บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 21 เปิดน้ำเต้ามหาจักรพรรดิออกมาจากแร่เซียน?

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 21 เปิดน้ำเต้ามหาจักรพรรดิออกมาจากแร่เซียน? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 21 เปิดน้ำเต้ามหาจักรพรรดิออกมาจากแร่เซียน?
“เหลียงเอ๋อร์ พวกเราต้องรีบกลับแดนเทวาดาวประกายพรึก บอกลาน้องเสิ่นเถอะ!”

เห็นน้องสาวของตนเองยอมแม้กระทั่งเอาของขวัญครบรอบวันเกิดอายุสิบหกที่ท่านพ่อเป็นคนมอบให้ยกให้เสิ่นเทียน

ในหัวของหลี่ฉางเกอเหลือเพียงความคิดเดียว ‘ยัยเด็กผู้หญิงคนนี้เลี้ยงเสียข้าวสุก’

เจ้าทำเช่นนี้ เคยนึกถึงความรู้สึกของท่านพ่อหรือไม่

ต้องบอกก่อน กระบี่วารีครามเป็นถึงอาวุธวิญญาณ การดำรงอยู่ของมันเหนือกว่าอาวุธอาคม!

ในท้องตลาดการบำเพ็ญเซียน อาวุธวิญญาณหนึ่งชิ้นมีค่าเท่ากับผลึกวิญญาณอย่างน้อยร้อยก้อน

ลองคำนวณดูก็คือศิลาวิญญาณหนึ่งแสนก้อน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกระบี่วารีครามที่เป็นของชั้นสูงในบรรดาอาวุธวิญญาณ มูลค่าของมันสามารถเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยหลายเท่าตัว

ปัดเศษออกก็อยู่ที่ประมาณหนึ่งล้าน!

ของที่ล้ำค่ามากเช่นนี้ นำมามอบให้กันเช่นนี้เลยหรือ

เจ้าตัวบ่อนทำลาย!

หลี่ฉางเกอไม่กล้าปล่อยให้น้องสาวอยู่กับเสิ่นเทียนแล้ว

ไม่เช่นนั้น ใครจะไปรู้ว่านางจะมอบของอะไรอีก!

“น้องเสิ่น เมล็ดเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียนเป็นเรื่องสำคัญ ข้าขอพาเหลียงเอ๋อร์ไปก่อน”

“รอให้เจ้าปรึกษากับอาจารย์ของเจ้าเรียบร้อยแล้ว ข้าและท่านพ่อจะรอต้อนรับขบวนของพวกเจ้าบนยอดเขาดอกบัวแดนเทวดาวประกายพรึก”

กล่าวจบ หลี่ฉางเกอดึงตัวหลี่เหลียงเอ๋อร์ ทั้งคู่กลายเป็นลำแสงกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกไป

หายลับไปในสุดขอบฟ้าชั่วพริบตา

“ฟู่!”

จนกระทั่งตอนนี้ เสิ่นเทียนถึงรู้สึกโล่งอก

ในที่สุดก็หลุดพ้นแล้ว!

ช่วยไม่ได้ ช่วยไม่ได้จริงๆ

แค่มาเดิมพันหินทั่วไป แต่กลับมาพบวาสนาคู่ครองที่พิลึกพิลั่นเช่นนี้ได้อย่างไร!

ชาติที่แล้วเสิ่นเทียนก็ใช่ว่าจะไม่เคยสารภาพรักผู้หญิง และใช่ว่าจะไม่เคยพูดคำว่าข้าชอบเจ้า

แต่สุดท้ายผู้หญิงก็ไม่ได้ตอบตกลงยอมคบหากับเขา!

แต่ทำไมพอมาถึงที่นี่ เขายังไม่ทันได้คิดอะไรกับหลี่เหลียงเอ๋อร์เลย!

พูดเพียงคำว่า ‘เทพธิดากับข้ามีวาสนาต่อกัน’ ที่เรียบง่ายประโยคเดียว

นี่เป็นบทพูดของ NPC ไม่ว่ากับใครก็จะพูดเช่นนี้!

แต่ปรากฏว่านางเป็นคนประเภทชอบแต่งเติมสร้างโลกจินตนาการของตนเอง คิดเข้าข้างตนเองไปเสียแล้ว

ช่างเป็นการกลั่นแกล้งคนที่เกิดมาหน้าตาดีเสียเหลือเกิน!

เสิ่นเทียนถอนหายใจ มองทิศทางที่จากไปของหลี่เหลียงเอ๋อร์และหลี่ฉางเกอ

เขารู้ว่าสิ่งที่หลี่ฉางเกอกล่าวมานั้นง่าย แต่การกลับแดนเทวาประกายพรึกครั้งนี้ จะต้องไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี สมบัติชั้นสูงอย่างเมล็ดเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียนมีแรงดึงดูดมากเกินไป

แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

เสิ่นเทียนเคยลองสังเกตดู ก่อนที่หลี่เหลียงเอ๋อร์จะได้รับเมล็ดเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียน วงรัศมีแห่งโชคคือสีแดงบริสุทธิ์

หลังจากที่ได้รับเมล็ดน้ำเต้าเซียน ก็ปรากฏมีแสงสีทองจางๆ ปะปน

คนเพี้ยนก็มีวาสนาของคนเพี้ยน

ดวงชะตาถึงขั้นสูงเท่ากับฉินเกา

ส่วนดวงชะตาของหลี่ฉางเกอ แม้เทียบหลี่เหลียงเอ๋อร์ไม่ได้ แต่ก็เป็นวงรัศมีสีแดงอมเขียว

ดวงชะตาของคนทั้งสองเป็นหงส์และมังกรในหมู่มนุษย์ เป็นผู้มีโชคอันประเสริฐในโลกบำเพ็ญเซียน

จะต้องเป็นบุคคลระดับแนวหน้าแน่นอน!

“หากมีวาสนาแล้วเจอกันใหม่!”

“หวังว่าเวลานั้น ข้าจะกลายเป็นบุตรแห่งโชคชะตาแล้ว”

“หวังว่าเวลานั้น พ่อของเจ้าจะสู้ข้าไม่ได้”

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย เก็บกระบี่วารีครามที่อยู่บนพื้นขึ้นมา

พูดถึงกระบี่วารีครามแลดูเรียวและบาง แต่พอถือไว้ในมือมีน้ำหนักพอสมควร

ลองประเมินดู อย่างน้อยก็ต้องหนักยี่สิบหรือสามสิบชั่ง หนักใช้ได้

ทว่าทันใดนั้น เสิ่นเทียนเหมือนนึกอะไรขึ้นได้

เมื่อมองดูสวนหมื่นวิญญาณที่อยู่ห่างจากตนเองหลายสิบลี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นเทียนแข็งทื่อ

“หลี่ฉางเกอไอ้เจ้าคนหวงน้องสาว อย่างน้อยก็ควรส่งข้ากลับไปก่อนสิ!”

“ข้ายังฝึกไม่ถึงระดับแดนหลอมปราณเลยด้วยซ้ำ เหยียบกระบี่เหาะก็ไม่เป็น!”

“ในป่าที่รกร้างเช่นนี้ คงจะไม่มีสัตว์อสูรออกมาหรอกกระมัง!”

โชคดีคือหลังจากเดินข้ามเขาหนึ่งลูก

เสิ่นเทียนพบว่าตำแหน่งที่ตนเองอยู่ไม่ใช่สถานที่รกร้าง แต่เป็นเส้นทางที่ถูกเปิดโดยราชสำนัก

โดยทั่วไปแล้ว สัตว์อสูรจะไม่มาโผล่บนถนนหลวง และบนถนนหลวง มีรถม้าไม่น้อยที่เดินทางไปมาจากสวนหมื่นวิญญาณ

ขอเพียงไม่โชคร้ายมากนัก คาดว่าน่าจะมีรถม้าผ่านมาในไม่ช้า

‘เดี๋ยวก่อน ขอเพียงไม่โชคร้ายมากนักหรือ’

ลูบศีรษะของตนเอง เสิ่นเทียนนิ่งคิดไปชั่วครู่

เขายังไม่สามารถชำระล้างวงรัศมีกลายเป็นสีขาวอย่างสมบูรณ์!

เสิ่นเทียนไม่รู้ว่า ที่แท้เหตุเพราะมีสัตว์อสูรออกอาละวาดบนถนนด้านหลังนี้

ดังนั้นวันนี้ถนนหลวงเส้นนี้จึงถูกปิด ต้องกำจัดสัตว์อสูรก่อนจึงสามารถกลับมาใช้ได้ตามปกติ

ดังนั้นบนถนนหลวงเส้นนี้จึงไม่มีรถม้าวิ่งผ่าน

แต่ว่าเขาก็ไม่ได้คิดจะยืนรอโง่ๆ อยู่ข้างถนน

มีเพียงคนที่ไร้ความสามารถถึงนำความหวังไปฝากไว้ที่โชค

คนหนุ่มสาวที่ฉลาดมีแต่จะพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งขึ้น พึ่งตัวเอง!

ก็แค่ทางสิบกว่าลี้เอง!

ก็แค่มีกระบี่วารีครามที่หนักยี่สิบหรือสามสิบชั่งสะพายอยู่ด้านหลังเอง!

ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะเดินกลับไปไม่ได้!

ตอนที่เสิ่นเทียนเดินกลับไปถึงสวนหมื่นวิญญาณ ตะวันตกดินแล้ว

และในระหว่างที่เสิ่นเทียนกำลังเดินทาง ข่าวของเขาได้แพร่กระจายไปทั่วสวนหมื่นวิญญาณแล้ว

“ได้ข่าวหรือยัง สวนหมื่นวิญญาณของเรามี ‘ท่านเซียน’ ถือกำเนิดขึ้น ค้นวิญญาณประเมินแร่แม่นมาก”

“ข้าได้ยินมาว่าเขาเลือก ‘น้ำเต้าเซียนม่วงคราม’ ของร้านวิญญาณอริยะ เปิดออกมาเป็นเมล็ดเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียน สามารถปลุกออกมาเป็นพฤกษาวิญญาณพิทักษ์เขาที่ไร้เทียมทาน”

“ไม่ๆๆ ไม่ใช่เมล็ดน้ำเต้า มันเป็นร่างของเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียนที่โตเต็มวัย ได้ยินมาว่าน้ำเต้าชิ้นนั้นส่องแสงประกายเจ็ดสี มีความหมายที่ลึกซึ้งของเต๋าแฝง แค่ได้เห็นแวบเดียวก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว!”

“แต่ทำไมข้าได้ยินมาว่า เหมือนจะได้ทารกจากแร่เซียน เหนือศีรษะของทารกนั้นมีน้ำเต้าเซียนเจ็ดสี เกิดมาพร้อมกับความสูงศักดิ์ล่ะ!”

“ไม่ถูก พวกเจ้าเข้าใจผิดกันหมดแล้ว ตอนนั้นข้าอยู่ในเหตุการณ์”

ไม่ใช่ท่านเซียนเปิดแร่ แต่เป็นท่านเซียนช่วยเทพธิดาหลี่เหลียงเอ๋อร์ของแดนเทวาดาวประกายพรึกค้นวิญญาณประเมินแร่

เขาบอกให้คุณหนูหลี่เหลียงเอ๋อร์เลือกสมบัติประจำร้านของร้านวิญญาณอริยะ

ในน้ำเต้าเซียนม่วงครามชิ้นนั้นมีน้ำเต้าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพอยู่ อ้างตนว่ามีวาสนากับเทพธิดาเหลียงเอ๋อร์ ยินดีเป็นผู้พิทักษ์เส้นทางเต๋าของเทพธิดาเหลียงเอ๋อร์

ข่าวลือยิ่งร้อนแรงขึ้นทุกที ตอนที่แพร่กระจายไปถึงร้านวิญญาณสวรรค์ ไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีกแล้ว

“เขานามวสันต์ ถ้ำหุบเหวเดียวดาย เสิ่นเอ้าเทียนลูกศิษย์สังกัดผู้สูงศักดิ์เทียนจี”

“ช่วยเทพธิดาตระกูลหลี่เลือกน้ำเต้าเซียนม่วงคราม ปรากฏว่าเปิดออกมาเป็นน้ำเต้ามหาจักรพรรดิ ยินดีปกป้องตระกูลหลี่พันปี ช่วยหนุนแดนเทวดาดาวประกายพรึกขึ้นเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์”

ตอนที่ได้ยินข่าวเรื่องนี้ มุมปากของเถ้าแก่ซ่งกระตุก

ใครที่เชื่อข่าวเรื่องนี้แสดงว่าเป็นคนโง่ของจริง!

ใบหน้าของคุณชายซ่งที่อยู่ด้านข้างหายบวมแล้ว ฟันก็ทำการเสริมมาใหม่เรียบร้อย

“เสิ่นเอ้า เสิ่นเอ้าเทียน ท่านพ่อว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่”

“มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคนเดียวกัน เพราะเสิ่นเอ้าก็เป็นลูกศิษย์ของแดนเทวาดาวประกายพรึก”

“ข้าเพิ่งถูกทำร้ายไปเมื่อครู่ จากนั้นก็เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หรือว่าตระกูลหลี่กำลังเตือนพวกเรา?”

“แค่กระทืบเจ้า แดนเทวาดาวประกายพรึกและตระกูลหลี่ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายด้วยซ้ำ เลิกคิดมากได้แล้ว”

เถ้าแก่ซ่งลูบหนวดของตนเอง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “ในความคิดของข้า มีความเป็นไปได้สองอย่าง”

“อย่างแรก ตระกูลหลี่ได้รับการช่วยเหลือจากท่านเซียนที่ผู้คนกล่าวถึงจนได้รับของที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง กังวลว่ามีคนคิดร้าย ดังนั้นจึงจงใจสั่งให้คนกวนน้ำให้ขุ่น มีทั้งน้ำเต้าทารกเอย น้ำเต้าผู้สูงศักดิ์สวรรค์เอย หรือแม้กระทั่งน้ำเต้ามหาจักรพรรดิ ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ผู้คนสับสน จะได้หลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น

อย่างที่สอง! บางทีอาจจะกำลังสร้างกระแสแทนเสิ่นเอ้า เป็นอย่างที่เจ้าพูด เสิ่นเอ้าเพิ่งรู้ว่าเสี่ยวหลิงเซียนกับพวกเราร่วมมือกัน จากนั้นก็เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

มีความเป็นไปได้ที่ตระกูลหลี่รู้สึกว่าผลลัพธ์ของการใช้นกต่ออย่างเสี่ยวหลิงเซียนไม่เลว ดังนั้นจึงจงใจส่งเสิ่นเอ้าออกมาเป็นนกต่อกระตุ้นความต้องการของเหล่าผู้หญิงที่บำเพ็ญเซียน

ส่วนพวกข่าวลือในสวนน่าจะเป็นการจงใจแต่งเรื่องเพื่อดึงดูดความสนใจ”

เถ้าแก่ซ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “แต่ไม่ว่าจะเป็นความเป็นไปได้อย่างไหน ขอเพียงมั่นใจว่าเบื้องหลังของเขามีตระกูลหลี่คอยสนับสนุน ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะล่วงเกินคนผู้นี้ไม่ได้เด็ดขาด”

อย่างไรก็ตาม ตระกูลหลี่ในแดนเทวาดาวประกายพรึกเป็นกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่

เมื่ออยู่ต่อหน้าร้านวิญญาณสวรรค์ พวกเขาก็เป็นได้เพียงมดปลวกเท่านั้น

……………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 21 เปิดน้ำเต้ามหาจักรพรรดิออกมาจากแร่เซียน?

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 21 เปิดน้ำเต้ามหาจักรพรรดิออกมาจากแร่เซียน? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 21 เปิดน้ำเต้ามหาจักรพรรดิออกมาจากแร่เซียน?
“เหลียงเอ๋อร์ พวกเราต้องรีบกลับแดนเทวาดาวประกายพรึก บอกลาน้องเสิ่นเถอะ!”

เห็นน้องสาวของตนเองยอมแม้กระทั่งเอาของขวัญครบรอบวันเกิดอายุสิบหกที่ท่านพ่อเป็นคนมอบให้ยกให้เสิ่นเทียน

ในหัวของหลี่ฉางเกอเหลือเพียงความคิดเดียว ‘ยัยเด็กผู้หญิงคนนี้เลี้ยงเสียข้าวสุก’

เจ้าทำเช่นนี้ เคยนึกถึงความรู้สึกของท่านพ่อหรือไม่

ต้องบอกก่อน กระบี่วารีครามเป็นถึงอาวุธวิญญาณ การดำรงอยู่ของมันเหนือกว่าอาวุธอาคม!

ในท้องตลาดการบำเพ็ญเซียน อาวุธวิญญาณหนึ่งชิ้นมีค่าเท่ากับผลึกวิญญาณอย่างน้อยร้อยก้อน

ลองคำนวณดูก็คือศิลาวิญญาณหนึ่งแสนก้อน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงกระบี่วารีครามที่เป็นของชั้นสูงในบรรดาอาวุธวิญญาณ มูลค่าของมันสามารถเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อยหลายเท่าตัว

ปัดเศษออกก็อยู่ที่ประมาณหนึ่งล้าน!

ของที่ล้ำค่ามากเช่นนี้ นำมามอบให้กันเช่นนี้เลยหรือ

เจ้าตัวบ่อนทำลาย!

หลี่ฉางเกอไม่กล้าปล่อยให้น้องสาวอยู่กับเสิ่นเทียนแล้ว

ไม่เช่นนั้น ใครจะไปรู้ว่านางจะมอบของอะไรอีก!

“น้องเสิ่น เมล็ดเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียนเป็นเรื่องสำคัญ ข้าขอพาเหลียงเอ๋อร์ไปก่อน”

“รอให้เจ้าปรึกษากับอาจารย์ของเจ้าเรียบร้อยแล้ว ข้าและท่านพ่อจะรอต้อนรับขบวนของพวกเจ้าบนยอดเขาดอกบัวแดนเทวดาวประกายพรึก”

กล่าวจบ หลี่ฉางเกอดึงตัวหลี่เหลียงเอ๋อร์ ทั้งคู่กลายเป็นลำแสงกระบี่สายหนึ่งพุ่งออกไป

หายลับไปในสุดขอบฟ้าชั่วพริบตา

“ฟู่!”

จนกระทั่งตอนนี้ เสิ่นเทียนถึงรู้สึกโล่งอก

ในที่สุดก็หลุดพ้นแล้ว!

ช่วยไม่ได้ ช่วยไม่ได้จริงๆ

แค่มาเดิมพันหินทั่วไป แต่กลับมาพบวาสนาคู่ครองที่พิลึกพิลั่นเช่นนี้ได้อย่างไร!

ชาติที่แล้วเสิ่นเทียนก็ใช่ว่าจะไม่เคยสารภาพรักผู้หญิง และใช่ว่าจะไม่เคยพูดคำว่าข้าชอบเจ้า

แต่สุดท้ายผู้หญิงก็ไม่ได้ตอบตกลงยอมคบหากับเขา!

แต่ทำไมพอมาถึงที่นี่ เขายังไม่ทันได้คิดอะไรกับหลี่เหลียงเอ๋อร์เลย!

พูดเพียงคำว่า ‘เทพธิดากับข้ามีวาสนาต่อกัน’ ที่เรียบง่ายประโยคเดียว

นี่เป็นบทพูดของ NPC ไม่ว่ากับใครก็จะพูดเช่นนี้!

แต่ปรากฏว่านางเป็นคนประเภทชอบแต่งเติมสร้างโลกจินตนาการของตนเอง คิดเข้าข้างตนเองไปเสียแล้ว

ช่างเป็นการกลั่นแกล้งคนที่เกิดมาหน้าตาดีเสียเหลือเกิน!

เสิ่นเทียนถอนหายใจ มองทิศทางที่จากไปของหลี่เหลียงเอ๋อร์และหลี่ฉางเกอ

เขารู้ว่าสิ่งที่หลี่ฉางเกอกล่าวมานั้นง่าย แต่การกลับแดนเทวาประกายพรึกครั้งนี้ จะต้องไม่ราบรื่นอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ดี สมบัติชั้นสูงอย่างเมล็ดเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียนมีแรงดึงดูดมากเกินไป

แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

เสิ่นเทียนเคยลองสังเกตดู ก่อนที่หลี่เหลียงเอ๋อร์จะได้รับเมล็ดเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียน วงรัศมีแห่งโชคคือสีแดงบริสุทธิ์

หลังจากที่ได้รับเมล็ดน้ำเต้าเซียน ก็ปรากฏมีแสงสีทองจางๆ ปะปน

คนเพี้ยนก็มีวาสนาของคนเพี้ยน

ดวงชะตาถึงขั้นสูงเท่ากับฉินเกา

ส่วนดวงชะตาของหลี่ฉางเกอ แม้เทียบหลี่เหลียงเอ๋อร์ไม่ได้ แต่ก็เป็นวงรัศมีสีแดงอมเขียว

ดวงชะตาของคนทั้งสองเป็นหงส์และมังกรในหมู่มนุษย์ เป็นผู้มีโชคอันประเสริฐในโลกบำเพ็ญเซียน

จะต้องเป็นบุคคลระดับแนวหน้าแน่นอน!

“หากมีวาสนาแล้วเจอกันใหม่!”

“หวังว่าเวลานั้น ข้าจะกลายเป็นบุตรแห่งโชคชะตาแล้ว”

“หวังว่าเวลานั้น พ่อของเจ้าจะสู้ข้าไม่ได้”

เสิ่นเทียนยิ้มเล็กน้อย เก็บกระบี่วารีครามที่อยู่บนพื้นขึ้นมา

พูดถึงกระบี่วารีครามแลดูเรียวและบาง แต่พอถือไว้ในมือมีน้ำหนักพอสมควร

ลองประเมินดู อย่างน้อยก็ต้องหนักยี่สิบหรือสามสิบชั่ง หนักใช้ได้

ทว่าทันใดนั้น เสิ่นเทียนเหมือนนึกอะไรขึ้นได้

เมื่อมองดูสวนหมื่นวิญญาณที่อยู่ห่างจากตนเองหลายสิบลี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเสิ่นเทียนแข็งทื่อ

“หลี่ฉางเกอไอ้เจ้าคนหวงน้องสาว อย่างน้อยก็ควรส่งข้ากลับไปก่อนสิ!”

“ข้ายังฝึกไม่ถึงระดับแดนหลอมปราณเลยด้วยซ้ำ เหยียบกระบี่เหาะก็ไม่เป็น!”

“ในป่าที่รกร้างเช่นนี้ คงจะไม่มีสัตว์อสูรออกมาหรอกกระมัง!”

โชคดีคือหลังจากเดินข้ามเขาหนึ่งลูก

เสิ่นเทียนพบว่าตำแหน่งที่ตนเองอยู่ไม่ใช่สถานที่รกร้าง แต่เป็นเส้นทางที่ถูกเปิดโดยราชสำนัก

โดยทั่วไปแล้ว สัตว์อสูรจะไม่มาโผล่บนถนนหลวง และบนถนนหลวง มีรถม้าไม่น้อยที่เดินทางไปมาจากสวนหมื่นวิญญาณ

ขอเพียงไม่โชคร้ายมากนัก คาดว่าน่าจะมีรถม้าผ่านมาในไม่ช้า

‘เดี๋ยวก่อน ขอเพียงไม่โชคร้ายมากนักหรือ’

ลูบศีรษะของตนเอง เสิ่นเทียนนิ่งคิดไปชั่วครู่

เขายังไม่สามารถชำระล้างวงรัศมีกลายเป็นสีขาวอย่างสมบูรณ์!

เสิ่นเทียนไม่รู้ว่า ที่แท้เหตุเพราะมีสัตว์อสูรออกอาละวาดบนถนนด้านหลังนี้

ดังนั้นวันนี้ถนนหลวงเส้นนี้จึงถูกปิด ต้องกำจัดสัตว์อสูรก่อนจึงสามารถกลับมาใช้ได้ตามปกติ

ดังนั้นบนถนนหลวงเส้นนี้จึงไม่มีรถม้าวิ่งผ่าน

แต่ว่าเขาก็ไม่ได้คิดจะยืนรอโง่ๆ อยู่ข้างถนน

มีเพียงคนที่ไร้ความสามารถถึงนำความหวังไปฝากไว้ที่โชค

คนหนุ่มสาวที่ฉลาดมีแต่จะพัฒนาตนเองให้แข็งแกร่งขึ้น พึ่งตัวเอง!

ก็แค่ทางสิบกว่าลี้เอง!

ก็แค่มีกระบี่วารีครามที่หนักยี่สิบหรือสามสิบชั่งสะพายอยู่ด้านหลังเอง!

ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะเดินกลับไปไม่ได้!

ตอนที่เสิ่นเทียนเดินกลับไปถึงสวนหมื่นวิญญาณ ตะวันตกดินแล้ว

และในระหว่างที่เสิ่นเทียนกำลังเดินทาง ข่าวของเขาได้แพร่กระจายไปทั่วสวนหมื่นวิญญาณแล้ว

“ได้ข่าวหรือยัง สวนหมื่นวิญญาณของเรามี ‘ท่านเซียน’ ถือกำเนิดขึ้น ค้นวิญญาณประเมินแร่แม่นมาก”

“ข้าได้ยินมาว่าเขาเลือก ‘น้ำเต้าเซียนม่วงคราม’ ของร้านวิญญาณอริยะ เปิดออกมาเป็นเมล็ดเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียน สามารถปลุกออกมาเป็นพฤกษาวิญญาณพิทักษ์เขาที่ไร้เทียมทาน”

“ไม่ๆๆ ไม่ใช่เมล็ดน้ำเต้า มันเป็นร่างของเจ็ดสมบัติน้ำเต้าเซียนที่โตเต็มวัย ได้ยินมาว่าน้ำเต้าชิ้นนั้นส่องแสงประกายเจ็ดสี มีความหมายที่ลึกซึ้งของเต๋าแฝง แค่ได้เห็นแวบเดียวก็ไม่เสียชาติเกิดแล้ว!”

“แต่ทำไมข้าได้ยินมาว่า เหมือนจะได้ทารกจากแร่เซียน เหนือศีรษะของทารกนั้นมีน้ำเต้าเซียนเจ็ดสี เกิดมาพร้อมกับความสูงศักดิ์ล่ะ!”

“ไม่ถูก พวกเจ้าเข้าใจผิดกันหมดแล้ว ตอนนั้นข้าอยู่ในเหตุการณ์”

ไม่ใช่ท่านเซียนเปิดแร่ แต่เป็นท่านเซียนช่วยเทพธิดาหลี่เหลียงเอ๋อร์ของแดนเทวาดาวประกายพรึกค้นวิญญาณประเมินแร่

เขาบอกให้คุณหนูหลี่เหลียงเอ๋อร์เลือกสมบัติประจำร้านของร้านวิญญาณอริยะ

ในน้ำเต้าเซียนม่วงครามชิ้นนั้นมีน้ำเต้าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพอยู่ อ้างตนว่ามีวาสนากับเทพธิดาเหลียงเอ๋อร์ ยินดีเป็นผู้พิทักษ์เส้นทางเต๋าของเทพธิดาเหลียงเอ๋อร์

ข่าวลือยิ่งร้อนแรงขึ้นทุกที ตอนที่แพร่กระจายไปถึงร้านวิญญาณสวรรค์ ไม่เหลือเค้าโครงเดิมอีกแล้ว

“เขานามวสันต์ ถ้ำหุบเหวเดียวดาย เสิ่นเอ้าเทียนลูกศิษย์สังกัดผู้สูงศักดิ์เทียนจี”

“ช่วยเทพธิดาตระกูลหลี่เลือกน้ำเต้าเซียนม่วงคราม ปรากฏว่าเปิดออกมาเป็นน้ำเต้ามหาจักรพรรดิ ยินดีปกป้องตระกูลหลี่พันปี ช่วยหนุนแดนเทวดาดาวประกายพรึกขึ้นเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์”

ตอนที่ได้ยินข่าวเรื่องนี้ มุมปากของเถ้าแก่ซ่งกระตุก

ใครที่เชื่อข่าวเรื่องนี้แสดงว่าเป็นคนโง่ของจริง!

ใบหน้าของคุณชายซ่งที่อยู่ด้านข้างหายบวมแล้ว ฟันก็ทำการเสริมมาใหม่เรียบร้อย

“เสิ่นเอ้า เสิ่นเอ้าเทียน ท่านพ่อว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกันหรือไม่”

“มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นคนเดียวกัน เพราะเสิ่นเอ้าก็เป็นลูกศิษย์ของแดนเทวาดาวประกายพรึก”

“ข้าเพิ่งถูกทำร้ายไปเมื่อครู่ จากนั้นก็เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น หรือว่าตระกูลหลี่กำลังเตือนพวกเรา?”

“แค่กระทืบเจ้า แดนเทวาดาวประกายพรึกและตระกูลหลี่ไม่จำเป็นต้องมีคำอธิบายด้วยซ้ำ เลิกคิดมากได้แล้ว”

เถ้าแก่ซ่งลูบหนวดของตนเอง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “ในความคิดของข้า มีความเป็นไปได้สองอย่าง”

“อย่างแรก ตระกูลหลี่ได้รับการช่วยเหลือจากท่านเซียนที่ผู้คนกล่าวถึงจนได้รับของที่ไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง กังวลว่ามีคนคิดร้าย ดังนั้นจึงจงใจสั่งให้คนกวนน้ำให้ขุ่น มีทั้งน้ำเต้าทารกเอย น้ำเต้าผู้สูงศักดิ์สวรรค์เอย หรือแม้กระทั่งน้ำเต้ามหาจักรพรรดิ ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ผู้คนสับสน จะได้หลีกเลี่ยงปัญหาที่ไม่จำเป็น

อย่างที่สอง! บางทีอาจจะกำลังสร้างกระแสแทนเสิ่นเอ้า เป็นอย่างที่เจ้าพูด เสิ่นเอ้าเพิ่งรู้ว่าเสี่ยวหลิงเซียนกับพวกเราร่วมมือกัน จากนั้นก็เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

มีความเป็นไปได้ที่ตระกูลหลี่รู้สึกว่าผลลัพธ์ของการใช้นกต่ออย่างเสี่ยวหลิงเซียนไม่เลว ดังนั้นจึงจงใจส่งเสิ่นเอ้าออกมาเป็นนกต่อกระตุ้นความต้องการของเหล่าผู้หญิงที่บำเพ็ญเซียน

ส่วนพวกข่าวลือในสวนน่าจะเป็นการจงใจแต่งเรื่องเพื่อดึงดูดความสนใจ”

เถ้าแก่ซ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบ “แต่ไม่ว่าจะเป็นความเป็นไปได้อย่างไหน ขอเพียงมั่นใจว่าเบื้องหลังของเขามีตระกูลหลี่คอยสนับสนุน ถ้าเช่นนั้นพวกเราจะล่วงเกินคนผู้นี้ไม่ได้เด็ดขาด”

อย่างไรก็ตาม ตระกูลหลี่ในแดนเทวาดาวประกายพรึกเป็นกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่

เมื่ออยู่ต่อหน้าร้านวิญญาณสวรรค์ พวกเขาก็เป็นได้เพียงมดปลวกเท่านั้น

……………………………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+