ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 282 อดทนไว้ ข้าจะใช้ท่าไม้ตายแย่งบอสของเจ้า!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 282 อดทนไว้ ข้าจะใช้ท่าไม้ตายแย่งบอสของเจ้า! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 282 อดทนไว้ ข้าจะใช้ท่าไม้ตายแย่งบอสของเจ้า!

ที่จริงแล้ว แม้กลุ่มผู้เล่นทั่วไปเดาก่อนหน้านี้จะเดาไม่ถูก แต่ก็ค่อนข้างใกล้เคียง

เยี่ยเว่ยหมิงวิ่งขึ้นยอดเขาตลอดทาง พุ่งเป้าไปที่หลี่เปียว บอสคนสุดท้ายของภารกิจนี้จริงๆ

แม้ในข้อมูลภารกิจจะบอกไว้ว่าเป้าหมายสุดท้ายของภารกิจนี้คือคะแนนสะสม และอันดับในตอนสุดท้ายของผู้เล่นตัดสินโดยอิงตามคะแนนสะสมก็ตาม

ฟังดูเหมือนต่อให้ไม่ฆ่าหลี่เปียว ขอเพียงได้คะแนนสะสมมากพอก็จะได้รางวัลชนะเลิศของการประลองครั้งนี้ ได้เป็นหนึ่งในรายชื่อการประลองรอบตัดสินของหอหมอกพิรุณได้อย่างง่ายๆ แล้ว

แต่ความจริงเป็นอย่างนั้นหรือ

เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้คิดอย่างนั้น!

ลองเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเปลี่ยนเป็นคนทั่วไปยืนอยู่ในจุดของจางอาเซิง เกรงว่าคงซาบซึ้งใจต่อคนที่ช่วยเขาสังหารล้างแค้นหลี่เปียวที่สุด ไม่ใช่ซาบซึ้งใจต่อคนที่สังหารลูกศิษย์ของหลี่เปียวหรือทำลายกิจการของหลี่เปียวได้มากที่สุด

ถ้ามองจากมุมนี้ กติกาของภารกิจนี้ก็เหมือนจะไม่สอดคล้องกับความน่ารังเกียจของนิสัยคน

แต่เยี่ยเว่ยหมิงกลับคิดว่าสองสิ่งนี้นำมารวมกันได้!

นั่นก็คือ คะแนนสะสมที่ได้จากการสังหารหลี่เปียว คงไม่เพิ่มหลายเท่าจนกลายเป็นเจ็ดร้อยเหมือนกับการสังหารลูกสมุนแล้วได้เจ็ดแต้ม สังหารหัวโจกแล้วได้เจ็ดสิบแต้มแน่นอน

เขาแทบจะตัดสินได้เลย ว่าถ้ามีคนบุกเดี่ยวไปสังหารหลี่เปียวได้ อย่างน้อยก็จะได้คะแนนสะสมไม่ต่ำกว่าเจ็ดพันแน่นอน ถึงขั้นทะลุหมื่นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้!

ดังนั้น ศีรษะของหลี่เปียว คือสิ่งที่เยี่ยเว่ยหมิงต้องได้!

ระหว่างทางล่อมอนสเตอร์ ฆ่ามอนสเตอร์ ปล้นของและกินยาฟื้นฟูพลังชีวิตไปพร้อมกัน กอปรกับใช้เอฟเฟ็กต์พิเศษของ ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ อย่าง ‘ชำระปราณ’ จนเกิดประสิทธิภาพสูงสุด เยี่ยเว่ยหมิงแทบจะเคลื่อนไหวได้โดยไม่หยุดเหมือนหุ่นยนต์ ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็โจมตีมาถึงนอกประตูใหญ่ของค่ายภูเขาแล้ว

เดิมทีตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงอยู่ระหว่างทางมาที่นี่ก็ไตร่ตรองไปด้วยว่าควรจะฝ่าประตูใหญ่แล้วบุกเข้าค่ายภูเขาอย่างไรดี

แต่พอไตร่ตรองจนถึงตอนสุดท้าย ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ถ้าประตูใหญ่ของค่ายภูเขาไม่ได้แข็งแรงเป็นพิเศษ ก็ใช้มังกรซ่อนกบดานหนึ่งฝ่ามือถล่มเปิดได้เลย แต่ถ้าแข็งแรงทนทาน ก็ใช้สองฝ่ามือ แต่ถ้าทนทานเป็นพิเศษ ก็ใช้ประมาณสามฝ่ามือ…

ถ้าแข็งแรงเกินไป จนแม้แต่สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรก็ทำลายไม่ไหว เช่นนั้นก็ทำได้เพียงคิดหาทางอื่นแล้ว

ทว่า ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงพุ่งขึ้นไปบนยอดเขา แล้วเห็นคะแนนสะสมของตัวเองเปลี่ยนจากอันดับเจ็ดขึ้นไปเป็นอันดับสาม ประตูใหญ่ของค่ายทรายพิษกลับสร้างเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้เขาแล้ว

ที่จริงแล้วประตูใหญ่ของค่ายภูเขา ตอนนี้กลับมีสภาพแตกต่างกับที่เขาคาดคิดไว้ก่อนหน้านี้โดยสิ้นเชิง

ไม่น่าเชื่อว่ามันยังเปิดอยู่!

พอเห็นประตูใหญ่ค่ายภูเขาเปิดอยู่ ความคิดแรกของเยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่ใช่ว่าตัวเองจะได้ประหยัดกำลังภายในของ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ แต่คิดว่าหลี่เปียว เป้าหมายที่เขาต้องได้อาจจะถูกคนอื่นชิงฆ่าไปก่อนแล้ว!

เนื่องจากรอบๆ ประตูใหญ่ของค่ายภูเขา มีศพลูกสมุนหรือไม่ก็หัวโจกของค่ายทรายพิษไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยร่างนอนเกลื่อนพื้น

ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสังหารมาถึงค่ายทรายพิษเร็วกว่าตน ทั้งยังฝ่าประตูใหญ่ของค่ายภูเขาได้แล้ว!

สำหรับเรื่องที่คนอื่นโจมตีมาถึงที่นี่ก่อนเขาหนึ่งก้าว เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องแปลก

อย่างไรเสียก่อนรับภารกิจ ก็เกิดเหตุการณ์คล้ายโรคย้ำคิดย้ำทำกับเขา ดึงดันจะใช้ค่าประสบการณ์ที่เหลืออยู่เพิ่มเลเวลให้เต็มแล้วค่อยไปรับภารกิจ จึงมาช้ากว่าคนอื่นเกือบครึ่งชั่วโมง

ดูจากบาดแผลของศพมอนสเตอร์พวกนี้ก็รู้แล้วว่าผู้เล่นที่มาถึงที่นี่ก่อนเขาไม่ได้มีเพียงคนเดียว อย่างน้อยก็น่าจะเป็นทีมเล็กๆ สามคนขึ้นไป

เพราะมีเพียงทีมที่ซับซ้อนแบบนี้เท่านั้น ถึงจะโจมตีจนเกิดบาดแผลหลากหลายไม่ซ้ำแบบออกมาได้

แต่ถ้าประตูใหญ่ของค่ายภูเขาไม่มีคนเฝ้าแล้ว เช่นนั้นก็แสดงว่าแม้แต่เป้าหมายอย่างหลี่เปียวก็ถูกคนชิงฆ่าไปแล้วเหมือนกันน่ะสิ

ไม่ใช่แน่นอน!

ถ้าหลี่เปียวตายแล้ว ไม่ต้องพูดถึงว่าต้องมีประกาศบอกทั้งเซิร์ฟเวอร์ แต่อย่างน้อยผู้เล่นที่เข้าร่วมภารกิจอย่างพวกเขาก็ควรจะได้รับแจ้งเตือนสิ

พอเข้าใจจุดนี้แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ใช้ท่าร่างแปดก้าวไล่ทันคางคกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทันที เขาราวกับกลายเป็นรถจักรยานยนต์คันหนึ่งที่พอสตาร์ทเครื่องก็ขับเคลื่อนสุดกำลัง พุ่งตัวเข้าไปในค่ายภูเขาพร้อมลมแรงวูบหนึ่ง

ในเมื่อมีคนมาถึงที่นี่เร็วกว่าเขาหนึ่งก้าว ถ้ายังไม่รีบอีก เกรงว่ารางวัลคะแนนสะสมมหาศาลจากการสังหารหลี่เปียวก็จะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาจริงๆ แล้ว

เมื่ออยู่ในโหมดภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นเขาทรายพิษหรือค่ายทรายพิษ ขนาดก็ล้วนขยายใหญ่กว่าเดิมสิบเท่า

เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ แม้จะเป็นค่ายภูเขาธรรมดา แต่ก็กลายเป็นกลุ่มสิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ไร้ที่เปรียบได้เช่นกัน

ยังดีที่ทีมผู้เล่นที่มาถึงล่วงหน้าเก็บกวาดเส้นทางจนสะอาดแล้ว ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงไม่ต้องเปลืองเวลากับการฆ่าลูกสมุนและมอนสเตอร์เล็กๆ เลย เขาวิ่งไปยังจุดหมายปลายทางด้วยความเร็วสูงสุดได้โดยตรง

ตอนที่เขาวิ่งตามเส้นทางที่ถูกเก็บกวาดไว้แล้วจนมาถึงนอกประตูใหญ่ของหอประชุมรวมคุณธรรมแห่งหนึ่ง ก็เห็นชายรูปร่างกำยำคนหนึ่งที่ฝ่ามือสองข้างเป็นสีแดงเหมือนทาด้วยผงชาด เปลือยร่างกายท่อนบน ตอนนี้กำลังถูกผู้เล่นห้าคนล้อมโจมตี

[หลี่เปียว]

ยอดฝีมือค่ายทรายพิษ อันธพาลที่ก่อกรรมทำชั่วอยู่ในพื้นที่หนึ่ง

เลเวล: 55

พลังชีวิต: 117326/230000

กำลังภายใน: 65474/80000

……

ไม่น่าเชื่อว่าผู้เล่นกลุ่มนี้จะโจมตีจนค่าพลังชีวิตของหลี่เปียวลดไปเกินครึ่งแล้ว!

พอดูการแบ่งงานในทีมของพวกเขา

ก็พบว่าคนหนึ่งคือผู้เล่นเส้าหลินที่ใช้เคล็ดฝ่ามือ อีกคนคือผู้เล่นสำนักถังเหมินที่ใช้อาวุธลับธรรมดาเหมือนถังซานไฉ่ นอกจากนี้ยังมีผู้เล่นพรรคกระยาจกอีกสองคนที่ถือกระบองเหล็ก รวมทั้งผู้เล่นสำนักหัวซานอีกสองคนที่เชี่ยวชาญเคล็ดกระบี่และทำงานร่วมกันได้ดีมาก ในจำนวนผู้เล่นหัวซานสองคนนั้นยังมีสาวน้อยคนหนึ่งด้วย ถือว่ามีทั้งตัวแทงก์ ตัวควบคุม และแครี่ เป็นการโจมตี BOSS ที่แบ่งงานกันในทีมได้อย่างเหมาะสมจริงๆ

ดูจากฝีมือของคนพวกนี้ แต่ละคนแทบจะเป็นดาวเด่นท่ามกลางผู้เล่น ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ถึงขั้นมีคนที่ระดับเทียบเท่ากับเฟยอวี๋และซานเย่ว์ได้

การวมพลังของทั้งห้าคน ไม่น่าเชื่อว่าจะค่อยๆ พรากพลังชีวิตของหลี่เปียวได้อย่างมั่นคง ไม่มีวี่แววว่าจะแรงตกเลยสักนิด!

ตอนนี้ถ้าเยี่ยเว่ยหมิงอยากจะแย่งฆ่าบอส ก็เหลือแค่สองทางเลือกแล้ว

ทางเลือกแรกคือกำจัดคนแล้วค่อยแย่งฆ่ามอนสเตอร์ วิธีการแบบนี้มั่นคงและปลอดภัยกว่า แต่ก็ค่อนข้างขาดคุณธรรม เจ้าแย่งฆ่ามอนสเตอร์ของคนอื่นก็ถือว่าทำเกินไปแล้ว ถ้ายังจะฆ่าคนอีก ก็ฟังดูเหลวไหลเกินไปหน่อย

ทางเลือกที่สองก็คือไม่ต้องฆ่าผู้เล่น แค่แย่งฆ่ามอนสเตอร์ก็พอ

แต่อิงตามสามกฎใหญ่ในการแบ่งไอเทมดรอปของมอนสเตอร์ ต่อให้เยี่ยเว่ยหมิงลงมือตอนนี้ ก็เสียคุณสมบัติในการโจมตีมอนสเตอร์เป็นคนแรกและทำดาเมจสูงสุดอยู่ดี อย่างไรอีกฝ่ายก็ตั้งทีมแล้ว ตอนที่เปรียบเทียบค่าผลงานของทั้งสองฝ่าย เขาก็จะต้องเปรียบเทียบกับอีกฝ่ายแบบทั้งทีม

พอเป็นแบบนี้ ก็ทำได้เพียงลองพยายามโจมตีมอนสเตอร์เป็นคนสุดท้ายแล้ว แต่ต่อให้ทำแบบนี้ โอกาสที่จะแย่งหลี่เปียวมาได้ก็ไม่ได้สูงมาก

สรุปรวมจากเหตุผลข้างต้น สุดท้ายเยี่ยเว่ยหมิงก็เลือก…

ไท้ซัวเป็นไฉน เป้าหมายหลี่เปียว เปิดใช้งาน!

ขณะที่งอนิ้วคำนวณ เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ลืมเอ่ยปากตะโกนเบอกผู้เล่นห้าคนที่กำลังทำศึกเดือดกับหลี่เปียวว่า “พวกเจ้าขัดขวางเขาให้ข้าก่อน ข้ามีท่าไม้ตายอยู่ท่าหนึ่ง ต้องใช้เวลาเตรียมตัวประมาณหนึ่งนาที”

“ถ้าเตรียมตัวเสร็จแล้ว ก็จะโจมตีเร็วเหมือนฟ้าผ่า ปลิดชีพ BOSS คนนี้ได้อย่างง่ายดาย!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด