บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 70 บางอย่างในไตจะออกมาแล้ว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 70 บางอย่างในไตจะออกมาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 70 บางอย่างในไตจะออกมาแล้ว
เสิ่นเอ้าสิ้นหวังมาก เขารู้สึกว่าตนออกจากวังมาไม่ได้ดูปฏิทินโหราศาสตร์

กว่าจะทะลวงช่วงสร้างฐานไม่ใช่ง่ายๆ จึงเดินทางมาเลือกของขวัญที่สวนหมื่นวิญญาณ ปรากฏว่าระหว่างทางเกิดธาตุไฟเข้าแทรกอย่างน่าพิศวง ตื่นขึ้นมารู้สึกวิ้งๆ ที่หลังศีรษะ

นี่ไม่เท่าไร ถึงอย่างไรก็แค่ปวดหัวเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้กระเทือนถึงรากฐานการบำเพ็ญ

ปัญหาคือเขาพักผ่อนคืนหนึ่ง วันที่สองก็ไปสืบข่าวในละแวกสวนหมื่นวิญญาณ ได้รู้ว่าสวนหมื่นวิญญาณแห่งนี้มีปรมาจารย์เซียนค้นวิญญาณนามเสิ่นเอ้าเทียน

ปรมาจารย์เซียนท่านนี้ค้นวิญญาณประเมินแร่แทนผู้มีวาสนา ทั้งยังแม่นยำยิ่ง

ในเวลาหลายวันสั้นๆ ได้ผ่าแร่ออกมาเป็นของดีติดต่อกันหลายสิบก้อน ซ้ำยังมีข่าวลือว่าปรมาจารย์เซียนเปิดได้เมล็ดน้ำเต้าเซียนระดับสูงสุดที่เป็นอันดับสามสิบหกในรายนามไม้วิญญาณ

รู้กันดีว่าเมล็ดวิญญาณระดับสูงสุดเช่นนี้ แม้แต่ในแดนเทวาดาวประกายพรึกที่เสิ่นเอ้าเฝ้าใฝ่หามาตลอด มันยังเป็นสมบัติล้ำค่าสูงสุดที่ศิษย์สายตรงกระทั่งผู้อาวุโสเฝ้าใฝ่ฝัน!

เสิ่นเอ้าย่อมเกิดความสนใจ คิดว่าตนควรไปพบปรมาจารย์เซียนท่านนี้หน่อย

ในมุมมองเสิ่นเอ้า ตนต้องมีวาสนากับปรมาจารย์เซียนท่านนี้แน่

ถึงอย่างไรชื่อสองคนก็ต่างกันแค่คำเดียว

นี่ถ้าบอกไร้วาสนา ก็ไปหลอกคนอื่นเถอะ!

…..

ถ้าให้ท่านเซียนช่วยได้จริงๆ ยังต้องกังวลเรื่องของขวัญคารวะอาจารย์อีกหรือ?

คิดได้ดังนั้น เสิ่นเอ้าก็เริ่มสืบข่าวเรื่องเกี่ยวกับท่านเซียน จนเขารู้จักลัทธิปรมาจารย์เซียนจากปากผู้มีวาสนาของท่านเซียน อีกทั้งเขายังรู้ด้วยว่าผู้อาวุโสใหญ่ลัทธิปรมาจารย์เซียนในตอนนี้คือเถ้าแก่ซ่งร้านวิญญาณสวรรค์

เสิ่นเอ้าจึงแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยความเฝ้ารอคอยอยู่เต็มอก ก่อนจะก้าวเข้าประตูใหญ่ร้านวิญญาณสวรรค์อย่างจริงจัง

ทว่าสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือไม่พบเถ้าแก่ซ่งร้านวิญญาณสวรรค์ แต่เจอกับคุณชายซ่ง เสิ่นเอ้าแสดงฐานะทันที หวังจะให้เถ้าแก่ซ่งออกหน้าพาเขาไปพบท่านเซียน

ทว่าคุณชายซ่งกลับบอกว่าไม่ต้องรีบร้อน ให้ตามเขาเข้าหอในไปดื่มชาสักสองถ้วยก่อน

เมื่อชาเขียวยอดเขานภากาศชั้นดีตกถึงท้อง เสิ่นเอ้าก็ล้มลงอีกครั้ง

ตื่นมาอีกที เขาพบว่าตัวเองถูกมัดอยู่บนไม้กางเขนด้วยความสิ้นหวังอีกครั้ง ที่นี่เป็นห้องลับปิดตาย มองดูน่ากลัวน่าสยดสยองอย่างยิ่ง

อีกทั้งดูแล้ว…เอ่อ เหมือนจะคุ้นตานิดๆ

“ไม่นึกเลยว่าร้านวิญญาณสวรรค์จะเป็นร้านโจร!”

เสิ่นเอ้าพูดด้วยสีหน้าย่ำแย่ “ประมาทแล้ว ประมาทจริงๆ”

เมื่อหลายวันก่อนเพิ่งสัมผัสกับน้องสิบสาม เหตุใดถึงไม่ระวังเช่นนี้

เฮ้อ ตอนแรกน่าจะไล่เสี่ยวหลี่จื่อออกจากตำหนักไปด้วย ข้ายังระวังไม่มากพอจริงๆ!

…….

ฮัดชิ้ว!

ณ กลางตำหนักใจพิสุทธิ์ เสิ่นเทียนจามทีหนึ่ง

ตอนนี้เขาพากุ้ยกงกงกับฉินเกากลับตำหนักแล้ว ในที่สุดเชือกเส้นนั้นที่ตึงเปรี๊ยะอยู่ในใจก็คลายลงสักที

ในพระราชวังแห่งนี้ เขาไม่ต้องกังวลว่าจะโดนพวกแฟนคลับบ้าคลั่งก่อความวุ่นวายอีก ไม่ต้องกังวลว่าผู้บำเพ็ญเลวทรามพวกนั้นจะมาสอดแนมความลับในตัวเขาอีก และยิ่งไม่ต้องกังวลว่าพี่หกจะรู้เรื่องที่เขาปลอมตัวเป็นเสิ่นเอ้า

ขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนที่ได้ชะล้างจากดำเป็นขาวและกลายเป็นเขียวก็ไม่ต้องดวงซวยอีก ในที่สุดตอนนี้เขาก็มีความมั่นใจสักที จึงปิดด่านฝึกบำเพ็ญสักช่วงเวลาหนึ่งอย่างสงบ

ในโลกบำเพ็ญที่มีอันตรายทุกแห่งหนนี้ ศักยภาพและดวงชะตาสำคัญเท่ากัน

เสิ่นเทียนจึงตัดสินใจว่าก่อนที่กำลังรบตนจะถึงระดับที่มั่นคง เขาจะต้องอดทนกับความเหงาอยู่ในตำหนักใจพิสุทธิ์ไปก่อน

ถึงอย่างไรแค่ดวงชะตาวงสีขาวอมเขียวก็ยังไม่ถือว่าแกร่งมากนัก อย่างน้อยต้องบรรลุถึงช่วงแก่นพลังทอง ดวงชะตาเป็นสีเขียวเข้มก่อนถึงจะถือว่ามั่นคง

ข้ายังเขียวไม่พอ ยังแกร่งไม่พอ จะต้องพยายามต่อไป!

……..

“ใช่แล้ว สหายคนนั้นถ่ายทอดวิชาสามแขนงให้ข้าไม่ใช่หรือ!”

เสิ่นเทียนพลันนึกถึงสามวิชาที่จางอวิ๋นซีถ่ายทอดให้ ก่อนจะเริ่มหวนนึกถึงเคล็ดวิชา

เพราะจี้หยกมังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์ได้ประทับมรดกลงในจิตวิญญาณโดยตรง ดังนั้นแค่หวนนึกคิดครู่เดียว สามวิชาก็ลอยขึ้นมาในความคิดเสิ่นเทียน

ในสามวิชานี้ เปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์คือบทต้องห้ามของคัมภีร์จักรพรรดิอัสนี

ด้วยพลังของเสิ่นเทียนในตอนนี้ ไม่มีคุณสมบัติแตะต้องเคล็ดวิชาฝึกฝนในนั้นเลย

ทว่ามรดกวิชาอีกสองแขนงเริ่มฝึกฝนได้ตั้งแต่ไม่มีพื้นฐานเลย สองวิชานี้ หนึ่งในนั้นมีชื่อว่าเคล็ดวิชาห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม เป็นวิชาฝึกปราณ

วิชานี้คือคัมภีร์เซียนเลิศล้ำที่ต้องเป็นศิษย์สายตรงแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ฝึกฝน ให้ความสำคัญในการใช้อวัยวะภายในร่างมนุษย์สอดรับกับห้าธาตุ รวมเป็นอัสนีเทพที่แข็งแกร่งสิบชนิด

อัสสีเทพสิบชนิดนี้แบ่งเป็น

หนึ่ง อัสนีเทพมังกรเขียวธาตุไม้ สอง อัสนีเทพหกประสานธาตุไม้

สาม อัสนีเทพหงส์แดงธาตุไฟ สี่ อัสนีเทพงูเหินธาตุไฟ

ห้า อัสนีเทพกิเลนธาตุดิน หก อัสนีเทพอักษรสวรรค์ธาตุดิน

เจ็ด อัสนีเทพพยัคฆ์ขาวธาตุทอง แปด อัสนีเทพโกวเฉินธาตุทอง

เก้า อัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำ สิบ อัสนีเทพมานะสร้างธาตุน้ำ

วิชาสายฟ้าสิบแขนง ทุกชนิดล้วนมีพลานุภาพที่แข็งแกร่ง

ผู้บำเพ็ญปกติถ้าได้ฝึกหนึ่งแขนง ก็มากพอจะไร้อุปสรรคขวางกั้นในแดนบูรพาแล้ว

หากชำนาญวิชาสายฟ้าหลายชนิดพร้อมกัน ถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะผงาดขึ้นในรุ่นเดียวกัน

……

ในวิชาสายฟ้าสิบชนิด ลำดับหนึ่ง สาม ห้า เจ็ด และเก้าเป็นหยาง หากฝึกอัสนีหยางห้าชนิดสำเร็จครบ ก็จะลองสร้างปัญจธาตุประสานกันออกมาเป็นอัสนีเทพปัญจธาตุหยางที่มีความเป็นหยางบริสุทธิ์ได้

ส่วนลำดับสอง สี่ หก แปด และสิบมีความเป็นหยิน ถ้าฝึกอัสนีหยินห้าแขนงครบสมบูรณ์ ก็จะลองรวมเป็นอัสนีเทพปัญจธาตุหยินที่มีความเป็นหยินบริสุทธิ์ได้

หากฝึกฝนอัสนีเทพหยินหยางทุกแขนงครบ ทั้งยังฝึกอัสนีเทพปัญจธาตุหยินและอัสนีเทพปัญจธาตุหยางสำเร็จ นั่นจะสามารถประสานหยินหยางออกมาเป็นมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางปัญจธาตุในตำนานได้!

ทว่าอัสนีเทพปัญจธาตุหยางและอัสนีเทพปัญจธาตุหยินเป็นส่วนของหยินหยาง ในด้านลักษณะพิเศษมีความขัดแย้งกัน

ปกติหลังฝึกอัสนีเทพปัญจธาตุหยางสำเร็จแล้วฝึกอัสนีเทพปัญจธาตุหยินต่อจะถูกผลย้อนกลับ

ถ้าฝึกอัสนีเทพปัญจธาตุหยินแล้วฝึกฝนอัสนีเทพปัญจธาตุหยางต่อก็จะมีอุปสรรคขัดขวางในความก้าวหน้า

ด้วยเหตุนี้การจะฝึกมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางปัญจธาตุถึงยากยิ่ง

เล่าลือว่าในเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์บทต้องห้ามสุดท้ายในคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีมีบันทึกวิชาลับอยู่ หากสำแดงวิชาลับแขนงนี้ก็จะประสานอัสนีเทพหยินหยางที่เดิมทีเป็นปฏิปักษ์กันเป็นหนึ่งเดียวได้

นี่ก็คือสาเหตุของการเกิดพลังอัสนีเทพกำเนิดฟ้าเมื่อหมื่นปีก่อน!

……..

‘จิ๊ๆ ไม่นึกเลยว่าเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมจะฝึกยากขนาดนี้’

เมื่อได้รับมรดกเคล็ดวิชาห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมครบแล้ว เสิ่นเทียนอดทำเสียงจิ๊ๆ ในใจมิได้

ต้องฝึกอัสนีเทพปัญจธาตุหยินหยางที่ลึกลับมหัศจรรย์เข้าใจยากสิบแขนงให้สำเร็จก่อน จากนั้นผสานรวมทีละก้าว

นี่มันจะยากเกินไปแล้วกระมัง!

เสิ่นเทียนเบะปาก รู้สึกไม่สนุกเลย

ทันใดนั้นเขานึกอะไรขึ้นมาได้จึงหยิบกระจกมาจากอกเสื้อ

มองใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างยิ่งในกระจก รวมถึงสัญลักษณ์สายฟ้าสีทองบนหน้าผาก

เสิ่นเทียนหัวเราะแล้ว

เหมือนว่าข้าจะมีมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางปัญจธาตุอยู่แล้วนี่นา!

“เหอะๆ ในเมื่ออย่างนั้นก็ลองฝึกหน่อยแล้วกัน!”

พูดแล้วก็ทำเลย เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเรียกกุ้ยกงกงกับฉินเกาให้อารักขาตน

จากนั้นนั่งขัดสมาธิบนเบาะนั่งทรงกลม เริ่มฝึกฝนเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม

เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมจะฝึกฝนวิชาสายฟ้าแขนงใดก่อนขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของตัวเอง

ปกติ พลังหยางในกายบุรุษจะเด่นชัด ค่อนข้างเหมาะกับการฝึกอัสนีปัญจธาตุหยางมากกว่า

คุณลักษณะร่างกายสตรีเอียงไปทางหยิน เหมาะจะฝึกอัสนีปัญจธาตุหยินมากกว่า…อย่าเอาจางอวิ๋นซีมาเป็นตัวอย่างเลย

อีกทั้งด้วยความที่ทิศทางคุณลักษณะพิเศษปัญจธาตุต่างกัน ทุกคนจึงมีความเหมาะสมกับวิชาสายฟ้าต่างกัน

บางคนปัญจธาตุไปทางธาตุทอง เช่นนั้นการฝึกอัสนีเทพลำดับเจ็ดและแปดธาตุทองจึงแกร่งที่สุด

บางคนธาตุน้ำ ก็ฝึกอัสนีเทพเต่าดำกับมานะสร้างได้อย่างมีพรสวรรค์พิเศษ

…….

เสิ่นเทียนทำใจสบายก่อนจะปูศิลาวิญญาณกองใหญ่ไว้ใต้ก้น จากนั้นเริ่มสูบกินตามวิชาเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมเงียบๆ

ไม่นานเขาก็รู้สึกถึงพลังวิญญาณบริสุทธิ์ไหลผ่านรูขุมขนรอบตัวเข้าไปในร่างกาย จากนั้นรู้สึกชาตรงระหว่างคิ้ว ตรงท้องน้อยพองบวมขึ้นมา

ราวกับว่ามีบางอย่างในไตกำลังจะพ่นออกมา

เสิ่นเทียนอึ้งไปในทันใด

เร็วขนาดนี้เลย?!

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 70 บางอย่างในไตจะออกมาแล้ว

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 70 บางอย่างในไตจะออกมาแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 70 บางอย่างในไตจะออกมาแล้ว
เสิ่นเอ้าสิ้นหวังมาก เขารู้สึกว่าตนออกจากวังมาไม่ได้ดูปฏิทินโหราศาสตร์

กว่าจะทะลวงช่วงสร้างฐานไม่ใช่ง่ายๆ จึงเดินทางมาเลือกของขวัญที่สวนหมื่นวิญญาณ ปรากฏว่าระหว่างทางเกิดธาตุไฟเข้าแทรกอย่างน่าพิศวง ตื่นขึ้นมารู้สึกวิ้งๆ ที่หลังศีรษะ

นี่ไม่เท่าไร ถึงอย่างไรก็แค่ปวดหัวเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้กระเทือนถึงรากฐานการบำเพ็ญ

ปัญหาคือเขาพักผ่อนคืนหนึ่ง วันที่สองก็ไปสืบข่าวในละแวกสวนหมื่นวิญญาณ ได้รู้ว่าสวนหมื่นวิญญาณแห่งนี้มีปรมาจารย์เซียนค้นวิญญาณนามเสิ่นเอ้าเทียน

ปรมาจารย์เซียนท่านนี้ค้นวิญญาณประเมินแร่แทนผู้มีวาสนา ทั้งยังแม่นยำยิ่ง

ในเวลาหลายวันสั้นๆ ได้ผ่าแร่ออกมาเป็นของดีติดต่อกันหลายสิบก้อน ซ้ำยังมีข่าวลือว่าปรมาจารย์เซียนเปิดได้เมล็ดน้ำเต้าเซียนระดับสูงสุดที่เป็นอันดับสามสิบหกในรายนามไม้วิญญาณ

รู้กันดีว่าเมล็ดวิญญาณระดับสูงสุดเช่นนี้ แม้แต่ในแดนเทวาดาวประกายพรึกที่เสิ่นเอ้าเฝ้าใฝ่หามาตลอด มันยังเป็นสมบัติล้ำค่าสูงสุดที่ศิษย์สายตรงกระทั่งผู้อาวุโสเฝ้าใฝ่ฝัน!

เสิ่นเอ้าย่อมเกิดความสนใจ คิดว่าตนควรไปพบปรมาจารย์เซียนท่านนี้หน่อย

ในมุมมองเสิ่นเอ้า ตนต้องมีวาสนากับปรมาจารย์เซียนท่านนี้แน่

ถึงอย่างไรชื่อสองคนก็ต่างกันแค่คำเดียว

นี่ถ้าบอกไร้วาสนา ก็ไปหลอกคนอื่นเถอะ!

…..

ถ้าให้ท่านเซียนช่วยได้จริงๆ ยังต้องกังวลเรื่องของขวัญคารวะอาจารย์อีกหรือ?

คิดได้ดังนั้น เสิ่นเอ้าก็เริ่มสืบข่าวเรื่องเกี่ยวกับท่านเซียน จนเขารู้จักลัทธิปรมาจารย์เซียนจากปากผู้มีวาสนาของท่านเซียน อีกทั้งเขายังรู้ด้วยว่าผู้อาวุโสใหญ่ลัทธิปรมาจารย์เซียนในตอนนี้คือเถ้าแก่ซ่งร้านวิญญาณสวรรค์

เสิ่นเอ้าจึงแต่งองค์ทรงเครื่องด้วยความเฝ้ารอคอยอยู่เต็มอก ก่อนจะก้าวเข้าประตูใหญ่ร้านวิญญาณสวรรค์อย่างจริงจัง

ทว่าสิ่งที่เขาคาดไม่ถึงคือไม่พบเถ้าแก่ซ่งร้านวิญญาณสวรรค์ แต่เจอกับคุณชายซ่ง เสิ่นเอ้าแสดงฐานะทันที หวังจะให้เถ้าแก่ซ่งออกหน้าพาเขาไปพบท่านเซียน

ทว่าคุณชายซ่งกลับบอกว่าไม่ต้องรีบร้อน ให้ตามเขาเข้าหอในไปดื่มชาสักสองถ้วยก่อน

เมื่อชาเขียวยอดเขานภากาศชั้นดีตกถึงท้อง เสิ่นเอ้าก็ล้มลงอีกครั้ง

ตื่นมาอีกที เขาพบว่าตัวเองถูกมัดอยู่บนไม้กางเขนด้วยความสิ้นหวังอีกครั้ง ที่นี่เป็นห้องลับปิดตาย มองดูน่ากลัวน่าสยดสยองอย่างยิ่ง

อีกทั้งดูแล้ว…เอ่อ เหมือนจะคุ้นตานิดๆ

“ไม่นึกเลยว่าร้านวิญญาณสวรรค์จะเป็นร้านโจร!”

เสิ่นเอ้าพูดด้วยสีหน้าย่ำแย่ “ประมาทแล้ว ประมาทจริงๆ”

เมื่อหลายวันก่อนเพิ่งสัมผัสกับน้องสิบสาม เหตุใดถึงไม่ระวังเช่นนี้

เฮ้อ ตอนแรกน่าจะไล่เสี่ยวหลี่จื่อออกจากตำหนักไปด้วย ข้ายังระวังไม่มากพอจริงๆ!

…….

ฮัดชิ้ว!

ณ กลางตำหนักใจพิสุทธิ์ เสิ่นเทียนจามทีหนึ่ง

ตอนนี้เขาพากุ้ยกงกงกับฉินเกากลับตำหนักแล้ว ในที่สุดเชือกเส้นนั้นที่ตึงเปรี๊ยะอยู่ในใจก็คลายลงสักที

ในพระราชวังแห่งนี้ เขาไม่ต้องกังวลว่าจะโดนพวกแฟนคลับบ้าคลั่งก่อความวุ่นวายอีก ไม่ต้องกังวลว่าผู้บำเพ็ญเลวทรามพวกนั้นจะมาสอดแนมความลับในตัวเขาอีก และยิ่งไม่ต้องกังวลว่าพี่หกจะรู้เรื่องที่เขาปลอมตัวเป็นเสิ่นเอ้า

ขณะเดียวกัน เสิ่นเทียนที่ได้ชะล้างจากดำเป็นขาวและกลายเป็นเขียวก็ไม่ต้องดวงซวยอีก ในที่สุดตอนนี้เขาก็มีความมั่นใจสักที จึงปิดด่านฝึกบำเพ็ญสักช่วงเวลาหนึ่งอย่างสงบ

ในโลกบำเพ็ญที่มีอันตรายทุกแห่งหนนี้ ศักยภาพและดวงชะตาสำคัญเท่ากัน

เสิ่นเทียนจึงตัดสินใจว่าก่อนที่กำลังรบตนจะถึงระดับที่มั่นคง เขาจะต้องอดทนกับความเหงาอยู่ในตำหนักใจพิสุทธิ์ไปก่อน

ถึงอย่างไรแค่ดวงชะตาวงสีขาวอมเขียวก็ยังไม่ถือว่าแกร่งมากนัก อย่างน้อยต้องบรรลุถึงช่วงแก่นพลังทอง ดวงชะตาเป็นสีเขียวเข้มก่อนถึงจะถือว่ามั่นคง

ข้ายังเขียวไม่พอ ยังแกร่งไม่พอ จะต้องพยายามต่อไป!

……..

“ใช่แล้ว สหายคนนั้นถ่ายทอดวิชาสามแขนงให้ข้าไม่ใช่หรือ!”

เสิ่นเทียนพลันนึกถึงสามวิชาที่จางอวิ๋นซีถ่ายทอดให้ ก่อนจะเริ่มหวนนึกถึงเคล็ดวิชา

เพราะจี้หยกมังกรพยัคฆ์เทพสวรรค์ได้ประทับมรดกลงในจิตวิญญาณโดยตรง ดังนั้นแค่หวนนึกคิดครู่เดียว สามวิชาก็ลอยขึ้นมาในความคิดเสิ่นเทียน

ในสามวิชานี้ เปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์คือบทต้องห้ามของคัมภีร์จักรพรรดิอัสนี

ด้วยพลังของเสิ่นเทียนในตอนนี้ ไม่มีคุณสมบัติแตะต้องเคล็ดวิชาฝึกฝนในนั้นเลย

ทว่ามรดกวิชาอีกสองแขนงเริ่มฝึกฝนได้ตั้งแต่ไม่มีพื้นฐานเลย สองวิชานี้ หนึ่งในนั้นมีชื่อว่าเคล็ดวิชาห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม เป็นวิชาฝึกปราณ

วิชานี้คือคัมภีร์เซียนเลิศล้ำที่ต้องเป็นศิษย์สายตรงแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ฝึกฝน ให้ความสำคัญในการใช้อวัยวะภายในร่างมนุษย์สอดรับกับห้าธาตุ รวมเป็นอัสนีเทพที่แข็งแกร่งสิบชนิด

อัสสีเทพสิบชนิดนี้แบ่งเป็น

หนึ่ง อัสนีเทพมังกรเขียวธาตุไม้ สอง อัสนีเทพหกประสานธาตุไม้

สาม อัสนีเทพหงส์แดงธาตุไฟ สี่ อัสนีเทพงูเหินธาตุไฟ

ห้า อัสนีเทพกิเลนธาตุดิน หก อัสนีเทพอักษรสวรรค์ธาตุดิน

เจ็ด อัสนีเทพพยัคฆ์ขาวธาตุทอง แปด อัสนีเทพโกวเฉินธาตุทอง

เก้า อัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำ สิบ อัสนีเทพมานะสร้างธาตุน้ำ

วิชาสายฟ้าสิบแขนง ทุกชนิดล้วนมีพลานุภาพที่แข็งแกร่ง

ผู้บำเพ็ญปกติถ้าได้ฝึกหนึ่งแขนง ก็มากพอจะไร้อุปสรรคขวางกั้นในแดนบูรพาแล้ว

หากชำนาญวิชาสายฟ้าหลายชนิดพร้อมกัน ถึงขนาดเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะผงาดขึ้นในรุ่นเดียวกัน

……

ในวิชาสายฟ้าสิบชนิด ลำดับหนึ่ง สาม ห้า เจ็ด และเก้าเป็นหยาง หากฝึกอัสนีหยางห้าชนิดสำเร็จครบ ก็จะลองสร้างปัญจธาตุประสานกันออกมาเป็นอัสนีเทพปัญจธาตุหยางที่มีความเป็นหยางบริสุทธิ์ได้

ส่วนลำดับสอง สี่ หก แปด และสิบมีความเป็นหยิน ถ้าฝึกอัสนีหยินห้าแขนงครบสมบูรณ์ ก็จะลองรวมเป็นอัสนีเทพปัญจธาตุหยินที่มีความเป็นหยินบริสุทธิ์ได้

หากฝึกฝนอัสนีเทพหยินหยางทุกแขนงครบ ทั้งยังฝึกอัสนีเทพปัญจธาตุหยินและอัสนีเทพปัญจธาตุหยางสำเร็จ นั่นจะสามารถประสานหยินหยางออกมาเป็นมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางปัญจธาตุในตำนานได้!

ทว่าอัสนีเทพปัญจธาตุหยางและอัสนีเทพปัญจธาตุหยินเป็นส่วนของหยินหยาง ในด้านลักษณะพิเศษมีความขัดแย้งกัน

ปกติหลังฝึกอัสนีเทพปัญจธาตุหยางสำเร็จแล้วฝึกอัสนีเทพปัญจธาตุหยินต่อจะถูกผลย้อนกลับ

ถ้าฝึกอัสนีเทพปัญจธาตุหยินแล้วฝึกฝนอัสนีเทพปัญจธาตุหยางต่อก็จะมีอุปสรรคขัดขวางในความก้าวหน้า

ด้วยเหตุนี้การจะฝึกมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางปัญจธาตุถึงยากยิ่ง

เล่าลือว่าในเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์บทต้องห้ามสุดท้ายในคัมภีร์จักรพรรดิอัสนีมีบันทึกวิชาลับอยู่ หากสำแดงวิชาลับแขนงนี้ก็จะประสานอัสนีเทพหยินหยางที่เดิมทีเป็นปฏิปักษ์กันเป็นหนึ่งเดียวได้

นี่ก็คือสาเหตุของการเกิดพลังอัสนีเทพกำเนิดฟ้าเมื่อหมื่นปีก่อน!

……..

‘จิ๊ๆ ไม่นึกเลยว่าเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมจะฝึกยากขนาดนี้’

เมื่อได้รับมรดกเคล็ดวิชาห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมครบแล้ว เสิ่นเทียนอดทำเสียงจิ๊ๆ ในใจมิได้

ต้องฝึกอัสนีเทพปัญจธาตุหยินหยางที่ลึกลับมหัศจรรย์เข้าใจยากสิบแขนงให้สำเร็จก่อน จากนั้นผสานรวมทีละก้าว

นี่มันจะยากเกินไปแล้วกระมัง!

เสิ่นเทียนเบะปาก รู้สึกไม่สนุกเลย

ทันใดนั้นเขานึกอะไรขึ้นมาได้จึงหยิบกระจกมาจากอกเสื้อ

มองใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างยิ่งในกระจก รวมถึงสัญลักษณ์สายฟ้าสีทองบนหน้าผาก

เสิ่นเทียนหัวเราะแล้ว

เหมือนว่าข้าจะมีมหาอัสนีเทพกำเนิดฟ้าหยินหยางปัญจธาตุอยู่แล้วนี่นา!

“เหอะๆ ในเมื่ออย่างนั้นก็ลองฝึกหน่อยแล้วกัน!”

พูดแล้วก็ทำเลย เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะเรียกกุ้ยกงกงกับฉินเกาให้อารักขาตน

จากนั้นนั่งขัดสมาธิบนเบาะนั่งทรงกลม เริ่มฝึกฝนเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม

เคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมจะฝึกฝนวิชาสายฟ้าแขนงใดก่อนขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของตัวเอง

ปกติ พลังหยางในกายบุรุษจะเด่นชัด ค่อนข้างเหมาะกับการฝึกอัสนีปัญจธาตุหยางมากกว่า

คุณลักษณะร่างกายสตรีเอียงไปทางหยิน เหมาะจะฝึกอัสนีปัญจธาตุหยินมากกว่า…อย่าเอาจางอวิ๋นซีมาเป็นตัวอย่างเลย

อีกทั้งด้วยความที่ทิศทางคุณลักษณะพิเศษปัญจธาตุต่างกัน ทุกคนจึงมีความเหมาะสมกับวิชาสายฟ้าต่างกัน

บางคนปัญจธาตุไปทางธาตุทอง เช่นนั้นการฝึกอัสนีเทพลำดับเจ็ดและแปดธาตุทองจึงแกร่งที่สุด

บางคนธาตุน้ำ ก็ฝึกอัสนีเทพเต่าดำกับมานะสร้างได้อย่างมีพรสวรรค์พิเศษ

…….

เสิ่นเทียนทำใจสบายก่อนจะปูศิลาวิญญาณกองใหญ่ไว้ใต้ก้น จากนั้นเริ่มสูบกินตามวิชาเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมเงียบๆ

ไม่นานเขาก็รู้สึกถึงพลังวิญญาณบริสุทธิ์ไหลผ่านรูขุมขนรอบตัวเข้าไปในร่างกาย จากนั้นรู้สึกชาตรงระหว่างคิ้ว ตรงท้องน้อยพองบวมขึ้นมา

ราวกับว่ามีบางอย่างในไตกำลังจะพ่นออกมา

เสิ่นเทียนอึ้งไปในทันใด

เร็วขนาดนี้เลย?!

………………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+