บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 413 ตัวร้ายเช่นนี้ ปกติต้องไม่อ่านนิยายแน่นอน!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 413 ตัวร้ายเช่นนี้ ปกติต้องไม่อ่านนิยายแน่นอน! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 413 ตัวร้ายเช่นนี้ ปกติต้องไม่อ่านนิยายแน่นอน!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เข้าไปในมิติ แปลงร่างเป็นประกายสายฟ้าพุ่งไปยังยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์

ผู้อริยะคนอื่นตั้งสติกลับมาได้ก็พากันเคลื่อนไหว

แต่ก็ยังช้าไปเล็กน้อย

ต่อให้เหล่าผู้อริยะจะออกมือ แต่ก็ยังห่างจากยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ช่วงหนึ่ง ไม่ทันการแน่นอน

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีอันตราย!

นั่นคืออริยะแท้หกด่านเคราะห์ เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของเขา ผู้อริยะส่วนใหญ่ที่นี่ต้านไม่ได้เลย

แม้เสิ่นเทียนจะแสดงกำลังรบออกมาแข็งแกร่งมาก แต่ก็ไม่มีทางสู้อริยะแท้หกด่านเคราะห์ได้หรอก!

…..

อริยะแท้หกด่านเคราะห์ไม่มีความลังเลเลย รวมกฎเกณฑ์เป็นมือใหญ่คว้าไปที่เสิ่นเทียนกับโอสถเสริมสวรรค์

เป้าหมายเขาชัดเจนมาก ไม่ใช่แค่จะชิงโอสถสูงสุด แต่จะจับเสิ่นเทียนเป็นตัวประกัน!

เสิ่นเทียนสำคัญกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาก การจับเขาไว้ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต้องไม่กล้าบุ่มบ่ามง่ายๆ แน่นอน!

เขาก็จะใช้โอกาสนี้หนีไปได้อย่างปลอดภัย!

อีกทั้งด้วยพลังบำเพ็ญอริยะแท้หกด่านเคราะห์ของเขา การจับตัวรุ่นเยาว์คนหนึ่งเป็นเรื่องง่ายไม่ใช่รึ

ทันใดนั้นห้วงมิติพังทลายลง กฎเกณฑ์ปั่นป่วน เกิดเป็นความว่างเปล่าผืนใหญ่!

มือใหญ่เท่าฟ้าบดบังลงมา จะพันธนาการเสิ่นเทียนไว้!

เสิ่นเทียนยักคิ้วกระบี่ขึ้น มุมปากกระตุกเล็กน้อย!

นี่มันบ้าอะไรกัน

จะชิงโอสถก็ช่างเถอะ ข้าเข้าใจได้ ถึงอย่างไรโอสถเทพระดับนี้ก็ทำให้ผู้อริยะบ้าคลั่งได้ นี่ยืนยันได้ว่าศาสตร์หลอมโอสถข้าเจ๋ง!

แต่เจ้าคิดจะลงมือกับข้า นี่มันจะเกินไปแล้ว!

คิดว่าข้าเป็นมะเขือนิ่ม คิดจะบีบก็บีบได้รึ

คิดว่าข้าโมโหไม่เป็นเลยรึ

บึ้ม!

เสิ่นเทียนระเบิดพลังแล้ว!

คัมภีร์คบเพลิงเบิกฟ้าพลันหมุนโคจร

สิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสิบชนิดหลอมรวมเข้าไปในกาย ระเบิดพลังมหาศาลออกมา!

แสงเทพสีสันหลากสีระเบิดมาจากในกาย สว่างจ้าอย่างยิ่ง วนเวียนรอบกายดูมหัศจรรย์มาก

เส้นผมเสิ่นเทียนตั้งขึ้น ชี้ขึ้นฟ้า เหมือนกับชาวไซยา แผ่พลังอำนาจแก่กล้าออกมา!

ถ้าข้าโกรธมากเมื่อไร ผลที่ตามมาจะหนักหนาอย่างยิ่ง!

ค้อนเทพกำราบสมุทรพลันปรากฏในมือเสิ่นเทียน ด้านบนเคลือบด้วยน้ำมวลหนักปฐมกาล

นี่ทำให้อานุภาพของค้อนเทพกำราบสมุทรบรรลุถึงขีดสุด ราวกับจะกำราบฟ้าดินได้!

เสิ่นเทียนควงค้อนเทพกำราบสมุทรก่อนจะตะโกนเสียงเบา “สามสิบหกค้อนสวรรค์ร้าง ค้อนทุบดาว!”

ค้อนเทพกำราบสมุทรกลายเป็นเงามายาหมื่นจั้ง มาพร้อมกับพลังหนักอึ้งอย่างยิ่ง เหมือนกับขุนเขาเทพบรรพกาลกดทับลงมา!

มิติโดยรอบพลันแตกกระจาย กระแสมิติปั่นป่วนไหลหลาก แต่ก็ยังปิดแสงจากค้อนเทพกำราบสมุทรไม่มิด!

ผ่านไปที่ใด กฎเกณฑ์จะสั่นไหว ห้วงอากาศจะสูญสิ้น ระเบิดกระจายออกมาทั้งหมด!

บึ้ม!

เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ฝุ่นดินฟุ้งกระจาย!

มือยักษ์พลันระเบิดกระจาย อีกทั้งประกายแสงค้อนยังไม่สิ้นอานุภาพลง ยังคงจู่โจมใส่อริยะแท้หกด่านเคราะห์

อริยะแท้หกด่านเคราะห์ยังไม่ทันตั้งตัวก็ถูกค้อนทุบออกไป ถอยไปหลายร้อยจั้ง แม้แต่เขตแดนอริยะที่คุ้มกายยังถูกทุบแตก!

อริยะแท้หกด่านเคราะห์เลือดลมทั่วร่างสั่นกระเพื่อม กลิ่นอายพลังปั่นป่วนถึงที่สุด ถึงกับแอบด่าทอในใจ

‘ระยำ เหตุใดเจ้าเด็กนี่ถึงโหดเช่นนี้ ทุบค้อนเดียว ทุบข้ามึนหัววิ้งๆ ไปหมด’

เดิมทีอริยะแท้หกด่านเคราะห์คิดว่าเสิ่นเทียนผ่านเคราะห์อัสนีกำเนิดฟ้าได้ เพราะอาศัยประโยชน์จากวิชา ต่อให้เขาจะมีพรสวรรค์บ้ากว่านี้ก็ยังหนุ่ม อย่างมากก็มีศักยภาพครึ่งอริยะ

ศักยภาพครึ่งอริยะอยู่ต่อหน้าอริยะแท้หกด่านเคราะห์ แค่พลิกมือก็กำราบได้

อริยะแท้หกด่านเคราะห์ไม่เห็นเสิ่นเทียนอยู่ในสายตาเลย เพียงแค่ใช้พลังส่วนหนึ่งก็คิดว่าจะจับเขาไว้ได้ง่ายดาย

รอบตัวมีผู้อริยะจำนวนมากพุ่งเข้ามา เขาต้องเตรียมรับมือกับเหตุไม่คาดคิดตลอดเวลา

ก็เพราะประมาทเกินไป จึงทำให้อริยะแท้หกด่านเคราะห์เสียเปรียบอย่างหนัก!

อริยะแท้หกด่านเคราะห์มองค้อนยักษ์ในมือเสิ่นเทียน ดวงตาสองข้างเหม่อลอย สงสัยในชีวิตนิดๆ

ทว่าผู้บำเพ็ญทุกคนที่มุงดูอยู่ต่างมีแววตาเต็มไปด้วยความตื่นกลัว

ล้อเล่นอะไรกัน

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์โหดขนาดนี้เชียว ทุบได้กระทั่งผู้อริยะรึ

ในคนพวกนี้ เดิมทียังมีคนที่คิดจะจับปลาน้ำขุ่นอยู่ ตอนนี้ล้มเลิกความคิดนี้ไปทั้งหมด!

นี่มันบ้าอะไรกัน!

ทุบค้อนเดียว เกรงว่ามีตายกันได้เลย!

แม้จะมีส่วนของอริยะแท้หกด่านเคราะห์ประมาท แต่ก็จะมองข้ามความเป็นปีศาจของเสิ่นเทียนไปไม่ได้!

ผู้อริยะทุกคนแอบตกใจอยู่ข้างใน ‘สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ พรสวรรค์เช่นนี้ไม่ด้อยไปกว่าโอรสสวรรค์คนนั้นเลย!’

พวกเขามั่นใจว่าเสิ่นเทียนมีศักยภาพของผู้สูงศักดิ์สวรรค์มรรคสูงสุดแล้ว กำลังรบเทียบเท่ากับผู้อริยะใหม่! ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางทุบอริยะแท้หกด่านเคราะห์ที่ไม่ทันตั้งตัวให้กระเด็นไปได้

ในรุ่นเยาว์นี้ เขาทัดเทียมกับท่านนั้นในดินแดนกลางได้แล้ว!

…..

ฉีเซ่าเสวียนกับหวังเสินซวีมองหน้ากัน อดกลืนน้ำลายไม่ได้ “ใครกันที่บอกข้าว่าสหายเสิ่นยังอยู่เพียงดวงจิตดรุณสมบูรณ์ เจ้าออกมา ข้ารับรองว่าจะไม่ทุบตีเจ้าให้ตาย!”

ดวงจิตดรุณสมบูรณ์บ้าอะไร มีดวงจิตดรุณที่ใดโหดเช่นนี้ แม้แต่อริยะแท้หกด่านเคราะห์ยังถูกทุบกระเด็นไป

เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้ หวังเสินซวีกับฉีเซ่าเสวียนกลอกตามามองฟางฉาง

“เอ่อ นี่อาจจะเข้าใจผิดกัน…”

ฟางฉางหน้าแดง ตอนแรกเขาได้ยินเสิ่นเทียนบอกว่าเขามีพลังบำเพ็ญอยู่จุดสูงสุดดวงจิตดรุณนี่นา!

ใครจะรู้ว่าผ่านไปสิบกว่าวัน ศิษย์น้องเขาเหมือนจะทะลวงพลังอีกแล้ว!

ศิษย์น้องบุตรศักดิ์สิทธิ์คนนี้โหดเกินไปจริงๆ!

ฉีเซ่าเสวียนกับหวังเสินซวีสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง “หรือว่าสหายเสิ่นจะบรรลุผู้สูงศักดิ์สวรรค์แล้ว นี่เพิ่งผ่านไปนานเท่าไรเอง! บุตรแห่งโชคเหนือกว่าจินตนาการของคนทั่วไปจริงๆ! แซ่ฉีเทียบกับสหายเสิ่นแล้ว ก็ยังห่างไกลยิ่งนัก!”

……

ขณะที่ทุกคนยังตกตะลึง อริยะแท้หกด่านเคราะห์นั้นตั้งตัวกลับมาได้แล้ว

เขาชำนาญความเร็วและการอำพรางมากที่สุด หลังจบการโจมตีหนึ่ง ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่ก็จะหนีไปอย่างรวดเร็ว แต่เขาประเมินศักยภาพของเสิ่นเทียนพลาด ทำให้การโจมตีที่ซ่อนเร้นมานานพลาดเป้า กระทั่งยังถูกทุบจนสงสัยในชีวิต ค้างอยู่กับที่ชั่วครู่

หากไม่หนีอีกก็ไม่ต้องหนีแล้ว!

อืม~

อาจจะพูดได้ว่าต่อให้หนีไปตอนนี้ก็ไม่ทันแล้ว

ร่างเงายิ่งใหญ่พลันปรากฏตรงหน้าอริยะแท้หกด่านเคราะห์ สายฟ้าประกายเซียนไม่มีสิ้นสุดปะทุขึ้น

จิตสังหารบ้าคลั่งและเย็นเยือกลุกลามออกมา เหมือนกับคมดาบสายฟ้าจะตัดฟ้าดินเป็นสองส่วน

ร่างเงานี้คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

กล้าลงมือกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ต่อหน้าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะนิ่งดูดายได้อย่างไร

เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารเย็นยะเยือกของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว แม้แต่เหล่าผู้อริยะที่ล้อมรอบอยู่ยังอดหนาวสั่นมิได้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ซ่อนพลังไว้ลึกล้ำมาก ไม่มีใครรู้ว่าเขามีศักยภาพที่แท้จริงแข็งแกร่งเพียงใด

มองจากสถานการณ์ตอนนี้ เกรงว่าแม้แต่อริยะแท้หกด่านเคราะห์ก็อาจจะรับเพลิงโทสะของเขาไม่ไหวแล้ว!

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไหลหลาก เหมือนกับคลื่นลูกใหญ่

น้ำเสียงเขาเฉยชาไร้คลื่นอารมณ์ แต่กลับทำให้คนใจหนาวสั่น “วันนี้ต่อให้ข้าต้องเผาต้นกำเนิด พลังปราณเดิมบาดเจ็บสาหัส ก็ต้องจับเจ้าไว้ให้ได้! กล้าทำร้ายบุตรศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายข้า จะต้องตาย!”

งุนงง

อริยะแท้หกด่านเคราะห์ทำหน้างุนงง ข้าไปทำร้ายเจ้าเด็กนี่ที่ใดกัน

เข้าใจผิดไปหรือไม่

ข้าต่างหากที่บาดเจ็บ!

เจ้าเด็กนั่นยังกระโดดโลดเต้น ไม่เป็นอะไรเลย!

อริยะแท้หกด่านเคราะห์รู้สึกปวดปอดนิดๆ นั่นเป็นเพราะโดนค้อนกำราบสมุทรทุบ

ปวดตับนิดหน่อย เพราะโกรธที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใส่ร้ายจะเรียกร้องเอาเงิน!

มิหนำซ้ำ เหตุใดเขาถึงรู้สึกว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แปลกๆ เหตุใดถึงสู้สุดชีวิตเช่นนี้

ปกติเวลาระดับอริยะสู้กัน ควรจะหยั่งเชิงกันก่อนไม่ใช่รึ

มีอย่างที่ไหนมาถึงก็เผาต้นกำเนิด เจ้าตายข้าอยู่เช่นนี้กัน และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเจ้านี่เผาต้นกำเนิดจริงๆ หรือ เหตุใดถึงรู้สึกไม่ค่อยเหมือนเลย!

อริยะแท้หกด่านเคราะห์มึนงงเล็กน้อย

แต่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่พูดมากกับเขา แต่ออกมือทันที!

“ทัณฑสถานอัสนี!”

โซ่ลำดับพุ่งออกมา แฝงไว้ด้วยพลังแห่งสายฟ้าบ้าคลั่งพันธนาการท้องนภา

โซ่สายฟ้าตัดสลับกันบดบังเมฆบังดวงตะวัน ผนึกพื้นที่นี้ไว้ทั้งหมด กลายเป็นคุกอัสนี!

อริยะแท้หกด่านเคราะห์หน้าเปลี่ยนสีไปอย่างรุนแรง เท้าเหยียบสายรุ้งเทพเร่งความเร็วสูงสุด จะออกจากเขตทัณฑสถานอัสนี

ทว่าก็ไม่ทันการเลย ทัณฑสถานอัสนีพลันปกคลุมลงมา ขังอริยะแท้หกด่านเคราะห์ไว้ หนีไปไม่ได้เลย

เมื่อเห็นดังนั้น ผู้อริยะโดยรอบต่างเพ่งสายตามองเล็กน้อย “เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ซ่อนพลังไว้ลึกมากเลย!”

ไม่อยากเชื่อว่าแม้แต่อริยะแท้หกด่านเคราะห์ยังถูกขังได้!

อริยะแท้หกด่านเคราะห์ถือว่าเป็นการคงอยู่ที่แกร่งมากแล้วในผู้อริยะ มิหนำซ้ำคนนี้ยังห่างจากเจ้าอริยะเพียงหนึ่งก้าว กระทั่งมีความเร็วเหนือกว่าเจ้าอริยะปกติ

และเจ้าอริยะถือว่าเป็นผู้แข็งแกร่งสุดยอดในห้าดินแดนแล้ว มากพอจะเรียกได้ว่าเจ้าปกครองหนึ่งดินแดน แม้แต่ความเร็วที่เทียบเท่ากับเจ้าอริยะยังหนีจากการโจมตีของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้ นี่มากพอจะยืนยันความน่ากลัวของเขา!

ต้องรู้ว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เพิ่งจะเป็นผู้อริยะมาไม่ถึงพันปีเลย!

สำหรับผู้อริยะเก่าแก่แล้ว ศักยภาพของดาวดวงใหม่คนนี้แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ!

ตอนนี้ เสียงเฉยชาของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดังก้องฟ้าดิน

ผู้รุกรานเทพสวรรค์ข้า ต้องสังหาร!

ผู้ดูหมื่นเทพสวรรค์ข้า ต้องสังหาร!

ผู้ทำร้ายบุตรศักดิ์เทพสวรรค์ข้า ต้องสังหาร!

นี่คือทัศนคติที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อยากแสดงให้ทุกคนได้เห็น!

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ไม่มีใครเหยียบย่ำได้!

แค่กๆ~

ที่สำคัญที่สุดคือให้เสิ่นเทียนได้เห็นทัศนคติของเขา!

…..

ทัณฑสถานอัสนี ประกายสายฟ้าสว่างวาบ!

ทุกสายฟ้าเหมือนกับคมดาบตัดกระดูก จู่โจมใส่ตัวอริยะแท้หกด่านเคราะห์อย่างรุนแรง

“สมควรตาย!”

อริยะแท้หกด่านเคราะห์มีสีหน้าร้อนรน ไม่ว่าเขาจะโจมตีอย่างไรก็ไม่อาจออกจากเขตแดนนี้ได้

ในสายฟ้าเต็มไปด้วยกลิ่นอายพลังทำลายล้าง ต่อให้เป็นระดับความแกร่งของกายเนื้อเขาก็ยังต้านไม่ได้ ถูกผ่าบาดเจ็บไปทั้งตัว

กึก!

อัสนีเทพอีกสายผ่าลงมา ในที่สุดอริยะแท้หกด่านเคราะห์ก็ต้านไม่ได้ บาดเจ็บสาหัส

ขณะเดียวกันพลันมีไอชั่วร้ายสีดำลอยขึ้นมาจากในกายเขา มืดและรุนแรงอย่างยิ่ง ดุร้ายราวกับภูตผี!

เมื่อเห็นดังนั้น ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ ก่อนเอ่ยเสียงเฉยชา “ลัทธิวิญญาณร้าย ประมุขวิหารโยวอิ่งแห่งวิหารเทพเร้นรึ”

ไอชั่วร้ายนี้ มีเพียงวิชาที่สาวกลัทธิวิญญาณร้ายฝึกเท่านั้นถึงจะเกิดขึ้น!

และในลัทธิวิญญาณร้าย คนที่พลังบำเพ็ญถึงอริยะแท้หกด่านเคราะห์ ทั้งยังมีความสามารถการอำพรางพลังแกร่งเช่นนี้ ก็มีเพียงประมุขวิหารโยวอิ่งแห่งวิหารเทพเร้น!

ลัทธิวิญญาณร้ายมีวิหารย่อยสามสิบหกแห่ง แต่มีเพียงคนจากวิหารเทพเร้นที่พิเศษที่สุด พวกเขามีวิชาการอำพรางแกร่งที่สุด อำพรางกลิ่นอายพลังของตัวเองได้ทั้งหมด

หากไม่ใช้วิชาลัทธิวิญญาณร้ายก็แทบจะไม่มีใครพบ

หากไม่ใช่เพราะถูกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์บีบเข้าตาจน โยวอิ่งคงไม่เผยฐานะเด็ดขาด!

ผู้อริยะรอบตัวเพ่งสายตามองเล็กน้อย ไม่นึกเลยว่าลัทธิวิญญาณร้ายจะกำเริบเสิบสานเช่นนี้ กล้าลอบจู่โจมอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้

มารร้าย!

ไม่เห็นยอดฝีมือจากแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายอยู่ในสายตาเลย!

แต่วิชาอำพรางสูงส่งเช่นนี้ควบคู่กับศักยภาพอริยะแท้หกด่านเคราะห์…หากไปลอบโจมตีโอรสสวรรค์กระทั่งผู้อาวุโสในแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ก็เกรงว่าคงจะไม่มีใครพบ!

เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้อริยะจากแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายต่างหัวใจบีบรัดตัว จิตสังหารบังเกิดขึ้น!

วันนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องจับเจ้านี่ไว้ ไม่เช่นนั้นจะมีภัยตามหลังมาไม่ขาดสาย!

หมื่นปีมานี้ มีโอรสสวรรค์ตายด้วยน้ำมือของลัทธิวิญญาณร้ายไม่ใช่น้อยๆ!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์และผู้อาวุโสสูงสุดจากแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายพากันออกมือ ปิดล้อมโยวอิ่งไว้ ตั้งใจจะสังหารเขา!

โยวอิ่งเปล่งเสียงตะโกนแหบแห้งราวกับผีร้าย “จางหลงหยวน วันนี้ถือว่าข้าแพ้ให้กับเจ้า แต่ถ้าคิดจะฆ่าข้า พวกเจ้ายังไม่มีความสามารถขนาดนั้น!”

โยวอิ่งอาบโลหิตทั้งตัว ร่างถูกไอมารไม่มีสิ้นสุดปกคลุม

ลูกตาดำเขาเป็นสีแดงฉาน เปล่งประกายแปลกประหลาด

ผู้อาวุโสจากแดนศักดิ์สิทธิ์มากมายต่างด่าทอ “หาญกล้านักเจ้ามารร้าย จะตายอยู่แล้วยังกล้าปากเก่งอีก!”

“ถ้าข้าจะไป มดปลวกอย่างพวกเจ้าจะขวางได้รึ”

โยวอิ่งทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะนำของสิ่งหนึ่งออกมาจากอกเสื้อ!

แสงดำที่ลึกล้ำถึงที่สุดพุ่งขึ้นฟ้า มาพร้อมกับกลิ่นอายพลังชั่วร้าย ทะลวงผ่านทั้งท้องนภา ทำให้ยอดค่ายกลทัณฑสถานอัสนีรอบตัวสั่นไหวขึ้นมาลับๆ

“นี่มัน…เหล็กหมาดทะลวงโลกรึ”

ผู้อริยะบางคนในดินแดนกลางพูดด้วยความตื่นกลัว เห็นได้ชัดว่ากลัวกับสิ่งที่โยวอิ่งนำออกมา!

……

เหล็กหมาดทะลวงโลกน่ากลัวอย่างยิ่ง เป็นอาวุธเตรียมจักรพรรดิ หลอมขึ้นโดยผู้เตรียมจักรพรรดิ ใช้ทำลายพันธนาการและมิติโดยเฉพาะ

เมื่อพันปีก่อน ผู้แข็งแกร่งลัทธิวิญญาณร้ายเคยใช้เหล็กหมาดทะลวงโลกเปิดยอดค่ายกลป้องกันของแดนศักดิ์สิทธิ์บางแห่งในดินแดนกลาง นำกองทัพลัทธิวิญญาณร้ายบุกแดนศักดิ์สิทธิ์!

เพียงแค่คืนเดียว แดนศักดิ์สิทธิ์นั้นถูกล้างด้วยเลือด ไม่มีใครรอดชีวิต กระทั่งยังสร้างความตกใจกับราชวงศ์เซียนต้าฮวง!

คนมากมายต่างหวาดกลัวกัน ราชวงศ์เซียนต้าฮวงส่งผู้แข็งแกร่งสุดยอดเข้าไปปิดล้อมลัทธิวิญญาณร้าย แต่สุดท้ายก็ยังหนีออกไปได้ ปฏิบัติงานไม่สำเร็จ

แต่ได้ยินมาว่าเหล็กหมาดทะลวงโลกถูกทำลาย ใช้ไม่ได้ตามอำเภอใจอีก

ทว่าอาวุธชั่วร้ายนี้ก็เป็นฝันร้ายของแดนศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่

พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าโยวอิ่งจะนำเหล็กหมาดทะลวงโลกมา เห็นได้ชัดว่าเตรียมการมา!

และตอนนี้ โยวอิ่งออกมือแล้ว พลันชูเหล็กหมาดทะลวงโลกในมือขึ้น จู่โจมใส่ยอดค่ายกลอัสนีบนท้องนภา

บึ้ม!

เกิดเสียงระเบิดดังสนั่น!

ยอดค่ายกลอัสนีพลันถูกทำลายเป็นรู ก่อนโยวอิ่งจะหนีออกไปได้อย่างราบรื่น

หลังโยวอิ่งหนีไปแล้วก็ไม่ได้รีบร้อนจากไป

เขามองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างเย็นชา “ข้าจำเจ้าไว้แล้ว ไม่นานกองทัพลัทธิวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ข้าจะมาเยือน! เตรียมรับความหวาดกลัวเถอะ! ฮ่าๆๆ!”

……

โยวอิ่งแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า แม้เขาจะเป็นเพียงอริยะแท้หกด่านเคราะห์ แต่ก็มีความเร็วเทียบเท่ากับเจ้าอริยะเก้าด่านเคราะห์

หากเขาจะไป ก็ไม่มีใครขวางเขาได้

ทว่าตอนนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาดขึ้น

แก๊ง!

เกิดเสียงใสดังกังวาน!

กระบองใหญ่ทองคำลอยขึ้นมาข้างหลังโยวอิ่ง ก่อนจะทุบเข้าที่หลังศีรษะเขา!

ร่างของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพลันลอยขึ้นมา ปากยังพูดพึมพำ “เจ้าเด็กนี่ พูดมากเสียจริง ดูเถอะว่าข้าจะทุบเจ้าให้ตาย!”

แม้จะเป็นอริยะแท้หกด่านเคราะห์ แต่เมื่อโดนผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตโจมตีแล้วยังตาเป็นประกายดาวสีทองออกมา ก่อนจะตกลงมาจากฟ้า

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พุ่งขึ้นฟ้า โซ่อัสนีพุ่งออกไป พลันมัดโยวอิ่งเอาไว้อย่างแน่นหนา

สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเขากระเพื่อม เสียงเฉยชาดังขึ้น “ศิษย์พี่ นี่ท่านจะแย่งคุณความดีข้ารึ”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยิ้มแป้นยิ่งกว่าเดิม “ใครให้จิ้งจอกเฒ่าอย่างเจ้าปิดบังพลังกันล่ะ ความดีนี้เป็นของข้าแล้ว!”

เหอะๆ คุณความดียิ่งใหญ่เช่นนี้ ข้าจะไปขอแลกของกับศิษย์หลานได้อีกแล้ว!

“บัวมรกต เจ้ามันไร้คุณธรรม ไม่อยากเชื่อว่าจะลอบโจมตีข้า!”

โยวอิ่งถูกเคาะศีรษะปูดขึ้นมา ร้องเสียงดังด้วยความไม่ยอม แต่ก็จนปัญญาเพราะโซ่อัสนีมัดเขาไว้แน่นหนา ดิ้นไม่หลุดเลย

ผู้อริยะรอบๆ เห็นภาพนี้ก็พูดไม่ออก

ไม่นึกเลยว่าประมุขวิหารเทพเร้นที่มีความเร็วเทียบเท่าเจ้าอริยะและยังมีเหล็กหมาดทะลวงโลกจะเรือล่มปากอ่าว ถูกผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตทุบศีรษะ

นักพรตชรานี่เตรียมลอบโจมตีอยู่ในเงามืดมาตลอด ชั่วร้ายจริงๆ!

…..

เสิ่นเทียนมองโยวอิ่งถูกมัดเป็นหมูสามชั้นนิ่งๆ ก่อนจะพึมพำอย่างจนปัญญา “เตรียมทางหนีแล้ว ไฉนจะต้องอวดดีอีก”

ไม่รู้หรือว่าตั้งแต่โบราณกาลมา ตัวร้ายในนิยายต่างๆ ตายเพราะพูดมากกันหมดน่ะ

อริยะแท้โง่เขลานี่ ปกติจะต้องไม่อ่านนิยายแน่นอน!

……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด