บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 302 ไม่ต้องพูด ของดีเก็บไว้ สัมผัสให้ดีๆ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 302 ไม่ต้องพูด ของดีเก็บไว้ สัมผัสให้ดีๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 302 ไม่ต้องพูด ของดีเก็บไว้ สัมผัสให้ดีๆ

เมืองแห่งสุขาวดี ชั้นสองของหอเสียงสวรรค์

ภายในห้องพิเศษที่เอ้อทงเทียนกับปี้เสวียนชิงอยู่ บรรยากาศน่าอึดอัด

แม้จะกินยาศักดิ์สิทธิ์เยียวยาไปจำนวนมากแล้ว แต่ปี้เสวียนชิงก็ยังหน้าซีดขาวมาก

ทางด้านเอ้อทงเทียนศีรษะเอียง ตรงคอถูกเสิ่นเทียนบิดจนผิดรูป ช่วงนี้ยังคงกลับมาเป็นปกติไม่ได้

สารภาพตามตรง พวกเขาพ่ายแพ้ยับเยิน

ในทะเลอุดรแห่งนี้ อสูรทะเลจะมีข้อได้เปรียบในด้านเจ้าถิ่น

ต่อให้เป็นเช่นนั้นก็ยังแพ้ให้กับฉีเซ่าเสวียนกับเสิ่นเทียน สำหรับพวกเขา นี่คือความอัปยศที่ไม่อาจยอมรับได้!

โดยเฉพาะเอ้อทงเทียน ใช้กระทั่งไม้ตาย ‘น้ำวนมรณะ’ ปรากฏว่าไม่ใช่แค่เอาชนะเสิ่นเทียนไม่ได้ แต่ยังถูกกดขี่พ่ายแพ้

แส้นั้นฟาดรัวมาที่ใบหน้าเขา รอยแส้ยังไม่หายไปเลย!

“บัดซบ บัดซบจริงๆ!”

เอ้อทงเทียนกัดฟันด้วยความโกรธ “หากไม่ใช่เพราะพี่ใหญ่ปิดด่านบำเพ็ญ วันนี้จะต้องให้พวกมันได้เห็นดี!”

ปี้เสวียนชิงหรี่ดวงตาอสรพิษลงเล็กน้อย ยิงประกายแสงเย็นเยือกออกมา “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นั่นไม่รู้จักเป็นตาย กล้าล่วงเกินกระทั่งองค์หญิงเงือก”

ทุกคนรู้ว่าในโอรสสวรรค์ทะเลอุดร องค์รัชทายาทมังกรลำดับเจ็ดเอ๋าอูมีสายเลือดและพรสวรรค์เหนือชั้น แต่พรสวรรค์ไม่ได้หมายถึงศักยภาพ เอ๋าอูก็ยังเด็กเกินไป ยังไม่อาจเปลี่ยนกำลังแฝงของตนเป็นศักยภาพที่แท้จริงได้

โอรสสวรรค์อายุต่ำกว่าห้าร้อยปีของทะเลอุดรตอนนี้ ราชาไร้มงกุฎที่แท้จริงมาจากเผ่าเทพคุนสุญตา

เจ้าชายเผ่าคุน…คุนหมิง!

เผ่าคุนสุญตาคือหนึ่งในเผ่าที่แกร่งที่สุดในทะเลอุดร ตั้งแต่อดีตมาก็คงอยู่เป็นคู่ต่อสู้ของเผ่ามังกรมาตลอด

จากในระดับบางอย่าง กำลังรบของเผ่าคุนสุญตายังกระจายกว่าเผ่ามังกร แทบจะไม่มีผู้อ่อนแอเลย

เพียงแต่เทียบกับเผ่ามังกรแล้ว เผ่าคุนสุญตามีการสืบเชื้อสายอ่อนแอกว่ามาก คุนโตเต็มวัยตัวหนึ่ง บางทีพันปีก็อาจจะให้กำเนิดชนรุ่นหลังไม่ได้

ปริมาณโดยรวมไม่เพียงพอ นี่ก็เป็นสาเหตุหลักที่เผ่าคุนสุญตาไม่อาจชิงอันดับหนึ่งในทะเลอุดรจากเกาะมังกรได้

หากสู้กันเดี่ยวๆ เผ่ามังกรระดับล่างพวกนั้นไม่อาจเทียบกับเผ่าคุนได้เลย แทบจะถูกกดขี่

คุนหมิงคืออัจฉริยะที่ยากจะพานพบได้ในหลายพันปีของทั้งเผ่าคุนสุญตา

เมื่อสามร้อยปีก่อนในการผจญภัยเกาะดาราเบิกฟ้าครั้งก่อน คุนหมิงก็ทะลวงระดับนิพพานแล้ว

การผจญภัยในเกาะดาราเบิกฟ้าครั้งนั้น เขาเคยสู้กับองค์รัชทายาทมังกรลำดับหกแห่งเกาะมังกรดำทะเลอุดรหรือก็คือพี่ชายของเอ๋าอู

สุดท้ายต่างบาดเจ็บทั้งคู่ คุนหมิงในอายุร้อยหกสิบปีสู้กับองค์รัชทายาทมังกรลำดับหกในอายุสามร้อยห้าสิบปีได้อย่างสูสี จากนั้นมาชื่อเสียงเขาก็สั่นสะเทือนทะเลอุดร!

ตอนนี้ผ่านไปสามร้อยปี ศักยภาพของคุนหมิงน่าสะพรึงเพียงใดไม่มีใครรู้ กระทั่งแทบไม่อาจคาดคะเนได้

แต่ยืนยันได้ว่าในการผจญภัยเกาะดาราเบิกฟ้าครั้งนี้ คุนหมิงคือคนที่แกร่งที่สุดในนั้นแน่นอน ถึงอย่างไรองค์รัชทายาทมังกรลำดับหกในอดีตก็อายุเกินห้าร้อยปีแล้ว เข้าร่วมการผจญภัยไม่ได้อีก

ต่อให้องค์รัชทายาทมังกรลำดับหกเข้าร่วมได้ ก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุนหมิงแล้ว ถึงอย่างไรคุนหมิงก็มีพรสวรรค์แกร่งกว่าหนึ่งขั้น

เอ้อทงเทียนทำเสียงขึ้นจมูก “พี่ใหญ่น้ำลายไหลในความงามขององค์หญิงเงือกมาตลอด ไม่อยากเชื่อว่าเผ่ามนุษย์นี่จะใกล้ชิดกับองค์หญิงขนาดนั้น รนหาที่ตายจริงๆ”

ปี้เสวียนชิงพูดอย่างเย็นชา “โอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำ รอพี่คุนออกด่านบำเพ็ญมาก่อน เจ้านั่นตายแน่! อีกอย่าง พี่คุนติดตามองค์หญิงเงือกเขาเรียกว่าวีรบุรุษรักหญิงงาม ไม่ใช่น้ำลายไหลในความงาม ถ้าเจ้าพูดต่อหน้าเขาเช่นนี้ คงจะโดนอัดอีกแน่”

ตอนนี้เอง พลันมีงูเล็กสีเขียวเลื้อยเข้ามาจากนอกห้อง มาอยู่ในมือปี้เสวียนชิง

งูเล็กสีเขียวพูดเสียงของลูกน้องปี้เสวียนชิง “เรียนองค์ชาย บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ออกมาจากห้องแล้ว”

ปี้เสวียนชิงทำหน้างุนงง “ออกมาแล้ว หรือจะจบเร็วเช่นนี้กัน”

ปี้เสวียนชิงเหมือนนึกอะไรได้ก็หัวเราะเยาะ “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ได้เท่านี้! ต่อให้องค์หญิงเงือกให้โอกาสเจ้า เจ้าก็คงใช้การไม่ได้หรอก!”

ปี้เสวียนชิงเดินมาริมหน้าต่างช้าๆ ทำหน้าเย้าหยอก “หรือว่าจะรู้ข่าวเลยกลัวรึ”

ถึงอย่างไรปลาสาวที่พี่คุนหมิงถูกใจก็ไม่ได้จะหลับนอนด้วยง่ายๆ ขนาดนั้น

……

เสิ่นเทียนไม่รู้ความคิดของปี้เสวียนชิงกับเอ้อทงเทียนในตอนนี้ และไม่อยากรู้ด้วย

ตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่าเจ้าฉีเซ่าเสวียนเป็นอย่างไรบ้าง

ไม่ว่าจะรอบคอบเพียงใด ก็ยังมีจุดผิดพลาด

ลืมไปว่าหากจะแบ่งโชคลิขิต ก็ต้องมอบให้เจ้าของเดิมให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้น หากโชคลิขิตเดิมตกอยู่ในมือเสิ่นเทียนทั้งหมด ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดความซวยได้

ก็เหมือนกับที่ตอนนั้นฉินเกาถูกเสิ่นเทียนแย่งประวัติศาสตร์ต้าเหยียนไป ปรากฏว่าดวงซวยเหยียบว่านวิญญาณตาย ถูกแขวนทุบตี

และยังมีฟางฉางที่โดนเสิ่นเทียนแย่งของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน ปรากฏว่าแก่นพลังทองแตกแทบจะไม่รอด

ตอนนี้น้ำตาดาวเทพสมุทรอยู่ในมือเสิ่นเทียน ไม่รู้ว่าฉีเซ่าเสวียนจะเป็นอย่างไรบ้าง จะเจอเรื่องซวยที่ไม่อาจบรรยายอะไรหรือไม่

ซี้ด เสิ่นเทียนเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างในใจ

เข้าใกล้ห้องที่ฉีเซ่าเสวียนอยู่ขึ้นไปเรื่อยๆ เสิ่นเทียนรู้สึกถึงกลิ่นอายพลังบ้าคลั่งที่แฝงอยู่ในห้อง เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ภายในห้องเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่าง

เสิ่นเทียนไม่ทันคิดอะไรก็ก้าวเท้ายาวผลักประตูห้อง สิ่งที่เห็นคือเอ๋าอูกับสี่คุณชายกำลังอึดอัดจนหน้าแดง

กลิ่นอายพลังในตัวพวกเขาปั่นป่วน เหมือนฝืนทนอะไรบางอย่าง ใบหน้าก็เหมือนยิ้มทีเล่นทีจริง น่าชมมาก

อีกด้านเป็นฉีเซ่าเสวียนนั่งขัดสมาธิกลางห้อง ตอนนี้ทั้งอับอายและโมโหจนอยากจะตาย

เหนือศีรษะเขามีแก่นพลังทองสิบลายส่องแสงสว่างลอยอยู่

สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงคือ ตอนนี้แก่นพลังทองสิบลายแตกร้าว เปล่งแสงสีม่วงสว่างจ้า

แต่ภายใต้แสงสะท้อนสีม่วงนั้น ด้านบนแก่นพลังทองแตกร้าวยังเผยศีรษะทารกขนาดเท่านิ้วมือออกมา

ใช่ ทุบแก่นเป็นดรุณ

ฉีเซ่าเสวียนสำเร็จแก่นพลังทองสิบรอบนานแล้ว ลองทะลวงระดับดวงจิตดรุณได้นานแล้ว

วันนี้หลังจากเขาสู้กับปี้เสวียนชิงก็ได้ตระหนักอะไรมากมาย อีกทั้งยังรู้สึกกดดันไม่น้อย ในที่สุดจึงตัดสินใจไม่กดระดับพลังอีก แต่ถือโอกาสทะลวงพลังไป

ในสถานการณ์ปกติ หลังจากโอรสสวรรค์แดนศักดิ์สิทธิ์ทะลวงจุดสูงสุดแก่นพลังทองแล้ว การทุบแก่นเป็นดรุณจะไม่ได้ยากมาก

แต่ฉีเซ่าเสวียนไม่คาดคิดเลยว่าแก่นพลังทองของเขาจะแข็งมาก!

สำหรับสถานการณ์ปกติ แก่นพลังทองเก้ารอบคือขีดจำกัดของศาสตร์หลอมกายแก่นพลังทอง ยากจะก้าวข้ามไปได้อีก

แม้ฉีเซ่าเสวียนจะพัฒนาขึ้นไปได้ รวมแก่นพลังทองสิบรอบ แต่นี่ก็ทำให้การทุบแก่นเป็นดรุณของเขายากกว่าคนปกติมาก

หากจิตวิญญาณเหนือกว่าคนปกติ เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไร ทุบแก่นเป็นดรุณได้อย่างง่ายดาย แต่ฉีเซ่าเสวียนราบรื่นมาตลอดตั้งแต่เยาว์วัย แทบจะไม่เคยเจอกับอุปสรรคใดๆ เลย

สารภาพตามตรง ระดับความแกร่งและทนทานของจิตวิญญาณเขาไม่ได้เหนือกว่าคนอื่นเลย ถือว่าอยู่ในระดับปกติ

ดังนั้นจึงเกิดภาพน่าอายขึ้น ดวงจิตดรุณของฉีเซ่าเสวียนทุบแก่นพลังทองได้ยากมาก หลังจากโผล่มาเพียงศีรษะ…ก็ไม่ระวังติดอยู่อย่างนั้น~

ดวงจิตดรุณกำเนิดจากแก่นพลังทอง หลังจากหลุดมาจากแก่นพลังทอง ปกติจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมากในเวลาสั้นๆ

ฉีเซ่าเสวียนพบเรื่องน่าอายคือ ตนทุบแก่นพลังทองไม่แตก

หลังดวงจิตดรุณเขาโผล่ศีรษะมา ตรงคอก็อยู่ในซอก ออกมาไม่ได้จะเข้าไปก็ไม่ได้

ดวงจิตดรุณเล็กนั่น อึดอัดจนแทบขาดใจตาย!

…..

น่าอาย น่าอายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

เนื่องจากก่อนทุบแก่นพลังเป็นดรุณ ต้นกำเนิดพลังชีวิตจะเคลื่อนย้ายจากแก่นพลังทองไปในดวงจิตดรุณ

ดังนั้นแก่นพลังทองของฉีเซ่าเสวียนแตก จึงไม่ได้เกิดผลทำให้บาดเจ็บของมหามรรค ดวงจิตดรุณติดอยู่ชั่วครู่ก็ไม่มีปัญหาอะไร

แต่ระหว่างการทะลวงพลังเจอกับเรื่องแบบนี้ ทำให้คนจะเป็นบ้าเอาได้ง่ายๆ

โดยเฉพาะข้างๆ ยังมีคนมุงดูอยู่ด้วย

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาแปลกๆ ของน้องเอ๋าอูกับคุณชายทั้งสี่แล้ว บางคนถึงกับอยากตาย กระทั่งดวงจิตดรุณยังศีรษะใหญ่ขึ้นในบรรยากาศประหลาด จากนั้นก็ถูกแก่นพลังทองหนีบไว้แน่นกว่าเดิม

อืม ศีรษะแทบจะถูกหนีบขาดแล้ว

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกครู่หนึ่งก็อาจจะไม่เป็นไร แต่ถ้านานเข้าต้องจบเห่แน่

อย่างอื่นไม่ว่า แค่ดวงจิตดรุณที่จะเข้าไม่ได้จะออกก็ไม่ได้ในตอนนี้ แม้แต่จะเก็บเข้าไปในกายยังทำไม่ได้เลย

ถ้ายังแบกดวงจิตดรุณแก่นพลังทองเหมือนตะพาบขาขาดอยู่เช่นนี้ ฉีเซ่าเสวียนก็ไม่อยากจะออกไปไหนเลย ถึงอย่างไรเขาก็มีเกียรติ

บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงผู้ยิ่งใหญ่เจอเรื่องแบบนี้ ไม่โกรธจนธาตุไฟเข้าแทรกก็คือว่าเขามีจิตใจเข้มแข็งแล้ว

“สหายเสิ่น เหตุใดเจ้าถึงกลับมาเร็วเช่นนี้ จะ…เจ้าอย่าดู!”

ฉีเซ่าเสวียนมุมปากกระตุก รีบยกสองมือขึ้น มือซ้ายบังดวงจิตดรุณหัวกระเทียมเหนือศีรษะ มือขวาบังหน้าตัวเอง

ท่าทางนั้น เหมือนกับการระบำของชนกลุ่มน้อยบางแห่งมาก

การตายของโลกนี้แบ่งเป็นสองชนิด หนึ่งคือตายจริง สองคือตายในสังคม

อืม ตัวฉีเซ่าเสวียนก็น่าจะประสบความสำเร็จในแบบที่สองกระมัง

น่าขายหน้ามาก อ้ากๆๆๆๆ!

……

สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนเป็นคุณชายซื่อตรงที่อ่อนโยนดั่งหยกมาตลอด เขาแผ่พลังงานด้านบวก ไม่เคยมีความสุขที่เห็นคนอื่นเป็นทุกข์ เว้นแต่จะทนไม่ไหวจริงๆ

ตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์นั้น

เขาหมุนตัวกลับเงียบๆ หมอกวิญญาณสีขาวหนาแน่นปกคลุมกายเนื้อเสิ่นเทียนทั้งหมด มองไม่เห็นใบหน้าเขาเลย

จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะ ‘ฮิๆๆๆๆๆ’ ดังมาจากในหมอกวิญญาณ เหมือนกับมารร้าย

ฉีเซ่าเสวียนอยากจะร้องไห้

มีเสิ่นเทียนนำแล้ว เอ๋าอูกับสี่คุณชายเหมือนจะกลั้นไม่ไหวแล้ว ต่างหมุนตัวกลับมากุมท้องหัวเราะเสียงดัง

ผ่านไปนาน เหมือนเกิดมโนธรรมขึ้น หรืออาจจะเพราะหัวเราะไม่ไหวจริงๆ ก็ได้

เสิ่นเทียนหมุนตัวกลับมา หมอกวิญญาณบนผิวกายสลายไปช้าๆ ใบหน้าเขาดูถูกต้องชอบธรรม ไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นสี่คุณชายกับเอ๋าอูยังหัวเราะอยู่ เสิ่นเทียนจึงทำเสียงขึ้นจมูก “พวกเจ้าทำเกินไปแล้ว สหายฉีลำบากเช่นนี้ พวกเจ้ายังหัวเราะอีก”

ขณะพูดไป มุมปากเขาก็ชักกระตุกช้าๆ

ไม่ไหวๆ ทนไม่ไหวอยากจะหลุดมาอีกแล้ว

หมอกวิญญาณสีขาวหลั่งไหลออกมา เสิ่นเทียนดูอดกลั้นจนเป็นทุกข์มากจริงๆ

ฉีเซ่าเสวียนมองคู่ต่อสู้ในชะตาชีวิตคนอย่างคับแค้นใจ “สหายเสิ่น เจ้าจะทำเกินไปแล้ว!”

พอเห็นวงรัศมีจากสีม่วงอมทองในตอนแรกเหนือศีรษะฉีเซ่าเสวียน ตอนนี้ส่วนของสีม่วงเหมือนจะจางลงไปไม่น้อยแล้ว เสิ่นเทียนก็คาดการณ์คร่าวๆ ในใจ น่าจะเกิดจากที่โดนแย่งโชคลิขิต

แต่สำหรับดวงชะตาทั้งหมดของฉีเซ่าเสวียนแล้ว น้ำตาดาวเทพสมุทรเหมือนจะเป็นเพียงโชคลิขิตธรรมดา จึงไม่ได้ส่งผลกับเขามากนัก

ขณะเดียวกันความโชคร้ายที่เกิดขึ้นจากการถูกแย่งน้ำตาดาวเทพสมุทร ก็ดูจะไม่ได้รุนแรงมาก ยังไม่ถึงแก่ชีวิต

อืม ความตายในสังคมไม่ถือว่าถึงแก่ชีวิตใจสายตาเสิ่นเทียนหรอก~

……..

เสิ่นเทียนทำหมายเหตุในเรื่องเหนือความคาดหมายครั้งนี้ไว้ให้ฉีเซ่าเสวียนเงียบๆ ในใจ นี่คือวัตถุดิบที่ล้ำค่ามากในการศึกษา ‘วงรัศมีดวงชะตา’ ในภายภาคหน้า

จากนั้นเขานำกล่องหยกที่ได้มาจากอวี้เผียนเซียนออกมาจากอกเสื้อ โยนน้ำตาดาวเทพสมุทรให้ฉีเซ่าเสวียน

“สหายฉีไม่ต้องพูด ของดีเก็บไว้ สัมผัสให้ดีๆ!”

ฉีเซ่าเสวียนงุนงง

…………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 302 ไม่ต้องพูด ของดีเก็บไว้ สัมผัสให้ดีๆ

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 302 ไม่ต้องพูด ของดีเก็บไว้ สัมผัสให้ดีๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 302 ไม่ต้องพูด ของดีเก็บไว้ สัมผัสให้ดีๆ

เมืองแห่งสุขาวดี ชั้นสองของหอเสียงสวรรค์

ภายในห้องพิเศษที่เอ้อทงเทียนกับปี้เสวียนชิงอยู่ บรรยากาศน่าอึดอัด

แม้จะกินยาศักดิ์สิทธิ์เยียวยาไปจำนวนมากแล้ว แต่ปี้เสวียนชิงก็ยังหน้าซีดขาวมาก

ทางด้านเอ้อทงเทียนศีรษะเอียง ตรงคอถูกเสิ่นเทียนบิดจนผิดรูป ช่วงนี้ยังคงกลับมาเป็นปกติไม่ได้

สารภาพตามตรง พวกเขาพ่ายแพ้ยับเยิน

ในทะเลอุดรแห่งนี้ อสูรทะเลจะมีข้อได้เปรียบในด้านเจ้าถิ่น

ต่อให้เป็นเช่นนั้นก็ยังแพ้ให้กับฉีเซ่าเสวียนกับเสิ่นเทียน สำหรับพวกเขา นี่คือความอัปยศที่ไม่อาจยอมรับได้!

โดยเฉพาะเอ้อทงเทียน ใช้กระทั่งไม้ตาย ‘น้ำวนมรณะ’ ปรากฏว่าไม่ใช่แค่เอาชนะเสิ่นเทียนไม่ได้ แต่ยังถูกกดขี่พ่ายแพ้

แส้นั้นฟาดรัวมาที่ใบหน้าเขา รอยแส้ยังไม่หายไปเลย!

“บัดซบ บัดซบจริงๆ!”

เอ้อทงเทียนกัดฟันด้วยความโกรธ “หากไม่ใช่เพราะพี่ใหญ่ปิดด่านบำเพ็ญ วันนี้จะต้องให้พวกมันได้เห็นดี!”

ปี้เสวียนชิงหรี่ดวงตาอสรพิษลงเล็กน้อย ยิงประกายแสงเย็นเยือกออกมา “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์นั่นไม่รู้จักเป็นตาย กล้าล่วงเกินกระทั่งองค์หญิงเงือก”

ทุกคนรู้ว่าในโอรสสวรรค์ทะเลอุดร องค์รัชทายาทมังกรลำดับเจ็ดเอ๋าอูมีสายเลือดและพรสวรรค์เหนือชั้น แต่พรสวรรค์ไม่ได้หมายถึงศักยภาพ เอ๋าอูก็ยังเด็กเกินไป ยังไม่อาจเปลี่ยนกำลังแฝงของตนเป็นศักยภาพที่แท้จริงได้

โอรสสวรรค์อายุต่ำกว่าห้าร้อยปีของทะเลอุดรตอนนี้ ราชาไร้มงกุฎที่แท้จริงมาจากเผ่าเทพคุนสุญตา

เจ้าชายเผ่าคุน…คุนหมิง!

เผ่าคุนสุญตาคือหนึ่งในเผ่าที่แกร่งที่สุดในทะเลอุดร ตั้งแต่อดีตมาก็คงอยู่เป็นคู่ต่อสู้ของเผ่ามังกรมาตลอด

จากในระดับบางอย่าง กำลังรบของเผ่าคุนสุญตายังกระจายกว่าเผ่ามังกร แทบจะไม่มีผู้อ่อนแอเลย

เพียงแต่เทียบกับเผ่ามังกรแล้ว เผ่าคุนสุญตามีการสืบเชื้อสายอ่อนแอกว่ามาก คุนโตเต็มวัยตัวหนึ่ง บางทีพันปีก็อาจจะให้กำเนิดชนรุ่นหลังไม่ได้

ปริมาณโดยรวมไม่เพียงพอ นี่ก็เป็นสาเหตุหลักที่เผ่าคุนสุญตาไม่อาจชิงอันดับหนึ่งในทะเลอุดรจากเกาะมังกรได้

หากสู้กันเดี่ยวๆ เผ่ามังกรระดับล่างพวกนั้นไม่อาจเทียบกับเผ่าคุนได้เลย แทบจะถูกกดขี่

คุนหมิงคืออัจฉริยะที่ยากจะพานพบได้ในหลายพันปีของทั้งเผ่าคุนสุญตา

เมื่อสามร้อยปีก่อนในการผจญภัยเกาะดาราเบิกฟ้าครั้งก่อน คุนหมิงก็ทะลวงระดับนิพพานแล้ว

การผจญภัยในเกาะดาราเบิกฟ้าครั้งนั้น เขาเคยสู้กับองค์รัชทายาทมังกรลำดับหกแห่งเกาะมังกรดำทะเลอุดรหรือก็คือพี่ชายของเอ๋าอู

สุดท้ายต่างบาดเจ็บทั้งคู่ คุนหมิงในอายุร้อยหกสิบปีสู้กับองค์รัชทายาทมังกรลำดับหกในอายุสามร้อยห้าสิบปีได้อย่างสูสี จากนั้นมาชื่อเสียงเขาก็สั่นสะเทือนทะเลอุดร!

ตอนนี้ผ่านไปสามร้อยปี ศักยภาพของคุนหมิงน่าสะพรึงเพียงใดไม่มีใครรู้ กระทั่งแทบไม่อาจคาดคะเนได้

แต่ยืนยันได้ว่าในการผจญภัยเกาะดาราเบิกฟ้าครั้งนี้ คุนหมิงคือคนที่แกร่งที่สุดในนั้นแน่นอน ถึงอย่างไรองค์รัชทายาทมังกรลำดับหกในอดีตก็อายุเกินห้าร้อยปีแล้ว เข้าร่วมการผจญภัยไม่ได้อีก

ต่อให้องค์รัชทายาทมังกรลำดับหกเข้าร่วมได้ ก็อาจจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคุนหมิงแล้ว ถึงอย่างไรคุนหมิงก็มีพรสวรรค์แกร่งกว่าหนึ่งขั้น

เอ้อทงเทียนทำเสียงขึ้นจมูก “พี่ใหญ่น้ำลายไหลในความงามขององค์หญิงเงือกมาตลอด ไม่อยากเชื่อว่าเผ่ามนุษย์นี่จะใกล้ชิดกับองค์หญิงขนาดนั้น รนหาที่ตายจริงๆ”

ปี้เสวียนชิงพูดอย่างเย็นชา “โอรสสวรรค์เผ่ามนุษย์ส่วนใหญ่ไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำ รอพี่คุนออกด่านบำเพ็ญมาก่อน เจ้านั่นตายแน่! อีกอย่าง พี่คุนติดตามองค์หญิงเงือกเขาเรียกว่าวีรบุรุษรักหญิงงาม ไม่ใช่น้ำลายไหลในความงาม ถ้าเจ้าพูดต่อหน้าเขาเช่นนี้ คงจะโดนอัดอีกแน่”

ตอนนี้เอง พลันมีงูเล็กสีเขียวเลื้อยเข้ามาจากนอกห้อง มาอยู่ในมือปี้เสวียนชิง

งูเล็กสีเขียวพูดเสียงของลูกน้องปี้เสวียนชิง “เรียนองค์ชาย บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ออกมาจากห้องแล้ว”

ปี้เสวียนชิงทำหน้างุนงง “ออกมาแล้ว หรือจะจบเร็วเช่นนี้กัน”

ปี้เสวียนชิงเหมือนนึกอะไรได้ก็หัวเราะเยาะ “บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ได้เท่านี้! ต่อให้องค์หญิงเงือกให้โอกาสเจ้า เจ้าก็คงใช้การไม่ได้หรอก!”

ปี้เสวียนชิงเดินมาริมหน้าต่างช้าๆ ทำหน้าเย้าหยอก “หรือว่าจะรู้ข่าวเลยกลัวรึ”

ถึงอย่างไรปลาสาวที่พี่คุนหมิงถูกใจก็ไม่ได้จะหลับนอนด้วยง่ายๆ ขนาดนั้น

……

เสิ่นเทียนไม่รู้ความคิดของปี้เสวียนชิงกับเอ้อทงเทียนในตอนนี้ และไม่อยากรู้ด้วย

ตอนนี้เขาแค่อยากรู้ว่าเจ้าฉีเซ่าเสวียนเป็นอย่างไรบ้าง

ไม่ว่าจะรอบคอบเพียงใด ก็ยังมีจุดผิดพลาด

ลืมไปว่าหากจะแบ่งโชคลิขิต ก็ต้องมอบให้เจ้าของเดิมให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้น หากโชคลิขิตเดิมตกอยู่ในมือเสิ่นเทียนทั้งหมด ก็มีโอกาสสูงที่จะเกิดความซวยได้

ก็เหมือนกับที่ตอนนั้นฉินเกาถูกเสิ่นเทียนแย่งประวัติศาสตร์ต้าเหยียนไป ปรากฏว่าดวงซวยเหยียบว่านวิญญาณตาย ถูกแขวนทุบตี

และยังมีฟางฉางที่โดนเสิ่นเทียนแย่งของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพาน ปรากฏว่าแก่นพลังทองแตกแทบจะไม่รอด

ตอนนี้น้ำตาดาวเทพสมุทรอยู่ในมือเสิ่นเทียน ไม่รู้ว่าฉีเซ่าเสวียนจะเป็นอย่างไรบ้าง จะเจอเรื่องซวยที่ไม่อาจบรรยายอะไรหรือไม่

ซี้ด เสิ่นเทียนเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างในใจ

เข้าใกล้ห้องที่ฉีเซ่าเสวียนอยู่ขึ้นไปเรื่อยๆ เสิ่นเทียนรู้สึกถึงกลิ่นอายพลังบ้าคลั่งที่แฝงอยู่ในห้อง เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ภายในห้องเกิดเรื่องไม่ดีบางอย่าง

เสิ่นเทียนไม่ทันคิดอะไรก็ก้าวเท้ายาวผลักประตูห้อง สิ่งที่เห็นคือเอ๋าอูกับสี่คุณชายกำลังอึดอัดจนหน้าแดง

กลิ่นอายพลังในตัวพวกเขาปั่นป่วน เหมือนฝืนทนอะไรบางอย่าง ใบหน้าก็เหมือนยิ้มทีเล่นทีจริง น่าชมมาก

อีกด้านเป็นฉีเซ่าเสวียนนั่งขัดสมาธิกลางห้อง ตอนนี้ทั้งอับอายและโมโหจนอยากจะตาย

เหนือศีรษะเขามีแก่นพลังทองสิบลายส่องแสงสว่างลอยอยู่

สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงคือ ตอนนี้แก่นพลังทองสิบลายแตกร้าว เปล่งแสงสีม่วงสว่างจ้า

แต่ภายใต้แสงสะท้อนสีม่วงนั้น ด้านบนแก่นพลังทองแตกร้าวยังเผยศีรษะทารกขนาดเท่านิ้วมือออกมา

ใช่ ทุบแก่นเป็นดรุณ

ฉีเซ่าเสวียนสำเร็จแก่นพลังทองสิบรอบนานแล้ว ลองทะลวงระดับดวงจิตดรุณได้นานแล้ว

วันนี้หลังจากเขาสู้กับปี้เสวียนชิงก็ได้ตระหนักอะไรมากมาย อีกทั้งยังรู้สึกกดดันไม่น้อย ในที่สุดจึงตัดสินใจไม่กดระดับพลังอีก แต่ถือโอกาสทะลวงพลังไป

ในสถานการณ์ปกติ หลังจากโอรสสวรรค์แดนศักดิ์สิทธิ์ทะลวงจุดสูงสุดแก่นพลังทองแล้ว การทุบแก่นเป็นดรุณจะไม่ได้ยากมาก

แต่ฉีเซ่าเสวียนไม่คาดคิดเลยว่าแก่นพลังทองของเขาจะแข็งมาก!

สำหรับสถานการณ์ปกติ แก่นพลังทองเก้ารอบคือขีดจำกัดของศาสตร์หลอมกายแก่นพลังทอง ยากจะก้าวข้ามไปได้อีก

แม้ฉีเซ่าเสวียนจะพัฒนาขึ้นไปได้ รวมแก่นพลังทองสิบรอบ แต่นี่ก็ทำให้การทุบแก่นเป็นดรุณของเขายากกว่าคนปกติมาก

หากจิตวิญญาณเหนือกว่าคนปกติ เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไร ทุบแก่นเป็นดรุณได้อย่างง่ายดาย แต่ฉีเซ่าเสวียนราบรื่นมาตลอดตั้งแต่เยาว์วัย แทบจะไม่เคยเจอกับอุปสรรคใดๆ เลย

สารภาพตามตรง ระดับความแกร่งและทนทานของจิตวิญญาณเขาไม่ได้เหนือกว่าคนอื่นเลย ถือว่าอยู่ในระดับปกติ

ดังนั้นจึงเกิดภาพน่าอายขึ้น ดวงจิตดรุณของฉีเซ่าเสวียนทุบแก่นพลังทองได้ยากมาก หลังจากโผล่มาเพียงศีรษะ…ก็ไม่ระวังติดอยู่อย่างนั้น~

ดวงจิตดรุณกำเนิดจากแก่นพลังทอง หลังจากหลุดมาจากแก่นพลังทอง ปกติจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมากในเวลาสั้นๆ

ฉีเซ่าเสวียนพบเรื่องน่าอายคือ ตนทุบแก่นพลังทองไม่แตก

หลังดวงจิตดรุณเขาโผล่ศีรษะมา ตรงคอก็อยู่ในซอก ออกมาไม่ได้จะเข้าไปก็ไม่ได้

ดวงจิตดรุณเล็กนั่น อึดอัดจนแทบขาดใจตาย!

…..

น่าอาย น่าอายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

เนื่องจากก่อนทุบแก่นพลังเป็นดรุณ ต้นกำเนิดพลังชีวิตจะเคลื่อนย้ายจากแก่นพลังทองไปในดวงจิตดรุณ

ดังนั้นแก่นพลังทองของฉีเซ่าเสวียนแตก จึงไม่ได้เกิดผลทำให้บาดเจ็บของมหามรรค ดวงจิตดรุณติดอยู่ชั่วครู่ก็ไม่มีปัญหาอะไร

แต่ระหว่างการทะลวงพลังเจอกับเรื่องแบบนี้ ทำให้คนจะเป็นบ้าเอาได้ง่ายๆ

โดยเฉพาะข้างๆ ยังมีคนมุงดูอยู่ด้วย

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาแปลกๆ ของน้องเอ๋าอูกับคุณชายทั้งสี่แล้ว บางคนถึงกับอยากตาย กระทั่งดวงจิตดรุณยังศีรษะใหญ่ขึ้นในบรรยากาศประหลาด จากนั้นก็ถูกแก่นพลังทองหนีบไว้แน่นกว่าเดิม

อืม ศีรษะแทบจะถูกหนีบขาดแล้ว

หากเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกครู่หนึ่งก็อาจจะไม่เป็นไร แต่ถ้านานเข้าต้องจบเห่แน่

อย่างอื่นไม่ว่า แค่ดวงจิตดรุณที่จะเข้าไม่ได้จะออกก็ไม่ได้ในตอนนี้ แม้แต่จะเก็บเข้าไปในกายยังทำไม่ได้เลย

ถ้ายังแบกดวงจิตดรุณแก่นพลังทองเหมือนตะพาบขาขาดอยู่เช่นนี้ ฉีเซ่าเสวียนก็ไม่อยากจะออกไปไหนเลย ถึงอย่างไรเขาก็มีเกียรติ

บุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงผู้ยิ่งใหญ่เจอเรื่องแบบนี้ ไม่โกรธจนธาตุไฟเข้าแทรกก็คือว่าเขามีจิตใจเข้มแข็งแล้ว

“สหายเสิ่น เหตุใดเจ้าถึงกลับมาเร็วเช่นนี้ จะ…เจ้าอย่าดู!”

ฉีเซ่าเสวียนมุมปากกระตุก รีบยกสองมือขึ้น มือซ้ายบังดวงจิตดรุณหัวกระเทียมเหนือศีรษะ มือขวาบังหน้าตัวเอง

ท่าทางนั้น เหมือนกับการระบำของชนกลุ่มน้อยบางแห่งมาก

การตายของโลกนี้แบ่งเป็นสองชนิด หนึ่งคือตายจริง สองคือตายในสังคม

อืม ตัวฉีเซ่าเสวียนก็น่าจะประสบความสำเร็จในแบบที่สองกระมัง

น่าขายหน้ามาก อ้ากๆๆๆๆ!

……

สารภาพตามตรง เสิ่นเทียนเป็นคุณชายซื่อตรงที่อ่อนโยนดั่งหยกมาตลอด เขาแผ่พลังงานด้านบวก ไม่เคยมีความสุขที่เห็นคนอื่นเป็นทุกข์ เว้นแต่จะทนไม่ไหวจริงๆ

ตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์นั้น

เขาหมุนตัวกลับเงียบๆ หมอกวิญญาณสีขาวหนาแน่นปกคลุมกายเนื้อเสิ่นเทียนทั้งหมด มองไม่เห็นใบหน้าเขาเลย

จากนั้นก็มีเสียงหัวเราะ ‘ฮิๆๆๆๆๆ’ ดังมาจากในหมอกวิญญาณ เหมือนกับมารร้าย

ฉีเซ่าเสวียนอยากจะร้องไห้

มีเสิ่นเทียนนำแล้ว เอ๋าอูกับสี่คุณชายเหมือนจะกลั้นไม่ไหวแล้ว ต่างหมุนตัวกลับมากุมท้องหัวเราะเสียงดัง

ผ่านไปนาน เหมือนเกิดมโนธรรมขึ้น หรืออาจจะเพราะหัวเราะไม่ไหวจริงๆ ก็ได้

เสิ่นเทียนหมุนตัวกลับมา หมอกวิญญาณบนผิวกายสลายไปช้าๆ ใบหน้าเขาดูถูกต้องชอบธรรม ไม่มีรอยยิ้มแม้แต่น้อย

เมื่อเห็นสี่คุณชายกับเอ๋าอูยังหัวเราะอยู่ เสิ่นเทียนจึงทำเสียงขึ้นจมูก “พวกเจ้าทำเกินไปแล้ว สหายฉีลำบากเช่นนี้ พวกเจ้ายังหัวเราะอีก”

ขณะพูดไป มุมปากเขาก็ชักกระตุกช้าๆ

ไม่ไหวๆ ทนไม่ไหวอยากจะหลุดมาอีกแล้ว

หมอกวิญญาณสีขาวหลั่งไหลออกมา เสิ่นเทียนดูอดกลั้นจนเป็นทุกข์มากจริงๆ

ฉีเซ่าเสวียนมองคู่ต่อสู้ในชะตาชีวิตคนอย่างคับแค้นใจ “สหายเสิ่น เจ้าจะทำเกินไปแล้ว!”

พอเห็นวงรัศมีจากสีม่วงอมทองในตอนแรกเหนือศีรษะฉีเซ่าเสวียน ตอนนี้ส่วนของสีม่วงเหมือนจะจางลงไปไม่น้อยแล้ว เสิ่นเทียนก็คาดการณ์คร่าวๆ ในใจ น่าจะเกิดจากที่โดนแย่งโชคลิขิต

แต่สำหรับดวงชะตาทั้งหมดของฉีเซ่าเสวียนแล้ว น้ำตาดาวเทพสมุทรเหมือนจะเป็นเพียงโชคลิขิตธรรมดา จึงไม่ได้ส่งผลกับเขามากนัก

ขณะเดียวกันความโชคร้ายที่เกิดขึ้นจากการถูกแย่งน้ำตาดาวเทพสมุทร ก็ดูจะไม่ได้รุนแรงมาก ยังไม่ถึงแก่ชีวิต

อืม ความตายในสังคมไม่ถือว่าถึงแก่ชีวิตใจสายตาเสิ่นเทียนหรอก~

……..

เสิ่นเทียนทำหมายเหตุในเรื่องเหนือความคาดหมายครั้งนี้ไว้ให้ฉีเซ่าเสวียนเงียบๆ ในใจ นี่คือวัตถุดิบที่ล้ำค่ามากในการศึกษา ‘วงรัศมีดวงชะตา’ ในภายภาคหน้า

จากนั้นเขานำกล่องหยกที่ได้มาจากอวี้เผียนเซียนออกมาจากอกเสื้อ โยนน้ำตาดาวเทพสมุทรให้ฉีเซ่าเสวียน

“สหายฉีไม่ต้องพูด ของดีเก็บไว้ สัมผัสให้ดีๆ!”

ฉีเซ่าเสวียนงุนงง

…………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+