……

ทว่าวินาทีต่อมา เสวี่ยเหวินเค่อมีสีหน้าสิ้นหวัง

เพราะเขาเห็นยันต์ระเบิดอัสนีปึกหนึ่งโผล่มาในมือเสิ่นเทียน ดูน่าตกใจมาก!

เสิ่นเทียนยกมุมปากเล็กน้อย “ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม แต่เมื่อยิงออกไปจะกลายเป็นสัจธรรม!”

บึ้ม!

ยันต์ระเบิดอัสนีทั้งหมดพุ่งออกไป

วินาทีต่อมาเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นแก้วหูขึ้น

ทุกส่วนของเสวี่ยเหวินเค่อกลายเป็นทะเลโลหิต

ซากศพเละเทะระเบิดกระจุยเป็นเสี่ยงๆ กระจายไปทั่วกำแพงเมือง

ตอนนี้ผู้ฝึกบำเพ็ญในเมืองตกตะลึงกันแล้ว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโห่ร้อง

ทว่าเสิ่นเทียนรู้ว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ยังอีกนานเลย เพราะฝูงยุงโลหิตนอกเมืองภูเขาดำยังไม่กระจายกันไป!

……………….……………….……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 188 ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 188 ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 188 ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม

ฝูงยุงโลหิตนอกเมืองมีมากจริงๆ ทั้งยังเข้ามากันไม่ขาดสาย

เดิมทีผู้ฝึกบำเพ็ญจำนวนมากคิดว่ายุงโลหิตระดับสร้างฐานจะมีแค่ประมาณสามถึงห้าสิบตัว

แต่เมื่อยุงโลหิตระดับสร้างฐานถูกฆ่าไปทีละตัว ก็มียุงโลหิตระดับสร้างฐานใหม่โผล่มาอีก

เห็นได้ชัดมากว่า จำนวนของยุงโลหิตฝูงนี้มากกว่าที่ทุกคนจินตนาการไว้ ไม่ง่ายเลย

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก คิดว่าต้องเผยไพ่ตายออกออกมาทีละอย่างแล้ว

เขาทำสัญลักษณ์มือ ปืนปทุมฆาตเทพที่ลอยอยู่ตรงหน้าก็พุ่งออกไป ปืนสั้นสีดำมืดทุกส่วนนั้นขยับวูบผ่านไปกลางอากาศในพริบตา

เพียงพริบตาสั้นๆ ก็ทะลวงผ่านร่างยุงโลหิตหลายสิบตัว โลหิตสาดกระจาย

ปืนปทุมฆาตเทพไม่ใช่ของธรรมดา แต่ได้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำหลอมขึ้นมาอย่างสุดกำลัง ขอไม่เอ่ยถึงยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางกับกระสุนชั้นยอดจากเหล็กทมิฬในนั้น ลำพังแค่กระบี่บินสังหารศัตรูก็ค่อนข้างแข็งแกร่งแล้ว

ขนาดผู้ฝึกบำเพ็ญระดับแก่นพลังทองเก้าส่วนเก้ายังยากจะหาอาวุธทรงพลังเช่นนี้ได้

เดิมทีเสิ่นเทียนมีพลังบำเพ็ญเหนือกว่ายุงโลหิตระดับล่างพวกนั้นไปไกลมากอยู่แล้ว ทั้งยังมีสมบัติวิญญาณกับตัวอีก ถึงฝูงยุงโลหิตจะมีจำนวนนับมาหวัดไม่ไหว แต่ก็ได้แค่ถูกสังหาร

ทว่ายิ่งสังหารยุงโลหิตไปมากเท่าไร เสิ่นเทียนกลับยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้นเท่านั้น

เพราะจนถึงตอนนี้ปีศาจยุงนั่นยังไม่ออกมาเลย เห็นได้ชัดว่ากำลังซุ่มดูอยู่ในเงามืด

ตอนนี้เกือบจะถึงตีสามอยู่แล้ว สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนร้อนใจนิดๆ แล้ว

ทันใดนั้นเขาก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ มีความคิดดีๆ แล้ว

ยันต์ระเบิดอัสนีที่โปรยไปข้างนอกทีละสิบแผ่นเปลี่ยนเป็นโปรยไปทีละแผ่น ขณะเดียวกันเขายังควบคุมพลังวิญญาณของตัวเองให้เกราะมังกรเขียวอ่อนแสงลง

ตัวเขาซวนเซ มือขวาประคองกำแพงเมือง ใบหน้าซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเสียพลังไปอย่างมาก

ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานเผ่ามนุษย์ที่อยู่ข้างๆ มองด้วยความเป็นห่วงมาก “ท่านเซียน ท่านพักหน่อยเถอะ!”

“ใช่ ตอนนี้ท่านเซียนคือความหวังสุดท้ายของเมืองเราแล้ว!”

“เราจะปกป้องหอเมืองนี่เอง ท่านรีบนั่งฌานพักผ่อนเถอะ!”

“ปีศาจยุงนั่นยังไม่มา ท่านเซียนจะต้องเก็บพลังปราณเดิมไว้!”

“ขอให้ท่านเซียนวางใจ มีพวกเราอยู่ จะไม่มียุงโลหิตข้ามปราการสายฟ้ามาได้แม้แต่ก้าวเดียว!”

……

เสิ่นเทียนฝืนพยักหน้าก่อนเดินช้าๆ ไปนั่งขัดสมาธิอีกด้านของกำแพงเมืองและหยิบศิลาวิญญาณออกมาดูดซับ

อีกทั้งทุกๆ ช่วงหลายนาที เสิ่นเทียนจะขี่ปืนปทุมฆาตเทพออกจากค่ายกลไป ยุงโลหิตระดับสร้างฐานพวกนั้นรวดเร็วยิ่ง ทั้งยังโต้ตอบกับอันตรายไวมาก

การโจมตีกระบี่บินของผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานธรรมดาในเมืองได้ผลยากมาก ทางด้านทหารรักษาการณ์เมืองระดับหลอมปราณที่ยิงธนูออกไป ก็ยิ่งคุกคามถึงพวกมันได้ยากกว่า

ทว่าตอนนี้อยู่ต่อหน้าเสิ่นเทียน ยุงโลหิตระดับสร้างฐานพวกนี้ชัดเจนราวกับเป้าปืน

ทุกครั้งที่เสิ่นเทียนยิงปืนปทุมฆาตเทพใส่กลางฝูงยุง จะมียุงโลหิตระดับสร้างฐานตัวหนึ่งร่วงลงมาข้างล่างเมือง

ปืนปทุมฆาตเทพจากสีดำ ตอนนี้โดนเลือดสดของยุงโลหิตย้อมเป็นสีแดงทุกส่วนแล้ว แต่ว่าเมื่อออกมือมากขึ้นเรื่อยๆ เสิ่นเทียนก็หน้าซีดขาวยิ่งกว่าเดิม

ถึงอย่างไรพลังวิญญาณในตัวผู้ฝึกเซียนก็มีจำกัด สำนักเซียนส่วนใหญ่เวลาปิดล้อมโจมตีผู้แข็งแกร่งจะให้พวกอ่อนแอโจมตีไปก่อนเพื่อลดพลังฤทธิ์ของอีกฝ่ายลง ให้อีกฝ่ายไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมจะใช้กระบวนท่าใหญ่ๆ

ตอนนี้เสิ่นเทียนจะให้ปีศาจยุงคิดว่าตนเสียพลังฤทธิ์ไปจนหมดในการต่อสู้กับยุงจำนวนมากแล้ว

ยามนี้มียันต์ระเบิดอัสนีสามแผ่นลอยอยู่ตรงหน้าเขา แต่กลับไม่ได้เรียกออกไปนอกเมืองอีก ขณะเดียวกันเกราะสายฟ้ามังกรเขียวบนตัวเขายังค่อยๆ สลายไป

มองไปเสิ่นเทียนดูถึงขีดจำกัดแล้ว

…..

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ฝูงยุงโลหิตนอกเมืองแยกออก ปรากฏยุงโลหิตยักษ์สูงหลายจั้งขึ้นช้าๆ ปีกโลหิตสามคู่ข้างหลังมันขยับด้วยความเร็วสูงจนเกิดพายุคลั่งขึ้น!

ดวงตากระหายเลือดจ้องเมืองภูเขาดำเขม็ง และยังจ้องเสิ่นเทียนที่กำลังนั่งฟื้นพลังอยู่ตรงหัวเมือง

ทันทีที่ปีศาจยุงนี่ปรากฏตัว ทุกคนในเมืองภูเขาดำต่างหน้าเปลี่ยนสี ดูสิ้นหวังอย่างยิ่ง!

โดยเฉพาะผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานพวกนั้น พวกเขารู้สึกว่ากลิ่นอายพลังของปีศาจนี่แกร่งขึ้นกว่าเดิมอีก!

ในช่วงเวลาไม่กี่วันสั้นๆ มันย่อยโลหิตบริสุทธิ์ของผู้ฝึกบำเพ็ญมากขนาดนั้นเสร็จแล้ว จนพัฒนาไปอีกขั้น ทะลวงสู่ระดับแก่นพลังทองสำเร็จ

เดิมทีมองจากภายนอกของเซียนท่านนี้แล้ว เขาสู้กับระดับแก่นพลังทองได้ แต่ไม่นานมานี้ตอนสู้กับฝูงยุงโลหิต ท่านเซียนเสียพลังปราณเดิมมากเกินไป อยู่ในสภาพแย่มาก!

ตอนนี้ปีศาจยุงปรากฏตัวขึ้น ทั้งเมืองภูเขาดำยังมีใครสู้ปีศาจกระหายเลือดนี่ได้อีก

ยุงดำปีกแดงบินมาหน้าเมืองภูเขาดำช้าๆ มองมนุษย์ทุกคนกลางเมืองเชิงหยอกล้อ

มีเสียงมนุษย์ดังมาจากอวัยวะปากมัน “ข้ากลับมาอีกแล้ว ข้าเสวี่ยเหวินเค่อมีแค้นต้องชำระเสมอ พวกเจ้าต้องตายกันทั้งหมด!”

เมื่อเห็นค่ายกลมังกรเขียวที่คลุมทั้งเมืองภูเขาดำแล้ว เสวี่ยเหวินเค่อก็แค่นยิ้ม

มันอ้าปาก พลันปรากฏทวนเล็กสีแดงสดกลางปาก ขยับประกายโลหิตวาววับ

ทวนเล็กนั้นมีรูปร่างคล้ายกับปากของเสวี่ยเหวินเค่อมาก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นอาวุธเซ่นไหว้โลหิตชีวิตของเสวี่ยเหวินเค่อ

การเอาอาวุธมาเป็นส่วนประกอบของร่างกายเป็นความชอบพิเศษของเผ่าอสูรมากมาย เพียงแต่ผู้ฝึกบำเพ็ญในเมืองไม่เข้าใจว่าเหตุใดเสวี่ยเหวินเค่อถึงมีสมบัติวิเศษชีวิตอยู่ด้วย!

ควรรู้ไว้ว่าเมื่อหลายเดือนก่อนมันยังอยู่แค่ระดับหลอมปราณเท่านั้น ในเวลาสั้นๆ แค่นี้ ไม่ใช่แค่รวมแก่นพลังสำเร็จ แต่ยังหลอมออกมาเป็นอาวุธเซ่นไหว้โลหิตได้อีก

หรือว่าปีศาจยุงตัวนี้จะเป็นโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคของเผ่าอสูร เพียงแค่ออกมาล่าเหยื่อเองก็เท่านั้นกัน

ทุกคนยังไม่ทันสงสัย ปีศาจยุงก็โจมตีใส่ยอดค่ายกลมังกรเขียว ทวนยาวสีโลหิตพุ่งออกไป

ในทวนยามนี้มีพลังของเขตแดนเวทอยู่ ซึ่งน่ากลัวกว่ากระบี่บินสังหารปกติ

ทันทีที่มันปะทะกับการป้องกันของค่ายกลก็แทงออกเป็นรูหนึ่ง สายฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งสว่างพร่างพราวแนบกับทวนยาว เหมือนจะหลอมรวมอาวุธชิ้นนี้

เงาโลหิตปรากฏขึ้นกลางเมืองก่อนเขย่าร่างกลายเป็นชายวัยกลางคนดุร้ายในชุดคลุมสีแดงตัวใหญ่

เขาถือทวนยาวสีแดงในมือ มองเสิ่นเทียนที่หน้าขาวซีดเชิงเย้าหยอก

“หายากๆ ระดับสร้างฐานก็มีกำลังรบถึงเพียงนี้ น่าเสียดายก็แต่โอรสสวรรค์ของเผ่ามนุษย์พวกเจ้าอ่อนแอเกินไป รับการดูแลอันดีเยี่ยมจากเผ่าอสูรเราไป แต่กลับโง่เขลาเสียจนช่วยไม่ได้ เมื่อครู่เจ้าเสกยันต์ระเบิดอัสนีระดับสูงสุดเยอะขนาดนั้นเพื่อช่วยคนธรรมดาพวกนี้ในเมืองภูเขาดำรึ

สิ้นเปลืองจริงๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกนั้นคือของของข้า มีโทษที่ไม่อาจให้อภัยได้!”

ขณะพูดอยู่นั้น แววตาชายวัยกลางเต็มไปด้วยจิตสังหาร “เจ้าหนูคงรู้ตัวแล้วสิ!”

เมื่อเอ่ยจบ เขาก็กลายเป็นเศษเงาสีแดงพุ่งไปหาเสิ่นเทียน

ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานรอบๆ อยากจะขวางไว้ แต่จะขวางไว้ได้หรือ

ในชั่วครู่สั้นๆ ชายวัยกลางคนนั้นก็อยู่ห่างจากตรงหน้าเสิ่นเทียนไปสามฉื่อแล้ว

เห็นทวนยาวในมือชายวัยกลางคนจะแทงร่างเสิ่นเทียนในวินาทีต่อมา จะสังหารเสิ่นเทียนแล้ว ตอนนี้เองเสิ่นเทียนลืมตาขึ้นทันที ปืนปทุมฆาตเทพข้างกายพุ่งขึ้นฟ้า

ปืนสั้นสามฉื่อกลายเป็นแสงดำยิงใส่เสวี่ยเหวินเค่อ

เสวี่ยเหวินเค่อยิ้มเยาะ “เจ้าหนู ยังจะดิ้นรนอีกรึ”

ทวนยาวสีแดงพลันแกว่งไกวก่อนฟันใส่ปืนปทุมฆาตเทพ

ขณะที่ทวนยาวกับปืนสั้นจะปะทะกันระยะประชิด ตัดสินแพ้ชนะกันนั้น ทันใดนั้นเองก็มีลางสังหรณ์ไม่เป็นมงคลเด่นชัดปกคลุมไปทั่วร่างเสวี่ยเหวินเค่อ

ตรงหัวปืนปทุมฆาตเทพนั้นแตกกระจายเป็นดอกบัวสีทอง ขณะเดียวกันเถาวัลย์สีเขียวมรกตยังมุดขึ้นมาจากพื้นดิน เถาวัลย์มัดขาสองข้างเสวี่ยเหวินเค่อไว้แน่น ทำให้เขาดิ้นหลุดไม่ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

ส่วนตรงกลางดอกบัวสีทองเบ่งบานนั้นมีแสงสีทองสว่างจ้าสายหนึ่งยิงออกมา รวดเร็วจนน่าตกใจ!

เสวี่ยเหวินเค่อโต้ตอบค่อนข้างไวเช่นกัน เขารีบขยับทวนยาวสีทองมาบังไว้ข้างหน้า

แกร๊ง!

เสียงโลหะตัดสลับกันดังขึ้น เสวี่ยเหวินเค่อหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง

เห็นได้ชัดว่าพลังแห่งตะปูเทพทะลวงเขตแดนนี่เหนือกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้

หลังจากต้านตะปูเทพทะลวงเขตแดนดอกแรกได้ ปากพยัคฆ์ของเสวี่ยเหวินเค่อสั่นไหวอย่างรุนแรง ทวนยาวสั่นไหวเช่นกัน และสิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าคือดอกบัวสีทองดอกนั้นหมุนวนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิงตะปูทะลวงเขตแดนมาอีกดอก!

นี่…อาวุธเร้นลับบ้านี่ยังยิงรัวออกมาได้อีก นี่จะรังแกอสูรกันเกินไปแล้ว!

เสวี่ยเหวินเค่อเตรียมพร้อมรับมือ รวมสมาธิทั้งหมดไว้ที่ตะปูทะลวงเขตแดน

ไม่มีปัญหา เขาต้านได้หนึ่งดอก ก็ต้านดอกที่สองได้เช่นกัน!

……

ทว่าวินาทีต่อมา เสวี่ยเหวินเค่อมีสีหน้าสิ้นหวัง

เพราะเขาเห็นยันต์ระเบิดอัสนีปึกหนึ่งโผล่มาในมือเสิ่นเทียน ดูน่าตกใจมาก!

เสิ่นเทียนยกมุมปากเล็กน้อย “ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม แต่เมื่อยิงออกไปจะกลายเป็นสัจธรรม!”

บึ้ม!

ยันต์ระเบิดอัสนีทั้งหมดพุ่งออกไป

วินาทีต่อมาเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นแก้วหูขึ้น

ทุกส่วนของเสวี่ยเหวินเค่อกลายเป็นทะเลโลหิต

ซากศพเละเทะระเบิดกระจุยเป็นเสี่ยงๆ กระจายไปทั่วกำแพงเมือง

ตอนนี้ผู้ฝึกบำเพ็ญในเมืองตกตะลึงกันแล้ว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโห่ร้อง

ทว่าเสิ่นเทียนรู้ว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ยังอีกนานเลย เพราะฝูงยุงโลหิตนอกเมืองภูเขาดำยังไม่กระจายกันไป!

……………….……………….……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 188 ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 188 ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 188 ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม

ฝูงยุงโลหิตนอกเมืองมีมากจริงๆ ทั้งยังเข้ามากันไม่ขาดสาย

เดิมทีผู้ฝึกบำเพ็ญจำนวนมากคิดว่ายุงโลหิตระดับสร้างฐานจะมีแค่ประมาณสามถึงห้าสิบตัว

แต่เมื่อยุงโลหิตระดับสร้างฐานถูกฆ่าไปทีละตัว ก็มียุงโลหิตระดับสร้างฐานใหม่โผล่มาอีก

เห็นได้ชัดมากว่า จำนวนของยุงโลหิตฝูงนี้มากกว่าที่ทุกคนจินตนาการไว้ ไม่ง่ายเลย

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก คิดว่าต้องเผยไพ่ตายออกออกมาทีละอย่างแล้ว

เขาทำสัญลักษณ์มือ ปืนปทุมฆาตเทพที่ลอยอยู่ตรงหน้าก็พุ่งออกไป ปืนสั้นสีดำมืดทุกส่วนนั้นขยับวูบผ่านไปกลางอากาศในพริบตา

เพียงพริบตาสั้นๆ ก็ทะลวงผ่านร่างยุงโลหิตหลายสิบตัว โลหิตสาดกระจาย

ปืนปทุมฆาตเทพไม่ใช่ของธรรมดา แต่ได้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวทองคำหลอมขึ้นมาอย่างสุดกำลัง ขอไม่เอ่ยถึงยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยางกับกระสุนชั้นยอดจากเหล็กทมิฬในนั้น ลำพังแค่กระบี่บินสังหารศัตรูก็ค่อนข้างแข็งแกร่งแล้ว

ขนาดผู้ฝึกบำเพ็ญระดับแก่นพลังทองเก้าส่วนเก้ายังยากจะหาอาวุธทรงพลังเช่นนี้ได้

เดิมทีเสิ่นเทียนมีพลังบำเพ็ญเหนือกว่ายุงโลหิตระดับล่างพวกนั้นไปไกลมากอยู่แล้ว ทั้งยังมีสมบัติวิญญาณกับตัวอีก ถึงฝูงยุงโลหิตจะมีจำนวนนับมาหวัดไม่ไหว แต่ก็ได้แค่ถูกสังหาร

ทว่ายิ่งสังหารยุงโลหิตไปมากเท่าไร เสิ่นเทียนกลับยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้นเท่านั้น

เพราะจนถึงตอนนี้ปีศาจยุงนั่นยังไม่ออกมาเลย เห็นได้ชัดว่ากำลังซุ่มดูอยู่ในเงามืด

ตอนนี้เกือบจะถึงตีสามอยู่แล้ว สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนร้อนใจนิดๆ แล้ว

ทันใดนั้นเขาก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ มีความคิดดีๆ แล้ว

ยันต์ระเบิดอัสนีที่โปรยไปข้างนอกทีละสิบแผ่นเปลี่ยนเป็นโปรยไปทีละแผ่น ขณะเดียวกันเขายังควบคุมพลังวิญญาณของตัวเองให้เกราะมังกรเขียวอ่อนแสงลง

ตัวเขาซวนเซ มือขวาประคองกำแพงเมือง ใบหน้าซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเสียพลังไปอย่างมาก

ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานเผ่ามนุษย์ที่อยู่ข้างๆ มองด้วยความเป็นห่วงมาก “ท่านเซียน ท่านพักหน่อยเถอะ!”

“ใช่ ตอนนี้ท่านเซียนคือความหวังสุดท้ายของเมืองเราแล้ว!”

“เราจะปกป้องหอเมืองนี่เอง ท่านรีบนั่งฌานพักผ่อนเถอะ!”

“ปีศาจยุงนั่นยังไม่มา ท่านเซียนจะต้องเก็บพลังปราณเดิมไว้!”

“ขอให้ท่านเซียนวางใจ มีพวกเราอยู่ จะไม่มียุงโลหิตข้ามปราการสายฟ้ามาได้แม้แต่ก้าวเดียว!”

……

เสิ่นเทียนฝืนพยักหน้าก่อนเดินช้าๆ ไปนั่งขัดสมาธิอีกด้านของกำแพงเมืองและหยิบศิลาวิญญาณออกมาดูดซับ

อีกทั้งทุกๆ ช่วงหลายนาที เสิ่นเทียนจะขี่ปืนปทุมฆาตเทพออกจากค่ายกลไป ยุงโลหิตระดับสร้างฐานพวกนั้นรวดเร็วยิ่ง ทั้งยังโต้ตอบกับอันตรายไวมาก

การโจมตีกระบี่บินของผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานธรรมดาในเมืองได้ผลยากมาก ทางด้านทหารรักษาการณ์เมืองระดับหลอมปราณที่ยิงธนูออกไป ก็ยิ่งคุกคามถึงพวกมันได้ยากกว่า

ทว่าตอนนี้อยู่ต่อหน้าเสิ่นเทียน ยุงโลหิตระดับสร้างฐานพวกนี้ชัดเจนราวกับเป้าปืน

ทุกครั้งที่เสิ่นเทียนยิงปืนปทุมฆาตเทพใส่กลางฝูงยุง จะมียุงโลหิตระดับสร้างฐานตัวหนึ่งร่วงลงมาข้างล่างเมือง

ปืนปทุมฆาตเทพจากสีดำ ตอนนี้โดนเลือดสดของยุงโลหิตย้อมเป็นสีแดงทุกส่วนแล้ว แต่ว่าเมื่อออกมือมากขึ้นเรื่อยๆ เสิ่นเทียนก็หน้าซีดขาวยิ่งกว่าเดิม

ถึงอย่างไรพลังวิญญาณในตัวผู้ฝึกเซียนก็มีจำกัด สำนักเซียนส่วนใหญ่เวลาปิดล้อมโจมตีผู้แข็งแกร่งจะให้พวกอ่อนแอโจมตีไปก่อนเพื่อลดพลังฤทธิ์ของอีกฝ่ายลง ให้อีกฝ่ายไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมจะใช้กระบวนท่าใหญ่ๆ

ตอนนี้เสิ่นเทียนจะให้ปีศาจยุงคิดว่าตนเสียพลังฤทธิ์ไปจนหมดในการต่อสู้กับยุงจำนวนมากแล้ว

ยามนี้มียันต์ระเบิดอัสนีสามแผ่นลอยอยู่ตรงหน้าเขา แต่กลับไม่ได้เรียกออกไปนอกเมืองอีก ขณะเดียวกันเกราะสายฟ้ามังกรเขียวบนตัวเขายังค่อยๆ สลายไป

มองไปเสิ่นเทียนดูถึงขีดจำกัดแล้ว

…..

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ฝูงยุงโลหิตนอกเมืองแยกออก ปรากฏยุงโลหิตยักษ์สูงหลายจั้งขึ้นช้าๆ ปีกโลหิตสามคู่ข้างหลังมันขยับด้วยความเร็วสูงจนเกิดพายุคลั่งขึ้น!

ดวงตากระหายเลือดจ้องเมืองภูเขาดำเขม็ง และยังจ้องเสิ่นเทียนที่กำลังนั่งฟื้นพลังอยู่ตรงหัวเมือง

ทันทีที่ปีศาจยุงนี่ปรากฏตัว ทุกคนในเมืองภูเขาดำต่างหน้าเปลี่ยนสี ดูสิ้นหวังอย่างยิ่ง!

โดยเฉพาะผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานพวกนั้น พวกเขารู้สึกว่ากลิ่นอายพลังของปีศาจนี่แกร่งขึ้นกว่าเดิมอีก!

ในช่วงเวลาไม่กี่วันสั้นๆ มันย่อยโลหิตบริสุทธิ์ของผู้ฝึกบำเพ็ญมากขนาดนั้นเสร็จแล้ว จนพัฒนาไปอีกขั้น ทะลวงสู่ระดับแก่นพลังทองสำเร็จ

เดิมทีมองจากภายนอกของเซียนท่านนี้แล้ว เขาสู้กับระดับแก่นพลังทองได้ แต่ไม่นานมานี้ตอนสู้กับฝูงยุงโลหิต ท่านเซียนเสียพลังปราณเดิมมากเกินไป อยู่ในสภาพแย่มาก!

ตอนนี้ปีศาจยุงปรากฏตัวขึ้น ทั้งเมืองภูเขาดำยังมีใครสู้ปีศาจกระหายเลือดนี่ได้อีก

ยุงดำปีกแดงบินมาหน้าเมืองภูเขาดำช้าๆ มองมนุษย์ทุกคนกลางเมืองเชิงหยอกล้อ

มีเสียงมนุษย์ดังมาจากอวัยวะปากมัน “ข้ากลับมาอีกแล้ว ข้าเสวี่ยเหวินเค่อมีแค้นต้องชำระเสมอ พวกเจ้าต้องตายกันทั้งหมด!”

เมื่อเห็นค่ายกลมังกรเขียวที่คลุมทั้งเมืองภูเขาดำแล้ว เสวี่ยเหวินเค่อก็แค่นยิ้ม

มันอ้าปาก พลันปรากฏทวนเล็กสีแดงสดกลางปาก ขยับประกายโลหิตวาววับ

ทวนเล็กนั้นมีรูปร่างคล้ายกับปากของเสวี่ยเหวินเค่อมาก เห็นได้ชัดว่านี่เป็นอาวุธเซ่นไหว้โลหิตชีวิตของเสวี่ยเหวินเค่อ

การเอาอาวุธมาเป็นส่วนประกอบของร่างกายเป็นความชอบพิเศษของเผ่าอสูรมากมาย เพียงแต่ผู้ฝึกบำเพ็ญในเมืองไม่เข้าใจว่าเหตุใดเสวี่ยเหวินเค่อถึงมีสมบัติวิเศษชีวิตอยู่ด้วย!

ควรรู้ไว้ว่าเมื่อหลายเดือนก่อนมันยังอยู่แค่ระดับหลอมปราณเท่านั้น ในเวลาสั้นๆ แค่นี้ ไม่ใช่แค่รวมแก่นพลังสำเร็จ แต่ยังหลอมออกมาเป็นอาวุธเซ่นไหว้โลหิตได้อีก

หรือว่าปีศาจยุงตัวนี้จะเป็นโอรสสวรรค์ที่สุดแห่งยุคของเผ่าอสูร เพียงแค่ออกมาล่าเหยื่อเองก็เท่านั้นกัน

ทุกคนยังไม่ทันสงสัย ปีศาจยุงก็โจมตีใส่ยอดค่ายกลมังกรเขียว ทวนยาวสีโลหิตพุ่งออกไป

ในทวนยามนี้มีพลังของเขตแดนเวทอยู่ ซึ่งน่ากลัวกว่ากระบี่บินสังหารปกติ

ทันทีที่มันปะทะกับการป้องกันของค่ายกลก็แทงออกเป็นรูหนึ่ง สายฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งสว่างพร่างพราวแนบกับทวนยาว เหมือนจะหลอมรวมอาวุธชิ้นนี้

เงาโลหิตปรากฏขึ้นกลางเมืองก่อนเขย่าร่างกลายเป็นชายวัยกลางคนดุร้ายในชุดคลุมสีแดงตัวใหญ่

เขาถือทวนยาวสีแดงในมือ มองเสิ่นเทียนที่หน้าขาวซีดเชิงเย้าหยอก

“หายากๆ ระดับสร้างฐานก็มีกำลังรบถึงเพียงนี้ น่าเสียดายก็แต่โอรสสวรรค์ของเผ่ามนุษย์พวกเจ้าอ่อนแอเกินไป รับการดูแลอันดีเยี่ยมจากเผ่าอสูรเราไป แต่กลับโง่เขลาเสียจนช่วยไม่ได้ เมื่อครู่เจ้าเสกยันต์ระเบิดอัสนีระดับสูงสุดเยอะขนาดนั้นเพื่อช่วยคนธรรมดาพวกนี้ในเมืองภูเขาดำรึ

สิ้นเปลืองจริงๆ เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกนั้นคือของของข้า มีโทษที่ไม่อาจให้อภัยได้!”

ขณะพูดอยู่นั้น แววตาชายวัยกลางเต็มไปด้วยจิตสังหาร “เจ้าหนูคงรู้ตัวแล้วสิ!”

เมื่อเอ่ยจบ เขาก็กลายเป็นเศษเงาสีแดงพุ่งไปหาเสิ่นเทียน

ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับสร้างฐานรอบๆ อยากจะขวางไว้ แต่จะขวางไว้ได้หรือ

ในชั่วครู่สั้นๆ ชายวัยกลางคนนั้นก็อยู่ห่างจากตรงหน้าเสิ่นเทียนไปสามฉื่อแล้ว

เห็นทวนยาวในมือชายวัยกลางคนจะแทงร่างเสิ่นเทียนในวินาทีต่อมา จะสังหารเสิ่นเทียนแล้ว ตอนนี้เองเสิ่นเทียนลืมตาขึ้นทันที ปืนปทุมฆาตเทพข้างกายพุ่งขึ้นฟ้า

ปืนสั้นสามฉื่อกลายเป็นแสงดำยิงใส่เสวี่ยเหวินเค่อ

เสวี่ยเหวินเค่อยิ้มเยาะ “เจ้าหนู ยังจะดิ้นรนอีกรึ”

ทวนยาวสีแดงพลันแกว่งไกวก่อนฟันใส่ปืนปทุมฆาตเทพ

ขณะที่ทวนยาวกับปืนสั้นจะปะทะกันระยะประชิด ตัดสินแพ้ชนะกันนั้น ทันใดนั้นเองก็มีลางสังหรณ์ไม่เป็นมงคลเด่นชัดปกคลุมไปทั่วร่างเสวี่ยเหวินเค่อ

ตรงหัวปืนปทุมฆาตเทพนั้นแตกกระจายเป็นดอกบัวสีทอง ขณะเดียวกันเถาวัลย์สีเขียวมรกตยังมุดขึ้นมาจากพื้นดิน เถาวัลย์มัดขาสองข้างเสวี่ยเหวินเค่อไว้แน่น ทำให้เขาดิ้นหลุดไม่ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ

ส่วนตรงกลางดอกบัวสีทองเบ่งบานนั้นมีแสงสีทองสว่างจ้าสายหนึ่งยิงออกมา รวดเร็วจนน่าตกใจ!

เสวี่ยเหวินเค่อโต้ตอบค่อนข้างไวเช่นกัน เขารีบขยับทวนยาวสีทองมาบังไว้ข้างหน้า

แกร๊ง!

เสียงโลหะตัดสลับกันดังขึ้น เสวี่ยเหวินเค่อหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง

เห็นได้ชัดว่าพลังแห่งตะปูเทพทะลวงเขตแดนนี่เหนือกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้

หลังจากต้านตะปูเทพทะลวงเขตแดนดอกแรกได้ ปากพยัคฆ์ของเสวี่ยเหวินเค่อสั่นไหวอย่างรุนแรง ทวนยาวสั่นไหวเช่นกัน และสิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่าคือดอกบัวสีทองดอกนั้นหมุนวนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิงตะปูทะลวงเขตแดนมาอีกดอก!

นี่…อาวุธเร้นลับบ้านี่ยังยิงรัวออกมาได้อีก นี่จะรังแกอสูรกันเกินไปแล้ว!

เสวี่ยเหวินเค่อเตรียมพร้อมรับมือ รวมสมาธิทั้งหมดไว้ที่ตะปูทะลวงเขตแดน

ไม่มีปัญหา เขาต้านได้หนึ่งดอก ก็ต้านดอกที่สองได้เช่นกัน!

……

ทว่าวินาทีต่อมา เสวี่ยเหวินเค่อมีสีหน้าสิ้นหวัง

เพราะเขาเห็นยันต์ระเบิดอัสนีปึกหนึ่งโผล่มาในมือเสิ่นเทียน ดูน่าตกใจมาก!

เสิ่นเทียนยกมุมปากเล็กน้อย “ในปากกระบอกลำกล้องคือความเป็นธรรม แต่เมื่อยิงออกไปจะกลายเป็นสัจธรรม!”

บึ้ม!

ยันต์ระเบิดอัสนีทั้งหมดพุ่งออกไป

วินาทีต่อมาเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นแก้วหูขึ้น

ทุกส่วนของเสวี่ยเหวินเค่อกลายเป็นทะเลโลหิต

ซากศพเละเทะระเบิดกระจุยเป็นเสี่ยงๆ กระจายไปทั่วกำแพงเมือง

ตอนนี้ผู้ฝึกบำเพ็ญในเมืองตกตะลึงกันแล้ว ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโห่ร้อง

ทว่าเสิ่นเทียนรู้ว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ ยังอีกนานเลย เพราะฝูงยุงโลหิตนอกเมืองภูเขาดำยังไม่กระจายกันไป!

……………….……………….……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+