ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 239 หยวนเจินเจรจาเงื่อนไข

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 239 หยวนเจินเจรจาเงื่อนไข at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 239 หยวนเจินเจรจาเงื่อนไข

หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงใช้ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เสร็จแล้ว ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ของสะพานสวรรค์น้อยก็เพิ่มเลเวลสำเร็จด้วยการชี้แนะจากหยวนเจิน

คนที่สามที่ไปรับรางวัลก็คือน้องดาบ ทักษะยุทธ์ที่นางต้องการเพิ่มเลเวลก็คือ ‘กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม’

แม้วิชากรงเล็บนี้มีประสิทธิภาพน่าทึ่ง แต่ก็เหมือนยังเป็นสุดยอดวิชาบู๊ลิ้มฉบับไม่สมบูรณ์ ในฐานะผู้เล่นคนหนึ่งที่ฝึกวิชาดาบเป็นหลัก การนำโอกาสครั้งใหญ่ในการเพิ่มเลเวลวิทยายุทธ์ไปใช้กับวิชากรงเล็บ ก็ดูละทิ้งรากฐานมุ่งหาสุดปลาย[1]อยู่บ้าง

เยี่ยเว่ยหมิงถึงขั้นรู้สึกว่า เคล็ดวิชานี้ของนางเพิ่มเลเวลขึ้นมาเพื่อใช้สู้กับตน

รู้สึกไปเองหรือเปล่า

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า ขี้คร้านสนใจว่านางจะคิดอย่างไร เขาเรียก ‘ตระหนักรู้วิชาดรรชนี’ เล่มหนึ่งขึ้นมาเริ่มอ่าน

[ตระหนักรู้วิชาดรรชนี] บันทึกวิชาดรรชนีของอาซาน ยอดฝีมือสำนักจินกังแห่งแดนซีอวี้ ใช้วิชาดรรชนีที่กำหนดจะเพิ่มค่าประสบการณ์ 130000 แต้ม!

ไม่เหมือนฟ่านเหยาที่มีความรู้กว้างขวาง ความสามารถรอบด้าน แม้อาซานจะมีเลเวลหกสิบห้าเหมือนกัน แต่กลับให้ตำราลับหนึ่งเล่มกับเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว

แต่ในฐานะผู้แข็งแกร่งที่เชี่ยวชาญวิชาดรรชนี ตระหนักรู้วิชาดรรชนีของเขาก็ยังยอดเยี่ยมมาก หากพูดถึงคุณภาพของตำราเล่มนี้อย่างเดียว ก็เหนือกว่าเคล็ดวิชาของฟ่านเหยาแล้ว

หลังจากตั้งใจศึกษาไปรอบหนึ่ง ก็ได้รับค่าประสบการณ์ของวิชาดรรชนี 195000 แต้ม!

เขาเพิ่มไปบน ‘วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ เสียเลย ทำให้สุดยอดเคล็ดวิชานี้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเลเวล

[วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ (ระดับสูง)]

……

เลเวล: 9

ค่าประสบการณ์: 47650/500000

โจมตี +450%

แม่นยำ +450%

กำลังภายในที่ใช้: 450 แต้ม

……

นี่เป็นข้อมูลที่สุดยอดมาก แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ถูกค่าประสบการณ์ในการอัปเลเวลที่สูงถึงห้าแสนทำให้ตกใจแล้ว

ดูท่าแล้ว หากคิดจะอัปเลเวลวิชานี้ให้ถึงระดับสมบูรณ์ภายในเวลาสั้นๆ ก็เหมือนจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน

คนสุดท้ายที่ขอคำชี้แนะเคล็ดวิชาจากเฉิงคุนก็คือฉางซิงอวี่ ไม่เหมือนอีกสามคนที่เลือกอัปเลเวลของวิทยายุทธ์ประเภทที่มีกระบวนท่า เคล็ดวิชาที่เขาเลือกอัปเลเวลก็คือ ‘วิชาเก้าเอี๊ยงอู่ตัง’ ซึ่งเป็นวิชากำลังภายในระดับสูงของสำนักอู่ตัง

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงเนื่องจากมีแผนการของตัวเอง จึงไม่ได้นำตำราออกมาอ่านอีก แต่ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบบนโลงศพที่เตรียมไว้ให้หยวนเจิน เอามือยันคางและเริ่มมองหยวนเจินชี้แนะฉางซิงอวี่ด้วยความสนใจ

หลังจากเวลาผ่านไปประมาณสิบถึงสิบห้านาที

[ติ๊ง! คุณฟังไต้ซือหยวนเจินแห่งเส้าหลินชี้แนะวิทยายุทธ์ ด้วยการเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกัน ได้รับค่าประสบการณ์ ‘คัมภีร์หลอมกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็น’ 1000 แต้ม]

???

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบนี้ จู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกไม่สบอารมณ์

แม้จะเป็นค่าประสบการณ์เพียงหนึ่งพันแต้ม แต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองพลาดไปเป็นร้อยล้านแต้ม!

หากก่อนหน้านี้ไม่มัวยุ่งอยู่กับการอ่านตำรา แต่ตั้งใจไปฟังหลวงจีนหยวนเจินชี้แนะวิทยายุทธ์ให้อีกสามคน ตัวเองจะได้ค่าประสบการณ์ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ 2000 แต้มหรือเปล่า

ไม่ใช่สิ เมื่อครู่หยวนเจินชี้แนะ ‘วิชาเก้าเอี๊ยงอู่ตัง’ ให้ฉางซิงอวี่ชัดๆ ผลปรากฏว่ากลับเพิ่มค่าประสบการณ์ ‘คัมภีร์หลอมกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็น’ ให้ตน 1000 แต้มแล้ว

แต่ก่อนหน้านั้น วิชาที่หยวนเจินชี้แนะให้หนิวจื้อชุนกับสะพานสวรรค์น้อยคือ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ นะ!

เป็น ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ที่ตนเคยเรียนมาก่อน!

หากคำนวณตามผลที่เพิ่มขึ้นของตำราลับตระหนักรู้ ก็จะเพิ่มค่าประสบการณ์ได้ 3000 แต้มหรือเปล่า

นอกจากนี้ตอนที่ชี้แนะวิชากรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม เกรงว่า ‘วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ของตัวเองก็คงได้รับอะไรบ้างนิดหน่อย?

แม้จะไม่เยอะ แต่ต่อให้เป็นขายุงก็ยังมีเนื้ออยู่ดี!

แน่นอน แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะหงุดหงิดอยู่ในใจ แต่เขาก็รู้ถึงความสำคัญของการเพิ่มความสามารถก่อนต่อสู้ ถ้าตอนนี้ให้เขาเลือกใหม่ได้อีกครั้ง เขาก็จะเลือกตัดการเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกันออก และอ่านถอดรหัสทักษะยุทธ์กับตำราลับตระหนักรู้แทน

แต่ปัญหาก็คือ เข้าใจก็ส่วนเข้าใจ หงุดหงิดก็ส่วนหงุดหงิด มันเป็นคนละเรื่องกันเลย

สุดท้ายเยี่ยเว่ยหมิงก็เดินมาตรงหน้าหยวนเจินด้วยอารมณ์หงุดหงิด ถามเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรว่า “ไต้ซือหยวนเจิน ตอนนี้ข้าหาทักษะยุทธ์ที่เลเวลต่ำกว่าเจ็ดไม่เจอจริงๆ ท่านยืดหยุ่นให้ไม่ได้จริงๆ หรือ”

“หึ หึ…”

บนใบหน้าหยวนเจินเผยรอยยิ้มเปี่ยมเมตตาที่สุด ส่วนปากก็อธิบายอย่างอดทน “ที่จริงเมื่อได้เจอคนหนุ่มมากความสามารถอย่างจอมยุทธ์น้อยเยี่ย อาตมาก็เกิดเสียดายคนเก่งเช่นกัน จะช่วยเจ้าเพิ่มเคล็ดวิชาเลเวลเจ็ดให้เจ้าเป็นกรณีพิเศษ แต่ความสามารถของข้ามีจำกัด ในบรรดาเคล็ดวิชามากมายของเจ้า มีเพียง ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ ที่ข้าพอจะมีความสามารถชี้แนะให้เจ้าได้นิดหน่อย เพียงแต่…”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วรีบซักไซ้ “เพียงแต่อะไร”

หยวนเจินยังคงรักษารอยยิ้มไร้พิษภัยเอาไว้ “เพียงแต่ดูจากท่าทางของพวกเจ้าแล้ว เกรงว่าคงถูกมือสังหารนั่นปั่นหัวจนคิดจะลงมือกับอาตมา แม้พระพุทธเจ้าจะมีมหาเมตตากรีดเนื้อตัวเองให้อาหารเหยี่ยว สละร่างกายตัวเองป้อนเสือ แต่ตบะพุทธธรรมของข้าก็ยังไม่มาก ไม่มีทางเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่นอย่าไร้ความหวาดกลัวได้”

“จอมยุทธ์น้อยเยี่ย เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าต้องการจะสื่อ”

หยวนเจินสื่อความหมายชัดเจนมากแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือ ‘อยากจะให้ข้าเพิ่มความสามารถให้เจ้าเป็นกรณีพิเศษ แล้วให้เจ้ามาสังหารข้าอย่างนั้นหรือ เจ้าคิดว่าข้าโง่สินะ’

เยี่ยเว่ยหมิงก็ถือว่ามองออกเช่นกัน มีกติกาของระบบอยู่ หยวนเจินไม่กล้าฮุบรางวัลภารกิจของผู้เล่น แต่สถานการณ์ของเยี่ยเว่ยหมิงค่อนข้างพิเศษ ดังนั้นในกติกาของระบบก็ยังมีช่องโหว่ให้เล่นตุกติกอยู่บ้างพอสมควร

หยวนเจินเตรียมจะใช้ประโยชน์จากช่องว่างโหว่แบบนี้มาเจรจาเงื่อนไขกับเยี่ยเว่ยหมิง

“ที่แท้ไต้ซือก็กังวลเรื่องนี้นี่เอง ที่จริงไม่จำเป็นเลย!” พอเยี่ยเว่ยหมิงเข้าใจประเด็นสำคัญ ก็ตบอกรับประกันทันที “ข้าเยี่ยเว่ยหมิงรับประกันได้ ขอเพียงไต้ซือชี้แนะให้ ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ ของข้าเพิ่มหนึ่งเลเวล ข้าก็จะทำเหมือนไม่มีภารกิจนั้นอยู่ หลังจากนี้ตราบใดที่ท่านไม่ทำอันตรายข้า หรือสหายของข้า ข้าก็จะไม่หาเรื่องไต้ซือแน่นอน”

หยวนเจินได้ยินก็เผยสีหน้าดีใจทันที “หนึ่งคำหลุดจากปาก สี่ม้ายากตามกลับคืน หากเจ้าผิดคำพูด จะถูกหักค่าวีรบุรุษห้าร้อยแต้ม”

เยี่ยเว่ยหมิงดีดนิ้ว “ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งนั้น มีอะไรก็พูดมาตรงๆ พูดจริงทำจริง นี่คือหลักการยุทธภพของเยี่ยเว่ยหมิง!”

“ดี!” หยวนเจินพยักหน้า จากนั้นก็เริ่มชี้แนะเคล็ดวิชาให้เยี่ยเว่ยหมิง “จักรวาลยุ่งเหยิงยังไม่แยกฟ้าดิน กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ก่อเกิดเป็นเคล็ดวิชาจักรวาล บลาๆ…”

หลังจากนั้นสิบห้านาที…

[ติ๊ง! คุณได้รับการชี้แนะจากไต้ซือหยวนเจิน เลเวล ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ จองคุณเพิ่มถึงเลเวลแปดแล้ว!]

[เคล็ดวิชาจักรวาล (ระดับสูง)]

เลเวล: 8

ค่าประสบการณ์: 0/256000

……

พลังชีวิต +1600

กำลังภายใน +4000

ความแข็งแกร่ง +240

พละกำลัง +240

ท่าร่าง +240

ความว่องไว +240

เอฟเฟ็กต์พิเศษ: ชำระปราณ

……

หึ! คนอื่นเพิ่มทักษะยุทธ์ ตอนที่เลเวลเพิ่มขึ้นก็ยังรักษาค่าประสบการณ์ของเลเวลปัจจุบันไว้ แต่หลังจากเจ้าหมอนี่ชี้แนะ กลับไม่เหลือค่าประสบการณ์หลังจากเลเวลเพิ่มแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่ายอมเปลืองแรงดีกว่าเปลืองค่าประสบการณ์

แต่สำหรับเจ้าหมอนี่ที่ถูกกำหนดให้เป็นศัตรูกัน เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ได้หวังอะไรมากอยู่แล้ว

หลังจากเก็บเข้าคอลัมน์สกิลด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ก็บอกในช่องทีมว่า [สถานการณ์ของหยวนเจินคนนี้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด วิธีการแบ่งไอเทมแบบก่อนหน้านี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงแล้ว…

…ดังนั้นข้าแนะนำว่าวิธีการแบ่งไอเทมครั้งนี้ ให้เปลี่ยนเป็นคนแรกที่ฆ่าบอสได้จะได้เลือกไอเทมดรอปจากบอสก่อน แล้วก็จะไม่เข้าร่วมกันแบ่งของรางวัลอย่างอื่น ทุกคนคิดว่าอย่างไร]

[1] ละทิ้งรากฐานมุ่งหาสุดปลาย 舍本逐末 ทำสิ่งใดไม่ให้ความสำคัญกับรากฐาน สนใจแต่สิ่งที่อยู่สุดปลาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 239 หยวนเจินเจรจาเงื่อนไข

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 239 หยวนเจินเจรจาเงื่อนไข at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 239 หยวนเจินเจรจาเงื่อนไข

หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงใช้ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เสร็จแล้ว ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ของสะพานสวรรค์น้อยก็เพิ่มเลเวลสำเร็จด้วยการชี้แนะจากหยวนเจิน

คนที่สามที่ไปรับรางวัลก็คือน้องดาบ ทักษะยุทธ์ที่นางต้องการเพิ่มเลเวลก็คือ ‘กรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม’

แม้วิชากรงเล็บนี้มีประสิทธิภาพน่าทึ่ง แต่ก็เหมือนยังเป็นสุดยอดวิชาบู๊ลิ้มฉบับไม่สมบูรณ์ ในฐานะผู้เล่นคนหนึ่งที่ฝึกวิชาดาบเป็นหลัก การนำโอกาสครั้งใหญ่ในการเพิ่มเลเวลวิทยายุทธ์ไปใช้กับวิชากรงเล็บ ก็ดูละทิ้งรากฐานมุ่งหาสุดปลาย[1]อยู่บ้าง

เยี่ยเว่ยหมิงถึงขั้นรู้สึกว่า เคล็ดวิชานี้ของนางเพิ่มเลเวลขึ้นมาเพื่อใช้สู้กับตน

รู้สึกไปเองหรือเปล่า

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า ขี้คร้านสนใจว่านางจะคิดอย่างไร เขาเรียก ‘ตระหนักรู้วิชาดรรชนี’ เล่มหนึ่งขึ้นมาเริ่มอ่าน

[ตระหนักรู้วิชาดรรชนี] บันทึกวิชาดรรชนีของอาซาน ยอดฝีมือสำนักจินกังแห่งแดนซีอวี้ ใช้วิชาดรรชนีที่กำหนดจะเพิ่มค่าประสบการณ์ 130000 แต้ม!

ไม่เหมือนฟ่านเหยาที่มีความรู้กว้างขวาง ความสามารถรอบด้าน แม้อาซานจะมีเลเวลหกสิบห้าเหมือนกัน แต่กลับให้ตำราลับหนึ่งเล่มกับเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว

แต่ในฐานะผู้แข็งแกร่งที่เชี่ยวชาญวิชาดรรชนี ตระหนักรู้วิชาดรรชนีของเขาก็ยังยอดเยี่ยมมาก หากพูดถึงคุณภาพของตำราเล่มนี้อย่างเดียว ก็เหนือกว่าเคล็ดวิชาของฟ่านเหยาแล้ว

หลังจากตั้งใจศึกษาไปรอบหนึ่ง ก็ได้รับค่าประสบการณ์ของวิชาดรรชนี 195000 แต้ม!

เขาเพิ่มไปบน ‘วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ เสียเลย ทำให้สุดยอดเคล็ดวิชานี้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเลเวล

[วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ (ระดับสูง)]

……

เลเวล: 9

ค่าประสบการณ์: 47650/500000

โจมตี +450%

แม่นยำ +450%

กำลังภายในที่ใช้: 450 แต้ม

……

นี่เป็นข้อมูลที่สุดยอดมาก แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ถูกค่าประสบการณ์ในการอัปเลเวลที่สูงถึงห้าแสนทำให้ตกใจแล้ว

ดูท่าแล้ว หากคิดจะอัปเลเวลวิชานี้ให้ถึงระดับสมบูรณ์ภายในเวลาสั้นๆ ก็เหมือนจะเป็นเรื่องเพ้อฝัน

คนสุดท้ายที่ขอคำชี้แนะเคล็ดวิชาจากเฉิงคุนก็คือฉางซิงอวี่ ไม่เหมือนอีกสามคนที่เลือกอัปเลเวลของวิทยายุทธ์ประเภทที่มีกระบวนท่า เคล็ดวิชาที่เขาเลือกอัปเลเวลก็คือ ‘วิชาเก้าเอี๊ยงอู่ตัง’ ซึ่งเป็นวิชากำลังภายในระดับสูงของสำนักอู่ตัง

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงเนื่องจากมีแผนการของตัวเอง จึงไม่ได้นำตำราออกมาอ่านอีก แต่ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบบนโลงศพที่เตรียมไว้ให้หยวนเจิน เอามือยันคางและเริ่มมองหยวนเจินชี้แนะฉางซิงอวี่ด้วยความสนใจ

หลังจากเวลาผ่านไปประมาณสิบถึงสิบห้านาที

[ติ๊ง! คุณฟังไต้ซือหยวนเจินแห่งเส้าหลินชี้แนะวิทยายุทธ์ ด้วยการเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกัน ได้รับค่าประสบการณ์ ‘คัมภีร์หลอมกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็น’ 1000 แต้ม]

???

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบนี้ จู่ๆ เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกไม่สบอารมณ์

แม้จะเป็นค่าประสบการณ์เพียงหนึ่งพันแต้ม แต่เขากลับรู้สึกว่าตัวเองพลาดไปเป็นร้อยล้านแต้ม!

หากก่อนหน้านี้ไม่มัวยุ่งอยู่กับการอ่านตำรา แต่ตั้งใจไปฟังหลวงจีนหยวนเจินชี้แนะวิทยายุทธ์ให้อีกสามคน ตัวเองจะได้ค่าประสบการณ์ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ 2000 แต้มหรือเปล่า

ไม่ใช่สิ เมื่อครู่หยวนเจินชี้แนะ ‘วิชาเก้าเอี๊ยงอู่ตัง’ ให้ฉางซิงอวี่ชัดๆ ผลปรากฏว่ากลับเพิ่มค่าประสบการณ์ ‘คัมภีร์หลอมกระดูกเปลี่ยนเส้นเอ็น’ ให้ตน 1000 แต้มแล้ว

แต่ก่อนหน้านั้น วิชาที่หยวนเจินชี้แนะให้หนิวจื้อชุนกับสะพานสวรรค์น้อยคือ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ นะ!

เป็น ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ที่ตนเคยเรียนมาก่อน!

หากคำนวณตามผลที่เพิ่มขึ้นของตำราลับตระหนักรู้ ก็จะเพิ่มค่าประสบการณ์ได้ 3000 แต้มหรือเปล่า

นอกจากนี้ตอนที่ชี้แนะวิชากรงเล็บกระดูกขาวเก้าอิม เกรงว่า ‘วิชาดรรชนีศักดิ์สิทธิ์’ ของตัวเองก็คงได้รับอะไรบ้างนิดหน่อย?

แม้จะไม่เยอะ แต่ต่อให้เป็นขายุงก็ยังมีเนื้ออยู่ดี!

แน่นอน แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะหงุดหงิดอยู่ในใจ แต่เขาก็รู้ถึงความสำคัญของการเพิ่มความสามารถก่อนต่อสู้ ถ้าตอนนี้ให้เขาเลือกใหม่ได้อีกครั้ง เขาก็จะเลือกตัดการเรียนรู้ผ่านเรื่องทำนองเดียวกันออก และอ่านถอดรหัสทักษะยุทธ์กับตำราลับตระหนักรู้แทน

แต่ปัญหาก็คือ เข้าใจก็ส่วนเข้าใจ หงุดหงิดก็ส่วนหงุดหงิด มันเป็นคนละเรื่องกันเลย

สุดท้ายเยี่ยเว่ยหมิงก็เดินมาตรงหน้าหยวนเจินด้วยอารมณ์หงุดหงิด ถามเขาด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรว่า “ไต้ซือหยวนเจิน ตอนนี้ข้าหาทักษะยุทธ์ที่เลเวลต่ำกว่าเจ็ดไม่เจอจริงๆ ท่านยืดหยุ่นให้ไม่ได้จริงๆ หรือ”

“หึ หึ…”

บนใบหน้าหยวนเจินเผยรอยยิ้มเปี่ยมเมตตาที่สุด ส่วนปากก็อธิบายอย่างอดทน “ที่จริงเมื่อได้เจอคนหนุ่มมากความสามารถอย่างจอมยุทธ์น้อยเยี่ย อาตมาก็เกิดเสียดายคนเก่งเช่นกัน จะช่วยเจ้าเพิ่มเคล็ดวิชาเลเวลเจ็ดให้เจ้าเป็นกรณีพิเศษ แต่ความสามารถของข้ามีจำกัด ในบรรดาเคล็ดวิชามากมายของเจ้า มีเพียง ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ ที่ข้าพอจะมีความสามารถชี้แนะให้เจ้าได้นิดหน่อย เพียงแต่…”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วรีบซักไซ้ “เพียงแต่อะไร”

หยวนเจินยังคงรักษารอยยิ้มไร้พิษภัยเอาไว้ “เพียงแต่ดูจากท่าทางของพวกเจ้าแล้ว เกรงว่าคงถูกมือสังหารนั่นปั่นหัวจนคิดจะลงมือกับอาตมา แม้พระพุทธเจ้าจะมีมหาเมตตากรีดเนื้อตัวเองให้อาหารเหยี่ยว สละร่างกายตัวเองป้อนเสือ แต่ตบะพุทธธรรมของข้าก็ยังไม่มาก ไม่มีทางเสียสละตนเองเพื่อผู้อื่นอย่าไร้ความหวาดกลัวได้”

“จอมยุทธ์น้อยเยี่ย เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าต้องการจะสื่อ”

หยวนเจินสื่อความหมายชัดเจนมากแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือ ‘อยากจะให้ข้าเพิ่มความสามารถให้เจ้าเป็นกรณีพิเศษ แล้วให้เจ้ามาสังหารข้าอย่างนั้นหรือ เจ้าคิดว่าข้าโง่สินะ’

เยี่ยเว่ยหมิงก็ถือว่ามองออกเช่นกัน มีกติกาของระบบอยู่ หยวนเจินไม่กล้าฮุบรางวัลภารกิจของผู้เล่น แต่สถานการณ์ของเยี่ยเว่ยหมิงค่อนข้างพิเศษ ดังนั้นในกติกาของระบบก็ยังมีช่องโหว่ให้เล่นตุกติกอยู่บ้างพอสมควร

หยวนเจินเตรียมจะใช้ประโยชน์จากช่องว่างโหว่แบบนี้มาเจรจาเงื่อนไขกับเยี่ยเว่ยหมิง

“ที่แท้ไต้ซือก็กังวลเรื่องนี้นี่เอง ที่จริงไม่จำเป็นเลย!” พอเยี่ยเว่ยหมิงเข้าใจประเด็นสำคัญ ก็ตบอกรับประกันทันที “ข้าเยี่ยเว่ยหมิงรับประกันได้ ขอเพียงไต้ซือชี้แนะให้ ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ ของข้าเพิ่มหนึ่งเลเวล ข้าก็จะทำเหมือนไม่มีภารกิจนั้นอยู่ หลังจากนี้ตราบใดที่ท่านไม่ทำอันตรายข้า หรือสหายของข้า ข้าก็จะไม่หาเรื่องไต้ซือแน่นอน”

หยวนเจินได้ยินก็เผยสีหน้าดีใจทันที “หนึ่งคำหลุดจากปาก สี่ม้ายากตามกลับคืน หากเจ้าผิดคำพูด จะถูกหักค่าวีรบุรุษห้าร้อยแต้ม”

เยี่ยเว่ยหมิงดีดนิ้ว “ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งนั้น มีอะไรก็พูดมาตรงๆ พูดจริงทำจริง นี่คือหลักการยุทธภพของเยี่ยเว่ยหมิง!”

“ดี!” หยวนเจินพยักหน้า จากนั้นก็เริ่มชี้แนะเคล็ดวิชาให้เยี่ยเว่ยหมิง “จักรวาลยุ่งเหยิงยังไม่แยกฟ้าดิน กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ก่อเกิดเป็นเคล็ดวิชาจักรวาล บลาๆ…”

หลังจากนั้นสิบห้านาที…

[ติ๊ง! คุณได้รับการชี้แนะจากไต้ซือหยวนเจิน เลเวล ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ จองคุณเพิ่มถึงเลเวลแปดแล้ว!]

[เคล็ดวิชาจักรวาล (ระดับสูง)]

เลเวล: 8

ค่าประสบการณ์: 0/256000

……

พลังชีวิต +1600

กำลังภายใน +4000

ความแข็งแกร่ง +240

พละกำลัง +240

ท่าร่าง +240

ความว่องไว +240

เอฟเฟ็กต์พิเศษ: ชำระปราณ

……

หึ! คนอื่นเพิ่มทักษะยุทธ์ ตอนที่เลเวลเพิ่มขึ้นก็ยังรักษาค่าประสบการณ์ของเลเวลปัจจุบันไว้ แต่หลังจากเจ้าหมอนี่ชี้แนะ กลับไม่เหลือค่าประสบการณ์หลังจากเลเวลเพิ่มแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่ายอมเปลืองแรงดีกว่าเปลืองค่าประสบการณ์

แต่สำหรับเจ้าหมอนี่ที่ถูกกำหนดให้เป็นศัตรูกัน เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่ได้หวังอะไรมากอยู่แล้ว

หลังจากเก็บเข้าคอลัมน์สกิลด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย ก็บอกในช่องทีมว่า [สถานการณ์ของหยวนเจินคนนี้มีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด วิธีการแบ่งไอเทมแบบก่อนหน้านี้ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริงแล้ว…

…ดังนั้นข้าแนะนำว่าวิธีการแบ่งไอเทมครั้งนี้ ให้เปลี่ยนเป็นคนแรกที่ฆ่าบอสได้จะได้เลือกไอเทมดรอปจากบอสก่อน แล้วก็จะไม่เข้าร่วมกันแบ่งของรางวัลอย่างอื่น ทุกคนคิดว่าอย่างไร]

[1] ละทิ้งรากฐานมุ่งหาสุดปลาย 舍本逐末 ทำสิ่งใดไม่ให้ความสำคัญกับรากฐาน สนใจแต่สิ่งที่อยู่สุดปลาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+