บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 420 นอกดินแดนกลาง ยังมีโอรสสวรรค์อีกรึ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 420 นอกดินแดนกลาง ยังมีโอรสสวรรค์อีกรึ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 420 นอกดินแดนกลาง ยังมีโอรสสวรรค์อีกรึ

ดินแดนกลางกว้างใหญ่ ตั้งอยู่ตรงกลางสุดของแผ่นดินใหญ่

ที่นี่มีเหมืองแร่มากที่สุดในห้าดินแดน พลังวิญญาณหนาแน่นเหมาะกับการฝึกบำเพ็ญมาก

ด้วยข้อได้เปรียบฟ้าดิน จำนวนของผู้บำเพ็ญและแดนศักดิ์สิทธิ์ของดินแดนกลางจึงมากกว่าสี่แดนอื่นมาก ย่อมมีโอรสสวรรค์ยิ่งใหญ่ขึ้นมากกว่าเช่นกัน!

และราชวงศ์เซียนต้าฮวงตั้งอยู่ตรงกลางสุดของดินแดนกลาง ห่างจากดินแดนบูรพาไกลมาก

ต่อให้เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์อยากจะเดินทางจากดินแดนกลางไปดินแดนบูรพา ก็ต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งปี

หากให้โอรสสวรรค์แก่นพลังทองและดวงจิตดรุณพวกนั้นเดินทางไปสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยเอง ก็ไม่รู้จะไปถึงเมื่อไร

ดีที่โอรสสวรรค์ดินแดนบูรพามากมายโดยสารเรือเหาะอาวุธอริยะของราชวงศ์เซียนต้าฮวง มีความเร็วสูงยิ่ง ข้ามผ่านห้วงอากาศไปเรื่อยๆ เพียงแค่เดือนเดียวก็ถึงดินแดนกลาง

เรือเหาะหยุดลงช้าๆ ลอยอยู่กลางอากาศ

ข้างล่างเป็นเขตที่โอ่อ่ายิ่งใหญ่

หมอกเซียนขมุกขมัวลอยล่อง วนเวียนหนาทึบ เผยความมหัศจรรย์ออกมาทั้งหมด

ที่นี่กระจัดกระจายเหมือนดาวบนท้องฟ้า สิบแปดเมืองหลักแบ่งเป็นตำแหน่งต่างๆ สอดคล้องกัน ล้อมรอบเมืองจักรพรรดินั้นตรงกลาง!

ทุกเมืองหลักตั้งอยู่ในตำแหน่งที่พิเศษอย่างยิ่ง ตรงกับขุมอำนาจใหญ่ฟ้าดิน ผสมผสานกัน เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์!

ทำให้พลังอำนาจของที่นี่กลายเป็นยิ่งใหญ่ไร้พรมแดน เหมือนกับแดนแห่งโลกเซียนตกลงมายังโลกมนุษย์!

การออกแบบเช่นนี้คือความลี้ลับแปรเปลี่ยนของฟ้าดิน รวมพลังวิญญาณของทุกสรรพสิ่ง

เหมือนกับฟ้าดินโชควาสนา ฝีมือประณีตเหนือธรรมชาติ

…..

โอรสสวรรค์ทุกคนจากดินแดนบูรพาเดินออกจากเรือเหาะ ต่างตกตะลึงกับภาพตรงหน้า

“พลังวิญญาณที่นี่เข้มข้นมาก!”

โอรสสวรรค์มากมายสูดลมหายใจเข้าลึก สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณเข้มข้นโดยรอบปกคลุมเข้ามาอย่างมืดฟ้ามัวดิน

พลังวิญญาณกลายเป็นธารน้ำยาวไหลเข้าไปในกายทั้งหมด

เวลานี้ ทั่วร่างโอรสสวรรค์ทุกคนมีพลังวิญญาณบางๆ วนเวียน จิตใจสดชื่น สุขสบายไปทั้งตัว!

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนก็ต้องร้องอุทานตกใจ

ระดับความหนาแน่นของพลังวิญญาณที่นี่เทียบเท่ากับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ต้องรู้ว่าโลกเล็กเทพสวรรค์เป็นโลกอิสระ

บรรพชนของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ใช้พลังแห่งกฎเกณฑ์สูงสุดรวมพลังวิญญาณฟ้าดินไปไว้ในโลกเล็ก ถึงทำให้ระดับความเข้มข้นของพลังวิญญาณโลกเล็กเทพสวรรค์เหนือกว่าโลกภายนอก

แต่ที่นี่ไม่ใช่แค่ระดับความเข้มข้นของพลังวิญญาณเทียบเท่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แต่อาณาเขตยังกว้างกว่าหลายร้อยเท่า

นี่จะไม่ให้ทุกคนตกใจได้อย่างไร!

การจะสร้างเขตแดนระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ขนาดนี้ได้ นอกจากใช้ทรัพยากรจำนวนมากสร้างค่ายกลรวมพลังวิญญาณแล้ว เมืองหลักที่ล้อมรอบสิบแปดเมืองนั้นก็มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก

สิบแปดเมืองหลักล้อมหนึ่งเมือง อาศัยพลังฟ้าดินดูดซับพลังวิญญาณทั้งหมด ถึงจะให้กำเนิดพลังวิญญาณฟ้าดินเข้มข้นเช่นนี้ได้

นี่คือมูลค่ามหาศาล!

ศักยภาพแฝงของราชวงศ์เซียนต้าฮวงลึกล้ำไม่อาจคาดเดาได้จริงๆ

…..

“ที่นี่คือราชวงศ์เซียนต้าฮวงรึ”

เสิ่นเทียนพิจารณามองไปรอบๆ เขามาถึงดินแดนกลางเป็นครั้งแรก จึงแปลกใจนิดๆ

องค์หญิงหลิงหลงเดินเข้ามา ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม “พี่เสิ่นเทียน ที่นี่คือจวนนครสวรรค์”

จวนนครสวรรค์ เป็นเอกของเก้าจวนดินแดนกลาง และเป็นเขตฐานของราชวงศ์เซียนต้าฮวง

“เขตใหญ่ขนาดนี้คือเขตฐานของราชวงศ์เซียนต้าฮวงหรือ เช่นนั้นก็ต้องใช้คนจำนวนมากมาเฝ้าคุ้มกันสิ”

หวังเสินซวีเดินมาจากข้างหลัง ก่อนจะอดถามมิได้

เขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา มีพรสวรรค์สูงสุด พลังบำเพ็ญจุดสูงสุดดวงจิตดรุณ ย่อมมีคุณสมบัติเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

ดังนั้นหวังเสินซวีจึงตามทุกคนมาดินแดนกลางด้วยกัน แต่เมื่อเขาเห็นภาพนี้ก็ตาเป็นประกายขึ้นมา

อ๊าก~

ใหญ่มาก ใหญ่เกินไปแล้ว!

ที่ใหญ่ขนาดนี้ ราชวงศ์เซียนต้าฮวงดูแลไหวรึ

ถ้าไม่เช่นนั้นข้าลองเข้าไปดูว่าจะเอาของอะไรออกมาดีหรือไม่

หลังจากกายศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาของหวังเสินซวีแกร่งขึ้น ก็ทำให้เขาชำนาญการควบคุมมิติมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สำคัญคือก่อนหน้านี้เจ้านี่อยู่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ยังไปมั่วสุมกับพวกไป๋ตี้และเยวี่ยอวิ๋นเต๋อ

สามคนเป็นหอยน้ำจืดเจอทุเรียน กลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้งกัน!

ด้วยความเร็วสูงสุดฟ้าดินกับวิชาแห่งมิติ เจ้าสามคนนี้ลงงานไม่กี่ครั้งก็หลอกโอรสสวรรค์ผู้ซื่อตรงมาไม่น้อย สุดท้ายมีคนพบความผิดปกติจึงลากเจ้าสามคนนี้ออกมา

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ทุกคนจะประณามเจ้าสามคนนี้ต่อหน้าทุกคน!

สุดท้ายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภาออกหน้าพร้อมกันถึงยุติเรื่องนี้ลงได้

หลังถูกทุบตีไปยกหนึ่ง สามคนถึงสำรวมตัว ไม่กล้าออกมาก่อเรื่องอีก

แต่มาถึงจวนนครสวรรค์ดินแดนกลาง เห็นเมืองหลักใหญ่ต่างๆ ที่หรูหราอู้ฟู้แล้ว หวังเสินซวีรู้สึกคันหัวใจตัวเองนิดๆ

“ในจวนนครสวรรค์มีเมืองหลักสิบแปดเมืองกับเมืองจักรพรรดิหนึ่งเมือง! ในทุกเมืองหลักจะมีผู้แข็งแกร่งระดับเจ้าอริยะเจ็ดด่านเคราะห์ขึ้นไปเฝ้าอยู่! เมืองจักรพรรดิตรงกลางสุด มีกระทั่งมหาอริยะที่เป็นเก้าด่านเคราะห์ขึ้นไปหลายคน”

องค์หญิงหลิงหลงเป็นองค์หญิงของราชวงศ์เซียนต้าฮวง ย่อมเข้าใจที่นี่มาก

แต่นางไม่รู้ความคิดของหวังเสินซวี เพียงแค่อธิบายให้ฟังรอบเดียว นี่ทำให้หวังเสินซวีใจฝ่อ ความคิดที่เพิ่งผุดขึ้นถูกกดลงมอดดับหายไป

ล้อเล่นอะไรกัน!

ที่นี่ยังมีเจ้าอริยะอยู่ นี่จะให้ทำอะไรได้อีก!

หากถูกจับได้ ข้าจะไม่ถูกแขวนทุบตีรึ

ไม่ไปๆ กลัวแล้วๆ!

…..

โอรสสวรรค์ทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึก นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง

เจ้าอริยะกับมหาอริยะเฝ้าอยู่มากขนาดนี้ ไม่ใช่สิ่งที่แดนศักดิ์สิทธิ์จะเทียบได้เลย!

นี่คือความมั่นใจของราชวงศ์เซียนต้าฮวงรึ

น่ากลัวจริงๆ!

มีคนเอ่ยถาม “องค์หญิง สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยอยู่ที่ใดกัน”

เรือเหาะแค่ส่งทุกคนลงที่นี่แล้วก็บินไป ไม่ได้ส่งพวกเขาไปสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

องค์หญิงหลิงหลงพูดราบเรียบ “สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยอยู่เมืองศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ ติดกับเมืองจักรพรรดิ ห่างจากที่นี่ไม่ไกล”

ทุกคนลงใกล้กับเมืองจักรพรรดิ ห่างจากเมืองศักดิ์สิทธิ์สวรรค์นิดเดียว

องค์หญิงหลิงหลงพูดอธิบาย “วันนี้ตรงกับวันเปิดรับสมัครของสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยพอดี! พวกเราเข้าไปดูกันหน่อยเถอะ!”

สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยจะเปิดรับทุกร้อยปี เพื่อเฟ้นหาอัจฉริยะ

ทุกครั้งในช่วงเวลานี้จะทำให้โอรสสวรรค์ทุกคนในห้าดินแดนตื่นเต้นกันอย่างยิ่ง พากันเดินทางเข้ามา

และวันนี้ก็เป็นครั้งแรกในรอบหลายพันปีที่สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยเปิดรับสมัครด้วยเงื่อนไขที่กว้างขึ้น นี่ทำให้โอรสสวรรค์ที่อยากจะเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยมีมากมาย มีให้เห็นอยู่ทุกที่

แม้แต่รอบตัวพวกเขายังเห็นโอรสสวรรค์ที่มีกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งกำลังมุ่งหน้าไปเมืองศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ ดูรีบร้อนจนทนไม่ไหวนิดๆ กระทั่งมีโอรสสวรรค์ในราชวงศ์ดินแดนกลางมากมายกำลังเดินทางไปสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

ถึงอย่างไรสำหรับโอรสสวรรค์จากทุกที่แล้ว สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยมีทรัพยากรการชี้แนะโดดเด่น ศักยภาพแฝงลึกล้ำ

ขอแค่ฝึกบำเพ็ญในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยช่วงหนึ่งจะต้องได้ผลประโยชน์แน่นอน

บางทีอาจจะได้เป็นเจ้าปกครองหนึ่งดินแดน

ตรงนี้ ต่อให้เป็นตระกูลชั้นสูงพวกนั้นของราชวงศ์จักรพรรดิก็ยังอดใจสั่นมิได้ อยากจะส่งโอรสสวรรค์ในตระกูลเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

หมู่คณะเห็นดังนั้นก็รีบเดินทางไปเมืองศักดิ์สิทธิ์สวรรค์

แต่ระหว่างทางเสิ่นเทียนกลับสวมหน้ากากไว้

ไม่สวมไม่ได้แล้วจริงๆ!

ต่อให้อยู่ดินแดนกลาง ใบหน้าเขาก็ยังเรียกว่าที่สุดแห่งยุค

ทำให้ระหว่างทางนี้ ธิดาสวรรค์มากมายพากันหยุดเดิน

กระทั่งยังไม่สนใจการสมัครเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย แต่มองเสิ่นเทียนด้วยความลุ่มหลง ถึงขั้นมีธิดาสวรรค์ที่บ้าบุรุษมากมายร้องตกใจ

“บุรุษรูปงามมาก!”

“นี่โอรสสวรรค์จากแดนศักดิ์สิทธิ์ใดกัน ถึงมีใบหน้าหล่อเหลาเช่นนี้!”

“กรี๊ด ข้าหลงเลย~”

“ไม่รู้ว่าพี่ชายท่านนี้มีคู่ครองแล้วหรือไม่ ท่านว่าข้าเป็นอย่างไรบ้าง”

“พี่ชาย ข้ามีวิชาคู่ประสานทรงพลัง เพิ่มศักยภาพได้เร็วที่สุดอยู่!”

……

ธิดาสวรรค์ที่ค่อนข้างเปิดกว้างบางส่วนอดใจเข้ามาประจบไม่ได้

เมื่อเห็นเช่นนั้น องค์หญิงหลิงหลงกับจางอวิ๋นซีพลันหน้าดำมืดลง

กลิ่นอายพลังในกายพวกนางปะทุขึ้น พลังอำนาจน่าสะพรึงหมุนม้วนไปโดยรอบ

อานุภาพรวดเร็วและดุดันนั้นเหมือนกับหินหนืดภูเขาไฟพร้อมจะปะทุได้ตลอดเวลา!

ทำทุกคนตกใจไม่กล้าเดินเข้ามา ถึงกับตะลึงพรึงเพริดไปเลย!

พวกฟางฉางด้านข้างอดปลงอนิจจังไม่ได้ “บุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ธรรมดาจริงๆ ไม่ว่าจะไปที่ใดก็เป็นที่จับตามองของทุกคน! พวกข้าเทียบไม่ได้เลย!”

แต่ไม่นานนัก ฟางฉางก็รู้สึกเย็นแผ่นหลัง

เห็นจางอวิ๋นซีถลึงตามองมาด้วยสายตาเย็นชา ทำให้เขารีบหลับตาลง

เสิ่นเทียนเองก็จนปัญญามากเหมือนกัน

หน้าตาหล่อเหลามาโทษข้า ความจำใจของพี่ใครจะเข้าใจได้

เพื่อกันไม่ให้สองสาวเข่นฆ่าครั้งใหญ่ เสิ่นเทียนจึงสวมหน้ากากเสียเลย จะได้ลดปัญหาลงไปด้วย

…..

เมืองศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ หนึ่งในสิบแปดเมืองหลักจวนนครสวรรค์

แต่ที่นี่กลับพิเศษอย่างยิ่ง เมืองหลักอื่นเทียบศักยภาพแฝงไม่ได้เลย

ที่นี่มีแต่โอรสสวรรค์ระดับดวงจิตดรุณทุกที่ แม้แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพยังมีไม่น้อย

สาเหตุหลักเป็นเพราะว่าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยอยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ ผู้แข็งแกร่งส่วนใหญ่เป็นศิษย์ของสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย ย่อมมีศักยภาพไม่ธรรมดา

ตอนนี้พวกเสิ่นเทียนมาถึงเมืองศักดิ์สิทธิ์สวรรค์แล้ว

ทันใดนั้นเอง พลันมีแสงสว่างวูบวาบมาจากในอกเสื้อจางอวิ๋นซี

นั่นคือป้ายคำสั่งสื่อสาร เป็นของที่บุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์จากแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทุกรุ่นที่มาสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ยใช้สื่อสารกัน

ต้องรู้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์สืบทอดมายาวนาน ทุกร้อยปีจะเลือกบุตรศักดิ์สิทธิ์และสตรีศักดิ์สิทธิ์ใหม่

นี่ไม่ใช่เพราะบุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์หลายรุ่นก่อนสิ้นชีพ

แต่เพราะพวกเขาเข้ามาฝึกบำเพ็ญในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เช่นกัน นอกจากบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นหนึ่งเยวี่ยอวิ๋นเต๋อแล้ว บุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ทุกรุ่นล้วนอยู่ในสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย

ตอนที่พวกจางอวิ๋นซีเข้านครศักดิ์สิทธิ์สวรรค์ก็ได้รับข่าวจากป้ายคำสั่งสื่อสาร

จางอวิ๋นซีอึ้งไปเล็กน้อย “ศิษย์น้อง ศิษย์พี่กับศิษย์พี่หญิงรุ่นก่อนๆ เชิญให้พวกเราไปที่แท่นวิหคทองแดง บอกว่าจะเลี้ยงฉลองต้อนรับพวกเรา!”

หวังเสินซวี “ข้าก็ได้รับเหมือนกัน!”

ฉีเซ่าเสวียน “ข้าก็เช่นกัน!”

ไม่ใช่แค่จางอวิ๋นซี แดนศักดิ์สิทธิ์ท้องนภา แดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงและแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็เชิญมาเช่นกัน

ถึงอย่างไรแดนศักดิ์สิทธิ์ดินแดนบูรพาก็อยู่ในถิ่นเดียวกัน ทั้งยังอยู่ในดินแดนกลาง

ดังนั้น พวกเขาจึงตั้งใจจะร่วมกันเลี้ยงฉลองให้กับทุกคน

เสิ่นเทียนมองป้ายคำสั่งสื่อสารในมือพลางพูดด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์พี่ทุกท่านเชิญด้วยไมตรีเปี่ยมล้นเช่นนี้ เราต้องไปอยู่แล้ว”

ถึงอย่างไรก็เป็นฝ่ายเดียวกัน ศิษย์พี่รุ่นก่อนๆ เชิญ จะไปปฏิเสธได้อย่างไร

กลุ่มคนพักผ่อนกันเล็กน้อยก่อนจะมุ่งหน้าไปแท่นวิหคทองแดง

……

แท่นวิหคทองแดง เป็นโรงเตี๊ยมที่หรูหราที่สุดของเมืองศักดิ์สิทธิ์สวรรค์

ที่นี่มีสถาปัตยกรรมวิจิตรตระการตา โอ่อ่ายิ่งใหญ่

บนยอดโรงเตี๊ยมมีรูปปั้นวิหคทองแดงที่ปั้นขึ้นจากทองแดงวิญญาณฟ้าดินตัวหนึ่ง

วิหคทองแดงมีแสงเทพสว่างจ้าวนเวียน สมจริงราวกับมีชีวิต เหมือนจะพุ่งขึ้นฟ้าไปสู่โลกเซียน

ภายในแท่นวิหคทองแดงมีคนสวมเครื่องแบบแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ต่างๆ กำลังจัดงานเลี้ยงในโรงเตี๊ยม

“สหายทุกท่าน ครั้งนี้ศิษย์น้องฉีเซ่าเสวียนบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงข้ามาถึงแล้ว ขอให้ข้าเป็นเจ้ามือเอง สหายทุกท่านอย่ามาแย่งข้าล่ะ”

นี่คือบุรุษสวมชุดคลุมม่วง เป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นเก้าของแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง

คนนี้มีนิสัยตรงไปตรงมา เตรียมจะเหมาโรงเตี๊ยม จองห้องพิเศษหอหงส์ทองชั้นสูงสุดของแท่นวิหคทองแดง!

“นี่จะได้อย่างไรกัน ต้องรู้ว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ข้ามีโอรสสวรรค์มาเยอะมาก จะไปรบกวนสหายได้อย่างไร”

คนที่พูดคือบุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นแปดของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

ถึงอย่างไรโอรสสวรรค์ที่มาเข้าศึกษาในครั้งนี้ก็ไม่ได้มีแค่บุตรชายบุตรสาวแท้ๆ ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ แต่ยังมีบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนผู้มีชื่อเสียงเลื่องลือในห้าดินแดน กระทั่งจักรพรรดิฮวงสือยังเอ่ยถึงเป็นพิเศษ!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทุกรุ่นต่างรู้สึกมีเกียรติ!

เจ้ามือในครั้งนี้ พวกเขาไม่อยากให้คนอื่นเลย

“เรื่องนี้เอาตามนี้แล้วกัน ทุกคนไม่ต้องเกรงใจพวกเรา!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นเจ็ดเดินออกมาเช่นกัน ทั้งยังจ่ายค่าห้องให้อย่างไม่ลังเล

เมื่อเห็นดังนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงรุ่นเก้าก็อดยิ้มแห้งๆ มิได้

ยังจะทำอะไรได้อีก ช่วยไม่ได้!

ใครให้โอรสสวรรค์แห่งเคหาสน์ม่วงพวกเขามีไม่มากเท่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ล่ะ พึงรู้ไว้ว่าคนที่สุดยอดสุดของแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงมีเพียงฉีเซ่าเสวียนคนเดียว

แต่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ นอกจากเสิ่นเทียนแล้วยังมีสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์ที่ไม่อ่อนแอเลยเช่นกัน!

นี่เป็นครั้งที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ส่งโอรสสวรรค์เข้าสำนักศึกษามากที่สุดในทุกรุ่นที่ผ่านมา ถ้าจะแย่งเป็นเจ้ามือกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ นั่นเท่ากับไม่ไว้หน้าแล้ว

บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงรุ่นเก้าส่ายหน้ายิ้มๆ และก็ไม่ได้ดื้อดึงต่อไป

ทว่าตอนนี้เองมีหลายคนพุ่งเข้ามา

“ช้าก่อน! หอหงส์ทองเป็นของเรา!”

……

เหล่าโอรสสวรรค์มองไป พบว่าคนที่พูดก็เป็นกลุ่มโอรสสวรรค์รุ่นเยาว์เช่นกัน

พวกเขาสวมชุดคลุมหรูหราสวยงาม กลิ่นอายพลังหนาแน่น เห็นได้ชัดว่ามีศักยภาพไม่เลว

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นแปดเดินเข้ามา หรี่ตามองอีกฝ่าย “คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันรึ พวกเจ้าคิดจะทำอะไร พวกเราจองหอหงส์ทองไว้แล้ว หรือพวกเจ้าคิดจะใช้กำลังแย่งไปกัน”

คนพวกนี้ล้วนเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ของแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันดินแดนกลาง

พวกโอรสสวรรค์แดนศักดิ์สิทธิ์ดินแดนกลางมีสายตามองสูง ไม่เป็นมิตรกับผู้สืบทอดจากแดนอื่นมาตลอด

พวกเขาคิดว่าตนไม่ธรรมดา คิดว่าสี่ดินแดนอื่นเป็นถิ่นกันดาร ไม่อาจเทียบชั้นกับพวกเขาได้!

ใครที่ไม่เป็นมิตร บุตรศักดิ์สิทธิ์สตรีศักดิ์สิทธิ์ดินแดนบูรพาทุกรุ่นย่อมไม่ให้เกียรติพวกเขา

“กระสอบดินบ้านนอกอย่างพวกเจ้า คู่ควรจะแย่งที่พวกเรารึ จะบอกความจริงพวกเจ้าให้แล้วกัน วันนี้องค์ชายราชันใต้กับองค์ชายราชันเหนือจะมาจัดงานที่หอหงส์ทอง ขอแนะนำให้พวกเจ้ารู้จักวางตัวหน่อย ไสหัวไปเสียดีๆ ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ถือสาโยนพวกเจ้าออกไป”

โอรสสวรรค์แดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันยิ้มเยาะ คำพูดเต็มไปด้วยการดูถูก

กับอีแค่ขุมอำนาจป่าเถื่อนจากดินแดนบูรพา ยังกล้าแย่งชิงกับองค์ชายราชันใต้รึ

รนหาที่ตายชัดๆ!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงรุ่นเก้าทนมองต่อไปไม่ได้ จึงก้าวออกมาพูดเสียงดัง “พวกเจ้าทำเกินไปแล้ว!”

ทว่าข้างหลังแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันยังมีคนอีกกลุ่มโผล่มา

คนพวกนี้คือบุตรศักดิ์สิทธิ์จากแดนศักดิ์สิทธิ์ดินแดนกลาง

บุตรศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้าเยาะเย้ย “เศษกากจากแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง ยังคิดจะออกหน้าแทนคนอื่นอีกรึ ไม่ไปดูหน่อยล่ะว่าบาดแผลพี่หกพวกเจ้าหายดีแล้วหรือไม่!”

แดนศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้ากับแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงไม่ลงรอยกันมาตลอด

ก่อนหน้านี้ บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงรุ่นหกสู้กับบุตรศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้ารุ่นหกได้รับบาดเจ็บสาหัส พักฟื้นหลายเดือนก็ยังไม่หาย

พวกคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้าโอหังกันอย่างยิ่ง ไม่เห็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงรุ่นเก้าอยู่ในสายตาเลย

“เจ้า!”

บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงรุ่นเก้าโกรธจัด กระทั่งบุ่มบ่ามจะลงมือ

แต่ไม่นานบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นแปดก็มาขวางไว้ “สหายใจเย็น”

ครั้งนี้แดนศักดิ์สิทธิ์ทุกแห่งในดินแดนบูรพามีเพียงบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่กี่รุ่นที่ออกมา บุตรศักดิ์สิทธิ์รุ่นอาวุโสพวกนั้นกำลังปิดด่านบำเพ็ญ ลองทะลวงพลังที่สูงกว่า

ถึงอย่างไรบุตรศักดิ์สิทธิ์ดินแดนกลางพวกนั้น ไม่ใช่แค่มีจำนวนมากกว่า แต่ยังมีศิษย์พี่อาวุโส

หากสู้กันจริงๆ เหล่าโอรสสวรรค์ดินแดนบูรพาต้องเสียเปรียบแน่

แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะกลัว!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นเจ็ดก้าวออกมา ทำเสียงขึ้นจมูก “เจ้าเด็กแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดฟ้า พวกเจ้าอย่าอวดดีนัก หากศิษย์พี่ใหญ่ข้าอยู่ที่นี่ จะปล่อยให้พวกเจ้าอวดดีเช่นนี้ได้อย่างไร”

เมื่อได้ฟังคำพูดของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นเจ็ด ในแววตาบุตรศักดิ์สิทธิ์ทุกคนจากดินแดนกลางอดเกิดความหวาดกลัวขึ้นมามิได้

เห็นได้ชัดว่าพวกเขากลัวศิษย์พี่ใหญ่ที่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นเจ็ดเอ่ยถึง

ถึงอย่างไรบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นแรกก็เป็นที่ยอมรับว่าจัดการยาก

ไม่ใช่แค่ศักยภาพแข็งแกร่งแต่ยังหน้าไม่อาย

ไม่มีใครอยากล่วงเกินเจ้านั่น เพราะล่วงเกินคนอื่นอย่างมากสุดก็ถูกทุบตี เต็มที่ก็ถูกตีตาย

แต่ถ้าโดนเจ้านั่นแค้น ตายไปหลุมศพก็ยังไม่ปลอดภัย

…….

“น่าขำ ศิษย์พี่ใหญ่เทพสวรรค์อะไรกัน”

ทว่าตอนนี้เอง มีเสียงเยาะเย้ยดังขึ้น “ศิษย์พี่ใหญ่เจ้า น่าจะเป็นเจ้าอ้วนเยวี่ยอวิ๋นเต๋อล่ะสิ! ก็แค่คนไร้ยางอายที่รู้จักแต่ขุดหลุมศพบรรพบุรุษคนอื่นเท่านั้น แค่ตัวตลกเท่านั้น! ให้มันก้าวออกมาสิ วันนี้ข้าจะหักขาสุนัขมัน!”

มีอีกสองคนก้าวออกมาจากข้างหลังโอรสสวรรค์ดินแดนกลาง

หนึ่งในนั้นสวมชุดขนนกเผิงด้ายทอง ดวงตาแหลมคมอย่างยิ่ง ทั่วร่างมีแสงสีทองสว่างจ้าวนเวียน

เขาแบกอาวุธอริยะดาบยาว กลิ่นอายพลังน่ากลัวมาก เหมือนกับเผิงเทพโลกสวรรค์มาเยือน

อีกคนสวมชุดกระจกวารีเร้นลับ พลังลึกล้ำหุบไปข้างใน

ดูเหมือนธรรมดา แต่กลับแฝงไว้ด้วยความน่าสะพรึงกลัว

เหมือนกับเต่าดำหลับใหล แน่นิ่งดั่งภูเขา แต่พร้อมจะระเบิดอานุภาพรุนแรงออกมาทุกเมื่อ

สองคนนี้ก็คือองค์ชายราชันเหนือสือหลิงกับองค์ชายราชันใต้สือขุย

เป็นผู้โดดเด่นสุดยอดในโอรสสวรรค์รุ่นเยาว์ดินแดนกลาง!

…………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด