ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 119 ทำเฟิร์สคิล BOSS โหมดปกติ

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 119 ทำเฟิร์สคิล BOSS โหมดปกติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อเอฟเฟ็กต์ยั่วเย้าของเคล็ดจิต ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ล้มเหลว ถังซานไฉ่ที่อยู่อีกฝั่งกลับโจมตีด้วยอาวุธลับอย่างต่อเนื่อง ยามเผชิญหน้ากับศัตรูร้ายกาจที่ไม่เคยเจอมาก่อน เขาก็งัดความสามารถทั้งหมดที่มีมาใช้ทันทีเช่นกัน ใช้อาวุธลับต่างๆ ที่ซ่อนไว้มาทักทายกับเหยียนจีปัญญาอ่อนอย่างไม่เสียดาย

ตะปูเจ็ดดาว!

เข็มปากยุง!

เข็มกษิติครรภ์!

……

เมื่อเผชิญหน้ากับถังซานไฉ่ที่โปรยอาวุธลับออกมาจนหมด ต่อให้ความสามารถของเหยียนจีจะเหนือกว่า BOSS ในโหมดภารกิจไกลมาก แต่สุดท้ายก็ไม่อาจโจมตีอาวุธลับทั้งหมดให้ร่วงโดยไม่ให้กระทบความเร็วของตัวเองตอนพุ่งเข้ามาได้ ในระหว่างนั้นถูกอาวุธลับของถังซานไฉ่โจมตีไปห้าครั้ง ในขณะที่ค่าพลังชีวิตลดลงเล็กน้อย ก็ยังติดสถานะถูกพิษด้วย

เพียงแต่หลังจากต้องจ่ายราคาอย่างนี้ไปแล้ว ในที่สุดเหยียนจีก็โจมตีสังหารไปถึงตรงหน้าถังซานไฉ่และเฟยอวี๋สำเร็จ

หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน ถังซานไฉ่จะต้องพยายามดึงระยะห่างจากอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ แล้วค่อยใช้อาวุธลับที่เขาถนัดที่สุดโจมตีลดพลังชีวิตของ BOSS อย่างต่อเนื่องแน่นอน

ทว่าตอนนี้กลับทำไม่ได้!

เพราะตอนนี้ข้างหลังเขายังมีเฟยอวี๋ที่ถูกพิษร้าย พลังต่อสู้แทบจะเป็นศูนย์!

หากเขาเลือกกลยุทธ์ถอนทัพ เช่นนั้นเฟยอวี๋ก็จะซวยแล้ว

เพื่อปกป้องไม่ให้สหายรักของตัวเองบาดเจ็บแม้เพียงนิดเดียว ถังซานไฉ่ทำได้เพียงเลิกใช้กลยุทธ์ที่ตัวเองถนัดที่สุด เขากวักมือเรียกอุปกรณ์คุณภาพทองคำอย่างกระบี่ลมสนออกมาแล้ว เมื่อมีกระบี่อยู่ในมือ เขาก็ยิ่งไม่กะพริบตา เลือกประจันหน้ากับ BOSS ผู้แข็งแกร่งอย่างไม่ลังเล!

ในขณะเดียวกันนี้เอง เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงใช้งานเอฟเฟ็กต์ยั่วเย้าไท้ซัวเป็นไฉนล้มเหลว ก็เลือกใช้แผนสำรองทันทีเช่นกัน

“กวาดหิมะต้มชา!”

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงออกคำสั่งนี้ ร่างของสะพานสวรรค์น้อยก็พลันโน้มมาข้างหน้า ตามด้วยใช้เท้าขวาแตะบนบ่าของเยี่ยเว่ยหมิง อาศัยแรงส่งเพื่อไล่ตามโจมตีไปทางเหยียนจี ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็โคจรกำลังภายในตอนที่เท้านางเหยียบลงมาเช่นกัน ดันหัวไหล่ไปข้างหน้า ถ่ายทอดพลังของตัวเองไปบนตัวสะพานสวรรค์น้อยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ความเร็วของนางเพิ่มขึ้น ในขณะที่คนกับกระบี่รวมเป็นหนึ่ง ทั้งร่างของสะพานสวรรค์น้อยก็ราวกับกลายเป็ยลูกธนูสีขาวดอกหนึ่ง ยิงตรงไปข้างหลังของเหยียนจี

ในขณะเดียวกันนี้เอง พอปราณแท้ในตัวเยี่ยเว่ยหมิงเริ่มโคจรลงมาบนสองเท้า เขาพลันยันพื้นแล้วกวาดกระบี่ออกมา เขาโจมตีข้างล่าง ส่วนสะพานสวรรค์น้อยโจมตีข้างบน เป็นการร่วมมือโจมตีที่เกือบสมบูรณ์แบบแล้ว

การโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยแม้จะดุดัน แต่ถึงอย่างไรความผิดพลาดก่อนหน้านี้ก็ทำให้เหยียนจีทิ้งระยะห่างจากพวกเขาได้แล้ว ตอนที่สะพานสวรรค์น้อยตามมาถึง เหยียนจีกับถังซานไฉ่ก็อาศัยความเร็วสู้ไปห้ากระบวนท่าแล้ว

ถังซานไฉ่ผู้น่าสงสาร เนื่องจากเป็นผู้เล่นที่ฝึกอาวุธลับเป็นหลัก เคล็ดกระบี่เป็นเพียงวิชาเสริมที่เขาเลือกฝึกเพื่ออุดช่องโหว่ของตัวเองเท่านั้น จะไปสู้กับ BOSS โหมดปกติที่เลเวลสูงกว่าเขาสิบเลเวลได้อย่างไร

ห้ากระบวนท่า!

เพียงห้ากระบวนท่านี้เท่านั้น แผ่นหลังของถังซานไฉ่ถูกดาบหัวผีของเหยียนจีฟันไปแล้วหนึ่งครั้ง ทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงเกือบครึ่ง!

ขณะที่เห็นว่าถังซานไฉ่อาจจะตายด้วยน้ำมือ BOSS โหดได้ทุกเมื่อ ในที่สุดสะพานสวรรค์น้อยก็โจมตีมาถึงแล้ว แทงมายังจุดไท่หยางตรงขมับขวาของเหยียนจีอย่างหวุดหวิด

ตำแหน่งสำคัญอย่างจุดไท่หยาง หากไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝึกวิชาป้องกันแบบพิเศษ เมื่อถูกโจมตีจุดนี้ ก็ไม่เพียงแค่ต้องรับคริติคอลดาเมจเท่านั้น อาจจะติดสถานะที่อันตรายถึงชีวิตอย่างเช่นมึนงงหรือสลบด้วยก็ได้

เหยียนจีที่โดดเดี่ยวไร้พรรคพวก แน่นอนว่าไม่กล้าเดิมพันว่าตัวเองจะติดสถานะมึนงงหรือสลบ เขารู้สึกได้ว่าการโจมตีของสะพานสวรรค์น้อยโหดร้ายผิดปกติ จึงเลิกไล่ตามถังซานไฉ่ทันทีโดยไม่ต้องคิด เขาหมุนตัวตามกระบี่ ใช้ท่าดาบพัดเหล็กปิดทวารต้านกระบี่อันตรายถึงชีวิตของสะพานสวรรค์น้อย

แกร๊ง!

ภายใต้การโจมตีนี้ เหยียนจีถูกพลังอันแข็งแกร่งของกระบี่คู่ผนึกรวมจนสะเทือนถอยหลังสามก้าว ส่วนร่างของสะพานสวรรค์น้อยก็เบาจนลอยขึ้นตามลมราวกับขนนก ตามด้วยหมุนตัวกลางอากาศอย่างสง่างามว่องไวหนึ่งครั้ง แล้วแทงกระบี่ลงมาในท่าเท้าชี้ฟ้าศีรษะพุ่งลง แทงลงมายังจุดไป่ฮุ่ยกลางกระบาลเหยียนจี

ในขณะเดียวกันนี้เอง การโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงก็มาถึงแล้ว!

เหยียนจีเพิ่งถูกกระบี่ของสะพานสวรรค์น้อยทำให้สะเทือนจนข้อมือชา ตอนนี้จะชักกระบี่กลับมาต้านทันได้อย่างไร

ยามหน้าสิ่วหน้าขวาน เขาทำได้เพียงดึงตัวถอยหลังอย่างสุดความสามารถ แต่กลับถูกกระบี่ชิงจู๋โจมตีตรงเอวอย่างแรง

เอวไม่ใช่จุดอ่อนสำคัญของมนุษย์ แต่เมื่ออยู่ภายใต้ผลเสริมของกระบี่คู่ผนึกรวม เหยียนจีก็ยังถูกกระบี่แทงจนเสียค่าพลังชีวิตไป 2860 แต้มแล้ว ทำให้เขาติดสถานะถูกพิษซ้อนเป็นครั้งที่สาม

เพียงแต่เหยียนจีคนนี้เป็น BOSS ที่เชี่ยวชาญเรื่องพิษอยู่แล้ว ต้านพิษได้สูงมาก แม้จะถูกพิษซ้อนกันสามครั้ง ก็ถูกลดพลังต่อสู้รวมไปไม่ถึง 10% เท่านั้น ทั้งร่างกายไม่ได้รับผลกระทบมาก

อื้ม…

ไม่ได้รับผลกระทบมากในที่นี้หมายถึง

แม้จะยังไม่ถูกพิษ ถังซานไฉ่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหยียนจี

หลักการเดียวกัน ไม่ว่าจะถูกพิษหรือไม่ เหยียนจีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกระบี่คู่ผนึกรวมอยู่ดี!

ร่างกายได้รับบาดเจ็บหนัก เหยียนจีอยากจะเล่นบทโหดโจมตีกลับ แต่สะพานสวรรค์น้อยกลับโจมตีลงมาจากด้านบนอีกครั้ง บีบให้เขาต้องถอยหลังหลบอีก

“โคลงคู่หลิวอิน!”

ขณะที่พูด กระบี่ชิงจู๋ในมือเยี่ยเว่ยหมิงก็ส่งออกมาข้างหน้า กระบี่วิเศษของสะพานสวรรค์น้อยแตะบนคมกระบี่ของเขาพอดี นางอาศัยแรงทะยานขึ้นอีกครั้ง มาอยู่ด้านบนข้างหลังเหยียนจี คมกระบี่สะบัดต่อเนื่อง ราวกับปัญญาชนกำลังโบกพู่กันจุ่มหมึก แต่กลับเป็นกระบี่ที่ชี้ตรงไปยังจุดสำคัญของเหยียนจี

ในสายตาของผู้เล่นทั่วไปกับ BOSS กระบวนท่านี้ของเป็นเพียงท่าไม้ตายที่ร้ายกาจเท่านั้น แต่หากมียอดฝีมือทักษะเขียนพู่กันอย่างจางชุ่ยซานกับเสวียนเสี่ยวปี่อยู่ด้วย จะต้องมองออกถึงอักษรอันนุ่มนวลทว่าเข้มแข็งที่อยู่ในท่ากระบี่อันสง่างามนี้ของนางแน่นอน นางกำลังเขียนบทกวีชื่นชมจางเหลียง

ตั้งปณิธานล้มฉิน เก็บรองเท้าใต้สะพาน

ร่วมสร้างต้าฮั่น หนึ่งเสาค้ำฟ้า

ติดตามฉื้อซงทัศนาจร สำเร็จแล้ววางมือ

บุคคลกับตำราปฎิหาริย์ ปรากฏมิง่าย

……

ยังเขียนบทกลอนไม่ทันจบ คมกระบี่กลับปกคลุมจุดสำคัญสามจุดด้านบนของเหยียนจีเอาไว้หมดแล้ว บีบให้เขาต้องชักดาบกลับมาต้าน

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ฉวยโอกาสส่งกระบี่แทงออกมา ทำให้เอวข้างซ้ายของเหยียนจีเป็นรูหนึ่งรู

เมื่อเริ่มใช้ ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยกใจพิสุทธิ์’ แล้ว นอกเสียจากจะเจอกับผู้ที่มีสายตาแหลมคม จึงจะมองช่องโหว่ได้ทะลุปรุโปร่งแล้วทำลายกระบวนท่านี้ได้ แต่หากไม่ใช่ เคล็ดกระบี่นี้ก็เป็นเหมือนเครื่องบดเนื้อบนสนามรบ!

เมื่อจมลงในนั้นแล้ว ก็ไม่มีทางถอนตัวได้เลย

“แข่งหมากล้อมใต้ต้นสน!”

“ผลิดอกไม้ปลายพู่กัน!”

……

หลังจากใช้อีกหลายกระบวนท่าต่อเนื่องกัน ในที่สุดเหยียนจีก็ถูกพรากพลังชีวิตขีดสุดท้ายไปด้วยความร่วมมือของทั้งสอง หลังจากเขาคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ก็ล้มลงจมกองเลือดแล้ว

[ติ๊ง! ทีมของคุณสังหารเหยียนจี BOSS เลเวล 32 ในโหมดปกติสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 32000 แต้ม ค่าตบะ 3200 แต้ม!]

[ ติ๊ง! คุณทำภารกิจระดับ 5 ดาว ‘สังหารเหยียนจี’ สำเร็จอย่างราบรื่น ไปหาเหมียวเหรินเฟิงเพื่อรับรางวัลภารกิจได้ทุกเมื่อ]

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง ศิษย์สำนักสุสานโบราณ สะพานสวรรค์คริสตัล ศิษย์สำนักถังเหมิน ถังซานไฉ่ ศิษย์สำนักมือปราบเทพ เฟยอวี๋ ได้สังหารเหยียนจี BOSS เลเวล 32

เนื่องจากเหยียนจีเป็น BOSS โหมดปกติ หลังจากถูกฆ่าครั้งนี้จะรีเฟรชไม่ได้อีก หลังจากนี้ ในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ จะไม่มีเหยียนจีอีก! ผู้เล่นสี่คนที่ร่วมโจมตีสังหาร จะได้รับรางวัลสังหารสิ้นซาก: ชื่อเสียงยุทธภพ: 3000 แต้ม ค่าผลงานสำนัก 3000 แต้ม!]

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง…]

……

หลังจากประกาศระบบดังต่อเนื่องสามรอบ ผู้เล่นชายทั้งสามยังไม่ทันรู้สึกอะไร กลับเป็นสะพานสวรรค์น้อยผู้มีออร่าโดดเด่นที่ตื่นเต้นดีใจจนกระโดดสูงมาก นางชูสองนิ้วพร้อมตะโกนบอกทั้งสามว่า “ข้าได้ออกทีวีอีกแล้ว! ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ระบบประกาศว่าโจมตีสังหาร BOSS สิ้นซาก ต้องดึงดูดสายตาคนมากกว่าประกาศทั่วไปจริงๆ เจ๋งสุดๆ เลย! โอ๊เย!”

น้องสะพานสวรรค์น้อยคนนี้เหมือนจะหมกมุ่นกับการ ‘ออกทีวี’ อย่างที่คนนอกเข้าใจได้ยาก กอปรกับหลังจากร่วมงานกันสองครั้งก่อน ทั้งสี่ก็เริ่มคุ้นเคยกันแล้ว นางเองก็เริ่มปล่อยตัวตามธรรมชาติแล้วเช่นกัน ตะโกนโหวกเหวกโดยไม่สนใจภาพลักษณ์เทพธิดาเลยสักนิด

เพียงแต่สะพานสวรรค์น้อยที่เป็นแบบนี้ กลับให้ความรู้สึกว่าน่ารักสดใสมากกว่า เมื่อเทียบกับรูปลักษณ์เย็นชาดุจหิมะแล้ว ก็ถือว่าสวยไปอีกแบบ

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นดังนั้น ก็เผยรอยยิ้มออกมาจากใจโดยไม่รู้ตัว แอบชื่นชมว่านี่ต่างหากถึงจะเป็นตัวจริงของนาง มีเพียงสะพานสวรรค์น้อยที่เป็นแบบนี้เท่านั้น ถึงจะเป็นเพื่อนรักกับนางหนูแสนซนอย่างซานเย่ว์ได้

เมื่อเห็นเหยียนจีตายสนิทแล้ว ในที่สุดเฟยอวี๋ก็โล่งอก เขาตบบ่าถังซานไฉ่พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูท่าแล้ว เจ้าก็ไม่ได้ดวงซวยขนาดนั้นนะ แต่เจ้ารีบกินยาฟื้นพลังชีวิตให้เต็มดีกว่า อีกประเดี๋ยวถ้ามีคนแบบสาวน้อยชุดแดงกระโดดออกมา คงได้ฆ่าเจ้าลงหลุมไปพร้อม BOSS”

พอถังซานไฉ่ได้ยินแบบนี้ กลับมองเฟยอวี๋ด้วยสีหน้าสับสนแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

วินาทีถัดมา ร่างกายก็เขาก็กลายเป็นแสงสีขาวสายหนึ่ง แล้วหายไปต่อหน้าต่อตากลุ่มสหาย

ถังซานไฉ่หายไปกะทันพัน เฟยอวี๋ที่ร่างกายถูกพิษร้ายกลับยังทำท่าตบบ่าเขาต่อไป แต่หลังจากตบแล้วไม่ถูกอะไร ก็แทบจะล้มลงตรงนั้นทันที

จากนั้น เขาก็เริ่มเหลียวซ้ายแลขวาด้วยสีหน้างุนงง

w(゚Д゚)w

สหายของข้าล่ะ

สหายผู้แสนอาภัพคนนั้นของข้าล่ะ!

ตอนนี้ เยี่ยเว่ยหมิงเริ่มถามในช่องทีมแล้ว [สหายถัง อาการของเจ้าเป็นอย่างไรกันแน่]

ถังซานไฉ่ [บนดาบของเหยียนจีมีพิษ (ノへ ̄、) ขออยู่เงียบๆ นะ…]

ด้านหลังข้อความนี้ ยังแนบภาพหน้าจอส่งมาให้ด้วย

[ยาตัดวิญญาณ: คุณถูกพิษยาตัดวิญญาณ ทุกสามวินาทีจะหักพลังชีวิต 1000 แต้ม ต่อเนื่องสามนาที]

เยี่ยเว่ยหมิง “…”

สะพานสวรรค์คริสตัล “…”

เฟยอวี๋ “…”

……

หลังจากสหายทั้งสามคนไว้อาลัยเงียบๆ ให้ถังซานไฉ่พร้อมกัน เยี่ยเว่ยหมิงก็พลันมองศพเหยียนจีพร้อมถามว่า “ใครจะคลำศพ”

“ข้ารู้สึกว่าช่วงไม่กี่วันมานี้ตัวเองดวงไม่ดีเลย” เฟยอวี๋ส่ายหน้าทันที

สะพานสวรรค์น้อยมองเยี่ยเว่ยหมิงอย่างเฝ้าคอย “หรือว่า…จะให้ข้าคลำเอง”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า “ที่จริงใครคลำก็ได้ผลเหมือนกัน เหยียนจีคนนี้ไม่ใช่ BOSS โหมดภารกิจ แต่เป็น BOSS ที่มีศักยภาพเต็มที่ ตายแล้วตายเลย ไม่อาจฟื้นชีพหรือรีเฟรชออกมาได้อีก และเช่นเดียวกัน ขอเพียงบนตัวเจ้าหมอนี่ดรอปไอเทมได้ ในระหว่างที่คลำศพครั้งนี้ ก็จะได้รับไอเทมทั้งหมด…

…ดังนั้น หมายความว่าไอเทมดรอปของเขานั้นแน่นอน”

“ควรจะบอกว่าอุดมสมบูรณ์แน่นอน!” สะพานสวรรค์น้อยก้าวเข้าไปขณะที่พูด แล้วใช้เท้าเตะหน้าของเหยียนจีที่ตายตาไม่หลับหนึ่งที

วินาทีถัดมา รายการไอเทมก็ปรากฏตรงหน้าทั้งสามพร้อมกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 119 ทำเฟิร์สคิล BOSS โหมดปกติ

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 119 ทำเฟิร์สคิล BOSS โหมดปกติ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อเอฟเฟ็กต์ยั่วเย้าของเคล็ดจิต ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ ล้มเหลว ถังซานไฉ่ที่อยู่อีกฝั่งกลับโจมตีด้วยอาวุธลับอย่างต่อเนื่อง ยามเผชิญหน้ากับศัตรูร้ายกาจที่ไม่เคยเจอมาก่อน เขาก็งัดความสามารถทั้งหมดที่มีมาใช้ทันทีเช่นกัน ใช้อาวุธลับต่างๆ ที่ซ่อนไว้มาทักทายกับเหยียนจีปัญญาอ่อนอย่างไม่เสียดาย

ตะปูเจ็ดดาว!

เข็มปากยุง!

เข็มกษิติครรภ์!

……

เมื่อเผชิญหน้ากับถังซานไฉ่ที่โปรยอาวุธลับออกมาจนหมด ต่อให้ความสามารถของเหยียนจีจะเหนือกว่า BOSS ในโหมดภารกิจไกลมาก แต่สุดท้ายก็ไม่อาจโจมตีอาวุธลับทั้งหมดให้ร่วงโดยไม่ให้กระทบความเร็วของตัวเองตอนพุ่งเข้ามาได้ ในระหว่างนั้นถูกอาวุธลับของถังซานไฉ่โจมตีไปห้าครั้ง ในขณะที่ค่าพลังชีวิตลดลงเล็กน้อย ก็ยังติดสถานะถูกพิษด้วย

เพียงแต่หลังจากต้องจ่ายราคาอย่างนี้ไปแล้ว ในที่สุดเหยียนจีก็โจมตีสังหารไปถึงตรงหน้าถังซานไฉ่และเฟยอวี๋สำเร็จ

หากเปลี่ยนเป็นเมื่อก่อน ถังซานไฉ่จะต้องพยายามดึงระยะห่างจากอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ แล้วค่อยใช้อาวุธลับที่เขาถนัดที่สุดโจมตีลดพลังชีวิตของ BOSS อย่างต่อเนื่องแน่นอน

ทว่าตอนนี้กลับทำไม่ได้!

เพราะตอนนี้ข้างหลังเขายังมีเฟยอวี๋ที่ถูกพิษร้าย พลังต่อสู้แทบจะเป็นศูนย์!

หากเขาเลือกกลยุทธ์ถอนทัพ เช่นนั้นเฟยอวี๋ก็จะซวยแล้ว

เพื่อปกป้องไม่ให้สหายรักของตัวเองบาดเจ็บแม้เพียงนิดเดียว ถังซานไฉ่ทำได้เพียงเลิกใช้กลยุทธ์ที่ตัวเองถนัดที่สุด เขากวักมือเรียกอุปกรณ์คุณภาพทองคำอย่างกระบี่ลมสนออกมาแล้ว เมื่อมีกระบี่อยู่ในมือ เขาก็ยิ่งไม่กะพริบตา เลือกประจันหน้ากับ BOSS ผู้แข็งแกร่งอย่างไม่ลังเล!

ในขณะเดียวกันนี้เอง เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงใช้งานเอฟเฟ็กต์ยั่วเย้าไท้ซัวเป็นไฉนล้มเหลว ก็เลือกใช้แผนสำรองทันทีเช่นกัน

“กวาดหิมะต้มชา!”

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงออกคำสั่งนี้ ร่างของสะพานสวรรค์น้อยก็พลันโน้มมาข้างหน้า ตามด้วยใช้เท้าขวาแตะบนบ่าของเยี่ยเว่ยหมิง อาศัยแรงส่งเพื่อไล่ตามโจมตีไปทางเหยียนจี ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็โคจรกำลังภายในตอนที่เท้านางเหยียบลงมาเช่นกัน ดันหัวไหล่ไปข้างหน้า ถ่ายทอดพลังของตัวเองไปบนตัวสะพานสวรรค์น้อยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้ความเร็วของนางเพิ่มขึ้น ในขณะที่คนกับกระบี่รวมเป็นหนึ่ง ทั้งร่างของสะพานสวรรค์น้อยก็ราวกับกลายเป็ยลูกธนูสีขาวดอกหนึ่ง ยิงตรงไปข้างหลังของเหยียนจี

ในขณะเดียวกันนี้เอง พอปราณแท้ในตัวเยี่ยเว่ยหมิงเริ่มโคจรลงมาบนสองเท้า เขาพลันยันพื้นแล้วกวาดกระบี่ออกมา เขาโจมตีข้างล่าง ส่วนสะพานสวรรค์น้อยโจมตีข้างบน เป็นการร่วมมือโจมตีที่เกือบสมบูรณ์แบบแล้ว

การโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยแม้จะดุดัน แต่ถึงอย่างไรความผิดพลาดก่อนหน้านี้ก็ทำให้เหยียนจีทิ้งระยะห่างจากพวกเขาได้แล้ว ตอนที่สะพานสวรรค์น้อยตามมาถึง เหยียนจีกับถังซานไฉ่ก็อาศัยความเร็วสู้ไปห้ากระบวนท่าแล้ว

ถังซานไฉ่ผู้น่าสงสาร เนื่องจากเป็นผู้เล่นที่ฝึกอาวุธลับเป็นหลัก เคล็ดกระบี่เป็นเพียงวิชาเสริมที่เขาเลือกฝึกเพื่ออุดช่องโหว่ของตัวเองเท่านั้น จะไปสู้กับ BOSS โหมดปกติที่เลเวลสูงกว่าเขาสิบเลเวลได้อย่างไร

ห้ากระบวนท่า!

เพียงห้ากระบวนท่านี้เท่านั้น แผ่นหลังของถังซานไฉ่ถูกดาบหัวผีของเหยียนจีฟันไปแล้วหนึ่งครั้ง ทำให้พลังชีวิตของเขาลดลงเกือบครึ่ง!

ขณะที่เห็นว่าถังซานไฉ่อาจจะตายด้วยน้ำมือ BOSS โหดได้ทุกเมื่อ ในที่สุดสะพานสวรรค์น้อยก็โจมตีมาถึงแล้ว แทงมายังจุดไท่หยางตรงขมับขวาของเหยียนจีอย่างหวุดหวิด

ตำแหน่งสำคัญอย่างจุดไท่หยาง หากไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ที่ฝึกวิชาป้องกันแบบพิเศษ เมื่อถูกโจมตีจุดนี้ ก็ไม่เพียงแค่ต้องรับคริติคอลดาเมจเท่านั้น อาจจะติดสถานะที่อันตรายถึงชีวิตอย่างเช่นมึนงงหรือสลบด้วยก็ได้

เหยียนจีที่โดดเดี่ยวไร้พรรคพวก แน่นอนว่าไม่กล้าเดิมพันว่าตัวเองจะติดสถานะมึนงงหรือสลบ เขารู้สึกได้ว่าการโจมตีของสะพานสวรรค์น้อยโหดร้ายผิดปกติ จึงเลิกไล่ตามถังซานไฉ่ทันทีโดยไม่ต้องคิด เขาหมุนตัวตามกระบี่ ใช้ท่าดาบพัดเหล็กปิดทวารต้านกระบี่อันตรายถึงชีวิตของสะพานสวรรค์น้อย

แกร๊ง!

ภายใต้การโจมตีนี้ เหยียนจีถูกพลังอันแข็งแกร่งของกระบี่คู่ผนึกรวมจนสะเทือนถอยหลังสามก้าว ส่วนร่างของสะพานสวรรค์น้อยก็เบาจนลอยขึ้นตามลมราวกับขนนก ตามด้วยหมุนตัวกลางอากาศอย่างสง่างามว่องไวหนึ่งครั้ง แล้วแทงกระบี่ลงมาในท่าเท้าชี้ฟ้าศีรษะพุ่งลง แทงลงมายังจุดไป่ฮุ่ยกลางกระบาลเหยียนจี

ในขณะเดียวกันนี้เอง การโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงก็มาถึงแล้ว!

เหยียนจีเพิ่งถูกกระบี่ของสะพานสวรรค์น้อยทำให้สะเทือนจนข้อมือชา ตอนนี้จะชักกระบี่กลับมาต้านทันได้อย่างไร

ยามหน้าสิ่วหน้าขวาน เขาทำได้เพียงดึงตัวถอยหลังอย่างสุดความสามารถ แต่กลับถูกกระบี่ชิงจู๋โจมตีตรงเอวอย่างแรง

เอวไม่ใช่จุดอ่อนสำคัญของมนุษย์ แต่เมื่ออยู่ภายใต้ผลเสริมของกระบี่คู่ผนึกรวม เหยียนจีก็ยังถูกกระบี่แทงจนเสียค่าพลังชีวิตไป 2860 แต้มแล้ว ทำให้เขาติดสถานะถูกพิษซ้อนเป็นครั้งที่สาม

เพียงแต่เหยียนจีคนนี้เป็น BOSS ที่เชี่ยวชาญเรื่องพิษอยู่แล้ว ต้านพิษได้สูงมาก แม้จะถูกพิษซ้อนกันสามครั้ง ก็ถูกลดพลังต่อสู้รวมไปไม่ถึง 10% เท่านั้น ทั้งร่างกายไม่ได้รับผลกระทบมาก

อื้ม…

ไม่ได้รับผลกระทบมากในที่นี้หมายถึง

แม้จะยังไม่ถูกพิษ ถังซานไฉ่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหยียนจี

หลักการเดียวกัน ไม่ว่าจะถูกพิษหรือไม่ เหยียนจีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของกระบี่คู่ผนึกรวมอยู่ดี!

ร่างกายได้รับบาดเจ็บหนัก เหยียนจีอยากจะเล่นบทโหดโจมตีกลับ แต่สะพานสวรรค์น้อยกลับโจมตีลงมาจากด้านบนอีกครั้ง บีบให้เขาต้องถอยหลังหลบอีก

“โคลงคู่หลิวอิน!”

ขณะที่พูด กระบี่ชิงจู๋ในมือเยี่ยเว่ยหมิงก็ส่งออกมาข้างหน้า กระบี่วิเศษของสะพานสวรรค์น้อยแตะบนคมกระบี่ของเขาพอดี นางอาศัยแรงทะยานขึ้นอีกครั้ง มาอยู่ด้านบนข้างหลังเหยียนจี คมกระบี่สะบัดต่อเนื่อง ราวกับปัญญาชนกำลังโบกพู่กันจุ่มหมึก แต่กลับเป็นกระบี่ที่ชี้ตรงไปยังจุดสำคัญของเหยียนจี

ในสายตาของผู้เล่นทั่วไปกับ BOSS กระบวนท่านี้ของเป็นเพียงท่าไม้ตายที่ร้ายกาจเท่านั้น แต่หากมียอดฝีมือทักษะเขียนพู่กันอย่างจางชุ่ยซานกับเสวียนเสี่ยวปี่อยู่ด้วย จะต้องมองออกถึงอักษรอันนุ่มนวลทว่าเข้มแข็งที่อยู่ในท่ากระบี่อันสง่างามนี้ของนางแน่นอน นางกำลังเขียนบทกวีชื่นชมจางเหลียง

ตั้งปณิธานล้มฉิน เก็บรองเท้าใต้สะพาน

ร่วมสร้างต้าฮั่น หนึ่งเสาค้ำฟ้า

ติดตามฉื้อซงทัศนาจร สำเร็จแล้ววางมือ

บุคคลกับตำราปฎิหาริย์ ปรากฏมิง่าย

……

ยังเขียนบทกลอนไม่ทันจบ คมกระบี่กลับปกคลุมจุดสำคัญสามจุดด้านบนของเหยียนจีเอาไว้หมดแล้ว บีบให้เขาต้องชักดาบกลับมาต้าน

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ฉวยโอกาสส่งกระบี่แทงออกมา ทำให้เอวข้างซ้ายของเหยียนจีเป็นรูหนึ่งรู

เมื่อเริ่มใช้ ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยกใจพิสุทธิ์’ แล้ว นอกเสียจากจะเจอกับผู้ที่มีสายตาแหลมคม จึงจะมองช่องโหว่ได้ทะลุปรุโปร่งแล้วทำลายกระบวนท่านี้ได้ แต่หากไม่ใช่ เคล็ดกระบี่นี้ก็เป็นเหมือนเครื่องบดเนื้อบนสนามรบ!

เมื่อจมลงในนั้นแล้ว ก็ไม่มีทางถอนตัวได้เลย

“แข่งหมากล้อมใต้ต้นสน!”

“ผลิดอกไม้ปลายพู่กัน!”

……

หลังจากใช้อีกหลายกระบวนท่าต่อเนื่องกัน ในที่สุดเหยียนจีก็ถูกพรากพลังชีวิตขีดสุดท้ายไปด้วยความร่วมมือของทั้งสอง หลังจากเขาคำรามอย่างเกรี้ยวกราด ก็ล้มลงจมกองเลือดแล้ว

[ติ๊ง! ทีมของคุณสังหารเหยียนจี BOSS เลเวล 32 ในโหมดปกติสำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 32000 แต้ม ค่าตบะ 3200 แต้ม!]

[ ติ๊ง! คุณทำภารกิจระดับ 5 ดาว ‘สังหารเหยียนจี’ สำเร็จอย่างราบรื่น ไปหาเหมียวเหรินเฟิงเพื่อรับรางวัลภารกิจได้ทุกเมื่อ]

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง ศิษย์สำนักสุสานโบราณ สะพานสวรรค์คริสตัล ศิษย์สำนักถังเหมิน ถังซานไฉ่ ศิษย์สำนักมือปราบเทพ เฟยอวี๋ ได้สังหารเหยียนจี BOSS เลเวล 32

เนื่องจากเหยียนจีเป็น BOSS โหมดปกติ หลังจากถูกฆ่าครั้งนี้จะรีเฟรชไม่ได้อีก หลังจากนี้ ในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ จะไม่มีเหยียนจีอีก! ผู้เล่นสี่คนที่ร่วมโจมตีสังหาร จะได้รับรางวัลสังหารสิ้นซาก: ชื่อเสียงยุทธภพ: 3000 แต้ม ค่าผลงานสำนัก 3000 แต้ม!]

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นศิษย์สำนักมือปราบเทพ เยี่ยเว่ยหมิง…]

……

หลังจากประกาศระบบดังต่อเนื่องสามรอบ ผู้เล่นชายทั้งสามยังไม่ทันรู้สึกอะไร กลับเป็นสะพานสวรรค์น้อยผู้มีออร่าโดดเด่นที่ตื่นเต้นดีใจจนกระโดดสูงมาก นางชูสองนิ้วพร้อมตะโกนบอกทั้งสามว่า “ข้าได้ออกทีวีอีกแล้ว! ทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ระบบประกาศว่าโจมตีสังหาร BOSS สิ้นซาก ต้องดึงดูดสายตาคนมากกว่าประกาศทั่วไปจริงๆ เจ๋งสุดๆ เลย! โอ๊เย!”

น้องสะพานสวรรค์น้อยคนนี้เหมือนจะหมกมุ่นกับการ ‘ออกทีวี’ อย่างที่คนนอกเข้าใจได้ยาก กอปรกับหลังจากร่วมงานกันสองครั้งก่อน ทั้งสี่ก็เริ่มคุ้นเคยกันแล้ว นางเองก็เริ่มปล่อยตัวตามธรรมชาติแล้วเช่นกัน ตะโกนโหวกเหวกโดยไม่สนใจภาพลักษณ์เทพธิดาเลยสักนิด

เพียงแต่สะพานสวรรค์น้อยที่เป็นแบบนี้ กลับให้ความรู้สึกว่าน่ารักสดใสมากกว่า เมื่อเทียบกับรูปลักษณ์เย็นชาดุจหิมะแล้ว ก็ถือว่าสวยไปอีกแบบ

เยี่ยเว่ยหมิงเห็นดังนั้น ก็เผยรอยยิ้มออกมาจากใจโดยไม่รู้ตัว แอบชื่นชมว่านี่ต่างหากถึงจะเป็นตัวจริงของนาง มีเพียงสะพานสวรรค์น้อยที่เป็นแบบนี้เท่านั้น ถึงจะเป็นเพื่อนรักกับนางหนูแสนซนอย่างซานเย่ว์ได้

เมื่อเห็นเหยียนจีตายสนิทแล้ว ในที่สุดเฟยอวี๋ก็โล่งอก เขาตบบ่าถังซานไฉ่พร้อมกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ดูท่าแล้ว เจ้าก็ไม่ได้ดวงซวยขนาดนั้นนะ แต่เจ้ารีบกินยาฟื้นพลังชีวิตให้เต็มดีกว่า อีกประเดี๋ยวถ้ามีคนแบบสาวน้อยชุดแดงกระโดดออกมา คงได้ฆ่าเจ้าลงหลุมไปพร้อม BOSS”

พอถังซานไฉ่ได้ยินแบบนี้ กลับมองเฟยอวี๋ด้วยสีหน้าสับสนแวบหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

วินาทีถัดมา ร่างกายก็เขาก็กลายเป็นแสงสีขาวสายหนึ่ง แล้วหายไปต่อหน้าต่อตากลุ่มสหาย

ถังซานไฉ่หายไปกะทันพัน เฟยอวี๋ที่ร่างกายถูกพิษร้ายกลับยังทำท่าตบบ่าเขาต่อไป แต่หลังจากตบแล้วไม่ถูกอะไร ก็แทบจะล้มลงตรงนั้นทันที

จากนั้น เขาก็เริ่มเหลียวซ้ายแลขวาด้วยสีหน้างุนงง

w(゚Д゚)w

สหายของข้าล่ะ

สหายผู้แสนอาภัพคนนั้นของข้าล่ะ!

ตอนนี้ เยี่ยเว่ยหมิงเริ่มถามในช่องทีมแล้ว [สหายถัง อาการของเจ้าเป็นอย่างไรกันแน่]

ถังซานไฉ่ [บนดาบของเหยียนจีมีพิษ (ノへ ̄、) ขออยู่เงียบๆ นะ…]

ด้านหลังข้อความนี้ ยังแนบภาพหน้าจอส่งมาให้ด้วย

[ยาตัดวิญญาณ: คุณถูกพิษยาตัดวิญญาณ ทุกสามวินาทีจะหักพลังชีวิต 1000 แต้ม ต่อเนื่องสามนาที]

เยี่ยเว่ยหมิง “…”

สะพานสวรรค์คริสตัล “…”

เฟยอวี๋ “…”

……

หลังจากสหายทั้งสามคนไว้อาลัยเงียบๆ ให้ถังซานไฉ่พร้อมกัน เยี่ยเว่ยหมิงก็พลันมองศพเหยียนจีพร้อมถามว่า “ใครจะคลำศพ”

“ข้ารู้สึกว่าช่วงไม่กี่วันมานี้ตัวเองดวงไม่ดีเลย” เฟยอวี๋ส่ายหน้าทันที

สะพานสวรรค์น้อยมองเยี่ยเว่ยหมิงอย่างเฝ้าคอย “หรือว่า…จะให้ข้าคลำเอง”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า “ที่จริงใครคลำก็ได้ผลเหมือนกัน เหยียนจีคนนี้ไม่ใช่ BOSS โหมดภารกิจ แต่เป็น BOSS ที่มีศักยภาพเต็มที่ ตายแล้วตายเลย ไม่อาจฟื้นชีพหรือรีเฟรชออกมาได้อีก และเช่นเดียวกัน ขอเพียงบนตัวเจ้าหมอนี่ดรอปไอเทมได้ ในระหว่างที่คลำศพครั้งนี้ ก็จะได้รับไอเทมทั้งหมด…

…ดังนั้น หมายความว่าไอเทมดรอปของเขานั้นแน่นอน”

“ควรจะบอกว่าอุดมสมบูรณ์แน่นอน!” สะพานสวรรค์น้อยก้าวเข้าไปขณะที่พูด แล้วใช้เท้าเตะหน้าของเหยียนจีที่ตายตาไม่หลับหนึ่งที

วินาทีถัดมา รายการไอเทมก็ปรากฏตรงหน้าทั้งสามพร้อมกัน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+