บทที่ 418 ฮวงสือออกคำสั่ง จี้เซี่ยเปิดรับสมัคร!

หวังเสินซวีมองโอสถเสริมสวรรค์ในมือพลางรู้สึกกระบอกตาร้อนผ่าว

“สหายเสิ่นมีคุณธรรมสูงเทียมฟ้า ท่านเป็นผู้ยิ่งใหญ่จริงๆ!”

หวังเสินซวีความสุขในใจมาก!

อู้หู! อู้หู!

โอสถเสริมสวรรค์! โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า!

โอสถนี่ลงท้อง แซ่หวังจะไม่บินขึ้นเลยรึ

หวังเสินซวีเอาโอสถเสริมสวรรค์ใส่ปากอย่างไม่ลังเล ก่อนจะเริ่มหลอมรวม

ไม่นานผิวกายเขาก็เปล่งแสงเทพ รอบตัวแผ่กลิ่นอายพลังที่ยิ่งใหญ่ยิ่ง

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภามองไปทางหวังเสินซวีไกลๆ นัยน์ตาพลันฉายแววเฝ้ารอคอย

หวังเสินซวีมีกายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา!

เมื่อได้กินโอสถนี้ ไม่ว่าจะคุณสมบัติกายหรือพรสวรรค์ก็จะผลัดเปลี่ยน!

นั่นจะไม่ได้หมายความว่าข้าก็จะได้ประกาศต่อทุกคนว่า ‘ศิษย์ข้าเสินซวีมีคุณสมบัติแห่งมหาจักรพรรดิ’ หรือ

อืม

ก่อนหน้านี้เหมือนว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงจะโอ้อวดต่อหน้าข้าเช่นนี้ รอเสินซวีหลอมรวมโอสถเสริมสวรรค์ก่อน ข้าจะดูว่าเจ้านั่นจะอวดต่อไปอย่างไร คงต้องอิจฉาจนตายแน่!

อ๊าก~

ความรู้สึกได้ลืมตาอ้าปากนี้ แค่คิดก็มีความสุขมากแล้ว!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภามีใบหน้าเฝ้ารอคอยและใฝ่ฝัน เหมือนว่าได้เห็นแววตาอิจฉาริษยาของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงแล้ว

เขาลืมไปเลยว่าก่อนหน้านี้ เขาเกือบจะอดใจไม่ไหวสังหารศิษย์ชั่วของตน

….

จะว่าไป โอสถเสริมสวรรค์ได้มาง่ายๆ เช่นนี้เลยรึ

เดี๋ยวข้าไปลองดูดีหรือไม่

ทันใดนั้น เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาก็เกิดความคิดอันกล้าหาญขึ้น แต่เขามองเสิ่นเทียน ก่อนจะมองพวกรุ่นเยาว์ สุดท้ายก็ส่ายหน้า

มีคนอยู่ล้อมรอบมากไปจริงๆ เขาวางเกียรตินี้ลงไม่ได้ ถึงอย่างไรก็เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาผู้ยิ่งใหญ่ ก็ต้องมีเกียรติเหมือนกัน

ตอนนี้เอง เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เดินมาจากด้านข้างช้าๆ

ความคิดที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาเพิ่งกดลงไปก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ถึงข้าจะวางเกียรติไปหารุ่นเยาว์พวกนั้นไม่ได้ แต่ก็ยังมีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไง!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาเคลื่อนความคิด ก่อนจะรีบเดินเข้าไป “สหายหลงหยวน ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า!”

……

เปรี้ยง!

หวังเสินซวีที่กินโอสถเสริมสวรรค์ไปแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ข้างหลังเขายิงแสงหมื่นจั้ง ห้วงอากาศสั่นไหวครั้งแล้วครั้งเล่า เหนี่ยวนำเป็นมิติไร้รูปหลายชั้น

ภายใต้การเสริมด้วยพลังของมิตินี้ ร่างหวังเสินซวีกลายเป็นมายาลอยล่อง เหมือนจะหลอมรวมเข้าไปในความว่างเปล่า

ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่ห้วงอากาศข้างหลังเขายังกลายเป็นภาพมายา ราวกับมีมิติเปิดออก สะท้อนออกมาเป็นโลกมิติ!

พลังอำนาจหมุนม้วนไปแปดทิศ ดึงดูดสายตาสนใจของคนมากมาย

“นี่คือกายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภารึ”

“มิติไร้พรมแดนนั่น ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ยังหนาวสั่นเลย”

มีคนร้องตกใจ มองหวังเสินซวีที่กำลังผลัดเปลี่ยนคุณสมบัติกายด้วยแววตาตื่นตกใจ

สายเลือดท้องนภาแข็งแกร่งอย่างยิ่งมาแต่โบราณแล้ว มีพลังควบคุมมิติ สู้กับผู้บำเพ็ญคนอื่นข้ามขั้นได้ง่ายๆ

เพียงแต่ว่าสายเลือดนี้มีอายุขัยไม่มาก ใช้ชีวิตเป็นต้นกำเนิดกระตุ้นกำลังรบที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะกายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา ทุกคนมีอายุสั้นตายแต่เยาว์วัย

ดังนั้นถึงทุกคนจะกลัวสายเลือดท้องนภา แต่ก็ไม่ถึงกับเกรงกลัว

ทว่าตอนนี้เมื่อดูดซับพลังโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า กายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาของหวังเสินซวีเกิดการผลัดเปลี่ยน อานุภาพของคุณสมบัติกายนี้แกร่งขึ้นอย่างมาก!

ราวกับว่ารวมกับห้วงอากาศเป็นหนึ่งเดียว กลายเป็นผู้ควบคุมมิติ!

ไม่ใช่แค่นั้น แม้แต่กลิ่นอายชีวิตของหวังเสินซวียังฟื้นฟูกลับมาอย่างรวดเร็ว

เส้นผมขาวดอกเลาในตอนแรกกลายเป็นผมดำ ขอบตาดำเหมือนหมีแพนดาก็หายไปทั้งหมด ทุกส่วยในร่างกายเขาแผ่พลังชีวิตที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกัน พลังบำเพ็ญของหวังเสินซวีก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดดวงจิตดรุณถึงหยุดลง

ด้วยโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้านี้ หวังเสินซวีไม่ใช่แค่ให้คุณสมบัติกายตัวเองผลัดเปลี่ยน แม้แต่การเผาอายุขัยตลอดหลายปีมานี้ยังฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด

ตอนนี้ หวังเสินซวีเรียกได้ว่ามีจิตใจเร่าร้อนฮึกเหิม!

บึ้ม!

กลิ่นอายพลังหลั่งทะลักอย่างบ้าคลั่ง

แสงเทพส่องสว่างมาจากในกาย กลิ่นอายพลังยิ่งใหญ่ถึงขีดสุด

ยามนี้ หวังเสินซวีเหมือนกับเทพเจ้าผู้ควบคุมท้องนภาทั้งหมด มาเยือนโลกมนุษย์!

ฉีเซ่าเสวียนด้านข้างยอมรับว่าเขาอิจฉา!

โอสถเสริมสวรรค์นี่ แม้แต่ผู้อริยะยังสนใจ แล้วนับประสาอะไรกับเขา

แม้แต่หวังเสินซวียังได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเสริมพลัง ได้เพิ่มศักยภาพอย่างมาก

หากเขาฉีเซ่าเสวียนได้โอสถนี้ จะไม่แกร่งขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร

แต่ดีเลวอย่างไรเขาก็เป็นอดีตอันดับหนึ่งในดินแดนบูรพา มีความโอหัง จะไปเหมือนหวังเสินซวีได้อย่างไร เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะหน้าด้านขนาดนั้น!

นี่ทำให้สถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาก

ฉีเซ่าเสวียนอยากได้โอสถเสริมสวรรค์แต่ก็อายที่จะเลีย จึงได้แต่มองเสิ่นเทียนด้วยความคับอกคับใจ

ลูกประคำในอกเสื้อเสิ่นเทียนสั่นไหวขึ้นมา “นายท่าน จิ่วเอ๋อร์รู้สึกถึงแรงอาฆาตรุนแรงจากตัวบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง!”

เสิ่นเทียนงุนงง

เสิ่นเทียนหันไปมองก็เห็นฉีเซ่าเสวียนมองตนด้วยความคับแค้นใจมาก

ท่าทางนั้น เหมือนกับภรรยาน้อยที่ไม่ได้รับความโปรดปรานเลย

…..

เสิ่นเทียนเห็นดังนั้นก็เผยรอยยิ้ม

เขาจะไม่เข้าใจความคิดฉีเซ่าเสวียนได้อย่างไร

ถึงอย่างไรไอคิวของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เป็นที่ยอมรับว่าสูงส่ง!

เพราะให้โอสถเสริมสวรรค์ไปมากขนาดนั้นแล้ว ก็จะขาดคนนี้ไปไม่ได้!

มิหนำซ้ำฉีเซ่าเสวียนก็เป็นบุตรแห่งมหาโชคที่มีวงรัศมีสีม่วง!

กุยช่ายคุณภาพสูงเช่นนี้ เสิ่นเทียนไม่รังเกียจเลยถ้าจะได้มาเยอะๆ!

ตอนนี้เองหวังเสินซวีพุ่งเข้าไปก่อน ขวางหน้าฉีเซ่าเสวียนอย่างองอาจห้าวหาญ เห็นเขาเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง แสงหมื่นจั้งข้างหลังโอ่อ่ายิ่งใหญ่ ความรู้สึกโอ้อวดมาเต็ม

เขาชำเลืองตามองฉีเซ่าเสวียนอย่างเฉยชา “ผู้อาวุโสฉี กล้าสู้กันหน่อยหรือไม่”

ตอนนี้ในใจหวังเสินซวีกำลังลำพองใจ!

สายเลือดท้องนภาไม่อ่อนแอกว่าใครมาแต่โบราณกาลแล้ว!

แต่เขาถูกฉีเซ่าเสวียนกดอยู่เหนือกว่ามาตลอด คับอกคับใจมาก

หากไม่ใช่เพราะอายุขัยเขาไม่พอสู้กับฉีเซ่าเสวียน บางทีสองคนอาจจะตัดสินแพ้ชนะกันไปนานแล้ว แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน แซ่หวังได้โอสถมา! กำลังรบเพิ่มขึ้น อายุขัยฟื้นกลับมา!

ข้าคิดว่าข้าพร้อมแล้ว!

หลังกินโอสถ หวังเสินซวีก็ก้าวออกมาในทันที ท้าสู้กับฉีเซ่าเสวียน

เขาจะระบายโทสะที่ได้รับมาตลอดหลายปีมานี้ออกไปให้หมด

เมื่อเห็นดังนั้น ฉีเซ่าเสวียนก็เงียบ

เขารู้สึกว่าศักยภาพของหวังเสินซวีเพิ่มมากขึ้น ต่อให้เป็นเขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะได้!

แม้จะเป็นเช่นนั้น ภายในกายฉีเซ่าเสวียนก็ยังมีไอม่วงมหาศาล ถือง้าวมังกรสวรรค์ลง จิตต่อสู้ฮึกเหิม

ข้าแซ่ฉีมีปณิธานว่าจะเป็นอันดับหนึ่งใต้ฟ้า จะไปกลัวคนปณิธานต่ำต้อยได้อย่างไร

ถ้าเจ้าจะสู้ ข้าก็จะสู้กับเจ้า!

หวังเสินซวีหัวเราะเหอะๆ “ผู้อาวุโสฉีเอ๋ย! ตอนนี้เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ข้าแล้ว! วันนี้ แซ่หวังจะสับเจ้าให้ตาย!”

หวังเสินซวีร้องสุขสบายในใจ ไม่ได้ลืมตาอ้าปากเช่นนี้มานานมาก!

นับจากนี้ไป อันดับหนึ่งใต้ฟ้าจะเป็นของข้าแซ่หวัง!

วะฮ่าๆๆๆๆ~

แค่คิดก็มีความสุขแล้ว!

ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนเดินเข้ามาช้าๆ “สหายฉี ก่อนหน้านี้ลืมไป โอสถเสริมสวรรค์นี่ข้าเตรียมมาให้เจ้า!”

เสิ่นเทียนนำโอสถเสริมสวรรค์ออกมาส่งให้ในมือฉีเซ่าเสวียน!

ฉีเซ่าเสวียนตกใจ

หวังเสินซวีงุนงง

ระ…ระยำ นี่ข้าเลียไปเสียเปล่ารึ

หวังเสินซวีเบิกตาโตมาก ตัวแข็งอยู่กับที่

ฉีเซ่าเสวียนทำหน้าซาบซึ้งใจ “สหายเสิ่น แซ่ฉีไม่…”

ใช่ เดิมทีฉีเซ่าเสวียนคิดจะเกรงใจ แต่ก็พูดไม่ออกจริงๆ

สรรพคุณของโอสถนี้เผยออกมาแล้ว แม้แต่ขยะอย่างหวังเสินซวียังเปลี่ยนแปลงไปมาก

เขาฉีเซ่าเสวียนจะไม่สนใจได้อย่างไร!

ปกติ จะต้องบอกปัดไปปัดมาเกรงใจกัน แต่ฉีเซ่าเสวียนกังวลว่าถ้าเขาเกรงใจ แล้วเสิ่นเทียนเอากลับไปจริงๆ จะทำอย่างไร

อยู่ต่อหน้าโอสถเทพสูงสุดเช่นนี้ ต่อให้เป็นฉีเซ่าเสวียนก็ยังอดนึกถึงส่วนได้ส่วนเสียมิได้

“สหายเสิ่น บุญคุณยิ่งใหญ่ไม่อาจแค่เอ่ยขอบคุณได้ ภายภาคหน้าหากมีอะไรให้แซ่ฉีช่วย ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟเป็นตายอะไรก็ไม่ปฏิเสธ!”

ฉีเซ่าเสวียนป้องมืออย่างจริงจัง ซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง

สหายเสิ่นมีจิตใจโอบอ้อมอารีเช่นนี้ แม้แต่โอสถสูงสุดอย่างโอสถเสริมสวรรค์ยังยินดีมอบให้

ความต่างระหว่างข้ากับสหายเสิ่นเหมือนกับร่องหุบเขาโลกกับสวรรค์ ไกลไม่อาจเอื้อมถึง!

แต่อันดับหนึ่งใต้ฟ้ารองจากสหายเสิ่น จะต้องเป็นของแซ่ฉี!

ฉีเซ่าเสวียนกำโอสถเสริมสวรรค์ จิตต่อสู้ฮึกเหิมถึงที่สุด

……

เขามองหวังเสินซวีที่อยากจะร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตาพลางเอ่ยอย่างเฉยชา “แซ่ฉีกินโอสถเสริมสวรรค์ก่อนแล้วจะมาศึกษามรรคกับเจ้า!

แซ่ฉีอยากรู้นักว่าจะเป็นกระดูกเจ้าแข็ง หรือง้าวมังกรสวรรค์ของแซ่ฉีที่แข็งกว่ากัน!

หวังเสินซวี อย่าหนีไปไหนละ!”

ฉีเซ่าเสวียนชำเลืองตามองหวังเสินซวีแวบหนึ่ง ก่อนจะนั่งลงทันที เริ่มกินโอสถ

หลังได้โอสถเสริมสวรรค์มา ความมั่นใจของฉีเซ่าเสวียนก็กลับมาอีกครั้ง!

บุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาหวังเสินซวีอะไรนั่น กายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาอะไรนั่น เดี๋ยวจะสอนให้เจ้าเป็นคนเอง!

ทางด้านหวังเสินซวีข้างกายมีสีหน้าเปลี่ยนไปหลากหลาย เดี๋ยวแดงเดียวขาว เหมือนกับแสดงเปลี่ยนหน้ากาก

แม้หวังเสินซวีจะฟื้นอายุขัยที่เสียไปก่อนหน้านี้กลับมาทั้งหมด ไม่ว่าจะคุณสมบัติกายหรือศักยภาพก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แต่เจ้าฉีเซ่าเสวียนนี่ ก็ยังดูถูกไม่ได้ง่ายๆ!

ฉีเซ่าเสวียนเคยเป็นอันดับหนึ่งในดินแดนบูรพา และยังได้โอสถสูงสุดเสริมสวรรค์เบิกฟ้าช่วย เกรงว่ากำลังรบคงเพิ่มขึ้นอีกแน่นอน

แม้แซ่หวังจะไม่กลัวเจ้าคนแซ่ฉีนี่ แต่ก็ไม่มีความจำเป็นจริงๆ

ใช่ ไม่จำเป็นเลย!

ถึงอย่างไรคนอื่นสู้กันเสียพลังฤทธิ์ แต่ข้าสู้ใช้ชีวิต!

ต่อให้มีอายุขัยมากกว่านี้ ข้าก็จะเสียไปง่ายๆ เช่นนี้ไม่ได้!

ผีเท่านั้นที่รู้ว่าถ้าสู้กับเจ้าคนแซ่ฉีนี่ จะต้องเสียอายุไปกี่ปี

เมื่อคิดได้ดังนั้น หวังเสินซวีก็กลัว…

ไม่ใช่กลัว แต่ยอมต่างหาก!

เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “สหายฉี ก่อนหน้านี้แซ่หวังล้อเจ้าเล่นน่ะ! เหอะ…เหอะๆ…เหอๆๆ!”

ฉีเซ่าเสวียนชำเลืองตามองเขาทีหนึ่ง ก่อนพูดอย่างเฉยชา “อย่าหนีไปไหนแล้วกัน!”

หวังเสินซวีหน้าแข็งทื่อนิดๆ “เจ้าคนแซ่ฉี เจ้าอย่าทำเกินไปนัก!”

“อย่าหนีละ!”

“อย่าคิดว่าแซ่หวังกลัวเจ้านะ เชื่อหรือไม่ว่าข้าจะเผาอายุขัยทั้งหมดสับเจ้าให้ตาย”

“อย่าหนี!”

หวังเสินซวีทำหน้าจะร้องไห้

“สหายเสิ่น จู่ๆ ข้าก็นึกได้ว่ามีธุระที่บ้าน หลานสาวของป้าแปดของลุงเจ็ดข้าจะปลงผมเป็นวันแรก แซ่หวังต้องไปอวยพรก่อน! สหายเสิ่น ขอตัวก่อน!”

หวังเสินซวีลนลานในใจ หนีไปเลย!

ไม่เช่นนั้น จะให้สู้ตายกับเจ้าคนแซ่ฉีจริงๆ รึ

ไม่มีทาง!

คิดว่าแซ่หวังโง่รึ

ไปก่อนล่ะ!

ฟิ้ว!

ห้วงมิติสั่นไหว หวังเสินซวีหายไป ไม่รู้ไปที่ใดแล้ว

ฉีเซ่าเสวียนกับทุกคนเงียบ

กายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา สุดยอดเลย!

ความเร็วในการหนีตายนี่ สุดยอดมาก!

……

อีกด้านหนึ่ง จางอวิ๋นซีกับองค์หญิงหลิงหลงกำลังประลองฝีมือเช่นกัน!

สองคนนี้กลับมาจากเกาะวิมานเทพก็ไม่เคยหยุดเลย

ดีที่พวกนางประลองกันค่อนข้างเงียบ แค่ปะทะคารม ไม่ได้สู้กันจริงๆ ไม่เช่นนั้นได้เกิดสงครามขึ้นอีกครั้งแน่!

ตอนนี้เอง อกเสื้อองค์หญิงหลิงหลงพลันขยับแสงสีทอง สว่างจ้าถึงที่สุด

องค์หญิงหลิงหลงทำหน้าตกใจ นำของในอกเสื้อออกมา

“ยันต์ส่งสาร เหตุใดจู่ๆ ถึงเปล่งแสงล่ะ”

องค์หญิงหลิงหลงกอดความสงสัยไว้ก่อนจะกระตุ้นยันต์ส่งสาร

แสงทองพลันสว่างจ้าขึ้นมา กลายเป็นสายรุ้งยาวไหลเข้าไปในความคิดนาง

จนถึงตอนนี้ องค์หญิงหลิงหลงมีสีหน้าตกใจมากขึ้นเรื่อยๆ

จางอวิ๋นซีขมวดคิ้วเล็กน้อย “เกิดอะไรขึ้น”

องค์หญิงหลิงหลงยิ้ม “ทูตจากราชวงศ์เซียนต้าฮวงกำลังมา พวกเขาต้องมาอวยพรให้พี่เสิ่นเทียนแน่นอน!”

ตนเป็นองค์หญิงน้อยราชวงศ์เซียนต้าฮวง เมื่อได้ยินว่าทูตจากราชวงศ์ต้าฮวงจะมาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ก็เหมือนคนที่บ้านมาเยือน

จางอวิ๋นซีมีแววตาจริงจังขึ้นเรื่อยๆ

ทูตจากราชวงศ์เซียนต้าฮวงมาเยือน คงไม่ได้มาขอตบแต่งหรอกกระมัง!

ไม่ได้การ!

ต้องไปหาท่านพ่อ!

ศิษย์น้องเป็นของข้า ใครก็แย่งไปไม่ได้!

…..

จางอวิ๋นซีรีบร้อนจากไป

ไม่นานนัก แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ถูกประกายเซียนไร้พรมแดนปกคลุม

ห้วงอากาศกำลังสั่นไหว แสงเรืองรองส่องสว่างแสบตา เหมือนดวงตะวันร้อนแรงลอยขึ้น!

ทุกคนเพ่งมองไปเห็นรถสงครามคันใหญ่ลอยขึ้นมากลางดวงตะวันเทพไร้ที่สิ้นสุด

ตรงหน้ารถสงครามเป็นสัตว์กิเลนโบราณเก้าตัว แสงเทพไหลเวียนรอบกาย กลิ่นอายพลังน่ากลัว เหมือนกับสัตว์เทพคำรามฟ้าดิน

สัตว์กิเลนบรรพกาลเก้าตัวมีสายเลือดกิเลนส่วนหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นอสูรระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ มีศักยภาพแข็งแกร่งถึงที่สุด มากพอจะไร้พ่ายในระดับพลังเดียวกัน!

ทว่าอสูรใหญ่ระดับนี้กลับเป็นสัตว์ลากรถ

ข้างหลังสัตว์กิเลนบรรพกาลพวกนี้ยังมีผู้บำเพ็ญจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์สวมเกราะนักรบสีเงินอีกสามสิบหกท่าน พวกเขามีพลังบำเพ็ญน่ากลัวมาก สามสิบหกคนนี้มีพลังเชื่อมต่อกันอย่างแน่นหนาเหมือนเป็นหนึ่งเดียว เห็นได้ชัดว่าเคยฝึกวิชาการโจมตีประสานมา

หากผู้บำเพ็ญจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์สามสิบหกท่านร่วมมือกัน ถึงขั้นเอาชนะผู้แข็งแกร่งอริยะแท้ได้!

แม้จะเป็นเช่นนั้น ผู้บำเพ็ญจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์สามสิบหกคนนี้ก็ยังแค่โอบล้อมซ้ายขวา และตรงกลางพวกเขาเป็นรถสงครามเปล่งแสงสีทองอร่ามตาคันหนึ่ง

บนรถสงครามมีประกายเซียนวนเวียน วางอักขระลำดับมหามรรคเต็มไปหมด ประทับเขตแดนค่ายกล สามารถระเบิดอานุภาพสังหารผู้อริยะได้

บนรถสงครามนี้มีบุรุษร่างกำยำยิ่งใหญ่ โอ่อ่าทรงพลังนั่งอยู่คนหนึ่ง

ท่าทีเขาดูสบายอกสบายใจ แผ่พลังบ้าอำนาจที่มาเยือนโลกหล้า ราวกับว่าไม่อยู่ในโลกนี้

เมื่อเห็นดังนั้น ผู้อริยะจากทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ตัวสั่นเล็กน้อย

พลังอำนาจยิ่งใหญ่เช่นนี้กลับเพียงแค่ลากรถสงคราม นี่ต้องร่ำรวยเพียงใดกัน

บุรุษในรถเป็นใครกัน

มีเบื้องหลังน่ากลัวเช่นนี้ มีศักยภาพสะท้านโลกเพียงใดกัน

จากนั้นร่างคนนั้นยืนขึ้นช้าๆ เดินหนึ่งก้าวห้วงอากาศแตกกระจาย จมลงไปในหุบเหวลึกดำมืด

ทุกคนอดเพ่งสายตามองมิได้ กลิ่นอายพลังนั้นน่ากลัวมากจริงๆ เกินกว่าอริยะแท้ไปไกลมาก!

และมีเพียงผู้โดดเด่นในระดับเจ้าอริยะเท่านั้นถึงจะมีพลังยิ่งใหญ่และน่ากลัวเช่นนี้ได้!

“นั่นคือ…ราชันนักรบแห่งราชวงศ์เซียนต้าฮวง!”

มีเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์จากดินแดนกลางรู้ฐานะคนนี้

นี่ทำให้พวกเขาตกใจยิ่งกว่าเดิม

ต้องรู้ว่าราชันนักรบเป็นผู้แข็งแกร่งสุดยอดของราชวงศ์เซียนต้าฮวง เป็นเจ้าอริยะเก้าด่านเคราะห์ที่อยู่สูงส่ง มากพอจะชำเลืองตามองผู้อริยะทุกคนที่นี่!

ผู้แข็งแกร่งเช่นนี้มาแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ หรือจะมาอวยพรในพิธีแต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กัน!

ซี้ด!

เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้อริยะจากทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ต่างสูดลมหายใจเย็นๆ เฮือกหนึ่ง

ไม่นึกเลยว่าชื่อเสียงของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะทำให้คนใหญ่คนโตเช่นนี้มาได้!

และตอนนี้เอง ราชันนักรบมาปรากฏในแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว

เขาเดินหนึ่งก้าวหมื่นลี้ พลันมาปรากฏตรงหน้าทุกคนจากที่ห่างไกล

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พุ่งขึ้นฟ้า สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อม “ราชันนักรบมาเยือน ขออภัยที่ไม่ได้ไปต้อนรับจากแดนไกล! ไม่รู้ว่าราชันนักรบมาในครั้งนี้ มีเรื่องอันใดกัน”

เมื่อก่อนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เคยคบค้าสมาคมกับราชันนักรบมาก่อน ย่อมไม่กลัวเขามาพังงาน

อีกทั้งราชันนักรบยังมาจากราชวงศ์เซียนต้าฮวง และองค์หญิงหลิงหลงแห่งราชวงศ์เซียนต้าฮวงก็ยังอยู่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ นี่ยิ่งไม่ต้องกังวลไปอีก

ราชันนักรบพยักหน้าให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ “ข้ามาในครั้งนี้ หนึ่งเพื่ออวยพรในพิธีแต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ สอง รับคำสั่งของท่านจักรพรรดิให้ส่งสารต่อทุกแดนศักดิ์สิทธิ์

สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยเปิดรับสมัครเป็นพิเศษ อัจฉริยะหนุ่มสาวแก่นพลังทองหกรอบขึ้นไปจะขอไปศึกษาในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยได้”

ราชันนักรบเอ่ยจบ ทุกคนที่นี่ต่างฮือฮาขึ้นมา!

ราชวงศ์เซียนต้าฮวง ขุมอำนาจใหญ่ระดับเจ้าปกครองดินแดนกลาง กลับส่งราชันนักรบมาอวยพรในพิธีแต่งตั้งบุตรศักดิ์สิทธิ์!

นี่เป็นเรื่องที่ไม่กล้าแม้แต่จะคิด!

ต่อให้เป็นพิธีแต่งตั้งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์อื่น ก็อาจจะไม่ได้รับเกียรติเช่นนี้!

แค่เรื่องนี้ ก็มากพอจะทำให้ทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ตื่นตกใจอย่างน่าประหลาด

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาตื่นกลัวที่สุดคือเรื่องที่สอง!

…..

จักรพรรดิที่ราชันนักรบบอก ไม่ใช่จักรพรรดิสือองค์ปัจจุบันของราชวงศ์เซียนต้าฮวง แต่เป็นจักรพรรดิฮวงสือ!

นั่นคือบุคคลระดับตำนาน ก้าวสู่จุดสูงสุดในห้าดินแดนเมื่อห้าพันปีก่อน ทั้งยังก่อตั้งราชวงศ์เซียนต้าฮวงและสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยสองขุมอำนาจใหญ่!

จักรพรรดิมีรับสั่งมาด้วยตนเองว่าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยจะเปิดรับสมัครเป็นพิเศษ!

นี่ทำให้โอรสสวรรค์แก่นพลังทองทั้งหมดดีใจกัน

ต้องรู้ว่าสำนักศึกษาจี้เซี่ยเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ที่โอรสสวรรค์ห้าดินแดนอยากเข้า รวมสุดยอดโอรสสวรรค์จากทั่วทุกสารทิศไว้

ในนั้นมีมรดกล้ำค่ามากมายและการชี้แนะบ่มเพาะจากผู้แข็งแกร่งสุดยอด ทำให้โอรสสวรรค์เหลือคนานับเฝ้าใฝ่ฝัน

ขอแค่เข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย จะต้องเป็นผู้แข็งแกร่งสุดยอดหนึ่งดินแดนแน่นอน!

แต่การจะเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยไม่ได้ง่ายขนาดนั้น

ต้องเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ทุกรุ่นจากทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ถึงจะมีสิทธิ์ได้เข้าไปขอศึกษาในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

ส่วนผู้สืบทอดจากแดนเทวาแดนผาสุกพวกนั้นจะมีมาตรฐานการรับคนที่เข้มงวดกว่า หากไม่ใช่ผู้สูงศักดิ์ที่สุดแห่งยุคจะไม่รับ

ปกติ ศิษย์แกนหลักของทุกแดนศักดิ์สิทธิ์ในห้าดินแดนล้วนเป็นหนึ่งรุ่นในทุกร้อยปี

ร้อยปีจากนี้ศิษย์สายตรงส่วนใหญ่จะออกจากสำนักไปฝึกฝน บ้างเข้าไปประจำขุมอำนาจคอยควบคุมสำนัก

ส่วนบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์รวมถึงสุดยอดโอรสสวรรค์ที่มีพรสวรรค์เหนือกว่าใคร ทางสำนักจะแนะนำให้เดินทางไปฝึกบำเพ็ญที่สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยดินแดนกลางที่มีแต่วีรบุรุษมารวมตัวกัน โอรสสวรรค์มากมายประชันชิงความเป็นหนึ่ง จนเกิดสะเก็ดไฟมากมาย

ท่ามกลางสะเก็ดไฟเช่นนี้ จะหล่อหลอมออกมาเป็นปีศาจไร้พ่ายได้ง่ายมาก กระทั่งกำเนิดผู้สูงส่งมรรคสูงสุด!

ตอนนั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เคยไปฝึกในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยเช่นกัน อีกทั้งยังเคยสร้างเรื่องราวใหญ่โตในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

พูดได้ว่านี่เป็นสำนักศึกษาหลวงที่แกร่งที่สุดในห้าดินแดน!

เมื่อก่อนตำหนักศึกษาจะรับเพียงผู้โดดเด่นในผู้สูงศักดิ์

ตอนนี้ขยายจำกัดเป็นกรณีพิเศษ รับระดับแก่นพลังทอง

นี่ทำให้โอรสสวรรค์มากมายในห้าดินแดนได้เข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยก่อน!

ดังนั้น โอรสสวรรค์นับไม่ถ้วนต่างมีสีหน้าตื่นเต้น แววตาเต็มไปด้วยความใฝ่ฝัน!

…..

มีเพียงผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสที่ค่อนข้างใจเย็น ตอนนี้กลับมีสีหน้าจริงจัง

แม้แต่สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยยังเปิดรับสมัครเป็นพิเศษ อยากจะสร้างอัจฉริยะขึ้นให้เร็วที่สุดรึ อีกทั้งคำสั่งนี้ยังมาจากจักรพรรดิฮวงสือเองอีก

นี่หมายความว่าแม้แต่เขาเองก็ยังรู้สึกกดดันแล้ว

เมื่อนึกไปถึงคำพูดของอริยะแท้ลัทธิวิญญาณร้ายก่อนหน้านี้

เวลานี้คนมากมายรู้สึกหน่วงในใจ

หรือว่าโลกของห้าดินแดน!

จะเข้าสู่กลียุคจริงๆ!

………………..