บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 274 บุรุษ…ก็ต้องเร็ว! (1)

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 274 บุรุษ…ก็ต้องเร็ว! (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 274 บุรุษ…ก็ต้องเร็ว! (1)

ในสถานการณ์ปกติ ผู้แข็งแกร่งฝ่ายเซียนของแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ แดนเทวา และแดนผาสุกจะมีกำลังรบเหนือกว่าผีร้ายปกติไปไกล

หากมีอาวุธวิเศษ ยันต์ หรือโอสถช่วย ผู้ฝึกบำเพ็ญจากแดนศักดิ์สิทธิ์และแดนเทวาจะรับมือกับผีร้ายปกติได้อย่างน้อยห้าตัวขึ้นไป

ผู้แข็งแกร่งอัจฉริยะในนั้นถึงขั้นหนึ่งสู้สิบได้ กระทั่งสังหารผีร้ายระดับพลังเดียวกันได้หลายสิบตัว

ทว่าตอนนี้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทุกคนไม่ใช่ผีร้ายระดับแก่นพลังทองปกติ แต่เป็นผีร้ายพิเศษที่ผ่านการหล่อหลอมมา

พวกมันบ้างมีพิษร้ายที่หลอมรวมจากพืชพิษต่างๆ ของอาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยง บ้างมีไฟกรรมนรกที่รวมขึ้นจากแท่นไฟกรรม

กล่าวโดยสรุปคือกำลังรบของทุกตัวแกร่งกว่าผีร้ายปกติมาก

และที่สำคัญกว่านั้นคือกองทัพภูตผีนี้มีจำนวนมหาศาล มองทีแรกก็มีมากกว่าหมื่น

ทหารภูตผีนับหมื่นปกคลุมมามืดฟ้ามัวดิน แรงปะทะที่เกิดขึ้นไม่อาจใช้คำพูดมาบรรยายได้ มากพอจะทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์หนาวสั่น

หากโดนกองทัพภูตผีนี้ปิดล้อม กับอีแค่กองกำลังฝ่ายเซียนร้อยกว่าคน เกรงว่าคงจะถูกแยกออกและตายตกเป็นอาหารไปในครู่เดียว

ยุงมากพอก็กัดช้างให้ตายได้ แรงปะทะจากผีร้ายระดับพลังเดียวกันหลายหมื่นนี้ ไม่มีผู้ฝึกบำเพ็ญคนใดเอาชนะได้เลย

“วางค่ายกลป้องกันเดี๋ยวนี้ ทุกคนฆ่าทหารภูตผีสุดกำลัง”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกมีแววตาเฉยชา อาวุธอริยะรูปทรงจันทร์เต็มดวงข้างหลังพุ่งขึ้นฟ้า ก่อนจะหายไปในมวลอากาศ

พริบตาต่อมาวงแสงสีเงินยักษ์ปกคลุมทุกคน เปล่งแสงระยิบระยับ ต้านภูตผีทั้งหมดไว้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกมีอำนาจวาจาสูงมากในแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก ทันทีที่นางลงมือ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สามคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็ออกมือช่วยกันทันที

“ทุกคนอย่าตระหนก แม้ผีร้ายจะมีเยอะ แต่พวกที่โจมตีเราพร้อมกันก็เป็นแค่ส่วนด้านหน้าสุด”

อาวุธอริยะกระจกฐานหยกของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่หายเข้าไปในอากาศเช่นกัน ผนึกกำลังกับอาวุธอริยะของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก เสริมการป้องกันเพิ่มขึ้น

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์หลิงอู่กับเสวี่ยอู่อีกสองคนต่างส่งพลังฤทธิ์เข้าไปในอาวุธอริยะเรื่อยๆ เป็นการเสริมความแกร่ง

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวเบาๆ ก่อนเอ่ยอย่างเย็นชา “ศิษย์เทพสวรรค์ เชิญสายฟ้า!”

ทุกคนรู้ว่าสายฟ้าคือการลงทัณฑ์จากฟ้าดิน

วิชาอัสนีส่วนใหญ่มีชื่อเสียงเรื่องอานุภาพทรงพลัง และวิชาอัสนีเทพสวรรค์ก็เป็นสุดยอดของวิชาอัสนีในใต้หล้า

ไม่ใช่แค่มีพลังทำลายล้างสูงสุดในฟ้าดิน แต่ยังเป็นปฏิปักษ์กับภูตผีปีศาจและผีร้ายอย่างยิ่ง

ตอนนี้หมื่นภูตผีไร้พรมแดนถาโถมเข้ามาใส่ฝ่ายเซียน ศิษย์เทพสวรรค์จึงสู้อย่างไม่ลังเล

“อัสนีเทพมังกรเขียวธาตุไม้ลำดับหนึ่ง!”

“อัสนีเทพวิหคชาดธาตุไฟลำดับสาม!”

“อัสนีเทพงูเหินธาตุไฟลำดับสี่!”

“อัสนีเทพพยัคฆ์ขาวธาตุทองลำดับเจ็ด!”

“อัสนีเทพกำเนิดฟ้าปัญจธาตุเล็ก!”

“กุมอัสนีกำเนิดฟ้า!”

…….

สายฟ้าพุ่งออกมาจากค่ายกลของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ซัดผีร้ายปลิวไปทีละตัว

คนที่แข็งแกร่งในนั้นถึงขั้นฉีกผีร้ายแหลกเป็นชิ้นๆ หลายตัว

ตอนนี้เสิ่นเทียนเองก็ทุ่มกำลังโจมตีเช่นกัน เขาใช้กุมอัสนีไปเรื่อยๆ เหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

กุมอัสนีทุกลูกในมือเขาจะฉีกร่างผีร้ายหลายตัว แหลกสลายไปกับฟ้าดิน มีอานุภาพทรงพลังยิ่ง

เวลานี้ดึงดูดความสนใจนับไม่ถ้วน

“สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ศักยภาพไม่ธรรมดาจริงๆ!”

“ศักยภาพเช่นนี้แกร่งกว่าศิษย์สูงสุดของฝ่ายข้าอีก แดนศักดิ์สิทธิ์ก็คือแดนศักดิ์สิทธิ์”

“แม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังไม่ยอมแพ้ เราจะยอมแพ้ได้อย่างไร สำแดงวิชา อัดมัน!”

การต่อต้านของสองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ก็เพื่อนำเหล่าผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนจากแดนเทวาแดนผาสุกอื่น เวลานี้ทุกคนฮึกเหิมขึ้นมาแล้ว

แม้ต้องตายก็จะไม่ยอมให้ลัทธิชั่วร้ายกดขี่ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกัดเนื้อพวกสาวกลัทธิชั่วร้ายออกมาสักสองสามชิ้น

“ภูตผีกากเดนระดับแก่นพลังทองกลุ่มเดียวยังกล้ามาหยาบคายใส่ข้ารึ”

มีเสียงตะโกนทรงอำนาจดังขึ้นกลางกลุ่มคน จากนั้นนักพรตชราที่มีเปลวไฟเทพสีมรกตลุกท่วมทั้งตัวก็พุ่งออกมาจากค่ายกล

เขาพุ่งเข้าไปกลางกองทัพผีร้ายไร้พรมแดนนั้นอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนถูกพลังชั่วร้ายสีดำเข้มข้นจมหายไป

“กระบองตามใจนึก…พลิกเมฆาคว่ำสายฝน!”

เสียงตะโกนดังสนั่นฟ้าดิน ก่อนเห็นว่าตรงกลางพลังชั่วร้ายสีดำที่บดบังฟ้าบังดวงตะวันนั้นเกิดเป็นรูหนึ่ง เงากระบองนับพันนับหมื่นพุ่งออกมาจากพลังชั่วร้ายสีดำนั้น มาพร้อมกับเพลิงสวรรค์ทะเลมรกตสว่างจ้า ทุบผีร้ายนับไม่ถ้วนแหลกสลายไป

มองผ่านรูนั้นยังเห็นเงาสีมรกตร่างหนึ่งกำลังต่อสู้อย่างไร้พ่ายในทหารหลายหมื่น ผ่านไปที่ใดไม่มีผีร้ายขวางเขาไว้ได้เลยแม้แต่ครู่เดียว

“สมกับเป็นศิษย์พี่ฉู่เหอ ไม่อยากเชื่อว่าจะไร้พ่ายในกองทัพภูตผีเช่นนี้!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่เร่งรัดกระจกฐานหยกซ้อนทับกับสมบัติวิเศษประจำตัวของผู้สูงศักดิ์สวรรค์คนอื่น ต่อต้านแรงปะทะทีละระลอกจากกองทัพภูตผีไปพลาง มองร่างของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไปพลาง

ในดวงตานางมีดาวเล็กๆ ระยิบระยับ

ทว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่ได้ไร้พ่ายนานนัก เพราะไม่นานความแกร่งของเขาก็เป็นที่สนใจของกองทัพภูตผี

พลังชั่วร้ายและหมอกเงามืดไม่มีสิ้นสุดเริ่มโอบล้อมผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต เหมือนกับพายุหมุนสีดำความเร็วสูงปิดล้อมผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไว้ตรงกลาง

ตรงกลางพายุหมุนสีดำนั้นมีภูตผีร้ายระดับแก่นพลังทองซ่อนอยู่นับไม่ถ้วน กำลังโจมตีใส่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตอย่างรุนแรงไม่หยุดหย่อน

และที่สำคัญกว่านั้นคือพายุหมุนพลังชั่วร้ายสีดำตัดขาดจากพลังวิญญาณ ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแทบจะไม่ได้รับพลังงานใดๆ มาเติมเต็มจากข้างนอกเลย

ดังนั้นผ่านไปไม่นาน เพลิงสวรรค์ทะเลมรกตที่ลุกท่วมตัวผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็เริ่มอ่อนแรงลง

ภายใต้การโจมตีแบบเอาชีวิตเข้าแลกของผีร้ายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่ไร้พ่ายอีก แต่มือเท้าพันกันไปหมด

ถึงอย่างไรในพายุสีดำนั้นก็ไม่ได้มีแค่ผีร้ายระดับเดียวกันสิบตัว แต่มีมากกว่าร้อยตัว กระทั่งพันตัว!

“เฮ้ยๆๆ พวกเจ้าพอแล้ว! ข้าเห็นว่าพวกเจ้าน่าสงสาร จะปล่อยพวกเจ้าไปแล้วกัน

เวร ก็บอกว่าจะปล่อยพวกเจ้าไปไง ไฉนยังโจมตีมาอีก ปล่อยข้าออกไป!

ตอนนี้สถานการณ์ข้าไม่ดี เก่งจริงเจ้าก็รอข้าไปเติมพลังก่อนแล้วค่อยมาฆ่าพวกเจ้า!

บ้าเอ๊ยๆๆ ดีเลวอย่างไรก็เป็นผีร้ายระดับแก่นพลังทอง มีเกียรติหน่อยได้หรือไม่ จะต่อยตีก็ต่อยตี มากัดกันนี่มันผีบ้าอะไร จะดูดพลังปราณข้ารึ อย่างพวกเจ้าจะดูดได้หรือ ดูข้าเขมือบแปดทิศก่อนเถอะ!

ถุยๆ รสชาติอย่างกับขี้!

จะกัดตรงนั้นไม่ได้นะ ระยำ ข้าจะเอาจริงกับผีอันธพาลอย่างพวกเจ้าแล้ว!

ศิษย์น้องช่วยข้าด้วยศิษย์น้อง ข้าไม่ไหวแล้ว!”

……..

เสียงร้องโหยหวนของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตดังมาจากในฝูงชน

มองออกว่าเขาอยากจะถอย แต่โดนผีร้ายพวกนั้นตรึงไว้

ทั้งตัวมีแต่รอยฟันสีดำ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีแววตาจริงจังเล็กน้อย ก่อนจะประสานมุทรา สายฟ้าสีทองพลันกลายเป็นแสงเทพพุ่งออกไป

บึ้ม!

สายฟ้าส่งเสียงดังสนั่น แสงเทพสายฟ้านั้นทะลวงมวลอากาศเข้าไปทำลายพายุสีดำที่รวมจากพลังหยิน พลังชั่วร้ายและพิษร้ายนั้น

อัสนีเทพกำเนิดฟ้าลุกลามผ่านพายุเข้าไปกวาดล้างผีร้ายรอบตัวผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต

“ศิษย์น้องดี ศิษย์น้องเก่งกาจ ศิษย์น้องๆ ยอดเยี่ยม!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังกลัวไม่หาย จึงกลายเป็นแสงเทพสีมรกตหนีออกจากพายุสีดำ

ตอนนี้ชุดเซียนยันต์แปดทิศที่สะอาดของเขายังโดนผีร้ายกัดเละไปหมด ทั้งตัวมีแค่รอยเขี้ยว

และเพราะอานุภาพของอัสนีเทพกำเนิดฟ้ากระจัดกระจายจึงทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเส้นผมตั้งชี้ และยังมีควันลอยโชย

ดูแล้วอนาถมาก

แต่ตอนนี้เองผีร้ายที่ถาโถมเข้ามามืดฟ้ามัวดินนั้น ในที่สุดก็พุ่งเข้ามาหน้ากองกำลังฝ่ายเซียนตรงๆ

บึ้ม~

เหมือนกับพายุคลื่นทะเลชนกับเขื่อน แรงลมโหมกระหน่ำเข้ามา

แม้แต่มิติยังสั่นไหวและปริแตกกระจายในการปะทะ ผีร้ายแต่ละตัวโดนเขตแดนแว้งกัดกลายเป็นผุยผง

ในค่ายกลพิทักษ์เทพสวรรค์ สายฟ้ากลายเป็นสัตว์เทพสิบชนิดเช่นมังกรเขียว พยัคฆ์ขาว วิหคชาด เต่าดำ กิเลน งูเหินและลิ่วเหอแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า เข้าปะทะกับผีร้ายนับไม่ถ้วน

ในค่ายกลพิทักษ์ธารหยก ประกายเซียนมากมายกลายเป็นพิณโบราณ ผีผา กระจกหยก ปิ่นหงส์ แผ่ท่วงทำนองเทพไร้ที่สิ้นสุด เหมือนกับหุบเหวสวรรค์ตัดการโจมตีทั้งหมด

ผู้แข็งแกร่งจากแดนเทวาและแดนผาสุกคนอื่นยังวางค่ายกลกันสุดกำลัง เพียงเพื่อขวางผีร้ายพวกนี้ไว้ได้ครู่หนึ่ง

แต่ผีร้ายมีจำนวนน่าสะพรึงกลัวเกินไป แม้พวกที่โจมตีค่ายกลจะมีเพียงผีร้ายส่วนเล็กในนั้น แต่ก็ต้านการควบคุมจากในเงามืดไม่ได้!

หลังจากผีร้ายระลอกแรกจู่โจมค่ายกล ค่ายกลยังไม่ทันพักหายใจ ผีร้ายระลอกที่สองก็ตามเข้ามาติดๆ

การโจมตีที่แทบจะไม่มีเวลาให้พักทำให้ค่ายกลแตกสลายไปเรื่อยๆ

แม้กองกำลังฝ่ายเซียนจะวางค่ายกลเร็วมาก แต่ผลข้างเคียงจากการที่ค่ายกลพังลงก็ทำให้หลายคนบาดเจ็บสาหัส แม้แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวที่ใช้วิชาแพทย์ ตอนนี้ก็ยังยุ่งจนหัวหมุน

……

มีร่างคนข้างกายล้มลงทีละคน ทำให้เสิ่นเทียนหน้ามืดลงช้าๆ

เขาไม่ได้พักเลย ยังคงยิงเถากลืนกินเซียนเคลือบด้วยอัคคีอรุณใต้ออกไปกวาดล้างผีร้ายพวกนั้นไม่หยุด

เถากลืนกินเซียนผ่านไปที่ใด ผีร้ายทั้งหมดจะถูกเถากลืนกินเซียนผ่าเป็นสองซีก ก่อนจะถูกอัคคีอรุณใต้แผดเผาสลายไปทั้งหมด

ทว่าสำหรับกองทัพผีร้ายหลายหมื่นแล้ว ผีร้ายแค่นี้ก็ยังเหมือนน้ำน้อยแพ้ไฟอยู่ดี

ทันใดนั้นก็มีผีร้ายจำนวนมากกว่าพุ่งเข้ามากลบพื้นที่ว่างที่เกิดขึ้นจนเต็ม

ฆ่า ฆ่า ฆ่า!

ในสงครามโลหิต เสิ่นเทียนอยู่ในสภาวะที่ทั้งแปลกและพิเศษ

มีเสียงกลองสงครามดังขึ้นในความคิดเขา รู้สึกว่าเลือดกำลังเดือดพล่าน

ตัวเขาเปล่งแสงสีทองอ่อนๆ อีกทั้งยังสว่างขึ้นเรื่อยๆ!

เขารู้สึกเหมือนตนคลำเจอเยื่อบางชั้นหนึ่ง เป็นปราการลึกลับชั้นหนึ่ง

นั่นคือปราการกายทองรอบสาม ก่อนหน้านี้เข้าใกล้แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงก้าวเดียวเท่านั้น!

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังชั่วร้ายสีดำที่ถาโถมเข้ามานอกค่ายกล เสิ่นเทียนก้าวออกไปช้าๆ เกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรที่เดิมทีอยู่ในสภาพเกราะชั้นในก็คืนกลับสภาพเดิม

เกราะศักดิ์สิทธิ์สีทองเปล่งประกายแสง บนผิวกายมีสายฟ้าไหลเวียนราวกับเทพลงมาเยือน ข้างหลังมีเงามายาห้าสัตว์เทพแหงนหน้าส่งเสียงคำราม

ตอนนี้เสิ่นเทียนแผ่กระจายพลังสะท้านฟ้า กลายเป็นจุดรวมของสายตาทุกคน ทุกคนต่างจับตามอง!

เสิ่นเทียนเดินอีกก้าวก็มาถึงขอบค่ายกล ห่างจากผีร้ายเพียงจั้งกว่า

ยามเงยหน้ามอง ถึงขั้นสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้ายและสายลมเย็นยะเยือกที่โถมเข้ามา

สองปีกที่เหมือนหลอมขึ้นจากทองคำข้างหลังเขาสยายปีกออก แสงศักดิ์สิทธิ์สาดลงมาไม่มีสิ้นสุด เสริมให้ทั้งตัวเขาองอาจไม่ธรรมดายิ่งกว่าเดิม

“เปลี่ยนเทพสงคราม…เปลี่ยนน้ำมวลหนัก!”

เส้นผมหย่อมหนึ่งกลายเป็นสีขาว พลังรอบตัวเสิ่นเทียนพลันเพิ่มขึ้น ตอนที่กำหมัดขวา แม้แต่มวลอากาศยังสั่นไหว

“กระบี่ฟ้าสังหาร จงออกมา!”

เสียงกระบี่ดังกึกก้องสวรรค์เก้าชั้นปฐพีสิบชั้น ทำให้กระบี่ยาวในมือผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนทั้งหมดโดยรอบสั่นไหว

เหมือนกำลังหวาดกลัว!

กระบี่ยาวเล่มหนึ่งโผล่มาในมือเสิ่นเทียนตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ บนตัวกระบี่ยังมีแสงสีแดงกระเพื่อมเหมือนกับสายน้ำ มันส่งเสียงกระบี่กังวาน เหมือนกับเสียงร้องของมังกรและหงส์

ด้านคมกระบี่ของมัน แม้แต่อากาศว่างเปล่ายังถูกฉีกจนเกิดเป็นรอยแยก

มือถือกระบี่ฟ้าสังหาร ปีกเทพทองคำข้างหลังเสิ่นเทียนพลันกางออก

ทั้งตัวเขากลายเป็นแสงเทพสีแดงอมทองพุ่งเข้าไปกลางกองทัพผีร้ายมหาศาลเหล่านั้น

………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 274 บุรุษ…ก็ต้องเร็ว! (1)

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 274 บุรุษ…ก็ต้องเร็ว! (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 274 บุรุษ…ก็ต้องเร็ว! (1)

ในสถานการณ์ปกติ ผู้แข็งแกร่งฝ่ายเซียนของแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ แดนเทวา และแดนผาสุกจะมีกำลังรบเหนือกว่าผีร้ายปกติไปไกล

หากมีอาวุธวิเศษ ยันต์ หรือโอสถช่วย ผู้ฝึกบำเพ็ญจากแดนศักดิ์สิทธิ์และแดนเทวาจะรับมือกับผีร้ายปกติได้อย่างน้อยห้าตัวขึ้นไป

ผู้แข็งแกร่งอัจฉริยะในนั้นถึงขั้นหนึ่งสู้สิบได้ กระทั่งสังหารผีร้ายระดับพลังเดียวกันได้หลายสิบตัว

ทว่าตอนนี้สิ่งที่อยู่ตรงหน้าทุกคนไม่ใช่ผีร้ายระดับแก่นพลังทองปกติ แต่เป็นผีร้ายพิเศษที่ผ่านการหล่อหลอมมา

พวกมันบ้างมีพิษร้ายที่หลอมรวมจากพืชพิษต่างๆ ของอาณาจักรโบราณอู๋เลี่ยง บ้างมีไฟกรรมนรกที่รวมขึ้นจากแท่นไฟกรรม

กล่าวโดยสรุปคือกำลังรบของทุกตัวแกร่งกว่าผีร้ายปกติมาก

และที่สำคัญกว่านั้นคือกองทัพภูตผีนี้มีจำนวนมหาศาล มองทีแรกก็มีมากกว่าหมื่น

ทหารภูตผีนับหมื่นปกคลุมมามืดฟ้ามัวดิน แรงปะทะที่เกิดขึ้นไม่อาจใช้คำพูดมาบรรยายได้ มากพอจะทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์หนาวสั่น

หากโดนกองทัพภูตผีนี้ปิดล้อม กับอีแค่กองกำลังฝ่ายเซียนร้อยกว่าคน เกรงว่าคงจะถูกแยกออกและตายตกเป็นอาหารไปในครู่เดียว

ยุงมากพอก็กัดช้างให้ตายได้ แรงปะทะจากผีร้ายระดับพลังเดียวกันหลายหมื่นนี้ ไม่มีผู้ฝึกบำเพ็ญคนใดเอาชนะได้เลย

“วางค่ายกลป้องกันเดี๋ยวนี้ ทุกคนฆ่าทหารภูตผีสุดกำลัง”

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกมีแววตาเฉยชา อาวุธอริยะรูปทรงจันทร์เต็มดวงข้างหลังพุ่งขึ้นฟ้า ก่อนจะหายไปในมวลอากาศ

พริบตาต่อมาวงแสงสีเงินยักษ์ปกคลุมทุกคน เปล่งแสงระยิบระยับ ต้านภูตผีทั้งหมดไว้

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกมีอำนาจวาจาสูงมากในแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก ทันทีที่นางลงมือ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์สามคนจากแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยกก็ออกมือช่วยกันทันที

“ทุกคนอย่าตระหนก แม้ผีร้ายจะมีเยอะ แต่พวกที่โจมตีเราพร้อมกันก็เป็นแค่ส่วนด้านหน้าสุด”

อาวุธอริยะกระจกฐานหยกของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่หายเข้าไปในอากาศเช่นกัน ผนึกกำลังกับอาวุธอริยะของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ธารหยก เสริมการป้องกันเพิ่มขึ้น

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์หลิงอู่กับเสวี่ยอู่อีกสองคนต่างส่งพลังฤทธิ์เข้าไปในอาวุธอริยะเรื่อยๆ เป็นการเสริมความแกร่ง

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สั่นไหวเบาๆ ก่อนเอ่ยอย่างเย็นชา “ศิษย์เทพสวรรค์ เชิญสายฟ้า!”

ทุกคนรู้ว่าสายฟ้าคือการลงทัณฑ์จากฟ้าดิน

วิชาอัสนีส่วนใหญ่มีชื่อเสียงเรื่องอานุภาพทรงพลัง และวิชาอัสนีเทพสวรรค์ก็เป็นสุดยอดของวิชาอัสนีในใต้หล้า

ไม่ใช่แค่มีพลังทำลายล้างสูงสุดในฟ้าดิน แต่ยังเป็นปฏิปักษ์กับภูตผีปีศาจและผีร้ายอย่างยิ่ง

ตอนนี้หมื่นภูตผีไร้พรมแดนถาโถมเข้ามาใส่ฝ่ายเซียน ศิษย์เทพสวรรค์จึงสู้อย่างไม่ลังเล

“อัสนีเทพมังกรเขียวธาตุไม้ลำดับหนึ่ง!”

“อัสนีเทพวิหคชาดธาตุไฟลำดับสาม!”

“อัสนีเทพงูเหินธาตุไฟลำดับสี่!”

“อัสนีเทพพยัคฆ์ขาวธาตุทองลำดับเจ็ด!”

“อัสนีเทพกำเนิดฟ้าปัญจธาตุเล็ก!”

“กุมอัสนีกำเนิดฟ้า!”

…….

สายฟ้าพุ่งออกมาจากค่ายกลของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ซัดผีร้ายปลิวไปทีละตัว

คนที่แข็งแกร่งในนั้นถึงขั้นฉีกผีร้ายแหลกเป็นชิ้นๆ หลายตัว

ตอนนี้เสิ่นเทียนเองก็ทุ่มกำลังโจมตีเช่นกัน เขาใช้กุมอัสนีไปเรื่อยๆ เหมือนไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

กุมอัสนีทุกลูกในมือเขาจะฉีกร่างผีร้ายหลายตัว แหลกสลายไปกับฟ้าดิน มีอานุภาพทรงพลังยิ่ง

เวลานี้ดึงดูดความสนใจนับไม่ถ้วน

“สมกับเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ศักยภาพไม่ธรรมดาจริงๆ!”

“ศักยภาพเช่นนี้แกร่งกว่าศิษย์สูงสุดของฝ่ายข้าอีก แดนศักดิ์สิทธิ์ก็คือแดนศักดิ์สิทธิ์”

“แม้แต่บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังไม่ยอมแพ้ เราจะยอมแพ้ได้อย่างไร สำแดงวิชา อัดมัน!”

การต่อต้านของสองแดนศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ก็เพื่อนำเหล่าผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนจากแดนเทวาแดนผาสุกอื่น เวลานี้ทุกคนฮึกเหิมขึ้นมาแล้ว

แม้ต้องตายก็จะไม่ยอมให้ลัทธิชั่วร้ายกดขี่ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกัดเนื้อพวกสาวกลัทธิชั่วร้ายออกมาสักสองสามชิ้น

“ภูตผีกากเดนระดับแก่นพลังทองกลุ่มเดียวยังกล้ามาหยาบคายใส่ข้ารึ”

มีเสียงตะโกนทรงอำนาจดังขึ้นกลางกลุ่มคน จากนั้นนักพรตชราที่มีเปลวไฟเทพสีมรกตลุกท่วมทั้งตัวก็พุ่งออกมาจากค่ายกล

เขาพุ่งเข้าไปกลางกองทัพผีร้ายไร้พรมแดนนั้นอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนถูกพลังชั่วร้ายสีดำเข้มข้นจมหายไป

“กระบองตามใจนึก…พลิกเมฆาคว่ำสายฝน!”

เสียงตะโกนดังสนั่นฟ้าดิน ก่อนเห็นว่าตรงกลางพลังชั่วร้ายสีดำที่บดบังฟ้าบังดวงตะวันนั้นเกิดเป็นรูหนึ่ง เงากระบองนับพันนับหมื่นพุ่งออกมาจากพลังชั่วร้ายสีดำนั้น มาพร้อมกับเพลิงสวรรค์ทะเลมรกตสว่างจ้า ทุบผีร้ายนับไม่ถ้วนแหลกสลายไป

มองผ่านรูนั้นยังเห็นเงาสีมรกตร่างหนึ่งกำลังต่อสู้อย่างไร้พ่ายในทหารหลายหมื่น ผ่านไปที่ใดไม่มีผีร้ายขวางเขาไว้ได้เลยแม้แต่ครู่เดียว

“สมกับเป็นศิษย์พี่ฉู่เหอ ไม่อยากเชื่อว่าจะไร้พ่ายในกองทัพภูตผีเช่นนี้!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่เร่งรัดกระจกฐานหยกซ้อนทับกับสมบัติวิเศษประจำตัวของผู้สูงศักดิ์สวรรค์คนอื่น ต่อต้านแรงปะทะทีละระลอกจากกองทัพภูตผีไปพลาง มองร่างของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไปพลาง

ในดวงตานางมีดาวเล็กๆ ระยิบระยับ

ทว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่ได้ไร้พ่ายนานนัก เพราะไม่นานความแกร่งของเขาก็เป็นที่สนใจของกองทัพภูตผี

พลังชั่วร้ายและหมอกเงามืดไม่มีสิ้นสุดเริ่มโอบล้อมผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต เหมือนกับพายุหมุนสีดำความเร็วสูงปิดล้อมผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไว้ตรงกลาง

ตรงกลางพายุหมุนสีดำนั้นมีภูตผีร้ายระดับแก่นพลังทองซ่อนอยู่นับไม่ถ้วน กำลังโจมตีใส่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตอย่างรุนแรงไม่หยุดหย่อน

และที่สำคัญกว่านั้นคือพายุหมุนพลังชั่วร้ายสีดำตัดขาดจากพลังวิญญาณ ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตแทบจะไม่ได้รับพลังงานใดๆ มาเติมเต็มจากข้างนอกเลย

ดังนั้นผ่านไปไม่นาน เพลิงสวรรค์ทะเลมรกตที่ลุกท่วมตัวผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็เริ่มอ่อนแรงลง

ภายใต้การโจมตีแบบเอาชีวิตเข้าแลกของผีร้ายนับไม่ถ้วน ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่ไร้พ่ายอีก แต่มือเท้าพันกันไปหมด

ถึงอย่างไรในพายุสีดำนั้นก็ไม่ได้มีแค่ผีร้ายระดับเดียวกันสิบตัว แต่มีมากกว่าร้อยตัว กระทั่งพันตัว!

“เฮ้ยๆๆ พวกเจ้าพอแล้ว! ข้าเห็นว่าพวกเจ้าน่าสงสาร จะปล่อยพวกเจ้าไปแล้วกัน

เวร ก็บอกว่าจะปล่อยพวกเจ้าไปไง ไฉนยังโจมตีมาอีก ปล่อยข้าออกไป!

ตอนนี้สถานการณ์ข้าไม่ดี เก่งจริงเจ้าก็รอข้าไปเติมพลังก่อนแล้วค่อยมาฆ่าพวกเจ้า!

บ้าเอ๊ยๆๆ ดีเลวอย่างไรก็เป็นผีร้ายระดับแก่นพลังทอง มีเกียรติหน่อยได้หรือไม่ จะต่อยตีก็ต่อยตี มากัดกันนี่มันผีบ้าอะไร จะดูดพลังปราณข้ารึ อย่างพวกเจ้าจะดูดได้หรือ ดูข้าเขมือบแปดทิศก่อนเถอะ!

ถุยๆ รสชาติอย่างกับขี้!

จะกัดตรงนั้นไม่ได้นะ ระยำ ข้าจะเอาจริงกับผีอันธพาลอย่างพวกเจ้าแล้ว!

ศิษย์น้องช่วยข้าด้วยศิษย์น้อง ข้าไม่ไหวแล้ว!”

……..

เสียงร้องโหยหวนของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตดังมาจากในฝูงชน

มองออกว่าเขาอยากจะถอย แต่โดนผีร้ายพวกนั้นตรึงไว้

ทั้งตัวมีแต่รอยฟันสีดำ

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีแววตาจริงจังเล็กน้อย ก่อนจะประสานมุทรา สายฟ้าสีทองพลันกลายเป็นแสงเทพพุ่งออกไป

บึ้ม!

สายฟ้าส่งเสียงดังสนั่น แสงเทพสายฟ้านั้นทะลวงมวลอากาศเข้าไปทำลายพายุสีดำที่รวมจากพลังหยิน พลังชั่วร้ายและพิษร้ายนั้น

อัสนีเทพกำเนิดฟ้าลุกลามผ่านพายุเข้าไปกวาดล้างผีร้ายรอบตัวผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต

“ศิษย์น้องดี ศิษย์น้องเก่งกาจ ศิษย์น้องๆ ยอดเยี่ยม!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังกลัวไม่หาย จึงกลายเป็นแสงเทพสีมรกตหนีออกจากพายุสีดำ

ตอนนี้ชุดเซียนยันต์แปดทิศที่สะอาดของเขายังโดนผีร้ายกัดเละไปหมด ทั้งตัวมีแค่รอยเขี้ยว

และเพราะอานุภาพของอัสนีเทพกำเนิดฟ้ากระจัดกระจายจึงทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเส้นผมตั้งชี้ และยังมีควันลอยโชย

ดูแล้วอนาถมาก

แต่ตอนนี้เองผีร้ายที่ถาโถมเข้ามามืดฟ้ามัวดินนั้น ในที่สุดก็พุ่งเข้ามาหน้ากองกำลังฝ่ายเซียนตรงๆ

บึ้ม~

เหมือนกับพายุคลื่นทะเลชนกับเขื่อน แรงลมโหมกระหน่ำเข้ามา

แม้แต่มิติยังสั่นไหวและปริแตกกระจายในการปะทะ ผีร้ายแต่ละตัวโดนเขตแดนแว้งกัดกลายเป็นผุยผง

ในค่ายกลพิทักษ์เทพสวรรค์ สายฟ้ากลายเป็นสัตว์เทพสิบชนิดเช่นมังกรเขียว พยัคฆ์ขาว วิหคชาด เต่าดำ กิเลน งูเหินและลิ่วเหอแหงนหน้าคำรามขึ้นฟ้า เข้าปะทะกับผีร้ายนับไม่ถ้วน

ในค่ายกลพิทักษ์ธารหยก ประกายเซียนมากมายกลายเป็นพิณโบราณ ผีผา กระจกหยก ปิ่นหงส์ แผ่ท่วงทำนองเทพไร้ที่สิ้นสุด เหมือนกับหุบเหวสวรรค์ตัดการโจมตีทั้งหมด

ผู้แข็งแกร่งจากแดนเทวาและแดนผาสุกคนอื่นยังวางค่ายกลกันสุดกำลัง เพียงเพื่อขวางผีร้ายพวกนี้ไว้ได้ครู่หนึ่ง

แต่ผีร้ายมีจำนวนน่าสะพรึงกลัวเกินไป แม้พวกที่โจมตีค่ายกลจะมีเพียงผีร้ายส่วนเล็กในนั้น แต่ก็ต้านการควบคุมจากในเงามืดไม่ได้!

หลังจากผีร้ายระลอกแรกจู่โจมค่ายกล ค่ายกลยังไม่ทันพักหายใจ ผีร้ายระลอกที่สองก็ตามเข้ามาติดๆ

การโจมตีที่แทบจะไม่มีเวลาให้พักทำให้ค่ายกลแตกสลายไปเรื่อยๆ

แม้กองกำลังฝ่ายเซียนจะวางค่ายกลเร็วมาก แต่ผลข้างเคียงจากการที่ค่ายกลพังลงก็ทำให้หลายคนบาดเจ็บสาหัส แม้แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวที่ใช้วิชาแพทย์ ตอนนี้ก็ยังยุ่งจนหัวหมุน

……

มีร่างคนข้างกายล้มลงทีละคน ทำให้เสิ่นเทียนหน้ามืดลงช้าๆ

เขาไม่ได้พักเลย ยังคงยิงเถากลืนกินเซียนเคลือบด้วยอัคคีอรุณใต้ออกไปกวาดล้างผีร้ายพวกนั้นไม่หยุด

เถากลืนกินเซียนผ่านไปที่ใด ผีร้ายทั้งหมดจะถูกเถากลืนกินเซียนผ่าเป็นสองซีก ก่อนจะถูกอัคคีอรุณใต้แผดเผาสลายไปทั้งหมด

ทว่าสำหรับกองทัพผีร้ายหลายหมื่นแล้ว ผีร้ายแค่นี้ก็ยังเหมือนน้ำน้อยแพ้ไฟอยู่ดี

ทันใดนั้นก็มีผีร้ายจำนวนมากกว่าพุ่งเข้ามากลบพื้นที่ว่างที่เกิดขึ้นจนเต็ม

ฆ่า ฆ่า ฆ่า!

ในสงครามโลหิต เสิ่นเทียนอยู่ในสภาวะที่ทั้งแปลกและพิเศษ

มีเสียงกลองสงครามดังขึ้นในความคิดเขา รู้สึกว่าเลือดกำลังเดือดพล่าน

ตัวเขาเปล่งแสงสีทองอ่อนๆ อีกทั้งยังสว่างขึ้นเรื่อยๆ!

เขารู้สึกเหมือนตนคลำเจอเยื่อบางชั้นหนึ่ง เป็นปราการลึกลับชั้นหนึ่ง

นั่นคือปราการกายทองรอบสาม ก่อนหน้านี้เข้าใกล้แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงก้าวเดียวเท่านั้น!

เมื่อเผชิญหน้ากับพลังชั่วร้ายสีดำที่ถาโถมเข้ามานอกค่ายกล เสิ่นเทียนก้าวออกไปช้าๆ เกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรที่เดิมทีอยู่ในสภาพเกราะชั้นในก็คืนกลับสภาพเดิม

เกราะศักดิ์สิทธิ์สีทองเปล่งประกายแสง บนผิวกายมีสายฟ้าไหลเวียนราวกับเทพลงมาเยือน ข้างหลังมีเงามายาห้าสัตว์เทพแหงนหน้าส่งเสียงคำราม

ตอนนี้เสิ่นเทียนแผ่กระจายพลังสะท้านฟ้า กลายเป็นจุดรวมของสายตาทุกคน ทุกคนต่างจับตามอง!

เสิ่นเทียนเดินอีกก้าวก็มาถึงขอบค่ายกล ห่างจากผีร้ายเพียงจั้งกว่า

ยามเงยหน้ามอง ถึงขั้นสัมผัสได้ถึงพลังชั่วร้ายและสายลมเย็นยะเยือกที่โถมเข้ามา

สองปีกที่เหมือนหลอมขึ้นจากทองคำข้างหลังเขาสยายปีกออก แสงศักดิ์สิทธิ์สาดลงมาไม่มีสิ้นสุด เสริมให้ทั้งตัวเขาองอาจไม่ธรรมดายิ่งกว่าเดิม

“เปลี่ยนเทพสงคราม…เปลี่ยนน้ำมวลหนัก!”

เส้นผมหย่อมหนึ่งกลายเป็นสีขาว พลังรอบตัวเสิ่นเทียนพลันเพิ่มขึ้น ตอนที่กำหมัดขวา แม้แต่มวลอากาศยังสั่นไหว

“กระบี่ฟ้าสังหาร จงออกมา!”

เสียงกระบี่ดังกึกก้องสวรรค์เก้าชั้นปฐพีสิบชั้น ทำให้กระบี่ยาวในมือผู้ฝึกบำเพ็ญเซียนทั้งหมดโดยรอบสั่นไหว

เหมือนกำลังหวาดกลัว!

กระบี่ยาวเล่มหนึ่งโผล่มาในมือเสิ่นเทียนตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ บนตัวกระบี่ยังมีแสงสีแดงกระเพื่อมเหมือนกับสายน้ำ มันส่งเสียงกระบี่กังวาน เหมือนกับเสียงร้องของมังกรและหงส์

ด้านคมกระบี่ของมัน แม้แต่อากาศว่างเปล่ายังถูกฉีกจนเกิดเป็นรอยแยก

มือถือกระบี่ฟ้าสังหาร ปีกเทพทองคำข้างหลังเสิ่นเทียนพลันกางออก

ทั้งตัวเขากลายเป็นแสงเทพสีแดงอมทองพุ่งเข้าไปกลางกองทัพผีร้ายมหาศาลเหล่านั้น

………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+