บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 158 เสิ่น เถา หนวด เทียน

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 158 เสิ่น เถา หนวด เทียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 158 เสิ่น เถา หนวด เทียน

ปังๆๆๆ!

ไข่มุกเหล็กวิญญาณกราดยิงใส่หินนั้น ทำให้หินแหลกละเอียดในทันที

กระสุนที่เหลือก็กราดยิงใส่พื้นบริเวณนั้น ยิงทะลุลึกลงไปในดิน

แน่นอนว่าการโจมตีของวิญญาณกระบี่ในป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่มีอานุภาพสังหารแกร่งยิ่งกว่า

การโจมตีครั้งนี้ ป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่เสียพลังศิลาวิญญาณไปห้าพันก้อน พลังโจมตีเหนือธรรมดา!

แม้แต่ผู้สูงศักดิ์ระดับดวงจิตดรุณที่ค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่นี้ก็ต้องตื่นตระหนก ดีไม่ดีอาจจะบาดเจ็บสาหัสเอา

เมื่อไอกระบี่นับไม่ถ้วนฟันลงพื้นก็ทะลวงดินบริเวณนั้นตั้งแต่หัวจรดหาง ชั่วพริบตาเดียวก็เห็นฝุ่นควันคละคลุ้ง

“ชุดเกราะเต่าดำรวมร่าง เปิดโล่เต่าดำ!”

เสิ่นเทียนซ้อนการป้องกันเต็มที่อีกครั้งก่อนจะเดินไปทางนั้นอย่างระมัดระวัง “จิ่วเอ๋อร์ ยังมีแรงอาฆาตอยู่หรือไม่”

เสียงจิ่วเอ๋อร์ดังมาจากในอกเสื้อ “รู้สึกไม่ชัด เหมือนจะหายไปแล้ว และก็เหมือนหนีไปแล้วเจ้าค่ะ”

เสิ่นเทียนครุ่นคิด จนเดินมาถึงที่ที่เถากลืนกินเซียนเคยอยู่แล้วถึงเป่าไล่ฝุ่นควันไป ก่อนจะพบว่าที่นี่โดนการโจมตีของเขาอัดเป็นหลุมดินยักษ์

ตรงกลางหลุมนี้เป็นเถาเล็กยาวราวๆ สามชุ่น แต่เถาส่วนนี้เต็มไปด้วยรูพรุน ของเหลวสีขาวขุ่นไหลออกมา

ของเหลวสีขาวขุ่นนั้นส่งกลิ่นหอมเข้มข้น ทำให้ความปรารถนาในใจเสิ่นเทียนรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

เสิ่นเทียนขี่กระบี่ด้วยความระมัดระวังพลางควบคุมปืนปทุมฆาตเทพให้จิ้มเถาเล็กนี่ จนมั่นใจว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แล้วเขาถึงวางใจและเก็บเถาเล็กนั้นขึ้นมาในมือ “ก่อกรรมทำเข็ญ เจ้าว่าเหตุใดเจ้าถึงต้องกลับมาล่ะ!”

สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนไม่มีความแค้นอะไรกับมารดาเถาลวี่จี เพราะด้วยจุดยืนของมารดาเถาลวี่จีแล้ว นางไม่ผิด แต่เรื่องถูกผิดในโลกบำเพ็ญเซียนไม่มีเหตุผล มารดาเถาลวี่จีเป็นปีศาจ ทั้งยังเป็นปีศาจกินคน

เสิ่นเทียนไม่รู้ว่าเถาเล็กนี่เป็นนางที่บรรลุนิพพานมาเกิดใหม่หรือเป็นชนรุ่นหลังสายเลือดที่นางผสานรวมออกมากันแน่ แต่ตอนนี้เขาบุกเข้ามาในหุบเขาอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งยังผูกเหตุและผลกับมันแล้ว

ตอนนี้ เขาเหลือทางเลือกเดียวคือพยายามผูกเหตุและผลอย่างเต็มที่ ถ้าไม่อาจผูกเหตุและผลได้ เช่นนั้นก็ต้องจัดการเถากลืนกินเซียน

ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่พวกเดียวกันเลยมีจิตใจต่างกัน เสิ่นเทียนจะเอาชีวิตมาล้อเล่นไม่ได้!

เขามองเถาวัลย์ที่ส่งกลิ่นหอมสดชื่นในมือ ลังเลว่าจะกินหรือไม่กินดี

เจ้านี่ดูหอมมาก อีกทั้งพลังของคัมภีร์คบเพลิงยังกระหายเถาวัลย์นี่มาก และที่สำคัญที่สุดคือก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนกินของเหลวเถาจองจำเซียนไปจำนวนมาก เหมือนจะไม่มีพิษด้วย

ดังนั้นจากตรงนี้จะเห็นได้ว่าเถาวัลย์ของเถากลืนกินเซียนก็น่าจะไม่มีพิษเช่นกัน!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ตัดสินใจว่าจะลองกินดูสักหน่อยก่อน ถ้าไม่มีปัญหาค่อยกินอีกหน่อย

เขาบีบของเหลวสีขาวขุ่นหยดหนึ่งตรงรอยแผลของเถากลืนกินเซียนเบาๆ ใส่ปาก

อืม เปรี้ยวๆ หวานๆ มีรสชาติเหมือนนมอ่อนๆ เหมือนนมเปรี้ยวรสวนิลา และที่สำคัญกว่านั้นคือเมื่อของเหลวสีขาวขุ่นลงท้อง พลังงานหนึ่งก็โหมซัดปะทุในกายเขา

นั่นคือพลังวิญญาณธาตุไม้ แฝงไว้ด้วยพลังชีวิตที่บริสุทธิ์ยิ่ง ทำให้เขาสบายไปทั้งตัว

เดิมทีถึงเสิ่นเทียนจะฝึกบำเพ็ญได้ แต่ธาตุไฟเข้าแทรกแปดสิบแปดครั้งก่อนหน้านี้ก็ยังทิ้งบาดแผลซ่อนเร้นไว้

ความจริงร่างกายกับตันเถียนเขาได้รับบาดเจ็บภายในในระดับที่ต่างกัน บาดแผลซ่อนเร้นเช่นนี้เป็นปัญหามาก ใช้ยาและเข็มหินรักษาได้ยากมาก

แต่ตอนนี้เมื่อกินของเหลวหยดนี้เข้าไป เสิ่นเทียนรู้สึกว่าบาดแผลซ่อนเร้นพวกนี้กำลังฟื้นฟู

ของเหลวเถาพวกนี้เป็นเหมือนกับพลังงานชีวิตที่บริสุทธิ์ที่สุด แผ่ซ่านไปทั่วทุกทวารในกาย พลังงานนี้ผ่านไปที่ใด บาดแผลซ่อนเร้นทั้งหมดจะฟื้นฟูกลับมาช้าๆ เพียงแค่ปริมาณน้อยเกินไปไม่พอเท่านั้น

เสิ่นเทียนตั้งใจสัมผัสอยู่นานมากจนพบว่าของเหลวชนิดนี้ไม่อันตรายกับตนจริงๆ แต่กลับมีประโยชน์มากกว่าแล้ว เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกและเริ่มกินเถาวัลย์เถากลืนกินเซียนพวกนั้นช้าๆ ด้วยความระมัดระวังมาก

อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยจริงๆ รสชาติเถากลืนกินเซียนขนาดพกพานี่ดีกว่าเถาจองจำเซียนพวกนั้นเยอะ

กัดเถาวัลย์เบาๆ ของเหลวหอมหวานสีขาวขุ่นก็แตกในช่องปาก จากนั้นพลังงานเปี่ยมล้นแผ่กระจายไปทั่วร่าง ทำการบำรุงอย่างดี

เวลานี้เสิ่นเทียนรู้สึกลอยล่องจะเป็นเซียน!

…….

ไม่นานเสิ่นเทียนก็กินเถากลืนกินเซียนยาวสามชุ่นนั้นหมด

เขาตรวจสอบอย่างละเอียดดูแล้วพบว่าในร่างกายตนไม่มีปฏิกิริยาที่ไม่ดีอะไรเลย ในทางตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกว่าร่างกายเบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่มีความรู้สึกไม่สบายตัวใดๆ อีก

อีกทั้งหลังจากพลังงานแผ่กระจายไปทุกส่วนของร่างกายแล้วก็ไปรวมกันที่บริเวณตับของเขา เหมือนจะพุ่งทะลักออกมา!

ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนกับตอนเสิ่นเทียนกินน้ำมวลหนักปฐมกาลยิ่ง เพียงแต่นุ่มนวลกว่ามาก

จนในที่สุดเขาก็วางใจลงนั่งขัดสมาธิกลางหุบเขา แล้วหยิบเถาวัลย์ก่อนหน้านี้ออกมา

ต่อมา ก็หยิบพวกผลวิญญาณกับเนื้อสดสัตว์อสูรจากแหวนเวหาออกมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยอีกเล็กน้อย ก่อนจะหยิบกล่องหินออกมา เปิดฝาออกเผยต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ในนั้น แล้วนำมาย่างเนื้อสัตว์

เขาควบคุมระยะห่างของเปลวไฟอย่างดี ปรับอุณหภูมิให้ดี ไม่นานผิวเนื้อสัตว์ก็มีไขมันสีทองซึมออกมาทีละหยด

เสิ่นเทียนโรยเครื่องปรุงพวกยี่หร่าและผงพริกบนเนื้อสัตว์ ทันใดนั้นกลิ่นหอมของเนื้อเข้มข้นก็โชยออกมา

จากนั้นเสิ่นเทียนเคลือบน้ำมวลหนักปฐมกาลบนกระบี่วารีคราม ใช้มันหั่นผลวิญญาณกับเถาวัลย์พวกนั้น

อาหารเรียกน้ำย่อยผักผลไม้สวยงามปรากฏออกมาตรงหน้าเสิ่นเทียนทีละจาน ดูแล้วทำให้อยากอาหารยิ่งนัก

มีอาหารเจอาหารคาว มีผักผลไม้สิถึงจะเป็นอาหารเลิศรสชั้นสูง!

เสิ่นเทียนหยิบโต๊ะออกมาจากแหวนเวหาแล้วจัดวางอาหารพวกนี้ขึ้นโต๊ะ

วุ่นมาตั้งนาน ความจริงเสิ่นเทียนก็เหนื่อยเช่นกัน จากนั้นจึงเป็นช่วงเวลาเสพสุขกับผลของชัยชนะ

กินเนื้อย่างไปคำ กัดเถาวัลย์และผลไม้ไปคำ บางครั้งก็ใช้เถาจองจำเซียนระดับดวงจิตดรุณมาคั้นเป็นเครื่องดื่มน้ำผลไม้บ้าง

ต้องบอกว่านี่คืองานเลี้ยงตะกละมูมมาม ถ้าคนอื่นในโลกบำเพ็ญเซียนเห็นเข้าคงจะตกใจจนคางร่วง

ถึงอย่างไรนั่นก็คือเถาจองจำเซียน คนอื่นเขาใช้แรงกายแรงใจกว่าจะหามาได้สักต้น ใครบ้างที่จะไม่ทุ่มสุดตัวหลอมมันเป็นสมบัติล้ำค่า

แม้จะใช้กินจริงๆ ก็ต้องประกบคู่กับของล้ำค่าฟ้าดินต่างๆ ออกมาเป็นโอสถระดับสูงสุด

การที่มาแทะกินเป็นมันเทศอย่างเสิ่นเทียนเช่นนี้ กระทั่งคั้นเป็นเครื่องดื่ม นี่มันคือการกระทำของพวกลูกล้างผลาญครอบครัวระดับสุดยอด ผู้สูงศักดิ์ยังปวดใจ!

…….

เมื่อกินเถากลืนกินเซียนลงท้องไปหมดแล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกว่าพลังงานนั้นในร่างกายสั่งสมถึงขีดสุดแล้ว

พลังงานมหาศาลและบริสุทธิ์ยิ่งรวมไว้ที่ตับเขา ใช้ตับเขาเป็นศูนย์กลางการปะทุ

ชั่วพริบตาเดียว เถาวัลย์สีเขียวมรกตสว่างจ้าก็พุ่งออกมาจากข้อมือขวาเสิ่นเทียนและยิงลงพื้น

บึ้ม~!

บนพื้นปรากฏรูเล็กชัดเจน เถาวัลย์ปักลงลึกดินราวกับหอกเทพ

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่าการโจมตีโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อครู่เทียบเคียงได้กับจุดสูงสุดของระดับสร้างฐาน อีกทั้งนี่เป็นแค่การโจมตีโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้ระเบิดพลังทั้งหมดด้วยซ้ำ

เขามั่นใจได้ว่าพลังงานในกายตนนั้นเชื่อฟังอย่างยิ่ง คุมได้เหมือนกับแขน

เสิ่นเทียนเริ่มสืบเสาะวิธีการใช้พลังงานนั้นอย่างละเอียด ไม่นานก็ใช้ใจสัมผัสได้อย่างแน่นอน

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนยื่นมือขวาออกมา เถาวัลย์สีเขียวมรกตพุ่งออกไปทันทีราวกับแส้เทพ

เปลือกมันห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวเงินชั้นหนึ่ง นั่นคือสีสันของน้ำมวลหนักปฐมกาล

น้ำให้กำเนิดไม้ ตอนนี้เถากลืนกินเซียนเหมือนจะแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม ประหนึ่งแส้และหอก!

มันฟาดโจมตีใส่พื้น ชั่ววูบเดียวทั้งแผ่นดินก็สั่นสะเทือน

อานุภาพพลังเช่นนี้ทำให้เสิ่นเทียนตกตะลึงจนพูดไม่ออก

เพราะเขารู้สึกว่าปุ่มโจมตีนี้เหมือนมากพอที่จะ…

ทำให้ผู้จริงแท้ระดับแก่งพลังทองบาดเจ็บสาหัสกระทั่งสิ้นชีพลงได้!

…………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 158 เสิ่น เถา หนวด เทียน

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 158 เสิ่น เถา หนวด เทียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 158 เสิ่น เถา หนวด เทียน

ปังๆๆๆ!

ไข่มุกเหล็กวิญญาณกราดยิงใส่หินนั้น ทำให้หินแหลกละเอียดในทันที

กระสุนที่เหลือก็กราดยิงใส่พื้นบริเวณนั้น ยิงทะลุลึกลงไปในดิน

แน่นอนว่าการโจมตีของวิญญาณกระบี่ในป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่มีอานุภาพสังหารแกร่งยิ่งกว่า

การโจมตีครั้งนี้ ป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่เสียพลังศิลาวิญญาณไปห้าพันก้อน พลังโจมตีเหนือธรรมดา!

แม้แต่ผู้สูงศักดิ์ระดับดวงจิตดรุณที่ค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่นี้ก็ต้องตื่นตระหนก ดีไม่ดีอาจจะบาดเจ็บสาหัสเอา

เมื่อไอกระบี่นับไม่ถ้วนฟันลงพื้นก็ทะลวงดินบริเวณนั้นตั้งแต่หัวจรดหาง ชั่วพริบตาเดียวก็เห็นฝุ่นควันคละคลุ้ง

“ชุดเกราะเต่าดำรวมร่าง เปิดโล่เต่าดำ!”

เสิ่นเทียนซ้อนการป้องกันเต็มที่อีกครั้งก่อนจะเดินไปทางนั้นอย่างระมัดระวัง “จิ่วเอ๋อร์ ยังมีแรงอาฆาตอยู่หรือไม่”

เสียงจิ่วเอ๋อร์ดังมาจากในอกเสื้อ “รู้สึกไม่ชัด เหมือนจะหายไปแล้ว และก็เหมือนหนีไปแล้วเจ้าค่ะ”

เสิ่นเทียนครุ่นคิด จนเดินมาถึงที่ที่เถากลืนกินเซียนเคยอยู่แล้วถึงเป่าไล่ฝุ่นควันไป ก่อนจะพบว่าที่นี่โดนการโจมตีของเขาอัดเป็นหลุมดินยักษ์

ตรงกลางหลุมนี้เป็นเถาเล็กยาวราวๆ สามชุ่น แต่เถาส่วนนี้เต็มไปด้วยรูพรุน ของเหลวสีขาวขุ่นไหลออกมา

ของเหลวสีขาวขุ่นนั้นส่งกลิ่นหอมเข้มข้น ทำให้ความปรารถนาในใจเสิ่นเทียนรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

เสิ่นเทียนขี่กระบี่ด้วยความระมัดระวังพลางควบคุมปืนปทุมฆาตเทพให้จิ้มเถาเล็กนี่ จนมั่นใจว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แล้วเขาถึงวางใจและเก็บเถาเล็กนั้นขึ้นมาในมือ “ก่อกรรมทำเข็ญ เจ้าว่าเหตุใดเจ้าถึงต้องกลับมาล่ะ!”

สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนไม่มีความแค้นอะไรกับมารดาเถาลวี่จี เพราะด้วยจุดยืนของมารดาเถาลวี่จีแล้ว นางไม่ผิด แต่เรื่องถูกผิดในโลกบำเพ็ญเซียนไม่มีเหตุผล มารดาเถาลวี่จีเป็นปีศาจ ทั้งยังเป็นปีศาจกินคน

เสิ่นเทียนไม่รู้ว่าเถาเล็กนี่เป็นนางที่บรรลุนิพพานมาเกิดใหม่หรือเป็นชนรุ่นหลังสายเลือดที่นางผสานรวมออกมากันแน่ แต่ตอนนี้เขาบุกเข้ามาในหุบเขาอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งยังผูกเหตุและผลกับมันแล้ว

ตอนนี้ เขาเหลือทางเลือกเดียวคือพยายามผูกเหตุและผลอย่างเต็มที่ ถ้าไม่อาจผูกเหตุและผลได้ เช่นนั้นก็ต้องจัดการเถากลืนกินเซียน

ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่พวกเดียวกันเลยมีจิตใจต่างกัน เสิ่นเทียนจะเอาชีวิตมาล้อเล่นไม่ได้!

เขามองเถาวัลย์ที่ส่งกลิ่นหอมสดชื่นในมือ ลังเลว่าจะกินหรือไม่กินดี

เจ้านี่ดูหอมมาก อีกทั้งพลังของคัมภีร์คบเพลิงยังกระหายเถาวัลย์นี่มาก และที่สำคัญที่สุดคือก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนกินของเหลวเถาจองจำเซียนไปจำนวนมาก เหมือนจะไม่มีพิษด้วย

ดังนั้นจากตรงนี้จะเห็นได้ว่าเถาวัลย์ของเถากลืนกินเซียนก็น่าจะไม่มีพิษเช่นกัน!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ตัดสินใจว่าจะลองกินดูสักหน่อยก่อน ถ้าไม่มีปัญหาค่อยกินอีกหน่อย

เขาบีบของเหลวสีขาวขุ่นหยดหนึ่งตรงรอยแผลของเถากลืนกินเซียนเบาๆ ใส่ปาก

อืม เปรี้ยวๆ หวานๆ มีรสชาติเหมือนนมอ่อนๆ เหมือนนมเปรี้ยวรสวนิลา และที่สำคัญกว่านั้นคือเมื่อของเหลวสีขาวขุ่นลงท้อง พลังงานหนึ่งก็โหมซัดปะทุในกายเขา

นั่นคือพลังวิญญาณธาตุไม้ แฝงไว้ด้วยพลังชีวิตที่บริสุทธิ์ยิ่ง ทำให้เขาสบายไปทั้งตัว

เดิมทีถึงเสิ่นเทียนจะฝึกบำเพ็ญได้ แต่ธาตุไฟเข้าแทรกแปดสิบแปดครั้งก่อนหน้านี้ก็ยังทิ้งบาดแผลซ่อนเร้นไว้

ความจริงร่างกายกับตันเถียนเขาได้รับบาดเจ็บภายในในระดับที่ต่างกัน บาดแผลซ่อนเร้นเช่นนี้เป็นปัญหามาก ใช้ยาและเข็มหินรักษาได้ยากมาก

แต่ตอนนี้เมื่อกินของเหลวหยดนี้เข้าไป เสิ่นเทียนรู้สึกว่าบาดแผลซ่อนเร้นพวกนี้กำลังฟื้นฟู

ของเหลวเถาพวกนี้เป็นเหมือนกับพลังงานชีวิตที่บริสุทธิ์ที่สุด แผ่ซ่านไปทั่วทุกทวารในกาย พลังงานนี้ผ่านไปที่ใด บาดแผลซ่อนเร้นทั้งหมดจะฟื้นฟูกลับมาช้าๆ เพียงแค่ปริมาณน้อยเกินไปไม่พอเท่านั้น

เสิ่นเทียนตั้งใจสัมผัสอยู่นานมากจนพบว่าของเหลวชนิดนี้ไม่อันตรายกับตนจริงๆ แต่กลับมีประโยชน์มากกว่าแล้ว เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกและเริ่มกินเถาวัลย์เถากลืนกินเซียนพวกนั้นช้าๆ ด้วยความระมัดระวังมาก

อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยจริงๆ รสชาติเถากลืนกินเซียนขนาดพกพานี่ดีกว่าเถาจองจำเซียนพวกนั้นเยอะ

กัดเถาวัลย์เบาๆ ของเหลวหอมหวานสีขาวขุ่นก็แตกในช่องปาก จากนั้นพลังงานเปี่ยมล้นแผ่กระจายไปทั่วร่าง ทำการบำรุงอย่างดี

เวลานี้เสิ่นเทียนรู้สึกลอยล่องจะเป็นเซียน!

…….

ไม่นานเสิ่นเทียนก็กินเถากลืนกินเซียนยาวสามชุ่นนั้นหมด

เขาตรวจสอบอย่างละเอียดดูแล้วพบว่าในร่างกายตนไม่มีปฏิกิริยาที่ไม่ดีอะไรเลย ในทางตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกว่าร่างกายเบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่มีความรู้สึกไม่สบายตัวใดๆ อีก

อีกทั้งหลังจากพลังงานแผ่กระจายไปทุกส่วนของร่างกายแล้วก็ไปรวมกันที่บริเวณตับของเขา เหมือนจะพุ่งทะลักออกมา!

ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนกับตอนเสิ่นเทียนกินน้ำมวลหนักปฐมกาลยิ่ง เพียงแต่นุ่มนวลกว่ามาก

จนในที่สุดเขาก็วางใจลงนั่งขัดสมาธิกลางหุบเขา แล้วหยิบเถาวัลย์ก่อนหน้านี้ออกมา

ต่อมา ก็หยิบพวกผลวิญญาณกับเนื้อสดสัตว์อสูรจากแหวนเวหาออกมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยอีกเล็กน้อย ก่อนจะหยิบกล่องหินออกมา เปิดฝาออกเผยต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ในนั้น แล้วนำมาย่างเนื้อสัตว์

เขาควบคุมระยะห่างของเปลวไฟอย่างดี ปรับอุณหภูมิให้ดี ไม่นานผิวเนื้อสัตว์ก็มีไขมันสีทองซึมออกมาทีละหยด

เสิ่นเทียนโรยเครื่องปรุงพวกยี่หร่าและผงพริกบนเนื้อสัตว์ ทันใดนั้นกลิ่นหอมของเนื้อเข้มข้นก็โชยออกมา

จากนั้นเสิ่นเทียนเคลือบน้ำมวลหนักปฐมกาลบนกระบี่วารีคราม ใช้มันหั่นผลวิญญาณกับเถาวัลย์พวกนั้น

อาหารเรียกน้ำย่อยผักผลไม้สวยงามปรากฏออกมาตรงหน้าเสิ่นเทียนทีละจาน ดูแล้วทำให้อยากอาหารยิ่งนัก

มีอาหารเจอาหารคาว มีผักผลไม้สิถึงจะเป็นอาหารเลิศรสชั้นสูง!

เสิ่นเทียนหยิบโต๊ะออกมาจากแหวนเวหาแล้วจัดวางอาหารพวกนี้ขึ้นโต๊ะ

วุ่นมาตั้งนาน ความจริงเสิ่นเทียนก็เหนื่อยเช่นกัน จากนั้นจึงเป็นช่วงเวลาเสพสุขกับผลของชัยชนะ

กินเนื้อย่างไปคำ กัดเถาวัลย์และผลไม้ไปคำ บางครั้งก็ใช้เถาจองจำเซียนระดับดวงจิตดรุณมาคั้นเป็นเครื่องดื่มน้ำผลไม้บ้าง

ต้องบอกว่านี่คืองานเลี้ยงตะกละมูมมาม ถ้าคนอื่นในโลกบำเพ็ญเซียนเห็นเข้าคงจะตกใจจนคางร่วง

ถึงอย่างไรนั่นก็คือเถาจองจำเซียน คนอื่นเขาใช้แรงกายแรงใจกว่าจะหามาได้สักต้น ใครบ้างที่จะไม่ทุ่มสุดตัวหลอมมันเป็นสมบัติล้ำค่า

แม้จะใช้กินจริงๆ ก็ต้องประกบคู่กับของล้ำค่าฟ้าดินต่างๆ ออกมาเป็นโอสถระดับสูงสุด

การที่มาแทะกินเป็นมันเทศอย่างเสิ่นเทียนเช่นนี้ กระทั่งคั้นเป็นเครื่องดื่ม นี่มันคือการกระทำของพวกลูกล้างผลาญครอบครัวระดับสุดยอด ผู้สูงศักดิ์ยังปวดใจ!

…….

เมื่อกินเถากลืนกินเซียนลงท้องไปหมดแล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกว่าพลังงานนั้นในร่างกายสั่งสมถึงขีดสุดแล้ว

พลังงานมหาศาลและบริสุทธิ์ยิ่งรวมไว้ที่ตับเขา ใช้ตับเขาเป็นศูนย์กลางการปะทุ

ชั่วพริบตาเดียว เถาวัลย์สีเขียวมรกตสว่างจ้าก็พุ่งออกมาจากข้อมือขวาเสิ่นเทียนและยิงลงพื้น

บึ้ม~!

บนพื้นปรากฏรูเล็กชัดเจน เถาวัลย์ปักลงลึกดินราวกับหอกเทพ

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่าการโจมตีโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อครู่เทียบเคียงได้กับจุดสูงสุดของระดับสร้างฐาน อีกทั้งนี่เป็นแค่การโจมตีโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้ระเบิดพลังทั้งหมดด้วยซ้ำ

เขามั่นใจได้ว่าพลังงานในกายตนนั้นเชื่อฟังอย่างยิ่ง คุมได้เหมือนกับแขน

เสิ่นเทียนเริ่มสืบเสาะวิธีการใช้พลังงานนั้นอย่างละเอียด ไม่นานก็ใช้ใจสัมผัสได้อย่างแน่นอน

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนยื่นมือขวาออกมา เถาวัลย์สีเขียวมรกตพุ่งออกไปทันทีราวกับแส้เทพ

เปลือกมันห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวเงินชั้นหนึ่ง นั่นคือสีสันของน้ำมวลหนักปฐมกาล

น้ำให้กำเนิดไม้ ตอนนี้เถากลืนกินเซียนเหมือนจะแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม ประหนึ่งแส้และหอก!

มันฟาดโจมตีใส่พื้น ชั่ววูบเดียวทั้งแผ่นดินก็สั่นสะเทือน

อานุภาพพลังเช่นนี้ทำให้เสิ่นเทียนตกตะลึงจนพูดไม่ออก

เพราะเขารู้สึกว่าปุ่มโจมตีนี้เหมือนมากพอที่จะ…

ทำให้ผู้จริงแท้ระดับแก่งพลังทองบาดเจ็บสาหัสกระทั่งสิ้นชีพลงได้!

…………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 158 เสิ่น เถา หนวด เทียน

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 158 เสิ่น เถา หนวด เทียน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 158 เสิ่น เถา หนวด เทียน

ปังๆๆๆ!

ไข่มุกเหล็กวิญญาณกราดยิงใส่หินนั้น ทำให้หินแหลกละเอียดในทันที

กระสุนที่เหลือก็กราดยิงใส่พื้นบริเวณนั้น ยิงทะลุลึกลงไปในดิน

แน่นอนว่าการโจมตีของวิญญาณกระบี่ในป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่มีอานุภาพสังหารแกร่งยิ่งกว่า

การโจมตีครั้งนี้ ป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่เสียพลังศิลาวิญญาณไปห้าพันก้อน พลังโจมตีเหนือธรรมดา!

แม้แต่ผู้สูงศักดิ์ระดับดวงจิตดรุณที่ค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่นี้ก็ต้องตื่นตระหนก ดีไม่ดีอาจจะบาดเจ็บสาหัสเอา

เมื่อไอกระบี่นับไม่ถ้วนฟันลงพื้นก็ทะลวงดินบริเวณนั้นตั้งแต่หัวจรดหาง ชั่วพริบตาเดียวก็เห็นฝุ่นควันคละคลุ้ง

“ชุดเกราะเต่าดำรวมร่าง เปิดโล่เต่าดำ!”

เสิ่นเทียนซ้อนการป้องกันเต็มที่อีกครั้งก่อนจะเดินไปทางนั้นอย่างระมัดระวัง “จิ่วเอ๋อร์ ยังมีแรงอาฆาตอยู่หรือไม่”

เสียงจิ่วเอ๋อร์ดังมาจากในอกเสื้อ “รู้สึกไม่ชัด เหมือนจะหายไปแล้ว และก็เหมือนหนีไปแล้วเจ้าค่ะ”

เสิ่นเทียนครุ่นคิด จนเดินมาถึงที่ที่เถากลืนกินเซียนเคยอยู่แล้วถึงเป่าไล่ฝุ่นควันไป ก่อนจะพบว่าที่นี่โดนการโจมตีของเขาอัดเป็นหลุมดินยักษ์

ตรงกลางหลุมนี้เป็นเถาเล็กยาวราวๆ สามชุ่น แต่เถาส่วนนี้เต็มไปด้วยรูพรุน ของเหลวสีขาวขุ่นไหลออกมา

ของเหลวสีขาวขุ่นนั้นส่งกลิ่นหอมเข้มข้น ทำให้ความปรารถนาในใจเสิ่นเทียนรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

เสิ่นเทียนขี่กระบี่ด้วยความระมัดระวังพลางควบคุมปืนปทุมฆาตเทพให้จิ้มเถาเล็กนี่ จนมั่นใจว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แล้วเขาถึงวางใจและเก็บเถาเล็กนั้นขึ้นมาในมือ “ก่อกรรมทำเข็ญ เจ้าว่าเหตุใดเจ้าถึงต้องกลับมาล่ะ!”

สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนไม่มีความแค้นอะไรกับมารดาเถาลวี่จี เพราะด้วยจุดยืนของมารดาเถาลวี่จีแล้ว นางไม่ผิด แต่เรื่องถูกผิดในโลกบำเพ็ญเซียนไม่มีเหตุผล มารดาเถาลวี่จีเป็นปีศาจ ทั้งยังเป็นปีศาจกินคน

เสิ่นเทียนไม่รู้ว่าเถาเล็กนี่เป็นนางที่บรรลุนิพพานมาเกิดใหม่หรือเป็นชนรุ่นหลังสายเลือดที่นางผสานรวมออกมากันแน่ แต่ตอนนี้เขาบุกเข้ามาในหุบเขาอย่างไม่ตั้งใจ ทั้งยังผูกเหตุและผลกับมันแล้ว

ตอนนี้ เขาเหลือทางเลือกเดียวคือพยายามผูกเหตุและผลอย่างเต็มที่ ถ้าไม่อาจผูกเหตุและผลได้ เช่นนั้นก็ต้องจัดการเถากลืนกินเซียน

ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่พวกเดียวกันเลยมีจิตใจต่างกัน เสิ่นเทียนจะเอาชีวิตมาล้อเล่นไม่ได้!

เขามองเถาวัลย์ที่ส่งกลิ่นหอมสดชื่นในมือ ลังเลว่าจะกินหรือไม่กินดี

เจ้านี่ดูหอมมาก อีกทั้งพลังของคัมภีร์คบเพลิงยังกระหายเถาวัลย์นี่มาก และที่สำคัญที่สุดคือก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนกินของเหลวเถาจองจำเซียนไปจำนวนมาก เหมือนจะไม่มีพิษด้วย

ดังนั้นจากตรงนี้จะเห็นได้ว่าเถาวัลย์ของเถากลืนกินเซียนก็น่าจะไม่มีพิษเช่นกัน!

เมื่อคิดได้ดังนั้น เสิ่นเทียนก็ตัดสินใจว่าจะลองกินดูสักหน่อยก่อน ถ้าไม่มีปัญหาค่อยกินอีกหน่อย

เขาบีบของเหลวสีขาวขุ่นหยดหนึ่งตรงรอยแผลของเถากลืนกินเซียนเบาๆ ใส่ปาก

อืม เปรี้ยวๆ หวานๆ มีรสชาติเหมือนนมอ่อนๆ เหมือนนมเปรี้ยวรสวนิลา และที่สำคัญกว่านั้นคือเมื่อของเหลวสีขาวขุ่นลงท้อง พลังงานหนึ่งก็โหมซัดปะทุในกายเขา

นั่นคือพลังวิญญาณธาตุไม้ แฝงไว้ด้วยพลังชีวิตที่บริสุทธิ์ยิ่ง ทำให้เขาสบายไปทั้งตัว

เดิมทีถึงเสิ่นเทียนจะฝึกบำเพ็ญได้ แต่ธาตุไฟเข้าแทรกแปดสิบแปดครั้งก่อนหน้านี้ก็ยังทิ้งบาดแผลซ่อนเร้นไว้

ความจริงร่างกายกับตันเถียนเขาได้รับบาดเจ็บภายในในระดับที่ต่างกัน บาดแผลซ่อนเร้นเช่นนี้เป็นปัญหามาก ใช้ยาและเข็มหินรักษาได้ยากมาก

แต่ตอนนี้เมื่อกินของเหลวหยดนี้เข้าไป เสิ่นเทียนรู้สึกว่าบาดแผลซ่อนเร้นพวกนี้กำลังฟื้นฟู

ของเหลวเถาพวกนี้เป็นเหมือนกับพลังงานชีวิตที่บริสุทธิ์ที่สุด แผ่ซ่านไปทั่วทุกทวารในกาย พลังงานนี้ผ่านไปที่ใด บาดแผลซ่อนเร้นทั้งหมดจะฟื้นฟูกลับมาช้าๆ เพียงแค่ปริมาณน้อยเกินไปไม่พอเท่านั้น

เสิ่นเทียนตั้งใจสัมผัสอยู่นานมากจนพบว่าของเหลวชนิดนี้ไม่อันตรายกับตนจริงๆ แต่กลับมีประโยชน์มากกว่าแล้ว เขาก็สูดลมหายใจเข้าลึกและเริ่มกินเถาวัลย์เถากลืนกินเซียนพวกนั้นช้าๆ ด้วยความระมัดระวังมาก

อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยจริงๆ รสชาติเถากลืนกินเซียนขนาดพกพานี่ดีกว่าเถาจองจำเซียนพวกนั้นเยอะ

กัดเถาวัลย์เบาๆ ของเหลวหอมหวานสีขาวขุ่นก็แตกในช่องปาก จากนั้นพลังงานเปี่ยมล้นแผ่กระจายไปทั่วร่าง ทำการบำรุงอย่างดี

เวลานี้เสิ่นเทียนรู้สึกลอยล่องจะเป็นเซียน!

…….

ไม่นานเสิ่นเทียนก็กินเถากลืนกินเซียนยาวสามชุ่นนั้นหมด

เขาตรวจสอบอย่างละเอียดดูแล้วพบว่าในร่างกายตนไม่มีปฏิกิริยาที่ไม่ดีอะไรเลย ในทางตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกว่าร่างกายเบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่มีความรู้สึกไม่สบายตัวใดๆ อีก

อีกทั้งหลังจากพลังงานแผ่กระจายไปทุกส่วนของร่างกายแล้วก็ไปรวมกันที่บริเวณตับของเขา เหมือนจะพุ่งทะลักออกมา!

ความรู้สึกเช่นนี้เหมือนกับตอนเสิ่นเทียนกินน้ำมวลหนักปฐมกาลยิ่ง เพียงแต่นุ่มนวลกว่ามาก

จนในที่สุดเขาก็วางใจลงนั่งขัดสมาธิกลางหุบเขา แล้วหยิบเถาวัลย์ก่อนหน้านี้ออกมา

ต่อมา ก็หยิบพวกผลวิญญาณกับเนื้อสดสัตว์อสูรจากแหวนเวหาออกมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยอีกเล็กน้อย ก่อนจะหยิบกล่องหินออกมา เปิดฝาออกเผยต้นกำเนิดอัคคีอรุณใต้ในนั้น แล้วนำมาย่างเนื้อสัตว์

เขาควบคุมระยะห่างของเปลวไฟอย่างดี ปรับอุณหภูมิให้ดี ไม่นานผิวเนื้อสัตว์ก็มีไขมันสีทองซึมออกมาทีละหยด

เสิ่นเทียนโรยเครื่องปรุงพวกยี่หร่าและผงพริกบนเนื้อสัตว์ ทันใดนั้นกลิ่นหอมของเนื้อเข้มข้นก็โชยออกมา

จากนั้นเสิ่นเทียนเคลือบน้ำมวลหนักปฐมกาลบนกระบี่วารีคราม ใช้มันหั่นผลวิญญาณกับเถาวัลย์พวกนั้น

อาหารเรียกน้ำย่อยผักผลไม้สวยงามปรากฏออกมาตรงหน้าเสิ่นเทียนทีละจาน ดูแล้วทำให้อยากอาหารยิ่งนัก

มีอาหารเจอาหารคาว มีผักผลไม้สิถึงจะเป็นอาหารเลิศรสชั้นสูง!

เสิ่นเทียนหยิบโต๊ะออกมาจากแหวนเวหาแล้วจัดวางอาหารพวกนี้ขึ้นโต๊ะ

วุ่นมาตั้งนาน ความจริงเสิ่นเทียนก็เหนื่อยเช่นกัน จากนั้นจึงเป็นช่วงเวลาเสพสุขกับผลของชัยชนะ

กินเนื้อย่างไปคำ กัดเถาวัลย์และผลไม้ไปคำ บางครั้งก็ใช้เถาจองจำเซียนระดับดวงจิตดรุณมาคั้นเป็นเครื่องดื่มน้ำผลไม้บ้าง

ต้องบอกว่านี่คืองานเลี้ยงตะกละมูมมาม ถ้าคนอื่นในโลกบำเพ็ญเซียนเห็นเข้าคงจะตกใจจนคางร่วง

ถึงอย่างไรนั่นก็คือเถาจองจำเซียน คนอื่นเขาใช้แรงกายแรงใจกว่าจะหามาได้สักต้น ใครบ้างที่จะไม่ทุ่มสุดตัวหลอมมันเป็นสมบัติล้ำค่า

แม้จะใช้กินจริงๆ ก็ต้องประกบคู่กับของล้ำค่าฟ้าดินต่างๆ ออกมาเป็นโอสถระดับสูงสุด

การที่มาแทะกินเป็นมันเทศอย่างเสิ่นเทียนเช่นนี้ กระทั่งคั้นเป็นเครื่องดื่ม นี่มันคือการกระทำของพวกลูกล้างผลาญครอบครัวระดับสุดยอด ผู้สูงศักดิ์ยังปวดใจ!

…….

เมื่อกินเถากลืนกินเซียนลงท้องไปหมดแล้ว เสิ่นเทียนรู้สึกว่าพลังงานนั้นในร่างกายสั่งสมถึงขีดสุดแล้ว

พลังงานมหาศาลและบริสุทธิ์ยิ่งรวมไว้ที่ตับเขา ใช้ตับเขาเป็นศูนย์กลางการปะทุ

ชั่วพริบตาเดียว เถาวัลย์สีเขียวมรกตสว่างจ้าก็พุ่งออกมาจากข้อมือขวาเสิ่นเทียนและยิงลงพื้น

บึ้ม~!

บนพื้นปรากฏรูเล็กชัดเจน เถาวัลย์ปักลงลึกดินราวกับหอกเทพ

เสิ่นเทียนรู้สึกได้ว่าการโจมตีโดยไม่ได้ตั้งใจเมื่อครู่เทียบเคียงได้กับจุดสูงสุดของระดับสร้างฐาน อีกทั้งนี่เป็นแค่การโจมตีโดยไม่รู้ตัว ไม่ได้ระเบิดพลังทั้งหมดด้วยซ้ำ

เขามั่นใจได้ว่าพลังงานในกายตนนั้นเชื่อฟังอย่างยิ่ง คุมได้เหมือนกับแขน

เสิ่นเทียนเริ่มสืบเสาะวิธีการใช้พลังงานนั้นอย่างละเอียด ไม่นานก็ใช้ใจสัมผัสได้อย่างแน่นอน

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนยื่นมือขวาออกมา เถาวัลย์สีเขียวมรกตพุ่งออกไปทันทีราวกับแส้เทพ

เปลือกมันห่อหุ้มด้วยแสงสีขาวเงินชั้นหนึ่ง นั่นคือสีสันของน้ำมวลหนักปฐมกาล

น้ำให้กำเนิดไม้ ตอนนี้เถากลืนกินเซียนเหมือนจะแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม ประหนึ่งแส้และหอก!

มันฟาดโจมตีใส่พื้น ชั่ววูบเดียวทั้งแผ่นดินก็สั่นสะเทือน

อานุภาพพลังเช่นนี้ทำให้เสิ่นเทียนตกตะลึงจนพูดไม่ออก

เพราะเขารู้สึกว่าปุ่มโจมตีนี้เหมือนมากพอที่จะ…

ทำให้ผู้จริงแท้ระดับแก่งพลังทองบาดเจ็บสาหัสกระทั่งสิ้นชีพลงได้!

…………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+