บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 72 เหตุใดของข้าถึงเล็กเช่นนี้

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 72 เหตุใดของข้าถึงเล็กเช่นนี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 72 เหตุใดของข้าถึงเล็กเช่นนี้
กลับเห็นปรากฏการณ์เต่าดำสีดำขนาดเท่าฝ่ามือลอยอยู่เหนือศีรษะเสิ่นเทียน

มันลอยอยู่อย่างนั้น สายฟ้าสีดำพันทั่วกาย แผ่พลังอำนาจองอาจเกรียงไกร

ถ้ามองจากรูปลักษณ์อย่างเดียว เต่าดำนี่เท่และทรงอำนาจมาก ปัญหาคือขนาดเต่าดำนี่เล็กเกินไปกระมัง!

หัวยังไม่หนาเท่านิ้วโป้ง ขนาดพกพามาก

เหตุใดพยัคฆ์ขาวของนางถึงตัวใหญ่ขนาดนั้น

แต่ของข้ากลับเล็กเช่นนี้!

นี่ไม่ยุติธรรมเลย!

……

อีกทั้งในสายตาเสิ่นเทียน เต่าดำนี่เหยียบอยู่บนวงรัศมีดวงชะตาของเขาพอดี แสงสีเขียวอ่อนๆ สะท้อนบนตัวเต่าดำ อย่าให้เอ่ยเลยว่าเข้ากันไม่ได้ขนาดไหน

นี่คือเต่าดำถล่มแคว้น? นี่มันตะพาบน้ำขนสีเขียวชัดๆ!

แสงสะท้อนกระดองเต่านี่เขียวมันขลับแล้วมาคลุมหัวข้าหรือ

เสิ่นเทียนอดหนาวสั่นมิได้ จึงรีบคลายปรากฏการณ์

ไม่ได้การแล้ว จากนี้ออกไปจะสำแดงปรากฏการณ์เต่าดำกวนประสาทนี่ไม่ได้เด็ดขาด

แม้สำแดงแล้วจะกดพลังวิญญาณศัตรูให้พลังลดน้อยลงก็ตาม แต่เสิ่นเทียนก็คิดว่าจะให้ศัตรูเห็นแล้วหัวเราะไม่ได้ ถึงอย่างไรหนังหน้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง!

…..

“ลองอัสนีเทพธาตุอื่นๆ ดูอีกดีกว่า”

เสิ่นเทียนขยับความคิดในใจเล็กน้อย เริ่มลองฝึกวิชาอัสนีอื่นๆ

วิชาปัญจธาตุมีทั้งเข้ากันและต้านกัน เสิ่นเทียนฝึกอัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำลำดับเก้าสำเร็จแล้ว ตามวิชาเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม ลำดับต่อไปที่เหมาะจะฝึกฝนที่สุดคืออัสนีเทพธาตุไม้

อัสนีเทพธาตุไม้แบ่งเป็นอัสนีเทพมังกรฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งกับอัสนีเทพหกประสานธาตุไม้ลำดับสอง แบ่งเป็นหยินกับหยาง

เสิ่นเทียนเลือกธาตุน้ำลำดับเก้าแล้ว เช่นนั้นการฝึกธาตุไม้ลำดับหนึ่งจึงเหมาะสมที่สุด

เขาหยิบศิลาวิญญาณอีกหมื่นก้อนจากแหวนเวหาและสูบกินต่อ!

เสิ่นเทียนนั่งขัดสมาธิลงเริ่มฝึกบำเพ็ญรอบใหม่อย่างหนัก แต่การฝึกฝนครั้งนี้ไม่ได้ราบรื่นเหมือนอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้า ต่อให้มีแก่นรากมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางปัญจธาตุช่วยก็ยังก้าวหน้าช้าอยู่ดี

บางทีอาจเป็นเพราะไม่มีวัตถุวิญญาณธาตุไม้ช่วย เสิ่นเทียนจึงรวมอัสนีเทพธาตุไม้ออกมาได้ช้ามาก

จากที่เสิ่นเทียนคาดการณ์ ตนต้องฝึกฝนอย่างหนักไม่หลับไม่นอนอย่างน้อยสามวันสามคืนถึงอาจจะฝึกฝนอัสนีเทพธาตุไม้ได้ถึงขั้นสูง รวมเป็นปรากฏการณ์มังกรฟ้าได้

สมกับเป็นวิชาระดับสุดยอดของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ มันช่างลึกล้ำจริงๆ!

……..

อีกทั้งเสิ่นเทียนยังมีความรู้สึกบางอย่างในใจ เกรงว่าพลานุภาพอัสนีเทพธาตุไม้ลำดับหนึ่งคงเทียบกับอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าไม่ได้

เพราะช่วงที่เสิ่นเทียนสำแดงอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้านั้น อัสนีเทพกับน้ำมวลหนักปฐมกาลในกายได้ประสานรวมกัน พลานุภาพที่รวมกันเช่นนี้ต้องไม่มีทางที่อัสนีเทพมังกรฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งจะเทียบได้แน่นอน

มิหนำซ้ำปรากฏการณ์เต่าดำถล่มแคว้นเมื่อครู่ยังสร้างความตกใจให้กับเสิ่นเทียน เขากังวลว่าตนรวมเป็นปรากฏการณ์มังกรฟ้าสะเทือนนภาออกมาแล้วจะเป็นแบบพกพาอีก

ออกมาเป็นงูฟ้ายังพอว่า แต่ถ้าออกมาเป็นหนอนฟ้า…

จากนั้นขยับยึกยือไปมาบนหัวเขา ซี้ด แค่คิดก็น่ารำคาญแล้ว!

“ช่างเถอะ เหนื่อยใจจริง ใช้เป็นทุ่นระเบิดน้ำไปก่อนแล้วกัน! ค่อยๆ ฝึกอย่างอื่นไปก่อน”

…….

เสิ่นเทียนคิดว่าไม่จำเป็นต้องละโมบมาก

คลำหาวิธีการใช้อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าให้ชัดเจนก่อน บางทีอาจจะมีประโยชน์กว่ามีอัสนีเทพมังกรฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งเพิ่มมา

เขาเริ่มขับเคลื่อนอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าในกาย ค่อยๆ รวมมันออกมา ทันทีที่เสิ่นเทียนเริ่มสำแดงวิชาก็รวมเป็นสายฟ้าสีดำขึ้นมาทันที

พวกมันวนเวียนตรงปลายนิ้วเสิ่นเทียน ดูเชื่อฟังเป็นพิเศษ

อีกทั้งเสิ่นเทียนยังสัมผัสได้อย่างเฉียบคมว่าในอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าแฝงไว้ด้วยน้ำมวลหนักปฐมกาลหนึ่งส่วน นี่ทำให้อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าของเขาหนักมากกว่าอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าธรรมดามาก

ไม่รู้ว่าเมื่อสำแดงอัสนีเทพนี้ออกไป พลานุภาพจะแกร่งกว่าหรือไม่!

ความคิดนี้ขยับวูบผ่านในใจเสิ่นเทียน ดังนั้นถึงได้รวมเนิบๆ ออกมาเป็นลูกกลมสายฟ้าสีดำลูกหนึ่ง

นี่คือวิชาย่อยในชุดเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม มีชื่อเรียกว่ากุมอัสนี

ตรงใจกลางมันรวมเป็นลูกกลมสายฟ้า ปาออกไปโจมตี

ปกติศิษย์ทางการของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะรู้วิชานี้ เป็นวิชาอัสนีพื้นฐานที่สุด

แน่นอนด้วยความที่ธาตุลูกกลมอัสนีต่างกัน วิชาพื้นฐานนี้จึงพัฒนาได้ อย่างเช่นกุมอัสนีธาตุไฟ กุมอัสนีธาตุทองลำดับเจ็ด กุมอัสนีธาตุไม้ลำดับหนึ่งเป็นต้น

และที่เสิ่นเทียนใช้อยู่ตอนนี้คือกุมอัสนีธาตุน้ำลำดับเก้า

……

ปกติ ธาตุทองลำดับเจ็ดในกุมอัสนีปัญจธาตุจะทลายเกราะทรงพลังที่สุด ธาตุไฟระเบิดทรงพลังที่สุด ส่วนกุมอัสนีธาตุน้ำลำดับเก้าเชี่ยวชาญการทำให้เป็นอัมพาตที่สุด พลานุภาพสังหารไม่ได้โดดเด่น

สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนไม่ได้คาดหวังกับพลานุภาพของวิชานี้มากนักเลย ทว่าเมื่อเขาปาลูกกลมอัสนีนี้ออกไปช้าๆ แล้ว วินาทีต่อมาถึงกับตะลึงงัน

เขาขว้างลูกกลมกุมอัสนีขนาดเท่าไข่ไก่ออกไปโดนหินยักษ์ก้อนหนึ่ง นั่นคือหินยักษ์สูงจั้งกว่า ทุกส่วนมันเงาและแข็งอย่างยิ่ง ทว่าเมื่อปะทะกับกุมอัสนีธาตุน้ำลำดับเก้าแล้วก็ทะลุเข้าไปทันที

จากนั้นสายฟ้าสีดำระเบิดแตกกลางหินยักษ์

หินแข็งนั่นระเบิดออกราวกับเต้าหู้ใหญ่

ทันใดนั้นเอง กุ้ยกงกงกับฉินเกาด้านข้างถึงกับสูดลมหายใจเย็นๆ เฮือกหนึ่ง นิ่งอึ้งไปเลย

ฉินเกากลืนน้ำลายลงคอ “พะ…พลังน่ากลัวมาก แตกเป็นเสี่ยงๆ ในพริบตาเลย!”

กุ้ยกงกงมีสีหน้าตกใจมากเช่นกัน “พลังทำลายล้างเช่นนี้เทียบได้กับหลอมปราณขั้นเก้าแล้ว!”

และที่สำคัญกว่านั้นคือเสิ่นเทียนแค่ลองใช้กุมอัสนีเล่นๆ เท่านั้น

หากเสิ่นเทียนสำรองพลังวิญญาณ ก็จะจู่โจมเช่นนี้ได้อย่างน้อยห้าครั้ง และถ้ารวมกับการสูบมานาพลังวิญญาณด้วย สิบครั้งก็ไม่ยาก

และถ้ากดปุ่มโจมตีด้วยพลังบำเพ็ญหลอมปราณขั้นห้า ก็จะต้านการโจมตีสุดกำลังของผู้แข็งแกร่งขั้นเก้าได้

เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมสมกับเป็นวิชาเซียนสายฟ้าเลิศล้ำในคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์จริงๆ!

……

เสิ่นเทียนพอใจกับพลังโจมตีมาก ต่อไปเป็นพลังป้องกันแล้ว

ความจริง เดิมทีอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าคืออัสนีเทพที่มีคุณสมบัติทนทานและป้องกันอยู่แล้ว

ในเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมก็มีบันทึกวิชาเลิศล้ำของชุดอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าเอาไว้หนึ่งวิชา วิชานี้มีชื่อว่าเกราะเต่าดำ สามารถรวมเป็นโล่สายฟ้าทั่วร่างได้

สำหรับคนที่สุขุมและมั่นคงอย่างเสิ่นเทียนแล้ว วิชานี้น่าสนใจมาก

เขาเดินมาข้างหินแตกช้าๆ ดูดน้ำมวลหนักปฐมกาลที่หลอมรวมในกุมอัสนีกลับเข้าร่าง จากนั้นมองกุ้ยกงกง “ลุงกุ้ย ท่านลองโจมตีข้าหน่อย”

พูดจบเสิ่นเทียนก็โคจรอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้า รวมไว้ที่แขนขวา

เกราะเต่าดำเป็นวิชาเลิศล้ำ ระดับความยากและอานุภาพต้องเหนือกว่ากุมอัสนีธรรมดาไปไกลโขแน่

แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้ากับน้ำมวลหนักปฐมกาลถึงเชื่อฟังในร่างกายเสิ่นเทียนมาก

เสิ่นเทียนแค่ลองดูเล็กๆ น้อยๆ ไม่กี่ครั้งก็รวมเป็นเกราะเต่าดำสำเร็จ

แน่นอนว่าด้วยความที่ยังไม่ชำนาญมากพอ เลยต้องพยายามรวมเป็นรูปร่างออกมา อย่างมากสุดก็ถือว่าอยู่ในระดับพื้นฐาน

…….

โล่นี้ออกเป็นสีดำทุกส่วน กระจายลวดลายมรรคาพิศวง มองไปดูแข็งแกร่งมาก

มีสิ่งเดียวที่ทำให้เสิ่นเทียนเสียดายคือรูปทรงเกราะเต่าดำนี่เหมือนกระดองเต่ามาก

เฮ้อ ช่างเถอะ

ถึงอย่างไรในช่วงเวลาสำคัญ เจ้านี่ก็ช่วยชีวิตได้

รูปทรงระดับล่างก็ให้มันล่างไปเถอะ!

เสิ่นเทียนชูเกราะเต่าดำขึ้นมาก่อนตั้งรับกุ้ยกงกง “ลุงกุ้ย ท่านโจมตีข้าสุดกำลังเลย”

กุ้ยกงกงพยักหน้าแล้วรวมพลังวิญญาณสีแดงเข้มที่กำปั้น

“ฝ่าบาท ท่านต้องระวังหน่อยนะ อย่าให้ทำร้ายตัวเองนะพ่ะย่ะค่ะ”

เอ่ยจบกุ้ยกงกงก็ขยับกายวูบไหว จู่โจมโล่เต่าดำของเสิ่นเทียนอย่างฉับพลัน

ได้ยินเพียงเสียงดังสนั่น โล่เต่าดำไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่มีรอยแตกร้าวใดๆ เลย ในทางตรงข้ามกลับมีสายฟ้าสีดำไหลผ่านเกราะเต่าดำลุกลามไปบนตัวกุ้ยกงกง กำลังแว้งกัดเขา

…….

เปรี้ยง!

สายฟ้าระเบิดกระจาย

กุ้ยกงกงถอยไปต่อเนื่องห้าก้าว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

พลังป้องกันของเกราะเต่าดำนี่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!

………………….……….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 72 เหตุใดของข้าถึงเล็กเช่นนี้

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 72 เหตุใดของข้าถึงเล็กเช่นนี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 72 เหตุใดของข้าถึงเล็กเช่นนี้
กลับเห็นปรากฏการณ์เต่าดำสีดำขนาดเท่าฝ่ามือลอยอยู่เหนือศีรษะเสิ่นเทียน

มันลอยอยู่อย่างนั้น สายฟ้าสีดำพันทั่วกาย แผ่พลังอำนาจองอาจเกรียงไกร

ถ้ามองจากรูปลักษณ์อย่างเดียว เต่าดำนี่เท่และทรงอำนาจมาก ปัญหาคือขนาดเต่าดำนี่เล็กเกินไปกระมัง!

หัวยังไม่หนาเท่านิ้วโป้ง ขนาดพกพามาก

เหตุใดพยัคฆ์ขาวของนางถึงตัวใหญ่ขนาดนั้น

แต่ของข้ากลับเล็กเช่นนี้!

นี่ไม่ยุติธรรมเลย!

……

อีกทั้งในสายตาเสิ่นเทียน เต่าดำนี่เหยียบอยู่บนวงรัศมีดวงชะตาของเขาพอดี แสงสีเขียวอ่อนๆ สะท้อนบนตัวเต่าดำ อย่าให้เอ่ยเลยว่าเข้ากันไม่ได้ขนาดไหน

นี่คือเต่าดำถล่มแคว้น? นี่มันตะพาบน้ำขนสีเขียวชัดๆ!

แสงสะท้อนกระดองเต่านี่เขียวมันขลับแล้วมาคลุมหัวข้าหรือ

เสิ่นเทียนอดหนาวสั่นมิได้ จึงรีบคลายปรากฏการณ์

ไม่ได้การแล้ว จากนี้ออกไปจะสำแดงปรากฏการณ์เต่าดำกวนประสาทนี่ไม่ได้เด็ดขาด

แม้สำแดงแล้วจะกดพลังวิญญาณศัตรูให้พลังลดน้อยลงก็ตาม แต่เสิ่นเทียนก็คิดว่าจะให้ศัตรูเห็นแล้วหัวเราะไม่ได้ ถึงอย่างไรหนังหน้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง!

…..

“ลองอัสนีเทพธาตุอื่นๆ ดูอีกดีกว่า”

เสิ่นเทียนขยับความคิดในใจเล็กน้อย เริ่มลองฝึกวิชาอัสนีอื่นๆ

วิชาปัญจธาตุมีทั้งเข้ากันและต้านกัน เสิ่นเทียนฝึกอัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำลำดับเก้าสำเร็จแล้ว ตามวิชาเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม ลำดับต่อไปที่เหมาะจะฝึกฝนที่สุดคืออัสนีเทพธาตุไม้

อัสนีเทพธาตุไม้แบ่งเป็นอัสนีเทพมังกรฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งกับอัสนีเทพหกประสานธาตุไม้ลำดับสอง แบ่งเป็นหยินกับหยาง

เสิ่นเทียนเลือกธาตุน้ำลำดับเก้าแล้ว เช่นนั้นการฝึกธาตุไม้ลำดับหนึ่งจึงเหมาะสมที่สุด

เขาหยิบศิลาวิญญาณอีกหมื่นก้อนจากแหวนเวหาและสูบกินต่อ!

เสิ่นเทียนนั่งขัดสมาธิลงเริ่มฝึกบำเพ็ญรอบใหม่อย่างหนัก แต่การฝึกฝนครั้งนี้ไม่ได้ราบรื่นเหมือนอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้า ต่อให้มีแก่นรากมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางปัญจธาตุช่วยก็ยังก้าวหน้าช้าอยู่ดี

บางทีอาจเป็นเพราะไม่มีวัตถุวิญญาณธาตุไม้ช่วย เสิ่นเทียนจึงรวมอัสนีเทพธาตุไม้ออกมาได้ช้ามาก

จากที่เสิ่นเทียนคาดการณ์ ตนต้องฝึกฝนอย่างหนักไม่หลับไม่นอนอย่างน้อยสามวันสามคืนถึงอาจจะฝึกฝนอัสนีเทพธาตุไม้ได้ถึงขั้นสูง รวมเป็นปรากฏการณ์มังกรฟ้าได้

สมกับเป็นวิชาระดับสุดยอดของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ มันช่างลึกล้ำจริงๆ!

……..

อีกทั้งเสิ่นเทียนยังมีความรู้สึกบางอย่างในใจ เกรงว่าพลานุภาพอัสนีเทพธาตุไม้ลำดับหนึ่งคงเทียบกับอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าไม่ได้

เพราะช่วงที่เสิ่นเทียนสำแดงอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้านั้น อัสนีเทพกับน้ำมวลหนักปฐมกาลในกายได้ประสานรวมกัน พลานุภาพที่รวมกันเช่นนี้ต้องไม่มีทางที่อัสนีเทพมังกรฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งจะเทียบได้แน่นอน

มิหนำซ้ำปรากฏการณ์เต่าดำถล่มแคว้นเมื่อครู่ยังสร้างความตกใจให้กับเสิ่นเทียน เขากังวลว่าตนรวมเป็นปรากฏการณ์มังกรฟ้าสะเทือนนภาออกมาแล้วจะเป็นแบบพกพาอีก

ออกมาเป็นงูฟ้ายังพอว่า แต่ถ้าออกมาเป็นหนอนฟ้า…

จากนั้นขยับยึกยือไปมาบนหัวเขา ซี้ด แค่คิดก็น่ารำคาญแล้ว!

“ช่างเถอะ เหนื่อยใจจริง ใช้เป็นทุ่นระเบิดน้ำไปก่อนแล้วกัน! ค่อยๆ ฝึกอย่างอื่นไปก่อน”

…….

เสิ่นเทียนคิดว่าไม่จำเป็นต้องละโมบมาก

คลำหาวิธีการใช้อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าให้ชัดเจนก่อน บางทีอาจจะมีประโยชน์กว่ามีอัสนีเทพมังกรฟ้าธาตุไม้ลำดับหนึ่งเพิ่มมา

เขาเริ่มขับเคลื่อนอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าในกาย ค่อยๆ รวมมันออกมา ทันทีที่เสิ่นเทียนเริ่มสำแดงวิชาก็รวมเป็นสายฟ้าสีดำขึ้นมาทันที

พวกมันวนเวียนตรงปลายนิ้วเสิ่นเทียน ดูเชื่อฟังเป็นพิเศษ

อีกทั้งเสิ่นเทียนยังสัมผัสได้อย่างเฉียบคมว่าในอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าแฝงไว้ด้วยน้ำมวลหนักปฐมกาลหนึ่งส่วน นี่ทำให้อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าของเขาหนักมากกว่าอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าธรรมดามาก

ไม่รู้ว่าเมื่อสำแดงอัสนีเทพนี้ออกไป พลานุภาพจะแกร่งกว่าหรือไม่!

ความคิดนี้ขยับวูบผ่านในใจเสิ่นเทียน ดังนั้นถึงได้รวมเนิบๆ ออกมาเป็นลูกกลมสายฟ้าสีดำลูกหนึ่ง

นี่คือวิชาย่อยในชุดเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม มีชื่อเรียกว่ากุมอัสนี

ตรงใจกลางมันรวมเป็นลูกกลมสายฟ้า ปาออกไปโจมตี

ปกติศิษย์ทางการของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะรู้วิชานี้ เป็นวิชาอัสนีพื้นฐานที่สุด

แน่นอนด้วยความที่ธาตุลูกกลมอัสนีต่างกัน วิชาพื้นฐานนี้จึงพัฒนาได้ อย่างเช่นกุมอัสนีธาตุไฟ กุมอัสนีธาตุทองลำดับเจ็ด กุมอัสนีธาตุไม้ลำดับหนึ่งเป็นต้น

และที่เสิ่นเทียนใช้อยู่ตอนนี้คือกุมอัสนีธาตุน้ำลำดับเก้า

……

ปกติ ธาตุทองลำดับเจ็ดในกุมอัสนีปัญจธาตุจะทลายเกราะทรงพลังที่สุด ธาตุไฟระเบิดทรงพลังที่สุด ส่วนกุมอัสนีธาตุน้ำลำดับเก้าเชี่ยวชาญการทำให้เป็นอัมพาตที่สุด พลานุภาพสังหารไม่ได้โดดเด่น

สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนไม่ได้คาดหวังกับพลานุภาพของวิชานี้มากนักเลย ทว่าเมื่อเขาปาลูกกลมอัสนีนี้ออกไปช้าๆ แล้ว วินาทีต่อมาถึงกับตะลึงงัน

เขาขว้างลูกกลมกุมอัสนีขนาดเท่าไข่ไก่ออกไปโดนหินยักษ์ก้อนหนึ่ง นั่นคือหินยักษ์สูงจั้งกว่า ทุกส่วนมันเงาและแข็งอย่างยิ่ง ทว่าเมื่อปะทะกับกุมอัสนีธาตุน้ำลำดับเก้าแล้วก็ทะลุเข้าไปทันที

จากนั้นสายฟ้าสีดำระเบิดแตกกลางหินยักษ์

หินแข็งนั่นระเบิดออกราวกับเต้าหู้ใหญ่

ทันใดนั้นเอง กุ้ยกงกงกับฉินเกาด้านข้างถึงกับสูดลมหายใจเย็นๆ เฮือกหนึ่ง นิ่งอึ้งไปเลย

ฉินเกากลืนน้ำลายลงคอ “พะ…พลังน่ากลัวมาก แตกเป็นเสี่ยงๆ ในพริบตาเลย!”

กุ้ยกงกงมีสีหน้าตกใจมากเช่นกัน “พลังทำลายล้างเช่นนี้เทียบได้กับหลอมปราณขั้นเก้าแล้ว!”

และที่สำคัญกว่านั้นคือเสิ่นเทียนแค่ลองใช้กุมอัสนีเล่นๆ เท่านั้น

หากเสิ่นเทียนสำรองพลังวิญญาณ ก็จะจู่โจมเช่นนี้ได้อย่างน้อยห้าครั้ง และถ้ารวมกับการสูบมานาพลังวิญญาณด้วย สิบครั้งก็ไม่ยาก

และถ้ากดปุ่มโจมตีด้วยพลังบำเพ็ญหลอมปราณขั้นห้า ก็จะต้านการโจมตีสุดกำลังของผู้แข็งแกร่งขั้นเก้าได้

เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมสมกับเป็นวิชาเซียนสายฟ้าเลิศล้ำในคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์จริงๆ!

……

เสิ่นเทียนพอใจกับพลังโจมตีมาก ต่อไปเป็นพลังป้องกันแล้ว

ความจริง เดิมทีอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าคืออัสนีเทพที่มีคุณสมบัติทนทานและป้องกันอยู่แล้ว

ในเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมก็มีบันทึกวิชาเลิศล้ำของชุดอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้าเอาไว้หนึ่งวิชา วิชานี้มีชื่อว่าเกราะเต่าดำ สามารถรวมเป็นโล่สายฟ้าทั่วร่างได้

สำหรับคนที่สุขุมและมั่นคงอย่างเสิ่นเทียนแล้ว วิชานี้น่าสนใจมาก

เขาเดินมาข้างหินแตกช้าๆ ดูดน้ำมวลหนักปฐมกาลที่หลอมรวมในกุมอัสนีกลับเข้าร่าง จากนั้นมองกุ้ยกงกง “ลุงกุ้ย ท่านลองโจมตีข้าหน่อย”

พูดจบเสิ่นเทียนก็โคจรอัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้า รวมไว้ที่แขนขวา

เกราะเต่าดำเป็นวิชาเลิศล้ำ ระดับความยากและอานุภาพต้องเหนือกว่ากุมอัสนีธรรมดาไปไกลโขแน่

แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด อัสนีเทพธาตุน้ำลำดับเก้ากับน้ำมวลหนักปฐมกาลถึงเชื่อฟังในร่างกายเสิ่นเทียนมาก

เสิ่นเทียนแค่ลองดูเล็กๆ น้อยๆ ไม่กี่ครั้งก็รวมเป็นเกราะเต่าดำสำเร็จ

แน่นอนว่าด้วยความที่ยังไม่ชำนาญมากพอ เลยต้องพยายามรวมเป็นรูปร่างออกมา อย่างมากสุดก็ถือว่าอยู่ในระดับพื้นฐาน

…….

โล่นี้ออกเป็นสีดำทุกส่วน กระจายลวดลายมรรคาพิศวง มองไปดูแข็งแกร่งมาก

มีสิ่งเดียวที่ทำให้เสิ่นเทียนเสียดายคือรูปทรงเกราะเต่าดำนี่เหมือนกระดองเต่ามาก

เฮ้อ ช่างเถอะ

ถึงอย่างไรในช่วงเวลาสำคัญ เจ้านี่ก็ช่วยชีวิตได้

รูปทรงระดับล่างก็ให้มันล่างไปเถอะ!

เสิ่นเทียนชูเกราะเต่าดำขึ้นมาก่อนตั้งรับกุ้ยกงกง “ลุงกุ้ย ท่านโจมตีข้าสุดกำลังเลย”

กุ้ยกงกงพยักหน้าแล้วรวมพลังวิญญาณสีแดงเข้มที่กำปั้น

“ฝ่าบาท ท่านต้องระวังหน่อยนะ อย่าให้ทำร้ายตัวเองนะพ่ะย่ะค่ะ”

เอ่ยจบกุ้ยกงกงก็ขยับกายวูบไหว จู่โจมโล่เต่าดำของเสิ่นเทียนอย่างฉับพลัน

ได้ยินเพียงเสียงดังสนั่น โล่เต่าดำไม่เขยื้อนแม้แต่น้อย ทั้งยังไม่มีรอยแตกร้าวใดๆ เลย ในทางตรงข้ามกลับมีสายฟ้าสีดำไหลผ่านเกราะเต่าดำลุกลามไปบนตัวกุ้ยกงกง กำลังแว้งกัดเขา

…….

เปรี้ยง!

สายฟ้าระเบิดกระจาย

กุ้ยกงกงถอยไปต่อเนื่องห้าก้าว ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

พลังป้องกันของเกราะเต่าดำนี่น่ากลัวอะไรเช่นนี้!

………………….……….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+