ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 616 ฝักกระบี่สาสน์พุทธะ

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 616 ฝักกระบี่สาสน์พุทธะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 616 ฝักกระบี่สาสน์พุทธะ

ของรางวัลที่จางซานเฟิงมอบให้ เป็นฝักกระบี่แบบเปิดปิดได้เล่มหนึ่ง มีตัวอักษรคาถาสีทองหกตัว ด้านบนของฝักกระบี่เป็นรูปพระพุทธรูปนั่งสมาธิ ตรงหูฝักเป็นห่วงสีทอง ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เหมือนเป็นอาวุธของชาวพุทธ ไม่ใช่ของลัทธิเต๋า

จางซานเฟิงใช้สองมือยื่นฝักกระบี่หนาหนักมาตรงหน้าเยี่ยเว่ยหมิง แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “จอมยุทธ์น้อยเยี่ย สมัยหนุ่มๆ ข้าได้ฝักกระบี่เล่มนี้มาจากหลวงจีนอวิ๋นโหยว ในนั้นมีความลึกลับอัศจรรย์ เพียงแต่สำนักอู่ตังคือสำนักเต๋า ไม่มีใครที่ได้ใช้งานมัน ถึงได้เป็นของล้ำค่าที่ฝุ่นเกาะมาตลอด…

…ข้าเห็นว่าช่วงนี้พุทธธรรมของจอมยุทธ์น้อยเยี่ยก้าวหน้าไวมาก ของสิ่งนี้เข้ากันได้ดีมาก ข้าจึงมอบให้ หวังว่าจะช่วยอะไรจอมยุทธ์น้อยเยี่ยได้บ้าง…

…ต้องรู้ไว้ว่าฝักกระบี่นี้เป็นเพียงอุปกรณ์ทั่วไปเท่านั้น ไม่ได้ขัดกับกระบี่อาญาสิทธิ์ของเจ้า”

เป็นฝักกระบี่ที่มีค่าสเตตัสพิเศษหรือ

เยี่ยเว่ยหมิงรับมาด้วยความสงสัยเล็กน้อย หลังจากอ่านค่าสเตตัสปราดหนึ่งก็เผยสีหน้าดีใจอย่างบ้าคลั่ง

[ฝักกระบี่สาสน์พุทธะ (อาวุธล้ำค่า)] เดิมทีเป็นของล้ำค่าของชาวพุทธ แต่ด้วยเหตุผลพิเศษบางอย่าง ทำให้แยกจากกับกระบี่ล้ำค่าในนั้น ตอนนี้เหลือเพียงฝักเท่านั้น ยามปกติหากเก็บรักษากระบี่ไว้ในนั้นและและพกติดตัว ความผุดผ่องแห่งนิพพานที่แฝงอยู่ในฝักกระบี่จะสลายกลิ่นอายชั่วร้ายที่แปดเปื้อนอยู่บนคมกระบี่

เอฟเฟ็กต์พิเศษ: ตัดกรรม อุบัติสุขาวดี

ตัดกรรม: ยามปกติหากเก็บรักษากระบี่ล้ำค่าไว้ในฝักกระบี่นี้ หลังจากเปิดใช้งานแล้วจะได้รับเอฟเฟ็กต์พิเศษ ‘ตัดกรรม’ ฆ่าคนแล้วไม่ติดกรรม (ไม่หักค่าบุญกุศล ไม่เพิ่มค่าบาปกรรม)

หมายเหตุ: อาวุธที่ใช้ฆ่าคน ต้องใช้พุทธธรรมชำระล้างอย่างสม่ำเสมอ อย่านำออกจากฝักง่ายๆ เก็บกระบี่ล้ำค่าไว้ในฝักสิบนาที จะได้รับผลตัดกรรมหนึ่งนาที ซ้อนทับระยะเวลาได้มากที่สุดไม่เกินหนึ่งชั่วโมง

หมายเหตุ: หากกรอกกำลังภายในเข้าไปในฝักกระบี่ จะกระตุ้นให้กลไกภายในใช้ ‘คาถาอุบัติสุขาวดี’ ผลลัพธ์โปรดวิญญาณเพิ่มขึ้นสองเท่า! (หมายเหตุ: หากต้องการใช้ฟังก์ชันนี้ ผู้เล่นจะต้องมีทักษะ ‘โปรดวิญญาณ ไม่อย่างนั้น 0×2 ก็ยังเท่ากับ 0)

เงื่อนไขการใช้งานอุปกรณ์: เลเวลพุทธธรรมไม่ต่ำกว่า 8!

ฝักกระบี่ชิ้นนี้เหมือนวัดตัวสร้างให้เยี่ยเว่ยหมิงแท้ๆ เลย!

อุบัติสุขาวดี: ใช้กำลังภายในกระตุ้น ‘คาถาอุบัติสุขาวดี’ ได้ ไม่ต้องท่องคาถาเอง

สำหรับคาถาที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกไม่คล่องปาก นี่นับเป็นข่าวดีมากจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น ค่าสเตตัสที่มีผลการโปรดวิญญาณสองเท่านั่นก็สุดยอดจริงๆ!

ตัดกรรม: ฆ่าคนไม่หักบุญกุศล ไม่เพิ่มค่าบาปกรรม!

ประกอบกับจุดเด่นที่ทำให้ใช้งานกระบี่อาญาสิทธิ์แล้วไม่หักค่าวีรบุรุษ ผลลัพธ์นั่น…

เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าตัวเองเจ๋งที่สุดแล้ว!

หลังจากตั้งใจเลือกแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็เก็บกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงที่มีค่าสเตตัสยอดเยี่ยมที่สุดในตอนนี้เข้าฝักกระบี่สาสน์พุทธะ จากนั้นก็พูดคุยกับจางซานเฟิงอีกนานมาก เมื่อเห็นว่าจางอู๋จี้ไม่มีเค้าลางว่าอาการป่วยจะกำเริบ ก็รู้แล้วว่าตนอาจไม่ได้รับภารกิจภาคต่อได้ง่ายๆ ทำได้เพียงกล่าวอำลาอย่างจนใจ

ทันทีที่เงาร่างของเขาเพิ่งถูกส่งออกไปจากจุดพักม้า จางอู๋จี้ที่หลบอยู่ในอ้อมอกอินซู่ซู่กลับตัวสั่นขึ้นมาฉับพลัน “ท่านแม่ ข้าหนาว…”

….

ภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว แต่เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้รีบกลับสำนักมือปราบเทพไปรับรางวัลภารกิจ ถึงอย่างไรรางวัลก็ยังอยู่ที่เดิม ไม่หนีไปไหนแน่นอน

ก่อนที่จะรับรางวัล เขาไปตามหาสถานที่ที่มีธรรมชาติงดงามก่อน จากนั้นล้างกระบี่ไร้ลักษณ์ในแม่น้ำให้สะอาด แล้วถือโอกาสทดสอบประสิทธิภาพฝักกระบี่สาสน์พุทธะ ทำงานโปรดวิญญาณอาคันตุกะไม้เท้ากวางสำเร็จอย่างรวดเร็ว

ในขั้นตอนการโปรดวิญญาณ เยี่ยเว่ยหมิงได้รับค่าวีรบุรุษ 233 แต้ม ค่าบุญกุศล 233 แต้ม

ตอนนี้ถึงได้นับว่าบีบคั้นมูลค่าบนตัวอาคันตุกะไม้เท้ากวางออกมาจนหมดแล้ว

พอกลับมาถึงสำนักมือปราบเทพอีกครั้ง เยี่ยเว่ยหมิงก็โยน ‘ถุงมือพิษเกาหลี’ ที่ดรอปจากอาคันตุกะไม้เท้ากวางเข้าห้องเก็บของก่อน เสร็จแล้วจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้เรียบร้อย ก่อนจะมาถึงห้องประชุมของหวงโส่วจุน

เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงที่ดูกระฉับกระเฉง บนใบหน้าหวงโส่วจุนก็เผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา “ตอนนี้สำนักอู่ตังกับสำนักมือปราบเทพเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นต่อกันแล้ว ต้องกล่าวว่าเจ้าทำภารกิจครั้งนี้ได้อย่างงดงาม ข้าพอใจมาก!”

เยี่ยเว่ยหมิงกุมหมัดคารวะ พร้อมกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เป็นเรื่องที่อยู่ในความรับผิดชอบของผู้น้อยอยู่แล้วขอรับ”

“ไม่ต้องถ่อมตัวแล้ว” หวงโส่วจุนโบกมือ บอกว่า “ตอนนี้ในใจของเจ้าคงเริงร่าเหมือนดอกไม้บานล่ะสิ”

หวงโส่วจุนกล่าวพลางโบกมือหนึ่งครั้ง กระดาษสองแผ่นพลันพุ่งเข้ามาหาเยี่ยเว่ยหมิงราวกับเป็นอาวุธลับ “นี่ก็คือรางวัลภารกิจของเจ้า รับไป!” ไอรีนโนเวล

พอได้ยินว่าเป็นรางวัลภารกิจ เยี่ยเว่ยหมิงก็ตาเป็นประกายทันที รีบยื่นสองมือเข้าไปรับ

เป็นอย่างที่คาดไว้ กระดาษสองแผ่นนั้นดูเหมือนมีพลังเต็มเปี่ยม หลังจากตกลงในมือแล้ว กลับไม่ทำให้เขารู้สึกถึงแรงใดๆ

[ท่ากดกระบี่: เมื่อเจอท่าไม้ตายที่ดุดันรับมือยาก กดคมของมันก่อน แล้วค่อยๆ คิดหาวิธี]

[ท่าตัดกระบี่: ตีงูต้องตีที่หลังหัวเจ็ดชุ่น คนเราล้วนมีจุดอ่อน กระบวนท่าก็มีกุญแจสำคัญเช่นกัน ขอเพียงมองวิถีการโจมตีให้กระจ่าง ก็จะตัดกระบวนท่าของศัตรูกลางคันได้!]

หากเทียบกับท่าปลุกปั่นกระบี่ ท่ากระเพื่อมกระบี่ และท่ากระบี่ร่วงก่อนหน้านี้ สองกระบวนท่านี้ไม่ได้เน้นความโหดและคาดเดายากเป็นหลักอีกต่อไป เหมาะจะใช้รับมือกับศัตรูที่แข็งแกร่งยามต้องปะทะกันซึ่งๆ หน้ามากกว่า แม้ไม่อาจเอาชนะศัตรูได้ภายในการโจมตีครั้งเดียว แต่กลับพลิกสถานการณ์ยามตกเป็นเบี้ยล่างได้อย่างรวดเร็ว สะสมความได้เปรียบของตนเองได้เร็วมาก

เป็นกระบวนท่าที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน แต่วิธีใช้งานกลับแตกต่างกันมาก

เขาเก็บมันเข้ากระเป๋าอย่างพึงพอใจ เตรียมจะกลับไปค่อยๆ อ่านอย่างละเอียด จากนั้นกุมหมัดคารวะหวงโส่วจุนอีกครั้ง “ขอบคุณหวงโส่วจุนที่ช่วยให้สมปรารถนาขอรับ ข้าน้อยขอตัวก่อน”

“ช้าก่อน!”

หลังจากถลึงตาจ้องเยี่ยเว่ยหมิงปราดหนึ่ง หวงโส่วจุนก็ด่ากลั้วเสียงหัวเราะ “เจ้าเด็กนี่นะ เพิ่งได้รับรางวัลภารกิจก็เตรียมจะออกไปพเนจรแล้ว ไม่มีจิตสำนึกในหน้าที่เลยสักนิด อย่าลืมฐานะของตัวเองเสียล่ะ!”

เยี่ยเว่ยหมิงไม่แสดงความรู้สึกผิดต่อคำตำหนิของหวงโส่วจุนเลยสักนิด กลับถามอย่างสงสัยแทนว่า “มีภารกิจใหม่อีกแล้วหรือขอรับ”

หวงโส่วจุนพยักหน้า จากนั้นชี้ที่เก้าอี้ด้านข้าง “ภารกิจครั้งนี้ไม่ใช่ของเจ้าคนเดียว เฟยอวี๋กับซานเย่ว์คงใกล้จะกลับมาแล้ว เจ้ารอสักประเดี๋ยว”

“ได้ขอรับ!”

เยี่ยเว่ยหมิงเอ่ยรับแล้วนั่งลงอย่างว่าง่าย จากนั้นนำตำราลับ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ ออกมาเริ่มอ่าน

ตอนที่เขาเพิ่งอ่านกระบวนท่าแรก เฟยอวี๋ก็กลับมาแล้ว กระทั่งตอนที่เขาเริ่มเรียบนกระบวนท่าที่สอง ซานเย่ว์ถึงได้รีบร้อนพุ่งเข้ามาพร้อมกล่าวขออภัยไม่หยุด “ขออภัยเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ข้าอยู่ห่างจากเมืองมาก ปล่อยให้ทุกคนรอนานแล้ว”

“นั่งลงคุยกันเถอะ”

หลังจากบอกให้ซานเย่ว์นั่งลง หวงโส่วจุนก็เริ่มถามว่า “ช่วงนี้แต่ละสำนักในยุทธภพล้วนกำลังคัดเลือกศิษย์เอก ไม่รู้ว่าพวกเจ้ารู้ข้อมูลมากน้อยเท่าไร”

เมื่อได้ยินคำถาม เฟยอวี๋ก็ตอบทันที “เรื่องศิษย์เอก ข้าได้ยินว่าแต่ละสำนักจะเลือกลูกศิษย์ที่ความสามารถโดดเด่นที่สุด หลังจากกลายเป็นศิษย์เอกแล้ว ก็จะมีสิทธิ์รับภารกิจเพื่อเรียนสุดยอดวิชา”

“แล้วก็ได้ยินว่าศิษย์เอกที่แต่ละสำนักเลือกมา จะถูก ‘ป้ายบำเหน็จลงทัณฑ์’ เชิญไปงานกินข้าวต้มเดือนสิบสองที่เกาะจอมยุทธ์” ซานเย่ว์กล่าวเสริมอีก

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นว่าพวกเขาสองคนน่าจะพูดจบแล้วจึงเอ่ยว่า “อย่าบอกนะว่าภารกิจที่หวงโส่วจุนเอ่ยถึงเกี่ยวข้องกับเรื่องศิษย์เอกด้วย”

“ไม่ใช่เกี่ยวข้อง แต่นี่คือภารกิจคัดเลือกศิษย์เอก” หวงโส่วจุนไม่ไม่พูดมากแล้ว พอโบกมืออีกครั้ง กระดาษสามแผ่นก็ลอยไปตรงหน้าพวกเยี่ยเว่ยหมิง

เยี่ยเว่ยหมิงรับกระดาษมา กลับเห็นบนนั้นเขียนคำว่า ‘ผี’ ตัวใหญ่มาก!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด