บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 434 ให้สวรรค์เป็นอาจารย์ สู้กับสวรรค์! (1)

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 434 ให้สวรรค์เป็นอาจารย์ สู้กับสวรรค์! (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 434 ให้สวรรค์เป็นอาจารย์ สู้กับสวรรค์! (1)

ทุกคนยังคงคุยกันเรื่อยเปื่อย

แต่รอบนอกสำนักมนุษย์เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!

ตอนนี้ศิษย์ใหม่สำนักมนุษย์มากมายกำลังรายงานตัว

พลันมีโอรสสวรรค์เผ่าอสูรพุ่งเข้ามาอย่างห้าวหาญ

นั่นคือวานรเทพสูงจั้งกว่า สวมเกราะนักรบแสงทอง กำลังพุ่งมาแรง!

…..

ขนทั้งตัวเขาออกเป็นสีทองสว่างพร่างพราว ภายใต้แสงตะวันยังเปล่งเป็นแสงเทพเรืองรองสว่างจ้าแสบตา

เคี้ยวแหลมคม ดวงตาทองเหมือนเปลวไฟ กระชากวิญญาณคน

วานรเทพถือกระบองเหล็กทมิฬเหมือนขุนเขาเทพโบราณ พลังหนักอึ้งหมื่นชั่งทำให้คนตัวสั่น!

เมื่อเผชิญหน้ากับวานรเทพนี้ ศิษย์ใหม่มากมายถึงขั้นไม่กล้าเงยหน้ามอง

“เป็นโอรสสวรรค์เผ่าอสูรที่แกร่งมาก!”

“อำนาจคุกคามน่ากลัวเช่นนี้ อย่างน้อยต้องผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตอนปลายกระมัง!”

“วานรนี่คือผู้แข็งแกร่งสุดยอดของสำนักอสูรแน่นอน มันมาทำอะไรที่สำนักมนุษย์เรากัน!”

โอรสสวรรค์ทุกคนต่างสัมผัสได้ถึงศักยภาพแข็งแกร่งของวานรเทพ ใบหน้ามีความหวาดระแวงกลัวขึ้นมา

สำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย เวลาส่วนใหญ่สำนักมนุษย์กับสำนักอสูรจะไม่ล้ำเส้นกัน!

ในสถานการณ์ปกติ โอรสสวรรค์สองเผ่าจะไม่เข้าสำนักศึกษาเผ่าอื่น

วานรเทพมาถึงสำนักมนุษย์ดูก็รู้ว่ามีเจตนาไม่ดี

วานรเทพสั่นกระบองเทพในมือ ทำเสียงขึ้นจมูก “สือเทียนจื่ออยู่ที่ใด ก้าวออกมาสู้กับข้า”

เมื่อสิ้นเสียง ศิษย์ใหม่เผ่ามนุษย์ต่างคึกคักขึ้นมา!

เดิมทีสองเผ่ามนุษย์และอสูรไม่ถูกกันอยู่แล้ว การบุกมาท้าสู้ในถิ่นคนอื่นคือการยั่วยุชัดๆ!

แม้เจ้าลิงกังนี่จะไม่รู้มีที่มาที่ไปอย่างไร แต่การบุกเดี่ยวมาสำนักมนุษย์นี่ก็อาจจะโอหังเกินไปหน่อย!

“เจ้าลิงโอหัง ไม่อยากเชื่อว่าจะกล้ามาอวดอำนาจในสำนักมนุษย์”

“คิดว่าอยากจะพบองค์ชายเทียนจื่อแล้วเจ้าจะได้พบหรือ”

“ไอ้ลิงกัง เจ้าคู่ควรให้ท้าสู้รึ”

“ข้าว่าเจ้ารีบไปจะดีกว่า ไม่เช่นนั้นศิษย์พี่มาเมื่อไร เจ้าได้โดนดีแน่!”

พอเห็นโอรสสวรรค์สำนักอสูรอวดดีเช่นนี้ โอรสสวรรค์สำนักมนุษย์มากมายก็โกรธขึ้นมา

สำนักมนุษย์กับสำนักอสูรไม่ถูกกัน เกิดการปะทะกันตลอด

แต่มีน้อยครั้งที่อสูรจะบุกมายั่วยุถึงหน้าบ้าน!

คิดว่าสำนักมนุษย์ไม่มีผู้แข็งแกร่งจริงๆ รึ

อีกทั้งเจ้าลิงนี่เปิดปากมาก็ท้าสู้กับสือเทียนจื่อ!

นี่ล้อเล่นอะไรกัน

สือเทียนจื่อมีชื่อเสียงเลื่องลือในจี้เซี่ยมานาน เป็นที่เคารพสรรเสริญของโอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์นับไม่ถ้วน กระทั่งยังติดอันดับหนึ่งรายนามโอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์ มีกำลังรบเป็นหนึ่ง

พวกเขาไม่คิดว่าเจ้าลิงกังที่โผล่ออกมาอย่างกะทันหันนี่จะมีคุณสมบัติท้าสู้กับสือเทียนจื่อ!

วานรเทพนั่นไม่โกรธแต่กลับยิ้มเยาะ เอ่ยอย่างไม่แยแส “พวกเศษเดนศิษย์ใหม่ ยังกล้ามาขวางข้าแซ่ฉีหรือ ใครกล้าขวางข้า ข้าจะทุบตีมัน!”

เมื่อเอ่ยจบ วานรเทพก็ควงกระบองยาวในมือ ก่อนจะทุบใส่โอรสสวรรค์สำนักมนุษย์

“หาญกล้านัก!”

โอรสสวรรค์สำนักมนุษย์โกรธจัด เจ้าลิงนี่ไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลย!

“สหายทุกท่าน วางค่ายกลกำราบเจ้าลิงกังนี่!”

โอรสสวรรค์หลายคนพุ่งเข้าไป กลิ่นอายพลังมหาศาล ล้วนเป็นผู้โดดเด่นระดับดวงจิตดรุณ!

พวกเขาไม่ได้อวดเก่งสู้ตัวต่อตัว เพราะเจ้าลิงนี่มีศักยภาพไม่เบาเลย

ถ้าสู้กับเขาตัวต่อตัวจะต้องเชิญศิษย์อาวุโสในสำนักมนุษย์ออกมา

ส่วนโอรสสวรรค์ศิษย์ใหม่พวกนี้ ต้องร่วมมือกันถึงมีโอกาสกำราบวานรเทพนี่ลงได้

ส่วนเรื่องรังแกคนน้อยกว่า

เหอะๆ อีกฝ่ายมาหาถึงที่ ยังจะมาเกรงใจอะไรกับมันอีก มิหนำซ้ำอีกฝ่ายยังเป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์ แต่ศิษย์ใหม่เป็นเพียงผู้สูงศักดิ์

หากไม่ร่วมมือกัน จะไปงัดข้อกับเจ้าลิงอสูรนี่ได้อย่างไร

โอรสสวรรค์หลายคนเปล่งแสงเทพทั้งตัว สร้างเป็นค่ายกลสงครามลี้ลับ หมายจะขวางวานรเทพแข็งแกร่งนี่ไว้!

แม้โอรสสวรรค์พวกนี้จะเป็นเพียงผู้สูงศักดิ์ แต่ก็ฝึกฝนคัมภีร์จักรพรรดิของแดนศักดิ์สิทธิ์กันทุกคน ทุกคนร่วมมือกันวางค่ายกล ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ปกติก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้จริงๆ!

น่าเสียดายก็แต่วานรเทพไม่ใช่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ธรรมดา

บึ้ม!

เกิดเสียงดังกึกก้อง!

การต่อสู้จบลงในชั่วครู่เดียว!

โอรสสวรรค์หลายคนถูกกระบองฟาดทีเดียวกระเด็นออกไป ศิษย์ใหม่ทั้งหมดกระแทกกับพื้นอย่างแรง กระอักเลือดไม่หยุด

“นี่มันบ้าอะไรกัน”

“จบเร็วเช่นนี้เชียว”

“ข้ายังไม่ทันเข้าไปร่วมด้วยเลย!”

โอรสสวรรค์ทุกคนมีสีหน้าหวาดกลัว โอรสสวรรค์มากมายขนาดนี้ร่วมมือกันกลับพ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว

ศักยภาพของเจ้าลิงนี่น่ากลัวขนาดนั้นเชียว

……

วานรเทพถือกระบองเทพพลางหัวเราะเยาะ “แซ่ฉียังไม่ทันออกแรงเลย พวกเจ้าก็ล้มกันแล้วรึ”

พวกโอรสสวรรค์โกรธจัดขึ้นมา “เจ้าลิงนี่อวดดีนัก กล้าดูถูกสำนักมนุษย์!”

“พวกเราออกมือพร้อมกัน กำราบเจ้าเดรัจฉานนี่!”

“ห้ามเหยียบย่ำเกียรติของสำนักมนุษย์!”

โอรสสวรรค์หลายสิบคนออกมือพร้อมกัน พุ่งเข้าใส่วานรเทพตัวนั้น!

พลังอำนาจน่ากลัวหมุนม้วนฟ้าดิน น่าสะพรึงถึงที่สุด

ชั่วพริบตาเดียวท้องนภาถูกแสงเทพไม่มีสิ้นสุดปกคลุม พลังยิ่งใหญ่ถาโถมลงมาเหมือนธารน้ำนิรันดร์!

โอรสสวรรค์พวกนี้ล้วนเป็นผู้โดดเด่นในเผ่ามนุษย์ห้าดินแดน ร่วมมือกันถึงขั้นยังกำราบจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ได้

ตอนนี้ทุกคนสร้างยอดค่ายกล ทำให้พลังแห่งลำดับกฎเกณฑ์ไม่มีสิ้นสุดโหมซัดสาดเข้าไป

พวกเขาไม่เชื่อว่าแบบนี้จะหยุดวานรอสูรนี่ไม่ได้!

“ไอ้พวกดื้อด้าน!”

วานรเทพยิ้มเยาะเหยียดหยาม กระบองยาวในมือขยับแสงสีดำก่อนจะจู่โจมเข้าไปอย่างฉับพลันด้วยพลังกวาดล้างพันกองทัพ!

กระบองยาวดำทมิฬมีพลังอำนาจน่าสะพรึง ทะลวงฟ้าดินกวาดล้างท้องนภา!

โครม!

เกิดเสียงดังสนั่น!

ธารน้ำนิรันดร์พลังจากโอรสสวรรค์ทุกคนถูกกระบองทุบทีเดียวแตกกระจาย!

จากนั้นวานรเทพออกมืออีกครั้ง ทุบลงมาด้วยพลังเหนือเสียง ทุบใส่โอรสสวรรค์ศิษย์ใหม่พวกนั้นอย่างฉับพลัน!

ตึงๆๆ!

เพียงแค่ไม่กี่กระบองก็ทุบโอรสสวรรค์ทั้งหมดกลิ้งไปกับพื้น

แต่ละคนโดนทุบหัวโน ปูดขึ้นมาเป็นเขาสูง ร้องโอดโอยกันใหญ่!

โอรสสวรรค์ทุกคนมีสีหน้าตื่นกลัว ตกตะลึงในใจอย่างยิ่ง

“วานรนี่โหดมาก รีบเชิญศิษย์พี่รุ่นก่อนออกมาเร็ว!”

เพราะวันนี้เป็นวันรายงานตัวศิษย์ใหม่ ดังนั้นในสำนักมนุษย์จึงมีศิษย์อาวุโสไม่เยอะ

ศิษย์ใหม่ทุกคนหวาดกลัวหน้าถอดสี วานรเทพนี่แกร่งเกินไป พวกเขาไม่อาจต้านได้เลย

มีเพียงเชิญศิษย์พี่ที่เข้าตำหนักศึกษามาฝึกบำเพ็ญหลายปีพวกนั้น ถึงจะมีคุณสมบัติประชันกับเจ้านี่ได้!

“เจ้านี่เป็นใครกันแน่”

โอรสสวรรค์ศิษย์ใหม่มากมายตื่นตะลึงในใจอย่างยิ่ง

และตอนนี้เอง ในที่สุดก็มีศิษย์อาวุโสรีบเร่งเข้ามา “เจ้าสารเลว เดรัจฉานใดกันถึงกล้าบุก…ระยำ!”

เมื่อเห็นเจ้าลิงนี่ ศิษย์อาวุโสมุมปากกระตุกอย่างบ้าคลั่ง “ศิษย์น้องทุกท่าน จู่ๆ ศิษย์พี่ก็นึกได้ว่ายังไม่ได้เก็บผ้าห่มในบ้าน พวกเจ้าหาคนอื่นมาปราบเจ้านี่แล้วกัน! ศิษย์พี่ขอตัวก่อน ไม่ต้องส่ง!”

พวกโอรสสวรรค์ศิษย์ใหม่รีบขวางไว้ “ศิษย์พี่ พวกเราจะช่วยท่านเก็บผ้าห่มเอง! ขอให้ท่านสำแดงวิชาสายฟ้ากำราบเจ้าลิงกังนี่ ให้เดรัจฉานพวกนี้ได้รู้ว่าสำนักมนุษย์เราล่วงเกินไม่ได้!”

ศิษย์อาวุโสคนนั้นจะร้องไห้แล้ว “ขะ…ข้ากำราบได้กับผีสิ! พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้านี่เป็นใคร เขาคือฉีจ้านอันดับหนึ่งในสำนักอสูร เป็นพวกบ้าที่เคยฉีกอริยะแท้มาแล้ว!

จะสู้กับเจ้านี่รึ สู้จบข้าคงได้ตายตอนอายุหกร้อยหกสิบหกปี! เจ้าบ้านี่ปิดด่านบำเพ็ญในสำนักอสูรมาตลอดไม่ใช่รึ เหตุใดจู่ๆ ถึงมาที่สำนักมนุษย์กัน!”

หลังจากศิษย์อาวุโสอธิบาย ศิษย์ใหม่ทุกคนก็เริ่มเข้าใจวานรเทพนี่

วานรอริยะสัประยุทธ์ฉีจ้าน โอรสสวรรค์ที่แกร่งที่สุดของสำนักอสูร!

กำลังรบเป็นที่สุดแห่งยุค เหนือกว่าอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์ท่านเซียนชิงเยว่

ในการประชันกันเมื่อก่อน สำนักมนุษย์ถูกสำนักอสูรกำราบเป็นประจำ ก็เพราะมีฉีจ้านอยู่!

เขาเป็นเหมือนภูเขาใหญ่ที่ข้ามผ่านไม่ได้ ทำให้โอรสสวรรค์ทุกรุ่นเห็นแล้วต้องถอยกลับทันที!

…..

วานรเทพยืนกลางฟ้าดินอย่างโอหัง ชำเลืองตามองทุกสรรพสัตว์ “ให้สือเทียนจื่อออกมา ข้าจะสู้กับเขา!”

มีโอรสสวรรค์กัดฟัน “รอก่อนเถอะ องค์ชายเทียนจื่อมาแล้ว เจ้าได้เห็นดีแน่!”

คนหลายคนจากไปอย่างรวดเร็ว ไปติดต่อให้สือเทียนจื่อออกจากภูเขา

หากเป็นปกติจะไม่มีใครขวางวานรอริยะฉีจ้านได้ ต่อให้เป็นท่านเซียนชิงเยว่ก็ไม่มีทางทำได้!

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน เพราะสือเทียนจื่อมาแล้ว

แม้ฉีจ้านจะเคยฉีกอริยะแท้ห้าด่านเคราะห์ แต่สือเทียนจื่อก็มีผลการรบไม่ธรรมดาเช่นกัน

หากสู้เต็มที่ก็อาจจะกำราบเจ้าลิงกังนี่ลงได้!

เพียงแต่พวกเขาไม่คิดเลยว่าฉีจ้านจะมาถึงหน้าบ้านเร็วขนาดนี้ อีกทั้งเจ้านี่ยังจะท้าสู้กับสือเทียนจื่อ หรือพวกเขาขัดแย้งอะไรกัน

แม้สือเทียนจื่อจะกำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ฉีจ้านก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน ทุกคนอยากรู้มากว่าพวกเขาใครจะแกร่งกว่ากัน

……

พวกเสิ่นเทียนถูกดึงดูดมาตามเสียงเจี๊ยวจ๊าว

พอได้ยินฉีจ้านขานนาม ทุกคนก็ตาเป็นประกายขึ้นมา

โอรสสวรรค์อันดับหนึ่งแห่งสำนักอสูรจะสู้กับโอรสสวรรค์อันดับหนึ่งสำนักมนุษย์ เรื่องคึกคักเช่นนี้ไม่ได้เห็นกันบ่อยๆ

ดูท่าคงมีอะไรสนุกๆ ดูแล้ว!

หวังเสินซวีมองฉีจ้านที่มีท่าทางน่าเกรงขามพลางยิ้มเย้าหยอก “เจ้าลิงนี่ก็แซ่ฉีด้วยรึ ฉีเซ่าเสวียน ยังไม่ไปทักทายพี่ชายบุญธรรมอีก ให้เขาเอากระบองทุบเจ้าเถอะ!”

ทุกคนงุนงง

เจ้านี่ปากร้ายไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ!

ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วได้ถูกคนทุบตายแน่

ฉีเซ่าเสวียนชำเลืองตามองหวังเสินซวีทีหนึ่ง มุมปากกระตุกขึ้นเล็กน้อย

ถ้าไม่ใช่เพราะกาลเทศะไม่อำนวย เขาจะต้องลากหวังเสินซวีมาทำศึกใหญ่สักสามร้อยกระบวนท่าแน่!

สูบพลังของเจ้านี่ให้หมดตัว ให้กำลังวังชาแห้งไปให้หมด ดูว่าเขาจะยังทำตัวเลวทรามได้อีกหรือไม่!

และตอนนี้เองฉีจ้านยังคงพูดเสียงดัง “ไม่นึกเลยว่าผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์จะเป็นเต่าหดหัวในกระดอง! ข้าแซ่ฉีมาเยือนด้วยตนเอง เจ้าเด็กนี่ยังไม่กล้าโผล่หน้ามา! ผู้สูงส่งสูงสุดหนุ่ม ได้แค่นี้หรือ!”

ที่วานรอริยะสัประยุทธ์ฉีจ้านมาหาสือเทียนจื่ออย่างกะทันหันย่อมมีเหตุผล!

เขามีพรสวรรค์สุดยอด กระทั่งจักรพรรดิฮวงสือยังรับเป็นศิษย์ในนาม มีฐานะเหนือธรรมดา

แต่จักรพรรดิฮวงสือไม่ได้ถ่ายทอดวิชาจักรพรรดิ แค่ทิ้งคำพูดไว้ไม่กี่คำ ‘วิถีของข้าต่างกับเจ้า สอนอะไรไม่ได้มาก ตั้งแต่โบราณมา วานรอริยะสัปรยุทธ์มีสวรรค์เป็นอาจารย์ มีสวรรค์เป็นสหาย สู้สวรรค์บรรลุมรรค เมื่อเจ้าตระหนักรู้คำพูดนี้ จะเป็นวันที่เจ้ายิ่งใหญ่ในห้าดินแดน’

ฉีจ้านครุ่นคิดอย่างหนักก็ยังไม่เข้าใจความหมายแฝงในนั้นมาตลอด

จนเร็วๆ นี้สือเทียนจื่อเข้าสำนักศึกษาหลวงจี้เซี่ย ผู้คนรอบกายพูดถึงเขา!

ฉีจ้านพลันเข้าใจขึ้นมา คิดว่าสือเทียนจื่อคือความหมายลึกซึ้งที่จักรพรรดิฮวงสือกล่าว

ขอแค่เขาเอาชนะสือเทียนจื่อได้ก็จะหาวิถีของตนพบ จากนั้นบรรลุความสมบูรณ์ฝ่าด่านเคราะห์

ครั้งนี้เขามาเยือนสำนักมนุษย์ด้วยตนเองก็เพื่อมาท้าสู้กับสือเทียนจื่อ!

……

พอได้ฟังฉีจ้านถากถางสือเทียนจื่อ โอรสสวรรค์ทุกคนก็โกรธจัด!

ผู้สูงส่งสูงสุดหนุ่มคนนี้คือความศรัทธาแบบอย่างของโอรสสวรรค์ดินแดนกลางมากมาย

หากไม่ใช่เพราะศักยภาพต่างกันเกินไป โอรสสวรรค์ทุกคนคงจะพุ่งเข้าไปสู้สุดชีวิตกับเขาแล้ว!

โครม!

ตอนนี้เอง กลิ่นอายพลังมหาศาลปะทุออกมา!

ร่างเงาชุดคลุมขาวดั่งหิมะลงมา ร่างเงาลอยล่องอย่างยิ่ง เหยียบอากาศมาปรากฏตรงหน้าทุกคน

เมื่อเห็นคนนี้ โอรสสวรรค์สำนักมนุษย์รอบข้างต่างทำหน้าดีใจ ร้องตกใจขึ้น “เป็นองค์ชายสือเทียนจื่อ! องค์ชายสือเทียนจื่อจะต้องมาล้างความอัปยศก่อนหน้านี้ให้เราแน่ สั่งสอนเจ้าลิงเหม็นนั่นเลย!”

“เจ้าลิงเหม็น จะคอยดูว่าเจ้าจะโอหังอย่างไรได้อีก!”

โอรสสวรรค์ทุกคนเห็นสือเทียนจื่อแล้วก็เหมือนเห็นดาวช่วยชีวิต

ถึงอย่างไรในโอรสสวรรค์สำนักมนุษย์ ก็มีเพียงเขาที่ปะทะกับฉีจ้านได้!

ฉีจ้านเห็นสือเทียนจื่อปรากฏกายแล้วก็ฮึกเหิมขึ้นมา “เจ้าคือสือเทียนจื่ออันดับหนึ่งสำนักมนุษย์รึ”

สือเทียนจื่อชำเลืองตามองฉีจ้านทีหนึ่งก่อนเอ่ยอย่างเฉยชา “ข้าคือสือเทียนจื่อ แต่ไม่ใช่อันดับหนึ่งสำนักมนุษย์!”

ฉีจ้านมีสีหน้าจริงจังเล็กน้อย ไม่เชื่อคำพูดของสือเทียนจื่อ “รายนามโอรสสวรรค์บันทึกนามของเจ้า ไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร”

สือเทียนจื่อพูดอย่างเฉยชา “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน!”

ฉีจ้านมีแววตาตกใจระคนสงสัย ก่อนถาม “เสิ่นเทียนเป็นใครอีก”

ช่วงนี้เขาปิดด่านบำเพ็ญ ย่อมไม่เคยได้ยินนามเสิ่นเทียน ทว่าโอรสสวรรค์ทุกคนรอบข้างได้ยินคำพูดของสือเทียนจื่อแล้วกลับมีสีหน้าตกใจอย่างรุนแรง

ไม่อยากเชื่อว่าสือเทียนจื่อจะบอกว่าบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนคืออันดับหนึ่งสำนักมนุษย์

หรือว่าพวกเขาจะแอบประลองกันลับๆ มาแล้ว อีกทั้งสือเทียนจื่อยังพ่ายแพ้อีก

ซี้ด ข่าวใหญ่!

โอรสสวรรค์มากมายได้ยินเช่นนั้นก็เบนสายตาไปมองเสิ่นเทียน แววตาเต็มไปด้วยความแปลกใจ

กระทั่งยังค่อยๆ เกิดความเคารพและเลื่อมใสอันเร่าร้อนและบ้าคลั่ง

เสิ่นเทียนกุมหน้าผาก เขาก็ไม่คิดว่าสือเทียนจื่อจะพูดตรงขนาดนี้

ฉีจ้านก็ยังไม่เชื่อ เขาส่ายหน้าทันที “ข้าแซ่ฉีไม่สนว่าเจ้าจะเป็นอันดับหนึ่งสำนักมนุษย์หรือไม่ ท่านจักรพรรดิเคยบอกว่าข้ามีสวรรค์เป็นอาจารย์ มีสวรรค์เป็นสหาย สู้สวรรค์บรรลุมรรค

นามของเจ้าคือสือเทียนจื่อ ในนั้นมีคำว่าสวรรค์! ท่านจักรรพรรดิก็น่าจะหมายถึงเจ้า! ขอแค่เอาชนะเจ้าได้ ข้าก็จะพิสูจน์มรรคเป็นผู้อริยะได้!”

ฉีจ้านมองสือเทียนจื่อด้วยดวงตาร้อนแรง จิตต่อสู้ฮึกเหิม “มาสู้กับข้า!”

สือเทียนจื่อยักไหล่ “เจ้าจะมีสวรรค์เป็นอาจารย์ มีสวรรค์เป็นสหาย สู้สวรรค์บรรลุมรรคแล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้า ข้าคือสือเทียนจื่อ ไม่ใช่สือเทียน! อีกทั้งในชื่อของบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียนก็มีคำว่าสวรรค์เช่นกัน! คนที่เจ้าต้องไปหาเป็นเขา ไม่ใช่ข้า”

สือเทียนจื่อเบนสายตามามองเสิ่นเทียน ทำให้เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก

เจ้าเด็กนี่ คงกำลังหาแพะรับบาปแทนตนอยู่กระมัง!

เสิ่นเทียนพึมพำ เขามักจะรู้สึกว่าสือเทียนจื่อกำลังแก้แค้นเขาอยู่

เขาอยากอยู่เงียบๆ แต่ก็จนปัญญา สือเทียนจื่อบงการอย่างบ้าคลั่ง ช่วยเผยไพ่ของเขาออกมาทั้งหมด

นี่ทำให้คนปวดไข่จริงๆ!

…………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด