บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 506 เทพโบราณมาเยือน หอคอยเทพสงครามถล่ม!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 506 เทพโบราณมาเยือน หอคอยเทพสงครามถล่ม! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 506 เทพโบราณมาเยือน หอคอยเทพสงครามถล่ม!

ทุกคนมองท้องนภาตาไม่กะพริบ

ตรงนั้นมีร่างเงาปกคลุมโลกกำลังสำแดงพลังวิเศษที่สุดแห่งยุค โจมตีหกจักรพรรดิ

มหาจักรพรรดิวิญญาณร้ายที่เดิมทีชำเลืองตามองทุกสรรพสัตว์ มองท้องนภาอย่างโอหัง กลับถูกทุบตีเอามือกอดศีรษะวิ่งแจ้น ร้องโอดครวญไม่หยุด

ภาพนี้ ทุกคนเห็นถึงกับตาพร่ามัว

พวกเขาไม่นึกเลยว่าวิกฤติที่ทำให้ห้าดินแดนสิ้นหวังจะแก้ได้ด้วยตัวคนเดียว

….

หวังเสินซวีมีใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ “นั่นมัน…สหายเสิ่น!

สหายเสิ่นเขา ทุบตีมหาจักรพรรดิรึ สวรรค์! ข้าไม่ได้ฝันไปกระมัง

เหล่าฉี เจ้าตีข้าหน่อยดูว่าเจ็บหรือไม่”

หวังเสินซวีตาเหม่อลอย รู้สึกเหลือเชื่อ

ไม่นึกเลยว่าไม่พบกันมาร้อยปี เสิ่นเทียนจะแข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว

ไหนบอกว่าจะเติบโตไปด้วยกันไม่ใช่รึ

ปรากฏว่าพวกเขายังสู้กับเซียนแท้สูสี แต่เสิ่นเทียนกลับทุบตีมหาจักรพรรดิแล้ว!

อีกทั้ง ยังทุบตีมหาจักรพรรดิพร้อมกันหกตน!

จะพูดอย่างไรดี

ความต่างระหว่างคนกับคน บางครั้งก็มากกว่าความต่างของคนกับสุนัข!

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หวังเสินซวีมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง

สหายเสิ่นโกงอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ ไม่กลัวถูกสวรรค์ลงโทษรึ

……

ฉีเซ่าเสวียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มีสีหน้าตกใจ

เขาเพิ่งเคยเห็นคนเอ่ยคำขอที่ต่ำช้าเช่นนี้เป็นครั้งแรก

ตึง!

ฉีเซ่าเสวียนไม่เกรงใจเลย เขกศีรษะหวังเสินซวีอย่างแรง!

หวังเสินซวีกุมศีรษะด้วยความเจ็บปวด แยกเขี้ยวขึ้น “เจ้าคนแซ่ฉี เจ้าทำอะไร”

ฉีเซ่าเสวียนมีสีหน้าเฉยเมย “ก็ต้องทำตามที่เจ้าขอสิ!”

หวังเสินซวีด่าทอกลับทันที “ข้าแค่พูดไปอย่างนั้น แต่เจ้าลงมือจริงรึ”

ฉีเซ่าเสวียนชำเลืองตามองเขาทีหนึ่ง ไม่ได้สนใจ

เขาเงยหน้ามองฟ้า นัยน์ตาเต็มไปด้วยจิตต่อสู้

สหายเสิ่น ในที่สุดเจ้าก็กลับมา!

แซ่ฉี ได้ชิงอันดับหนึ่งใต้ฟ้าอีกครั้งแล้ว!

……

มหาจักรพรรดิวิญญาณร้ายเผยแววตาตื่นกลัว ตื่นตกใจอย่างยิ่ง

ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนก็สำแดงกำลังรบที่น่ากลัวมากจริงๆ พวกเขาพบว่าเสิ่นเทียนไม่ได้กุมพลังของมหาจักรพรรดิ ยังไม่บรรลุจักรพรรดิ

ยังไม่บรรลุจักรพรรดิ แต่กลับกำราบหกมหาจักรพรรดิ

เจ้านี่ เป็นปีศาจเกินไปแล้ว

สามจักรพรรดิที่เหลือเผยแววตาเหี้ยมโหด จู่โจมเสิ่นเทียนจากข้างหลัง

พวกเขาจะแก้สถานการณ์หยุดชะงัก ให้หกจักรพรรดิออกมือสวนกลับได้ ทว่าพวกเขายังไม่ทันเข้าไป จักรพรรดิฮวงสือก็ออกมือแล้ว

ชุดคลุมม่วงเขาสยายออกมาขวางสามจักรพรรดิ “คู่ต่อสู้ของพวกเจ้า คือข้า!”

สามจักรพรรดิมองหน้ากันก่อนแผดเสียงคำราม “ฆ่า!”

พวกเขาพุ่งเข้าไปด้วยความโกรธแค้น จิตสังหารล้นฟ้า พลิกกลับท้องนภา

ฮวงสือหน้าไม่เปลี่ยนสีไป เขาพาร่างแยกมหาจักรพรรดิสองท่านพุ่งไปอย่างน่าเกรงขาม

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในห้าดินแดน แม้จะชนะเก้าจักรพรรดิไม่ได้ แต่รับมือกับสามจักรพรรดิได้ไม่มีปัญหา

จักรพรรดิฮวงสือถือตราพลิกฟ้า ยันถ้ำแสงหนาทึบ อำนาจเทพปกคลุมโลก

เขาระเบิดพลังออกมาทั้งหมด ทำให้ธารดาราสั่นไหว

จักรพรรดิฮวงสือสำแดงคัมภีร์จักรพรรดิดึกดำบรรพ์ แปลงเป็นวิชาสูงสุด พลังมากมายมหาศาล

ทุกการโจมตีมาพร้อมกับพลังพลิกฟ้าดิน พลิกกลับโลกหล้า

สองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือด พลานุภาพหมุนม้วนฟ้าดิน

ไม่ว่าสามจักรพรรดิจะสู้อย่างไรก็ไม่ได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย

ฟ้าถล่มดินทลาย ตะวันจันทราไร้แสงสว่าง

นี่คือการต่อสู้ที่แกร่งที่สุด สภาพการณ์น่าตกใจ

…..

ด้านข้าง เสิ่นเทียนสู้กับหกจักรพรรดิอย่างดุเดือดเช่นกัน

เขาแผ่อำนาจเทพปกคลุมโลก รอบกายเปล่งแสงเทพไร้ขอบเขต

ตราราชันมนุษย์กับตำหนักราชันมนุษย์ขวางห้วงอากาศ แผ่พลังมหาศาล กำราบท้องนภา แสงสว่างสี่ทิศ พลังทรงอำนาจ!

เสิ่นเทียนเหมือนราชันสูงสุด แค่โบกมือก็ทำให้มหาจักรพรรดิกระอักเลือด มีท่วงท่าไร้พ่าย

“สมควรตาย!”

มหาจักรพรรดิที่บาดเจ็บสาหัสนั้นคำรามเสียงดัง ตัวเขายังมีเลือดไหลอยู่

ตรงบาดแผลมีปราณเบิกฟ้ามหาศาลวนเวียน ทำลายพลังชีวิต

ถูกเสิ่นเทียนโจมตี อาการบาดเจ็บก็หนักยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

เขาไม่นึกเลยว่าเสิ่นเทียนจะมีกำลังรบแกร่งขนาดนี้ โดยเฉพาะอาวุธสองชิ้นนั้น ทำให้มหาจักรพรรดิหวาดกลัว หากประมาทเพียงนิดเดียวได้บาดเจ็บสาหัส

“นี่มัน…ยอดอาวุธของราชันมนุษย์รุ่นหนึ่ง!”

“เจ้านี่มีกายราชันมนุษย์!”

มีมหาจักรพรรดิจำตราราชันมนุษย์กับตำหนักราชันมนุษย์ได้ก็หน้าเปลี่ยนสีไป

ยอดอาวุธสูงสุดเช่นนี้ เคยสร้างอำนาจคุกคามแก่เผ่าวิญญาณร้ายอย่างหนัก

ตอนนั้นราชันมนุษย์รุ่นหนึ่งใช้อาวุธนี้สังหารจักรพรรดิเซียนวิญญาณร้าย

ราชันมนุษย์รุ่นสองใช้อาวุธนี้ พลิกไปสังหารห้าจักรพรรดิ

ดังนั้นยอดอาวุธราชันมนุษย์จึงมีชื่อเสียงโด่งดัง ทำให้วิญญาณร้ายมากมายหนาวสั่น

ตอนนี้ได้เห็นยอดอาวุธสองชิ้นอีกครั้ง ทำให้มหาจักรพรรดิหน้าเปลี่ยนสี

ไม่นึกเลยว่ายุคหลังจะปรากฏกายราชันมนุษย์ขึ้นอีก

…..

ตอนนี้เองเสิ่นเทียนพุ่งเข้ามาแล้ว

เขาทะยานขึ้น เคลื่อนตราราชันมนุษย์ตบเข้าไป

วูบ!

แสงสว่างสี่ทิศ แสงทองพุ่งขึ้น

ตราราชันมนุษย์พลันขยายใหญ่ ผลักฟ้าดิน

บึ้ม!

กระดูกและเลือดสาดกระจาย กายเนื้อระเบิด

มหาจักรพรรดิที่บาดเจ็บหนักนั้นถูกบดแหลกเป็นโจ๊กเนื้อ

มหาจักรพรรดิสิ้นชีพ ฝนโลหิตตกลงมา

ภาพนี้ทำให้วิญญาณร้ายมากมายหนาวสั่น

พวกเขาเผยแววตาตื่นตกใจ ยากจะเชื่อได้

เก้าจักรพรรดิมาเยือน เดิมทีทำลายโลกนี้ได้สบาย

แต่เสิ่นเทียนปรากฏตัวขึ้นกลับพลิกสถานการณ์ ทั้งยังสังหารมหาจักรพรรดิ

กำลังรบเช่นนี้น่ากลัวยิ่งนัก!

…….

ห้าจักรพรรดิหน้าเขียวปัด ไม่นึกเลยว่ากายราชันมนุษย์จะแกร่งขนาดนี้ ทำให้พวกเขารู้สึกถึงอำนาจคุกคามความตาย

ขืนสู้ต่อไป พวกเขาจะไม่มีหวังใดๆ เลย จะค่อยๆ แพ้ไปทีละคน

ห้าจักรพรรดิเผยแววตาเด็ดขาด บ้าคลั่งขึ้นมาแล้ว “ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังหารกายราชันมนุษย์ให้ได้! สายเลือดนี้ จะต้องสิ้นสุดลง!”

ห้ามหาจักรพรรดิคำรามด้วยความโกรธ ระเบิดพลังมหาศาลทั่วร่าง พุ่งขึ้นท้องนภา

ท้องนภาเปลี่ยนสี แสงดำลึกล้ำ

ห้าจักรพรรดิเผาโลหิตแท้ กลิ่นอายชีวิตลดลง

แต่พวกเขาไม่สนใจ ใบหน้ากลับคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเดิม

ห้าจักรพรรดิสำแดงวิชาลับวิญญาณร้าย สังเวยตัวเองเพื่อเชิญผู้แข็งแกร่งวิญญาณร้าย

ถึงอย่างไรกายราชันมนุษย์ก็เป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของเผ่าวิญญาณร้าย จึงทำทุกอย่างเพื่อลบล้าง

ห้าจักรพรรดิตะโกนเสียงดัง “ขอเชิญท่านวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ออกมือ สังหารกายราชันมนุษย์!”

บึ้ม!

ห้ามหาจักรพรรดิร่างระเบิด โลหิตแท้รวมเป็นหอกนักรบดำสนิท พุ่งไปหาเสิ่นเทียน

เสิ่นเทียนมีสีหน้าจริงจัง เกิดความไม่สบายใจขึ้นลับๆ

พลังนี้น่ากลัวยิ่งนัก รวมต้นกำเนิดชีวิตของห้าจักรพรรดิ มีพลานุภาพล้นฟ้า

บึ้ม!

หอกนักรบสีดำพุ่งทะลวงนภา พลิกกลับตะวันจันทราและดารา หมุนทวนฟ้าดินและจักรวาล

ก่อนจะเห็นปราการห้าดินแดนสั่นไหวอย่างรุนแรงภายใต้พลังนี้ เหมือนจะถูกทำลายได้ทุกเมื่อ

เสิ่นเทียนเผยแววตาจริงจัง เขารู้สึกว่าพลังของปราการกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว เสียพลังไปมากกว่าครึ่ง

…..

ทันใดนั้น ท้องฟ้าเกิดเสียงดังสนั่นอีกครั้ง

โลกภายนอกมีคนฝืนโจมตีปราการฟ้าดิน จะบุกมาที่นี่

บึ้ม!

เสียงดังขึ้นเรื่อยๆ มาพร้อมอำนาจคุกคามมหาศาล สะท้านฟ้าดิน

เสียงพวกนี้เหมือนจะดังในทรวงอกทุกคน ทำให้หัวใจแทบจะระเบิด

ปัง!

เกิดเสียงดังกึกก้อง!

ปราการที่โยกเยกจะพังทลายพลันระเบิดกระจาย

กฎเกณฑ์ฟ้าดินพังทลาย ลำดับปั่นป่วน เกิดเป็นภาพทำลายล้างโลก

ห้วงอากาศปรากฏถ้ำแสงหนาทึบ เหมือนประตูสวรรค์จะพังทลาย

ภาพนี้ทำให้ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีไป

จักรพรรดิฮวงสือมีสีหน้าจริงจัง “แย่แล้ว ปราการฟ้าดินจะถูกทำลาย ห้าดินแดนจะเข้าสู่หายนะ!”

ปราการฟ้าดิน วางโดยราชาเซียนที่สุดแห่งยุคในช่วงดึกดำบรรพ์ มันปกป้องห้าดินแดนมาล้านปี ต้านการรุกรานของวิญญาณร้าย ให้เวลาทุกคนได้เติบใหญ่

แม้ผ่านไปล้านปี พลังของปราการจะลดลงอย่างยิ่ง แต่ก็ยังยื้อเวลาได้นานมาก

ตอนนี้ปราการห้าดินแดนพังทลาย ก็หมายความว่าโลกนี้ไม่มีจำกัดใดๆ อีก

ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งโลกเซียนหรือวิญญาณร้ายต่างแดน ก็จะเข้ามาที่นี่ได้อย่างไม่มีอุปสรรคใดๆ

นี่คือหายนะล้างโลกสำหรับห้าดินแดน

ถึงอย่างไรด้วยพลังของห้าดินแดนตอนนี้ แม้แต่มหาจักรพรรดิยังยากจะต่อต้านได้

จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงการคงอยู่ที่น่ากลัวยิ่งกว่า

หากกองทัพวิญญาณร้ายต่างแดนรุกราน ห้าดินแดนจะเข้าสู่หายนะไม่มีสิ้นสุด

เสิ่นเทียนใจหนักอึ้ง เขาไม่นึกเลยว่ามหาจักรพรรดิวิญญาณร้ายจะเด็ดขาดเช่นนี้ สละชีวิตห้าจักรพรรดิเพื่อเปิดโลกนี้

อีกทั้งต่างแดนยังมีกำลังเสริมวิญญาณร้ายอีก ต้านไม่ได้แล้ว

“ต้องรีบหาทางฟื้นฟูค่ายกล!”

เสิ่นเทียนพูดอย่างจริงจัง ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปได้เป็นปัญหาแน่

เขารู้ดีถึงความหนักของเรื่องนี้ จะเอ้อระเหยไม่ได้เลย

…..

ทว่าทันใดนั้นเอง ห้วงอากาศแตกกระจาย

ทั้งผืนฟ้าดาราถูกมือใหญ่ฉีกเป็นสองส่วน ธารดาราตัดขาด ภาพน่าตื่นตกใจ

สิ่งมีชีวิตตนหนึ่งก้าวออกมาจากมิติ พลังอำนาจท่วมท้นฟ้า

เขาปกคลุมด้วยหนามกระดูกแหลมทั้งตัว กายเนื้อดั่งมังกร พลังเลือดลมพุ่งขึ้นฟ้า

ขณะย่างก้าวยังเหยียบอากาศล้านลี้แตกกระจาย พลิกกลับตะวันจันทราฟ้าดิน

คนนี้เหมือนมารร้ายที่สุดแห่งยุค จะสังหารทุกชีวิต

…..

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตื่นกลัวกันอย่างยิ่ง

มีคนหลุดเสียงร้องด้วยความกลัว ตื่นกลัวไม่มั่นคง “นี่มันการคงอยู่ระดับใดกัน ถึงได้น่ากลัวขนาดนี้”

คนนี้ยิ่งใหญ่ พลังเหนือกว่ามหาจักรพรรดิ!

คนที่พลังบำเพ็ญค่อนข้างต่ำหมดสติไป ศีรษะดิ่งลง ตกลงมาจากอากาศ

เตรียมจักรพรรดิยังตัวสั่น ขนลุกไปทั้งตัว ต้านพลังอำนาจนี้ไม่ไหว

สามจักรพรรดิที่เหลือเห็นดังนั้นก็มีสีหน้าดีใจใหญ่

พวกเขารีบตรงเข้ามา พูดด้วยความเคารพ “ยินดีต้อนรับท่านเทพโบราณเหยียนกุ่ย”

คนที่มหาจักรพรรดิก้มศีรษะเคารพได้ไม่ใช่คนธรรมดา

เหยียนกุ่ยมีสีหน้าเฉยชา ทำเสียงขึ้นจมูก “ขยะ แค่โลกธรรมดาเล็กๆ ยังจัดการไม่ได้รึ”

สามจักรพรรดิตัวสั่นอย่างรุนแรง รีบก้มหน้าลง

มหาจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ อยู่ต่อหน้าเหยียนกุ่ยยังนอบน้อม ไม่กล้าเถียง

เพราะเขาคือเทพโบราณ!

ผู้ฝึกศาสตร์หลอมกายเทพมาร หลังทะยานขึ้นแล้วจะเป็นเทพแท้ เหนือกว่าเทพแท้คือเทพฟ้า เหนือกว่าเทพฟ้าเรียกว่าเทพโบราณ

ศาสตร์บำเพ็ญของเผ่าวิญญาณร้าย แม้จะต่างกับศาสตร์บำเพ็ญของเผ่ามนุษย์ แต่คำเรียกขานเทพโบราณก็ยังมีความหมายเหมือนกัน

นี่คือการคงอยู่ที่เหนือกว่ามหาจักรพรรดิ มีศักยภาพแข็งแกร่งสุดขีด

มหาจักรพรรดิธรรมดาอยู่ต่อหน้าเขา แค่ดีดนิ้วก็ตาย

เมื่อพบเหยียนกุ่ย เสิ่นเทียนกับจักรพรรดิฮวงสือมีสีหน้าจริงจัง

เทพโบราณแข็งแกร่งมากจริงๆ แม้แต่มหาจักรพรรดิยังต่อต้านไม่ได้ จึงยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขาสองคนที่ยังไม่บรรลุจักรพรรดิ

หลังเห็นเหยียนกุ่ยปรากฏกาย สองคนก็แอบกังวลในใจ

…..

ตอนนี้เอง เหยียนกุ่ยมองมา ดวงตามืดหม่นน่ากลัว

เขาพูดอย่างน่าสยดสยอง “กายราชันมนุษย์อ่อนแอเช่นนี้ เพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรกเลย! ดีมาก ข้าจะรับคุณูปการสูงสุดนี้ไว้เอง!”

กายราชันมนุษย์คือสิ่งต้องห้ามสำหรับเผ่าวิญญาณร้าย

วิญญาณร้ายต่างแดงไม่อนุญาตให้มีการคงอยู่สายเลือดนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสังหารเขา

ดังนั้นพวกเขาจึงส่งเทพโบราณมาเพื่อสังหารเสิ่นเทียนให้สิ้นซาก

เหยียนกุ่ยชำเลืองตามอง นัยน์ตาเต็มไปด้วยการเหยียดหยาม

กายราชันมนุษย์พลังบำเพ็ญระดับนี้ไม่อยู่ในสายตาเขาเลย

เหยียนกุ่ยยื่นมือใหญ่มาคว้าไปทางเสิ่นเทียน

ฟ้าดินปรากฏมือยักษ์ขึ้น กดลงมา ทำลายดารามากมาย

นี่คือพลังของเทพโบราณ ไม่อาจต้านทานได้

เพียงการโจมตีง่ายๆ ก็แทบจะทำลายล้างโลกนี้

…..

ตอนนี้เองมีเสียงตะโกนด้วยความโกรธดังมา

“เดรัจฉาน หยุดมือ!”

ลำแสงสายหนึ่งพุ่งเข้าใส่เหยียนกุ่ย

“ใคร”

เหยียนกุ่ยตะโกนเสียงดัง รีบเปลี่ยนทิศทางโจมตี

บึ้ม!

กฎเกณฑ์ดับสลาย ลำดับพังทลาย

เหยียนกุ่ยตัวสั่นอย่างรุนแรง ถอยรัวไปหลายก้าว

ดวงตาเขาขยับแสงสีดำ มืดหม่นอย่างยิ่ง

โลกนี้ ยังมีการคงอยู่ที่ต่อต้านเทพโบราณได้รึ

……

ก่อนจะเห็นหอคอยเทพเก่าแก่ลอยอยู่ตรงหน้าเสิ่นเทียน

ตัวหอคอยเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว ดูทรุดโทรมอย่างยิ่ง

ทว่าในนั้นแฝงด้วยพลังมหาศาล มีแสงเซียนมหามรรควนเวียนรอบกาย ยิ่งใหญ่ไม่อาจคาดเดา

หอคอยเทพกดทับอากาศ สั่นสะเทือนหมอกชั่วร้าย ทำให้ฟ้าดินกลับมาสดใส

มันเหมือนฟ้าดินหนึ่งทิศตัดขาดห้วงอากาศ!

ชายชราชุดคลุมม่วงคนหนึ่งลอยขึ้นมาหน้าหอคอยเทพ ผมขาว ยืนอย่างโอหัง

เมื่อพบคนนี้ เสิ่นเทียนมีสีหน้าดีใจใหญ่ “ผู้อาวุโสเยี่ย!”

คนนี้ก็คือเยี่ยฉิงชาง

หอคอยเทพนั้นคือหอคอยเทพสงครามจริง

เยี่ยฉิงชางมุมปากกระตุกเล็กน้อย “เจ้าหนูก่อเรื่องเก่งจริงๆ แม้แต่เทพโบราณยังออกมา! หากข้ามาไม่ทัน เจ้าต้องตายแน่!”

เสิ่นเทียนเกาศีรษะและยิ้มแหยๆ “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้”

ไม่มีใครคาดคิดว่าเผ่าวิญญาณร้ายจะจ่ายทุกอย่างเพื่อทำลายปราการฟ้าดิน

…..

หลังเห็นหอคอยเทพสงคราม เหยียนกุ่ยเผยประกายแววตามืดหม่นรุนแรงยิ่งกว่าเดิม

เขาทำเสียงขึ้นจมูก “ที่แท้ก็เดรัจฉานตำหนักเทพสงคราม!”

เดิมทีตำหนักเทพสงครามเป็นขุมอำนาจสุดยอดของโลกเซียน ต่อมาเพราะเหตุผลบางประการถึงถูกวิญญาณร้ายปิดล้อม

สุดท้ายทั้งตำหนักเทพสงครามถูกทำลาย

หกคอยเทพสงครามถูกทลาย ตกลงมาห้าดินแดน

ตอนนั้นเหยียนกุ่ยยังร่วมทำลายตำหนักเทพสงครามด้วย ย่อมรู้จักหอคอยเทพสงคราม

หลังเห็นเยี่ยฉิงชางปรากฏตัว เหยียนกุ่ยก็พูดเย้าหยอก “ไม่อยากเชื่อว่าเจ้าตำหนักเทพสงครามในอดีตจะร่อนเร่มาอยู่ที่นี่ ตายหมดทั้งตระกูลแล้ว ยังรอดมาได้อีกรึ”

ดวงตาเยี่ยฉิงชางแหลมคม ทำเสียงหึ “พูดมาก ข้ายังไม่ถึงขนาดที่ต้องให้เจ้ามาว่าหรอก”

ตอนมีชีวิตเขายิ่งใหญ่ในแดนเซียน แม้จะเหลือเพียงเสี้ยววิญญาณก็ยังมีความโอหัง

“อวดดี ข้าอยากจะรู้นักว่าเสี้ยววิญญาณกับซากหอคอยจะทำอะไรได้”

เหยียนกุ่ยคำรามเสียงดัง พลันจู่โจมใส่เยี่ยฉิงชาง

หมอกชั่วร้ายปรากฏขึ้นมาข้างหลังเขา รวมเป็นกรงเล็บภูตผีสีดำนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามา

ห้วงอากาศระเบิด ดินแดนพังทลาย ภาพน่าหวาดกลัว

การโจมตีนี้สังหารมหาจักรพรรดิได้

ถึงอย่างไรเหยียนกุ่ยก็เป็นเทพโบราณ ออกมือเต็มกำลังก็ยังน่ากลัวสุดขีด

ทันใดนั้น หมู่ดาวสั่นไหว เหมือนจะดับสลายไปในหมอกชั่วร้ายไร้ขอบเขต

จักรพรรดิฮวงสือหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย “ผู้อาวุโสเยี่ย ระวัง!”

เยี่ยฉิงชางตะโกนเสียงดัง “วางใจเถอะ อีแค่ลูกวิญญาณร้ายเล็กจ้อย ยังคุกคามข้าไม่ได้หรอก!”

เขาพุ่งขึ้น เปล่งแสงสว่างข้างหลัง ส่องสะท้อนท้องฟ้า

พลังวิญญาณฟ้าดินไหลมารวมกันเป็นค้อนใหญ่พลังวิญญาณ บ้าคลั่งถึงที่สุด

เยี่ยฉิงชางควงค้อนขึ้น กวาดล้างฟ้าดิน

“สามสิบหกค้อนสวรรค์ร้าง!”

ลำแสงค้อนปกคลุมโลก ทุบทะเลดาราแตก

นี่คือมรดกลับสูงสุดของตำหนักเทพสงคราม สำแดงพลังสะท้านฟ้าจากมือเยี่ยฉิงชาง

ค้อนใหญ่พลังวิญญาณฟาดใส่กรงเล็บภูตผี ธารดาราล้านลี้แตกกระจาย พลิกกลับตะวันบนฟ้า

สองฝ่ายสู้กันอย่างบ้าคลั่ง ปะทะกันอย่างรุนแรง สร้างความตกใจกับมหาโลก

นี่คือการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งสุดยอด ทำให้โลกธรรมดาแทบจะพังทลาย สั่นไหวไม่หยุด

สุดท้าย เหยียนกุ่ยถูกค้อนฟาดกระเด็น กระอักเลือดคำใหญ่

…..

“บัดซบ!”

เหยียนกุ่ยพ่นน้ำลายปนเลือดออกมา ดูบาดเจ็บไม่เบาเลย

“ข้าไม่เชื่อว่า เสี้ยววิญญาณอย่างเจ้าจะทนไปได้สักกี่น้ำ!”

เขาบุกมาอีกครั้ง กำหมัด พลานุภาพทำลายล้างทุกสิ่ง

เยี่ยฉิงชางเพ่งสายตามองเล็กน้อย ก่อนจะยื่นมือใหญ่มากดท้องนภา

แสงเทพหลากสีวนเวียนรอบฝ่ามือ แสงเรืองรองส่องสว่าง มาพร้อมกับอำนาจคุกคามน่ากลัว

หัตถ์ปฐมกาลทลายเวหาม้วนออกไป สั่นทำลายอากาศไร้ที่สิ้นสุด ทำให้ท้องฟ้าแห่งนี้สั่นไหวไม่หยุด

พรวด!

ครั้งนี้ เหยียนกุ่ยหน้าอกเว้าลงไป โลหิตแท้สีดำสาดกระจาย

เขากระเด็นไปล้านลี้ แม่น้ำภูเขาทลายไปมากมาย

“สมควรตายๆ!”

เหยียนกุ่ยคำรามไม่หยุด คลุ้มคลั่งขึ้นมาแล้ว

เทพโบราณผู้ยิ่งใหญ่กลับเอาชนะเสี้ยววิญญาณไม่ได้ ทำให้เขารู้สึกอัปยศอย่างยิ่ง

เหยียนกุ่ยเผยแววตาเหี้ยมโหด ก่อนเรียกอาวุธชั่วร้ายสูงสุดออกมา!

นั่นคือดาบยาวสีดำ ทุกส่วนเต็มไปด้วยลายชั่วร้ายแปลกประหลาด ด้านบนยังมีโลหิตสีดำหยดลงมา

นี่คืออาวุธชั่วร้ายที่เหนือกว่าอาวุธจักรพรรดิ เคยอาบเลือดเทพโบราณ เคยกลืนกินวิญญาณแท้เทพโบราณ

ดังนั้นดาบยาวสีดำจึงมีอานุภาพน่ากลัวยิ่ง มหาจักรพรรพิยังหนาวสั่น

“ตาย!”

เหยียนกุ่ยพุ่งเข้ามา ง้างดาบยาวสีดำฟันดารานับล้านดวงแตกเป็นเสี่ยงๆ

ฟ้าดินพลันเกิดแสงดาบสีดำ ทะลวงท้องนภา จักรวาลราบเป็นหน้ากลอง

การโจมตีนี้เหมือนจะฟันฟ้าดินขาดเป็นสองส่วน

ลำแสงดาบผ่านไปที่ใด ทุกสรรพสิ่งดับสลาย ฟันลงที่กลางศีรษะเยี่ยฉิงชาง

……

เยี่ยฉิงชางมีสีหน้าจริงจัง เขารู้สึกถึงอันตรายเล็กน้อย

หากอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เขาดีดนิ้วทีเดียวก็ทำลายได้

น่าเสียดายที่เป็นเพียงเสี้ยววิญญาณ มีกำลังรบไม่ถึงหนึ่งส่วนพัน

เยี่ยฉิงชางหน้าไม่เปลี่ยนสีไป เขาประสานมุทรา “กำราบ!”

เปรี้ยง!

หอคอยเทพสงครามสั่นไหวอย่างรุนแรง ลอยขึ้นฟ้าแปลงเป็นท้องนภา

หอคอยยักษ์กลายเป็นท้องฟ้ากำราบจักรวาล พลันตกลงมา

พริบตานั้น ลำแสงดาบพังทลาย

หอคอยเทพสงครามพุ่งลงมา กระแทกดาบยาวสีดำจนเกิดรอยแตกร้าว

พรวด!

เหยียนกุ่ยกระอักเลือด นัยน์ตาฉายแววหวาดกลัวอย่างยิ่ง

เขาไม่นึกเลยว่าซากหอคอยเทพนี่จะระเบิดพลังน่าสะพรึงเช่นนี้ได้

ส่วนหอคอยเทพสงครามยังมีอานุภาพเหลือ กดทับใส่เหยียนกุ่ยลงมาตรงๆ

เมื่อเห็นภาพนี้ ในที่สุดเหยียนกุ่ยก็ตื่นกลัวขึ้นมา

เขารู้สึกถึงอันตรายความตาย สามารถทำลายร่างเทพโบราณได้

เหยียนกุ่ยคำรามเสียงดัง “เหยียนหมัว เหยียนหลิง ยังไม่ออกมาอีก!”

เสียงดังไปนอกดินแดน กำลังเรียกผู้แข็งแกร่งวิญญาณร้ายมาเยือน

…..

เยี่ยฉิงชางมีแววตาจริงจัง ควบคุมหอคอยเทพสงครามให้กดอัดเหยียนกุ่ย

เขาจะสังหารเทพโบราณตนหนึ่งก่อนที่กำลังเสริมผู้แข็งแกร่งเผ่าวิญญาณร้ายจะมาถึง

ทว่า เหยียนกุ่ยระเบิดพลังสุดชีวิต สละบ่อเกิดชีวิตอย่างไม่เสียดาย

หนามกระดูกทั้งตัวเขาแตกกระจายเป็นพลังมหาศาลต้านไว้

บึ้ม!

ตอนนี้เอง ท้องฟ้าถูกฉีกออกอีกครั้ง

แสงดำปกคลุมลงมา น่าสะพรึงถึงที่สุด

มีสองร่างเงาก้าวออกมาจากในอากาศ พวกเขามีรูปร่างสูงใหญ่ เปลวเพลิงชั่วร้ายสีดำวนเวียนรอบกาย เหมือนเทพมารมาเยือน

สองคนเดินเข้ามา พลิกกลับกฎเกณฑ์ฟ้าดิน ตัดโซ่ลำดับขาด

เมื่อเห็นภาพนี้ ทุกคนตื่นกลัวกันอย่างยิ่ง

สองคนนี้มีกลิ่นอายพลังน่ากลัวเหมือนกับเหยียนกุ่ย!

เห็นได้ชัดมากว่าเป็นเทพโบราณอีกสองตน!

ไม่อยากเชื่อว่าเผ่าวิญญาณร้ายจะส่งเทพโบราณสามตนมาเพื่อทำลายห้าดินแดน

ความหวังที่เกิดขึ้นอย่างยากลำบากของทุกคนพลันมอดดับลงอีกครั้ง

หรือว่าโลกนี้จะไม่รอดแล้วจริงๆ

……

เยี่ยฉิงชางหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย

แม้เขาจะกำราบเทพโบราณได้ แต่ก็เสียพลังไปมหาศาล

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นเพียงเสี้ยววิญญาณ อีกทั้งหอคอยเทพสงครามยังเสื่อมโทรมไปนานแล้ว

ศึกนี้ กินพลังหอคอยเทพสงครามไปเก้าส่วน

ตอนนี้มีเทพโบราณมาอีกสองคน จะไปต่อต้านอย่างไร

ตอนนี้เอง เทพโบราณสองคนลอยลงมา

พวกเขาง้างหมัดชั่วร้ายชกใส่หอคอยเทพสงคราม ช่วยเหยียนกุ่ยให้พ้นจากวิกฤติ

บึ้ม!

เสียงดังสนั่นกึกก้อง

หอคอยเทพสงครามสั่นไหวอย่างรุนแรง แสงสว่างอ่อนลง รอยแตกร้าวเยอะขึ้นมาเล็กน้อย

เยี่ยฉิงชางโบกมือกว้าง ฝืนเรียกหอคอยเทพสงครามกลับมา

เขาขมวดคิ้ว แอบถอนหายใจ “ครั้งนี้ยุ่งแล้ว!”

พลังของหอคอยเทพสงครามตอนนี้ยื้อไว้ได้อีกไม่นานเท่าไรแล้ว

……

เหยียนกุ่ยหัวเราะเยาะไม่หยุด “ตาเฒ่า ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะต้านอย่างไร!”

แววตาเขาเหี้ยมโหดยิ่ง เมื่อครู่เกือบตายด้วยน้ำมือเยี่ยฉิงชาง

ตอนนี้เขาจะแก้แค้น จะให้ตำหนักเทพสงครามหายไปจากโลกนี้!

“ฆ่า!”

สามเทพโบราณพุ่งเข้าไปหาเยี่ยฉิงชางพร้อมกัน

เยี่ยฉิงชางฝืนยื้อหอคอยเทพสงครามไว้ กลายเป็นม่านแสงเชื่อมฟ้าปกคลุมที่นี่

บึ้มๆๆ!

เสียงดังสนั่น สะเทือนแก้วหูจะแตก

สามเทพโบราณมีพละกำลังบ้าคลั่งถึงที่สุด ทำให้หอคอยเทพสงครามสั่นไหวไม่หยุด

ตัวหอคอยเกิดรอยแตกร้าวเยอะขึ้นเรื่อยๆ เหมือนจะพังทลายลง

พรวด!

เยี่ยฉิงชางกระอักเลือด ร่างถูกแว้งกัด

หอคอยเทพสงครามกระเด็นไป อ่อนแสงลงทั้งหมด

ด้วยพลังที่เหลืออยู่ตอนนี้ของเยี่ยฉิงชาง ต้านเทพโบราณสามตนไม่ไหวเลย

….

เมื่อเห็นดังนั้น เหยียนกุ่ยเผยแววตาดุร้ายยิ่งกว่าเดิม

เขาไม่รีบร้อนสังหารเยี่ยฉิงชาง แต่เปลี่ยนไปโจมตีใส่เสิ่นเทียน

เพราะว่าอำนาจคุกคามของราชันมนุษย์เหนือเกินกว่าเสี้ยววิญญาณมาก

เหยียนกุ่ยหัวเราะเยาะไม่หยุด “เจ้าหนู ตายเสียเถอะ!”

เขามั่นใจอย่างยิ่ง ตั้งท่าจะสังหารเสิ่นเทียน

กายราชันมนุษย์ วันนี้จะต้องสูญสิ้นไป!

………………..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด