ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 279 ของล้ำค่าของจอมยุทธ์หัน

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 279 ของล้ำค่าของจอมยุทธ์หัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 279 ของล้ำค่าของจอมยุทธ์หัน

แกร๊ง!

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงดีดนิ้ว หันเสี่ยวอิ๋งกลับรู้สึกว่ามีพลังมหาศาลบางอย่างโจมตีบนกระบี่ล้ำค่าในมือนาง

เป็นพลังที่ดุดันรวดเร็วและอันธพาล

เนื่องจากป้องกันไม่ทัน กระบี่วีรสตรีผู้โด่งดังในยุทธภพท่านนี้จึงได้แต่รู้สึกชาที่ง่ามนิ้วมือ ไม่น่าเชื่อว่าจะกุมกระบี่วีรสตรีไว้ในมือไม่ได้อีก ถูกเยี่ยเว่ยหมิงดีดกระเด็นทันที กระบี่หมุนอยู่กลางอากาศหลายรอบก่อนจะปักลงบนดอกไม้สีแดงที่อยู่ด้านข้าง

พอนางหันไปมอง เห็นตัวกระบี่ยังสั่นเบาๆ

[ติ๊ง! คุณผ่านการทดสอบของกระบี่วีรสตรีหันเสี่ยวอิ๋งแล้ว ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการประลองยุทธ์เจ็ดสังกัด อิงตามการแสดงความสามารถในการทดสอบครั้งนี้ รางวัลที่คุณได้รับ: ค่าประสบการณ์ 100000 แต้ม ค่าตบะ 10000 แต้ม]

จากนั้นฉากก็เปลี่ยนไป สนามประลองยุทธ์ที่ทั้งสองยืนอยู่ก่อนหน้านี้เปลี่ยนกลับมาเป็นห้องในโรงเตี๊ยม กระบี่วีรสตรีที่ถูกเยี่ยเว่ยหมิงดีดออกก่อนหน้านี้ก็กลับมาอยู่ในมือหันเสี่ยวอิ๋งเหมือนเดิมแล้วเช่นกัน

หันเสี่ยวอิ๋งเก็บกระบี่เข้าฝัก แล้วกล่าวอย่างตกตะลึงไร้ที่เปรียบ “นึกไม่ถึงว่าไม่เจอกันหลายปี ความสามารถของจอมยุทธ์น้อยเยี่ยจะสูงถึงขั้นนี้แล้ว ดูท่าแล้วภารกิจประลองยุทธ์เจ็ดสังกัดครั้งนี้…”

ไม่รอให้หันเสี่ยวอิ๋งพูดจบ เยี่ยเว่ยหมิงก็ชิงถามกลับแล้วว่า “จนป่านนี้แล้ว จอมยุทธ์หันยังคิดว่าตัวเองมีความสามารถที่จะชี้แนะเคล็ดกระบี่ให้ข้าอยู่อีกหรือ”

“เรื่องนั้น…”

หันเสี่ยวอิ๋งได้ยินแล้วสีหน้าค้างนิ่ง จากนั้นก็เหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ สายตากลับมามั่นใจเหมือนเดิมอีกครั้งพร้อมตอบว่า “ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกแล้ว หากกชี้แนะให้จอมยุทธ์น้อยเยี่ยเพิ่มเลเวล ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ไม่ได้ รางวัลภารกิจก็จะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นที่เหมาะสม เอาเป็นว่าไม่ทำให้จอมยุทธ์น้อยเยี่ยขาดทุนกลับไปแน่นอน”

พอพูดจบก็ไม่รอให้เยี่ยเว่ยหมิงแสดงท่าที เสียงของระบบแจ้งเตือนข้างหูเขาแล้ว

[ติ๊ง! คุณรับภารกิจ ‘ประลองยุทธ์เจ็ดสังกัด’]

ประลองยุทธ์เจ็ดสังกัด

ยิ่งได้อันดับที่ดีในภารกิจประลองยุทธ์เจ็ดสังกัดที่เจ็ดประหลาดเจียงหนานตั้งขึ้น รางวัลก็ยิ่งอุดมสมบูรณ์

ระดับภารกิจ: 5 ดาว

[รางวัลภารกิจ: กำหนดตามการแสดงความสามารถตอนสุดท้าย (หมายเหตุ: ได้เป็นหนึ่งในรายชื่อผู้เข้าร่วมประลองของกระบี่วีรสตรี นอกจากรางวัลพื้นฐาน จะได้รับรางวัลภารกิจพิเศษ ‘กระบองไผ่เขียว’)]

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงกำลังสงสัยว่า ‘กระบองไผ่เขียว’ คืออุปกรณ์อะไรกันแน่ หันเสี่ยวอิ๋งกลับพูดเหมือนไม่ได้ตั้งใจว่า “กระบองไผ่เขียวคือของอัศจรรย์ชิ้นหนึ่งที่ข้าได้มาพร้อม ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ตอนอายุแปดขวบ ข้ารู้สึกว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ มาก แต่น่าเสียดายที่ศึกษามาหลายปี แต่ก็ไม่ได้อะไรเลย”

“ตอนนี้จอมยุทธ์น้อยเยี่ยมีความรู้เรื่อง ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ลึกซึ้งกว่าข้าแล้ว บางทีอาจจะล่วงรู้ความลับของมันก็ได้”

หันเสี่ยวอิ๋งพูดจาเด็ดเดี่ยวมาก แต่ตอนที่นางพูดสิ่งเหล่านี้ ในใจของนางกลับเหมือนมีเลือดไหล!

อย่างไรเสีย กระบองไผ่เขียวที่แม้แต่นางก็ยังไขปริศนาของมันไม่ได้ ตอนนี้นางนำมาทำเป็นรางวัลภารกิจระดับสูงสุดแล้ว

ทั้งเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ มีอยู่แท่งเดียว ไม่มีแท่งที่สองแล้ว!

ที่แท้รางวัลภารกิจตอนสุดท้ายนี้ นางก็เตรียมไว้รอจนถึงเวลาที่เส้นตายใกล้เข้ามา แล้วค่อยนำมาเป็นรางวัลเพื่อเชิญให้ผู้เล่นมาปฏิบัติภารกิจ ทำให้ผู้เล่นที่เก่งที่สุดในบรรดาผู้สืบทอด ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ มาช่วยนางให้รอดพ้นจากความตาย

แต่ตอนนี้ เมื่อเจอกับเยี่ยเว่ยหมิงที่ความสามารถเหนือกว่าตนไกลมาก เพื่อเกียรติยศของของเจ็ดประหลาดเจียงหนาน หันเสี่ยวอิ๋งกลับต้องนำมันออกมาล่วงหน้า

ส่วนความเป็นความตายของนางในอนาคต?

ตอนนี้หันเสี่ยวอิ๋งไม่มีเวลาสนใจมากขนาดนั้นแล้ว

เรื่องในอนาคตก็ค่อยว่ากันในอนาคตก็แล้วกัน

เมื่อได้ฟังคำตอบของหันเสี่ยวอิ๋ง เยี่ยเว่ยหมิงก็เกิดความคิดบางอย่างขึ้นในใจ

กระบองไผ่เขียวที่อยู่ในรางวัลภารกิจ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไอเทมพิเศษที่เกี่ยวข้องกับ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’?

ตอนนั้นที่หวงโส่วจุนชี้แนะเคล็ดกระบี่นี้ให้เขา เขาจำได้แม่นว่าอีกฝ่ายเคยบอกว่าเคล็ดกระบี่วีรสตรีเดิมทีเป็นวิชาศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทานอะไรสักอย่าง

ระดับสูงกว่าสุดยอดวิชาบู๊ลิ้มอยู่หนึ่งระดับด้วย!

แต่เนื่องจากเวลาผ่านไปนานเกินไป ถ่ายทอดไปถ่ายทอดมาเลเวลจึงลดลง พอถ่ายทอดอีกก็เลเวลลดอีก เลเวลลดจนเปลี่ยนจากวิชาศักดิ์สิทธิ์ไร้เทียมทานกลายเป็นวิชาที่มีระดับไม่เข้าขั้นของเกม

ตอนนี้พอได้ยินหันเสี่ยวอิ๋งบอกว่ากระบองไผ่เขียวกับ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ มีความเกี่ยวข้องกันเยอะมาก เขาก็ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากว่า “จอมยุทธ์หัน กระบองไผ่เขียวที่ท่านพูดถึง นำออกมาให้ข้าดูก่อนได้ไหม”

ทุกคนต่างรู้ว่าหันเสี่ยวอิ๋งอกใหญ่ใจกว้าง ต้องเป็นไซซ์ 36…แค่กๆ อย่างไรเสียหลังจากได้ยินคำขอของเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว นางก็นำไม้ไผ่สีเขียวชอุ่มด้ามหนึ่งออกมาอย่างตรงไปตรงมา ยื่นให้ถึงมือเยี่ยเว่ยหมิง

[กระบองไผ่เขียว] กระบองไผ่เขียวแท่งหนึ่งซึ่งไม่รู้ประวัติความเป็นมา เหมือนซ่อนความลับที่เกี่ยวข้องกับ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เอาไว้ หลังจากเคล็ดกระบี่วีรสตรีถึงเลเวลสิบแล้วจะปลดล็อกได้ หลังจากปลดล็อกแล้วจะได้รู้ความลับของมัน (หมายเหตุ: เนื่องจากมันยังไม่ใช่ของคุณ ดังนั้นแม้คุณจะทำตามเงื่อนไขครบแล้ว แต่ก็ไม่มีทางปลดล็อกได้อยู่ดี)

หึหึ ระบบก็ป้องกันมือข้าอย่างที่คาดไว้จริงๆ ด้วย

แต่บ่นก็ส่วนบ่น เยี่ยเว่ยหมิงพอใจกับรางวัลภารกิจชิ้นนี้มาก อย่างน้อยก็แน่ใจแล้วว่าคำพูดของหันเสี่ยวอิ๋งเป็นความจริง ไม้ไผ่ที่ดูเหมือนธรรมดาแท่งนี้ ข้างในซ่อนความลับที่เกี่ยวกับ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เอาไว้จริงๆ

พอเป็นแบบนี้ ก็แสดงว่านางไม่ได้โกหกข้าแล้ว

มูลค่าของไม้ไผ่แท่งนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ!

สำหรับเยี่ยเว่ยหมิง แค่ยืนยันจุดนี้ได้ก็เพียงพอแล้ว

เขาคืนกระบองไผ่เขียวให้หันเสี่ยวอิ๋ง แล้วถามอย่างมั่นใจในตัวเองเต็มที่ว่า “ตอนนี้จอมยุทธ์หันบอกรายละเอียดของการ ‘ประลองยุทธ์เจ็ดสังกัด’ ให้ข้ารู้ได้หรือยัง”

จอมยุทธ์หันได้ยินแล้วยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบเสียงเรียบว่า “กติกาของการประลองโดยละเอียด ถูกส่งไปไว้ในแถบภารกิจของผู้เข้าร่วมการประลองที่ผ่านการทดสอบของข้าทุกคนแล้ว จอมยุทธ์น้อยเยี่ยเปิดดูเองได้เลย”

ที่แท้ก็อธิบายไว้ในแถบภารกิจแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วก็ไม่เปลืองคำพูดอีก เริ่มเปิดอ่านต่อหน้าหันเสี่ยวอิ๋งเสียเลย

[กติกาภารกิจ: การประลองจะประเมินตามคะแนนสะสม หลังจากการประลองจบแล้ว ผู้ที่ได้คะแนนสะสมมากที่สุดจะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมประลองยุทธ์หอหมอกพิรุณและรางวัลพิเศษ ผู้เล่นคนอื่นจะได้รับรางวัลภารกิจในระดับที่ต่างกันโดยอิงตามการแสดงความสามารถในภารกิจ]

[สถานที่ภารกิจ: หงโจว ค่ายทรายพิษ]

จางอาเซิงฉายาอรหันต์ยิ้ม หนึ่งในเจ็ดประหลาดเจียงหนานมีศัตรูคู่แค้นอยู่คนหนึ่ง นั่นก็คือมหาโจรหลี่เปียว

หลายปีก่อนหลี่เปียวเคยแพ้จางอาเซิงในระหว่างประลองยุทธ์ ในใจจึงเกิดความแค้น หลังจากสังหารทั้งครอบครัวของจางอาเซิงแล้วก็หนีไปอย่างไร้ร่องรอย จนกระทั่งหลังจากเจ็ดประหลาดเจียงหนานไปที่ทะเลทรายได้หลายปี เขาถึงได้ปรากฏตัวในยุทธภพอีกครั้ง ทั้งยังฝึกวิชาค่ายทรายพิษร้ายกาจและสร้างค่ายทรายพิษขึ้นมาเพื่อสร้างหายนะ

สำหรับความรู้สึกผิดและความคิดถึงที่มีต่อจางอาเซิง ความปรารถนาที่ใหญ่ที่สุดของหันเสี่ยวอิ๋งก็คือสังหารหลี่เปียวแห่งค่ายทรายพิษเพื่อล้างแค้นให้จางอาเซิง และในการทดสอบของสังกัดกระบี่วีรสตรีซึ่งเป็นหนึ่งในประลองยุทธ์เจ็ดสังกัด เป้าหมายก็คือปราบค่ายทรายพิษ!

ในภารกิจ ไม่ว่าจะโจมตีสังหารลูกสมุนของค่ายทรายพิษหรือทำลายสิ่งปลูกสร้างของค่ายทรายพิษ ก็ล้วนได้รับคะแนนสะสมในระดับที่ต่างกัน

หากโจมตีสังหารหลี่เปียวได้ ก็จะได้รางวัลเป็นคะแนนสะสมเยอะขึ้น!

เวลาจำกัดของภารกิจครั้งนี้คือหนึ่งวัน เริ่มนับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป

นับถอยหลัง: 23 ชั่วโมง 21 นาที 33 วินาที

ไปค่ายทรายพิษที่เมืองหงโจวเพื่อฆ่าหลี่เปียวหรือ

เดิมทีก่อนที่เยี่ยเว่ยหมิงจะมาที่นี่ เขายังนึกว่าการ ‘ประลองยุทธ์เจ็ดสังกัด’ เป็นสังเวียนประลองยุทธ์ธรรมดาเสียอีก จึงไม่ได้รีบมาถึงสนามล่วงหน้า นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นภารกิจแย่งฆ่ามอนสเตอร์ที่ข้าวต้มน้อยพระมาก[1]แบบนี้ ใครมาก่อนก็ได้ก่อน

ตอนที่เขามาเสียเวลานิดหน่อย ช้ากว่าคนอื่นไปครึ่งชั่วโมงแล้ว

แต่ระบบก็ยังให้เวลาผู้เล่นหนึ่งวันเต็มๆ ความเสียเปรียบที่เขาเริ่มต้นช้าครึ่งชั่วโมง ก็ใช่ว่าจะหลีกเลี่ยงมันไม่ได้

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า แล้วมองคะแนนภารกิจสะสมของตัวเองแวบหนึ่ง

[คะแนนสะสม: 2000 แต้ม! อันดับ 1 ของสังกัดกระบี่วีรสตรี อันดับรวมของทั้งเจ็ดสังกัด: 6!]

[1] ข้าวต้มน้อยพระมาก 粥少僧多 อุปมาว่าของมีน้อยไม่พอแบ่ง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด