บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน บทที่ 251 เด็กดื้อ ฮวงสือ!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 251 เด็กดื้อ ฮวงสือ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 251 เด็กดื้อ ฮวงสือ!

ฟางฉางก้นจ้ำเบ้าบนเวทีประลองเทพสงคราม ดูมึนงงไปหมด

เขาในตอนนี้สงสัยในชีวิตจริงๆ แล้ว

สามนาที…

ไฉนถึงเร็วเช่นนี้

เขาฟางฉางไม่เคยเร็วขนาดนี้มาก่อน!

ยังไม่ทันสัมผัสถึงความสุขในการต่อสู้ก็จบแล้วรึ

นั่นคือผลึกวิญญาณหมื่นก้อนเต็มๆ สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนปกติคือจำนวนมหาศาล

แม้แต่โอรสสวรรค์อย่างฟางฉางจะเคยฝึกฝนในแดนลับและสนามรบมามากมาย ได้โชคลิขิตมาจำนวนมาก แต่ทรัพย์สินทั้งตัวเขามีไม่ถึงหนึ่งแสนผลึกวิญญาณ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังใช้ในการฝึกบำเพ็ญของตนเอง ใช้ไปพอประมาณเลยทีเดียว

ถึงอย่างไรยิ่งเป็นอัจฉริยะที่ให้ความสำคัญกับรากฐานก็ยิ่งใช้ทรัพยากรเยอะมากเท่านั้น!

ตอนนี้ทรัพย์สินทั้งตัวฟางฉาง ตัดเกราะนักรบกับทวนมังกรสมบัติวิญญาณระดับสูงสุดออกไปแล้ว คิดรวมทั้งหมดก็มีประมาณสามหมื่นผลึกวิญญาณ

สามวินาทีสั้นๆ ก็ดูดเงินส่วนตัวสามส่วนของฟางฉางไป

นี่ทำให้เขาปวดใจจนหายใจไม่ออก

ตอนนี้เอง เสียงเด็กสาวดวงจิตหอคอยดังขึ้นอีกครั้ง “โอรสสวรรค์หนุ่มเอ๋ย ขอให้เจ้าอย่าท้อถอย แม้แต่ในโลกเซียนโอรสวรรค์เจ็ดดาวยังสูงส่งมาก โลกธรรมดาไม่มีไอเซียนบ่มเพาะ จะสู้กับเขาได้ยากมากอยู่แล้ว

เจ้ายืนหยัดในความบ้าคลั่งของโอรสสวรรค์เจ็ดดาวได้สามวินาทีก็หาได้ยากมากแล้ว ยากจะพบคู่ต่อสู้ได้ในโลกนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้า ข้าจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บให้เจ้า ไม่มีค่าตอบแทนใดๆ

ขอถาม เจ้าจะฝึกฝนต่อหรือไม่”

ครั้นได้ฟังดวงจิตหอคอยปลอบใจตน ฟางฉางก็รู้สึกถึงกระแสอุ่นๆ ขึ้นมาในใจ ทั้งยังรักษาให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นี่เพื่อให้แซ่ฟางเก็บความกล้าหาญในการต่อสู้ขึ้นมาใหม่อย่างนั้นหรือ

ฟางฉางที่เดิมทีซึมเซาลุกขึ้นบนเวทีประลองเทพสงครามอีกครั้ง ทวนมังกรในมือเปล่งประกายระยิบระยับอีกครั้ง

เขาพูดด้วยความโอหังว่า “ช่างเถอะ โอรสสวรรค์เจ็ดดาวของโลกเซียนแข็งแกร่งมากจริงๆ ถึงเมื่อครู่แซ่ฟางจะทำได้ไม่ดี ไม่อย่างนั้นต้องยืนหยัดกับเขาได้ร้อยลมหายใจแน่นอน แต่ถ้าจะสู้กับโอรสสวรรค์เจ็ดดาว เกรงว่าแซ่ฟางคงมีกำลังไม่ถึงจริงๆ ต้องให้ศิษย์น้องเสิ่นเทียนออกมือถึงจะรับมือได้”

ฟางฉางเทสมบัติในแหวนมิติออกมาต่อด้วยความปวดใจ เขาขบคิดก่อนจะพูดไปว่า “คะ…ครั้งนี้แซ่ฟางขอท้าสู้กับโอรสสวรรค์หกดาวแล้วกัน”

เสียงดวงจิตหอคอยดังขึ้น “หนุ่มน้อยองอาจห้าวหาญจริงๆ ทำให้ข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก! เพื่อเป็นการให้กำลังใจกับจิตใจกล้าหาญของเจ้า เจ้าสามารถเลือกขอบเขตของคู่ต่อสู้ได้”

ฟางฉางอึ้งไป “เลือกขอบเขตของคู่ต่อสู้ หมายความว่าอย่างไรกัน”

ดวงจิตหอคอยอธิบาย “ในเวทีประลองเทพสงคราม รูปแบบการต่อสู้และศักยภาพของทุกคนจะถูกกักเก็บเอาไว้แล้วสร้างขึ้นเป็นร่างเงา ดังนั้นเวทีประลองเทพสงครามจึงไม่ได้มีเพียงร่างเงาโอรสสวรรค์จากโลกเซียน แต่ยังมีร่างเงาโอรสสวรรค์ของโลกนี้ด้วย

ข้าจะฝ่าฝืนกฎให้เจ้าเลือกว่าจะท้าประลองกับโอรสสวรรค์จากโลกเซียนต่อหรือโอรสสวรรค์ของโลกนี้”

คำอธิบายของดวงจิตหอคอยตรงไปตรงมามาก

ฟางฉางอดสนใจขึ้นมามิได้ “โอรสสวรรค์โลกเซียนแข็งแกร่งมาก แต่ก็มาจากโลกบำเพ็ญเซียนเหมือนกัน แซ่ฟางฝึกถึงแก่นพลังทองเก้ารอบแล้ว ยังต้องกลัวเขาอีกหรือ”

ฟางฉางทำเสียงขึ้นจมูกก่อนจะเอ่ยต่อ “ในเมื่อเช่นนั้น แซ่ฟางก็ขอท้าประลองกับโอรสสวรรค์หกดาวของโลกนี้! เข้ามาเลย!”

แต้มเทพสงครามกลับขึ้นไปเป็นหนึ่งพันแต้มอีกครั้ง บนเวทีประลองเทพสงครามค่อยๆ รวมออกมาเป็นร่างหนึ่ง

เมื่อเห็นหน้าตาของร่างเงานี้ชัดเจน ฟางฉางถึงกับชะงักไปเลย

ไม่ใช่เพราะร่างเงานี้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น แต่เป็นเพราะ…เขาเป็นเด็กดื้อคนหนึ่ง

ใช่ ร่างเงาที่รวมขึ้นครั้งนี้เป็นเด็กชายคนหนึ่ง

เขาอายุราวห้าหกขวบ ทาแป้งขาว สวมชุดกระโปรงหนังสัตว์ ดูน่ารักมาก

หากสตรีเห็น เกรงว่าคงอดใจกอดเขาไว้ไม่ได้

ฟางฉางบ้าคลั่งขึ้นมาทันที

นี่มันบ้าอะไร!

ดีเลวอย่างไรแซ่ฟางก็สูงแปดฉื่อ เป็นบุรุษผู้มีเกียรติ

แต่เจ้าจับคู่เด็กน้อยที่ขนยังขึ้นไม่ครบมาให้เป็นคู่ต่อสู้ นี่เอาจริงรึ

เจ้าเด็กน้อยนี่ แซ่ฟางยืนกดศีรษะเขา มือเขายังไม่ถึงหัวเข่าแซ่ฟางเลย

ต่อให้แซ่ฟางชนะจริงๆ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปได้ขายหน้าเป็นแน่!

ฟางฉางพูดด้วยความจนปัญญา “ดวงจิตหอคอย เจ้าเด็กนี่ข้า…”

เขายังพูดไม่จบก็โดนเด็กชายตรงหน้าพูดขัดช้าๆ “เจ้าร่างคน ไม่ได้เรื่อง”

เพิ่งสิ้นเสียงเยาว์วัย ร่างเด็กชายนั้นก็หายไปทันที

รวดเร็วมาก~!

ฟางฉางหน้าเปลี่ยนสีไป

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ เขารู้สึกว่าสายตาเขาตามความเร็วของเจ้าเด็กดื้อนี่ไม่ทัน!

‘ประเมินเจ้าเด็กดื้อนี่ต่ำไปแล้ว’

ฟางฉางตึงเครียดในใจ รีบกวาดทวนมังกรเพลิงแดงใส่เด็กดื้อ

เขาไม่ได้แทงไปตรงๆ หนึ่งเพราะพื้นที่การโจมตีแบบกวาดจะมากกว่าการแทงตรงๆ กดดันคู่ต่อสู้ให้ถอยไปได้ง่าย

สอง เพราะถึงเด็กดื้อนี่นะแข็งแกร่งจนน่ากลัว แต่ก็หน้าตาน่ารักมาก

ฟางฉางเป็นบุรุษร่างสูงใหญ่ ทำใจแทงเขาอย่างโหดเหี้ยมไม่ลงจริงๆ

ชิ้ง~!

ทวนมังกรเพลิงแดงกวาดเวทีประลองพร้อมด้วยพลังแห่งอัคคีชาด แทบจะทำให้ทั้งเวทีกลายเป็นทะเลเพลิง

ทว่าแสงสว่างที่เปล่งมาจากตัวเด็กดื้อกลับสลายอัคคีชาดและไอทวนทั้งหมดออกไป

ขณะเดียวกัน เด็กดื้อยังกระโดดขึ้นอย่างว่องไวเหมือนกับวานรคล่องแคล่ว เขาคว้าทวนมังกรเพลิงแดงไว้ก่อนจะพุ่งไปตามทวนเข้าหาฟางฉาง

ยาวหนึ่งชุ่นแข็งแกร่งหนึ่งชุ่น วิธีที่รับมือกับทวนยาวที่ดีที่สุดคือเข้าไปใกล้ให้มากที่สุด!

“ถอยไป!”

ฟางฉางทิ้งทวนลง ก่อนประสานมุทราสองมือรวมเป็นชุดเกราะอัสนีเทพส่องแสงปกคลุมรอบตัว

นี่คือชุดเกราะกิเลนที่รวมขึ้นจากอัสนีเทพกิเลนธาตุดินลำดับห้า ตั้งอยู่ตรงกลางในห้าทิศ เน้นเรื่องพลังป้องกัน

ในอัสนีเทพปัญจธาตุ อัสนีเทพกิเลนธาตุดินลำดับห้ามีรูปแบบการต่อสู้ที่สมดุลที่สุด โดยเฉพาะจะชำนาญเรื่องการขับไล่พลังงานด้านลบทุกชนิด

อีกทั้งการป้องกันของมันก็เป็นรองเพียงเกราะเต่าดำ มากพอจะรับการโจมตีส่วนใหญ่ได้

ในศึกก่อนหน้านี้ หากไม่ใช่เพราะฟางฉางเรียกเกราะอัสนีกิเลนกับเกราะนักรบทองสีชาดมาเพิ่มพลังของตนไม่ทัน ต่อให้อีกฝ่ายเป็นโอรสสวรรค์เจ็ดดาวก็ไม่มีทางเอาชนะฟางฉางได้ในสามนาที

ไม่ว่าอย่างไร…ก็ต้องมีแปดถึงสิบนาที!

เกราะนักรบคลุมไว้สองชั้นแล้ว ฟางฉางก็เปลี่ยนขาเป็นแส้เตะใส่เด็กดื้อ

ตอนนี้เขารับมืออย่างจริงจังแล้ว

ถึงอย่างไรแม้เด็กดื้อนี่จะหน้าตาน่ารัก แต่กำลังรบแข็งแกร่งของจริง

เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าแล้วฟางฉางยังกล้าเบาใจ ก็คงจะต้องเสียเปรียบอย่างหนักแน่นอน

……

เมื่อเห็นขาแส้หนาของฟางฉางจะเตะโดนเด็กดื้อแล้ว ตอนนี้เองเด็กดื้อพลันกระโดดขึ้นจากเวทีประลอง หลบเท้านั้นเฉียดบ่าไป

จากนั้นเขาก็ชกเข้าที่หัวเข่าฟางฉาง

ตัวเขาอาศัยแรงจู่โจมนี้ลอยวนมาข้างหลังฟางฉาง

ลวดลายเทพสีทองอมดำตรงกลางฝ่ามือเขาเปล่งแสงระยิบระยับก่อนกลายเป็นตราเวทสี่เหลี่ยม

ตราเวทนี้มีประกายเซียนวนเวียนทุกส่วน มองทีแรกก็ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ทว่าเมื่ออยู่ในมือเด็กดื้อนี่กลับเหมือนอิฐ

ตึง~

ตราเวทสี่เหลี่ยมหมุนควงฟาดเข้าที่หลังศีรษะของฟางฉาง

แม้จะมีเกราะสายฟ้ากิเลนกับเกราะนักรบทองสีชาดคุ้มกันสองชั้น ฟางฉางก็ยังรู้สึกมีเสียงวิ้งๆ ดังในความคิด

บนฟ้าใต้ดินมีแต่ดาว~

เวลานี้บุรุษร่างสูงใหญ่คนนี้สงสัยในชีวิตแล้ว

เด็กดื้อนี่มาจากที่ใดกันแน่ จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน บทที่ 251 เด็กดื้อ ฮวงสือ!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 251 เด็กดื้อ ฮวงสือ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 251 เด็กดื้อ ฮวงสือ!

ฟางฉางก้นจ้ำเบ้าบนเวทีประลองเทพสงคราม ดูมึนงงไปหมด

เขาในตอนนี้สงสัยในชีวิตจริงๆ แล้ว

สามนาที…

ไฉนถึงเร็วเช่นนี้

เขาฟางฉางไม่เคยเร็วขนาดนี้มาก่อน!

ยังไม่ทันสัมผัสถึงความสุขในการต่อสู้ก็จบแล้วรึ

นั่นคือผลึกวิญญาณหมื่นก้อนเต็มๆ สำหรับผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนปกติคือจำนวนมหาศาล

แม้แต่โอรสสวรรค์อย่างฟางฉางจะเคยฝึกฝนในแดนลับและสนามรบมามากมาย ได้โชคลิขิตมาจำนวนมาก แต่ทรัพย์สินทั้งตัวเขามีไม่ถึงหนึ่งแสนผลึกวิญญาณ อีกทั้งส่วนใหญ่ยังใช้ในการฝึกบำเพ็ญของตนเอง ใช้ไปพอประมาณเลยทีเดียว

ถึงอย่างไรยิ่งเป็นอัจฉริยะที่ให้ความสำคัญกับรากฐานก็ยิ่งใช้ทรัพยากรเยอะมากเท่านั้น!

ตอนนี้ทรัพย์สินทั้งตัวฟางฉาง ตัดเกราะนักรบกับทวนมังกรสมบัติวิญญาณระดับสูงสุดออกไปแล้ว คิดรวมทั้งหมดก็มีประมาณสามหมื่นผลึกวิญญาณ

สามวินาทีสั้นๆ ก็ดูดเงินส่วนตัวสามส่วนของฟางฉางไป

นี่ทำให้เขาปวดใจจนหายใจไม่ออก

ตอนนี้เอง เสียงเด็กสาวดวงจิตหอคอยดังขึ้นอีกครั้ง “โอรสสวรรค์หนุ่มเอ๋ย ขอให้เจ้าอย่าท้อถอย แม้แต่ในโลกเซียนโอรสวรรค์เจ็ดดาวยังสูงส่งมาก โลกธรรมดาไม่มีไอเซียนบ่มเพาะ จะสู้กับเขาได้ยากมากอยู่แล้ว

เจ้ายืนหยัดในความบ้าคลั่งของโอรสสวรรค์เจ็ดดาวได้สามวินาทีก็หาได้ยากมากแล้ว ยากจะพบคู่ต่อสู้ได้ในโลกนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้า ข้าจะฟื้นฟูอาการบาดเจ็บให้เจ้า ไม่มีค่าตอบแทนใดๆ

ขอถาม เจ้าจะฝึกฝนต่อหรือไม่”

ครั้นได้ฟังดวงจิตหอคอยปลอบใจตน ฟางฉางก็รู้สึกถึงกระแสอุ่นๆ ขึ้นมาในใจ ทั้งยังรักษาให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นี่เพื่อให้แซ่ฟางเก็บความกล้าหาญในการต่อสู้ขึ้นมาใหม่อย่างนั้นหรือ

ฟางฉางที่เดิมทีซึมเซาลุกขึ้นบนเวทีประลองเทพสงครามอีกครั้ง ทวนมังกรในมือเปล่งประกายระยิบระยับอีกครั้ง

เขาพูดด้วยความโอหังว่า “ช่างเถอะ โอรสสวรรค์เจ็ดดาวของโลกเซียนแข็งแกร่งมากจริงๆ ถึงเมื่อครู่แซ่ฟางจะทำได้ไม่ดี ไม่อย่างนั้นต้องยืนหยัดกับเขาได้ร้อยลมหายใจแน่นอน แต่ถ้าจะสู้กับโอรสสวรรค์เจ็ดดาว เกรงว่าแซ่ฟางคงมีกำลังไม่ถึงจริงๆ ต้องให้ศิษย์น้องเสิ่นเทียนออกมือถึงจะรับมือได้”

ฟางฉางเทสมบัติในแหวนมิติออกมาต่อด้วยความปวดใจ เขาขบคิดก่อนจะพูดไปว่า “คะ…ครั้งนี้แซ่ฟางขอท้าสู้กับโอรสสวรรค์หกดาวแล้วกัน”

เสียงดวงจิตหอคอยดังขึ้น “หนุ่มน้อยองอาจห้าวหาญจริงๆ ทำให้ข้าซาบซึ้งใจยิ่งนัก! เพื่อเป็นการให้กำลังใจกับจิตใจกล้าหาญของเจ้า เจ้าสามารถเลือกขอบเขตของคู่ต่อสู้ได้”

ฟางฉางอึ้งไป “เลือกขอบเขตของคู่ต่อสู้ หมายความว่าอย่างไรกัน”

ดวงจิตหอคอยอธิบาย “ในเวทีประลองเทพสงคราม รูปแบบการต่อสู้และศักยภาพของทุกคนจะถูกกักเก็บเอาไว้แล้วสร้างขึ้นเป็นร่างเงา ดังนั้นเวทีประลองเทพสงครามจึงไม่ได้มีเพียงร่างเงาโอรสสวรรค์จากโลกเซียน แต่ยังมีร่างเงาโอรสสวรรค์ของโลกนี้ด้วย

ข้าจะฝ่าฝืนกฎให้เจ้าเลือกว่าจะท้าประลองกับโอรสสวรรค์จากโลกเซียนต่อหรือโอรสสวรรค์ของโลกนี้”

คำอธิบายของดวงจิตหอคอยตรงไปตรงมามาก

ฟางฉางอดสนใจขึ้นมามิได้ “โอรสสวรรค์โลกเซียนแข็งแกร่งมาก แต่ก็มาจากโลกบำเพ็ญเซียนเหมือนกัน แซ่ฟางฝึกถึงแก่นพลังทองเก้ารอบแล้ว ยังต้องกลัวเขาอีกหรือ”

ฟางฉางทำเสียงขึ้นจมูกก่อนจะเอ่ยต่อ “ในเมื่อเช่นนั้น แซ่ฟางก็ขอท้าประลองกับโอรสสวรรค์หกดาวของโลกนี้! เข้ามาเลย!”

แต้มเทพสงครามกลับขึ้นไปเป็นหนึ่งพันแต้มอีกครั้ง บนเวทีประลองเทพสงครามค่อยๆ รวมออกมาเป็นร่างหนึ่ง

เมื่อเห็นหน้าตาของร่างเงานี้ชัดเจน ฟางฉางถึงกับชะงักไปเลย

ไม่ใช่เพราะร่างเงานี้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น แต่เป็นเพราะ…เขาเป็นเด็กดื้อคนหนึ่ง

ใช่ ร่างเงาที่รวมขึ้นครั้งนี้เป็นเด็กชายคนหนึ่ง

เขาอายุราวห้าหกขวบ ทาแป้งขาว สวมชุดกระโปรงหนังสัตว์ ดูน่ารักมาก

หากสตรีเห็น เกรงว่าคงอดใจกอดเขาไว้ไม่ได้

ฟางฉางบ้าคลั่งขึ้นมาทันที

นี่มันบ้าอะไร!

ดีเลวอย่างไรแซ่ฟางก็สูงแปดฉื่อ เป็นบุรุษผู้มีเกียรติ

แต่เจ้าจับคู่เด็กน้อยที่ขนยังขึ้นไม่ครบมาให้เป็นคู่ต่อสู้ นี่เอาจริงรึ

เจ้าเด็กน้อยนี่ แซ่ฟางยืนกดศีรษะเขา มือเขายังไม่ถึงหัวเข่าแซ่ฟางเลย

ต่อให้แซ่ฟางชนะจริงๆ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปได้ขายหน้าเป็นแน่!

ฟางฉางพูดด้วยความจนปัญญา “ดวงจิตหอคอย เจ้าเด็กนี่ข้า…”

เขายังพูดไม่จบก็โดนเด็กชายตรงหน้าพูดขัดช้าๆ “เจ้าร่างคน ไม่ได้เรื่อง”

เพิ่งสิ้นเสียงเยาว์วัย ร่างเด็กชายนั้นก็หายไปทันที

รวดเร็วมาก~!

ฟางฉางหน้าเปลี่ยนสีไป

ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ เขารู้สึกว่าสายตาเขาตามความเร็วของเจ้าเด็กดื้อนี่ไม่ทัน!

‘ประเมินเจ้าเด็กดื้อนี่ต่ำไปแล้ว’

ฟางฉางตึงเครียดในใจ รีบกวาดทวนมังกรเพลิงแดงใส่เด็กดื้อ

เขาไม่ได้แทงไปตรงๆ หนึ่งเพราะพื้นที่การโจมตีแบบกวาดจะมากกว่าการแทงตรงๆ กดดันคู่ต่อสู้ให้ถอยไปได้ง่าย

สอง เพราะถึงเด็กดื้อนี่นะแข็งแกร่งจนน่ากลัว แต่ก็หน้าตาน่ารักมาก

ฟางฉางเป็นบุรุษร่างสูงใหญ่ ทำใจแทงเขาอย่างโหดเหี้ยมไม่ลงจริงๆ

ชิ้ง~!

ทวนมังกรเพลิงแดงกวาดเวทีประลองพร้อมด้วยพลังแห่งอัคคีชาด แทบจะทำให้ทั้งเวทีกลายเป็นทะเลเพลิง

ทว่าแสงสว่างที่เปล่งมาจากตัวเด็กดื้อกลับสลายอัคคีชาดและไอทวนทั้งหมดออกไป

ขณะเดียวกัน เด็กดื้อยังกระโดดขึ้นอย่างว่องไวเหมือนกับวานรคล่องแคล่ว เขาคว้าทวนมังกรเพลิงแดงไว้ก่อนจะพุ่งไปตามทวนเข้าหาฟางฉาง

ยาวหนึ่งชุ่นแข็งแกร่งหนึ่งชุ่น วิธีที่รับมือกับทวนยาวที่ดีที่สุดคือเข้าไปใกล้ให้มากที่สุด!

“ถอยไป!”

ฟางฉางทิ้งทวนลง ก่อนประสานมุทราสองมือรวมเป็นชุดเกราะอัสนีเทพส่องแสงปกคลุมรอบตัว

นี่คือชุดเกราะกิเลนที่รวมขึ้นจากอัสนีเทพกิเลนธาตุดินลำดับห้า ตั้งอยู่ตรงกลางในห้าทิศ เน้นเรื่องพลังป้องกัน

ในอัสนีเทพปัญจธาตุ อัสนีเทพกิเลนธาตุดินลำดับห้ามีรูปแบบการต่อสู้ที่สมดุลที่สุด โดยเฉพาะจะชำนาญเรื่องการขับไล่พลังงานด้านลบทุกชนิด

อีกทั้งการป้องกันของมันก็เป็นรองเพียงเกราะเต่าดำ มากพอจะรับการโจมตีส่วนใหญ่ได้

ในศึกก่อนหน้านี้ หากไม่ใช่เพราะฟางฉางเรียกเกราะอัสนีกิเลนกับเกราะนักรบทองสีชาดมาเพิ่มพลังของตนไม่ทัน ต่อให้อีกฝ่ายเป็นโอรสสวรรค์เจ็ดดาวก็ไม่มีทางเอาชนะฟางฉางได้ในสามนาที

ไม่ว่าอย่างไร…ก็ต้องมีแปดถึงสิบนาที!

เกราะนักรบคลุมไว้สองชั้นแล้ว ฟางฉางก็เปลี่ยนขาเป็นแส้เตะใส่เด็กดื้อ

ตอนนี้เขารับมืออย่างจริงจังแล้ว

ถึงอย่างไรแม้เด็กดื้อนี่จะหน้าตาน่ารัก แต่กำลังรบแข็งแกร่งของจริง

เมื่อเผชิญหน้ากับเจ้าแล้วฟางฉางยังกล้าเบาใจ ก็คงจะต้องเสียเปรียบอย่างหนักแน่นอน

……

เมื่อเห็นขาแส้หนาของฟางฉางจะเตะโดนเด็กดื้อแล้ว ตอนนี้เองเด็กดื้อพลันกระโดดขึ้นจากเวทีประลอง หลบเท้านั้นเฉียดบ่าไป

จากนั้นเขาก็ชกเข้าที่หัวเข่าฟางฉาง

ตัวเขาอาศัยแรงจู่โจมนี้ลอยวนมาข้างหลังฟางฉาง

ลวดลายเทพสีทองอมดำตรงกลางฝ่ามือเขาเปล่งแสงระยิบระยับก่อนกลายเป็นตราเวทสี่เหลี่ยม

ตราเวทนี้มีประกายเซียนวนเวียนทุกส่วน มองทีแรกก็ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ทว่าเมื่ออยู่ในมือเด็กดื้อนี่กลับเหมือนอิฐ

ตึง~

ตราเวทสี่เหลี่ยมหมุนควงฟาดเข้าที่หลังศีรษะของฟางฉาง

แม้จะมีเกราะสายฟ้ากิเลนกับเกราะนักรบทองสีชาดคุ้มกันสองชั้น ฟางฉางก็ยังรู้สึกมีเสียงวิ้งๆ ดังในความคิด

บนฟ้าใต้ดินมีแต่ดาว~

เวลานี้บุรุษร่างสูงใหญ่คนนี้สงสัยในชีวิตแล้ว

เด็กดื้อนี่มาจากที่ใดกันแน่ จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+