บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 93 สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 93 สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 93 สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ!
ครั้นเห็นนักพรตชรากับเสิ่นเทียนต่อราคากันเหมือนซื้อผักในตลาดแล้ว คนอื่นๆ ในตำหนักไร้พรมแดนถึงกับตาค้างไปแล้ว วันนี้โลกทัศน์กับโลกทัศน์เซียนของพวกเขาพังทลายลงราวกับนิวเคลียร์ล้างโลก

หากรับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ตบแต่งสตรีศักดิ์สิทธิ์ คนผู้นี้จะเดินสู่จุดสูงสุดของแดนบูรพา

สวัสดิการดีๆ เช่นนี้ โอรสสวรรค์สู้สุดชีวิตกันตั้งเท่าไรยังไม่ได้มา แต่เสิ่นเทียนกลับอยากจะผลักตัวเองออกสุดชีวิต

และที่สำคัญกว่านั้นคือเห็นๆ อยู่ว่าเขาไม่ต้องการ แต่ผู้อาวุโสทรงพลังแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ท่านนั้นกลับมาขอให้เขารับไว้

อมิตาพุทธหาที่สิ้นสุดมิได้ แดนศักดิ์สิทธิ์นอบน้อมสุภาพเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน องค์ชายสิบสามแห่งอาณาจักรต้าเหยียนเป็นผู้วิเศษแบบใดกันแน่!

ทางด้านเสิ่นเซี่ยวมองเสิ่นเทียนด้วยแววตารักเอ็นดูอย่างยิ่ง แม้ไม่รู้ว่าเทียนเอ๋อร์ทำได้อย่างไร แต่เขาในวันนี้ แม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังยื่นหน้ามาเชิญให้เขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ตบแต่งกับสตรีศักดิ์สิทธิ์

‘ภายภาคหน้าในแดนบูรพาแห่งนี้ ข้าก็ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะถูกใครรังแกอีกแล้ว

หลานเอ๋อร์หากเจ้าเห็นอยู่บนสวรรค์ก็น่าจะตายตาหลับเช่นกัน’

……

เมื่อเห็นในที่สุดเสิ่นเทียนก็ตอบตกลง นักพรตชราจึงตัดสินใจจัดการงานให้เรียบร้อยหนึ่งวันแล้วกลับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทันที

หลี่เหลียนเอ๋อร์เทินเมล็ดน้ำเต้าเซียนเจ็ดสมบัติเข้ามาใกล้ๆ “พี่อวิ๋นซี พาเหลียนเอ๋อร์ไปด้วยได้หรือไม่”

บนหน้าผากจางอวิ๋นซีลากเป็นเส้นสีดำเส้นหนึ่ง “เจ้าไม่กลับแดนเทวาดาวประกายพรึก ไปอยู่กับท่านพ่อเจ้ารึ”

หลี่เหลียนเอ๋อร์บ่นพึมพำ “กว่าจะหนีออกมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ สักหน่อย ข้าไม่กลับ!”

พูดจบนางก็ขยับไปข้างๆ เสิ่นเทียน “พี่เสิ่นสาบานว่าหากไม่ถึงระดับดวงจิตดรุณจะไม่แต่งงาน อันนี้จัดการยากนิดๆ นะ! แต่ตอนนี้พี่เสิ่นเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว คงจะทะลวงระดับดวงจิตดรุณได้เร็วมาก

เหลียนเอ๋อร์ตามพี่เสิ่นไปแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ เรามาพยายามฝึกฝนด้วยกันเถอะ!”

จางอวิ๋นซีเอ่ย “บ้านเจ้าไม่อยู่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ รีบกลับบ้านไป!”

หลี่เหลียนเอ๋อร์ทำปากจู๋ “ไม่ ไม่ เหลียนเอ๋อร์ไปอยู่กับอารองก็ได้!”

หลี่ชิงเหออารองของหลี่เหลียนเอ๋อร์ก็คือหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสใหญ่ระดับหลอมรวมเทพยุคนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

หากหลี่เหลียนเอ๋อร์จะไปหาญาติที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ จางอวิ๋นซีก็คิดหาเหตุผลอะไรมาห้ามไม่ได้จริงๆ

ตอนนี้เองมีแสงสว่างสีม่วงพุ่งมาแต่ไกล มันพุ่งเข้ามากลางตำหนักไร้พรมแดนแล้วก็ม้วนเอาหลี่เหลียนเอ๋อร์กับเสิ่นเอ้าหมุนตัวหนีไป

เสิ่นเทียนเหมือนเห็นรางๆ ว่าในกลุ่มแสงสีม่วงนั้นมีร่างคนสีขาวอยู่

…..

ใช่ แสงสว่างสีม่วงนี้ก็คือผู้สูงศักดิ์จื่อหยางที่ไปแล้วย้อนกลับมาอีก เขารับคำสั่งจากหลี่ชางหลันให้มาพาเสิ่นเทียนกลับแดนเทวาดาวประกายพรึก

ปรากฏว่าไม่ใช่แค่ทำภารกิจไม่สำเร็จ แต่ยังทำป้ายคำสั่งผู้สูงศักดิ์กระบี่ของศิษย์พี่หาย ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางแทบจะคาดการณ์ได้เลยว่ากลับแดนเทวาดาวประกายพรึกครั้งนี้แล้วตนจะอนาถาเพียงใด

กลยุทธ์ในตอนนี้มีเพียงสร้างคุณูปการทดแทนโทษเพื่อให้ศิษย์พี่ระบายโทสะออกบ้าง

หลี่เหลียนเอ๋อร์แอบหนีออกจากแดนเทวาดาวประกายพรึก นั่นคือความผิดของศิษย์อารักขา

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางจับนางกลับไป นี่คือคุณูปการแรก

เสิ่นเทียนเป็นต้นตอความโกรธของศิษย์พี่ แต่ถ้าจับเสิ่นเทียน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกับสตรีศักดิ์สิทธิ์จางอวิ๋นซีไม่ยอมแน่

ดังนั้นผู้สูงศักดิ์จื่อหยางเลยได้แต่ถอยมาเรื่องรอง จับเสิ่นเอ้าพี่ชายแท้ๆ ของเสิ่นเทียนมาสมทบให้ครบจำนวน ถึงอย่างไรคนที่ศิษย์พี่โกรธก็ชื่อเสิ่นเอ้าเทียน เสิ่นเอ้าก็พอจะเอามาใช้แทนได้กระมัง!

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางจับเขากลับไป นี่คือคุณูปการที่สอง

ศิษย์เอ๋ย ครั้งนี้กลับไปกับอาจารย์เกรงว่าคงต้องให้เจ้ากล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมหลายเดือนเลย

แต่กระบี่ล้ำค่าคมจากการลับ กลิ่นหอมดอกเหมยมาจากความขม ขอแค่เจ้าฝึกฝนในระดับความแกร่งของอาจารย์ลุงธารนิรันดร์ได้ ภายภาคหน้าผู้ฝึกบำเพ็ญกระบี่สูงสุดในรุ่นเยาว์แห่งแดนบูรพาจะต้องมีที่ยืนของเจ้าแน่นอน แน่นอนเลย!

…….

“พี่เสิ่น เดี๋ยวเหลียนเอ๋อร์จะไปหาท่านที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นะ รอเหลียนเอ๋อร์ด้วย!”

ผมชี้หย่อมหนึ่งตั้งตรงกลางสายลมในแสงสว่างสีม่วง ก่อนเสียงเด็กสาวจะค่อยๆ ไกลออกไป

ในที่สุดจางอวิ๋นซีก็พ่นลมหายใจขุ่นยาวๆ สายฟ้าบนผิวกายค่อยๆ สงบลง

อีกเดี๋ยวต้องไปเสนอให้ผู้สูงศักดิ์ธารนิรันดร์จับตาดูลูกสาวดีๆ แล้ว เห็นผู้ชายไม่ได้ก็จะหนีออกจากบ้านตามเขาไป ไม่มีความสำรวมของผู้หญิงเลยสักนิด!

พอนึกถึงตรงนี้ จางอวิ๋นซีก็เผยรอยยิ้มชัยชนะ

………….

กลางดึก จางอวิ๋นซีกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพักในพระราชวังอาณาจักรต้าเหยียนคืนหนึ่ง

ข่าวที่เสิ่นเทียนไปกับแดนศักดิ์แพร่งพรายออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

คืนนี้ลิขิตไว้ว่าเป็นคืนที่ไม่เงียบสงบ

คนมากมายพากันตื่นตกใจเพราะข่าวนี้ แต่เจ้าเรื่องอย่างเสิ่นเทียนกลับนอนหลับสบายกว่าใคร แม้จะถูกบังคับให้รับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อะไรนั่น

แต่ก็มีความโชคดีในความโชคร้าย นั่นคือหาเหตุผลหลีกหนีงานแต่งงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากนี้หากมีสตรีศักดิ์สิทธิ์เซียนท่านใดมารังควานใบหน้าหล่อเหลาของข้า คิดจะพัวพันข้าละก็

ข้าก็จะเอากฎ ‘ข้าเคยสาบานว่าจะตั้งอกตั้งใจฝึกบำเพ็ญ ไม่ถึงระดับดวงจิตดรุณจะไม่แต่งงานเด็ดขาด’ มาตอบกลับไป

ในโลกบำเพ็ญเซียนที่มองเรื่องการสาบานสำคัญอย่างยิ่งนี้ คำอธิบายนี้ถือว่ามีอำนาจโน้มน้าวมากจริงๆ มีอย่างเดียวที่ไม่น่าพอใจคือตอนนั้นที่พูดหัวเก่าเกินไป น่าจะบอกว่าระดับหลอมรวมเทพสิ!

สรุปคือ เสิ่นเทียนคิดว่าตัวเองก็พอจะฝืนผ่านเคราะห์ภัยนี้ไปได้

ไม่มีเซียนเคียดแค้นอยู่ข้างๆ อัตราความอันตรายลดลงไปมาก ส่วนหลังเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แล้วจะมีคนริษยาหรือไม่นั้น

อยากมากข้าก็อยู่แดนศักดิ์สิทธิ์ไปก่อน ตั้งอกตั้งใจฝึกบำเพ็ญไม่ออกไปฝึกฝนสุ่มสี่สุ่มห้า จากนั้นแอบเติบโตเงียบๆ หาผู้มีวาสนาหลายๆ คนมาทำให้วงรัศมีเหนือศีรษะข้าเป็นสีเขียวและแดง

จนวันนั้นที่ข้าทะลวงระดับหลอมรวมเทพ วงรัศมีเป็นสีทองบริสุทธิ์ก็มั่นคงดั่งสุนัขแล้ว

ตอนนั้น โลกบำเพ็ญใหญ่เช่นนี้ จะทำอะไรตามใจไม่ได้หรือ

………….

เสิ่นเทียนแบกความปรารถนาในชีวิตอันสวยงามหลับลึกเข้าฝันไป

ตื่นมาวันที่สอง เสิ่นเทียนบอกลาท่านพ่อเสิ่นเซี่ยวก่อนพาทุกคนขึ้นเรือเหาะ

ใช่ ทุกคน

สิ่งที่ควรค่าเอ่ยถึงคือ ครั้งนี้จางอวิ๋นซีกับนักพรตชราเดินทางมาอาณาจักรต้าเหยียนไม่ใช่แค่เพื่อเชิญเสิ่นเทียนกลับ แต่ยังหาหน่ออ่อนเซียนที่ได้แก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าจากร้านวิญญาณสวรรค์ในวันนั้นด้วย

กล่าวให้ละเอียดคือกุ้ยกงกง ฉินเกา เถ้าแก่ซ่งและพวกเจี่ยอี้และสยง

ในกายคนพวกนี้สูบรับแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าบ้างมากบ้างก็น้อย แม้ปริมาณจะไม่มากพอ ไม่อาจใช้อัสนีเทพกำเนิดฟ้าโจมตีได้อย่างเสิ่นเทียนหรือจางอวิ๋นซี

แต่ด้วยแก่นรากเหล่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะฝึกฝนห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมหรือเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีก็ยังมีผลเพิ่มเป็นครึ่งเท่า

คนพวกนี้สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่เสื่อมถอยแล้ว คือหน่ออ่อนเซียนที่หายากและควรค่าแก่การดึงตัวมาอย่างยิ่ง

แน่นอน มีหน่ออ่อนเซียนสองต้นที่แก่ไปหน่อย

แต่นี่ไม่สำคัญ สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว อายุร้อยปีไม่ถือว่าอะไรเลย

ขอแค่คุณสมบัติการบำเพ็ญดีพอ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็กระทุ้งให้เจ้าทะลวงถึงระดับแก่นพลังทองกระทั่งดวงจิตดรุณได้

วินาทีที่ขึ้นเรือเหาะเทพสวรรค์ เถ้าแก่ซ่ง เจินจื้อเจี่ยและพวกหลิวไท่อี่เหมือนกับฝันไป

เมื่อหลายวันก่อนพวกเขายังเป็นแค่ผู้ฝึกบำเพ็ญธรรมดาในสวนหมื่นวิญญาณ รวมถึงเป็นผู้สืบทอดสาขาย่อยอันเล็กจ้อยแห่งตระกูลซ่งในแดนบูรพา

แต่วันนี้พวกเขากลับได้เป็นศิษย์ฝ่ายในของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แบบกรณีพิเศษ เหมือนปลากระโดดข้ามประตูมังกร

ส่วนเถ้าแก่ซ่ง เพราะปูนบำเหน็จผ่าหินหนึ่งส่วนรวมถึงแก่นรากอัสนีเทพในกายค่อนข้างเยอะ เลยได้สิทธิ์เป็นศิษย์สายตรง

……

ในมุมมองพวกเขา ทุกอย่างเป็นเพราะพวกเขากอดขาท่านเซียนสำเร็จ

ทุกอย่างเป็นเพราะพวกเขาผูกชะตากับท่านเซียนสำเร็จ

ทุกอย่างเป็นเพราะท่านเซียนเห็นแก่มิตรภาพเก่าถึงประคับประคองพวกเขา!

สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ!

………………………………….…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 93 สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ!

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 93 สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 93 สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ!
ครั้นเห็นนักพรตชรากับเสิ่นเทียนต่อราคากันเหมือนซื้อผักในตลาดแล้ว คนอื่นๆ ในตำหนักไร้พรมแดนถึงกับตาค้างไปแล้ว วันนี้โลกทัศน์กับโลกทัศน์เซียนของพวกเขาพังทลายลงราวกับนิวเคลียร์ล้างโลก

หากรับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ตบแต่งสตรีศักดิ์สิทธิ์ คนผู้นี้จะเดินสู่จุดสูงสุดของแดนบูรพา

สวัสดิการดีๆ เช่นนี้ โอรสสวรรค์สู้สุดชีวิตกันตั้งเท่าไรยังไม่ได้มา แต่เสิ่นเทียนกลับอยากจะผลักตัวเองออกสุดชีวิต

และที่สำคัญกว่านั้นคือเห็นๆ อยู่ว่าเขาไม่ต้องการ แต่ผู้อาวุโสทรงพลังแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ท่านนั้นกลับมาขอให้เขารับไว้

อมิตาพุทธหาที่สิ้นสุดมิได้ แดนศักดิ์สิทธิ์นอบน้อมสุภาพเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไรกัน องค์ชายสิบสามแห่งอาณาจักรต้าเหยียนเป็นผู้วิเศษแบบใดกันแน่!

ทางด้านเสิ่นเซี่ยวมองเสิ่นเทียนด้วยแววตารักเอ็นดูอย่างยิ่ง แม้ไม่รู้ว่าเทียนเอ๋อร์ทำได้อย่างไร แต่เขาในวันนี้ แม้แต่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังยื่นหน้ามาเชิญให้เขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ ตบแต่งกับสตรีศักดิ์สิทธิ์

‘ภายภาคหน้าในแดนบูรพาแห่งนี้ ข้าก็ไม่ต้องกังวลว่าเขาจะถูกใครรังแกอีกแล้ว

หลานเอ๋อร์หากเจ้าเห็นอยู่บนสวรรค์ก็น่าจะตายตาหลับเช่นกัน’

……

เมื่อเห็นในที่สุดเสิ่นเทียนก็ตอบตกลง นักพรตชราจึงตัดสินใจจัดการงานให้เรียบร้อยหนึ่งวันแล้วกลับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทันที

หลี่เหลียนเอ๋อร์เทินเมล็ดน้ำเต้าเซียนเจ็ดสมบัติเข้ามาใกล้ๆ “พี่อวิ๋นซี พาเหลียนเอ๋อร์ไปด้วยได้หรือไม่”

บนหน้าผากจางอวิ๋นซีลากเป็นเส้นสีดำเส้นหนึ่ง “เจ้าไม่กลับแดนเทวาดาวประกายพรึก ไปอยู่กับท่านพ่อเจ้ารึ”

หลี่เหลียนเอ๋อร์บ่นพึมพำ “กว่าจะหนีออกมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ สักหน่อย ข้าไม่กลับ!”

พูดจบนางก็ขยับไปข้างๆ เสิ่นเทียน “พี่เสิ่นสาบานว่าหากไม่ถึงระดับดวงจิตดรุณจะไม่แต่งงาน อันนี้จัดการยากนิดๆ นะ! แต่ตอนนี้พี่เสิ่นเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แล้ว คงจะทะลวงระดับดวงจิตดรุณได้เร็วมาก

เหลียนเอ๋อร์ตามพี่เสิ่นไปแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้ เรามาพยายามฝึกฝนด้วยกันเถอะ!”

จางอวิ๋นซีเอ่ย “บ้านเจ้าไม่อยู่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ รีบกลับบ้านไป!”

หลี่เหลียนเอ๋อร์ทำปากจู๋ “ไม่ ไม่ เหลียนเอ๋อร์ไปอยู่กับอารองก็ได้!”

หลี่ชิงเหออารองของหลี่เหลียนเอ๋อร์ก็คือหนึ่งในเก้าผู้อาวุโสใหญ่ระดับหลอมรวมเทพยุคนี้ของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

หากหลี่เหลียนเอ๋อร์จะไปหาญาติที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ จางอวิ๋นซีก็คิดหาเหตุผลอะไรมาห้ามไม่ได้จริงๆ

ตอนนี้เองมีแสงสว่างสีม่วงพุ่งมาแต่ไกล มันพุ่งเข้ามากลางตำหนักไร้พรมแดนแล้วก็ม้วนเอาหลี่เหลียนเอ๋อร์กับเสิ่นเอ้าหมุนตัวหนีไป

เสิ่นเทียนเหมือนเห็นรางๆ ว่าในกลุ่มแสงสีม่วงนั้นมีร่างคนสีขาวอยู่

…..

ใช่ แสงสว่างสีม่วงนี้ก็คือผู้สูงศักดิ์จื่อหยางที่ไปแล้วย้อนกลับมาอีก เขารับคำสั่งจากหลี่ชางหลันให้มาพาเสิ่นเทียนกลับแดนเทวาดาวประกายพรึก

ปรากฏว่าไม่ใช่แค่ทำภารกิจไม่สำเร็จ แต่ยังทำป้ายคำสั่งผู้สูงศักดิ์กระบี่ของศิษย์พี่หาย ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางแทบจะคาดการณ์ได้เลยว่ากลับแดนเทวาดาวประกายพรึกครั้งนี้แล้วตนจะอนาถาเพียงใด

กลยุทธ์ในตอนนี้มีเพียงสร้างคุณูปการทดแทนโทษเพื่อให้ศิษย์พี่ระบายโทสะออกบ้าง

หลี่เหลียนเอ๋อร์แอบหนีออกจากแดนเทวาดาวประกายพรึก นั่นคือความผิดของศิษย์อารักขา

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางจับนางกลับไป นี่คือคุณูปการแรก

เสิ่นเทียนเป็นต้นตอความโกรธของศิษย์พี่ แต่ถ้าจับเสิ่นเทียน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกับสตรีศักดิ์สิทธิ์จางอวิ๋นซีไม่ยอมแน่

ดังนั้นผู้สูงศักดิ์จื่อหยางเลยได้แต่ถอยมาเรื่องรอง จับเสิ่นเอ้าพี่ชายแท้ๆ ของเสิ่นเทียนมาสมทบให้ครบจำนวน ถึงอย่างไรคนที่ศิษย์พี่โกรธก็ชื่อเสิ่นเอ้าเทียน เสิ่นเอ้าก็พอจะเอามาใช้แทนได้กระมัง!

ผู้สูงศักดิ์จื่อหยางจับเขากลับไป นี่คือคุณูปการที่สอง

ศิษย์เอ๋ย ครั้งนี้กลับไปกับอาจารย์เกรงว่าคงต้องให้เจ้ากล้ำกลืนความไม่เป็นธรรมหลายเดือนเลย

แต่กระบี่ล้ำค่าคมจากการลับ กลิ่นหอมดอกเหมยมาจากความขม ขอแค่เจ้าฝึกฝนในระดับความแกร่งของอาจารย์ลุงธารนิรันดร์ได้ ภายภาคหน้าผู้ฝึกบำเพ็ญกระบี่สูงสุดในรุ่นเยาว์แห่งแดนบูรพาจะต้องมีที่ยืนของเจ้าแน่นอน แน่นอนเลย!

…….

“พี่เสิ่น เดี๋ยวเหลียนเอ๋อร์จะไปหาท่านที่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นะ รอเหลียนเอ๋อร์ด้วย!”

ผมชี้หย่อมหนึ่งตั้งตรงกลางสายลมในแสงสว่างสีม่วง ก่อนเสียงเด็กสาวจะค่อยๆ ไกลออกไป

ในที่สุดจางอวิ๋นซีก็พ่นลมหายใจขุ่นยาวๆ สายฟ้าบนผิวกายค่อยๆ สงบลง

อีกเดี๋ยวต้องไปเสนอให้ผู้สูงศักดิ์ธารนิรันดร์จับตาดูลูกสาวดีๆ แล้ว เห็นผู้ชายไม่ได้ก็จะหนีออกจากบ้านตามเขาไป ไม่มีความสำรวมของผู้หญิงเลยสักนิด!

พอนึกถึงตรงนี้ จางอวิ๋นซีก็เผยรอยยิ้มชัยชนะ

………….

กลางดึก จางอวิ๋นซีกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพักในพระราชวังอาณาจักรต้าเหยียนคืนหนึ่ง

ข่าวที่เสิ่นเทียนไปกับแดนศักดิ์แพร่งพรายออกไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

คืนนี้ลิขิตไว้ว่าเป็นคืนที่ไม่เงียบสงบ

คนมากมายพากันตื่นตกใจเพราะข่าวนี้ แต่เจ้าเรื่องอย่างเสิ่นเทียนกลับนอนหลับสบายกว่าใคร แม้จะถูกบังคับให้รับตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อะไรนั่น

แต่ก็มีความโชคดีในความโชคร้าย นั่นคือหาเหตุผลหลีกหนีงานแต่งงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ จากนี้หากมีสตรีศักดิ์สิทธิ์เซียนท่านใดมารังควานใบหน้าหล่อเหลาของข้า คิดจะพัวพันข้าละก็

ข้าก็จะเอากฎ ‘ข้าเคยสาบานว่าจะตั้งอกตั้งใจฝึกบำเพ็ญ ไม่ถึงระดับดวงจิตดรุณจะไม่แต่งงานเด็ดขาด’ มาตอบกลับไป

ในโลกบำเพ็ญเซียนที่มองเรื่องการสาบานสำคัญอย่างยิ่งนี้ คำอธิบายนี้ถือว่ามีอำนาจโน้มน้าวมากจริงๆ มีอย่างเดียวที่ไม่น่าพอใจคือตอนนั้นที่พูดหัวเก่าเกินไป น่าจะบอกว่าระดับหลอมรวมเทพสิ!

สรุปคือ เสิ่นเทียนคิดว่าตัวเองก็พอจะฝืนผ่านเคราะห์ภัยนี้ไปได้

ไม่มีเซียนเคียดแค้นอยู่ข้างๆ อัตราความอันตรายลดลงไปมาก ส่วนหลังเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์แล้วจะมีคนริษยาหรือไม่นั้น

อยากมากข้าก็อยู่แดนศักดิ์สิทธิ์ไปก่อน ตั้งอกตั้งใจฝึกบำเพ็ญไม่ออกไปฝึกฝนสุ่มสี่สุ่มห้า จากนั้นแอบเติบโตเงียบๆ หาผู้มีวาสนาหลายๆ คนมาทำให้วงรัศมีเหนือศีรษะข้าเป็นสีเขียวและแดง

จนวันนั้นที่ข้าทะลวงระดับหลอมรวมเทพ วงรัศมีเป็นสีทองบริสุทธิ์ก็มั่นคงดั่งสุนัขแล้ว

ตอนนั้น โลกบำเพ็ญใหญ่เช่นนี้ จะทำอะไรตามใจไม่ได้หรือ

………….

เสิ่นเทียนแบกความปรารถนาในชีวิตอันสวยงามหลับลึกเข้าฝันไป

ตื่นมาวันที่สอง เสิ่นเทียนบอกลาท่านพ่อเสิ่นเซี่ยวก่อนพาทุกคนขึ้นเรือเหาะ

ใช่ ทุกคน

สิ่งที่ควรค่าเอ่ยถึงคือ ครั้งนี้จางอวิ๋นซีกับนักพรตชราเดินทางมาอาณาจักรต้าเหยียนไม่ใช่แค่เพื่อเชิญเสิ่นเทียนกลับ แต่ยังหาหน่ออ่อนเซียนที่ได้แก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าจากร้านวิญญาณสวรรค์ในวันนั้นด้วย

กล่าวให้ละเอียดคือกุ้ยกงกง ฉินเกา เถ้าแก่ซ่งและพวกเจี่ยอี้และสยง

ในกายคนพวกนี้สูบรับแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าบ้างมากบ้างก็น้อย แม้ปริมาณจะไม่มากพอ ไม่อาจใช้อัสนีเทพกำเนิดฟ้าโจมตีได้อย่างเสิ่นเทียนหรือจางอวิ๋นซี

แต่ด้วยแก่นรากเหล่านั้น ไม่ว่าพวกเขาจะฝึกฝนห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมหรือเคล็ดหลอมกายจักรพรรดิอัสนีก็ยังมีผลเพิ่มเป็นครึ่งเท่า

คนพวกนี้สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่เสื่อมถอยแล้ว คือหน่ออ่อนเซียนที่หายากและควรค่าแก่การดึงตัวมาอย่างยิ่ง

แน่นอน มีหน่ออ่อนเซียนสองต้นที่แก่ไปหน่อย

แต่นี่ไม่สำคัญ สำหรับแดนศักดิ์สิทธิ์แล้ว อายุร้อยปีไม่ถือว่าอะไรเลย

ขอแค่คุณสมบัติการบำเพ็ญดีพอ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็กระทุ้งให้เจ้าทะลวงถึงระดับแก่นพลังทองกระทั่งดวงจิตดรุณได้

วินาทีที่ขึ้นเรือเหาะเทพสวรรค์ เถ้าแก่ซ่ง เจินจื้อเจี่ยและพวกหลิวไท่อี่เหมือนกับฝันไป

เมื่อหลายวันก่อนพวกเขายังเป็นแค่ผู้ฝึกบำเพ็ญธรรมดาในสวนหมื่นวิญญาณ รวมถึงเป็นผู้สืบทอดสาขาย่อยอันเล็กจ้อยแห่งตระกูลซ่งในแดนบูรพา

แต่วันนี้พวกเขากลับได้เป็นศิษย์ฝ่ายในของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แบบกรณีพิเศษ เหมือนปลากระโดดข้ามประตูมังกร

ส่วนเถ้าแก่ซ่ง เพราะปูนบำเหน็จผ่าหินหนึ่งส่วนรวมถึงแก่นรากอัสนีเทพในกายค่อนข้างเยอะ เลยได้สิทธิ์เป็นศิษย์สายตรง

……

ในมุมมองพวกเขา ทุกอย่างเป็นเพราะพวกเขากอดขาท่านเซียนสำเร็จ

ทุกอย่างเป็นเพราะพวกเขาผูกชะตากับท่านเซียนสำเร็จ

ทุกอย่างเป็นเพราะท่านเซียนเห็นแก่มิตรภาพเก่าถึงประคับประคองพวกเขา!

สุดทางเซียนใครอยู่สูงสุด เชื่อมั่นว่าท่านเซียนต้องสำเร็จ!

………………………………….…..

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+