ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 445 ล้างทีม

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 445 ล้างทีม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 445 ล้างทีม

“เอ่อ…”

เมื่อเอ่ยคำถามนี้ออกมา ขุนเขาลำธารย่อมพานพบกับเซียนสาวน้อยนักกินก็ตกอยู่ในความเงียบพร้อมกัน

ถ้าอวิ๋นจงเฮ่อบังเอิญเจอจงหลิง เช่นนั้นการที่อีกสามคนโฉดปรากฎตัวในที่เกิดเหตุหลังจากอวิ๋นจงเฮ่อตาย ก็ไม่มีทางใช้คำว่าบังเอิญมาอธิบายได้เช่นกัน

เพราะไม่มีหตุผลเลยที่พวกเขาจะปรากฏตัวที่นั่นในเวลานั้น!

ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ตอนนี้สามคนโฉดถูกพวกเยี่ยเว่ยหมิงดึงมาเป็นพวกสำเร็จแล้ว กลายเป็นสหายร่วมรบชั่วคราวของพวกเขา ความจริงเป็นอย่างไร ขอเพียงไปถามพวกเขาแบบต่อหน้าให้ชัดเจนก็กระจ่างแล้ว ไม่มีทางปิดบังได้

เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่แล้วอธิบายต่อว่า “ข้าคิดว่าพวกต้วนเหยียนชิ่งต้องถูกเจ้าสามคนนั้นยุยงแน่นอน ถึงได้ไปโผล่อยู่ที่นั่นในเวลานั้นเพื่อสู้กับพวกเรา แต่ว่า…

…พวกเจ้าเคยตั้งคำถามหรือเปล่าว่าเหตุใดพวกเชิญร่ำสุราถึงรู้ว่าพวกเรานัดกับจงหลิง…

…ถึงอย่างไร แผนการทั้งหมดของอีกฝ่ายก็ล้วนอยู่ภายในเงื่อนไขว่าพวกเราใช้เสียงของนกหวีดไม้ไผ่ล่อจงหลิงออกมาจากหุบเขา”

ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงได้ยินแล้วพยักหน้า จากนั้นถามว่า “ดังนั้น เจ้าก็เลยสงสัยข้า?”

“ไม่ใช่!” เยี่ยเว่ยหมิงชูหนึ่งนิ้ว พร้อมส่ายหน้าบอกว่า “ถ้าจะพูดให้ถูก ตอนนั้นผู้ต้องสงสัยของข้าก็คือ ‘พวกเจ้า’ ทุกคน ยกเว้นข้ากับซานเย่ว์!…

…อย่ามองข้าด้วยสายตาอย่างนั้น ข้ารู้สึกว่าตัวเองสงสัยแบบนี้ก็สมเหตุสมผลแล้ว หากสลับจุดยืนกัน ให้พวกเจ้าเจอพิรุธล่วงหน้าอย่างนั้นบ้าง อย่าบอกนะว่าจะตัดข้าออกจากรายชื่อผู้ต้องสงสัย”

เมื่อได้ยินดังนั้น ทุกคนก็เงียบพร้อมกัน

หากเป็นอย่างที่เยี่ยเว่ยหมิงบอกไว้จริงๆ เป็นพวกเขาที่เจอพิรุธล่วงหน้า เกรงว่านอกจากพวกเดียวกันที่จะถูกตัดออกก่อน คนที่สามก็คงเป็นต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงหรือเปล่า

ตอนนี้ทุกคนกลับได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงพูดต่อ “ยิ่งไปกว่านั้น การที่ปาเทียนสือกับหัวเฮ่อเกิ้นถูกจู่โจมก็มีจุดที่น่าสงสัยเหมือนกัน ถึงข้าจะไม่เข้าใจปฏิบัติการของฝั่งพวกเขาชัดเจน แต่ด้วยนิสัยของระบบที่ป้องกันแฟนพันธุ์แท้ต้นฉบับเดิมเหมือนป้องกันโจรเพราะกลัวว่าจะมาเอาเปรียบผู้เล่นอื่นจากจุดนี้ ข้าว่าปากทางเข้าอุโมงค์ที่พวกเขาขุดจะต้องมีจุดที่เป็นความลับสุดยอดแน่นอน อย่างน้อยก็ไม่ใช่จุดที่ผู้เล่นสามคนนั้นตามหามั่วๆ แล้วจะเจอได้ง่ายๆ…

…สำหรับจุดนี้ เดิมทีหลังจากช่วยชีวิตปาเทียนสือแล้วข้าก็อยากจะถามเลย แต่ตอนนั้นพวกเจ้ามากันหมดแล้ว ก็เลยกำชับให้ซานเย่ว์ถามระหว่างทางกลับต้าหลี่” ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงที่กำลังมองต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงก็เผยรอยยิ้มชัดเจนกว่าเดิม “เมื่อครู่นี้เอง ซานเย่ว์เพิ่งส่งพิราบสื่อสารมาบอกข้าว่าปาเทียนสือ ยอมรับแล้ว ว่าในบรรดาพวกเรา มีเพียงเจ้าที่รู้ตำแหน่งทางเข้าอุโมงค์ลับที่พวกเขาขุดอย่างละเอียด…

…เพราะเจ้าเองก็เป็นลูกศิษย์ของสกุลต้วนต้าหลี่อยู่แล้ว ก่อนที่พวกเขาจะปฏิบัติภารกิจ ยังไปขอให้เจ้าช่วยซื้อโคมลอยที่ตลาดอยู่เลย”

“…แน่นอน” เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่แล้วพูดต่อ “สิ่งที่ข้าพูดก่อนหน้านี้เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ แต่ตอนที่เจ้าใช้ดรรชนีโจมตีข้าก่อนหน้านี้ ก็ได้เปิดโปงฐานะของเจ้าหมดแล้ว…

…บางที่พวกเจ้าอาจจะคิดว่า ขอเพียงสังหารข้าให้ตายที่นี่สักครั้ง กำจัดปัญหาที่ใหญ่ที่สุดอย่างข้าออกจากภารกิจได้ แม้ฐานะหนอนบ่อนไส้ของเจ้าจะถูกเปิดโปงก็ไม่น่าเสียดายอยู่ดีใช่ไหม”

เมื่อได้ยินดังนั้น ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงก็พลันกล่าวชมว่า “เยี่ยมยอด” จากนั้นก็จ้องตรงไปที่เยี่ยเว่ยหมิง “ในเมื่อเจ้าวิเคราะห์มากมายขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นจะไม่อธิบายสักหน่อยหรือว่าแรงจูงใจที่ข้าทำแบบนี้คืออะไร…

…อย่างไรเสีย ข้าก็คือลูกศิษย์ของสกุลต้วนต้าหลี่ หากภารกิจครั้งนี้ล้มเหลว ข้าต่างหากที่คือคนที่เสียหายมากที่สุด”

“ไม่ๆๆ!” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าอีกครั้ง “คนที่แบกรับความเสียหายมากสุดคือสกุลต้วนต้าหลี่ต่างหาก ส่วนความเสียหายของเจ้า ก็แค่บทลงโทษภารกิจล้มเหลวหนึ่งครั้งเท่านั้น ก็แค่ไม่ได้รางวัลเท่านั้นเอง…

…ขอเพียงเจ้าทรยศสกุลต้วนแล้วได้ผลประโยชน์มากพอ ได้เยอะกว่าความเสียหายพวกนี้ เช่นนั้นเจ้าก็มีแต่จะได้กำไร…

…อย่างไรเสีย พิรุธที่ข้าเอ่ยถึงก่อนหน้านี้ คนที่เชื่อก็มีแค่ผู้เล่นเท่านั้น…

…แต่ถ้ายังไม่มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ทั้งยังไม่มี NPC ของสกุลต้วนต้าหลี่เห็นกับตาว่าเจ้าใช้วิชาดรรชนีลอบโจมตีข้า เจ้าก็ยังเป็นศิษย์ของสกุลต้วนต้าหลี่อยู่ดี จะไม่ถูกลงโทษมากกว่านี้…

…ถึงขั้นว่า หลังจากสกุลต้วนต้าหลี่ได้รับความเสียหายครั้งนี้ อาจจะมอบภารกิจชดเชยบางอย่างให้ก็ได้ ซึ่งเจ้าที่เตรียมตัวไว้นานแล้ว อาจจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำจากภารกิจพวกนั้นอีกด้วย มีหรือที่จะขาดทุน”

จนกระทั่งตอนนี้ ขุนเขาลำธารย่อมพานพบกับเซียนสาวน้อยนักกินถึงได้มองไปที่ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงด้วยสายตาเหลือเชื่อ ขุนเขาลำธารย่อมพานพบถามอย่างค่อนข้างโมโหว่า “อาทิตย์อัสดง ที่แท้เจ้าก็เป็นคนทรยศจริงๆ ที่เจ้าขอให้พวกกเราสองคนมาช่วย อย่าบอกนะว่าเพื่อหลอกใช้พวกเรา”

“เฮ้อ…” หลังจากถอนหายใจยาวเฮือกหนึ่ง ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงก็อธิบายต่อเหมือนไม่แยแส “พวกเจ้าไม่ใช่คนของสกุลต้วนสักหน่อย ไม่จำเป็นต้องอุทิศตัวเองเพื่อสกุลต้วนเลย หลังจากจบเรื่อง ข้าเตรียมของชดเชยไว้เพียงพอแล้ว ไม่ปล่อยให้พวกเจ้าเสียหายจริงๆ หรอก อย่างน้อยข้าก็เชื่อว่าสิ่งที่ข้าจะชดเชยให้ไม่ด้อยกว่ารางวัลภารกิจที่พวกเจ้าจะได้รับแน่นอน…

…ถึงขั้นว่าการชดเชยที่ข้าพูดถึงก่อนหน้านี้ ตอนนี้ก็ยังอยู่”

“ขอบคุณแล้วกัน แต่พวกเราไม่ต้องการ!” ขุนเขาลำธารย่อมพานพบสะบัดแขนเสื้อ หันหน้าหนี ไม่มองเขาอีก

ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงเห็นแล้วอดยิ้มเจื่อนไม่ได้ “พวกเจ้าจำเป็นต้องทำอย่างนั้นด้วยหรือ ก่อนหน้านี้ระหว่างที่ไล่สังหารปาเทียนสือ เชิญร่ำสุราก็ขายเมฆเคลื่อนเดียวดายแล้วเช่นกัน แต่เขากลับยังเข้าใจสิ่งที่เชิญร่ำสุราทำ เพราะในบรรดาพวกเขาต้องมีหนึ่งคนที่รับประกันได้ว่าจะไม่ตายระหว่างทำภารกิจ ภารกิจที่ได้รับจะได้ไม่ขาดตอน…

…ดังนั้น หลังจากเชิญร่ำสุราชดเชยให้แล้ว เมฆเคลื่อนเดียวดายก็ใจกว้างอภัยให้เขาได้ทันที…

ทำไมไม่รู้จักเรียนรู้จากเมฆเคลื่อนเดียวดายบ้าง เลือกให้อภัยข้าเหมือนกันหน่อยสิ”

ตอนนี้เอง เซียนสาวน้อยนักกินก้าวขึ้นมาหนึ่งก้าวแล้วถามอย่างหงุดหงิด “จะเหมือนกันได้อย่างไร”

ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงถามกลับ “มีอะไรไม่เหมือนกัน”

เซียนสาวน้อยนักกินอึ้งกับคำถาม อยากจะโต้กลับ แต่ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไร

ตอนนี้เอง เยี่ยเว่ยหมิงก็พูดต่ออย่างเด็ดเดี่ยวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เพราะพวกเขาสามคนร่วมงานกันเฉยๆ แต่สหายขุนเขากับน้องนักกินเห็นเจ้าเป็นสหาย”

เยี่ยเว่ยหมิงชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ “ตอนนี้ข้าก็ยังคิดไม่ตก คำถามที่เอ่ยถึงก่อนหน้านี้ พวกเจ้ามีจุดประสงค์อะไรกันแน่”

ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงได้ยินแล้วแสยะยิ้ม “เจ้าช่ำชองการวิเคราะห์ไม่ใช่หรือ ไม่สู้ลองวิเคราะห์เสียเลยสิ เดาสิว่าข้ากับพวกสหายร่ำสุราร่วมมือวางแผนอะไรกันแน่”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า พลันแทงกระบี่แสงทองในมือออกมา ท่าปลุกปั่นกระบี่ที่ใช้เป็นร้อยครั้งก็ไม่เบื่อ แน่นอนว่าเขาไม่พลาดเป้าอยู่แล้ว

หนึ่งกระบี่แทงลำคอ!

ร่างของต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงกลายเป็นแสงสีขาว ไปรายงานตัวที่จุดฟื้นชีพในหุบเขาว่านเจี๋ยแล้ว

หลังจากกำจัดคนทรยศ เยี่ยเว่ยหมิงก็เก็บกระบี่แสงทองแล้วหันตัวเดินไปนอกหุบเขาว่านเจี๋ย “สิ่งที่พวกเราควรพิจารณาอันดับแรกในตอนนี้ ก็คือจะสู้ให้ชนะจิวหมัวจื้ออย่างไร ใครจะไปมัวใจเย็นเดาเจตนาของเจ้า”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด