บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 426 บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ห่วงใยโลกหล้า

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 426 บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ห่วงใยโลกหล้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 426 บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ห่วงใยโลกหล้า

บนเวทีประลองสุญญะ การต่อสู้ของสิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์กับสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์กำลังจะปิดฉากลง

สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ยืนกลางฟ้าด้วยความโอหัง อาบแสงเทพสายฟ้า องอาจไร้พ่ายเหมือนเทพและมาร!

พวกเขายึดครองหนึ่งทิศ เหนี่ยวนำสายฟ้าฟ้าดินเปลี่ยนเวทีประลองเป็นทะเลสายฟ้า เหมือนจะทำลายล้างฟ้าดิน

อัสนีเทพกำเนิดฟ้าถาโถมลงมา ประกายสายฟ้าไม่มีสิ้นสุดปกคลุมท้องนภา ฟ้าดินมืดครึ้ม ตะวันจันทราถอดสี

อัสนีคลั่งพุ่งออกมา แสงเทพสว่างไปรอบๆ!

ม่านแสงอาวุธอริยะที่สิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์ร่วมมือกันสำแดงถูกจู่โจมสั่นไหวอย่างรุนแรง กระเพื่อมไม่หยุด!

บึ้ม เปรี๊ยะๆๆๆๆ!

ประกายสายฟ้าไหลหลากเหมือนเทพสายฟ้าคำราม

สุดท้ายผู้สูงศักดิ์สวรรค์อ่อนแรงลง สิ้นกำลังวังชาไปทั้งหมด

กึก!

ม่านแสงอาวุธอริยะถูกทำลาย ประกายสายฟ้ามากมายไหลเข้าไป สายฟ้าดังเปรี๊ยะๆ งูสายฟ้าบินว่อน

พริบตาเดียว สิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์ถูกค่ายกลอัสนีฟ้าเทพสวรรค์ปกคลุม จนเมื่อประกายสายฟ้าหายไป สิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์นอนอยู่กับพื้น เส้นผมตั้งชี้

ใบหน้าพวกเขาดำเกรียม ปากพ่นควันขาว ร่างชักกระตุกไม่หยุด!

ศึกนี้ สิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์พ่ายแพ้ย่อยยับ!

สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ลงพื้นมาช้าๆ ชำเลืองตามองโอรสสวรรค์ดินแดนกลาง

“ขอถามหน่อย ยังมีใครอยากขึ้นเวทีมาให้การสั่งสอนอีก ยังมีใครอีก!”

……

เมื่อเห็นสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ดั่งเทพมาร โอรสสวรรค์ดินแดนกลางทุกคนต่างมีแววตาซับซ้อน

ศิษย์เทพสวรรค์รุ่นนี้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง!

ไม่ใช่แค่สี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ที่สู้ข้ามขั้นมาสี่รุมสิบ แต่ยังมีบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่แขวนอริยะแท้หกด่านเคราะห์ทุบตีได้อีก

ดวงชะตาฟ้าดินไหลไปรวมเทพสวรรค์กันหมด แบบนี้แดนศักดิ์สิทธิ์อื่นก็ได้เล่นแต่ขนสิ!

จะว่าไปนี่ก็เป็นการประลองฝีมือกัน เห็นๆ อยู่ว่าเทพสวรรค์เป็นนักแสดงหลัก!

แต่พวกเจ้าแย่งบทเด่นเช่นนี้ คิดว่าสนุกนักหรือ

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา ขวัญกำลังพลันลดลงต่ำสุด

ขณะเดียวกันพวกเขาก็ถอนหายใจอยู่ข้างใน ‘โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาผงาดขึ้นแล้ว ไม่อาจขวางทางได้!’

หลายพันปีมานี้ โอรสสวรรค์รุ่นเดียวกันประมือกัน จะเป็นโอรสสวรรค์ดินแดนกลางที่กำราบโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาตลอด

ทว่าโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพารุ่นนี้กลับเป็นปีศาจ แม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์อาวุโสยังแขวนทุบตีได้ นี่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย

…..

องค์ชายราชันเหนือสือหลิงมองสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ที่มีพลังคุกคามด้วยแววตาตื่นตะลึง

แม้ศักยภาพของสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ตอนนี้ หากสู้ตัวต่อตัวยังห่างชั้นกับเขามาก

แต่เขารู้ดีว่าสี่คนนี้มีพรสวรรค์สูงยิ่ง หากเขาลดพลังบำเพ็ญมาดวงจิตดรุณ เจอกับใครในสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ ก็เกรงว่าอาจจะไม่ชนะแน่นอน

หากโอรสสวรรค์สี่คนอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ทุกคนจะเป็นตัวเต็งบุตรศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน กระทั่งบางแดนศักดิ์สิทธิ์ หลายพันปีมานี้ยังไม่เจอผู้สืบทอดบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้มาก่อน

ทว่าเจ้าพวกนี้กลับไปกองรวมกันในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ อีกทั้งยังสามัคคีกันเช่นนี้ น่าแปลกใจจริงๆ

ต้องเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ที่มีพรสวรรค์เลิศล้ำเพียงใดถึงจะกำราบพวกเขาได้

น่าเหลือเชื่อ!

สือหลิงสูดลมหายใจเข้าลึกทีหนึ่ง “แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีอัจฉริยะถือกำเนิด วันนี้แซ่สือได้เปิดโลกกว้างเลย!”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางในที่นี้ล้วนเป็นผู้โดดเด่นในรุ่นเดียวกัน แต่กลับถูกคนข้ามพลังบำเพ็ญมาเอาชนะ

ความแกร่งของโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพารุ่นนี้ไม่เป็นที่ต้องสงสัยเลย

“สหายเสิ่น พวกข้าขอตัวก่อน!”

สือหลิงเตรียมจะกลับ

ก่อนหน้านี้พวกเขาขัดแย้งกับโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาก็เพื่อแย่งหอหงส์ทอง

ตอนนี้โอรสสวรรค์ดินแดนกลางพ่ายแพ้ย่อยยับ พวกเขาจึงไม่มีหน้าอยู่ที่นี่อีก

ทว่าพวกเขายังไม่ทันออกจากหอวิหคทองแดงกลับถูกเสิ่นเทียนขวางไว้

สือหลิงใจบีบรัดตัวนิดๆ “สหายเสิ่น มีอะไรจะชี้แนะรึ”

ได้ยินว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีผู้อาวุโสบัวมรกต หลังจากวิวาทแล้วจะต้องเรียกร้องเงิน ขู่รีดไถและปล้น

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นหนึ่งเยวี่ยอวิ๋นเต๋อเอาอย่างนิสัยนี้มาเต็มๆ

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นสิบเสิ่นเทียนคงไม่ติดนิสัยเช่นนี้มาหรอกกระมัง

เมื่อนึกได้ดังนั้น สือหลิงก็มองเสิ่นเทียนอย่างระแวง

แต่ไม่นานเขาก็ซึมอีกครั้ง เพราะเขาพบเรื่องน่าจำใจคือตนเหมือนจะต่อต้านไม่ได้เลย อีกทั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์คนนี้ เล่าลือว่าเคยสังหารอริยะแท้หกด่านเคราะห์มาแล้ว

แค่พวกศิษย์ตัวเล็กๆ พวกนั้นร่วมมือกันยังทำให้พวกสือหลิงลำบาก หากเสิ่นเทียนอยากได้จริงๆ สือหลิงจะไม่ให้ได้หรือ

เฮ้อ ดูท่าคงได้แต่ยอมแล้ว

……

เสิ่นเทียนไม่รู้ว่าในใจสือหลิงได้เพิ่มบทน่าเคลิบเคลิ้มใจให้กับตนส่วนหนึ่ง

เป้าประสงค์ที่เขาเรียกโอรสสวรรค์ดินแดนกลางทุกคนไว้ก็ง่ายมาก นั่นคือผูกวาสนาดี

แม้โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพากับดินแดนกลางจะไม่ถูกกันเล็กๆ น้อยๆ แต่เสิ่นเทียนมองว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

ด้วยศักยภาพของเสิ่นเทียน ดูเจ้าพวกนี้ต่อสู้กันก็เหมือนลูกชายโง่บ้านตนไปวิวาทกับลูกชายโง่บ้านข้างๆ

ขอแค่ลูกชายโง่บ้านตนไม่แพ้ เจ้าจะโกรธอะไร

มิหนำซ้ำคนหนุ่มเลือดร้อน ใครบ้างตอนหนุ่มไม่เคยชิงอันดับในรายนามเคโอ!

แม้โอรสสวรรค์ดินแดนกลางพวกนี้จะรูจมูกชี้ฟ้า ก็ยังยอมแพ้อย่างตรงไปตรงมา ล้วนเป็นบุรุษที่อุจจาระออกไปนอกห้องน้ำ

การผูกมิตรกับคนพวกนี้ ขอแค่ได้รับการยอมรับจากพวกเขา ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกแทงข้างหลัง

แค่กๆ!

และที่สำคัญกว่านั้น ดวงชะตาเจ้าพวกนี้ไม่อ่อนแอเลย!

คนใหญ่คนโตท่านนั้นเคยบอกว่าต้องรวมพลังทุกอย่างที่สามัคคีกันได้!

แน่นอน ก็ต้องเก็บเกี่ยวกุยช่ายทั้งหมดที่เก็บเกี่ยวได้!

เมื่อคิดได้ดังนั้นเสิ่นเทียนจึงพูดด้วยรอยยิ้ม “สหายสือ พวกศิษย์พี่แดนศักดิ์สิทธิ์ดินแดนกลางทุกท่าน วันนี้ทุกคนไม่สู้กันย่อมไม่รู้จักกัน สู้มาร่วมงานเลี้ยงด้วยกัน เป็นสหายกันไว้ดีหรือไม่”

สององค์ชายทำหน้าอึ้งงัน มึนงงกับทัศนคติของเสิ่นเทียน

พี่น้องเจ้าเพิ่งทุบตีข้าเสร็จ เจ้ากลับเชิญข้าทานอาหารด้วยรึ

ฟาดด้วยกระบองแล้วก็ให้พุทราหวานรึ

…..

เสิ่นเทียนนำของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานขวดหนึ่งมาจากแหวนเวหา แววตาจริงใจ “แซ่เสิ่นยังมีของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานอยู่ ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บให้ทุกคนได้”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางบาดเจ็บกันไม่น้อยเลย โดยเฉพาะสิบผู้สูงศักดิ์สวรรค์ เกือบถูกสายฟ้าของสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ผ่าพิการ

ตอนนี้ไม่เก็บเกี่ยวกุยช่าย จะให้รอปีใหม่รึ

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางมองขวดหยกขาวที่บรรจุของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานด้วยอาการมึนงงยิ่งกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้ยังสู้กันดุเดือด จู่ๆ เข้าก็เข้ามา จะให้พวกเรารับไว้อย่างไร

โดยเฉพาะฟ้าทมิฬรุ่นเจ็ดกับเก้าตะวันรุ่นเจ็ด ก่อนหน้านี้พวกเขาอิจฉาที่โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาได้เสพโอสถมาก ไม่นึกเลยว่าของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานจะมีส่วนของพวกเขาสองคนด้วย

สองคนยกมือขึ้นสั่นไหวเบาๆ ไม่รู้จะรับหรือไม่รับดี!

…..

โอรสสวรรค์บางคนตั้งสติกลับมาได้ก็ทำหน้าละอายใจ “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใจกว้างเช่นนี้ พวกข้ารับไว้ไม่ได้!”

“ก่อนหน้านี้พวกเราล่วงเกินทุกท่านไป หวังว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์จะไม่ถือสา”

ตอนนี้เองโอรสสวรรค์ดินแดนกลางทุกคนมีความรู้สึกซับซ้อนมาก

พวกเขาไม่คิดเลยว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะใจกว้างเช่นนี้ ไม่ใช่แค่ไม่แค้นที่พวกเขาทำร้ายบุตรศักดิ์สิทธิ์ดินแดนบูรพาทุกรุ่น แต่ยังมอบของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานรักษาให้พวกเขาอีก

ต้องรู้ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นคนโหดที่แม้แต่อริยะแท้ยังฟาดปลิวไปได้

หากเป็นคนอื่นที่มีศักยภาพเช่นนี้ คงพุ่งเข้ามากดพวกเขาถูไปกับพื้นนานแล้ว!

แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กลับไม่ได้พึ่งพาคนแกร่งรังแกคนอ่อนแอ ซ้ำยังทำคุณทดแทนแค้น

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางอบอุ่นในใจ อดปลงอนิจจังมิได้!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ เป็นผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ!

แต่นี่พัวพันไปถึงปัญหาของเกียรติ แม้จะอยากได้มาก แต่พวกเขาก็ยังเอ่ยปฏิเสธเจตนาดีของเสิ่นเทียน

ถึงอย่างไรก็เพิ่งถูกอีกฝ่ายทุบตีมา คงไม่มีหน้าไปผูกมิตรด้วยเท่าไร

เสิ่นเทียนยิ้ม “สหายทุกท่านไม่ต้องเกรงใจ! พวกเราเป็นโอรสวรรค์สุดยอดห้าดินแดน ก็ควรมีจิตใจกว้างหน่อย โลกแห่งการแย่งชิงมักจะหมายถึงโลกแห่งมหาเคราะห์ภัย หากมองไปถึงเรื่องความสงบสุขและหายนะของทั้งห้าดินแดน ความขัดแย้งเล็กน้อยแค่นี้ระหว่างบูรพากับดินแดนกลางไม่ใช่ความขัดแย้งเลย

บางทีสักวันหนึ่ง พวกเราอาจจะต้องให้คู่ต่อสู้ในอดีตระวังหลังให้ ฝากชีวิตไว้กับกันและกัน ถึงตอนนั้น ความขัดแย้งเล็กน้อยแค่นี้มันจะเท่าไรกันเชียว”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางได้ฟังคำพูดเสิ่นเทียนแล้วใจสั่นสะท้าน!

นี่ คือปณิธานของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รึ

พวกเรายังชิงอันดับกำลังรบในรุ่นเยาว์อยู่เลย แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ห่วงใยทุกชีวิตในห้าดินแดน

ชั้นสูง ชั้นสูงจริงๆ!

มิน่า จักรพรรดิฮวงสือถึงเอ่ยถึงเขาเป็นพิเศษ

แค่จิตใจตรงนี้ โอรสสวรรค์ธรรมดาก็ไม่อาจเทียบได้แล้ว!

ความต่างระหว่างสองคนเหมือนกับเมฆและดินเลน!

องค์ชายราชันเหนือสือหลิงฟังแล้วเลือดร้อน ตะโกนเสียงดังขึ้นมา “สหายเสิ่นพูดดี! น้ำใจของสหายเสิ่น พวกเราจะปฏิเสธได้อย่างไร ขอรับไว้ด้วยความละอายใจ!”

หากเป็นของปกติ โอรสสวรรค์พวกนี้ต้องไม่ยอมรับเด็ดขาดแน่ พวกเขาก็ต้องมีเกียรติเหมือนกัน!

แต่นี่เป็นของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน มากพอจะสั่นใจโอรสสวรรค์ดินแดนกลาง ปฏิเสธไม่ได้!

หากตนรักษาบาดแผลเอง อย่างน้อยต้องนอนบนเตียงสิบวันถึงครึ่งเดือน แต่ถ้ากินของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน จะฟื้นฟูพวกเขาได้เร็วที่สุด

ของเหลวเทพเช่นนี้ อีกทั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังให้มาเปล่าๆ ลองถามดูว่ามีใครปฏิเสธได้บ้าง

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางคล้อยตามคำพูดสือหลิง รับของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานมาแล้วพากันเอ่ยขอบคุณ

“ขอบคุณบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มาก!”

“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใจกว้าง!”

……

จากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น โอรสสวรรค์ดินแดนกลางต่างยอมรับเสิ่นเทียนจากใจจริง

ต่อให้เป็นสือเทียนจื่อก็อาจจะทำเช่นนี้ไม่ได้!

หืม~

เหตุใดแซ่สือถึงคิดเช่นนี้ได้ล่ะ

องค์ชายเทียนจื่อคือความภูมิใจของราชวงศ์เซียนต้าฮวง และยังเป็นหน้าตาของโอรสสวรรค์ดินแดนกลาง!

แต่ว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เหมือนจะไม่เลวเช่นกันนะ!

เหตุใดถึงรู้สึกว่าสหายเสิ่นแกร่งกว่าองค์ชายเทียนจื่ออีกล่ะ!

ผีเท่านั้นที่รู้ว่าพวกเขาเกิดความคิดนี้ได้อย่างไร!

อาจจะเพราะไม่เคยรับของขวัญจากเทียนจื่อกระมัง!

…….

เสิ่นเทียนจ้องหน้าผากของโอรสสวรรค์ดินแดนกลางพลางยิ้มกว้างกว่าเดิม!

ดวงชะตาของโอรสสวรรค์ดินแดนกลางพวกนี้ไม่ธรรมดาเช่นกัน แทบจะไม่ด้อยไปกว่าโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพา!

ส่วนองค์ชายทั้งสอง ล้วนเป็นกุยช่ายใหญ่ที่มีวงรัศมีสีม่วงทอง จากนี้ถ้าอยากจะร่ำรวยก็ต้องหวังพึ่งพวกเขา!

ข้าฉลาดจริงๆ เลย!

สมกับเป็นข้า!

“เอาละๆ ทุกคนอย่ามัวยืนอยู่เลย วันนี้เป็นวันดี พวกข้าจะเลี้ยงต้อนรับให้พวกศิษย์น้อง!”

เทพสวรรค์รุ่นเจ็ดก้าวออกมากระตุ้นบรรยากาศ ภายในใจยังแอบดีใจ

ไม่นึกเลยว่าศิษย์น้องเล็กจะเจ๋งขนาดนี้ ทำให้โอรสสวรรค์ดินแดนกลางก้มคำนับได้

ขอแค่มีเขาคุ้มอยู่ ยังต้องกังวลว่าฝ่ายเราจะไม่ยิ่งใหญ่ขึ้นอีกหรือ!

…….

ทุกคนมารวมกันในหอหงส์ทอง นั่งตามลำดับ

ไม่นานก็มีสุราดีอาหารดี อาหารเลิศรสต่างๆ วางเต็มโต๊ะ

แท่นวิหคทองแดงสมกับเป็นโรงเตี๊ยมที่หรูหราที่สุดในนครศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ มีศักยภาพแฝงไม่ธรรมดาจริงๆ

อาหารต่างๆ ล้วนปรุงขึ้นจากโอสถวิญญาณฟ้าดิน มูลค่าไม่ธรรมดาและยังแฝงไว้ด้วยพลังวิญญาณจำนวนมาก

องค์ชายทั้งสองให้ความสนใจอย่างมาก นำสุราเซียนของราชวงศ์เซียนต้าฮวงออกมาเลี้ยงทุกคน

สือหลิงพูดยกยอตนเอง “สหายเสิ่น สุรานี่บ่มมาจากยางไม้ของต้นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์สามด่านเคราะห์ เรียกว่าของเหลวเซียน ทำให้คนมึนเมาหลับฝันได้! แม้แต่เสด็จพ่อของข้ายังติดสุรานี้มาก ปกติจะทำใจดื่มไม่ได้!

ข้าแอบเอาออกมา หากถูกพบเข้า คงถูกทุบตีแน่! ไม่รู้ว่าสหายเสิ่นจะให้เกียรติดื่มสักแก้วได้หรือไม่”

ระดับสุราคือระดับคน ขึ้นโต๊ะสุราแล้ว สือหลิงย่อมเปิดกว้าง

เขาเริ่มโอ้อวดสุราดีบ้านตน เห็นได้ชัดว่าเป็นพวกชื่นชอบในสุราดี

เขาชูแก้วสุราขึ้นมา จะดื่มกับเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนรับแก้วสุรามา “สหายสือเกรงใจแล้ว!”

แม้เสิ่นเทียนจะไม่ค่อยชอบดื่มสุราเท่าไร แต่ตอนนี้ก็ไม่อยากให้เสียบรรยากาศ

เสิ่นเทียนถอดหน้ากากออก ยกแก้วสุราดื่มอึกเดียวหมด รู้สึกว่าพลังวิญญาณไม่มีสิ้นสุดไหลเวียน

“รสชาติดีหอมบริสุทธิ์ นุ่มปาก ไหลผ่านลำคอ เป็นสุราดีจริงๆ”

เสิ่นเทียนชมด้วยรอยยิ้ม แต่ก็พบว่าคนรอบตัวกำลังเหม่อมองเขา

โดยเฉพาะพวกธิดาสวรรค์หญิงพวกนั้น ดวงตาเคลิบเคลิ้มแล้ว

เสิ่นเทียนมองหน้ากากบนโต๊ะก่อนจะเข้าใจ

เฮ้อ เป็นเช่นนี้อีกแล้ว

ใบหน้าสมควรตายนี่ ปล่อยเสน่ห์ไปทุกที่เลย!

…..

ตึง!

แก้วสุราในมือสือหลิงตกลงบนโต๊ะ ปลุกทุกคนตื่น

เขาถอนหายใจ “สหายเสิ่นมีใบหน้าราวกับเซียน เรียกได้ว่าเป็นเทวดาจริงๆ!”

สือหลิงเป็นองค์ชายราชวงศ์เซียนต้าฮวง ไม่ใช่แค่ศักยภาพแข็งแกร่ง แต่ยังมีใบหน้าไม่ธรรมดา มีสาวๆ ตามติดมากมาย

ทว่าเมื่อเห็นใบหน้าเสิ่นเทียน ต่อให้เป็นเขาก็ยังละอายใจในตนเองเทียบไม่ได้

ใบหน้านี้เรียกได้ว่าเป็นที่สุดแห่งยุค เหนือธรรมดาสามัญ

โลกมนุษย์ยังไม่คู่ควรให้เขาอยู่นิดๆ

ส่วนความคิดของโอรสสวรรค์ดินแดนกลางคนอื่นย่อมไม่ต่างจากสือหลิงเท่าไร

ตกตะลึง ปลงอนิจจัง อิจฉา พ่ายแพ้~

ไม่นึกเลยว่าไม่ใช่แค่พรสวรรค์และศักยภาพที่เทียบบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่ได้ แม้แต่ใบหน้าก็ยังเทียบไม่ได้

อืม น่าจะบอกว่า…ห่างชั้นกันมากกว่า!

เวลานี้มีเสียงประจบและพูดคุยหัวเราะดังขึ้นในงานไม่ขาดสาย คึกคักมาก

กุ้ยกงกงมองเสิ่นเทียนที่ถูกโอรสสวรรค์มากมายรายล้อม ดวงตาเต็มไปด้วยความปลื้มใจ

เฮ้อ หากพระสนมหลานได้เห็นภาพนี้ก็คงจะดี!

……..

กินดื่มกันเต็มที่แล้ว โอรสสวรรค์ทุกคนต่างเดินทางไปสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

วันนี้สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยเรียกได้ว่ามีผู้คนคับคลั่ง

กลุ่มคนดำมืดอัดไปทางประตูใหญ่ ต่อแถวกันเป็นมังกรยาว ถึงยามราตรีมาเยือนก็ยังไม่เห็นว่าลดลงแม้แต่นิด!

แดนศักดิ์สิทธิ์ดินแดนกลางเองก็มีโอรสสวรรค์ที่เข้าศึกษาในรุ่นเดียวกันตามมาไม่น้อย หลังจากพวกเขามาถึงสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยก็ถึงกับชะงักงัน!

หวังเสินซวีเวียนศีรษะแล้ว “ไม่ใช่กระมัง! แถวยาวเหยียดขนาดนี้ ต้องต่อแถวไปถึงปีลิงเดือนม้าเลยรึ”

โอรสสวรรค์ระดับแก่นพลังทองหกรอบขึ้นไปของห้าดินแดนมารวมกันที่นี่ จำนวนมากมหาศาลจนยากจะจินตนาการได้!

กล่าวได้ว่าในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยดินแดนกลางมีโอรสสวรรค์มากที่สุด!

