บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 60 หินแร่จากสนามรบบรรพกาล

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 60 หินแร่จากสนามรบบรรพกาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 60 หินแร่จากสนามรบบรรพกาล
“ท่านเซียน เราคิดถึงท่านมาก!”

“ท่านมาเหตุใดไม่แจ้งข้าก่อนล่ะขอรับ!”

ครั้นเห็นเสิ่นเทียน สี่คนก็รีบตรงเข้ามาต้อนรับเขา

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย รีบพูดว่า “ห้ามมากอดขาอีก!”

สี่คนมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเงียบๆ

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ผลสรุปของการวิเคราะห์ร่วมกันไม่ผิด

จะประจบท่านเซียนเหมือนเดิมเป็นครั้งที่สองไม่ได้

สยงเหมิ่งมีนิสัยตรงไปตรงมาจึงพูดออกมาทันที

“ท่านเซียนรู้อนาคตจริงๆ ท่านมาไขข้อสงสัยให้เราใช่หรือไม่”

เสิ่นเทียนงุนงงเล็กน้อย “ไขข้อสงสัยรึ ไขข้อสงสัยอะไร”

หลิวไท่อี่กล่าว “ท่านเซียนเอ้าเทียนอยู่สูงสุด เราอยากให้เถ้าแก่ซ่งรับตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่ของลัทธิขอรับ”

เถ้าแก่ซ่งรีบส่ายหน้า “มิกล้าๆ ท่านเซียน นะ…นี่มันไม่เหมาะสมเลย!”

เสิ่นเทียนฟังสี่คนเถียงกันพลางรู้สึกว่าเจ้าพวกนี้คงไม่ใช่คนโง่หรอกกระมัง!

ลัทธิปรมาจารย์เซียนอะไร ก็แค่กลุ่มผู้คลั่งไคล้อย่างไม่เป็นทางการข้าไม่ใช่รึ!

ก็แค่ตำแหน่งผู้อาวุโสกลุ่มผู้คลั่งไคล้คนเดียว ควรค่าให้พวกเจ้าแย่งชิงกันรึ

เสิ่นเทียนขบคิดแล้วก็ว่า “ตอนนี้ผู้อาวุโสใหญ่คือใคร”

หลิวไท่อี่ยกมือขึ้นช้าๆ “ตอนนี้ข้ารับหน้าที่อยู่ขอรับ”

เสิ่นเทียนถามอีก “แล้วเหตุใดต้องให้เถ้าแก่ซ่งล่ะ”

หลิวไท่อี่ตอบอย่างจริงจัง “ข้าน้อยไร้คุณธรรมไร้ความสามารถ ไม่มีหน้าครองตำแหน่งเป็นหมาหวงก้างจริงๆ เถ้าแก่ซ่งเป็นเถ้าแก่น้ำดีที่มีชื่อเสียงของสวนหมื่นวิญญาณเรา

ถ้าเขารับตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่ ภายภาคหน้าลัทธิปรมาจารย์เซียนเราก็จะมีเงินทุน อีกอย่าง พี่น้องในลัทธิซื้อแร่วิญญาณยังได้ลดราคาด้วย แบบนี้จะดึงดูดให้พี่น้องมาร่วมลัทธิเรามากขึ้นไปอีก”

หลิวไท่อี่พูดจบ เถ้าแก่ซ่งหน้าดำขึ้นหลายระดับ

‘เหอะๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้ามันต้องมีเจตนาไม่ดี บอกจะให้ข้าเป็นผู้มีอำนาจของลัทธิปรมาจารย์เซียน มันก็แค่อยากให้ข้าเป็นคนโดนเอาเปรียบไม่ใช่รึ

คอยหมุนเวียนเงินทุนให้ลัทธิปรมาจารย์เซียนหรือ?’

เถ้าแก่ซ่งสื่อว่าต้องการให้เสิ่นเทียนพูดบ้าง

ไม่ว่าจะศิลาวิญญาณกี่ก้อนเขาก็ยินดีประเคนให้ เพราะนั่นคือการขอวาสนา

ปัญหาคือ สมาชิกพวกนั้นในลัทธิปรมาจารย์เซียนเป็นเพียงผู้มีวาสนาของท่านเซียนเท่านั้น

พวกเขาไม่ได้สนิทสนมกับเถ้าแก่ซ่ง มีสิทธิ์อะไรจะได้ลดราคา

เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าเจ้าพวกนี้อยากจะเอาเปรียบข้า!

……

เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย “มันก็มีเหตุผลอยู่บ้าง เถ้าแก่ซ่งเจ้าคิดว่าอย่างไร!”

ถ้าเสิ่นเทียนไม่อยู่ เถ้าแก่ซ่งจะปฏิเสธอย่างไม่ลังเลแน่นอน ปัญหาคือท่านเซียนเหมือนจะรู้อนาคตถึงได้มาถามด้วยตนเอง นี่ทำให้เถ้าแก่ซ่งอดเกิดความคิดบางอย่างขึ้นในใจมิได้

หรือท่านเซียนกำลังทดสอบความซื่อสัตย์ของข้าอยู่ ว่ายินดีจะถวายตัวเองเพื่อลัทธิปรมาจารย์เซียนหรือไม่?

พอนึกถึงตรงนี้ เถ้าแก่ซ่งก็กัดฟัน

ขอแค่ได้ต่อวาสนากับท่านเซียน ข้าขอสู้สุดใจ!

เขาพยักหน้าว่า “ข้ายินดีสร้างคุณูปการเพื่อลัทธิเรา ถ้าข้าเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของลัทธิ ก็ยินดีจะแบกรับเงินทุนทั้งหมดของลัทธิ อย่างเช่นสาวกลัทธิค้นวิญญาณประเมินแร่ในร้านข้า จะได้สิทธิพิเศษแปดจุดแปด!

อย่างเช่นสาวกลัทธิเปิดได้ของดีในร้านข้า จะลดค่าผ่าหินให้ครึ่งหนึ่ง”

…..

พอได้ฟังปณิธานอันยิ่งใหญ่ของเถ้าแก่ซ่งแล้ว

เสิ่นเทียนอึ้งไปเลย

ใช้ได้เลย!

ตาแก่นี่ไม่เสียดายเลยหรือ!

แม้กำไรของร้านแร่วิญญาณจะมากน่าดูจริงๆ แต่การลดราคาอย่างเถ้าแก่ซ่งคงมีรายได้ลดน้อยลงมากในช่วงเวลาสั้นๆ แน่นอนถ้าลัทธิปรมาจารย์เซียนยิ่งใหญ่ก็จะมีลูกค้ามาร้านวิญญาณสวรรค์จำนวนมาก

ส่วนได้ส่วนเสียในนั้น ต้องดูว่าจากนี้ลัทธิปรมาจารย์เซียนจะพัฒนาไปเป็นอย่างไร

ไม่ว่าอย่างไร สำหรับเถ้าแก่ซ่งแล้วนี่คือการเดิมพันกล้าได้กล้าเสีย

มีความเด็ดขาดแบบนี้ได้ ตาแก่นี่ไม่ธรรมดาเลย!

“ถ้าอย่างนั้นก็ให้เถ้าแก่ซ่งเป็นผู้อาวุโสใหญ่แล้วกัน!”

เสิ่นเทียนตอบตกลงคำร้องขอของเถ้าแก่ซ่งด้วยความซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ส่วนเถ้าแก่ซ่งน้ำตาปริ่ม รู้สึกว่าหัวใจกำลังหลั่งเลือด

ทว่าขอแค่ท่านเซียนมีความสุขก็คุ้มค่า!

…….

จางอวิ๋นซีที่อยู่ข้างๆ เห็นท่าทางของพวกเถ้าแก่ซ่งแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

จากประสบการณ์ปราบลัทธิชั่วร้ายทุกแห่งหนในแดนบูรพาตลอดหลายปีมานี้ นางรู้สึกว่าสี่คนนี้คือสาวกลัทธิชั่วร้ายอย่างแน่นอน

เลื่อมใสคนคนหนึ่งด้วยความบ้าคลั่ง ไร้สติและรุนแรง ให้ความสำคัญกับการถวายผลประโยชน์ของตัวเองเพื่อลัทธิ

นี่มันหลักการของลัทธิวิญญาณร้ายชัดๆ!

แต่จางอวิ๋นซีเคยเฝ้าสังเกตเสิ่นเทียนอย่างละเอียดมาแล้ว ไม่มีปัญหาแน่นอน

แปลกนัก ตกลงเจ้านี่สมคบคิดกับลัทธิวิญญาณร้ายหรือไม่กันแน่!

สังเกตต่อไปอีกสักระยะ ดูว่าเขาจะค้นวิญญาณประเมินแร่ได้จริงๆ หรือไม่!

จางอวิ๋นซีแอบตัดสินใจเงียบๆ ในใจ “สหาย จะเริ่มค้นวิญญาณประเมินแร่ได้เลยหรือไม่”

“ได้ ท่านเซียนรอประเดี๋ยว”

เสิ่นเทียนตั้งสติกลับมาก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย

ระหว่างทางมาเมื่อครู่ เขากัดฟันยืนหยัดตลอด จนในที่สุดก็เห็นโชคลิขิตเหนือศีรษะจางอวิ๋นซีชัดเจน เขาเดินช้าๆ มาค้นหาบนชั้นวางสินค้าแร่วิญญาณข้างๆ

ไม่นานก็มาหยุดอยู่หน้าหินแร่วิญญาณสูงราวหนึ่งเมตรก้อนหนึ่ง

หินแร่ก้อนนี้ออกเป็นสีม่วงทุกส่วน ด้านบนมีลวดลายบางๆ

และที่ดึงดูดความสนใจที่สุดคือ ผิวหินแร่ก้อนนี้เต็มไปด้วยรอยแตก ดูเหมือนใยแมงมุม เหมือนจะแตกได้ตลอดเวลา พอเห็นเสิ่นเทียนมองหินแร่วิญญาณก้อนนี้แล้ว เถ้าแก่ซ่งก็เดินเข้ามาอธิบาย

“ท่านเซียนตาแหลมมาก หินแร่วิญญาณก้อนนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังใหญ่โต นี่คือหินแร่ที่ขุดมาจากสนามรบบรรพกาล! และก็เป็นสมบัติประจำร้านเราด้วย!”

…….

หินแร่นี้มาจากสนามรบบรรพกาลหรือ

เมื่อได้ฟังเถ้าแก่ซ่งอธิบายที่มาของหินแร่แล้ว ทุกคนต่างตกใจ

สนามรบบรรพกาลที่ว่าหมายถึงสนามรบโบราณใกล้ๆ ทางตะวันออกของอาณาจักรต้าเหยียน

เล่าลือว่าเมื่อหมื่นปีก่อน ที่นั่นคือสนามรบระหว่างทุกแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพากับมารร้ายต่างแดน

เคยมีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนตายที่นั่น ทิ้งสมบัติล้ำค่าสุดยอดกับมรดกวิชาเอาไว้มากมาย

แน่นอน เนื่องจากผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงตายเมื่อปีก่อนมากเกินไป กลิ่นอายชั่วร้ายจึงสะเทือนฟ้า

ในนั้นกำเนิดวัตถุชั่วร้ายที่น่ากลัวเหลือคนานับ ก่อให้เกิดอันตรายทุกแห่งหน

ในทุกปีทุกสำนักใหญ่ๆ จะมีผู้บำเพ็ญเข้าไปฝึกบำเพ็ญในนั้น ถ้าคนพวกนี้ดวงดีก็อาจเจอโชควาสนาครั้งใหญ่ ได้ผงาดขึ้นเป็นใหญ่

ถ้าโชคไม่ดีก็อาจจะสิ้นชีพลง

หินแร่สงครามบรรพกาลจำนวนมากก็ได้มาเพราะเหตุนี้เอง

หินแร่เมื่อหมื่นปีก่อน ในนั้นมีอะไรไม่มีใครรู้

แต่นี่ไม่ได้ขัดขวางผู้บำเพ็ญที่มีแร่ในตระกูลมากมายให้แห่แหนกันมาชิงสิ่งที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม

เพราะของบางอย่างเช่นโอสถวิญญาณ สมบัติวิญญาณ จะอยู่รอดในช่วงหมื่นปีได้ยากมาก ทว่าก็มีสมบัติล้ำค่าชั้นยอดส่วนมากที่ทนช่วงเวลาหมื่นปีมาได้อย่างง่ายดาย

อย่างเช่นโอสถศักดิ์สิทธิ์กับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือกว่าโอสถวิญญาณและสมบัติวิญญาณ ก็เป็นสมบัติล้ำค่าสุดยอดในรายนามสมบัติอัศจรรย์

บางทีอาจจะมีบันทึกม้วนหยกหรือหยกประดับที่ถ่ายทอดวิชาเอาไว้ ไปจนถึงคัมภีร์จักรพรรดิบรรพกาลไร้ผู้สืบทอดที่ล้ำค่าเหนือสิ่งใด

เล่าลือกันว่าหินแร่ที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ท่านนั้นแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงเปิดได้ ‘คัมภีร์จักรพรรดินิพพานอมตะ’ ก็ขุดมาจากสนามรบบรรพกาลอีกแห่งใกล้ๆ กับแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง!

ตอนนั้นที่มรดกนี้ถูกค้นพบ ทั้งแดนบูรพาสั่นสะเทือน

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงท่านนั้นยังถูกแต่งตั้งขึ้นแท่นบูชาเทพด้วย

ทุกคนต่างคิดว่าเขาคือบุตรแห่งโชคที่จะถือกำเนิดมาในรอบร้อยปีของแดนบูรพา

ถึงอย่างไร คัมภีร์จักรพรรดิฉบับสมบูรณ์ก็แทบจะค้ำจุนได้ทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์บำเพ็ญเซียนหนึ่งแห่ง

แม้นบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงจะได้รับเพียงม้วนแรกของคัมภีร์นิพพานก็ตาม แต่นั่นก็มากพอจะทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงเปลี่ยนไปราวพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน

โชคลิขิตเช่นนี้ มีศิลาวิญญาณผลึกวิญญาณเท่าไรก็ไม่อาจเทียบได้

และหินแร่ลายใยแมงมุมสีม่วงก้อนนี้ที่เสิ่นเทียนจะผ่าออกมา ก็มาจากสนามรบบรรพกาลใกล้ๆ กับอาณาจักรต้าเหยียน!

ราคาขาย ‘หนึ่งแสนก้อนศิลาวิญญาณ!’

………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอนบทที่ 60 หินแร่จากสนามรบบรรพกาล

Now you are reading บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน Chapter บทที่ 60 หินแร่จากสนามรบบรรพกาล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 60 หินแร่จากสนามรบบรรพกาล
“ท่านเซียน เราคิดถึงท่านมาก!”

“ท่านมาเหตุใดไม่แจ้งข้าก่อนล่ะขอรับ!”

ครั้นเห็นเสิ่นเทียน สี่คนก็รีบตรงเข้ามาต้อนรับเขา

เสิ่นเทียนมุมปากกระตุกเล็กน้อย รีบพูดว่า “ห้ามมากอดขาอีก!”

สี่คนมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเงียบๆ

เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ ผลสรุปของการวิเคราะห์ร่วมกันไม่ผิด

จะประจบท่านเซียนเหมือนเดิมเป็นครั้งที่สองไม่ได้

สยงเหมิ่งมีนิสัยตรงไปตรงมาจึงพูดออกมาทันที

“ท่านเซียนรู้อนาคตจริงๆ ท่านมาไขข้อสงสัยให้เราใช่หรือไม่”

เสิ่นเทียนงุนงงเล็กน้อย “ไขข้อสงสัยรึ ไขข้อสงสัยอะไร”

หลิวไท่อี่กล่าว “ท่านเซียนเอ้าเทียนอยู่สูงสุด เราอยากให้เถ้าแก่ซ่งรับตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่ของลัทธิขอรับ”

เถ้าแก่ซ่งรีบส่ายหน้า “มิกล้าๆ ท่านเซียน นะ…นี่มันไม่เหมาะสมเลย!”

เสิ่นเทียนฟังสี่คนเถียงกันพลางรู้สึกว่าเจ้าพวกนี้คงไม่ใช่คนโง่หรอกกระมัง!

ลัทธิปรมาจารย์เซียนอะไร ก็แค่กลุ่มผู้คลั่งไคล้อย่างไม่เป็นทางการข้าไม่ใช่รึ!

ก็แค่ตำแหน่งผู้อาวุโสกลุ่มผู้คลั่งไคล้คนเดียว ควรค่าให้พวกเจ้าแย่งชิงกันรึ

เสิ่นเทียนขบคิดแล้วก็ว่า “ตอนนี้ผู้อาวุโสใหญ่คือใคร”

หลิวไท่อี่ยกมือขึ้นช้าๆ “ตอนนี้ข้ารับหน้าที่อยู่ขอรับ”

เสิ่นเทียนถามอีก “แล้วเหตุใดต้องให้เถ้าแก่ซ่งล่ะ”

หลิวไท่อี่ตอบอย่างจริงจัง “ข้าน้อยไร้คุณธรรมไร้ความสามารถ ไม่มีหน้าครองตำแหน่งเป็นหมาหวงก้างจริงๆ เถ้าแก่ซ่งเป็นเถ้าแก่น้ำดีที่มีชื่อเสียงของสวนหมื่นวิญญาณเรา

ถ้าเขารับตำแหน่งผู้อาวุโสใหญ่ ภายภาคหน้าลัทธิปรมาจารย์เซียนเราก็จะมีเงินทุน อีกอย่าง พี่น้องในลัทธิซื้อแร่วิญญาณยังได้ลดราคาด้วย แบบนี้จะดึงดูดให้พี่น้องมาร่วมลัทธิเรามากขึ้นไปอีก”

หลิวไท่อี่พูดจบ เถ้าแก่ซ่งหน้าดำขึ้นหลายระดับ

‘เหอะๆ ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้ามันต้องมีเจตนาไม่ดี บอกจะให้ข้าเป็นผู้มีอำนาจของลัทธิปรมาจารย์เซียน มันก็แค่อยากให้ข้าเป็นคนโดนเอาเปรียบไม่ใช่รึ

คอยหมุนเวียนเงินทุนให้ลัทธิปรมาจารย์เซียนหรือ?’

เถ้าแก่ซ่งสื่อว่าต้องการให้เสิ่นเทียนพูดบ้าง

ไม่ว่าจะศิลาวิญญาณกี่ก้อนเขาก็ยินดีประเคนให้ เพราะนั่นคือการขอวาสนา

ปัญหาคือ สมาชิกพวกนั้นในลัทธิปรมาจารย์เซียนเป็นเพียงผู้มีวาสนาของท่านเซียนเท่านั้น

พวกเขาไม่ได้สนิทสนมกับเถ้าแก่ซ่ง มีสิทธิ์อะไรจะได้ลดราคา

เห็นกันอยู่ทนโท่ว่าเจ้าพวกนี้อยากจะเอาเปรียบข้า!

……

เสิ่นเทียนพยักหน้าเล็กน้อย “มันก็มีเหตุผลอยู่บ้าง เถ้าแก่ซ่งเจ้าคิดว่าอย่างไร!”

ถ้าเสิ่นเทียนไม่อยู่ เถ้าแก่ซ่งจะปฏิเสธอย่างไม่ลังเลแน่นอน ปัญหาคือท่านเซียนเหมือนจะรู้อนาคตถึงได้มาถามด้วยตนเอง นี่ทำให้เถ้าแก่ซ่งอดเกิดความคิดบางอย่างขึ้นในใจมิได้

หรือท่านเซียนกำลังทดสอบความซื่อสัตย์ของข้าอยู่ ว่ายินดีจะถวายตัวเองเพื่อลัทธิปรมาจารย์เซียนหรือไม่?

พอนึกถึงตรงนี้ เถ้าแก่ซ่งก็กัดฟัน

ขอแค่ได้ต่อวาสนากับท่านเซียน ข้าขอสู้สุดใจ!

เขาพยักหน้าว่า “ข้ายินดีสร้างคุณูปการเพื่อลัทธิเรา ถ้าข้าเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของลัทธิ ก็ยินดีจะแบกรับเงินทุนทั้งหมดของลัทธิ อย่างเช่นสาวกลัทธิค้นวิญญาณประเมินแร่ในร้านข้า จะได้สิทธิพิเศษแปดจุดแปด!

อย่างเช่นสาวกลัทธิเปิดได้ของดีในร้านข้า จะลดค่าผ่าหินให้ครึ่งหนึ่ง”

…..

พอได้ฟังปณิธานอันยิ่งใหญ่ของเถ้าแก่ซ่งแล้ว

เสิ่นเทียนอึ้งไปเลย

ใช้ได้เลย!

ตาแก่นี่ไม่เสียดายเลยหรือ!

แม้กำไรของร้านแร่วิญญาณจะมากน่าดูจริงๆ แต่การลดราคาอย่างเถ้าแก่ซ่งคงมีรายได้ลดน้อยลงมากในช่วงเวลาสั้นๆ แน่นอนถ้าลัทธิปรมาจารย์เซียนยิ่งใหญ่ก็จะมีลูกค้ามาร้านวิญญาณสวรรค์จำนวนมาก

ส่วนได้ส่วนเสียในนั้น ต้องดูว่าจากนี้ลัทธิปรมาจารย์เซียนจะพัฒนาไปเป็นอย่างไร

ไม่ว่าอย่างไร สำหรับเถ้าแก่ซ่งแล้วนี่คือการเดิมพันกล้าได้กล้าเสีย

มีความเด็ดขาดแบบนี้ได้ ตาแก่นี่ไม่ธรรมดาเลย!

“ถ้าอย่างนั้นก็ให้เถ้าแก่ซ่งเป็นผู้อาวุโสใหญ่แล้วกัน!”

เสิ่นเทียนตอบตกลงคำร้องขอของเถ้าแก่ซ่งด้วยความซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ส่วนเถ้าแก่ซ่งน้ำตาปริ่ม รู้สึกว่าหัวใจกำลังหลั่งเลือด

ทว่าขอแค่ท่านเซียนมีความสุขก็คุ้มค่า!

…….

จางอวิ๋นซีที่อยู่ข้างๆ เห็นท่าทางของพวกเถ้าแก่ซ่งแล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

จากประสบการณ์ปราบลัทธิชั่วร้ายทุกแห่งหนในแดนบูรพาตลอดหลายปีมานี้ นางรู้สึกว่าสี่คนนี้คือสาวกลัทธิชั่วร้ายอย่างแน่นอน

เลื่อมใสคนคนหนึ่งด้วยความบ้าคลั่ง ไร้สติและรุนแรง ให้ความสำคัญกับการถวายผลประโยชน์ของตัวเองเพื่อลัทธิ

นี่มันหลักการของลัทธิวิญญาณร้ายชัดๆ!

แต่จางอวิ๋นซีเคยเฝ้าสังเกตเสิ่นเทียนอย่างละเอียดมาแล้ว ไม่มีปัญหาแน่นอน

แปลกนัก ตกลงเจ้านี่สมคบคิดกับลัทธิวิญญาณร้ายหรือไม่กันแน่!

สังเกตต่อไปอีกสักระยะ ดูว่าเขาจะค้นวิญญาณประเมินแร่ได้จริงๆ หรือไม่!

จางอวิ๋นซีแอบตัดสินใจเงียบๆ ในใจ “สหาย จะเริ่มค้นวิญญาณประเมินแร่ได้เลยหรือไม่”

“ได้ ท่านเซียนรอประเดี๋ยว”

เสิ่นเทียนตั้งสติกลับมาก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย

ระหว่างทางมาเมื่อครู่ เขากัดฟันยืนหยัดตลอด จนในที่สุดก็เห็นโชคลิขิตเหนือศีรษะจางอวิ๋นซีชัดเจน เขาเดินช้าๆ มาค้นหาบนชั้นวางสินค้าแร่วิญญาณข้างๆ

ไม่นานก็มาหยุดอยู่หน้าหินแร่วิญญาณสูงราวหนึ่งเมตรก้อนหนึ่ง

หินแร่ก้อนนี้ออกเป็นสีม่วงทุกส่วน ด้านบนมีลวดลายบางๆ

และที่ดึงดูดความสนใจที่สุดคือ ผิวหินแร่ก้อนนี้เต็มไปด้วยรอยแตก ดูเหมือนใยแมงมุม เหมือนจะแตกได้ตลอดเวลา พอเห็นเสิ่นเทียนมองหินแร่วิญญาณก้อนนี้แล้ว เถ้าแก่ซ่งก็เดินเข้ามาอธิบาย

“ท่านเซียนตาแหลมมาก หินแร่วิญญาณก้อนนี้มีเบื้องลึกเบื้องหลังใหญ่โต นี่คือหินแร่ที่ขุดมาจากสนามรบบรรพกาล! และก็เป็นสมบัติประจำร้านเราด้วย!”

…….

หินแร่นี้มาจากสนามรบบรรพกาลหรือ

เมื่อได้ฟังเถ้าแก่ซ่งอธิบายที่มาของหินแร่แล้ว ทุกคนต่างตกใจ

สนามรบบรรพกาลที่ว่าหมายถึงสนามรบโบราณใกล้ๆ ทางตะวันออกของอาณาจักรต้าเหยียน

เล่าลือว่าเมื่อหมื่นปีก่อน ที่นั่นคือสนามรบระหว่างทุกแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพากับมารร้ายต่างแดน

เคยมีผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนตายที่นั่น ทิ้งสมบัติล้ำค่าสุดยอดกับมรดกวิชาเอาไว้มากมาย

แน่นอน เนื่องจากผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงตายเมื่อปีก่อนมากเกินไป กลิ่นอายชั่วร้ายจึงสะเทือนฟ้า

ในนั้นกำเนิดวัตถุชั่วร้ายที่น่ากลัวเหลือคนานับ ก่อให้เกิดอันตรายทุกแห่งหน

ในทุกปีทุกสำนักใหญ่ๆ จะมีผู้บำเพ็ญเข้าไปฝึกบำเพ็ญในนั้น ถ้าคนพวกนี้ดวงดีก็อาจเจอโชควาสนาครั้งใหญ่ ได้ผงาดขึ้นเป็นใหญ่

ถ้าโชคไม่ดีก็อาจจะสิ้นชีพลง

หินแร่สงครามบรรพกาลจำนวนมากก็ได้มาเพราะเหตุนี้เอง

หินแร่เมื่อหมื่นปีก่อน ในนั้นมีอะไรไม่มีใครรู้

แต่นี่ไม่ได้ขัดขวางผู้บำเพ็ญที่มีแร่ในตระกูลมากมายให้แห่แหนกันมาชิงสิ่งที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม

เพราะของบางอย่างเช่นโอสถวิญญาณ สมบัติวิญญาณ จะอยู่รอดในช่วงหมื่นปีได้ยากมาก ทว่าก็มีสมบัติล้ำค่าชั้นยอดส่วนมากที่ทนช่วงเวลาหมื่นปีมาได้อย่างง่ายดาย

อย่างเช่นโอสถศักดิ์สิทธิ์กับสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่เหนือกว่าโอสถวิญญาณและสมบัติวิญญาณ ก็เป็นสมบัติล้ำค่าสุดยอดในรายนามสมบัติอัศจรรย์

บางทีอาจจะมีบันทึกม้วนหยกหรือหยกประดับที่ถ่ายทอดวิชาเอาไว้ ไปจนถึงคัมภีร์จักรพรรดิบรรพกาลไร้ผู้สืบทอดที่ล้ำค่าเหนือสิ่งใด

เล่าลือกันว่าหินแร่ที่บุตรศักดิ์สิทธิ์ท่านนั้นแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงเปิดได้ ‘คัมภีร์จักรพรรดินิพพานอมตะ’ ก็ขุดมาจากสนามรบบรรพกาลอีกแห่งใกล้ๆ กับแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วง!

ตอนนั้นที่มรดกนี้ถูกค้นพบ ทั้งแดนบูรพาสั่นสะเทือน

บุตรศักดิ์สิทธิ์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงท่านนั้นยังถูกแต่งตั้งขึ้นแท่นบูชาเทพด้วย

ทุกคนต่างคิดว่าเขาคือบุตรแห่งโชคที่จะถือกำเนิดมาในรอบร้อยปีของแดนบูรพา

ถึงอย่างไร คัมภีร์จักรพรรดิฉบับสมบูรณ์ก็แทบจะค้ำจุนได้ทั้งแดนศักดิ์สิทธิ์บำเพ็ญเซียนหนึ่งแห่ง

แม้นบุตรศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงจะได้รับเพียงม้วนแรกของคัมภีร์นิพพานก็ตาม แต่นั่นก็มากพอจะทำให้แดนศักดิ์สิทธิ์เคหาสน์ม่วงเปลี่ยนไปราวพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน

โชคลิขิตเช่นนี้ มีศิลาวิญญาณผลึกวิญญาณเท่าไรก็ไม่อาจเทียบได้

และหินแร่ลายใยแมงมุมสีม่วงก้อนนี้ที่เสิ่นเทียนจะผ่าออกมา ก็มาจากสนามรบบรรพกาลใกล้ๆ กับอาณาจักรต้าเหยียน!

ราคาขาย ‘หนึ่งแสนก้อนศิลาวิญญาณ!’

………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+