ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 241 น้องดาบเติบโตแล้ว

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 241 น้องดาบเติบโตแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 241 น้องดาบเติบโตแล้ว

เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงเตือนแบบนี้ ทุกคนถึงตระหนักได้

มารดาเจ้าเถอะ ไม่น่าเชื่อว่าหยวนเจินจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้!

เสียแรงที่ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขาได้รับภารกิจนี้กะทันหัน พวกเขายังดีใจอยู่เลย

แม้รางวัลของภารกิจนี้จะดูไม่มากเท่าไร แต่พอหยวนเจินบอกว่าต้องการเก็บตัวรักษาอาการบาดเจ็บ ในระหว่างนั้นไม่อาจถูกรบกวนได้ ก็ทำให้พวกเขาใจเต้นแล้ว

เดิมทีพวกเขายังคิดว่าควรจะแสร้งรับภารกิจนี้หรือไม่ จากนั้นค่อยฉวยโอกาสตอนที่หยวนเจินเริ่มโคจรลมปราณรักษาบาดแผลและไม่อาจถูกรบกวนได้ ทรยศโจมตีให้เขาถูกกำลังภายในย้อนทำร้าย

ผลปรากฏว่าพอเยี่ยเว่ยหมิงเตือนแบบนี้ พวกเขาถึงได้รู้ตัว ว่าภารกิจที่เรียกว่า ‘พิทักษ์ธรรม’ เป็นเพียงกับดักหนึ่งเท่านั้น เป็นกับดักที่ป้องกันไม่ให้ผู้เล่นเปลี่ยนใจทรยศกะทันหัน!

ถึงตอนนั้นหลังจากทุกคนรับภารกิจแล้ว จู่ๆ พบว่าวัดร้างแห่งนี้กลายเป็นฉากที่ภารกิจปกป้องและไม่อาจเข้าไปได้ หรือหยวนเจินกลายเป็นเป้าหมายที่ไม่อาจโจมตีได้ หรือถ้าทรยศแล้วถูกลงโทษสิบเท่าอะไรทำนองนั้น เรื่องราวเหล่านี้ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้!

ร้ายกาจ!

นึกไม่ถึงว่าจะเฉิงคุนเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ แผนร้ายต่างๆ ที่คิดขึ้นมาทำให้คนหาทางชนะไม่เจอจริงๆ!

พูดตามตรง เกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ถ้าอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตก็ถือเป็นเกมสายขาวที่มีมโนธรรม NPC ไม่มีทางคิดหาวิธีต่างๆ นานามาทำร้ายผู้เล่น หรือฮุบรางวัลที่ผู้เล่นควรจะได้แน่นอน

ทว่ายิ่งอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมขนาดใหญ่เช่นนี้ NPC หน้าเนื้อใจเสือที่โผล่มากะทันหันอย่างหยวนเจินก็ยิ่งทำให้พวกเขาไม่ชิน

สำหรับคนจิตใจดำมืดแบบนี้ คงมีเพียงคนที่จิตใจดำมืดกว่าถึงจะรับมือกับเขาได้

สายตาของทุกคนมองไปบนตัวเยี่ยเว่ยหมิงพร้อมกัน

“เฮ้อ…” หยวนเจินถอนหายใจอย่างจนใจ อยากจะโกหกเรื่องนี้มาก แต่เยี่ยเว่ยหมิงถามแบบไม่อ้อมค้อมเลย ทั้งยังถามถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจอย่างตรงไปตรงมาด้วย สำหรับคำถามแบบนี้ เขาที่อยู่ในฐานะ NPC กลับพูดจาซี้ซั้วไม่ได้

หยวนเจินประนมมือกล่าวนามพระพุทธเจ้าอีกครั้ง แล้วบอกว่า “จะใช่หรือไม่ใช่แล้วต่างกันอย่างไร อย่าบอกนะว่าจอมยุทธ์น้อยเยี่ยยังคิดจะกลับคำ ลงมือทำร้ายอาตมาซึ่งๆ หน้า”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วกลับก้าวถอยหลัง แล้วตอบอย่างมีเหตุผลว่า “ไต้ซือหยวนเจินกล่าวเช่นนี้ได้อย่างไร ข้าเป็นหัวหน้ามือปราบยศขั้นหกของสำนักมือปราบเทพ เป็นคนยุติธรรมไม่เห็นแก่ตัว จะทำเรื่องไร้ศีลธรรมอย่างการทรยศได้อย่างไร”

“หากไต้ซือหยวนเจินทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของข้าอีก ระวังข้าจะตั้งข้อหาใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ราชสำนักให้เจ้านะ!”

หา!

พอพูดแบบนี้ เหมือนจะหาข้ออ้างเปิดฉากโจมตีมอนสเตอร์ได้แล้วนะ!

หากเฉิงคุนกล้ากวนใจเรื่องนี้ เช่นนั้นข้อหา ‘ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ราชสำนัก’ จากเขาก็เป็นความจริงแล้ว แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะเปิดฉากโจมตีมอนสเตอร์ก่อน แต่ก็จะไม่ถูกหักค่าวีรบุรุษ

เพราะตอนนี้ข้ากำลังบังคับใช้กฎหมาย!

ใจเย็น สงบเสงี่ยม จะให้น้องดาบมองออกไม่ได้

เขาใช้มือขวาไพล่หลังเงียบๆ ลูกดีดเหล็กลูกหนึ่งอยู่ในฝ่ามือของเขาแล้ว

แม้ความเจ้าเล่ห์มากแผนการของหยวนเจินจะทำให้เยี่ยเว่ยหมิงหาโอกาสได้น้อย แต่ขอเพียงเขาวางกับดักสักเล็กน้อยในบทสนทนาต่อไป เยี่ยเว่ยหมิงก็จะเปิดฉากโจมตีมอนสเตอร์ด้วย ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ อย่างไม่ลังเล

ถ้าให้น้องดาบรู้เข้า ก็อาจขโมยไก่ไม่ได้[1] ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ…

ชวิ้ง!

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงเริ่มลองใช้คำพูดหลอกล่อให้หยวนเจินตกหลุมพราง แย่งโอกาสโจมตีคนแรกจากน้องดาบมาไว้ในมือตัวเอง จู่ๆ ก็เห็นแสงสะท้อนคมดาบแวบผ่าน ฟันไปยังศีรษะที่ทั้งล้านทั้งมันวาวของหยวนเจินแล้ว

คนที่ลงมือก็คือน้องดาบนั่นเอง!

เดิมทีน้องดาบก็ยืนสังเกตสถานการณ์เงียบๆ อยู่ข้างหลังเยี่ยเว่ยหมิงอยู่แล้ว ผลปรากฏว่าดูไปดูมา นางก็พบว่าจู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็เอามือขวาไพล่หลังตัวเองเหมือนไม่ตั้งใจ

อาศัยประสบการณ์โชกโชนที่นางเคยถูกวางกับดักต่างๆ นานามาเป็นเวลานาน น้องดาบตระหนักได้ทันทีว่าเจ้าเวรนี่คงจะเล่นไม่ซื่ออะไรสักอย่าง

อีกทั้งสัญชาตญาณของผู้หญิงก็บอกนางว่าเป้าหมายที่มือปราบหน้าเหม็นคนนี้จะเล่นไม่ซื่อด้วยอาจจะไม่ใช่หยวนเจิน

เช่นนั้นก็เกิดปัญหาแล้ว

ตอนนี้ในวัดร้างโหย่วเจียนมีคนทั้งหมดเจ็ดคนเท่านั้น นอกจากหยวนเจินที่ต้องฆ่าให้ตาย ยังมีใครอีกที่เยี่ยเว่ยหมิงคิดจะวางกับดักด้วยมากที่สุด

พอนึกถึงตรงนี้ แม้จะยังไม่เข้าใจประเด็นสำคัญ แต่นางก็ยังเลือกลงมืออย่างไม่ลังเล ตอนที่ใช้ดาบฟันออกไป ปากก็ยังพูดดูถูกด้วยว่า “เปลืองคำพูดกับหลวงจีนหน้าเหม็นแบบนี้ก็ไม่รู้จักจบจักสิ้นสักที เจ้ามีเวลาว่างมากขนาดไหนกัน”

มารดาเจ้าเถอะ เยี่ยเว่ยหมิงเห็นสถานการณ์นี้แล้วตาเป็นประกาย น้องสาวคนนี้เติบโตแล้ว!

มีศักยภาพแฝง!

เพื่อให้ดอกไม้ของชาติเติบโตอย่างแข็งแรง เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าในภายหลังตัวเองต้องพยายามอย่างไม่หยุดหย่อน ต้องรังแกนางให้มากขึ้นหน่อย กระตุ้นให้นางเติบโตเร็วยิ่งขึ้น

เป็นการตัดสินใจที่มีความสุข!

อีกด้านหนึ่ง ดาบแรกของน้องดาบไม่ได้โจมตีจนถึงตาย อีกทั้งท่าร่างอันปราดเปรียวของหยวนเจินก็ทำให้หลบได้อย่างยอดเยี่ยม

ตามติดด้วยดาบที่สอง ดาบที่สาม ดาบที่สี่…การโจมตีของน้องดาบเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่ท่ามกลางการโจมตีอย่างบ้าคลั่งเหมือนพายุของนาง หยวนเจินกลับหลบได้ตลอด

แม้หยวนเจินจะอยู่ท่ามกลางการโจมตีด้วยท่าไม้ตายต่อเนื่องของนางดาบ เห็นได้ชัดว่าสะบักสะบอมสุดๆ แต่กลับยังไม่มีท่าทีว่าจะโจมตีกลับ

อย่าบอกนะว่าสถานการณ์ของเขาร้ายแรงกว่าฟ่านเหยา ร้ายแรงจนทำให้เขาไม่มีทางโต้ตอบได้

ความคิดนี้แทบจะเกิดขึ้นในใจของผู้เล่นพร้อมกัน จากนั้นหนิวจื้อชุนในฐานะนักปฏิบัติ จู่ๆ เขาก็เคลื่อนไหวแล้ว เห็นเขาคว้าทวนเถี่ยเจียงประตูปีศาจออกมาไว้ในมือ ฉวยโอกาสตอนที่หยวนเจินถอยหลังเพื่อหลบดาบของน้องดาบที่ฟันมาทางเอว แทงไปทางหลังเอวของหยวนเจินแล้ว

ถ้าครั้งนี้แทงถูก จะต้องบาดเจ็บที่ไตและเกิดคริติคอลดาเมจแน่นอน!

พอหยวนเจินเห็นสถานการณ์ดังนั้น ในที่สุดก็ไม่หลบหลีกอีกต่อไปแล้ว แต่ยื่นมือตบไปบนเถี่ยเจี้ยงในมือหนิวจื้อชุน

“อั้ก!” ภายใต้การโจมตีนี้ หยวนเจินกระอักเลือดสดคำเล็กๆ ออกมาคำหนึ่ง จากนั้นก็กระเด็นถอยหลังไปสามก้าวเพราะเถี่ยเจี้ยงของหนิวจื้อชุน ตอนที่เห็นน้องดาบโจมตีตามมาถึง สองขาก็รีบออกแรงอีกครั้ง ฉวยโอกาสหลบไปข้างหลัง หลบดาบคร่าชีวิตที่ทยอยมาไม่ขาดสายของน้องดาบ

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ทุกคนในทีมก็ตกใจมาก

ที่แท้อาการบาดเจ็บบนตัวหยวนเจินก็ทำให้เขาอ่อนแอจนถึงขั้นนี้!

แม้แต่การโจมตีธรรมดาๆ ของหนิวจื้อชุนยังต้านไม่ไหว

พอเป็นแบบนี้ ระดับภารกิจสังหารหยวนเจินก็เหมือนจะสูงไปสักหน่อย

อย่าบอกนะว่าจุดที่ยากจริงๆ ของภารกิจนี้ ก็คือการรับมือกับแผนการเจ้าเล่ห์ต่างๆ นานาของอีกฝ่าย

ชั่วขณะนั้น คนที่เหลือพากันคันไม้คันมือแล้ว กลัวว่าถ้าลงมือช้า โอกาสที่จะได้เลือกไอเทมชิ้นที่สองของบอสจะไม่เกี่ยวกับตัวเองอีก

“ไอ๊หยา มารดาเจ้าเถอะ!” ตอนที่ทุกคนกำลังเรียกอาวุธของตัวเองออกมา เตรียมจะรัวฟันหยวนเจินให้ชิ้นส่วนแยก หนิวจื้อชุนกลับร้องออกมาแล้วด่าว่า “ข้าไม่ใช่คนแรกที่โจมตีมอนสเตอร์ มีสิทธิ์อะไรมาหักค่าวีรบุรุษห้าร้อยแต้มของข้า ตอนนี้อาตมากลายเป็นคนชั่วร้ายแล้ว!”

[1] ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ 做偷鸡不成 หมายถึงฉวยโอกาสไม่สำเร็จยังขาดทุน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 241 น้องดาบเติบโตแล้ว

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 241 น้องดาบเติบโตแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 241 น้องดาบเติบโตแล้ว

เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงเตือนแบบนี้ ทุกคนถึงตระหนักได้

มารดาเจ้าเถอะ ไม่น่าเชื่อว่าหยวนเจินจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้!

เสียแรงที่ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเขาได้รับภารกิจนี้กะทันหัน พวกเขายังดีใจอยู่เลย

แม้รางวัลของภารกิจนี้จะดูไม่มากเท่าไร แต่พอหยวนเจินบอกว่าต้องการเก็บตัวรักษาอาการบาดเจ็บ ในระหว่างนั้นไม่อาจถูกรบกวนได้ ก็ทำให้พวกเขาใจเต้นแล้ว

เดิมทีพวกเขายังคิดว่าควรจะแสร้งรับภารกิจนี้หรือไม่ จากนั้นค่อยฉวยโอกาสตอนที่หยวนเจินเริ่มโคจรลมปราณรักษาบาดแผลและไม่อาจถูกรบกวนได้ ทรยศโจมตีให้เขาถูกกำลังภายในย้อนทำร้าย

ผลปรากฏว่าพอเยี่ยเว่ยหมิงเตือนแบบนี้ พวกเขาถึงได้รู้ตัว ว่าภารกิจที่เรียกว่า ‘พิทักษ์ธรรม’ เป็นเพียงกับดักหนึ่งเท่านั้น เป็นกับดักที่ป้องกันไม่ให้ผู้เล่นเปลี่ยนใจทรยศกะทันหัน!

ถึงตอนนั้นหลังจากทุกคนรับภารกิจแล้ว จู่ๆ พบว่าวัดร้างแห่งนี้กลายเป็นฉากที่ภารกิจปกป้องและไม่อาจเข้าไปได้ หรือหยวนเจินกลายเป็นเป้าหมายที่ไม่อาจโจมตีได้ หรือถ้าทรยศแล้วถูกลงโทษสิบเท่าอะไรทำนองนั้น เรื่องราวเหล่านี้ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้!

ร้ายกาจ!

นึกไม่ถึงว่าจะเฉิงคุนเจ้าเล่ห์ขนาดนี้ แผนร้ายต่างๆ ที่คิดขึ้นมาทำให้คนหาทางชนะไม่เจอจริงๆ!

พูดตามตรง เกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ถ้าอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตก็ถือเป็นเกมสายขาวที่มีมโนธรรม NPC ไม่มีทางคิดหาวิธีต่างๆ นานามาทำร้ายผู้เล่น หรือฮุบรางวัลที่ผู้เล่นควรจะได้แน่นอน

ทว่ายิ่งอยู่ภายใต้สิ่งแวดล้อมขนาดใหญ่เช่นนี้ NPC หน้าเนื้อใจเสือที่โผล่มากะทันหันอย่างหยวนเจินก็ยิ่งทำให้พวกเขาไม่ชิน

สำหรับคนจิตใจดำมืดแบบนี้ คงมีเพียงคนที่จิตใจดำมืดกว่าถึงจะรับมือกับเขาได้

สายตาของทุกคนมองไปบนตัวเยี่ยเว่ยหมิงพร้อมกัน

“เฮ้อ…” หยวนเจินถอนหายใจอย่างจนใจ อยากจะโกหกเรื่องนี้มาก แต่เยี่ยเว่ยหมิงถามแบบไม่อ้อมค้อมเลย ทั้งยังถามถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภารกิจอย่างตรงไปตรงมาด้วย สำหรับคำถามแบบนี้ เขาที่อยู่ในฐานะ NPC กลับพูดจาซี้ซั้วไม่ได้

หยวนเจินประนมมือกล่าวนามพระพุทธเจ้าอีกครั้ง แล้วบอกว่า “จะใช่หรือไม่ใช่แล้วต่างกันอย่างไร อย่าบอกนะว่าจอมยุทธ์น้อยเยี่ยยังคิดจะกลับคำ ลงมือทำร้ายอาตมาซึ่งๆ หน้า”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วกลับก้าวถอยหลัง แล้วตอบอย่างมีเหตุผลว่า “ไต้ซือหยวนเจินกล่าวเช่นนี้ได้อย่างไร ข้าเป็นหัวหน้ามือปราบยศขั้นหกของสำนักมือปราบเทพ เป็นคนยุติธรรมไม่เห็นแก่ตัว จะทำเรื่องไร้ศีลธรรมอย่างการทรยศได้อย่างไร”

“หากไต้ซือหยวนเจินทำลายชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของข้าอีก ระวังข้าจะตั้งข้อหาใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ราชสำนักให้เจ้านะ!”

หา!

พอพูดแบบนี้ เหมือนจะหาข้ออ้างเปิดฉากโจมตีมอนสเตอร์ได้แล้วนะ!

หากเฉิงคุนกล้ากวนใจเรื่องนี้ เช่นนั้นข้อหา ‘ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ราชสำนัก’ จากเขาก็เป็นความจริงแล้ว แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะเปิดฉากโจมตีมอนสเตอร์ก่อน แต่ก็จะไม่ถูกหักค่าวีรบุรุษ

เพราะตอนนี้ข้ากำลังบังคับใช้กฎหมาย!

ใจเย็น สงบเสงี่ยม จะให้น้องดาบมองออกไม่ได้

เขาใช้มือขวาไพล่หลังเงียบๆ ลูกดีดเหล็กลูกหนึ่งอยู่ในฝ่ามือของเขาแล้ว

แม้ความเจ้าเล่ห์มากแผนการของหยวนเจินจะทำให้เยี่ยเว่ยหมิงหาโอกาสได้น้อย แต่ขอเพียงเขาวางกับดักสักเล็กน้อยในบทสนทนาต่อไป เยี่ยเว่ยหมิงก็จะเปิดฉากโจมตีมอนสเตอร์ด้วย ‘ดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ อย่างไม่ลังเล

ถ้าให้น้องดาบรู้เข้า ก็อาจขโมยไก่ไม่ได้[1] ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ…

ชวิ้ง!

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงเริ่มลองใช้คำพูดหลอกล่อให้หยวนเจินตกหลุมพราง แย่งโอกาสโจมตีคนแรกจากน้องดาบมาไว้ในมือตัวเอง จู่ๆ ก็เห็นแสงสะท้อนคมดาบแวบผ่าน ฟันไปยังศีรษะที่ทั้งล้านทั้งมันวาวของหยวนเจินแล้ว

คนที่ลงมือก็คือน้องดาบนั่นเอง!

เดิมทีน้องดาบก็ยืนสังเกตสถานการณ์เงียบๆ อยู่ข้างหลังเยี่ยเว่ยหมิงอยู่แล้ว ผลปรากฏว่าดูไปดูมา นางก็พบว่าจู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็เอามือขวาไพล่หลังตัวเองเหมือนไม่ตั้งใจ

อาศัยประสบการณ์โชกโชนที่นางเคยถูกวางกับดักต่างๆ นานามาเป็นเวลานาน น้องดาบตระหนักได้ทันทีว่าเจ้าเวรนี่คงจะเล่นไม่ซื่ออะไรสักอย่าง

อีกทั้งสัญชาตญาณของผู้หญิงก็บอกนางว่าเป้าหมายที่มือปราบหน้าเหม็นคนนี้จะเล่นไม่ซื่อด้วยอาจจะไม่ใช่หยวนเจิน

เช่นนั้นก็เกิดปัญหาแล้ว

ตอนนี้ในวัดร้างโหย่วเจียนมีคนทั้งหมดเจ็ดคนเท่านั้น นอกจากหยวนเจินที่ต้องฆ่าให้ตาย ยังมีใครอีกที่เยี่ยเว่ยหมิงคิดจะวางกับดักด้วยมากที่สุด

พอนึกถึงตรงนี้ แม้จะยังไม่เข้าใจประเด็นสำคัญ แต่นางก็ยังเลือกลงมืออย่างไม่ลังเล ตอนที่ใช้ดาบฟันออกไป ปากก็ยังพูดดูถูกด้วยว่า “เปลืองคำพูดกับหลวงจีนหน้าเหม็นแบบนี้ก็ไม่รู้จักจบจักสิ้นสักที เจ้ามีเวลาว่างมากขนาดไหนกัน”

มารดาเจ้าเถอะ เยี่ยเว่ยหมิงเห็นสถานการณ์นี้แล้วตาเป็นประกาย น้องสาวคนนี้เติบโตแล้ว!

มีศักยภาพแฝง!

เพื่อให้ดอกไม้ของชาติเติบโตอย่างแข็งแรง เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าในภายหลังตัวเองต้องพยายามอย่างไม่หยุดหย่อน ต้องรังแกนางให้มากขึ้นหน่อย กระตุ้นให้นางเติบโตเร็วยิ่งขึ้น

เป็นการตัดสินใจที่มีความสุข!

อีกด้านหนึ่ง ดาบแรกของน้องดาบไม่ได้โจมตีจนถึงตาย อีกทั้งท่าร่างอันปราดเปรียวของหยวนเจินก็ทำให้หลบได้อย่างยอดเยี่ยม

ตามติดด้วยดาบที่สอง ดาบที่สาม ดาบที่สี่…การโจมตีของน้องดาบเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่ท่ามกลางการโจมตีอย่างบ้าคลั่งเหมือนพายุของนาง หยวนเจินกลับหลบได้ตลอด

แม้หยวนเจินจะอยู่ท่ามกลางการโจมตีด้วยท่าไม้ตายต่อเนื่องของนางดาบ เห็นได้ชัดว่าสะบักสะบอมสุดๆ แต่กลับยังไม่มีท่าทีว่าจะโจมตีกลับ

อย่าบอกนะว่าสถานการณ์ของเขาร้ายแรงกว่าฟ่านเหยา ร้ายแรงจนทำให้เขาไม่มีทางโต้ตอบได้

ความคิดนี้แทบจะเกิดขึ้นในใจของผู้เล่นพร้อมกัน จากนั้นหนิวจื้อชุนในฐานะนักปฏิบัติ จู่ๆ เขาก็เคลื่อนไหวแล้ว เห็นเขาคว้าทวนเถี่ยเจียงประตูปีศาจออกมาไว้ในมือ ฉวยโอกาสตอนที่หยวนเจินถอยหลังเพื่อหลบดาบของน้องดาบที่ฟันมาทางเอว แทงไปทางหลังเอวของหยวนเจินแล้ว

ถ้าครั้งนี้แทงถูก จะต้องบาดเจ็บที่ไตและเกิดคริติคอลดาเมจแน่นอน!

พอหยวนเจินเห็นสถานการณ์ดังนั้น ในที่สุดก็ไม่หลบหลีกอีกต่อไปแล้ว แต่ยื่นมือตบไปบนเถี่ยเจี้ยงในมือหนิวจื้อชุน

“อั้ก!” ภายใต้การโจมตีนี้ หยวนเจินกระอักเลือดสดคำเล็กๆ ออกมาคำหนึ่ง จากนั้นก็กระเด็นถอยหลังไปสามก้าวเพราะเถี่ยเจี้ยงของหนิวจื้อชุน ตอนที่เห็นน้องดาบโจมตีตามมาถึง สองขาก็รีบออกแรงอีกครั้ง ฉวยโอกาสหลบไปข้างหลัง หลบดาบคร่าชีวิตที่ทยอยมาไม่ขาดสายของน้องดาบ

เมื่อเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ทุกคนในทีมก็ตกใจมาก

ที่แท้อาการบาดเจ็บบนตัวหยวนเจินก็ทำให้เขาอ่อนแอจนถึงขั้นนี้!

แม้แต่การโจมตีธรรมดาๆ ของหนิวจื้อชุนยังต้านไม่ไหว

พอเป็นแบบนี้ ระดับภารกิจสังหารหยวนเจินก็เหมือนจะสูงไปสักหน่อย

อย่าบอกนะว่าจุดที่ยากจริงๆ ของภารกิจนี้ ก็คือการรับมือกับแผนการเจ้าเล่ห์ต่างๆ นานาของอีกฝ่าย

ชั่วขณะนั้น คนที่เหลือพากันคันไม้คันมือแล้ว กลัวว่าถ้าลงมือช้า โอกาสที่จะได้เลือกไอเทมชิ้นที่สองของบอสจะไม่เกี่ยวกับตัวเองอีก

“ไอ๊หยา มารดาเจ้าเถอะ!” ตอนที่ทุกคนกำลังเรียกอาวุธของตัวเองออกมา เตรียมจะรัวฟันหยวนเจินให้ชิ้นส่วนแยก หนิวจื้อชุนกลับร้องออกมาแล้วด่าว่า “ข้าไม่ใช่คนแรกที่โจมตีมอนสเตอร์ มีสิทธิ์อะไรมาหักค่าวีรบุรุษห้าร้อยแต้มของข้า ตอนนี้อาตมากลายเป็นคนชั่วร้ายแล้ว!”

[1] ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ 做偷鸡不成 หมายถึงฉวยโอกาสไม่สำเร็จยังขาดทุน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+