โอรสสวรรค์จำนวนมหาศาลขนาดนี้เข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย แค่ลงทะเบียนก็ต้องเสียเวลาไปเยอะมาก

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางถอนหายใจ “ช่วยไม่ได้ นี่เป็นกฎของสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย ทุกคนต้องทำตามกฎ”

ไม่ว่าจะเป็นสุดยอดโอรสสวรรค์หรือราชวงศ์บุตรศักดิ์สิทธิ์ การจะเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยก็ต้องต่อแถว

เมื่อก่อนมีคนเข้าน้อย ไม่ต้องใช้เวลาต่อแถวนานเท่าไร แต่สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยขยายจำกัด เปิดรับต่อภายนอก

โอรสสวรรค์ห้าดินแดนเดินทางมากันถึงได้เกิดเหตุการณ์เช่นตอนนี้

“มีทางใดเข้าไปได้เร็วๆ หรือไม่ อย่างเช่นเข้าประตูหลังน่ะ”

หวังเสินซวีไม่อยากต่อแถว เห็นแล้วทำให้ขนหัวลุก

“ไม่มีประตูหลัง! เว้นแต่จะมีป้ายคำสั่งราชโองการพิเศษถึงจะผ่านไปได้”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางถอนหายใจ เอ่ยวิธีที่เป็นไปไม่ได้เลย

ป้ายคำสั่งราชโองการพิเศษ จะไปได้มาง่ายๆ ได้อย่างไร

เกือบพันปีมานี้มีเพียงสือเทียนจื่อที่ได้รับการเชื้อเชิญพิเศษเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย มีเพียงเขาที่มีป้ายคำสั่งราชโองการพิเศษ!

นั่นคือป้ายคำสั่งสีทอง ลายสีทองเต็มป้ายคำสั่ง น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง

ป้ายคำสั่งประทับคำว่า ‘ฮวง’ เขียนด้วยลายพู่กันอย่างงดงาม แฝงไว้ด้วยหลักการแท้มหามรรค

มองทีเดียวก็ทำให้คนจมดิ่งไปในนั้น ยากจะถอนตัวได้!

ก่อนหน้านี้ราชันนักรบเดินทางไปหาเสิ่นเทียน ได้มอบป้ายคำสั่งสี่ทองให้เขา บอกว่าใช้เข้าสำนักศึกษาหลวงได้

ตอนนั้นเสิ่นเทียนยังแปลกใจว่าป้ายคำสั่งนี้มีไว้ทำอะไรกันแน่!

ตอนนี้ดูแล้วนี่คงเป็นป้ายคำสั่งราชโองการพิเศษ!

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางมองป้ายคำสั่งในมือเสิ่นเทียน ดวงตาเบิกโต “เป็นป้ายคำสั่งราชโองการพิเศษจริงๆ”

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางพวกนี้ล้วนมาจากชนชั้นสูง แม้จะไม่เคยเห็นป้ายคำสั่งราชโองการพิเศษ แต่ก็เคยได้ยินมา

นี่คือป้ายคำสั่งของจักรพรรดิฮวงสือโดยเฉพาะ มีอำนาจสูงสุด!

นี่ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ของฐานะและศักยภาพ แต่ยังแฝงไว้ด้วยหลักการสูงสุดมหามรรค มีอำนาจพิเศษทุกอย่างในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

…..

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ คงอยู่เทียบเท่ากับองค์ชายสือเทียนจื่อจริงๆ

ไม่เช่นนั้นจะได้รับกิตติมศักดิ์เช่นนี้ได้อย่างไร

โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาไม่รู้ว่าป้ายคำสั่งราชโองการพิเศษนี้มีประโยชน์อะไร

แต่ป้ายคำสั่งนี้แซงคิวได้ ทำให้คนมีความสุขมาก

เสิ่นเทียนพยักหน้า เขาก็ไม่อยากเสียเวลาที่นี่เหมือนกัน จึงถือป้ายคำสั่งราชโองการพิเศษไปหาปรมาจารย์

ป้ายคำสั่งราชโองการพิเศษมีประโยชน์มาก ต่อให้เป็นปรมาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยก็ยังต้องให้ความสำคัญ อนุญาตให้พวกเสิ่นเทียนผ่านไปได้

พวกเสิ่นเทียนเข้าไปได้อย่างราบรื่นท่ามกลางสายตาอิจฉาและตกตะลึงของคนมากมาย!

โอรสสวรรค์ดินแดนกลางเข้าไปด้วยพร้อมกัน นึกโชคดีอยู่ในใจ

หากไม่ได้บารมีของเสิ่นเทียนก็ไม่รู้ว่าต้องต่อแถวไปถึงเมื่อไร!

ทุกคนพากันพูดปลง ตามสหายเสิ่นนี่ดีจริงๆ!

ความรู้สึกที่ไม่ต้องต่อแถวมันมีความสุขจริงๆ!

…….

เข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยมา พวกเสิ่นเทียนก็พบว่ารอบตัวมีคนมากมายกำลังรออยู่

นั่นคือโอรสสวรรค์ที่ผ่านแถวมังกรยาวเข้ามาในสำนักศึกษาหลวง

ทุกคนรออยู่ชั่วครู่ก็เห็นชายชราผมขาวเดินเข้ามา

ชายชราสวมผ้าเนื้อหยาบ ดูมีเอกลักษณ์ของเซียน กลิ่นอายพลังลึกล้ำไม่อาจคาดเดา ดูไม่อ่อนแอเลย

ชายชราเอ่ยเนิบนาบ “อัจฉริยะหนุ่มสาวจากห้าดินแดนทุกคน ยินดีต้อนรับสู่สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย! ข้าคือปรมาจารย์นำกลุ่มพวกเจ้า พวกเจ้าเรียกข้าว่าผู้อาวุโสซูได้!

นับจากนี้ไป พวกเจ้าจะเป็นศิษย์ฝ่ายนอกของสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย! พวกเจ้าเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยมาแล้วจะเบาใจไม่ได้ ต้องหมั่นใฝ่หาความรู้ ยกระดับขึ้นไปเรื่อยๆ มีเพียงตนเองแข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะเดินหน้าไปได้เรื่อยๆ ได้รับทรัพยากรการบำเพ็ญมากขึ้นเรื่อยๆ!”

…….

ถึงสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยจะเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ศึกษา แต่ขนาดก็พอๆ กับแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น แบ่งเป็นระดับชั้น

ศิษย์ระดับต่างกันจะได้รับทรัพยากรบำเพ็ญต่างกัน

แต่สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยมีศักยภาพแฝงเหนือกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ธรรมดาไปไกล มีวิชาลับมากมาย กระทั่งมีคัมภีร์จักรพรรรดิหลายส่วน!

มรดกพวกนี้บ้างจักรพรรดิฮวงสือรวบรวมมา บ้างเขาสร้างขึ้นเอง

จักรพรรดิฮวงสือตกตะกอนมาหลายพันปี แทบจะทำให้จี้เซี่ยมีทรัพยากรมหาศาล!

อีกทั้งมรดกพวกนี้ยังเปิดต่อภายนอก ขอแค่มีแต้มศึกษาพอ ต่อให้เป็นคัมภีร์จักรพรรดิก็ยังเรียนได้

ต้องรู้ว่าต่อให้อยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ ก็มีเพียงศิษย์สายตรงที่มีสิทธิ์เรียนคัมภีร์จักรพรรดิ

บทต้องห้ามสูงสุดในนั้นเป็นมรดกของบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น

ทว่าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยกลับเผยแพร่มรดกพวกนี้กับทุกคน

แม้จะมีแต้มศึกษากำกับไว้ แต่ก็ยังมีโอกาส

และเพราะเหตุนี้เอง สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยถึงได้มีชื่อเสียงโด่งดังในห้าดินแดน เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในใจโอรสสวรรค์มากมาย

……

เมื่อได้ฟังคำพูดของผู้อาวุโสซู โอรสสวรรค์ที่นี่ต่างทำหน้าตื่นเต้น “ขอรับ!”

เข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยได้ก็ถือว่าชนะอยู่บนจุดเริ่มวิ่งบนเส้นทางเซียนแล้ว

ขอแค่ตั้งใจฝึกบำเพ็ญก็จะมีอนาคตไม่อาจจำกัดได้!

พวกเขาต่างเชื่อมั่นในจุดนี้!

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด