ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 75 อาหวงสร้างผลงานอีกแล้ว

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 75 อาหวงสร้างผลงานอีกแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 75 อาหวงสร้างผลงานอีกแล้ว

ฟ้า ดิน คน ผี สี่ทักษะของสำนักมือปราบเทพต่างก็มีผลลัพธ์ขั้นเทพ ตอนนี้สามจากสี่ทักษะเป็นเหมือนดอกไม้งามที่มีเจ้าของแล้ว

ตำรา ‘รวมบันทึกล้างมลทิน’ ของเยี่ยเว่ยหมิงมีทักษะชันสูตรศพ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บรรจุศพเป็นต้น กล่าวได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เขาผงาดขึ้นมาได้

ส่วน ‘สังเกตสีหน้าท่าทาง’ ของซานเย่ว์ก็เป็นเครื่องจับเท็จเวอร์ชั่นมนุษย์โดยแท้ ความสามารถประเภทนี้ก็ยิ่งถูกคนมีพรสวรรค์อย่างนางใช้งานตอนทำภารกิจกับตอนต่อรองราคา ก่อนหน้านี้ยังโม้กับเยี่ยเว่ยหมิงอยู่เลยว่าใต้หล้าไม่มีใครสู้นางได้

และตามที่ซานเย่ว์ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ตอนที่นางเข้าสำนักมา รายการทักษะที่มีให้เลือกก็เหลือแค่ ‘คน’ กับ ‘ผี’ สองรายการ หากคาดคะแนจากสิ่งนี้ สิ่งที่เฟยอวี๋เรียนรู้จะต้องเป็นทักษะตัวอักษร ‘ดิน’ จากสี่ทักษะนี้แน่นอน

แต่เมื่อดูจากนิสัย ‘เห็นชีวิตคนใหญ่เหนือฟ้า’ ของผู้ออกแบบระบบเกม เยี่ยเว่ยหมิงก็วิเคราะห์ไม่ออกเลยว่าทักษะตัวอักษร ‘ดิน’ คือทักษะอะไรกันแน่ แต่เมื่อดูจากภาพหน้าจอภาพนี้ เฟยอวี๋เองก็ตั้งใจตัดส่วนแรกสุดที่เป็นชื่อทักษะทิ้งด้วย แสดงว่าไม่คิดจะเปิดเผยแน่นอน

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ย่อมไม่ปากมากไปถาม จึงพยักหน้าแล้วพูดต่อทันทีว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็แสดงว่าตอนนี้อวี๋ชางไห่น่าจะไม่เหลือพลังต่อสู้เยอะเท่าไรแล้ว ทุกคนแยกกันค้นหาเถอะ”

เมื่อพูดจบ พวกเขาก็ต่างคนต่างเลือกทิศทางและแยกย้ายกันไปค้นหา

หลังจากคนในทีมแยกย้ายกันออกไปแล้ว เฟยอวี๋ก็ไปยังทิศทางที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด เดินไปยังเส้นทางที่อวี๋ชางไห่ชนกำแพงบ้านคนก่อนหน้านี้ ขณะที่เดินไป ก็ไม่ลืมที่จะแอบมองหน้าอินเตอร์เฟสระบบของตัวเอง

[ติ๊ง! ใช้งานพาสซีฟสกิล ‘สืบเสาะหมื่นลี้’ คุณพบว่าอวี๋ชางไห่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจฟื้นตัวเองได้ภายในเวลาอันสั้น (56 นาที 23 วินาที) และด้วยอาการบาดเจ็บของเขาตอนนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะหนีไปไกล ตำแหน่งที่เขาอยู่ตอนนี้คือถนนเฉียง ซอยซื่อสุ่ย กำลังจะผ่านซอยลิ่วผินไปทางถนนใหญ่ หมายจะเข้าไปหลบภัยที่สถาบันซานเจียง ด้วยความเร็วในการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายตอนนี้ น่าจะตามไปทันก่อนที่เขาจะไปถึง!]นี่ต่างหากคือโฉมหน้าทั้งหมดของแจ้งเตือนระบบที่มาพร้อมทักษะตัวอักษร ‘ดิน’ ของเฟยอวี๋!

สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ปิดบังไว้ ก็เพื่อจะแยกกับเพื่อนในทีมและชิงเป็นคนสุดท้ายที่ได้กำจัดอวี๋ชางไห่ทิ้งก็เท่านั้นเอง

หลังจากสังเกตมองรอบๆ ครู่หนึ่งแล้วพบว่าฝั่งซ้ายและขวาไม่มีคนอื่นแล้ว เฟยอวี๋ก็ใช้ท่าร่าง แล้วไล่ตามไปยังทิศทางที่ระบบแจ้งเตือนทันที เหยียบซื่อสุ่ย ผ่านเฟิ่นเฉียง บุกลิ่วผิน…สุดท้ายตอนที่ใกล้จะถึงสถาบันซานเจียง ก็ตามทันอวี๋ชางไห่ที่แทบจะวิ่งไม่ไหวเพราะบาดเจ็บสาหัสเกินไป

“บัดซบ” แม้อวี๋ชางไห่จะบาดเจ็บหนัก แต่ทักษะการสังเกตการณ์อันเฉียบคมยังคงอยู่ เมื่อเห็นเฟยอวี๋ไล่ตามมา ก็อดด่าไม่ได้ว่า “ข้าใช้วิชาลับของสำนักชิงเฉิงหนีมาถึงนี่แล้วยังมีคนตามทัน เจ้าลูกตะพาบนี่เกิดปีหมาหรืออย่างไร”

“หึ หึ เฟยอวี๋ มือปราบขั้นเจ็ดแห่งสำนักมือปราบเทพ ตั้งใจมาส่งเจ้าสำนักอวี๋ขึ้นสู่สวรรค์โดยเฉพาะ”

ขณะที่พูด เฟยอวี๋ก็ชักกระบี่ออกจากฝักอย่างช้าๆ ประชิดเข้าไปประชิดตัวอวี๋ชางไห่ทีละก้าว ทีละก้าว

เขาทำอย่างนี้ไม่ใช่เพราะอวดเก่ง และไม่ได้โรคจิตที่ชอบเห็นเหยื่อทุรนทุรายก่อนตายอะไรด้วย แต่เป็นเพราะหวาดกลัวที่จะลงมือกับ BOSS เลเวลสี่สิบที่อยู่ในฐานะเจ้าสำนัก กลัวว่าตัวเองจะมาตายน้ำตื้นเท่านั้นเอง

มองเฟยอวี๋เข้าประชิดทีละก้าว เจ้าสำนักอวี๋ก็สติแตกแล้ว

ที่จริงด้วยค่าตบะของอวี๋ชางไห่ ก็ไม่ได้เห็นคนรุ่นหลังอย่างเฟยอวี๋อยู่ในสายตาเลย เป็นเพียงมดตัวหนึ่งที่กำจัดได้อย่างสบายมือเท่านั้นเอง แต่เขาเพิ่งถูกเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยร่วมมือกันใช้กระบี่คู่ผนึกรวมโจมตีจนสาหัสเกือบตาย แม้สุดท้ายจะใช้วิชาลับหนีออกมาได้ แต่ตอนนี้พลังของเขาก็เหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งในสิบตั้งนานแล้ว

ตัวเขาในตอนนี้ เกรงว่าถ้าสุ่มผู้เล่นมาให้สักคน เขาก็อาจจะสู้ไม่ไหวก็ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยอดฝีมืออย่างเฟยอวี๋เลย

หากไม่ทำอะไรสักอย่างที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึง เขาก็ไม่มีโอกาสชนะแม้แต่ครึ่งเดียว!

ทว่าเจ้าเด็กโง่นี่ท่าทางระวังตัวสุดๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ให้โอกาสแบบนั้นกับเขาแน่

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ อวี๋ชางไห่ก็ยังไม่คิดจะนั่งรอความตายอยู่ดี

ขณะมองเฟยอวี๋ประชิดเข้ามาทีละก้าว อวี๋ชางไห่ก็กุมกระบี่ล้ำค่าในมือไว้แน่น รอหาช่องโหว่ของอีกฝ่าย แล้วอาศัยโลกทรรศน์และประสบการณ์ของตัวเองที่เหนือกว่าอีกฝ่ายมาสู้ให้เต็มที่

สิบก้าว!

ห้าก้าว!

สามก้าว!

……

เมื่อเห็นเฟยอวี๋เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ขอเพียงก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว ก็จะเข้าสู้ขอบเขตการโจมตีของกันและกันแล้ว อวี๋ชางไห่ปลุกใจให้ฮึกเหิม เตรียมตัวสละชีวิตโจมตีเรียบร้อยแล้ว

ส่วนเฟยอวี๋ก็ได้กรอกกำลังภายในเข้าดาบในมือเงียบๆ แล้ว พร้อมฟันโจมตีด้วยท่าไม้ตายได้ทุกเมื่อ

ตอนที่ BOSS กับผู้เล่นรวบรวมพลังเตรียมโจมตี กำลังเพ่งสมาธิทั้งหมดไปบนตัวอีกฝ่าย กลับมีเหตุเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกะทันหัน

ฉึก!

ตามติดด้วยเสียงอาวุธแทงเข้าเนื้อ ปลายกระบี่ครึ่งหนึ่งแทงทะลุออกจากหัวใจของอวี๋ชางไห่!

เห็นบนตัวอีกฝ่ายมีอาวุธทะลุออกมากะทันหัน เฟยอวี๋ที่กำลังตึงเครียดก็ถอยหลังโดยจิตใต้สำนึก ตอนนี้เพิ่งจะรู้ตัวว่ามีคนนำเขามาก่อนหนึ่งก้าว ชิงศีรษะของอวี๋ชางไห่ไปแล้ว

อวี๋ชางไห่ที่เพ่งสมาธิทั้งหมดไปบนตัวเฟยอวี๋ สังเกตเห็นเพียงเฟยอวี๋ที่ประชิดเข้ามาทีละก้าวเท่านั้น ไม่รู้ตัวเลยว่าข้างหลังยังมีอีกสองคนขนาบโจมตีเข้ามา BOSS เลเวลสี่สิบผู้สง่าผ่าเผยคนหนึ่ง ตายไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวอย่างนี้แล้ว…

ไม่ต้องให้อีกฝ่ายเดินออกมาจากข้างหลังอวี๋ชางไห่ เฟยอวี๋ก็เห็นโฉมหน้าคนขี้แย่งชัดเจนแล้ว

เนื่องจากความสูงของเจ้าสำนักอวี๋ พื้นที่ที่ร่างกายบดบังได้มีจำกัด ต่อให้บนศีรษะสวมหมวก แต่ก็ยังมองเห็นใบหน้าหล่อเท่ครึ่งหนึ่งของคนที่มาแย่งตีมอนได้เหมือนเดิม

เป็นเจ้าคนน่ารังเกียจนี่จริงๆ ด้วย!

ขณะเดียวกันนี้เอง เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นข้างหูเฟยอวี๋

[ติ๊ง! ทีมของคุณสังหารอวี๋ชางไห่ BOSS เลเวล 40 สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 30000 แต้มและค่าตบะ 3000 แต้ม]

[ติ๊ง! เนื่องจากทีมของคุณใช้โหมดการต่อสู้ ‘แบ่งสรรค่าตามผลงาน’ อิงตามการแสดงความสามารถตอนต่อสู้ คุณได้รับเงิน 36 เหรียญทอง!]

เยี่ยเว่ยหมิงใช้เท้าข้างหนึ่งยันบนหลังศพของอวี๋ชางไห่ ถือโอกาสดึงกระบี่ชิงจู๋ขึ้นมาจากตัวศพ แล้วพุ่งเข้าไปพยักหน้าให้เฟยอวี๋อย่างเกรงใจ “เจ้าพูดไม่ผิด อวี๋ชางไห่คนนี้บาดเจ็บหนักจริงๆ ด้วย พลังต่อสู้แทบจะเป็นศูนย์”

เฟยอวี๋กลับเจียดรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าตอนร้องไห้ออกมา ในใจกลับมีคำด่า ‘mother fxxker’ นับร้อยประโยคที่ถ้าไม่พ่นออกมาคงอึดอัดใจ

“เจ้าหาอวี๋ชางไห่เจอได้อย่างไร” ประโยคนับพันหมื่นกลับกลายเป็นคำถามประโยคเดียว

“จะว่าไปแล้วก็โชคดีที่มีมัน” ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็เก็บกระบี่ชิงจู๋แล้ว เขาใช้มือขวาที่ว่างจับอาหวงที่อยู่ในอ้อมอกขึ้นมาแกว่งไปแกว่งมาตรงหน้าเฟยอวี๋ “อาหวง นี่คือเพื่อนร่วมงานของข้า เฟยอวี๋ ทักทายเขาหน่อยสิ”

“โฮ่งๆ…”

เฟยอวี๋ “…”

ตั้งแต่กราบอาจารย์เข้าสำนักมือปราบเทพจนกระทั่งตอนนี้ นอกจากครั้งแรกที่รู้ว่าสำนักนี้ไม่มีวิทยายุทธ์ประจำสำนักให้เรียน นี่ก็เป็นครั้งที่สองที่สหายเฟยอวี๋เกิดความคิดว่า ‘ข้าจะออกจากสำนัก’

เกินไปแล้ว!

คับข้องใจเกินไปแล้ว!

จนปัญญาเกินไปแล้ว!

เดิมทีเขาภาคภูมิใจมาตลอด อาศัยผลประโยชน์มหาศาลที่ได้รับ กลายเป็นผู้เล่นระดับบนที่มีวิชาลับ ‘สืบเสาะหมื่นลี้’ ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จะแพ้ให้กับสุนัขตัวเดียว!

จะให้ไปเรียกร้องความยุติธรรมจากไหน?

เยี่ยเว่ยหมิงเก็บอาหวงเข้าในกำไลเงินสัตว์เลี้ยงอีกครั้ง แล้วก็เริ่มจัดการศพของอวี๋ชางไห่อย่างชำนาญ ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ x1 ‘ตระหนักรู้กำลังภายใน’ x1

เก็บตำราลับอย่างแนบเนียน ในระหว่างนั้นไม่พูดอะไรกับศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนักสักคำ จนกระทั่งหลังจากนั้นพักหนึ่ง ถังซานไฉ่ถึงปรากฏตัวตรงปากซอย “อวี๋ชางไห่ถูกพวกเจ้าฆ่าตายแล้วหรือ รีบบอกมาเร็วเข้า เขาดรอปของอะไรบ้าง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 75 อาหวงสร้างผลงานอีกแล้ว

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 75 อาหวงสร้างผลงานอีกแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 75 อาหวงสร้างผลงานอีกแล้ว

ฟ้า ดิน คน ผี สี่ทักษะของสำนักมือปราบเทพต่างก็มีผลลัพธ์ขั้นเทพ ตอนนี้สามจากสี่ทักษะเป็นเหมือนดอกไม้งามที่มีเจ้าของแล้ว

ตำรา ‘รวมบันทึกล้างมลทิน’ ของเยี่ยเว่ยหมิงมีทักษะชันสูตรศพ ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บรรจุศพเป็นต้น กล่าวได้ว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เขาผงาดขึ้นมาได้

ส่วน ‘สังเกตสีหน้าท่าทาง’ ของซานเย่ว์ก็เป็นเครื่องจับเท็จเวอร์ชั่นมนุษย์โดยแท้ ความสามารถประเภทนี้ก็ยิ่งถูกคนมีพรสวรรค์อย่างนางใช้งานตอนทำภารกิจกับตอนต่อรองราคา ก่อนหน้านี้ยังโม้กับเยี่ยเว่ยหมิงอยู่เลยว่าใต้หล้าไม่มีใครสู้นางได้

และตามที่ซานเย่ว์ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ตอนที่นางเข้าสำนักมา รายการทักษะที่มีให้เลือกก็เหลือแค่ ‘คน’ กับ ‘ผี’ สองรายการ หากคาดคะแนจากสิ่งนี้ สิ่งที่เฟยอวี๋เรียนรู้จะต้องเป็นทักษะตัวอักษร ‘ดิน’ จากสี่ทักษะนี้แน่นอน

แต่เมื่อดูจากนิสัย ‘เห็นชีวิตคนใหญ่เหนือฟ้า’ ของผู้ออกแบบระบบเกม เยี่ยเว่ยหมิงก็วิเคราะห์ไม่ออกเลยว่าทักษะตัวอักษร ‘ดิน’ คือทักษะอะไรกันแน่ แต่เมื่อดูจากภาพหน้าจอภาพนี้ เฟยอวี๋เองก็ตั้งใจตัดส่วนแรกสุดที่เป็นชื่อทักษะทิ้งด้วย แสดงว่าไม่คิดจะเปิดเผยแน่นอน

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ย่อมไม่ปากมากไปถาม จึงพยักหน้าแล้วพูดต่อทันทีว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็แสดงว่าตอนนี้อวี๋ชางไห่น่าจะไม่เหลือพลังต่อสู้เยอะเท่าไรแล้ว ทุกคนแยกกันค้นหาเถอะ”

เมื่อพูดจบ พวกเขาก็ต่างคนต่างเลือกทิศทางและแยกย้ายกันไปค้นหา

หลังจากคนในทีมแยกย้ายกันออกไปแล้ว เฟยอวี๋ก็ไปยังทิศทางที่ดูไม่น่าจะเป็นไปได้ที่สุด เดินไปยังเส้นทางที่อวี๋ชางไห่ชนกำแพงบ้านคนก่อนหน้านี้ ขณะที่เดินไป ก็ไม่ลืมที่จะแอบมองหน้าอินเตอร์เฟสระบบของตัวเอง

[ติ๊ง! ใช้งานพาสซีฟสกิล ‘สืบเสาะหมื่นลี้’ คุณพบว่าอวี๋ชางไห่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่อาจฟื้นตัวเองได้ภายในเวลาอันสั้น (56 นาที 23 วินาที) และด้วยอาการบาดเจ็บของเขาตอนนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะหนีไปไกล ตำแหน่งที่เขาอยู่ตอนนี้คือถนนเฉียง ซอยซื่อสุ่ย กำลังจะผ่านซอยลิ่วผินไปทางถนนใหญ่ หมายจะเข้าไปหลบภัยที่สถาบันซานเจียง ด้วยความเร็วในการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายตอนนี้ น่าจะตามไปทันก่อนที่เขาจะไปถึง!]นี่ต่างหากคือโฉมหน้าทั้งหมดของแจ้งเตือนระบบที่มาพร้อมทักษะตัวอักษร ‘ดิน’ ของเฟยอวี๋!

สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ปิดบังไว้ ก็เพื่อจะแยกกับเพื่อนในทีมและชิงเป็นคนสุดท้ายที่ได้กำจัดอวี๋ชางไห่ทิ้งก็เท่านั้นเอง

หลังจากสังเกตมองรอบๆ ครู่หนึ่งแล้วพบว่าฝั่งซ้ายและขวาไม่มีคนอื่นแล้ว เฟยอวี๋ก็ใช้ท่าร่าง แล้วไล่ตามไปยังทิศทางที่ระบบแจ้งเตือนทันที เหยียบซื่อสุ่ย ผ่านเฟิ่นเฉียง บุกลิ่วผิน…สุดท้ายตอนที่ใกล้จะถึงสถาบันซานเจียง ก็ตามทันอวี๋ชางไห่ที่แทบจะวิ่งไม่ไหวเพราะบาดเจ็บสาหัสเกินไป

“บัดซบ” แม้อวี๋ชางไห่จะบาดเจ็บหนัก แต่ทักษะการสังเกตการณ์อันเฉียบคมยังคงอยู่ เมื่อเห็นเฟยอวี๋ไล่ตามมา ก็อดด่าไม่ได้ว่า “ข้าใช้วิชาลับของสำนักชิงเฉิงหนีมาถึงนี่แล้วยังมีคนตามทัน เจ้าลูกตะพาบนี่เกิดปีหมาหรืออย่างไร”

“หึ หึ เฟยอวี๋ มือปราบขั้นเจ็ดแห่งสำนักมือปราบเทพ ตั้งใจมาส่งเจ้าสำนักอวี๋ขึ้นสู่สวรรค์โดยเฉพาะ”

ขณะที่พูด เฟยอวี๋ก็ชักกระบี่ออกจากฝักอย่างช้าๆ ประชิดเข้าไปประชิดตัวอวี๋ชางไห่ทีละก้าว ทีละก้าว

เขาทำอย่างนี้ไม่ใช่เพราะอวดเก่ง และไม่ได้โรคจิตที่ชอบเห็นเหยื่อทุรนทุรายก่อนตายอะไรด้วย แต่เป็นเพราะหวาดกลัวที่จะลงมือกับ BOSS เลเวลสี่สิบที่อยู่ในฐานะเจ้าสำนัก กลัวว่าตัวเองจะมาตายน้ำตื้นเท่านั้นเอง

มองเฟยอวี๋เข้าประชิดทีละก้าว เจ้าสำนักอวี๋ก็สติแตกแล้ว

ที่จริงด้วยค่าตบะของอวี๋ชางไห่ ก็ไม่ได้เห็นคนรุ่นหลังอย่างเฟยอวี๋อยู่ในสายตาเลย เป็นเพียงมดตัวหนึ่งที่กำจัดได้อย่างสบายมือเท่านั้นเอง แต่เขาเพิ่งถูกเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยร่วมมือกันใช้กระบี่คู่ผนึกรวมโจมตีจนสาหัสเกือบตาย แม้สุดท้ายจะใช้วิชาลับหนีออกมาได้ แต่ตอนนี้พลังของเขาก็เหลืออยู่ไม่ถึงหนึ่งในสิบตั้งนานแล้ว

ตัวเขาในตอนนี้ เกรงว่าถ้าสุ่มผู้เล่นมาให้สักคน เขาก็อาจจะสู้ไม่ไหวก็ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยอดฝีมืออย่างเฟยอวี๋เลย

หากไม่ทำอะไรสักอย่างที่อีกฝ่ายคาดไม่ถึง เขาก็ไม่มีโอกาสชนะแม้แต่ครึ่งเดียว!

ทว่าเจ้าเด็กโง่นี่ท่าทางระวังตัวสุดๆ เห็นได้ชัดว่าไม่ให้โอกาสแบบนั้นกับเขาแน่

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ อวี๋ชางไห่ก็ยังไม่คิดจะนั่งรอความตายอยู่ดี

ขณะมองเฟยอวี๋ประชิดเข้ามาทีละก้าว อวี๋ชางไห่ก็กุมกระบี่ล้ำค่าในมือไว้แน่น รอหาช่องโหว่ของอีกฝ่าย แล้วอาศัยโลกทรรศน์และประสบการณ์ของตัวเองที่เหนือกว่าอีกฝ่ายมาสู้ให้เต็มที่

สิบก้าว!

ห้าก้าว!

สามก้าว!

……

เมื่อเห็นเฟยอวี๋เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ขอเพียงก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว ก็จะเข้าสู้ขอบเขตการโจมตีของกันและกันแล้ว อวี๋ชางไห่ปลุกใจให้ฮึกเหิม เตรียมตัวสละชีวิตโจมตีเรียบร้อยแล้ว

ส่วนเฟยอวี๋ก็ได้กรอกกำลังภายในเข้าดาบในมือเงียบๆ แล้ว พร้อมฟันโจมตีด้วยท่าไม้ตายได้ทุกเมื่อ

ตอนที่ BOSS กับผู้เล่นรวบรวมพลังเตรียมโจมตี กำลังเพ่งสมาธิทั้งหมดไปบนตัวอีกฝ่าย กลับมีเหตุเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกะทันหัน

ฉึก!

ตามติดด้วยเสียงอาวุธแทงเข้าเนื้อ ปลายกระบี่ครึ่งหนึ่งแทงทะลุออกจากหัวใจของอวี๋ชางไห่!

เห็นบนตัวอีกฝ่ายมีอาวุธทะลุออกมากะทันหัน เฟยอวี๋ที่กำลังตึงเครียดก็ถอยหลังโดยจิตใต้สำนึก ตอนนี้เพิ่งจะรู้ตัวว่ามีคนนำเขามาก่อนหนึ่งก้าว ชิงศีรษะของอวี๋ชางไห่ไปแล้ว

อวี๋ชางไห่ที่เพ่งสมาธิทั้งหมดไปบนตัวเฟยอวี๋ สังเกตเห็นเพียงเฟยอวี๋ที่ประชิดเข้ามาทีละก้าวเท่านั้น ไม่รู้ตัวเลยว่าข้างหลังยังมีอีกสองคนขนาบโจมตีเข้ามา BOSS เลเวลสี่สิบผู้สง่าผ่าเผยคนหนึ่ง ตายไปอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวอย่างนี้แล้ว…

ไม่ต้องให้อีกฝ่ายเดินออกมาจากข้างหลังอวี๋ชางไห่ เฟยอวี๋ก็เห็นโฉมหน้าคนขี้แย่งชัดเจนแล้ว

เนื่องจากความสูงของเจ้าสำนักอวี๋ พื้นที่ที่ร่างกายบดบังได้มีจำกัด ต่อให้บนศีรษะสวมหมวก แต่ก็ยังมองเห็นใบหน้าหล่อเท่ครึ่งหนึ่งของคนที่มาแย่งตีมอนได้เหมือนเดิม

เป็นเจ้าคนน่ารังเกียจนี่จริงๆ ด้วย!

ขณะเดียวกันนี้เอง เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นข้างหูเฟยอวี๋

[ติ๊ง! ทีมของคุณสังหารอวี๋ชางไห่ BOSS เลเวล 40 สำเร็จ ได้รับค่าประสบการณ์ 30000 แต้มและค่าตบะ 3000 แต้ม]

[ติ๊ง! เนื่องจากทีมของคุณใช้โหมดการต่อสู้ ‘แบ่งสรรค่าตามผลงาน’ อิงตามการแสดงความสามารถตอนต่อสู้ คุณได้รับเงิน 36 เหรียญทอง!]

เยี่ยเว่ยหมิงใช้เท้าข้างหนึ่งยันบนหลังศพของอวี๋ชางไห่ ถือโอกาสดึงกระบี่ชิงจู๋ขึ้นมาจากตัวศพ แล้วพุ่งเข้าไปพยักหน้าให้เฟยอวี๋อย่างเกรงใจ “เจ้าพูดไม่ผิด อวี๋ชางไห่คนนี้บาดเจ็บหนักจริงๆ ด้วย พลังต่อสู้แทบจะเป็นศูนย์”

เฟยอวี๋กลับเจียดรอยยิ้มที่น่าเกลียดยิ่งกว่าตอนร้องไห้ออกมา ในใจกลับมีคำด่า ‘mother fxxker’ นับร้อยประโยคที่ถ้าไม่พ่นออกมาคงอึดอัดใจ

“เจ้าหาอวี๋ชางไห่เจอได้อย่างไร” ประโยคนับพันหมื่นกลับกลายเป็นคำถามประโยคเดียว

“จะว่าไปแล้วก็โชคดีที่มีมัน” ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็เก็บกระบี่ชิงจู๋แล้ว เขาใช้มือขวาที่ว่างจับอาหวงที่อยู่ในอ้อมอกขึ้นมาแกว่งไปแกว่งมาตรงหน้าเฟยอวี๋ “อาหวง นี่คือเพื่อนร่วมงานของข้า เฟยอวี๋ ทักทายเขาหน่อยสิ”

“โฮ่งๆ…”

เฟยอวี๋ “…”

ตั้งแต่กราบอาจารย์เข้าสำนักมือปราบเทพจนกระทั่งตอนนี้ นอกจากครั้งแรกที่รู้ว่าสำนักนี้ไม่มีวิทยายุทธ์ประจำสำนักให้เรียน นี่ก็เป็นครั้งที่สองที่สหายเฟยอวี๋เกิดความคิดว่า ‘ข้าจะออกจากสำนัก’

เกินไปแล้ว!

คับข้องใจเกินไปแล้ว!

จนปัญญาเกินไปแล้ว!

เดิมทีเขาภาคภูมิใจมาตลอด อาศัยผลประโยชน์มหาศาลที่ได้รับ กลายเป็นผู้เล่นระดับบนที่มีวิชาลับ ‘สืบเสาะหมื่นลี้’ ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จะแพ้ให้กับสุนัขตัวเดียว!

จะให้ไปเรียกร้องความยุติธรรมจากไหน?

เยี่ยเว่ยหมิงเก็บอาหวงเข้าในกำไลเงินสัตว์เลี้ยงอีกครั้ง แล้วก็เริ่มจัดการศพของอวี๋ชางไห่อย่างชำนาญ ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ x1 ‘ตระหนักรู้กำลังภายใน’ x1

เก็บตำราลับอย่างแนบเนียน ในระหว่างนั้นไม่พูดอะไรกับศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนักสักคำ จนกระทั่งหลังจากนั้นพักหนึ่ง ถังซานไฉ่ถึงปรากฏตัวตรงปากซอย “อวี๋ชางไห่ถูกพวกเจ้าฆ่าตายแล้วหรือ รีบบอกมาเร็วเข้า เขาดรอปของอะไรบ้าง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+