ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 80 สุดยอดวิชา? ที่ข้ามีเล่มหนึ่ง!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 80 สุดยอดวิชา? ที่ข้ามีเล่มหนึ่ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 80 สุดยอดวิชา? ที่ข้ามีเล่มหนึ่ง!

“เล่นแง่? ก็ช่างสิ แค่เอาชนะเจ้าได้ก็พอแล้ว” เยี่ยเว่ยหมิงเอามือซ้ายไพล่หลังอย่างแนบเนียน อดทนไม่ให้ตัวเองแสดงท่าทางเจ็บปวดทรมาน แสร้งพูดอย่างสบายไร้กังวล “เข้ามาอีกสิ!”

ขณะที่พูด สองตาก็จ้องสาวน้อยชุดแดงตรงหน้าไม่ละไปไหน สองมือที่ไขว้หลังอยู่เริ่มงอนิ้วคำนวณอีกครั้ง

เมื่อสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามรุนแรงของเคล็ดจิตไท้ซัวเป็นไฉน สาวน้อยชุดแดงก็มีสีหน้าย่ำแย่ทันที

วิธีการต่อสู้ของเยี่ยเว่ยหมิงที่จริงแล้วป่าเถื่อนเรียบง่ายถึงขีดสุด เป็นวิธีการต่อสู้ป่าเถื่อนแบบเอาเลือดมาแลกเลือดเหมือนในช่วงแรกของการเล่นเกม

แต่ผู้เลิศล้ำอย่างสาวน้อยชุดแดง ยามเผชิญหน้ากับวิธีการต่อสู้แบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะหาหนทางรับมือไม่ได้แม้แต้น้อย

ขอเพียงนางไปโจมตีเยี่ยเว่ยหมิง เมื่อดาบวิเศษโจมตีโดนเขา ก็จะค้างไปครู่หนึ่งอย่างเลี่ยงได้ยาก ก็เหมือนเวลาดาบกระบี่ฟันโดนบนตัวศัตรูในชีวิตจริง ก็จะค้างอยู่บนเนื้อของอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน

แม้จะเป็นเพียงชั่วพริบตาเดียว แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เยี่ยเว่ยหมิงโจมตีกลับแบบรุนแรงถึงชีวิตได้

ด้วยพลังโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ ถึงขั้นไม่จำเป็นต้องแทงโดนจุดสำคัญด้วยซ้ำ ต่อให้กระบี่เฉียดโดนผิวนางนิดหน่อย ก็เพียงพอที่จะทำให้ค่าพลังชีวิตที่เหลือของนางหมดลงโดยสิ้นเชิงแล้ว!

ถึงอย่างไรก็เป็นเกม ยังต้องคุยกันโดยอิงตัวเลขเป็นหลัก!

ถ้าเป็นผู้เล่นทั่วไปคนหนึ่ง นางก็ยังทดลองใช้เทคนิคเพื่อโจมตีอีกฝ่ายโดยที่ตัวเองไม่บาดเจ็บได้

แต่ความว่องไวและระดับทักษะที่เยี่ยเว่ยหมิงแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่นางจะเอาชนะได้เลย

ก่อนหน้านี้นางฟันทำลายเอฟเฟ็กต์กระบี่คู่ผนึกรวมของเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยได้ นั่นก็เป็นเพราะกระบี่คู่ผนึกรวมของทั้งสองเดิมทีก็มีข้อด้อยมากมายอยู่แล้ว และข้อด้อยเหล่านั้น อวี๋ชางไห่ที่ถูกปรับให้อ่อนแอลงเมื่ออยู่ในโหมดภารกิจก็ไม่มีทางหาพบ แต่ผู้เล่นที่ฝึกยุทธ์มาตั้งแต่เด็กกลับอาศัยพลังสายตาและการกระทำของตัวเองโจมตีทำลายได้

แต่วิธีการต่อสู้ที่แทบจะไร้หลักการเหตุผลของเยี่ยเหวยหมิงตอนนี้ กลับเหนือกว่ากระบวนการรับรู้ของอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง

ยามเผชิญหน้ากับกลยุทธ์แบบคนโหดเวอร์ชั่นอัปเกรดของเยี่ยเว่ยหมิง นอกเสียจากว่าค่าสเตตัสพื้นฐานด้านโจมตีและป้องกันจะข่มเขาได้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางแก้ปัญหาได้เลย!

ส่วนที่บอกว่าอาศัยท่าร่างวิ่งสู้กับเขา จากนั้นค่อยๆ วางแผนน่ะหรือ

นั่นก็ยิ่งเป็นเรื่องเหลวไหล!

แม้สาวน้อยชุดแดงจะอวดดีกับการกระทำของตัวเองมาก แต่ก็ไม่ได้อวดดีถึงขั้นคิดว่าตัวเองจะรับมือกับ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ แบบซึ่งหน้าได้!

เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงท่องสูตรคูณพวก ‘สามเจ็ดยี่สิบเอ็ด สามแปดยี่สิบสี่’ ในที่สุดสาวน้อยชุดแดงก็ล้มเลิกความคิดที่จะสู้ตัดสินแพ้ชนะกับเขาแล้ว

นางกระทืบเท้าอย่างแรง แล้วแลบลิ้นใส่เยี่ยเว่ยหมิง “คนขี้โกงอย่างเจ้าน่ะ ทำเกินไปแล้วจริงๆ! แต่ถึงข้าจะสู้ไม่ชนะเจ้า แต่เจ้าก็เลิกคิดไปได้เลยว่าจะทำให้ข้าตาย ถ้าเก่งนักก็ตามข้ามาสิ! แบร่ๆ…”

พอพูดจบ ร่างกายนางก็กลายเป็นเงาเลือนสายหนึ่ง หลังจากขวักไขว่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนพักหนึ่ง ก็หายไปจากสายตาเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว

[ติ๊ง! ฝ่ายตรงข้ามหลุดออกจากขอบเขตการคำนวณขนาดใหญ่แล้ว การเปิดใช้ไท้ซัวเป็นไฉนล้มเหลว!]

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ ในที่สุดเยี่ยเว่ยหมิงก็โล่งอกแล้ว เมื่อควักยาจินฉวงมาตบบนบาดแผลที่แขนซ้าย เขาถึงได้รู้สึกว่าความเจ็บปวดบรรเทาลง

ทว่าเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่ใจว่าสาวน้อยชุดแดงจะย้อนกลับมาสังหารหรือไม่ เขากลับไม่กล้ายกเลิกโหมดความรู้สึกเจ็บ เนื่องจากกลยุทธ์คนโหดเวอร์ชั่นอัปเกรดของเขา จะต้องทำงานร่วมกับโหมดความรู้สึกเจ็บถึงจะแสดงผลแบบ ‘สกิลร่างคลั่ง'[1] ออกมาได้

ถ้าปิดโหมดความรู้สึกเจ็บ ชั่วพริบตาที่ร่างกายถูกโจมตีก็จะถูกควบคุมให้ถอยหลัง หลบหลีก หรือแสดงท่าทางต่างๆ ด้วยฝีมือของสาวน้อยชุดแดง หากอยากจะใช้กระบวนท่าต่อเนื่องเพื่อเอาชนะเขาในสถานการณ์เช่นนั้น ก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ถึงอย่างไรก็ไม่ได้อยู่ในโหมดการต่อสู้ อาการบาดเจ็บฟื้นตัวเร็วมาก อดทนสักหน่อยเดียวก็ผ่านไปแล้ว

ยาจินฉวงแสดงผลเร็วมาก ใช้เวลาไม่นานเท่าไร เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดบนร่างกายหายไปแล้ว แทนที่ด้วยความรู้สึกเย็นสบายอย่างที่บรรยายออกมาได้ยาก

ถึงอกถึงใจ!

ความรู้สึกสบายนี้ไม่ได้ออกมาจากร่างกาย แต่เป็นความรู้สึกสบายที่มาจากส่วนลึกของหัวใจ!

ผู้ฝึกยุทธ์ในโลกแห่งความจริงแล้วทำไม!

ยอดฝีมือฝืนลิขิตฟ้าแล้วอย่างไร!

เมื่ออยู่ใต้อานุภาพขั้นเทพของข้า ก็ยังต้องหนีจนฝุ่นมอมแมมเต็มหน้าไม่ใช่หรอกหรือ

รอยยิ้มบนใบหน้าสดใสไร้ที่เปรียบ ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงบอกข่าวนี้ให้เพื่อนร่วมทีมรู้ น้ำเสียงกลับถ่อมตัวมาก [สหายซานไฉ่ ขออภัยจริงๆ เด็กนั่นหนีเร็วมาก ข้าล้างแค้นให้เจ้าไม่สำเร็จ ขอโทษนะ! (ノ´д`)]

เฟยอวี๋ [เจ้าบอกว่าเจ้าโจมตีจนผู้หญิงคนนั้นหนีไปหรือ!]

เยี่ยเว่ยหมิง [เฮ้อ…วิชาตัวเบาของนางเหนือกว่าข้า ข้าตามไม่ทัน! o(TヘTo)]

ถังซานไฉ่ [สหายเยี่ย ขออภัยที่ข้าพูดตรงนะ ทำไมข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังขี้โม้]

สะพานสวรรค์คริสตัล [ขี้โม้ +1!]

เฟยอวี๋ [ขี้โม้ +2!]

เยี่ยเว่ยหมิง [(⊙ˍ⊙) พวกเจ้าดูออกหมดแล้วเหรอเนี่ย]

ถังซานไฉ่ [แปลกใหม่ขนาดนั้นเชียว แต่จะว่าไปแล้ว ข้าก็ไม่ได้คิดจะล้างแค้นนางให้ได้หรอก ตรงกันข้ามเลย ด้วยฝีมือของนาง หากเป็นไปได้ ข้ายินดีจะคบหานางเป็นสหายมาก]

เยี่ยเว่ยหมิง [สหายซานไฉ่ เจ้าเคยได้ยินเพลงโบราณที่ชื่อว่า ‘ดาบกระบี่ดุจความฝัน’ หรือเปล่า]

ถังซานไฉ่ [เคยสิ ทำไมหรือ]

เยี่ยเว่ยหมิง [ไม่มีอะไร ข้าก็แค่ลืมว่าท่อนแรกของเพลงนี้ร้องอย่างไร เจ้าพอจะจำเนื้อเพลงสองสามคำแรกได้หรือเปล่า]

ถังซานไฉ่ [หว่อเจี้ยน[2]!]

ถังซานไฉ่ [นี่เจ้ากำลังด่าข้าทางอ้อมหรือ! O(≧口≦)O]

สะพานสวรรค์คริสตัล [เลิกเถียงกันได้แล้ว พูดเรื่องจริงจังเถอะ ข้ารู้สึกว่าวิชาดาบกับวิชาตัวเบาที่นางใช้ เหมือนจะเป็นสุดยอดวิชาทั้งคู่เลย ไม่อย่างนั้นจะมีอานุภาพมากขนากนี้ได้อย่างไร! (⊙-⊙)]

เมื่อได้ยินดังนั้น ในช่องทีมตกอยู่ในความเงียบครู่หนึ่ง

สุดยอดวิชา!

ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงแรกของการเล่นเกม ทักษะเฉพาะตัวของผู้เล่นโดยทั่วไปมีเพียงทักษะยุทธ์ระดับต้นหนึ่งถึงสองวิชาเท่านั้น ใครที่ฝึกวิทยายุทธ์ระดับกลางได้นิดหน่อย ก็ถือเป็นยอดฝีมือเหนือยอดฝีมือแล้ว ยกตัวอย่างเช่นบางคนในทีมสำนักมือปราบเทพ หลายสถานการณ์ก็เป็นเช่นนี้

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ การมีสุดยอดวิชาสองวิชามีความหมายว่าอะไร ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าจินตนาการ

สิ่งที่ทำให้ทุกคนไม่กล้าจินตนาการยิ่งกว่านั่นก็คือ คู่ต่อสู้อย่างนี้ เยี่ยเว่ยหมิงโจมตีจนนางแพ้ได้อย่างไรกันแน่

หลังจากช่องทีมตกอยู่ในความเงียบไปครึ่งนาที ในที่สุดเฟยอวี๋ก็ส่งข้อความทำลายความเงียบสงัดแล้ว [ท่าร่างของนางเป็นอย่างไรข้าไม่เห็น แต่วิชาดาบที่นางใช้ไม่ใช่สุดยอดวิชาอะไรแน่นอน แต่เป็นวิชาดาบระดับกลางที่ชื่อว่า ‘วิชาดาบตระกูลหู’ ╮(﹀_﹀)╭]

[จะเป็นไปได้อย่างไร!?] ×4

เฟยอวี๋ [ความจริงเป็นอย่างนั้น เพราะข้าก็ใช้ ‘วิชาดาบตระกูลหู’ เหมือนกัน ดังนั้นข้ามองไม่ผิดแน่ กระบวนท่าเดียวกัน เพียงแต่เลเวลเคล็ดวิชาของนางน่าจะสูงกว่าข้าเยอะ]

หากเลเวลของสกิลสูงมากพอ แม้จะเป็นเพียงวิทยายุทธ์ระดับกลาง แต่ก็แสดงประสิทธิภาพอันน่าหวาดกลัวออกมาได้เช่นกันอย่างนั้นหรือ

[สุดยอดวิชา?]

ขณะทุกคนกำลังตกตะลึงที่สาวน้อยชุดแดงมีวิชาดาบระดับกลาง แสดงประสิทธิภาพออกมาได้ขนาดนี้ โหยวโหยวที่เงียบมาตลอด สุดท้ายก็ส่งข้อความในช่องทีมแล้ว

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงเตรียมให้ความรู้เรื่องเลเวลเคล็ดวิชาใน ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ กับนางสักหน่อย ข้อความของโหยวโหยวก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

[พูดถึงสุดยอดวิชา ที่จริงตอนนี้ในมือข้าก็มีอยู่เล่มหนึ่งเหมือนกัน ข้าเพิ่งได้มาตอนทำภารกิจ]

ทุกคนได้ยินแล้วตะลึง ส่วนโหยวโหยวก็ส่งลิงก์ไอเทมในช่องทีม [เคล็ดกระบี่พิชิตมาร]

[เคล็ดกระบี่พิชิตมาร (สุดยอดวิชา)]

สุดยอดวิชาไร้เทียมทานของหลินหย่วนถูแห่งสำนักคุ้มภัยฝูเวย หากต้องการฝึกจนได้ผลลัพธ์อัศจรรย์ ต้องโบกดาบเฉือนความเป็นชายทิ้ง!

เงื่อนไขการฝึก: เฉือนความเป็นชายทิ้ง!

[1] 霸体สกิลร่างคลั่งหรือสกิล Endure เมื่อถูกโจมตี แม้จะได้รับดาเมจ แต่ตัวละครจะไม่ถูกควบคุม จะไม่กระตุก ถอยหลัง หรือเคลื่อนไหวช้าลง

[2] หว่อเจี้ยน 我剑 แปลว่ากระบี่ของข้า พ้องเสียงกับคำว่า หว่อเจี้ยน 我贱 ที่แปลว่าข้าต่ำทราม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 80 สุดยอดวิชา? ที่ข้ามีเล่มหนึ่ง!

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 80 สุดยอดวิชา? ที่ข้ามีเล่มหนึ่ง! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 80 สุดยอดวิชา? ที่ข้ามีเล่มหนึ่ง!

“เล่นแง่? ก็ช่างสิ แค่เอาชนะเจ้าได้ก็พอแล้ว” เยี่ยเว่ยหมิงเอามือซ้ายไพล่หลังอย่างแนบเนียน อดทนไม่ให้ตัวเองแสดงท่าทางเจ็บปวดทรมาน แสร้งพูดอย่างสบายไร้กังวล “เข้ามาอีกสิ!”

ขณะที่พูด สองตาก็จ้องสาวน้อยชุดแดงตรงหน้าไม่ละไปไหน สองมือที่ไขว้หลังอยู่เริ่มงอนิ้วคำนวณอีกครั้ง

เมื่อสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามรุนแรงของเคล็ดจิตไท้ซัวเป็นไฉน สาวน้อยชุดแดงก็มีสีหน้าย่ำแย่ทันที

วิธีการต่อสู้ของเยี่ยเว่ยหมิงที่จริงแล้วป่าเถื่อนเรียบง่ายถึงขีดสุด เป็นวิธีการต่อสู้ป่าเถื่อนแบบเอาเลือดมาแลกเลือดเหมือนในช่วงแรกของการเล่นเกม

แต่ผู้เลิศล้ำอย่างสาวน้อยชุดแดง ยามเผชิญหน้ากับวิธีการต่อสู้แบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะหาหนทางรับมือไม่ได้แม้แต้น้อย

ขอเพียงนางไปโจมตีเยี่ยเว่ยหมิง เมื่อดาบวิเศษโจมตีโดนเขา ก็จะค้างไปครู่หนึ่งอย่างเลี่ยงได้ยาก ก็เหมือนเวลาดาบกระบี่ฟันโดนบนตัวศัตรูในชีวิตจริง ก็จะค้างอยู่บนเนื้อของอีกฝ่ายเช่นเดียวกัน

แม้จะเป็นเพียงชั่วพริบตาเดียว แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เยี่ยเว่ยหมิงโจมตีกลับแบบรุนแรงถึงชีวิตได้

ด้วยพลังโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ ถึงขั้นไม่จำเป็นต้องแทงโดนจุดสำคัญด้วยซ้ำ ต่อให้กระบี่เฉียดโดนผิวนางนิดหน่อย ก็เพียงพอที่จะทำให้ค่าพลังชีวิตที่เหลือของนางหมดลงโดยสิ้นเชิงแล้ว!

ถึงอย่างไรก็เป็นเกม ยังต้องคุยกันโดยอิงตัวเลขเป็นหลัก!

ถ้าเป็นผู้เล่นทั่วไปคนหนึ่ง นางก็ยังทดลองใช้เทคนิคเพื่อโจมตีอีกฝ่ายโดยที่ตัวเองไม่บาดเจ็บได้

แต่ความว่องไวและระดับทักษะที่เยี่ยเว่ยหมิงแสดงให้เห็นก่อนหน้านี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้อยู่ในขอบเขตที่นางจะเอาชนะได้เลย

ก่อนหน้านี้นางฟันทำลายเอฟเฟ็กต์กระบี่คู่ผนึกรวมของเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยได้ นั่นก็เป็นเพราะกระบี่คู่ผนึกรวมของทั้งสองเดิมทีก็มีข้อด้อยมากมายอยู่แล้ว และข้อด้อยเหล่านั้น อวี๋ชางไห่ที่ถูกปรับให้อ่อนแอลงเมื่ออยู่ในโหมดภารกิจก็ไม่มีทางหาพบ แต่ผู้เล่นที่ฝึกยุทธ์มาตั้งแต่เด็กกลับอาศัยพลังสายตาและการกระทำของตัวเองโจมตีทำลายได้

แต่วิธีการต่อสู้ที่แทบจะไร้หลักการเหตุผลของเยี่ยเหวยหมิงตอนนี้ กลับเหนือกว่ากระบวนการรับรู้ของอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง

ยามเผชิญหน้ากับกลยุทธ์แบบคนโหดเวอร์ชั่นอัปเกรดของเยี่ยเว่ยหมิง นอกเสียจากว่าค่าสเตตัสพื้นฐานด้านโจมตีและป้องกันจะข่มเขาได้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีทางแก้ปัญหาได้เลย!

ส่วนที่บอกว่าอาศัยท่าร่างวิ่งสู้กับเขา จากนั้นค่อยๆ วางแผนน่ะหรือ

นั่นก็ยิ่งเป็นเรื่องเหลวไหล!

แม้สาวน้อยชุดแดงจะอวดดีกับการกระทำของตัวเองมาก แต่ก็ไม่ได้อวดดีถึงขั้นคิดว่าตัวเองจะรับมือกับ ‘ไท้ซัวเป็นไฉน’ แบบซึ่งหน้าได้!

เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงท่องสูตรคูณพวก ‘สามเจ็ดยี่สิบเอ็ด สามแปดยี่สิบสี่’ ในที่สุดสาวน้อยชุดแดงก็ล้มเลิกความคิดที่จะสู้ตัดสินแพ้ชนะกับเขาแล้ว

นางกระทืบเท้าอย่างแรง แล้วแลบลิ้นใส่เยี่ยเว่ยหมิง “คนขี้โกงอย่างเจ้าน่ะ ทำเกินไปแล้วจริงๆ! แต่ถึงข้าจะสู้ไม่ชนะเจ้า แต่เจ้าก็เลิกคิดไปได้เลยว่าจะทำให้ข้าตาย ถ้าเก่งนักก็ตามข้ามาสิ! แบร่ๆ…”

พอพูดจบ ร่างกายนางก็กลายเป็นเงาเลือนสายหนึ่ง หลังจากขวักไขว่อยู่ท่ามกลางกลุ่มคนพักหนึ่ง ก็หายไปจากสายตาเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว

[ติ๊ง! ฝ่ายตรงข้ามหลุดออกจากขอบเขตการคำนวณขนาดใหญ่แล้ว การเปิดใช้ไท้ซัวเป็นไฉนล้มเหลว!]

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ ในที่สุดเยี่ยเว่ยหมิงก็โล่งอกแล้ว เมื่อควักยาจินฉวงมาตบบนบาดแผลที่แขนซ้าย เขาถึงได้รู้สึกว่าความเจ็บปวดบรรเทาลง

ทว่าเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่แน่ใจว่าสาวน้อยชุดแดงจะย้อนกลับมาสังหารหรือไม่ เขากลับไม่กล้ายกเลิกโหมดความรู้สึกเจ็บ เนื่องจากกลยุทธ์คนโหดเวอร์ชั่นอัปเกรดของเขา จะต้องทำงานร่วมกับโหมดความรู้สึกเจ็บถึงจะแสดงผลแบบ ‘สกิลร่างคลั่ง'[1] ออกมาได้

ถ้าปิดโหมดความรู้สึกเจ็บ ชั่วพริบตาที่ร่างกายถูกโจมตีก็จะถูกควบคุมให้ถอยหลัง หลบหลีก หรือแสดงท่าทางต่างๆ ด้วยฝีมือของสาวน้อยชุดแดง หากอยากจะใช้กระบวนท่าต่อเนื่องเพื่อเอาชนะเขาในสถานการณ์เช่นนั้น ก็เหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากอะไร

ถึงอย่างไรก็ไม่ได้อยู่ในโหมดการต่อสู้ อาการบาดเจ็บฟื้นตัวเร็วมาก อดทนสักหน่อยเดียวก็ผ่านไปแล้ว

ยาจินฉวงแสดงผลเร็วมาก ใช้เวลาไม่นานเท่าไร เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดบนร่างกายหายไปแล้ว แทนที่ด้วยความรู้สึกเย็นสบายอย่างที่บรรยายออกมาได้ยาก

ถึงอกถึงใจ!

ความรู้สึกสบายนี้ไม่ได้ออกมาจากร่างกาย แต่เป็นความรู้สึกสบายที่มาจากส่วนลึกของหัวใจ!

ผู้ฝึกยุทธ์ในโลกแห่งความจริงแล้วทำไม!

ยอดฝีมือฝืนลิขิตฟ้าแล้วอย่างไร!

เมื่ออยู่ใต้อานุภาพขั้นเทพของข้า ก็ยังต้องหนีจนฝุ่นมอมแมมเต็มหน้าไม่ใช่หรอกหรือ

รอยยิ้มบนใบหน้าสดใสไร้ที่เปรียบ ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงบอกข่าวนี้ให้เพื่อนร่วมทีมรู้ น้ำเสียงกลับถ่อมตัวมาก [สหายซานไฉ่ ขออภัยจริงๆ เด็กนั่นหนีเร็วมาก ข้าล้างแค้นให้เจ้าไม่สำเร็จ ขอโทษนะ! (ノ´д`)]

เฟยอวี๋ [เจ้าบอกว่าเจ้าโจมตีจนผู้หญิงคนนั้นหนีไปหรือ!]

เยี่ยเว่ยหมิง [เฮ้อ…วิชาตัวเบาของนางเหนือกว่าข้า ข้าตามไม่ทัน! o(TヘTo)]

ถังซานไฉ่ [สหายเยี่ย ขออภัยที่ข้าพูดตรงนะ ทำไมข้ารู้สึกว่าเจ้ากำลังขี้โม้]

สะพานสวรรค์คริสตัล [ขี้โม้ +1!]

เฟยอวี๋ [ขี้โม้ +2!]

เยี่ยเว่ยหมิง [(⊙ˍ⊙) พวกเจ้าดูออกหมดแล้วเหรอเนี่ย]

ถังซานไฉ่ [แปลกใหม่ขนาดนั้นเชียว แต่จะว่าไปแล้ว ข้าก็ไม่ได้คิดจะล้างแค้นนางให้ได้หรอก ตรงกันข้ามเลย ด้วยฝีมือของนาง หากเป็นไปได้ ข้ายินดีจะคบหานางเป็นสหายมาก]

เยี่ยเว่ยหมิง [สหายซานไฉ่ เจ้าเคยได้ยินเพลงโบราณที่ชื่อว่า ‘ดาบกระบี่ดุจความฝัน’ หรือเปล่า]

ถังซานไฉ่ [เคยสิ ทำไมหรือ]

เยี่ยเว่ยหมิง [ไม่มีอะไร ข้าก็แค่ลืมว่าท่อนแรกของเพลงนี้ร้องอย่างไร เจ้าพอจะจำเนื้อเพลงสองสามคำแรกได้หรือเปล่า]

ถังซานไฉ่ [หว่อเจี้ยน[2]!]

ถังซานไฉ่ [นี่เจ้ากำลังด่าข้าทางอ้อมหรือ! O(≧口≦)O]

สะพานสวรรค์คริสตัล [เลิกเถียงกันได้แล้ว พูดเรื่องจริงจังเถอะ ข้ารู้สึกว่าวิชาดาบกับวิชาตัวเบาที่นางใช้ เหมือนจะเป็นสุดยอดวิชาทั้งคู่เลย ไม่อย่างนั้นจะมีอานุภาพมากขนากนี้ได้อย่างไร! (⊙-⊙)]

เมื่อได้ยินดังนั้น ในช่องทีมตกอยู่ในความเงียบครู่หนึ่ง

สุดยอดวิชา!

ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงแรกของการเล่นเกม ทักษะเฉพาะตัวของผู้เล่นโดยทั่วไปมีเพียงทักษะยุทธ์ระดับต้นหนึ่งถึงสองวิชาเท่านั้น ใครที่ฝึกวิทยายุทธ์ระดับกลางได้นิดหน่อย ก็ถือเป็นยอดฝีมือเหนือยอดฝีมือแล้ว ยกตัวอย่างเช่นบางคนในทีมสำนักมือปราบเทพ หลายสถานการณ์ก็เป็นเช่นนี้

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ การมีสุดยอดวิชาสองวิชามีความหมายว่าอะไร ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าจินตนาการ

สิ่งที่ทำให้ทุกคนไม่กล้าจินตนาการยิ่งกว่านั่นก็คือ คู่ต่อสู้อย่างนี้ เยี่ยเว่ยหมิงโจมตีจนนางแพ้ได้อย่างไรกันแน่

หลังจากช่องทีมตกอยู่ในความเงียบไปครึ่งนาที ในที่สุดเฟยอวี๋ก็ส่งข้อความทำลายความเงียบสงัดแล้ว [ท่าร่างของนางเป็นอย่างไรข้าไม่เห็น แต่วิชาดาบที่นางใช้ไม่ใช่สุดยอดวิชาอะไรแน่นอน แต่เป็นวิชาดาบระดับกลางที่ชื่อว่า ‘วิชาดาบตระกูลหู’ ╮(﹀_﹀)╭]

[จะเป็นไปได้อย่างไร!?] ×4

เฟยอวี๋ [ความจริงเป็นอย่างนั้น เพราะข้าก็ใช้ ‘วิชาดาบตระกูลหู’ เหมือนกัน ดังนั้นข้ามองไม่ผิดแน่ กระบวนท่าเดียวกัน เพียงแต่เลเวลเคล็ดวิชาของนางน่าจะสูงกว่าข้าเยอะ]

หากเลเวลของสกิลสูงมากพอ แม้จะเป็นเพียงวิทยายุทธ์ระดับกลาง แต่ก็แสดงประสิทธิภาพอันน่าหวาดกลัวออกมาได้เช่นกันอย่างนั้นหรือ

[สุดยอดวิชา?]

ขณะทุกคนกำลังตกตะลึงที่สาวน้อยชุดแดงมีวิชาดาบระดับกลาง แสดงประสิทธิภาพออกมาได้ขนาดนี้ โหยวโหยวที่เงียบมาตลอด สุดท้ายก็ส่งข้อความในช่องทีมแล้ว

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงเตรียมให้ความรู้เรื่องเลเวลเคล็ดวิชาใน ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ กับนางสักหน่อย ข้อความของโหยวโหยวก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง

[พูดถึงสุดยอดวิชา ที่จริงตอนนี้ในมือข้าก็มีอยู่เล่มหนึ่งเหมือนกัน ข้าเพิ่งได้มาตอนทำภารกิจ]

ทุกคนได้ยินแล้วตะลึง ส่วนโหยวโหยวก็ส่งลิงก์ไอเทมในช่องทีม [เคล็ดกระบี่พิชิตมาร]

[เคล็ดกระบี่พิชิตมาร (สุดยอดวิชา)]

สุดยอดวิชาไร้เทียมทานของหลินหย่วนถูแห่งสำนักคุ้มภัยฝูเวย หากต้องการฝึกจนได้ผลลัพธ์อัศจรรย์ ต้องโบกดาบเฉือนความเป็นชายทิ้ง!

เงื่อนไขการฝึก: เฉือนความเป็นชายทิ้ง!

[1] 霸体สกิลร่างคลั่งหรือสกิล Endure เมื่อถูกโจมตี แม้จะได้รับดาเมจ แต่ตัวละครจะไม่ถูกควบคุม จะไม่กระตุก ถอยหลัง หรือเคลื่อนไหวช้าลง

[2] หว่อเจี้ยน 我剑 แปลว่ากระบี่ของข้า พ้องเสียงกับคำว่า หว่อเจี้ยน 我贱 ที่แปลว่าข้าต่ำทราม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+