บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 453 ต่อให้ต้องพลีกาย ข้าก็ยอม

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 453 ต่อให้ต้องพลีกาย ข้าก็ยอม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 453 ต่อให้ต้องพลีกาย ข้าก็ยอม!

เทพธิดาชิงเยวี่ยมองสัตว์กลืนฟ้าที่ดับสูญไปพลางตกตะลึงในใจ

นางไม่คาดคิดเลยว่าเสิ่นเทียนจะสังหารสัตว์กลืนฟ้าได้

เดิมทีสัตว์กลืนฟ้าเป็นสัตว์ร้ายที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

ในยุคดึกดำบรรพ์ เผ่านี้อาศัยศักยภาพแข็งแกร่งทำตามใจตนเองในฟ้าดิน

เมื่อสัตว์ร้ายนี้ปรากฏจะกวาดล้างแปดทิศ มีน้อยคนที่หนีรอดไปได้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสังหารมัน

มันควบคุมกฎเกณฑ์มิติ ซ่อนตัวในมิติลอบโจมตีได้ มีการเอาตัวรอดสูงยิ่ง ทำให้คนส่วนใหญ่รับมือได้ยาก!

สัตว์กลืนฟ้านี้มีกำลังรบเทียบเท่าอริยะแท้หกด่านเคราะห์ ต่อให้เป็นเจ้าอริยะก็ไม่มั่นใจเต็มสิบว่าจะสังหารมันได้!

ทว่า สัตว์กลืนฟ้าน่ากลัวเช่นนี้กลับถูกเสิ่นเทียนชกหมัดเดียวระเบิด

กำลังรบนี้น่ากลัวยิ่งนัก!

…..

เทพธิดาชิงเยวี่ยไม่รู้ว่าเสิ่นเทียนฝึกวิชาคุนเผิงถึงระดับสูงสุดแล้ว อีกทั้งในกายยังมีสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินจักรพรรดิบุปผาฟากฝั่ง

สองสิ่งสอดคล้องกับกฎเกณฑ์มิติโดยธรรมชาติ และใกล้ชิดมหามรรคมิติ ภายใต้สองสิ่งส่งเสริม เสิ่นเทียนจึงมีการควบคุมกฎเกณฑ์มิติไม่ด้อยไปกว่าเจ้าอริยะที่บรรลุมรรคด้วยมิติ

แม้สัตว์กลืนฟ้าจะอาศัยกฎเกณฑ์มิติซุ่มโจมตีได้ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าเสิ่นเทียน

ภายใต้การเสริมด้วยจิตต่อสู้ไร้พ่าย ประกายหมัดของเสิ่นเทียนหนักหมื่นชั่ง ต่อให้เป็นเจ้าอริยะก็ยังเลือดอาบ

สัตว์กลืนฟ้าไม่อาจหลบการโจมตีได้ อีกทั้งกายเนื้อยังไม่แกร่งเท่าเจ้าอริยะ จึงได้แต่ฝังกระดูกไว้ที่นี่

…..

หลังสังหารสัตว์กลืนฟ้าแล้ว เสิ่นเทียนโบกมือกว้าง เก็บเศษมหามรรคสองชิ้นมา

สองสิ่งนี้คือเศษมหามรรคที่หาได้ยาก มีท่วงทำนองมรรคเข้มข้น!

สมบัติสุดยอดเช่นนี้ประเมินค่าไม่ได้ โดยเฉพาะเศษมหามรรคมิติ ไม่ว่าจะใช้เองหรือเอาไปแลก ก็ยอดเยี่ยมยิ่ง!

หลังเก็บของที่ได้มาจากการต่อสู้แล้ว เสิ่นเทียนยกมุมปากเล็กน้อย “ศิษย์พี่หญิงชิงเยวี่ย พวกเราเดินหน้ากันต่อเถอะ!”

“อ้อ ดี!”

เทพธิดาชิงเยวี่ยตั้งสติกลับมาได้ แต่ในใจก็ยังไม่สงบลง

สองคนมุ่งหน้าไปทางตะวันตกอีกครั้ง เดินทางไปสามพันลี้ ในที่สุดก็หยุดฝีก้าวลง

ประตูมิติบานหนึ่งลอยอยู่ตรงหน้าพวกเขา

มิติที่นี่กระเพื่อม กฎเกณฑ์ไหลเวียน

แสงเทพตกลงมาจากท้องนภา วนเวียนหนาทึบ สีสันหลากสีถึงที่สุด

เมื่อเห็นภาพนี้ เทพธิดาชิงเยวี่ยมีสีหน้าตื่นเต้นขึ้นมา!

นางรู้ว่าประตูมิตินี้คือแดนมหาโชคลิขิตในโลกสะพาน…ประตูมิติ

ประตูมิติสืบทอดมาแต่โบราณ เป็นซากโบราณที่ผู้แข็งแกร่งยุคบรรพกาลฝากเอาไว้ ในนั้นอาจจะมีสมบัติสุดยอดหรือวิชาสูงสุด!

แต่ประตูมิติไหลเวียนในมิติมาตลอด ไหลไปตามคลื่น ไม่ได้คงอยู่นานนัก

คนมากมายรอในโลกสะพานหลายสิบปีก็อาจจะไม่พบ!

ตอนนี้ประตูมิติอยู่ตรงหน้าพวกเขา จะไม่ดีใจได้อย่างไร

โชควาสนาเช่นนี้ ทำให้เทพธิดาชิงเยวี่ยปลงอนิจจังในใจ

ศิษย์น้องเสิ่นเทียนสมกับเป็นบุตรแห่งโชค มีดวงชะตาสูงสุด!

พวกเขาเพิ่งเข้ามานานเท่าไรเองก็พบแดนผาสุกแห่งนี้ นี่ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ

มีเพียงผู้มีมหาดวงชะตาเท่านั้นถึงจะดวงดีเช่นนี้ได้!

หากไม่ใช่เพราะมีศิษย์น้องเสิ่นเทียนอยู่ นางจะไม่มีทางเจอประตูมิตินี้เลย แค่สัตว์กลืนฟ้าก็ขวางทางนางได้แล้ว จะไปต่อทางตะวันตกได้อย่างไร

ทุกอย่างเป็นเพราะมีศิษย์น้องเสิ่นเทียน!

……

เสิ่นเทียนมีสีหน้าราบเรียบ ทำหน้าสงบนิ่ง “ศิษย์พี่หญิง พวกเราเข้าไปกันเถอะ!”

ทุกอย่างอยู่ในการคาดการณ์ ดังนั้นที่นี่จึงเป็นแดนลับที่ลอยอยู่ในภาพโชคลิขิตของเทพธิดาชิงเยวี่ย!

สองคนเดินไปทางประตูมิติพร้อมกัน จากนั้นมีพลังประหลาดแผ่ออกมา ดึงสองคนเข้าไป จนเมื่อพวกเขาปรากฏตัวก็ถูกเคลื่อนย้ายไปอีกมิติหนึ่ง

ที่นี่เป็นหุบเขาแห่งหนึ่ง แปลกมาก

เพิ่งมาที่นี่ก็เห็นปรากฏการณ์ตะวันจันทราส่องแสงเคียงคู่ แสงสว่างหมื่นจั้ง พลังโอ่อ่ายิ่งใหญ่ เหมือนกับแดนเซียน!

ฟ้าดินที่นี่ถูกแสงเทพไม่มีสิ้นสุดแบ่งเป็นสองเขต กฎเกณฑ์วนเวียน สว่างจ้าแสบตาถึงที่สุด!

ด้านหนึ่งเป็นแสงทองร้อนแรง เหมือนดวงตะวัน แผ่พลังของดวงตะวันร้อนแผดเผา อีกด้านเป็นแสงเงินสุกสกาว เหมือนจันทร์เงินลอยสูง แผ่พลังของจันทรานุ่มนวล

“เป็นที่นี่มหัศจรรย์มาก!”

เทพธิดาชิงเยวี่ยอุทานเบาๆ สถานที่พิเศษเช่นนี้หาได้ยากในโลก!

นอกจากปรากฏการณ์นี้แล้ว ที่นี่ยังแฝงไว้ด้วยเจตจำนงมรรคารุนแรง

ตะวันกับจันทรา สองเจตจำนงมรรคา

หากผู้บำเพ็ญที่ควบคุมตะวันหรือจันทราตระหนักรู้ที่นี่ จะได้ผลดีเป็นเท่าตัวแน่นอน!

เทพธิดาชิงเยวี่ยก็อยู่ในนั้น

นางมีกายแห่งจันทรา และยังฝึกวิถีแห่งจันทรา

สำหรับนางแล้ว ที่นี่เหมือนแดนศักดิ์สิทธิ์ตระหนักรู้ ทำให้นางผลัดเปลี่ยนแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างรวดเร็ว!

ตระหนักรู้ที่นี่หนึ่งวัน เท่ากับอยู่โลกข้างนอกร้อยปี พันปี!

เจอแดนศักดิ์สิทธิ์ตระหนักรู้เช่นนี้ ทำให้เทพธิดาชิงเยวี่ยอดใจเริ่มฝึกฝนมิได้ นางกางสองแขนช้าๆ สัมผัสการชะล้างด้วยกฎเกณฑ์มหามรรค

พลังแห่งจันทราบริสุทธิ์ตกลงมาจากฟ้า กลายเป็นแสงจันทร์สุกสกาว วนเวียนหนาทึบ แสงเรืองรองส่องสว่างจ้า

พริบตาเดียว เทพธิดาชิงเยวี่ยถูกแสงจันทร์ปกคลุมทั้งหมด ทั่วร่างเปล่งแสงเทพ เหมือนเซียนบนฟ้า เหนือธรรมดา!

นางเหมือนตกไปในทะเลแดนมรรค การตระหนักรู้มหามรรคเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว!

ตอนนี้เอง เสิ่นเทียนเตือนด้วยรอยยิ้ม “ศิษย์พี่หญิง อย่าเพิ่งรีบตระหนักรู้ ที่นี่อาจจะยังมีสมบัติดีอยู่ดี!”

ซากโบราณที่ผู้แข็งแกร่งยุคบรรพกาลฝากไว้จะมีแค่นี้ได้อย่างไร

“ขอบคุณศิษย์น้องมากที่เตือน!”

เทพธิดาชิงเยวี่ยตั้งสติกลับมาได้ สร้างปรากฏการณ์เช่นนี้ได้ จะต้องมีสมบัติสุดยอดแน่นอน!

การตระหนักรู้ไม่ต้องรีบ ถึงอย่างไรก็มีเวลาร้อยปี!

เรื่องด่วนคือการหาสมบัติมากกว่า!

……

สองคนเข้าไปส่วนลึกต่อ ก็พบบ่อเกิดปรากฏการณ์นี้ นั่นเป็นปรากฏการณ์ที่เหนี่ยวนำขึ้นจากสมบัติสุดยอดสองชิ้น

สมบัติสุดยอดสองชิ้นลอยอยู่กลางอากาศ หน้าตาคล้ายกันมาก เป็นลักษณะกลม

พวกมันเปล่งแสงเทพทุกส่วน สีสันต่างกัน พลังก็ต่างกัน

ด้านหนึ่งเป็นพลังแห่งตะวันถึงขีดสุด อีกด้านเป็นพลังแห่งจันทราถึงขีดสุด

สมบัติสุดยอดสองชิ้นเหมือนตะวันและจันทรา แบ่งกันลอยอยู่กลางอากาศ เปล่งแสงเทพสว่างจ้า!

เพราะเหตุนี้เองถึงได้เกิดปรากฏการณ์ตะวันจันทราส่องแสงเคียงคู่

“หากข้าเดาไม่ผิด นี่น่าจะเป็นกงล้อทองตะวันจันทรา!”

เทพธิดาชิงเยวี่ยเกิดคลื่นขึ้นในดวงตา นางเคยพบสิ่งนี้ในคัมภีร์โบราณ

เล่าลือว่ากงล้อทองตะวันจันทราเป็นอาวุธเซียนทรงพลังในยุคบรรพกาล หลอมโดยเซียนแท้จริงที่สุดแห่งยุค มีอานุภาพไร้ขีดจำกัด!

กงล้อทองตะวันหลอมขึ้นจากแก่นบริสุทธิ์ของตะวัน เป็นอาวุธสายป้องกันที่สูงสุด!

กงล้อทองจันทราหลอมขึ้นจากแก่นบริสุทธิ์จันทรา มีพลังโจมตีที่รวดเร็วและดุดันที่สุด

หากสองสิ่งรวมกันจะก่อให้เกิดพลังแห่งตะวันและจันทรากู่ร้องพร้อมกัน หยินหยางตัดสลับ แผ่อำนาจคุกคามสูงสุด!

ในอดีตมีผู้แข็งแกร่งอาศัยกงล้อทองตะวันจันทราถึงขั้นเคยสังหารผู้แข็งแกร่งเตรียมจักรพรรดิได้!

แม้นี่จะเป็นเพียงอาวุธเซียน แต่พลังที่ระเบิดออกมาอย่างแท้จริงไม่ด้อยไปกว่าอาวุธจักรพรรดิเท่าไร!

ในยุคบรรพกาล กงล้อทองตะวันจันทราก็สังหารจนมีชื่อเสียงเลื่องลือ!

เพียงแต่ว่าอาวุธเทพนี้หายสาบสูญไปนาน ตกจากโลกเซียนลงมาโลกมนุษย์ ไม่นึกเลยว่าจะมาอยู่ที่นี่ มิน่าหลายแสนปีแล้วยังไม่เคยปรากฏ

การได้เห็นกงล้อทองตะวันจันทราที่นี่ ทำให้เทพธิดาชิงเยวี่ยตกใจมาก

และตอนนี้เอง กงล้อทองจันทราเปล่งแสงเทพไร้ที่สิ้นสุด แสงเงินหลากสีพลันพุ่งขึ้น บดบังฟ้าบังดวงตะวัน ส่องสะท้อนขอบฟ้า!

พลังแห่งจันทราไร้ที่สิ้นสุดไหลมารวมกัน เข้าไปในกายเทพธิดาชิงเยวี่ยทั้งหมด เกิดการกู่ร้องขึ้นกับมัน!

เทพธิดาชิงเยวี่ยพลันสัมผัสได้ว่าในกายก็มีแสงจันทราสุกสกาวพุ่งออกมาเช่นกัน

จันทราหกดวงลอยขึ้นข้างหลัง ส่องแสงกับกงล้อทองจันทรา

เทพธิดาชิงเยวี่ยมีกายศักดิ์สิทธิ์จันทรา จึงสอดคล้องกับพลังแห่งจันทราที่สุด ถึงได้กู่ร้องกับกงล้อทองจันทราได้

“ศิษย์น้อง…”

เทพธิดาชิงเยวี่ยมองเสิ่นเทียนทีหนึ่ง น้ำเสียงมีความลังเลเล็กน้อย

ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็พบที่นี่ แต่สมบัติกลับกู่ร้องกับนาง ทำให้นางไม่รู้จะเลือกอย่างไรดี

เสิ่นเทียนยิ้ม “ศิษย์พี่หญิง สิ่งนี้มีวาสนากับท่าน รีบรับไว้เถอะ!”

เขารู้อยู่แก่ใจดีกว่านี่เป็นโชคลิขิตที่เทพธิดาชิงเยวี่ยควรจะได้รับอยู่แล้ว

นัยน์ตาเทพธิดาชิงเยวี่ยเผยความซาบซึ้งใจ จากนั้นพุ่งขึ้นไปยังกงล้อทองจันทรา

ทว่าตอนนี้เองพลันปรากฏม่านแสงเงินขึ้น ขวางหน้านางไว้ ในนี้แฝงไว้ด้วยผนึกกฎเกณฑ์ เข้าไปเอากงล้อทองจันทราไม่ได้ง่ายๆ

เทพธิดาชิงเยวี่ยเคลื่อนพลังฤทธิ์ จันทราหกดวงข้างหลังลอยสูง เปล่งแสงขาวบริสุทธิ์ พลังอำนาจมหาศาล!

นางเคลื่อนจันทร์หกดวงให้ยิงแสงจันทร์ไร้ที่สิ้นสุดใส่ม่านแสงสีเงิน

ภายใต้แสงจันทร์ไหลหลากเข้าไป เหมือนกับคมแสงจันทร์ แผ่พลังแก่กล้า

ตึงๆๆ!

เกิดเสียงครึกโครมดังในฟ้าดิน!

อานุภาพของทุกแสงจันทร์แข็งแกร่งยิ่ง สังหารผู้อริยะธรรมดาได้ง่ายดาย!

จำนวนมากขนาดนี้ ต่อให้เป็นอริยะแท้สี่ด่านเคราะห์ก็อาจจะต้านไว้ไม่อยู่!

แสงจันทร์พุ่งเข้าไปในม่านแสงสีเงิน เกิดคลื่นกระเพื่อมขึ้น แต่กลับไม่มีรอยแตกร้าวใดๆ

ม่านแสงเงินแข็งแกร่งมาก ด้วยพลังของเทพธิดาชิงเยวี่ย การจะทำลายมันต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งเลย

…..

เสิ่นเทียนกลอกตาเล็กน้อย หันไปมองทางด้านกงล้อทองตะวัน

ในโชคลิขิตเดิม เทพธิดาชิงเยวี่ยได้รับการยอมรับจากกงล้อทองจันทรา และได้มันมาครอง

แต่จนถึงสุดท้ายนางก็ไม่ได้รับการยอมรับจากกงล้อทองตะวัน ดังนั้นต่อให้เสิ่นเทียนเก็บสมบัติสุดยอดนี้ไปก็จะไม่ส่งผลกับดวงชะตาของเทพธิดาชิงเยวี่ย

สิ่งนี้แฝงไว้ด้วยพลังแห่งตะวัน มีเพียงกายศักดิ์สิทธิ์สุริยันเท่านั้นถึงจะกู่ร้องกับมันได้!

และเสิ่นเทียนมีกายศักดิ์สิทธิ์สุริยันพอดี!

เป็นอย่างที่คิดไว้ เมื่อสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของกายศักดิ์สิทธิ์สุริยัน กงล้อทองตะวันก็เปล่งแสงทองสว่างจ้า!

ทันใดนั้น อานุภาพร้อนแรงยิ่งพุ่งขึ้นฟ้า เหมือนดวงตะวันขึ้นทางตะวันออก

เมื่อเห็นภาพนี้ เสิ่นเทียนตาเป็นประกายขึ้นมา

กงล้อทองตะวันเป็นอาวุธเซียนป้องกันแก่กล้า แฝงไว้ด้วยแก่นบริสุทธิ์ของตะวัน เป็นการคงอยู่แข็งแกร่งในอาวุธเซียน!

สมบัติสุดยอดเช่นนี้ เสิ่นเทียนย่อมไม่เกรงใจเลย!

…..

เขาพุ่งขึ้นบินไปยังกงล้อทองตะวัน!

ตอนนี้เองกงล้อทองตะวันก็ยิงม่านแสงสว่างจ้าออกมาเช่นกัน ปกคลุมฟ้าดิน คลุมมันไว้ทั้งหมด!

การจะได้ของสิ่งนี้จะต้องทำลายม่านทอง!

ในม่านทองแผ่พลังแก่กล้า เหมือนปราการเหล็กทอง แข็งแกร่งทนทาน!

เทียบกับกงล้อทองจันทราแล้ว กงล้อทองตะวันให้ความสำคัญกับการป้องกันมากกว่า ผนึกค่ายกลของมันก็แกร่งยิ่งกว่า!

เสิ่นเทียนยกมุมปากเล็กน้อย “ข้าอยากรู้นักว่าเจ้านี่จะแข็งสักเพียงใด!”

เขาโบกมือกว้าง ค้อนสยบฟ้าพลันลอยอยู่ในมือ!

ค้อนใหญ่แผ่พลังมหาศาล เหมือนจะสยบฟ้าดิน ทำลายภูลำธาร!

เสิ่นเทียนควงค้อนขึ้น ทุบใส่ม่านแสงทองด้วยพลังหนักหมื่นชั่ง!

ตึง!

เกิดเสียงดังสนั่นฟ้าดิน เหมือนจะฉีกห้วงมิตินี้ได้!

เกิดคลื่นกระเพื่อมไม่มีสิ้นสุดมาจากในม่านแสงทองไม่ขาดสาย เหมือนรับพละกำลังที่น่าสะพรึงอย่างยิ่ง!

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นม่านแสงทองก็ยังไม่แตก!

ต้องรู้ว่าการโจมตีของเสิ่นเทียนเทียบเท่ากับการโจมตีสุดกำลังของอริยะแท้หกด่านเคราะห์ แต่ก็ยังทำลายไม่ได้!

ทว่าเสิ่นเทียนกลับไม่หยุดมือ แต่กระตุ้นเคล็ดวิชา!

“โลหิตยุทธ์ผลาญฟ้า!”

พริบตานั้น เสิ่นเทียนแผ่เปลวเพลิงเทพสีแดงฉานออกมาจากในกาย จิตต่อสู้น่ากลัวหลั่งไหลมาเหมือนคลื่นลูกใหญ่ กลิ่นอายพลังพลันพุ่งพรวดขึ้น!

ภายใต้โลหิตยุทธ์ผลาญฟ้า เสิ่นเทียนเหมือนกับเทพสงครามที่สุดแห่งยุค จะก่อสงครามน่าสะพรึงขึ้น!

เขาควงค้อนอีกครั้ง แต่กลิ่นอายพลังกลับเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!

หากการโจมตีก่อนหน้าเหมือนหินยักษ์ เช่นนั้นการโจมตีตอนนี้ก็เหมือนดาวตก!

ค้อนเทพยักษ์พลันปะทุขึ้น มาพร้อมกับแสงเทพสีแดง เหมือนกับดาวตกสีโลหิตตกลงมา แผ่อำนาจสั่นทำลายภูผานที

ทันใดนั้นห้วงอากาศพังทลาย มิติใหญ่ถล่มกลายเป็นซาก

ดาวตกสีโลหิตทรงพลังไม่อาจต้าน พลันกระแทกใส่ม่านแสงสีทอง อำนาจเทพน่าสะพรึงเหมือนคลื่นลูกใหญ่หมุนม้วนฟ้าดิน

ตึง!

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น!

ม่านแสงสีทองนั้นพลันระเบิดกระจาย เป็นผุยผงหายไปในฟ้าดิน!

เสิ่นเทียนมุ่งหน้าไป คว้ากงล้อทองตะวันไว้ในมือ พลันสัมผัสได้ถึงพลังแห่งตะวันร้อนแรงไหลเข้าไปในกาย

กู่ร้องพร้อมกับกายศักดิ์สิทธิ์สุริยันในกายเขา ไฟแท้สุริยะพุ่งทะลักออกมาวนเวียนกับกงล้อทองตะวัน เพลิงเทพหมุนวนกับกงล้อทองตะวัน เปล่งแสงเทพไร้ที่สิ้นสุด

สองสิ่งส่งเสริมกัน ระเบิดเป็นอานุภาพที่แกร่งยิ่งกว่า

“เป็นสมบัติดีเลย!”

เสิ่นเทียนพยักหน้าพึงพอใจ ดูท่ามาครั้งนี้คงไม่เสียเที่ยว ไม่ใช่แค่ได้เกาะโชคลิขิต แต่ยังได้อาวุธเซียนอีกชิ้น

แต่จากนั้นเขาก็มองไปที่เทพธิดาชิงเยวี่ย พบว่านางยังจู่โจมใส่อย่างยากลำบาก แต่กลับไม่เป็นผลอะไรมาก

หลักๆ เป็นเพราะค่ายกลนี้ต้องใช้พลังของอริยะแท้หกด่านเคราะห์ถึงจะทำลายได้!

เทพธิดาชิงเยวี่ยระเบิดกำลังของอริยะแท้สี่ด่านเคราะห์ได้ แต่การจะทำลายผนึกของกงล้อทองจันทราได้ก็ยังยากมาก

ในโชคลิขิตเดิม เทพธิดาชิงเยวี่ยใช้เวลาหลายปีถึงจะทำลายมันได้!

เสิ่นเทียนย่อมไม่อยากรอที่นี่หลายปี เขาตรงเข้าไปทันที “ศิษย์พี่หญิง ข้าช่วยเอง!”

พอเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็ควงค้อนใหญ่ทุบใส่ม่านแสงสีเงิน!

โครม!

ทันใดนั้น ม่านแสงสีเงินแตกกระจาย

เทพธิดาชิงเยวี่ยอึ้งค้างอยู่ที่เดิม

ข้าลำบากโจมตีตั้งนานกลับไม่เป็นผล!

ศิษย์น้องเสิ่นเทียนออกมือทีเดียวก็ทำลายได้รึ

พละกำลังจะแกร่งไปหน่อยกระมัง!

…..

และตอนนี้เอง เสิ่นเทียนหยิบกงล้อทองจันทราออกมา ส่งให้เทพธิดาชิงเยวี่ย “ศิษย์พี่หญิง ให้ท่าน!”

เทพธิดาชิงเยวี่ยพลันตั้งสติกลับมาได้ มองกงล้อทองจันทราที่ขยับแสงเงินวูบวาบตรงหน้าพลางอดใจสั่นไหวขึ้นมามิได้

สมบัติสุดยอดเช่นนี้สอดรับกับวิชาของนางมาก ยกระดับกำลังรบได้อย่างมาก!

แม้จะน่าสนใจมาก แต่เทพธิดาชิงเยวี่ยก็ยังส่ายหน้าปฏิเสธ “ศิษย์น้องเป็นคนเอามา จะแบ่งให้ข้าได้อย่างไร”

ตามกฎโลกบำเพ็ญเซียน ใครได้สมบัติก็เป็นของคนนั้น

ในเมื่อเสิ่นเทียนได้กงล้อทองจันทราแล้วย่อมเป็นของเขา มิหนำซ้ำด้วยศักยภาพของนาง จะทำลายค่ายกลได้หรือไม่ยังเป็นคำถาม

เสิ่นเทียนผงะไปเล็กน้อย เขาไม่นึกเลยว่าเทพธิดาชิงเยวี่ยจะปฏิเสธ

เขายิ้มแห้งๆ “ศิษย์พี่หญิงชิงเยวี่ย สิ่งนี้เหมาะสมกับท่าน รับไว้เถอะ!”

แม้อาวุธเซียนจะประเมินค่าไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ล้ำค่าอะไรมากกับเสิ่นเทียน ถึงอย่างไรเขาก็มีอาวุธจักรพรรดิกับอาวุธเตรียมจักรพรรดิเป็นกองใหญ่

ไม่ว่าจะเตาหลอมเทพสุริยะหรือกระบองเทพนภา ล้วนเป็นอาวุธที่ทรงพลังอย่างยิ่ง

เขาเพิ่งได้กงล้อทองตะวันมา จะไปละโมบเอากงล้อทองจันทราได้อย่างไร อีกอย่าง นี่เดิมทีเป็นโชคลิขิตของเทพธิดาชิงเยวี่ย

แต่เทพธิดาชิงเยวี่ยก็ยังส่ายหน้า “ศิษย์น้องได้ไปก็เป็นโชคลิขิตของศิษย์น้อง อีกอย่าง ศิษย์น้องเพิ่งได้กงล้อทองตะวัน หากเสริมด้วยกงล้อทองจันทรา อานุภาพจะต้องเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นแน่นอน!”

“สมบัติสุดยอดเช่นนี้ ท่านเก็บเอาไว้เถอะ!”

ทว่า เทพธิดาชิงเยวี่ยยืนกรานว่าจะไม่รับ

หลักๆ เป็นเพราะว่าเสิ่นเทียนพานางมาที่นี่ อีกทั้งเสิ่นเทียนต้องช่วยถึงจะได้กงล้อทองจันทรามา

ตัวนางไม่ได้ออกแรงอะไรเลย จะไปหน้าด้านรับสมบัติสุดยอดได้อย่างไร มิหนำซ้ำที่นี่ยังเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ตระหนักรู้สำหรับนาง นางพอใจมากแล้ว

เสิ่นเทียนได้แต่ส่ายหน้าด้วยความจนปัญญา “ศิษย์พี่หญิง หากท่านไม่รับ เช่นนั้นข้าก็จะทิ้งมัน!”

เมื่อเอ่ยจบ เสิ่นเทียนก็แสร้งทำทีจะทิ้งกงล้อทองจันทรา

หากเทพธิดาชิงเยวี่ยไม่รับ เขาก็เกาะดวงชะตาไม่ได้

นั่นจะขาดทุนหนัก!

“อย่า ข้าจะรับไว้ก็ได้!”

เทพธิดาชิงเยวี่ยรีบพูด ภายในใจรู้สึกจนปัญญา

ศิษย์น้องมีสมบัติมั่งคั่งจริงๆ แม้แต่อาวุธเซียนยังจะทิ้ง

แต่เทพธิดาชิงเยวี่ยรู้แก่ใจดีว่าเสิ่นเทียนแสร้งพูดเช่นนี้เพื่อมอบกงล้อทองจันทราให้นางเท่านั้น

เทพธิดาชิงเยวี่ยซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง

ศิษย์น้องดีกับข้าขนาดนี้เชียว!

แม้แต่สมบัติสุดยอดอย่างกงล้อทองจันทรายังมอบให้ข้า

หรือว่าศิษย์น้องจะชอบข้าจริงๆ กัน

…..

เมื่อเห็นเทพธิดาชิงเยวี่ยรับกงล้อทองจันทราไป ในที่สุดเสิ่นเทียนก็โล่งอก

เขาเหมือนนึกอะไรได้จึงนำของออกมาสิ่งหนึ่ง มอบให้เทพธิดาชิงเยวี่ย “ศิษย์พี่หญิง นี่คือโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า มีประสิทธิผลเพิ่มพรสวรรค์ในการตระหนักรู้ได้!”

นี่คือโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าที่หลอมจากกล้วยหอมอมตะ

เทพธิดาชิงเยวี่ยมองโอสถกลมอิ่มเอิบ ส่งกลิ่นหอมสดชื่นเข้มข้นในมือเสิ่นเทียนพลางตัวสั่นไหว นัยน์ตาฉายประกายตื่นตกใจ!

นางรู้สึกได้ว่าโอสถนี้แกร่งเพียงใด เหนี่ยวนำกฎเกณฑ์ฟ้าดินตกลงมาได้ มีประกายเซียนไร้ที่สิ้นสุดวนเวียน!

นี่คือโอสถระดับจักรพรรดิสูงสุด

ไม่คาดคิดเลยว่าเสิ่นเทียนจะมอบโอสถจักรพรรดิให้กับนาง!

นี่มันล้ำค่ามากจริงๆ!

เอาไปโลกภายนอกยังทำให้มหาอริยะคลุ้มคลั่ง คนมากมายแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่ง!

โอสถสูงสุดเช่นนี้ประเมินค่าไม่ได้!

แม้จะเป็นเช่นนั้น เสิ่นเทียนก็ยังยินดีมอบให้ตน

เทพธิดาชิงเยวี่ยจิตใจสั่นกระเพื่อม เกิดคลื่นขึ้นในใจเป็นระลอกๆ

ไม่อยากเชื่อว่าศิษย์น้องเสิ่นเทียนจะดีกับข้าขนาดนี้!

เขาจะต้องชอบข้าแน่!

นี่คือการสารภาพรักกับข้ารึ

เช่นนั้นควรจะรับไว้ดีหรือไม่ล่ะ!

แต่ว่าศิษย์น้องเสิ่นเทียนยังเด็กเกินไป หากอยู่กับเขาจะ…

เทพธิดาชิงเยวี่ยจิตใจปั่นป่วนมาก

นางไม่คิดเลยว่าเสิ่นเทียนจะมอบโอสถจักรพรรดิให้กับนาง มูลค่าของโอสถจักรพรรดินี้ไม่อาจประเมินได้เลย!

เทพธิดาชิงเยวี่ยคิดว่าเสิ่นเทียนชอบตนถึงได้ใจกว้างขนาดนี้

นางหน้าแดงเรื่อ พูดพึมพำเบาๆ “ศิษย์น้อง ความจริงไม่ต้องทำเช่นนี้ข้าก็ตอบตกลงอยู่แล้ว…”

“ศิษย์พี่หญิง ท่านว่าอะไรนะ”

เสิ่นเทียนเกาศีรษะ ฟังไม่เข้าใจนิดๆ

เทพธิดาชิงเยวี่ยพลันตั้งสติกลับมา รีบอธิบาย “นี่เป็นโชคลิขิตของศิษย์น้อง จะแบ่งให้ข้าได้อย่างไร! โอสถจักรพรรดิล้ำค่าเกินไป ศิษย์น้องเก็บไว้ใช้เองเถอะ!”

เสิ่นเทียนยิ้ม “ศิษย์พี่หญิง ไฉนเราต้องแบ่งแยกกันชัดเจนขนาดนั้นด้วย ท่านรับไว้เถอะ! ของสิ่งนี้ แซ่เสิ่นยังมีอีก!”

แดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เป็นมิตรที่ดีกันมาตลอด!

เทพธิดาชิงเยวี่ยเพิ่มศักยภาพขึ้น ก็มีส่วนช่วยแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แน่นอน

ถึงอย่างไรมหาเคราะห์ภัยห้าดินแดนจะมาถึงแล้ว แดนศักดิ์สิทธิ์ในห้าดินแดนจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหา ถึงตอนนั้นแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะต้องอยู่ค่ายเดียวกัน ร่วมกันต่อต้านมหาเคราะห์ภัย

ในช่วงเป็นตายร่วมกันเช่นนี้ ทุกอย่างไม่ได้สำคัญขนาดนั้น

อีกอย่างเขายังมีโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าในกระเป๋าอีกเป็นกองใหญ่

ถึงอย่างไรตอนนั้นเขาก็หลอมไปตั้งสามสิบหกเม็ด

มีอีกเพียบ!

……

พอได้ฟังคำพูดเสิ่นเทียน ในที่สุดเทพธิดาชิงเยวี่ยก็ไม่ปฏิเสธอีก แต่ในสายตานางเกิดความรู้สึกที่ยากจะกล่าวได้

ศิษย์น้องเสิ่นเทียนดีกับข้ามากจริงๆ

ชิงเยวี่ยไม่รู้จะตอบแทนได้อย่างไร!

ขอแค่ศิษย์น้องบอก ต่อให้ต้องพลีกาย ข้าก็ยอม!

……………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด