ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 524 แส้มังกรทอง

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 524 แส้มังกรทอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 524 แส้มังกรทอง

เมื่อใช้ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ก็มักจะหมายความว่าการต่อสู้เริ่มต้นแล้ว วันนี้ก็ย่อมไม่ใช่ข้อยกเว้น

เจ้าเฒ่าประหลาดติงปู๋ซื่อได้รับการกระตุ้นจากไท้ซัวเป็นไฉน สองตาแดงก่ำพร้อมคำรามอย่างเดือดดาลทันที จากนั้นก็สะบัดมือขวาไปทางเยี่ยเว่ยหมิง แสงสีทองสายหนึ่งเข้ามาตรงหน้าผากของเขาแล้ว

นี่คืออาวุธเลื่องชื่อของเขา แส้เก้าข้อที่ชื่อว่า ‘แส้มังกรทอง’!

[ติงปู๋ซื่อ]

หนึ่งในสองวีรบุรุษแซ่ติง ฆ่าคนไม่เกินวันละสี่คน

เลเวล: 90

พลังชีวิต: 880000/880000

กำลังภายใน: 350000/350000

……

เป็นอย่างที่คาดไว้จริงๆ เป็นเวอร์ชั่นถูกตอนในโหมดภารกิจเท่านั้น

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าเล็กน้อยพลางพุ่งกายตามกระบี่ออกมา ใช้ท่าท่าปลุกปั่นกระบี่แทงตรงไปยังลำคอของติงปู๋ซื่อจากมุมที่แปลกประหลาดเกินคาดเดา

หนึ่งในจุดเด่นของ ‘ท่าปลุกปั่นกระบี่’ ก็คือทำให้ร่างกายตัวเองและกระบี่ที่อยู่ในมือกลายเป็นแนวเส้นเดียวกันได้ ขณะที่หลบการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ก็ส่งการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตให้อีกฝ่ายได้ด้วย!

ติงปู๋ซื่อเห็นแล้วตกใจมาก รีบสะบัดแส้มังกรทองในมือ แส้สีทองที่เดิมทีโจมตีไปยังหน้าผากของเยี่ยเว่ยหมิงเปลี่ยนเป็นฟาดไปบนแผ่นหลังของเยี่ยเว่ยหมิงทันที

ถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยเว่ยหมิงเปลี่ยนกระบวนท่า กระบี่นี้ของเขาแม้จะคร่าชีวิตของอีกฝ่ายได้ แต่ก็ต้องถูกอีกฝ่ายใช้แส้สีทองฟาดแผ่นหลังเข้าเต็มๆ อย่างเลี่ยงได้ยากอยู่ดี

เขาเองก็จับจุดอ่อนที่ไม่นับว่าเป็นจุดอ่อนของ ‘ท่าปลุกปั่นกระบี่’ ที่เยี่ยเว่ยหมิงใช้ได้แล้วเช่นกัน

ท่าปลุกปั่นกระบี่นี้เป็นท่าไม้ตายที่ยอดเยี่ยมของ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ จุดเด่นที่ใหญ่ที่สุดก็คือคำว่า ‘ประหลาด’

เคล็ดกระบี่ที่ขึ้นชื่อเรื่องเปลี่ยนแปลงอย่างแปลกประหลาด ถ้าอยากจะสำแดงอานุภาพให้ได้มากที่สุด เวลาลงมือก็ต้องทำอย่างรวดเร็วจากมุมที่คาดไม่ถึง ใช้ความเร็วที่เหมือนเสียงฟ้าร้องที่ทำให้คนอุดหูไม่ทัน ทำให้อีกฝ่ายไม่มีเวลารับมือ

เมื่อใช้เคล็ดกระบี่นี้ตอนกำลังสู้กับศัตรู ก็มักจะทำให้คู่ต่อยังไม่ทันรู้ตัวก็ถูกโจมตีจุดสำคัญแล้ว!

ซึ่งจุดเด่นนี้ก็ได้กำหนดแล้วเช่นกัน ว่าต้องสู้ในระยะใกล้ถึงจะแสดงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาได้

แต่เป็นเพราะแส้เก้าข้อของติงปู๋ซื่อเป็นอาวุธยาว เยี่ยเว่ยหมิงชักกระบี่ออกมาล่วงหน้าเพื่อชิงโอกาส และให้เวลาอีกฝ่ายไหวตัวด้วยเช่นกัน

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ติงปู๋ซื่อก็ยังกู้สถานการณ์ได้อย่างเหมาะสมภายในเวลาสั้นๆ นี้อยู่ดี แม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงเองก็ยังแอบกล่าวชมในใจ ขิงยิ่งแก่ยิ่งเผ็ดจริงๆ ด้วย!

ตอนแลกเลือดแลกดาเมจกับ BOSS เลเวลเก้าสิบ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่วิธีการที่ชาญฉลาด

แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ยอมที่จะถูกอีกฝ่ายบีบจนต้องละทิ้งการบุกโจมตีเช่นกัน

ดังนั้นเขาจึงเลือกวิธีการที่ทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์!

ทันใดนั้นเขากลับคลายมือที่กุมกระบี่ไว้ พร้อมใช้เท้าขวาเหยียบพื้นเพื่อถอยหลัง รีบออกจากวงล้อมโจมตีของแส้เก้าข้อของติงปู๋ซื่อ แต่กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงที่ถูกปล่อยออกเล่มนั้นกลับยังแทงต่อไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วตามเส้นทางก่อนหน้านี้ จนกระทั่งปาดลำคอของติงปู๋ซื่อไปท่ามกลางสายตาตกใจของติงปู๋ซื่อ

-57903!

เมื่อติงปู๋ซื่อถูกโจมตีครั้งนี้ ก็เจ็บปวดทรมานจนร้องโหยหวนทันที แต่การเคลื่อนไหวของเขากลับไม่ช้าลงเลยสักนิด โบกเงาแส้มังกรทองในมือออกมาเป็นชั้นๆ พร้อมคำรามใส่เยี่ยเว่ยหมิงอย่างเดือดดาล “เจ้าเด็กเปรต ก่อนหน้านี้แม้เจ้าจะใช้กระบี่ทำร้ายข้า แต่เจ้าเสียอาวุธไปแล้ว ข้าจะคอยดูเจ้าจะจะยัง…”

ติงปู๋ซื่อยังพูดไม่ทันขาดคำ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงลมที่ไม่เป็นมิตรดังมาจากข้างหลัง ด้วยสัญชาตญาณของชาวยุทธ์ เขาเบี่ยงตัวหลบแล้ว แต่กลับยังถูกกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงเลี้ยวกลับมาปาดไหล่จนเกิดรอยเลือดรอยหนึ่ง

เนื่องจากกระบี่อาญาสิทธิ์เป็นอุปกรณ์ภายนอก มีแต่ต้องติดกระบี่ล้ำค่าไว้บนร่างกายเท่านั้นถึงจะใช้งานได้ ตอนนี้กระบี่ล้ำค่าออกห่างจากร่างกายแล้ว ย่อมแสดงโฉมหน้าเดิมที่เจิดจรัสจนทำให้ตาลายออกมา

ส่วนตัวกระบี่สีแดงประกายทองก็มาพร้อมดอกเลือดผืนหนึ่ง ดูสว่างพร่างพราว!

-16691

ทว่ายังไม่จบเท่านั้น หลังจากถูกโจมตีต่อเนื่องสองกระบี่แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงที่ถอยออกไปประมาณหนึ่งจั้งก็ใช้มือขวาชี้วาดกลางอากาศ กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงเล่มนั้นราวกับมีชีวิตขึ้นมา เปลี่ยนแปลงหลายท่าต่อเนื่องกัน ทุกท่าและทุกกระบวนแสดงได้อย่างดุดัน บางท่าคล้ายกับท่าเดิมของ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ และ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ที่เยี่ยเว่ยหมิงเคยเรียนมา แต่กลับอันตรายและดุดันยิ่งกว่า!

นี่ก็คือจุดที่น่ากลัวที่สุดของ ‘ท่ากระบี่แยกจาก’

ขอเพียงเป็นชาวยุทธ์ที่ถือกระบี่ ในกระบวนท่าต้องทำได้ทั้งโจมตีและป้องกัน ถ้าสนใจแต่ใช้กระบี่แทงบนตัวอีกฝ่ายอย่างเดียว แต่พอพลิกมือกลับถูกดาบของอีกฝ่ายโจมตี แบบนั้นก็ไม่ดีแล้ว

แต่ ‘ท่ากระบี่แยกจาก’ ของเยี่ยเว่ยหมิงยังอยู่ห่างจากเขาไกล กลับไม่ต้องพิจารณาถึงปัญหาเรื่องป้องกันตัวเองเลย ไม่ว่าจะใช้ท่ากระบี่ไหนก็ไม่ต้องพิจารณาด้านนี้แล้ว สนใจแค่ทักทายที่จุดสำคัญบนตัวศัตรูร่วมทั้งจุดที่ศัตรูเจ็บที่สุดเมื่อป้องกันก็พอแล้ว

แต่ถ้าอยากทำให้ได้ถึงจุดนี้ ก็จะต้องเข้าใจเคล็ดกระบี่ทั้งชุดให้กระจ่างก่อน ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ และ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ เลเวลเก้าที่เยี่ยเว่ยหมิงใช้ก็ปรับให้เป็นไปตามใจปรารถนาโดยสมบูรณ์ไม่ได้อยู่ดี

เพียงแต่ช่องโหว่และความไม่สละสลวยเล็กน้อยที่อยู่ในนั้น อาศัยความสามารถของติงปู๋ซื่อก็ยังไม่มีทางรู้อย่างแม่นยำได้

……

บนสนามต่อสู้ทางฝั่งเยี่ยเว่ยหมิง ติงปู๋ซื่อถูก ‘ท่ากระบี่แยกจาก’ ที่แยบยลเกินคาดเดาของเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีจนลนลานทำอะไรไม่ถูก กุมหัววิ่งพล่านเหมือนหนู

ส่วนสนามต่อสู้อีกฝั่งหนึ่ง สถานการณ์ของอาจ่งก็ไม่ได้ดีไปกว่าติงปู๋ซื่อสักเท่าไร

ถึงขั้นว่าหากดูที่สถานการณ์ต่อสู้อย่างเดียว ก็เหมือนจะแย่กว่าติงปู๋ซื่อด้วยซ้ำ

แต่สภาพจนตรอกคือสิ่งที่แสดงออกภายนอกเท่านั้น แต่สถานการณ์ที่แท้จริงกลับมั่นคงที่สุด!

[สือพั่วเทียน]

เด็กหนุ่มปริศนาที่ชาติกำเนิดลึกลับ สือพั่วเทียนไม่ใช่ชื่อเดิมของเขา

เลเวล: 80

พลังชีวิต: ???/???/艾琳小說

กำลังภายใน: ???/???

(PS: สือพั่วเทียนเป็นเพียงชื่อปลอมที่ใช้ชั่วคราวตอนที่สือจงอวี้รับตำแหน่งพรรคสุขนิรันดร์ ไม่ใช่ชื่อเดิมของอาจ่ง แต่เวลาอาจารย์กิมย้งบรรยายบทก็ใช้ชื่อเรียกว่าสือพั่วเทียนตลอด ดังนั้นในเรื่องนี้จึงใช้ชื่อนี้เหมือนกัน)

……

ถ้าจะบอกว่าอีกฝ่ายเป็นตัวละครที่ผู้อ่านยอมรับ แล้วพระเอกล่ะ?

สิ่งนี้กำลังบอกคุณอย่างชัดเจนว่า ถึงแม้ตอนนี้จะมีเพียงเลเวลแปดสิบ แต่ขีดจำกัดพลังชีวิตและกำลังภายในของข้ากลับเป็นสิ่งที่เจ้ามองไม่เห็น!

ถ้าอยากจะสังหารข้า ก็ไม่มีทางเสียหรอก!

แต่ในเมื่อมีพลังชีวิตกับกำลังภายในที่ลึกลับเกินคาดเดา ถึงอย่างไรเลเวลของอาจ่งก็แค่แปดสิบเท่านั้น หากวิเคราะห์ตามทฤษฎีศักยภาพของ BOSS ก็อธิบายได้ว่าความสามารถด้านกระบวนท่ากากมาก

อาจ่งในตอนนี้ กระบวนท่าทักษะยุทธ์ทั้งหมดมีแค่ ‘วิชามือคว้าจับสกุลติง’ ที่เรียนจากติงตังเมื่อไม่กี่วันก่อนเท่านั้น รวมทั้ง ‘เคล็ดกระบี่ภูเขาหิมะ’ ที่เรียนโดยแอบดูศิษย์สำนักภูเขาหิมะฝึกกระบี่ ก็เรียนแบบครึ่งๆ กลางๆ เท่านั้น เวลาใช้งานขึ้นมาก็งุ่มงามมาก

ซึ่งคู่ต่อสู้ทั้งสองคนของเขา ตอนที่อยู่บนเรือก่อนหน้านี้ในเมื่อยืนสามมุมกับโหยวโหยวได้ ก็ย่อมเป็นผู้ที่โดดเด่นในหมู่ผู้เล่นอยู่แล้ว

เซี่ยวเฉินจากเส้าหลินฝึก ‘วิชากรงเล็บมังกรเส้าหลิน’ ได้เหมาะสมพอสมควรแล้ว กระบวนท่าก็ยิ่งชำนาญที่สุด ส่วนตู๋กูฉิวเพี่ยวจากสำนักกระบี่หนึ่งปัญญาก็มีเคล็ดกระบี่ที่ดุดันโหดร้าย เก่งกาจมากเช่นกัน

อาจ่งสู้แบบหนึ่งต่อสอง ความจริงถูกพวกเขาโจมตีจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว

ยังดีที่กำลังภายในของเขาสูงมากพอ มักจะแคล้วคลาดปลอดภัย ยกตัวอย่างเช่นบางครั้งกำลังจะถูกวิชากรงเล็บมังกรเส้าหลินของเซี่ยวเฉินจับจุดลมปราณแล้วแท้ๆ แต่ขอเพียงใช้กำลังภายในสะท้อนออกมา ก็จะหลุดพ้นได้สบายๆ แล้ว บางครั้งตอนที่ใช้กำลังภายในทำให้อีกฝ่ายสะเทือนออกไป ก็ยังทำให้เขากลายเป็นอาวุธลับทุ่มใส่ตู๋กูฉิวเพี่ยวได้ด้วย โจมตีจนผู้เล่นยอดฝีมือทั้งสองกลุ้มใจมาก

พวกเขาสองคนถึงขั้นทำข้อสอบวิชาคำนวณที่น่าสิ้นหวังในใจแล้ว

พลังต่อสู้ของข้ามีเพียง 6000 แต่เขามีอย่างน้อย 10000 ขึ้นไป!

เมื่อแอบมองทางฝั่งติงปู๋ซื่อแวบหนึ่ง เจ้าสองคนนี้ที่เดิมทีสิ้นหวังอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งสิ้นหวังเข้าไปใหญ่

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด