บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 211 นักรบนกยูงหรือ น่าสนใจ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 211 นักรบนกยูงหรือ น่าสนใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 211 นักรบนกยูงหรือ น่าสนใจ

เป็นไปได้อย่างไร!

เมื่อเห็นเถาวัลย์สีเขียวรกตที่ทะลวงออกมาจากกรงแสงเทพห้าสีแล้ว ดวงตาข่งเมิ่งพลันหรี่แคบลง

นี่คือสุดยอดวิชาแสงเทพห้าสีที่นางรวมขึ้นด้วยพลังทั้งหมด ฝึกฝนถึงจุดสูงสุดถึงขั้นเรียกได้ว่าสามารถชิงทุกสรรพสิ่งในฟ้าดิน

แม้พลังบำเพ็ญของข่งเมิ่งจะถูกกดไว้จุดสูงสุดระดับสร้างฐาน แต่ถ้าใช้แสงเทพห้าสี นางก็ยังคงต้านการโจมตีของจุดสูงสุดระดับแก่นพลังทองได้อย่างง่ายดาย

ทว่าการโจมตีของเสิ่นเทียนกลับทำให้กรงแสงเทพห้าสีของนางเกิดรอยร้าว

นี่หมายความว่าอะไร

หมายความว่าอานุภาพแส้นั้นของเสิ่นเทียนถึงจุดวิกฤติของผู้ฝึกบำเพ็ญระดับดวงจิตดรุณ!

นี่จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!

“แข็งแกร่งมาก นี่คือโอรสสวรรค์ที่แท้จริงของดินแดนบูรพาหรือ”

ดวงตาของข่งเมิ่งเปล่งประกายความตื่นเต้น “ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ!”

นางสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะยิ้มออกมา “ดูท่าข้าคงต้องแสดงความสามารถที่แท้จริงบ้างแล้ว!”

เมื่อเอ่ยจบ นกยูงห้าสีข้างหลังนางก็กลายเป็นสีทองบริสุทธิ์ กรงแสงเทพสีสันห้าสีก็เป็นสีทองเช่นกัน รอยแตกสมานกันด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน นางในตอนนี้เหมือนกลายเป็นนกยูงทอง

นางสูงศักดิ์ถึงขีดสุด สวยงามถึงขีดสุด ราวกับจักรพรรดินีในหมู่นกยูง

จินอวี่และเฮ่ออู๋ซวงข้างหลังนางมีสีหน้าตื่นตกใจ “ไม่อยากเชื่อว่านางจะหลอมรวมทองคำเซียนกำเนิดฟ้าแล้ว!”

ทองคำเซียนกำเนิดฟ้าเป็นสมบัติสุดยอดของเผ่านกยูง ถูกบูชาอยู่ในศาลเจ้าบรรพบุรุษตรงส่วนลึกของหุบเขานกยูงมาตลอด เป็นสมบัติประจำเผ่า

แม้มันจะอยู่อันดับสิบสองในรายนามทองคำเซียน แต่ก็หลอมรวมกับพลังปัญจธาตุ ทำให้อานุภาพแสงเทพห้าสีของเผ่านกยูงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

นี่คือทองคำเซียนที่เหมาะสมกับเผ่าเทพนกยูงที่สุด และเป็นวัตถุดิบที่เหมาะกับพลังวิเศษปัญจธาตุและวิชา

เล่าลือว่าเมื่อหมื่นปีก่อน แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เคยขอเสนอใช้ทองคำเซียนอันดับสิบในรายนามทองคำเซียนมาแลก แต่ก็โดนปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาด

จะเห็นได้ว่าเผ่าเทพนกยูงให้ความสำคัญกับทองคำเซียนชิ้นนี้มาก!

เดิมทีพวกจินอวี่คิดว่าอย่างน้อยต้องรอข่งเมิ่งเป็นผู้สูงศักดิ์ก่อน เผ่าเทพนกยูงถึงจะถ่ายทอดสมบัติสุดยอดนี้ให้นาง แต่ไม่นึกเลยว่าเผ่าเทพนกยูงจะให้ความสำคัญกับข่งเมิ่งเช่นนี้ กล้าเสี่ยงเช่นนี้!

ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้ข่งเมิ่งนำทองคำเซียนกำเนิดฟ้าเสริมเข้ากับแสงเทพห้าสีแล้ว อานุภาพของพลังนี้จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าดินทันที

เถากลืนกินเซียนของเสิ่นเทียนตวัดใส่แสงเทพห้าสีแรงกว่านี้ก็ทำได้แค่ให้มันสั่นและถอยไป ไม่อาจฉีกมันได้อีก

ข่งเมิ่งยืนอยู่บนแสงเทพห้าสีกำเนิดฟ้าด้วยความโอหัง มองเสิ่นเทียนอย่างเร่าร้อน “สหายเสิ่นเทียน ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่ไหวแล้วหรอกนะ!

ข้ามองออกว่าเจ้าน่าจะยังมีแรงอีก เชิญฉีกพันธนาการทุกอย่างแล้วประลองกันด้วยความเคารพเถอะ! ข้าหวังว่าจะได้เห็นวิชาอัสนีไร้พ่ายที่แท้จริงของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ อัสนีเทพกำเนิดฟ้า

ถึงอย่างไรเมื่อยุคบรรพกาล แดนศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าก็เคยกดขี่อยู่เหนือเผ่าเทพนกยูง ข้ากำลังเฝ้ารอการปะทะระหว่างทวนที่แกร่งที่สุดกับโล่ที่แข็งที่สุดอยู่!”

ไม่ไหวหรือ

เป็นผู้ชายจะบอกว่าไม่ไหวได้อย่างไร

สารภาพตามตรง แสงเทพห้าสีของข่งเมิ่งหลอมรวมกับสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินแล้วแกร่งมาก!

โดยเฉพาะนางหลอมรวมกับทองคำเซียนกำเนิดฟ้าที่เหมาะสมกับแสงเทพห้าสีของเผ่าเทพนกยูงที่สุด

มีกรงแสงเทพเสริมด้วยทองคำเซียนกำเนิดฟ้าแล้ว อานุภาพกับการป้องกันเพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว เรียกได้ว่าแข็งแกร่งจนไม่มีอะไรมาทำลายได้

ตอนนี้กรงแสงเทพปกคลุมทางหนีทั้งหมดของเสิ่นเทียนไว้ หนีก็หนีไม่ได้แล้ว ถ้าให้มันเข้าใกล้มา เสิ่นเทียนจะไม่มีทางหลุดจากตรวนนี้ไปได้เลย!

“ในเมื่อท่านหญิงเซียนยึดมั่นเช่นนี้ เจ้าจะไม่ผิดหวังแน่!”

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่ออมมืออีก

…….

สัญลักษณ์สายฟ้าสีทองตรงระหว่างคิ้วเปล่งแสงสว่างจ้า สายฟ้าสีทองหลั่งไหลไปทั่วร่าง ไหลเวียนอยู่ในแขนขาและกระดูกทั้งตัว

ตรงปอดเสิ่นเทียนยังมีไอกระบี่ธาตุทองลำดับเจ็ดหลั่งทะลัก

ตรงไตเขามีน้ำมวลหนักสีเงินไหลเชี่ยวไม่หยุด

ตรงตับเขาเป็นแสงสีเขียวมรกตขยับแสงวูบไหว

ตรงหัวใจเขาเป็นอัคคีอรุณใต้ลุกโชตช่วงตลอด!

เขามองกรงยักษ์แสงเทพสีทองขยับแวววาวบนฟ้าพลางงอขาสองข้าง อยู่ในท่านั่งม้า

เปลวไฟสีทองแผดเผาผิวกายเขา เปลี่ยนเส้นผมและขนคิ้วเป็นสีทองทั้งหมด ระดับความแข็งแกร่งของพลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

ตอนนี้แรงกดดันมหาศาลแผ่กระจายไปโดยรอบ

ทุกคนถอยไป รวมถึงโอรสสวรรค์เผ่าปักษาอย่างจินอวี่ เฮ่าอู๋ซวง ไป๋หลิง

พวกเขากำลังตกใจ ตกใจที่เสิ่นเทียนใช้พลังบำเพ็ญระดับสร้างฐานระเบิดอำนาจคุกคามน่ากลัวเช่นนี้ได้!

โอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คนนี้น่ากลัวเพียงใดกันแน่

เต่าน้อยสีขาวสูงหนึ่งฉื่อตรงกลางหุบเขาชะเง้อหน้าออกมาจากพุ่มไม้ ดวงตาโตเท่าถั่วเขียวกลอกไปมา มองมาที่เสิ่นเทียน “ยอดไปเลยหนุ่มน้อย อายุเท่านี้กลับมีกายเทพอัสนีหยางปัญจธาตุเล็ก ถือว่าเป็นหน่ออ่อนที่ไม่เลว จะว่าไปกว่าข้าจะตื่นมาไม่ใช่ง่ายๆ ต้องหาคนรับใช้ เจ้าหนูนี่แข็งแกร่งพอจะมีคุณสมบัติติดตามข้า!

อืม ดูไปก่อน ทดสอบไปก่อน!”

พึมพำกับตัวเองสักพักแล้ว เต่าน้อยสีขาวก็มุดเข้าไปพุ่มไม้ หายไปไม่โผล่มาอีก

ขณะเดียวกันพลังในตัวเสิ่นเทียนยังคงเพิ่มถึงจุดสูงสุด เปลวไฟแผดเผามวลอากาศจนบิดเบี้ยว

เขาห่อสองมือเป็นลักษณะใบโอบช่อดอกไม้ พลังแห่งปัญจธาตุรวมอย่างบ้าคลั่งตรงเอว วนเวียนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

แม้จะไม่มีสิ่งมหัศจรรย์ธาตุดิน แต่ในกายคนคนหนึ่งมีสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสี่ชนิดก็สุดยอดแล้ว!

ในหมื่นปีมานี้ยังไม่มีใครกล้าทำเช่นนี้ เพราะแทบจะระเบิดร่างอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนรับสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสามชนิดมาก็ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตตกใจแล้ว ตอนนี้รวมกระบี่ฟ้าสังหารไปอีก แม้จะหลอมขึ้นจากทองคำเตรียมเซียน แต่อานุภาพก็ไม่ด้อยไปกว่าทองคำเซียน

มีสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสี่ชนิดส่งเสริม อานุภาพของกุมอัสนีกำเนิดฟ้าของเสิ่นเทียนในตอนนี้จึงแข็งแกร่งกว่าครั้งนั้นในวิหารเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์!

“กุม…อัสนี…กำเนิด…ฟ้า…!”

ข่งเมิ่งมีใจซื่อตรงมาก ไม่ได้อาศัยจังหวะที่เสิ่นเทียนรวมพลังเร่งรีบจู่โจม

นางก็กำลังสั่งสมพลังเรื่อยๆ เช่นกัน นำพลังเทพทั่วร่างใส่เข้าไปในกรงแสงเทพกำเนิดฟ้า รวมเป็นปราการแสงเทพที่แกร่งที่สุด

การปะทะกันครั้งนี้คือการปะทะกันอีกครั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเผ่าเทพนกยูงหลังจากผ่านมาหมื่นปี

ไม่รู้ว่าพลังทำลายล้างของวิชากุมอัสนีกำเนิดฟ้าที่แข็งแกร่งของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะแข็งแกร่งกว่า หรือพลังป้องกันแสงเทพห้าสีที่ชิงได้ทุกสรรพสิ่งของเผ่าเทพนกยูงจะสูงส่งกว่า

ตอนนี้กำลังจะเปิดเผยคำตอบแล้ว!

“ฟ้า!”

เมื่อสิ้นคำว่า ‘ฟ้า’ จากปากเสิ่นเทียน

ตรงกลางสองมือรวมเป็นลูกกลมสายฟ้าสีทองขนาดจั้งกว่าแล้ว

ลูกกลมสายฟ้าสีทองหดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนเสิ่นเทียนจะผลักสองมือไปข้างหน้า สายฟ้าระเบิด!

ชั่วพริบตาเดียว แสงสีทองสว่างจ้าปกคลุมทั้งหุบเขามังกรศักดิ์สิทธิ์ เกิดปรากฏการณ์เงามายาสัตว์เทพห้าหัวขึ้นกลางอากาศ

สายฟ้าสีทองโหมซัดสาดพุ่งทะลวงกลบร่างข่งเมิ่งอย่างมืดฟ้ามัวดินราวกับคลื่นทะเล

ลูกกลมสายฟ้าใหญ่สีทองลากเป็นลำแสงสายฟ้าสีทองยาวดั่งสายรุ้ง

ยิงใส่กรงแสงทองทั้งๆ อย่างนี้เลย!

“การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดเช่นนี้ล่ะคือสิ่งที่ข้าเฝ้ารอ!”

ใบหน้าข่งเมิ่งไม่ได้เรียบเฉยแบบ ‘ไม่ยินดียินร้าย’ อีก แต่มีแค่ความบ้าคลั่งและตื่นเต้น

“เจ้าทำลายการป้องกันของข้าไม่ได้!”

นางใช้สองมือประสานมุทราเผ่านกยูงอันลึกลับเข้าใจยาก เหมือนกับผีเสื้อผ่านดอกไม้

ทันใดนั้น กรงแสงเทพห้าสีนั้นก็เริ่มหมุนวนไม่หยุด กลายเป็นหลุมแสงเทพเหมือนกับน้ำวน

กรงแสงเทพกำเนิดฟ้าต้านกุมอัสนีกำเนิดฟ้านั้นไว้ นี่คือการตัดสินสุดท้ายระหว่างกุมอัสนีปัญจธาตุกำเนิดฟ้ากับแสงเทพปัญจธาตุกำเนิดฟ้า

บึ้ม~!

ในที่สุดหอกที่แกร่งที่สุดก็ปะทะกับโล่ที่แกร่งที่สุด

แสงเทพสีทองสว่างพร่างพราวสว่างไปทั้งหุบเขามังกรศักดิ์สิทธิ์ ทำให้คนมองไม่เห็น ได้ยินเพียงเสียงฟ้าผ่าดังสนั่นไม่หยุด สั่นสะเทือนแก้วหู!

เศษหินสะเทือนถล่มลงมากลางหุบเขา นั่นเกิดจากคลื่นพลังของสองคน

นี่มันใช่การต่อสู้ระดับสร้างฐานหรือ

ควรรู้ว่านี่คือสนามรบบรรพกาล ทุกยอดเขาแข็งแรงอย่างยิ่ง แม้จะเป็นการโจมตีของผู้จริงแท้แก่นพลังทองก็ยังทำให้ยอดเขาสั่นสะเทือนได้ยาก

อานุภาพที่ปะทะกันครั้งนี้ของเสิ่นเทียนกับข่งเมิ่งเทียบเท่ากับการต่อสู้ของระดับดวงจิตดรุณแล้ว!

จนเมื่อแสงทองหายไป ฝุ่นควันจางลงทั้งหมด

ร่างสองคนปรากฏตรงหน้าทุกคนอีกครั้ง ไม่ใช่ข่งเมิ่งกับเสิ่นเทียนแล้วจะมีใครอีก

พบว่าบนตัวข่งเมิ่งตอนนี้ ชุดสีสันห้าสีของนางเปล่งแสงแวววาว มีสายฟ้าสีทองไหลเวียนไม่หยุด

เส้นผมที่เดิมทีอ่อนนุ่มอย่างยิ่งของนางตอนนี้ตั้งขึ้นอย่างโอหัง ดูสบายๆ มาก

ใบหน้าที่เดิมทีศักดิ์สิทธิ์ สะอาดและสูงส่งเย็นชา ตอนนี้ออกเป็นสีดำเล็กน้อย

อ้าปากทีก็พ่นควันดำหนาๆ ออกมาจากปาก

“แกร่งมาก ชามาก รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า!”

ข่งเมิ่งเหม่อมองเสิ่นเทียน “ไม่อยากเชื่อว่าจะถูกทำลาย! สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ถึงกับทำลายแสงเทพห้าสีของข้าได้! การโจมตีเมื่อครู่นี้หากไม่มีชุดเทพห้าสีคุ้มกันไว้ ข้าคงไม่มีทางต้านไว้ได้ง่ายๆ แน่”

เสิ่นเทียนยังมีเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกร ข่งเมิ่งเป็นองค์หญิงเผ่าเทพนกยูงก็ย่อมมีสมบัติสุดยอดปกป้องตัวเองเช่นกัน

กุมอัสนีกำเนิดฟ้าของเสิ่นเทียนเมื่อครู่นี้ ความจริงฉีกกรงแสงเทพห้าสีได้แล้ว เพียงแค่ถูกชุดห้าสีต้านไว้ แต่ข่งเมิ่งเป็นคนโอหังระดับใด ย่อมไม่ใช้ตรงนี้มาทำตัวปลิ้นปล้อน “เจ้าแกร่งมาก ข้าพอใจมาก!”

เสิ่นเทียนไม่พูดไม่จาก็หยิบของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานออกมาจากแหวนเวหา ก่อนจะกรอกใส่ปากไปอึกใหญ่

ตลก คิดว่ากุมอัสนีกำเนิดฟ้าเป็นวิชาที่จะใช้กันได้ตามอำเภอใจหรือ

ตอนนี้เขาดูปกติมาก แต่จริงๆ ขาอ่อนแล้ว!

ถ้ายังสู้ต่อไปได้ถูกเจาะเป็นรูแน่

ถึงอย่างไรข่งเมิ่งดูสะบักสะบอมก็จริง แต่ยังดูมีแรงเหลือ ทางด้านเสิ่นเทียนยากจะใช้กุมอัสนีกำเนิดฟ้ารอบที่สองได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แล้ว

ถ้าจะสู้ต่อไปจริงๆ เสิ่นเทียนคงได้แค่หยิบกระบี่ฟ้าสังหารออกมา เพียงแต่ว่าแบบนั้นจะเป็นการต่อสู้เป็นตายแล้ว

เพราะสำหรับเขาในตอนนี้ กระบี่ฟ้าสังหารคือหนึ่งในไพ่ตายที่แกร่งที่สุด จะให้เปิดเผยไม่ได้ง่ายๆ

ตอนนี้ดีมาก ทำให้ข่งเมิ่งพอใจแล้ว ไล่นางไปได้ก็ถือว่าแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนเงียบ ข่งเมิ่งก็เอ่ยอีก “เสิ่นเทียน ข้าจะจำเจ้าไว้!”

ข่งเมิ่งขบคิดแล้วก็พูดไปอีก “เจ้าสนใจจะเป็นพันธมิตรกับเผ่าข้าหรือไม่ หากเจ้าตกลง บางทีเผ่าข้าอาจจะถ่ายทอดวิชาแสงเทพห้าสีให้เจ้าได้ จากนั้นร่างสัญญาพันธมิตรระหว่างแดนศักดิ์สิทธิ์เจ้ากับเผ่าข้า!”

สนใจเป็นพันธมิตรกับเผ่านกยูงหรือไม่

ทั้งยังร่างสัญญาพันธมิตรระหว่างเผ่าเทพนกยูงกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อีก

หมายความว่าอย่างไรกัน! เผ่าเทพนกยูงพวกเจ้าหาพันธมิตรตามอำเภอใจเช่นนี้เลยหรือ

ข่งเมิ่งเพิ่งพูดจบ จินอวี่ข้างหลังพลันปากกระตุก “ท่านหญิงเซียนข่งเมิ่ง แบบนี้จะได้อย่างไร”

พันธมิตรของเผ่าเทพนกยูงนี่กับนักรบมังกรที่เกาะมังกรดำทะเลอุดรให้การยอมรับบ่มเพาะ ความจริงเหมือนกัน

ล้วนเป็นการฝึกวิชาสูงสุดของเผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจ ทำสัญญากับเผ่าปีศาจ

โอรสสวรรค์เช่นนี้ เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจ มีความคล้ายกับสถานทูตในโลกบำเพ็ญเซียน

ความจริงแล้วเผ่ามนุษย์เป็นจิตวิญญาณแห่งทุกสรรพสิ่ง จริงๆ ก็เคยเป็นพันธมิตรกันแบบนี้กับเผ่าปีศาจใหญ่ๆ มากมาย

โดยเฉพาะในมหาสงครามวิญญาณร้ายต่างแดนรุกรานเมื่อหมื่นปีก่อน คนกับปีศาจต่างร่วมมือกันบ่อยยิ่งกว่านี้

โอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์กับโอรสสวรรค์เผ่าปีศาจร่วมมือกัน เซ็นสัญญาฝึกฝนวิชาโจมตีประสาน กระทั่งยังเคยเกิดความรักข้ามเผ่าพันธุ์และเป็นคู่ชีวิตกันไม่น้อย

เพียงแต่หลังจากวิญญาณร้ายต่างแดนถูกโจมตีถอยไป เผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจไม่มีศัตรูจากต่างแดน ก็เริ่มเข่นฆ่ากันเองอีกครั้ง

นานวันเข้า สัญญาระหว่างเผ่าสัตว์เทพกับเผ่ามนุษย์ก็น้อยลงไปเรื่อยๆ

จินอวี่ไม่คาดคิดเลยว่าข่งเมิ่งจะให้ข้อเสนอชักชวนแบบนี้

นี่มันไร้เหตุผลเกินไปแล้ว ยังมีมิตรภาพระหว่างเผ่าปีศาจด้วยกันบ้างหรือไม่

ท่านหญิงเซียน ข้าเชิญเจ้ามาสังหารเขาไม่ใช่หรือ

หรือเพราะบุตรศักดิ์สิทธิ์นี่แข็งแกร่งมากพอ เจ้าเลยสติเลอะเลือนโดนเขากำราบให้เป็นผู้คลั่งไคล้แทน? เจ้าเอาจริงรึ

เวลานี้ จินอวี่รู้สึกว่าหัวใจของตนจะระเบิด!

ทางด้านเสิ่นเทียนอึ้งไปแล้ว เพราะเขาไม่รู้ว่าอะไรคือพันธมิตรของเผ่านกยูง

แต่ว่าหากเป็นพันธมิตรของเผ่านกยูงจะได้เรียนวิชาแสงเทพห้าสีหรือ

นักรบนกยูงหรือ สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนเริ่มสนใจนิดๆ แล้ว!

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนทะลวงกรงแสงเทพห้าสีนั้น การป้องกันของมันแกร่งมาก

วิชาเอาตัวรอดสูงสุดเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เขาชอบที่สุดเลย!

ขณะที่เสิ่นเทียนแอบสนใจนั้น เขาพลันรู้สึกว่าไข่มังกรสีดำข้างหลังสั่นไหวเบาๆ จากนั้นไข่มังกรก็พลันหนักขึ้น

เสียงเด็กหญิงดังในความคิดเสิ่นเทียนอย่างโมโห

“เจ้าหนู ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าทำสัญญากับนางสารเลวนี่!”

…………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 211 นักรบนกยูงหรือ น่าสนใจ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 211 นักรบนกยูงหรือ น่าสนใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 211 นักรบนกยูงหรือ น่าสนใจ

เป็นไปได้อย่างไร!

เมื่อเห็นเถาวัลย์สีเขียวรกตที่ทะลวงออกมาจากกรงแสงเทพห้าสีแล้ว ดวงตาข่งเมิ่งพลันหรี่แคบลง

นี่คือสุดยอดวิชาแสงเทพห้าสีที่นางรวมขึ้นด้วยพลังทั้งหมด ฝึกฝนถึงจุดสูงสุดถึงขั้นเรียกได้ว่าสามารถชิงทุกสรรพสิ่งในฟ้าดิน

แม้พลังบำเพ็ญของข่งเมิ่งจะถูกกดไว้จุดสูงสุดระดับสร้างฐาน แต่ถ้าใช้แสงเทพห้าสี นางก็ยังคงต้านการโจมตีของจุดสูงสุดระดับแก่นพลังทองได้อย่างง่ายดาย

ทว่าการโจมตีของเสิ่นเทียนกลับทำให้กรงแสงเทพห้าสีของนางเกิดรอยร้าว

นี่หมายความว่าอะไร

หมายความว่าอานุภาพแส้นั้นของเสิ่นเทียนถึงจุดวิกฤติของผู้ฝึกบำเพ็ญระดับดวงจิตดรุณ!

นี่จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!

“แข็งแกร่งมาก นี่คือโอรสสวรรค์ที่แท้จริงของดินแดนบูรพาหรือ”

ดวงตาของข่งเมิ่งเปล่งประกายความตื่นเต้น “ไม่ทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ!”

นางสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนจะยิ้มออกมา “ดูท่าข้าคงต้องแสดงความสามารถที่แท้จริงบ้างแล้ว!”

เมื่อเอ่ยจบ นกยูงห้าสีข้างหลังนางก็กลายเป็นสีทองบริสุทธิ์ กรงแสงเทพสีสันห้าสีก็เป็นสีทองเช่นกัน รอยแตกสมานกันด้วยความเร็วระดับสายตามองทัน นางในตอนนี้เหมือนกลายเป็นนกยูงทอง

นางสูงศักดิ์ถึงขีดสุด สวยงามถึงขีดสุด ราวกับจักรพรรดินีในหมู่นกยูง

จินอวี่และเฮ่ออู๋ซวงข้างหลังนางมีสีหน้าตื่นตกใจ “ไม่อยากเชื่อว่านางจะหลอมรวมทองคำเซียนกำเนิดฟ้าแล้ว!”

ทองคำเซียนกำเนิดฟ้าเป็นสมบัติสุดยอดของเผ่านกยูง ถูกบูชาอยู่ในศาลเจ้าบรรพบุรุษตรงส่วนลึกของหุบเขานกยูงมาตลอด เป็นสมบัติประจำเผ่า

แม้มันจะอยู่อันดับสิบสองในรายนามทองคำเซียน แต่ก็หลอมรวมกับพลังปัญจธาตุ ทำให้อานุภาพแสงเทพห้าสีของเผ่านกยูงเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

นี่คือทองคำเซียนที่เหมาะสมกับเผ่าเทพนกยูงที่สุด และเป็นวัตถุดิบที่เหมาะกับพลังวิเศษปัญจธาตุและวิชา

เล่าลือว่าเมื่อหมื่นปีก่อน แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เคยขอเสนอใช้ทองคำเซียนอันดับสิบในรายนามทองคำเซียนมาแลก แต่ก็โดนปฏิเสธไปอย่างเด็ดขาด

จะเห็นได้ว่าเผ่าเทพนกยูงให้ความสำคัญกับทองคำเซียนชิ้นนี้มาก!

เดิมทีพวกจินอวี่คิดว่าอย่างน้อยต้องรอข่งเมิ่งเป็นผู้สูงศักดิ์ก่อน เผ่าเทพนกยูงถึงจะถ่ายทอดสมบัติสุดยอดนี้ให้นาง แต่ไม่นึกเลยว่าเผ่าเทพนกยูงจะให้ความสำคัญกับข่งเมิ่งเช่นนี้ กล้าเสี่ยงเช่นนี้!

ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้ข่งเมิ่งนำทองคำเซียนกำเนิดฟ้าเสริมเข้ากับแสงเทพห้าสีแล้ว อานุภาพของพลังนี้จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าดินทันที

เถากลืนกินเซียนของเสิ่นเทียนตวัดใส่แสงเทพห้าสีแรงกว่านี้ก็ทำได้แค่ให้มันสั่นและถอยไป ไม่อาจฉีกมันได้อีก

ข่งเมิ่งยืนอยู่บนแสงเทพห้าสีกำเนิดฟ้าด้วยความโอหัง มองเสิ่นเทียนอย่างเร่าร้อน “สหายเสิ่นเทียน ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่ไหวแล้วหรอกนะ!

ข้ามองออกว่าเจ้าน่าจะยังมีแรงอีก เชิญฉีกพันธนาการทุกอย่างแล้วประลองกันด้วยความเคารพเถอะ! ข้าหวังว่าจะได้เห็นวิชาอัสนีไร้พ่ายที่แท้จริงของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ อัสนีเทพกำเนิดฟ้า

ถึงอย่างไรเมื่อยุคบรรพกาล แดนศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าก็เคยกดขี่อยู่เหนือเผ่าเทพนกยูง ข้ากำลังเฝ้ารอการปะทะระหว่างทวนที่แกร่งที่สุดกับโล่ที่แข็งที่สุดอยู่!”

ไม่ไหวหรือ

เป็นผู้ชายจะบอกว่าไม่ไหวได้อย่างไร

สารภาพตามตรง แสงเทพห้าสีของข่งเมิ่งหลอมรวมกับสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินแล้วแกร่งมาก!

โดยเฉพาะนางหลอมรวมกับทองคำเซียนกำเนิดฟ้าที่เหมาะสมกับแสงเทพห้าสีของเผ่าเทพนกยูงที่สุด

มีกรงแสงเทพเสริมด้วยทองคำเซียนกำเนิดฟ้าแล้ว อานุภาพกับการป้องกันเพิ่มขึ้นอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว เรียกได้ว่าแข็งแกร่งจนไม่มีอะไรมาทำลายได้

ตอนนี้กรงแสงเทพปกคลุมทางหนีทั้งหมดของเสิ่นเทียนไว้ หนีก็หนีไม่ได้แล้ว ถ้าให้มันเข้าใกล้มา เสิ่นเทียนจะไม่มีทางหลุดจากตรวนนี้ไปได้เลย!

“ในเมื่อท่านหญิงเซียนยึดมั่นเช่นนี้ เจ้าจะไม่ผิดหวังแน่!”

เสิ่นเทียนสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่ออมมืออีก

…….

สัญลักษณ์สายฟ้าสีทองตรงระหว่างคิ้วเปล่งแสงสว่างจ้า สายฟ้าสีทองหลั่งไหลไปทั่วร่าง ไหลเวียนอยู่ในแขนขาและกระดูกทั้งตัว

ตรงปอดเสิ่นเทียนยังมีไอกระบี่ธาตุทองลำดับเจ็ดหลั่งทะลัก

ตรงไตเขามีน้ำมวลหนักสีเงินไหลเชี่ยวไม่หยุด

ตรงตับเขาเป็นแสงสีเขียวมรกตขยับแสงวูบไหว

ตรงหัวใจเขาเป็นอัคคีอรุณใต้ลุกโชตช่วงตลอด!

เขามองกรงยักษ์แสงเทพสีทองขยับแวววาวบนฟ้าพลางงอขาสองข้าง อยู่ในท่านั่งม้า

เปลวไฟสีทองแผดเผาผิวกายเขา เปลี่ยนเส้นผมและขนคิ้วเป็นสีทองทั้งหมด ระดับความแข็งแกร่งของพลังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

ตอนนี้แรงกดดันมหาศาลแผ่กระจายไปโดยรอบ

ทุกคนถอยไป รวมถึงโอรสสวรรค์เผ่าปักษาอย่างจินอวี่ เฮ่าอู๋ซวง ไป๋หลิง

พวกเขากำลังตกใจ ตกใจที่เสิ่นเทียนใช้พลังบำเพ็ญระดับสร้างฐานระเบิดอำนาจคุกคามน่ากลัวเช่นนี้ได้!

โอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คนนี้น่ากลัวเพียงใดกันแน่

เต่าน้อยสีขาวสูงหนึ่งฉื่อตรงกลางหุบเขาชะเง้อหน้าออกมาจากพุ่มไม้ ดวงตาโตเท่าถั่วเขียวกลอกไปมา มองมาที่เสิ่นเทียน “ยอดไปเลยหนุ่มน้อย อายุเท่านี้กลับมีกายเทพอัสนีหยางปัญจธาตุเล็ก ถือว่าเป็นหน่ออ่อนที่ไม่เลว จะว่าไปกว่าข้าจะตื่นมาไม่ใช่ง่ายๆ ต้องหาคนรับใช้ เจ้าหนูนี่แข็งแกร่งพอจะมีคุณสมบัติติดตามข้า!

อืม ดูไปก่อน ทดสอบไปก่อน!”

พึมพำกับตัวเองสักพักแล้ว เต่าน้อยสีขาวก็มุดเข้าไปพุ่มไม้ หายไปไม่โผล่มาอีก

ขณะเดียวกันพลังในตัวเสิ่นเทียนยังคงเพิ่มถึงจุดสูงสุด เปลวไฟแผดเผามวลอากาศจนบิดเบี้ยว

เขาห่อสองมือเป็นลักษณะใบโอบช่อดอกไม้ พลังแห่งปัญจธาตุรวมอย่างบ้าคลั่งตรงเอว วนเวียนแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

แม้จะไม่มีสิ่งมหัศจรรย์ธาตุดิน แต่ในกายคนคนหนึ่งมีสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสี่ชนิดก็สุดยอดแล้ว!

ในหมื่นปีมานี้ยังไม่มีใครกล้าทำเช่นนี้ เพราะแทบจะระเบิดร่างอย่างแน่นอน

ก่อนหน้านี้เสิ่นเทียนรับสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสามชนิดมาก็ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตตกใจแล้ว ตอนนี้รวมกระบี่ฟ้าสังหารไปอีก แม้จะหลอมขึ้นจากทองคำเตรียมเซียน แต่อานุภาพก็ไม่ด้อยไปกว่าทองคำเซียน

มีสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินสี่ชนิดส่งเสริม อานุภาพของกุมอัสนีกำเนิดฟ้าของเสิ่นเทียนในตอนนี้จึงแข็งแกร่งกว่าครั้งนั้นในวิหารเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์!

“กุม…อัสนี…กำเนิด…ฟ้า…!”

ข่งเมิ่งมีใจซื่อตรงมาก ไม่ได้อาศัยจังหวะที่เสิ่นเทียนรวมพลังเร่งรีบจู่โจม

นางก็กำลังสั่งสมพลังเรื่อยๆ เช่นกัน นำพลังเทพทั่วร่างใส่เข้าไปในกรงแสงเทพกำเนิดฟ้า รวมเป็นปราการแสงเทพที่แกร่งที่สุด

การปะทะกันครั้งนี้คือการปะทะกันอีกครั้งของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับเผ่าเทพนกยูงหลังจากผ่านมาหมื่นปี

ไม่รู้ว่าพลังทำลายล้างของวิชากุมอัสนีกำเนิดฟ้าที่แข็งแกร่งของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จะแข็งแกร่งกว่า หรือพลังป้องกันแสงเทพห้าสีที่ชิงได้ทุกสรรพสิ่งของเผ่าเทพนกยูงจะสูงส่งกว่า

ตอนนี้กำลังจะเปิดเผยคำตอบแล้ว!

“ฟ้า!”

เมื่อสิ้นคำว่า ‘ฟ้า’ จากปากเสิ่นเทียน

ตรงกลางสองมือรวมเป็นลูกกลมสายฟ้าสีทองขนาดจั้งกว่าแล้ว

ลูกกลมสายฟ้าสีทองหดลงอย่างรวดเร็ว ก่อนเสิ่นเทียนจะผลักสองมือไปข้างหน้า สายฟ้าระเบิด!

ชั่วพริบตาเดียว แสงสีทองสว่างจ้าปกคลุมทั้งหุบเขามังกรศักดิ์สิทธิ์ เกิดปรากฏการณ์เงามายาสัตว์เทพห้าหัวขึ้นกลางอากาศ

สายฟ้าสีทองโหมซัดสาดพุ่งทะลวงกลบร่างข่งเมิ่งอย่างมืดฟ้ามัวดินราวกับคลื่นทะเล

ลูกกลมสายฟ้าใหญ่สีทองลากเป็นลำแสงสายฟ้าสีทองยาวดั่งสายรุ้ง

ยิงใส่กรงแสงทองทั้งๆ อย่างนี้เลย!

“การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดเช่นนี้ล่ะคือสิ่งที่ข้าเฝ้ารอ!”

ใบหน้าข่งเมิ่งไม่ได้เรียบเฉยแบบ ‘ไม่ยินดียินร้าย’ อีก แต่มีแค่ความบ้าคลั่งและตื่นเต้น

“เจ้าทำลายการป้องกันของข้าไม่ได้!”

นางใช้สองมือประสานมุทราเผ่านกยูงอันลึกลับเข้าใจยาก เหมือนกับผีเสื้อผ่านดอกไม้

ทันใดนั้น กรงแสงเทพห้าสีนั้นก็เริ่มหมุนวนไม่หยุด กลายเป็นหลุมแสงเทพเหมือนกับน้ำวน

กรงแสงเทพกำเนิดฟ้าต้านกุมอัสนีกำเนิดฟ้านั้นไว้ นี่คือการตัดสินสุดท้ายระหว่างกุมอัสนีปัญจธาตุกำเนิดฟ้ากับแสงเทพปัญจธาตุกำเนิดฟ้า

บึ้ม~!

ในที่สุดหอกที่แกร่งที่สุดก็ปะทะกับโล่ที่แกร่งที่สุด

แสงเทพสีทองสว่างพร่างพราวสว่างไปทั้งหุบเขามังกรศักดิ์สิทธิ์ ทำให้คนมองไม่เห็น ได้ยินเพียงเสียงฟ้าผ่าดังสนั่นไม่หยุด สั่นสะเทือนแก้วหู!

เศษหินสะเทือนถล่มลงมากลางหุบเขา นั่นเกิดจากคลื่นพลังของสองคน

นี่มันใช่การต่อสู้ระดับสร้างฐานหรือ

ควรรู้ว่านี่คือสนามรบบรรพกาล ทุกยอดเขาแข็งแรงอย่างยิ่ง แม้จะเป็นการโจมตีของผู้จริงแท้แก่นพลังทองก็ยังทำให้ยอดเขาสั่นสะเทือนได้ยาก

อานุภาพที่ปะทะกันครั้งนี้ของเสิ่นเทียนกับข่งเมิ่งเทียบเท่ากับการต่อสู้ของระดับดวงจิตดรุณแล้ว!

จนเมื่อแสงทองหายไป ฝุ่นควันจางลงทั้งหมด

ร่างสองคนปรากฏตรงหน้าทุกคนอีกครั้ง ไม่ใช่ข่งเมิ่งกับเสิ่นเทียนแล้วจะมีใครอีก

พบว่าบนตัวข่งเมิ่งตอนนี้ ชุดสีสันห้าสีของนางเปล่งแสงแวววาว มีสายฟ้าสีทองไหลเวียนไม่หยุด

เส้นผมที่เดิมทีอ่อนนุ่มอย่างยิ่งของนางตอนนี้ตั้งขึ้นอย่างโอหัง ดูสบายๆ มาก

ใบหน้าที่เดิมทีศักดิ์สิทธิ์ สะอาดและสูงส่งเย็นชา ตอนนี้ออกเป็นสีดำเล็กน้อย

อ้าปากทีก็พ่นควันดำหนาๆ ออกมาจากปาก

“แกร่งมาก ชามาก รู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า!”

ข่งเมิ่งเหม่อมองเสิ่นเทียน “ไม่อยากเชื่อว่าจะถูกทำลาย! สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ถึงกับทำลายแสงเทพห้าสีของข้าได้! การโจมตีเมื่อครู่นี้หากไม่มีชุดเทพห้าสีคุ้มกันไว้ ข้าคงไม่มีทางต้านไว้ได้ง่ายๆ แน่”

เสิ่นเทียนยังมีเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกร ข่งเมิ่งเป็นองค์หญิงเผ่าเทพนกยูงก็ย่อมมีสมบัติสุดยอดปกป้องตัวเองเช่นกัน

กุมอัสนีกำเนิดฟ้าของเสิ่นเทียนเมื่อครู่นี้ ความจริงฉีกกรงแสงเทพห้าสีได้แล้ว เพียงแค่ถูกชุดห้าสีต้านไว้ แต่ข่งเมิ่งเป็นคนโอหังระดับใด ย่อมไม่ใช้ตรงนี้มาทำตัวปลิ้นปล้อน “เจ้าแกร่งมาก ข้าพอใจมาก!”

เสิ่นเทียนไม่พูดไม่จาก็หยิบของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานออกมาจากแหวนเวหา ก่อนจะกรอกใส่ปากไปอึกใหญ่

ตลก คิดว่ากุมอัสนีกำเนิดฟ้าเป็นวิชาที่จะใช้กันได้ตามอำเภอใจหรือ

ตอนนี้เขาดูปกติมาก แต่จริงๆ ขาอ่อนแล้ว!

ถ้ายังสู้ต่อไปได้ถูกเจาะเป็นรูแน่

ถึงอย่างไรข่งเมิ่งดูสะบักสะบอมก็จริง แต่ยังดูมีแรงเหลือ ทางด้านเสิ่นเทียนยากจะใช้กุมอัสนีกำเนิดฟ้ารอบที่สองได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แล้ว

ถ้าจะสู้ต่อไปจริงๆ เสิ่นเทียนคงได้แค่หยิบกระบี่ฟ้าสังหารออกมา เพียงแต่ว่าแบบนั้นจะเป็นการต่อสู้เป็นตายแล้ว

เพราะสำหรับเขาในตอนนี้ กระบี่ฟ้าสังหารคือหนึ่งในไพ่ตายที่แกร่งที่สุด จะให้เปิดเผยไม่ได้ง่ายๆ

ตอนนี้ดีมาก ทำให้ข่งเมิ่งพอใจแล้ว ไล่นางไปได้ก็ถือว่าแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์

เมื่อเห็นเสิ่นเทียนเงียบ ข่งเมิ่งก็เอ่ยอีก “เสิ่นเทียน ข้าจะจำเจ้าไว้!”

ข่งเมิ่งขบคิดแล้วก็พูดไปอีก “เจ้าสนใจจะเป็นพันธมิตรกับเผ่าข้าหรือไม่ หากเจ้าตกลง บางทีเผ่าข้าอาจจะถ่ายทอดวิชาแสงเทพห้าสีให้เจ้าได้ จากนั้นร่างสัญญาพันธมิตรระหว่างแดนศักดิ์สิทธิ์เจ้ากับเผ่าข้า!”

สนใจเป็นพันธมิตรกับเผ่านกยูงหรือไม่

ทั้งยังร่างสัญญาพันธมิตรระหว่างเผ่าเทพนกยูงกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อีก

หมายความว่าอย่างไรกัน! เผ่าเทพนกยูงพวกเจ้าหาพันธมิตรตามอำเภอใจเช่นนี้เลยหรือ

ข่งเมิ่งเพิ่งพูดจบ จินอวี่ข้างหลังพลันปากกระตุก “ท่านหญิงเซียนข่งเมิ่ง แบบนี้จะได้อย่างไร”

พันธมิตรของเผ่าเทพนกยูงนี่กับนักรบมังกรที่เกาะมังกรดำทะเลอุดรให้การยอมรับบ่มเพาะ ความจริงเหมือนกัน

ล้วนเป็นการฝึกวิชาสูงสุดของเผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจ ทำสัญญากับเผ่าปีศาจ

โอรสสวรรค์เช่นนี้ เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจ มีความคล้ายกับสถานทูตในโลกบำเพ็ญเซียน

ความจริงแล้วเผ่ามนุษย์เป็นจิตวิญญาณแห่งทุกสรรพสิ่ง จริงๆ ก็เคยเป็นพันธมิตรกันแบบนี้กับเผ่าปีศาจใหญ่ๆ มากมาย

โดยเฉพาะในมหาสงครามวิญญาณร้ายต่างแดนรุกรานเมื่อหมื่นปีก่อน คนกับปีศาจต่างร่วมมือกันบ่อยยิ่งกว่านี้

โอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์กับโอรสสวรรค์เผ่าปีศาจร่วมมือกัน เซ็นสัญญาฝึกฝนวิชาโจมตีประสาน กระทั่งยังเคยเกิดความรักข้ามเผ่าพันธุ์และเป็นคู่ชีวิตกันไม่น้อย

เพียงแต่หลังจากวิญญาณร้ายต่างแดนถูกโจมตีถอยไป เผ่ามนุษย์กับเผ่าปีศาจไม่มีศัตรูจากต่างแดน ก็เริ่มเข่นฆ่ากันเองอีกครั้ง

นานวันเข้า สัญญาระหว่างเผ่าสัตว์เทพกับเผ่ามนุษย์ก็น้อยลงไปเรื่อยๆ

จินอวี่ไม่คาดคิดเลยว่าข่งเมิ่งจะให้ข้อเสนอชักชวนแบบนี้

นี่มันไร้เหตุผลเกินไปแล้ว ยังมีมิตรภาพระหว่างเผ่าปีศาจด้วยกันบ้างหรือไม่

ท่านหญิงเซียน ข้าเชิญเจ้ามาสังหารเขาไม่ใช่หรือ

หรือเพราะบุตรศักดิ์สิทธิ์นี่แข็งแกร่งมากพอ เจ้าเลยสติเลอะเลือนโดนเขากำราบให้เป็นผู้คลั่งไคล้แทน? เจ้าเอาจริงรึ

เวลานี้ จินอวี่รู้สึกว่าหัวใจของตนจะระเบิด!

ทางด้านเสิ่นเทียนอึ้งไปแล้ว เพราะเขาไม่รู้ว่าอะไรคือพันธมิตรของเผ่านกยูง

แต่ว่าหากเป็นพันธมิตรของเผ่านกยูงจะได้เรียนวิชาแสงเทพห้าสีหรือ

นักรบนกยูงหรือ สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนเริ่มสนใจนิดๆ แล้ว!

ถึงอย่างไรเขาก็เป็นคนทะลวงกรงแสงเทพห้าสีนั้น การป้องกันของมันแกร่งมาก

วิชาเอาตัวรอดสูงสุดเช่นนี้ เป็นสิ่งที่เขาชอบที่สุดเลย!

ขณะที่เสิ่นเทียนแอบสนใจนั้น เขาพลันรู้สึกว่าไข่มังกรสีดำข้างหลังสั่นไหวเบาๆ จากนั้นไข่มังกรก็พลันหนักขึ้น

เสียงเด็กหญิงดังในความคิดเสิ่นเทียนอย่างโมโห

“เจ้าหนู ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าทำสัญญากับนางสารเลวนี่!”

…………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+