ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 106 ผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึง!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 106 ผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 106 ผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึง!

ในช่องทีม

หนิวจื้อชุน [สถานการณ์ต่อสู้ข้างนอกเป็นอย่างไร]

[$%@^%&^%[email protected]#%…] เยี่ยเว่ยหมิง

หนิวจื้อชุน [อิหยังวะ (¬_¬)]

เยี่ยเว่ยหมิง [เละเทะ อธิบายไม่ถูก]

หนิวจื้อชุน [แม่งอธิบายได้เป็นรูปธรรมจริงๆ!]

……

ความจริงก็เป็นอย่างที่เยี่ยเว่ยหมิงบอก วุ่นวายจนน่ากลัว

ในบรรดาคนกลุ่มนั้น หากรวมทีมเล็กของของจ้างเย่ว์ด้วย ก็มีทีมเล็กที่แน่นอนอยู่สองทีม แต่พวกเขาก็กลายเป็นเป้าหมายโจมตีหลักของคนอื่นแล้วเช่นกัน นอกจากอาศัยร่วมมือกันเพื่อปกป้องตัวเอง ก็ไม่มีจุดแข็งอย่างอื่นที่มากกว่านี้อีกแล้ว

สนามต่อสู้ตอนนี้เป็นการตะลุมบอนที่ไม่มีลำดับขั้นตอนแม้แต่น้อย สถานการณ์ไม่ต่างอะไรกับการต่อสู้อันชุลมุนที่พวกเขาเห็นตอนอยู่ข้างนอกก่อนหน้านี้

ทุกคนล้วนเป็นผู้ล่า ทุกคนล้วนเป็นเหยื่อ! มีผู้เล่นถูกโจมตีจนกลายเป็นแสงสีขาวอยู่เป็นระยะ

และเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ หลังจากมีคนอาศัยประโยชน์จากมนุษย์กลทองแดงมาฆ่าศัตรู เหตุการณ์ก็เปลี่ยนเป็นดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ

ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ผู้เล่นเกือบสี่สิบคนที่พุ่งมาถึงที่นี่ก็เหลือเพียงสิบสามคนแล้ว ด้วยคำชี้แนะของใครบางคนในนั้น สุดท้ายพวกเขาก็เลือกที่จะวางมือ

“แทนที่ทุกคนจะมาสู้กันเอาเป็นเอาตายอย่างนี้ ไม่สู้ฆ่ามนุษย์กลทองแดงตัวนี้ให้ตายก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

ตอนนี้การตะลุมบอนหยุดแล้ว ขณะที่ทุกคนกำลังป้องกันการลอบจู่โจมจากคนอื่น ก็ล็อกเป้าหมายโจมตีมาที่มนุษย์กลทองแดงแล้ว

และสิ่งที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงนึกเสียใจทีหลังก็คือ สมาชิกห้าคนในทีมเล็กของจ้างเย่ว์ กลับมีเพียงสองคนที่ถูกคัดออกจากศึกตะลุมบอนก่อนหน้านี้ ยังคงรักษากำลังรบไว้ได้เกินครึ่ง

หลังจากได้เห็นเยี่ยเว่ยหมิงวิเคราะห์สถานการณ์ในช่องทีม หนิวจื้อชุนก็อดถามอย่างร้อนใจไม่ได้ [พวกเราต้องออกไปตอนนี้ไหม ไปร่วมสังหารมนุษย์กลทองแดงพร้อมกับพวกเขา]

[หากพวกเราออกไปตอนนี้ ก็จะกลายเป็นเป้าหมายโจมตีของส่วนรวมทันที เจ้าเชื่อไหมล่ะ] เยี่ยเว่ยหมิงถาม

[ก็ได้…ข้าเชื่อ] หนิวจื้อชุนกล่าว

เห็นได้ชัดว่าหนิวจื้อชุนเป็นพวกตีเนียนเก่งแบบช่ำชองมาก ตอนแรกเพียงเพราะร้อนใจถึงได้เสนอความคิดอย่างนั้น แต่พอเยี่ยเว่ยหมิงเตือน ก็เข้าใจกุญแจสำคัญที่อยู่ในนั้นทันที จึงไม่เอ่ยถึงเรื่องที่จะออกไปประสมโรงอีก

ส่วนซานเย่ว์น่ะหรือ

ความรู้ประสบการณ์ของนางไม่มากพอจริงๆ แต่ถึงอย่างไรนางก็เชื่อฟังเขา!

ขอเพียงเป็นตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงอยู่ด้วย ไม่ว่านางจะประสบพบเจอเรื่องอะไร ก็ขี้คร้านจะไปครุ่นคิดพิจารณาเองอยู่แล้ว

เชื่อฟังอาหมิงไม่มีผิดพลาดแน่นอน!

เมื่อไม่มีพวกเยี่ยเว่ยหมิงไปเข้าร่วม การต่อสู้ขนาดใหญ่ข้างล่างก็ยังค่อนข้างราบรื่น

ถึงแม้ในการต่อสู้จะมีคนโชคร้ายสามคนที่ความสามารถไม่ถึงและทักษะไม่ได้เรื่องถูกมือใหญ่ของมนุษย์กลทองแดงตบตาย แต่มนุษย์กลทองแดงก็ถูกกลุ่มคนล้อมโจมตีจนกลายเป็นเศษเหล็กผุพังกองหนึ่งแล้ว

จากนั้น คนกลุ่มนี้ก็เริ่มมองหน้ากันไปมองหน้ากันมา ต่างคนต่างเดาว่าป้ายอาญาสิทธิ์จะไปตกอยู่ในมือใคร

แล้วเหตุการณ์ถัดไปก็คือ เกิดศึกตะลุมบอนรอบใหม่อีกแล้ว

ในช่องทีม

เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวอย่างหนักแน่นมากว่า [ป้ายอาญาสิทธิ์นั่นอยู่ในมือจ้างเย่ว์]

หนิวจื้อชุน [เจ้าแน่ใจนะ]

[แน่นอน!]

เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวอย่างเอาจริงเอาจัง [ตอนนี้ข้างล่างกำลังต่างคนต่างต่อสู้ มีเพียงพวกเขาสามคนที่อยู่เป็นทีม ย่อมมีโอกาสได้ไอเทมดรอปจากมอนสเตอร์มากกว่าอยู่แล้ว]

[นอกจากนี้ คนพวกนั้นล้วนกำลังจับตาดูปฏิกิริยาของคนอื่น มีเพียงเจ้าหมอนี่ที่กำลังหาโอกาสถอย หลังจากเริ่มต่อสู้อีกครั้ง เขาก็ออกจากใจกลางสนามต่อสู้ทันที]

[ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหมอนั่นกำลังมาทางนี้ น่าสนใจอยู่นะ!]

[น่าสนใจบ้าอะไรล่ะ!] ตอนนี้หนิวจื้อชุนไม่ได้โลกสวย [เส้นทางนี้กับทางออกสวนกับทิศทางลม แถมลมยังแรงมากด้วย ต่อให้พวกเราลอบจู่โจมเขาตรงนี้ ตอนที่ต้านลมพวกเราก็ไม่มีทางหนีให้เร็วได้เลย พวกคนข้างหลังต้องตามทันแน่นอน ให้เขาขึ้นมาไม่ได้เด็ดขาด เดี๋ยวข้าจะลงไปสังหารเขาเอง!]

ตอนที่ปากบ่นอย่างนั้น หนิวจื้อชุนก็ก้าวออกมาข้างหน้า มาถึงข้างกายเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว

ขณะมองจ้างเย่ว์กระโดดพุ่งขึ้นมาบนทางลับที่พวกเขาอยู่ เจ้าหมอนี่ก็ยกปลายเท้าที่ใหญ่กว่าคนข้างกายสองเบอร์ขึ้นมา แล้วเหยียบหน้าของจ้างเย่ว์ที่ไม่ทันได้ระวังตัวเสียเลย

พลั่ก!

-164!

เมื่อไม่มีโบนัสโจมตีจากอุปกรณ์กับกระบวนท่าของทักษะยุทธ์ หนิวจื้อชุนดูเหมือนเตะแรง แต่กลับสร้างดาเมจได้ไม่สูง

พอถูกเขาเหยียบ จ้างเย่ว์ก็สูญเสียการทรงตัวทันที เงยหน้ามองฟ้าขณะล้มลงพื้นด้วยท่า ‘คางคกทองก้นจ้ำเบ้า’

ตุ้บ!

จ้างเย่ว์หลังกระแทกพื้นอย่างสง่างาม ดึงดูดสายตาของคนได้ไม่น้อย

ส่วนหนิวจื้อชุนที่เปิดเผยตัวแล้วก็ไม่หลบซ่อนอีก ถือโอกาสก้าวออกมา กระบี่ยาวในมือวาดแสงจันทร์แนวหนึ่งกลางอากาศ ฟันเฉียงลงมาทางจ้างเย่ว์ที่ล้มขาชี้ฟ้าอยู่บนพื้น ใช้ท่า ‘หน้าบุปผาใต้แสงจันทร์’ ของ’เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’

ขณะที่ลงมือ ผู้เล่นต่ำช้าคนนี้ก็ยังไม่ลืมตะโกนว่า “เจ้าหมอนี่คิดจะหนี ป้ายอาญาสิทธิ์ต้องอยู่ที่ตัวเขาแน่นอน!”

ตอนต่อสู้กัน ความสามารถของจ้างเย่ว์สูสีกับซานเย่ว์ นับว่าเป็นยอดฝีมือที่มีอยู่น้อยในหมู่ผู้เล่น ก่อนหน้านี้ถูกถีบโดยไม่คาดคิดก็เสียหน้ามากพอแล้ว ตอนนี้เริ่มป้องกันตัว ย่อมไม่ถูกหนิวจื้อชุนทำร้ายได้ง่ายๆ อีก เห็นเพียงสองมือสองเท้าของเขาขยุ้มพื้นพร้อมกัน ร่างกายพุ่งไปข้างหลังหลายเมตรราวกับเป็นงูเทพในชั่วพริบตาเดียว หลบกระบี่ของหนิวจื้อชุนอย่างสะบักสะบอม

ส่วนเพื่อนร่วมทีมสองคนของเขาก็พุ่งไปข้างหน้าทันที ไปสกัดการโจมตีอันต่อเนื่องของหนิวจื้อชุนแทนเขา ทำให้เขาไม่ถึงขั้นถูกหนิวจื้อชุนไล่ตามโจมตีจนลุกขึ้นไม่ไหว

ทว่าทำอย่างนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!

แม้หนิวจื้อชุนจะถูกขวางไว้ แต่คนอื่นก็รู้อยู่ดีว่าป้ายอาญาสิทธิ์อยู่บนตัวจ้างเย่ว์

ในการต่อสู้แย่งชิงของล้ำค่าเช่นนี้ ย่อมไม่มีใครเกรงใจเขาอยู่แล้ว อาวุธลับดาบกระบี่ชนิดต่างๆ เข้าไปทักทายบนตัวจ้างเย่ว์ที่นอนอยู่บนพื้นโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

น่าสงสารจ้างเย่ว์ที่ยังไม่ทันลุกขึ้นยืนก็ถูกล้อมโจมตีจากคนจำนวนมากแล้ว หลังจากดันทุรังสู้อยู่สองกระบวนท่า ก็ถูกโจมตีจนกลายเป็นแสงขาวทันที ต้องออกจากดันเจี้ยนที่ราบพายุทรายนี้ไปอย่างไม่เต็มใจ

เมื่อมีเสียง ติ๊ง! ดังขึ้น ป้ายอาญาสิทธิ์สีเขียวแผ่นหนึ่งก็ตกลงบนพื้น แล้วถูกหนึ่งหนึ่งในผู้เล่นเก็บไว้ทันที

ในตอนนี้ เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งของจ้างเย่ว์พลันชี้หนิวจื้อชุนพร้อมตะโกนเสียงดัง “ข้ารู้จักเจ้าหมอนี่ เขาคือหนิวจื้อชุนแห่งสำนักฉวนเจิน ความสามารถแข็งแกร่งมาก”

เพียงชั่วพบหน้ากัน หนิวจื้อชุนก็ถูกเปิดโปงตัวตนแล้ว!

นี่คือสิ่งที่ทำให้เขากลุ้มใจมาก แต่เขาก็คุ้นชินจนเห็นเป็นเรื่องปกติแล้วเช่นกัน เป็นเพราะใบหน้าที่ดุร้ายน่ากลัวของเขาทำให้แยกแยะง่ายเกินไป

เมื่อป้ายอาญาสิทธิ์มาอยู่ตรงหน้า ก็ย่อมไม่มีใครสนใจแล้วว่านักพรตเต๋าอ้วนคนนี้เป็นใคร ทุกคนเริ่มโจมตีเจ้าคนดวงซวยที่ถือป้ายอาญาสิทธิ์คนนั้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ในจำนวนนั้นยังรวมหนิวจื้อชุนกับสหายสองคนของจ้างเย่ว์ด้วย

ป้ายอาญาสิทธิ์เป็นของผู้มีความสามารถเท่านั้น!

นี่ไม่ใช่บุญคุณความแค้นส่วนตัว!

ในทางลับบนช่องลม ซานเย่ว์พึมพำเสียงต่ำ “เจ้าหนิวจื้อชุนนั่นเป็นสายบุกจริงๆ”

“เพราะเขาฉลาดมากพออย่างไรล่ะ” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวเสียงเรียบ “เป็นเพราะการประลองบนสังเวียนก่อนหน้านี้ ใครก็มองออกว่าพวกเราสองคนมาด้วยกัน ตอนนี้ถ้าพวกเขาเห็นข้าก็จะนึกถึงเจ้าทันที ในทางกลับกัน ถ้าเขาเอาตัวเองเข้าไปรวมกับพวกที่แย่งสมบัติกัน ก็มีโอกาสมากกว่าที่จะไม่กลายเป็นเป้าหมาย”

เขาบอกอีกว่า “แล้วอีกอย่างนะ พอเป็นอย่างนี้ เขาก็ยิ่งมีโอกาสได้ป้ายอาญาสิทธิ์มากขึ้นด้วยไม่ใช่หรือ”

“แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดี”

“ดูสถานการณ์ไปก่อน…เชี่ย ผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึง!”

ที่แท้ ตอนที่ข้างล่างกำลังต่อสู้กัน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้เล่นที่ถือดาบคนหนึ่งถอยออกมาด้านข้างอย่างเงียบเชียบ ตอนนี้กำลังเดินเข้ามาทางพวกเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว

จากนั้น เจ้าหมอนี่เอาเยี่ยงอย่างจ้างเย่ว์ พุ่งตัวขึ้นมาข้างบน กระโดดขึ้นมาบนทางลับโดยตรง มาอยู่ตรงข้ามเยี่ยเว่ยหมิงกับซานเย่ว์พอดี

เห็นได้ชัดว่าผู้เล่นที่ทำตัวลับๆ ล่อๆ คนนี้ไม่ทันระวังว่าตรงทางลับมีคนอื่นนอกจากหนิวจื้อชุน หลังจากอึ้งไปชั่วขณะ ก็โบกดาบฟันไปทางซานเย่ว์

ซานเย่ว์รีบเบี่ยงตัวหลบ ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงที่อยู่อีกด้านก็ส่งกระบี่ชิงจู๋ออกมา แทงบนคอหอยของเจ้าหมอนี่โดยตรง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 106 ผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึง!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 106 ผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 106 ผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึง!

ในช่องทีม

หนิวจื้อชุน [สถานการณ์ต่อสู้ข้างนอกเป็นอย่างไร]

[$%@^%&^%[email protected]#%…] เยี่ยเว่ยหมิง

หนิวจื้อชุน [อิหยังวะ (¬_¬)]

เยี่ยเว่ยหมิง [เละเทะ อธิบายไม่ถูก]

หนิวจื้อชุน [แม่งอธิบายได้เป็นรูปธรรมจริงๆ!]

……

ความจริงก็เป็นอย่างที่เยี่ยเว่ยหมิงบอก วุ่นวายจนน่ากลัว

ในบรรดาคนกลุ่มนั้น หากรวมทีมเล็กของของจ้างเย่ว์ด้วย ก็มีทีมเล็กที่แน่นอนอยู่สองทีม แต่พวกเขาก็กลายเป็นเป้าหมายโจมตีหลักของคนอื่นแล้วเช่นกัน นอกจากอาศัยร่วมมือกันเพื่อปกป้องตัวเอง ก็ไม่มีจุดแข็งอย่างอื่นที่มากกว่านี้อีกแล้ว

สนามต่อสู้ตอนนี้เป็นการตะลุมบอนที่ไม่มีลำดับขั้นตอนแม้แต่น้อย สถานการณ์ไม่ต่างอะไรกับการต่อสู้อันชุลมุนที่พวกเขาเห็นตอนอยู่ข้างนอกก่อนหน้านี้

ทุกคนล้วนเป็นผู้ล่า ทุกคนล้วนเป็นเหยื่อ! มีผู้เล่นถูกโจมตีจนกลายเป็นแสงสีขาวอยู่เป็นระยะ

และเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์อย่างนี้ หลังจากมีคนอาศัยประโยชน์จากมนุษย์กลทองแดงมาฆ่าศัตรู เหตุการณ์ก็เปลี่ยนเป็นดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ

ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ผู้เล่นเกือบสี่สิบคนที่พุ่งมาถึงที่นี่ก็เหลือเพียงสิบสามคนแล้ว ด้วยคำชี้แนะของใครบางคนในนั้น สุดท้ายพวกเขาก็เลือกที่จะวางมือ

“แทนที่ทุกคนจะมาสู้กันเอาเป็นเอาตายอย่างนี้ ไม่สู้ฆ่ามนุษย์กลทองแดงตัวนี้ให้ตายก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

ตอนนี้การตะลุมบอนหยุดแล้ว ขณะที่ทุกคนกำลังป้องกันการลอบจู่โจมจากคนอื่น ก็ล็อกเป้าหมายโจมตีมาที่มนุษย์กลทองแดงแล้ว

และสิ่งที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงนึกเสียใจทีหลังก็คือ สมาชิกห้าคนในทีมเล็กของจ้างเย่ว์ กลับมีเพียงสองคนที่ถูกคัดออกจากศึกตะลุมบอนก่อนหน้านี้ ยังคงรักษากำลังรบไว้ได้เกินครึ่ง

หลังจากได้เห็นเยี่ยเว่ยหมิงวิเคราะห์สถานการณ์ในช่องทีม หนิวจื้อชุนก็อดถามอย่างร้อนใจไม่ได้ [พวกเราต้องออกไปตอนนี้ไหม ไปร่วมสังหารมนุษย์กลทองแดงพร้อมกับพวกเขา]

[หากพวกเราออกไปตอนนี้ ก็จะกลายเป็นเป้าหมายโจมตีของส่วนรวมทันที เจ้าเชื่อไหมล่ะ] เยี่ยเว่ยหมิงถาม

[ก็ได้…ข้าเชื่อ] หนิวจื้อชุนกล่าว

เห็นได้ชัดว่าหนิวจื้อชุนเป็นพวกตีเนียนเก่งแบบช่ำชองมาก ตอนแรกเพียงเพราะร้อนใจถึงได้เสนอความคิดอย่างนั้น แต่พอเยี่ยเว่ยหมิงเตือน ก็เข้าใจกุญแจสำคัญที่อยู่ในนั้นทันที จึงไม่เอ่ยถึงเรื่องที่จะออกไปประสมโรงอีก

ส่วนซานเย่ว์น่ะหรือ

ความรู้ประสบการณ์ของนางไม่มากพอจริงๆ แต่ถึงอย่างไรนางก็เชื่อฟังเขา!

ขอเพียงเป็นตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงอยู่ด้วย ไม่ว่านางจะประสบพบเจอเรื่องอะไร ก็ขี้คร้านจะไปครุ่นคิดพิจารณาเองอยู่แล้ว

เชื่อฟังอาหมิงไม่มีผิดพลาดแน่นอน!

เมื่อไม่มีพวกเยี่ยเว่ยหมิงไปเข้าร่วม การต่อสู้ขนาดใหญ่ข้างล่างก็ยังค่อนข้างราบรื่น

ถึงแม้ในการต่อสู้จะมีคนโชคร้ายสามคนที่ความสามารถไม่ถึงและทักษะไม่ได้เรื่องถูกมือใหญ่ของมนุษย์กลทองแดงตบตาย แต่มนุษย์กลทองแดงก็ถูกกลุ่มคนล้อมโจมตีจนกลายเป็นเศษเหล็กผุพังกองหนึ่งแล้ว

จากนั้น คนกลุ่มนี้ก็เริ่มมองหน้ากันไปมองหน้ากันมา ต่างคนต่างเดาว่าป้ายอาญาสิทธิ์จะไปตกอยู่ในมือใคร

แล้วเหตุการณ์ถัดไปก็คือ เกิดศึกตะลุมบอนรอบใหม่อีกแล้ว

ในช่องทีม

เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวอย่างหนักแน่นมากว่า [ป้ายอาญาสิทธิ์นั่นอยู่ในมือจ้างเย่ว์]

หนิวจื้อชุน [เจ้าแน่ใจนะ]

[แน่นอน!]

เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวอย่างเอาจริงเอาจัง [ตอนนี้ข้างล่างกำลังต่างคนต่างต่อสู้ มีเพียงพวกเขาสามคนที่อยู่เป็นทีม ย่อมมีโอกาสได้ไอเทมดรอปจากมอนสเตอร์มากกว่าอยู่แล้ว]

[นอกจากนี้ คนพวกนั้นล้วนกำลังจับตาดูปฏิกิริยาของคนอื่น มีเพียงเจ้าหมอนี่ที่กำลังหาโอกาสถอย หลังจากเริ่มต่อสู้อีกครั้ง เขาก็ออกจากใจกลางสนามต่อสู้ทันที]

[ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าหมอนั่นกำลังมาทางนี้ น่าสนใจอยู่นะ!]

[น่าสนใจบ้าอะไรล่ะ!] ตอนนี้หนิวจื้อชุนไม่ได้โลกสวย [เส้นทางนี้กับทางออกสวนกับทิศทางลม แถมลมยังแรงมากด้วย ต่อให้พวกเราลอบจู่โจมเขาตรงนี้ ตอนที่ต้านลมพวกเราก็ไม่มีทางหนีให้เร็วได้เลย พวกคนข้างหลังต้องตามทันแน่นอน ให้เขาขึ้นมาไม่ได้เด็ดขาด เดี๋ยวข้าจะลงไปสังหารเขาเอง!]

ตอนที่ปากบ่นอย่างนั้น หนิวจื้อชุนก็ก้าวออกมาข้างหน้า มาถึงข้างกายเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว

ขณะมองจ้างเย่ว์กระโดดพุ่งขึ้นมาบนทางลับที่พวกเขาอยู่ เจ้าหมอนี่ก็ยกปลายเท้าที่ใหญ่กว่าคนข้างกายสองเบอร์ขึ้นมา แล้วเหยียบหน้าของจ้างเย่ว์ที่ไม่ทันได้ระวังตัวเสียเลย

พลั่ก!

-164!

เมื่อไม่มีโบนัสโจมตีจากอุปกรณ์กับกระบวนท่าของทักษะยุทธ์ หนิวจื้อชุนดูเหมือนเตะแรง แต่กลับสร้างดาเมจได้ไม่สูง

พอถูกเขาเหยียบ จ้างเย่ว์ก็สูญเสียการทรงตัวทันที เงยหน้ามองฟ้าขณะล้มลงพื้นด้วยท่า ‘คางคกทองก้นจ้ำเบ้า’

ตุ้บ!

จ้างเย่ว์หลังกระแทกพื้นอย่างสง่างาม ดึงดูดสายตาของคนได้ไม่น้อย

ส่วนหนิวจื้อชุนที่เปิดเผยตัวแล้วก็ไม่หลบซ่อนอีก ถือโอกาสก้าวออกมา กระบี่ยาวในมือวาดแสงจันทร์แนวหนึ่งกลางอากาศ ฟันเฉียงลงมาทางจ้างเย่ว์ที่ล้มขาชี้ฟ้าอยู่บนพื้น ใช้ท่า ‘หน้าบุปผาใต้แสงจันทร์’ ของ’เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’

ขณะที่ลงมือ ผู้เล่นต่ำช้าคนนี้ก็ยังไม่ลืมตะโกนว่า “เจ้าหมอนี่คิดจะหนี ป้ายอาญาสิทธิ์ต้องอยู่ที่ตัวเขาแน่นอน!”

ตอนต่อสู้กัน ความสามารถของจ้างเย่ว์สูสีกับซานเย่ว์ นับว่าเป็นยอดฝีมือที่มีอยู่น้อยในหมู่ผู้เล่น ก่อนหน้านี้ถูกถีบโดยไม่คาดคิดก็เสียหน้ามากพอแล้ว ตอนนี้เริ่มป้องกันตัว ย่อมไม่ถูกหนิวจื้อชุนทำร้ายได้ง่ายๆ อีก เห็นเพียงสองมือสองเท้าของเขาขยุ้มพื้นพร้อมกัน ร่างกายพุ่งไปข้างหลังหลายเมตรราวกับเป็นงูเทพในชั่วพริบตาเดียว หลบกระบี่ของหนิวจื้อชุนอย่างสะบักสะบอม

ส่วนเพื่อนร่วมทีมสองคนของเขาก็พุ่งไปข้างหน้าทันที ไปสกัดการโจมตีอันต่อเนื่องของหนิวจื้อชุนแทนเขา ทำให้เขาไม่ถึงขั้นถูกหนิวจื้อชุนไล่ตามโจมตีจนลุกขึ้นไม่ไหว

ทว่าทำอย่างนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย!

แม้หนิวจื้อชุนจะถูกขวางไว้ แต่คนอื่นก็รู้อยู่ดีว่าป้ายอาญาสิทธิ์อยู่บนตัวจ้างเย่ว์

ในการต่อสู้แย่งชิงของล้ำค่าเช่นนี้ ย่อมไม่มีใครเกรงใจเขาอยู่แล้ว อาวุธลับดาบกระบี่ชนิดต่างๆ เข้าไปทักทายบนตัวจ้างเย่ว์ที่นอนอยู่บนพื้นโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

น่าสงสารจ้างเย่ว์ที่ยังไม่ทันลุกขึ้นยืนก็ถูกล้อมโจมตีจากคนจำนวนมากแล้ว หลังจากดันทุรังสู้อยู่สองกระบวนท่า ก็ถูกโจมตีจนกลายเป็นแสงขาวทันที ต้องออกจากดันเจี้ยนที่ราบพายุทรายนี้ไปอย่างไม่เต็มใจ

เมื่อมีเสียง ติ๊ง! ดังขึ้น ป้ายอาญาสิทธิ์สีเขียวแผ่นหนึ่งก็ตกลงบนพื้น แล้วถูกหนึ่งหนึ่งในผู้เล่นเก็บไว้ทันที

ในตอนนี้ เพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งของจ้างเย่ว์พลันชี้หนิวจื้อชุนพร้อมตะโกนเสียงดัง “ข้ารู้จักเจ้าหมอนี่ เขาคือหนิวจื้อชุนแห่งสำนักฉวนเจิน ความสามารถแข็งแกร่งมาก”

เพียงชั่วพบหน้ากัน หนิวจื้อชุนก็ถูกเปิดโปงตัวตนแล้ว!

นี่คือสิ่งที่ทำให้เขากลุ้มใจมาก แต่เขาก็คุ้นชินจนเห็นเป็นเรื่องปกติแล้วเช่นกัน เป็นเพราะใบหน้าที่ดุร้ายน่ากลัวของเขาทำให้แยกแยะง่ายเกินไป

เมื่อป้ายอาญาสิทธิ์มาอยู่ตรงหน้า ก็ย่อมไม่มีใครสนใจแล้วว่านักพรตเต๋าอ้วนคนนี้เป็นใคร ทุกคนเริ่มโจมตีเจ้าคนดวงซวยที่ถือป้ายอาญาสิทธิ์คนนั้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ในจำนวนนั้นยังรวมหนิวจื้อชุนกับสหายสองคนของจ้างเย่ว์ด้วย

ป้ายอาญาสิทธิ์เป็นของผู้มีความสามารถเท่านั้น!

นี่ไม่ใช่บุญคุณความแค้นส่วนตัว!

ในทางลับบนช่องลม ซานเย่ว์พึมพำเสียงต่ำ “เจ้าหนิวจื้อชุนนั่นเป็นสายบุกจริงๆ”

“เพราะเขาฉลาดมากพออย่างไรล่ะ” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวเสียงเรียบ “เป็นเพราะการประลองบนสังเวียนก่อนหน้านี้ ใครก็มองออกว่าพวกเราสองคนมาด้วยกัน ตอนนี้ถ้าพวกเขาเห็นข้าก็จะนึกถึงเจ้าทันที ในทางกลับกัน ถ้าเขาเอาตัวเองเข้าไปรวมกับพวกที่แย่งสมบัติกัน ก็มีโอกาสมากกว่าที่จะไม่กลายเป็นเป้าหมาย”

เขาบอกอีกว่า “แล้วอีกอย่างนะ พอเป็นอย่างนี้ เขาก็ยิ่งมีโอกาสได้ป้ายอาญาสิทธิ์มากขึ้นด้วยไม่ใช่หรือ”

“แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดี”

“ดูสถานการณ์ไปก่อน…เชี่ย ผลประโยชน์ที่คาดไม่ถึง!”

ที่แท้ ตอนที่ข้างล่างกำลังต่อสู้กัน ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผู้เล่นที่ถือดาบคนหนึ่งถอยออกมาด้านข้างอย่างเงียบเชียบ ตอนนี้กำลังเดินเข้ามาทางพวกเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว

จากนั้น เจ้าหมอนี่เอาเยี่ยงอย่างจ้างเย่ว์ พุ่งตัวขึ้นมาข้างบน กระโดดขึ้นมาบนทางลับโดยตรง มาอยู่ตรงข้ามเยี่ยเว่ยหมิงกับซานเย่ว์พอดี

เห็นได้ชัดว่าผู้เล่นที่ทำตัวลับๆ ล่อๆ คนนี้ไม่ทันระวังว่าตรงทางลับมีคนอื่นนอกจากหนิวจื้อชุน หลังจากอึ้งไปชั่วขณะ ก็โบกดาบฟันไปทางซานเย่ว์

ซานเย่ว์รีบเบี่ยงตัวหลบ ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงที่อยู่อีกด้านก็ส่งกระบี่ชิงจู๋ออกมา แทงบนคอหอยของเจ้าหมอนี่โดยตรง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+