ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 165 สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร (ขาดสิบเจ็ดฝ่ามือ)

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 165 สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร (ขาดสิบเจ็ดฝ่ามือ) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 165 สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร (ขาดสิบเจ็ดฝ่ามือ)

ฝ่ามือนี้ของเซียวเหยาถอนใจที่นำความตกตะลึงมาสู่เยี่ยเว่ยหมิง เมื่อเทียบกับประสบการณ์ตอนหนึ่งดาบสามเฉือนขึ้นสังเวียนครั้งแรก ตอนตัวเองทะลวงสามด่านต่อเนื่อง ตอนปลิดชีพถังซานไฉ่ ถือว่าฝ่ามือนี้น่าตกตะลึงยิ่งกว่า!

ตอนหนึ่งดาบสามเฉือนขึ้นสังเวียนครั้งแรก ก็แค่ทำให้เขาได้รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมกว่าเท่านั้น

ทว่าฝ่ามือที่อยู่ตรงหน้านี้ กลับโจมตีกระบวนการรับรู้อันมั่นคงของเขาที่มีต่อ ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’!

ก่อนจะถึงวันนี้ เยี่ยเว่ยหมิงเจอยอดฝีมือมาก็ไม่ใช่น้อยๆ ในจำนวนนั้นยังรวมหวงเย่าซือ สุดยอดผู้แข็งแกร่งเลเวลร้อยแปดสิบ จางซานเฟิงเลเวลสองร้อย หวงโส่วจุนที่ลึกล้ำเกินคาดเดา

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังรู้สึกวา ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ เป็นฉากในยุทธภพที่มีฉากดาบและกระบี่สู้กัน

แต่พี่ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ พอเข้ามาก็ใช้ฝ่ามือเดียวเรียกพลังเป็นรูปมังกรได้เลย

เจ้าทำแบบนี้เท่ากับยกระดับโลกของจอมยุทธ์ไปถึงระดับโลกแฟนตาซีแล้ว

หรือว่าเดิมทีวิทยายุทธ์ระดับสูงของโลกนี้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว แต่สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็น ก็เพราะพี่ใหญ่พวกนั้นยังไม่ลงมืออย่างจริงจังเท่านั้นเอง

ความคิดมากมายแล่นผ่านเข้ามาในหัว แต่กลับไม่ส่งผลกระทบต่อการตอบสนองอันมีประสิทธิภาพของเยี่ยเว่ยหมิงแม้แต่น้อย

ขณะมองพลังฝ่ามือรูปมังกรเข้ามาประชิดตรงหน้า คิดว่าถ้าจะถอยหลบคงไม่ทันแน่นอน เยี่ยเว่ยหมิงจึงหมุนกระบี่อาญาสิทธิ์ในมือทันที เปลี่ยนเป็นกวาดออกมาในแนวขวาง แต่กลับต้องหยุดใช้ ‘พเนจรสุดขอบฟ้า’ ไว้กลางคัน เปลี่ยนมาใช้หนึ่งในกระบวนท่าป้องกันของเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ เพื่อสกัดพลังฝ่ามือรูปมังกรของเซียวเหยาถอนใจไว้ไดอย่างหวุดหวิด

พรึ่บ!

คมกระบี่และพลังฝ่ามือปะทะกัน แต่กลับส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอันน่าตกตะลึง

ภายใต้การโจมตีนี้ เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกได้ทันทีว่าพลังฝ่ามือของอีกฝ่ายนั้นดุดันทรงพลังถึงขีดสุด มันถ่ายทอดตามกระบี่อาญาสิทธิ์มาที่แขนของเขาราวกับผลักภูเขาพลิกทะเล แล้วก็ถล่มเข้ามาในร่างกายอีก ทำให้เขารู้สึกเจ็บหน้าอกอยู่พักหนึ่ง

พอมาคิดดูแล้ว หากก่อนหน้านี้เขาใช้ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ปะทะซึ่งๆ หน้า จะต้องเสียเปรียบมากแน่นอน

หลังจากเปลี่ยนมาใช้ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ แล้ว ร่างกายก็ถอยหลังสามก้าวต่อเนื่องกันอย่างควบคุมไม่อยู่ แต่ละก้าวห่างกันประมาณครึ่งจั้ง หลังจากผ่านไปสามก้าว ตัวเองก็อยู่ใกล้สังเวียนแล้ว!

แต่การถอยแล้วถอยอีกของเขาครั้งนี้ ช่วยลดพลังอันดุดันของอีกฝ่ายได้พอดี แต่กลับทนรับพลังฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวของอีกฝ่ายไม่ได้

เมื่อยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงมองไปยังยอดฝีมือพรรคกระยาจกที่แต่งกายเรียบร้อยหมดจดอีกครั้ง ในดวงตาเขากลับฉายแววตกตะลึงอย่างที่ปิดบังได้ยาก!

อานุภาพฝ่ามือของเขาก่อนหน้านี้ แม้จะไม่ได้องอาจห้าวหาญเท่ากับฝ่ามือของชวีหลิงเฟิง แต่กลับต่างจากอวี๋ชางไห่เวอร์ชั่นอ่อนแอไม่มาก!

อวี๋ชางไห่คือใครกัน

ประมุขของชิงเฉิง เป็นเจ้าสำนักเชียวนะ!

ต่อให้เป็นเวอร์ชั่นถูกตัดความเป็นชายทิ้งเมื่ออยู่ในโหมดภารกิจ แต่นั่นก็คือการดำรงอยู่อันน่าหวาดกลัวสำหรับผู้เล่นในปัจจุบันที่ยังห่างชั้นจนตามไม่ทันอยู่ดี!

ศิษย์พรรคกระยาจกที่สงบเสงี่ยมคนหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะแสดงศักยภาพออกมาได้น่าหวาดกลัวขนาดนี้ ความแข็งแกร่งของเขาไม่เป็นรองหนึ่งดาบสามเฉือนเลย!

ทว่าตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงตกใจ ในใจของเซียวเหยาถอนใจนั้นตกใจยิ่งกว่าเขาเสียอีก!

ต้องทราบไว้ว่าในการตั้งค่าของเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ เมื่อเปลี่ยนท่ากลางคันจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงเยอะมาก!

และหากจะอธิบายให้ละเอียด ก็ยังเป็นเพราะการตั้งค่าตอนเปลี่ยนสกิลในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’

หลังจากผู้เล่นอัปสกิลรายการใดก็ตามจนถึงเลเวลห้า ก็จะอยู่ในระดับที่เรียกว่า ‘ควบคุมได้อย่างยืดหยุ่น’ เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ถึงจะทำได้อย่างเยี่ยเว่ยหมิงที่ตะลีตะลานเปลี่ยนจากกระบวนท่าหนึ่งไปสู่อีกกระบวนท่าหนึ่งได้

แน่นอน ถ้าอยากจะทำให้ได้เหมือนเขาก่อนหน้านี้ ก็ต้องสลับระหว่างสองวิทยายุทธ์ที่แตกต่างกันอย่างรวดเร็ว ทั้งยังต้องอัปเลเวลของ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ กับ เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ไม่ให้ต่ำกว่าเลเวลห้าทั้งคู่ด้วย

หากเพิ่มเคล็ดกระบี่ฉวนเจินให้ถึงเลเวลห้า ก็จะหยุดใช้กลางคันได้ทุกเมื่อ หากเพิ่มเคล็ดกระบี่มังกรร่อนล่อหงส์ให้ถึงเลเวลห้า ก็จะบังคับใช้งานมันได้เช่นกัน

ขณะที่บังคับใช้งานมัน เมื่อเปลี่ยนท่ากะทันหัน ประสิทธิภาพก็จะอ่อนแอลงเยอะมาก แต่หากสกิลที่บังคับใช้งานยิ่งมีเลเวลสูง การลดทอนประสิทธิภาพก็จะน้อยลงเรื่อยๆ เช่นกัน

แต่ต่อให้เพิ่มวิทยายุทธ์จนถึงเลเวลสิบซึ่งเป็นระดับสมบูรณ์แล้ว หลังจากเปลี่ยนกระบวนท่ากะทันหัน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้กระบวนท่าได้มีประสิทธิภาพเหมือนตอนยังไม่เปลี่ยน

เหมือนกับที่เยี่ยเว่ยหมิงหยุดใช้ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ กลางคันแล้วบังคับใช้เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ แทนก่อนหน้านี้ การแสดงประสิทธิภาพออกมาได้สามถึงสี่ส่วนจากตอนปกติก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

อย่างไรเสีย ตอนนี้เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ของเขาก็เพิ่งถึงเลเวลหกเท่านั้นเอง!

เซียวเหยาถอนใจย่อมไม่รู้ถึงเลเวลเคล็ดกระบี่ของเยี่ยเว่ยหมิงอย่างละเอียด แต่หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงเปลี่ยนท่ากะทันหัน แล้วยังรับฝ่ามือที่ใช้ออกมาเต็มพลังของเขาได้โดยไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย จากจุดนี้ก็มองออกแล้วว่าศักยภาพที่แท้จริงของเยี่ยเว่ยหมิงเหนือกว่าเขาแน่นอน ถึงขั้นสูงกว่าเขาเยอะด้วย!

อย่างไรเสีย เมื่ออยู่ในสถานการณ์อย่างเมื่อครู่นี้ เขากลับทำไม่ได้แม้กระทั่งโจมตีให้อีกฝ่ายอยู่ในสถานะถูกควบคุมและเสียค่าพลังชีวิต

ต้องทราบไว้ว่า เขาใช้สุดยอดวิชาอันเลื่องชื่อของยุทธภพอย่าง สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร (ขาดสิบจ็ดฝ่ามือ) เชียวนะ!

เห็นได้ชัดว่าเซียวเหยาถอนใจคนนี้เป็นตัวละครโหดและเด็ดขาด พอโจมตียังไม่สำเร็จ ก็รีบก้าวตามขึ้นมาทันที จากนั้นใช้มือขวาวาดเป็นวงแล้วถล่มพลังรูปมังกรออกมาหนึ่งฝ่ามือ

ยังเป็นส่วนผสมเดิม ยังเป็นรสชาติที่คุ้นเคย

หลังจากผ่านการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้แล้ว เซียวเหยาถอนใจก็แทบจะตัดสินได้ว่าศักยภาพโดยรวมของเยี่ยเว่ยหมิงบดขยี้เขาได้แน่นอน หากเยี่ยเว่ยหมิงคุมสถานการณ์นี้ได้มั่นคงเมื่อไร เขาก็จะหมดหวังในชัยชนะแล้ว!

โอกาสเพียงอย่างเดียวของเขาก็คืออาศัยเคล็ดฝ่ามือที่เป็นสุดยอดวิชาอันเผด็จการนี้บีบเยี่ยเว่ยหมิงให้ลงสังเวียนในอึดใจเดียว พยายามใช้เคล็ดฝ่ามือต่อไปเรื่อยๆ โดยอาศัยความได้เปรียบของฝ่ามือที่โจมตีออกไปก่อนหน้านี้เป็นพื้นฐาน

อะไรนะ เจ้าบอกว่าโจมตีสังหารหรือ

อย่าพูดเหลวไหล!

ขนาดเมื่อครู่นี้ยังทำให้เยี่ยเว่ยหมิงเสียค่าพลังชีวิตไม่ได้ นับประสาอะไรกับตอนนี้

ทว่าเยี่ยเว่ยหมิงที่เตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้ว มีหรือที่จะถูกควบคุมได้ง่ายขนาดนั้น หากเทียบกับก่อนหน้านี้ที่ไม่ทันตั้งตัว เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้สุขุมเยือกเย็นขึ้นเยอะมาก เขาส่งกระบี่อาญาสิทธิ์ในมือออกไปเบาๆ ใช้ความเร็วปกติรับมือกับฝ่ามือที่ทำให้คนหลบไม่พ้นของอีกฝ่าย จากนั้นก็ถือโอกาสก้าวไปด้านข้างสองก้าว ขจัดประสิทธิภาพของฝ่ามือนี้ให้หายไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อเห็นสุดยอดกระบวนท่าอันน่าภูมิใจของตัวเองถูกเยี่ยเว่ยหมิงทำลายง่ายดายขนาดนี้ เซียวเหยาถอนใจก็แอบตระหนก เขาเคยคิดว่าหากโจมตีซ้ำด้วยกระบวนท่าเดิม ผลลัพธ์คงไม่ดีเท่าใช้ครั้งแรกแน่นอน แต่กลับนึกไม่ถึงว่าความแตกต่างระหว่างครั้งแรกกับครั้งที่สองจะแตกต่างกันมากขนาดนี้!

ฝ่ามือสุดแข็งแกร่งที่โจมตีจนเยี่ยเว่ยหมิงจนตรอกก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับถูกอีกฝ่ายกำจัดทิ้งได้อย่างง่ายดาย ถึงขั้นว่าไม่มีผลควบคุมเลยแม้แต่น้อย อีกฝ่ายควรจะถอยไปตรงไหนก็ถอยไปตรงนั้น แล้วยังอยากจะอาศัยฝ่ามือนี้บีบให้อีกฝ่ายลงสังเวียนอีกหรือ

เห็นได้ชัดว่าคิดมากเกินไปแล้ว!

แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เซียวเหยาถอนใจก็ไม่มีหนทางอื่นแล้วเช่นกัน ขณะมองเยี่ยเว่ยหมิงถอยออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน เขากลับทำได้เพียงก้าวขึ้นมาอีกก้าว แล้ววาดฝ่ามือเหมือนเดิมถล่มออกมาอีกครั้ง

แม้ในใจเยี่ยเว่ยหมิงจะสงสัยว่าทำไมเจ้าหมอนี่ถึงใช้แต่ท่านี้ แต่มือกลับใช้ท่าของเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ กำจัดพลังฝ่ามือของเขาอีกครั้ง จากนั้นกวาดมองหน้าสกิลขอตัวเองแวบหนึ่ง ทำให้ตาเป็นประกายทันที

เขาเพิ่งจะรับมือกับฝ่ามือของอีกฝ่ายไปสองครั้ง แต่ค่าประสบการณ์ของ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ดันเพิ่มพรวดขึ้นสองร้อยกว่าแต้มแล้ว!

เยี่ยเว่ยหมิงที่เหมือนได้ค้นพบโลกใหม่เผยรอยยิ้มตื่นเต้นบนใบหน้า แม้แต่สายตาที่มองเซียวเหยาถอนใจก็เปลี่ยนไปแล้ว

พี่ชายคนนี้อย่างเจ๋ง!

นี่มันคู่ต่อสู้อะไรกัน นี่เป็นสุดที่รัก EXP ชัดๆ!

หากต่อสู้กันไปอย่างนี้สามถึงห้านาที เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ของเขาจะอัปเลเวลได้หรือเปล่า

พอนึกถึงตรงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงแทนที่จะรีบฉวยโอกาสโต้ตอบ แต่กลับกวาดกระบี่อาญาสิทธิ์ออกมาในแนวขวางอย่างไม่รีบร้อน “น่าสนใจ ทำต่อไปสิ!”

ทว่าเซียวเหยาถอนใจได้ยินแล้วกลับใช้สองเท้าแตะพื้น พอลอยออกไปไกลประมาณหนึ่งจั้ง ก็กุมหมัดคารวะเยี่ยเว่ยหมิง “ไม่ต้องสู้แล้ว ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า ยอมแพ้จากใจจริง”

พอพูดจบ ก็ไม่รอให้เยี่ยเว่ยหมิงแสดงท่าที หันตัวกระโดดลงจากสังเวียนไปเลย กล่าวได้ว่าแพ้อย่างสง่างาม

แม่งเอ๊ย หลงดีใจไปฟรีๆ!

กลับมานั่งบนเก้าอี้ผู้ท้าชิงหมายเลขสองอีกครั้ง หนึ่งดาบสามเฉือนที่นั่งอยู่ข้างกันกลับถามด้วยน้ำเสียงที่เจือความรู้สึกขำขัน “เป็นอะไรไป รู้สึกว่าแรงกดดันจากสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรช่วยให้เจ้าฝึกทักษะยุทธ์ เลยคิดจะสู้ต่ออย่างนั้นหรือ”

“นั่นคือสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรหรือ” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า “น่าเสียดายที่เจ้าหมอนั่นยอมแพ้ง่ายเกินไปแล้ว แม้แต่จะพยายามอีกสักหน่อยก็ไม่ยอม ไหนจะกระบวนท่าเดียวที่เขาใช้ซ้ำไปซ้ำมาอีก ใช้แค่นั้นก็พอแล้ว”

“เจ้าเข้าใจเขาผิดไปแล้วจริงๆ” หนึ่งดาบสามเฉือนกล่าวว่า “สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรเป็นสุดยอดวิชา จะเรียนรู้ได้ง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร เขาเรียนได้ฝ่ามือเดียวก็ถือว่าสุดยอดแล้ว เจ้าหวังจะให้เขาเรียนให้ครบสิบแปดฝ่ามือเชียวหรือ…

…ส่วนที่บอกว่าทำไมเขาไม่สู้กับเจ้าต่ออีกสักหน่อย ข้าคิดว่ากำลังภายในของเขาคงใกล้หมดแล้วกระมัง…

…ถึงอย่างไร เคล็ดฝ่ามือสุดโหดอย่างสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรก็สิ้นเปลืองกำลังภายในสุดๆ อยู่แล้ว การที่เขาโจมตีได้สามฝ่ามือต่อเนื่องกัน ก็ถือว่ามีกำลังภายในเยอะมากแล้ว เจ้าอย่าหวังมากไปหน่อยเลย”

หนึ่งดาบสามเฉือนยิ้มบางๆ แล้วกล่าวอย่างแน่ใจมากว่า “ขอเพียงกำลังภายในของเขาเพิ่มขึ้นอีกหน่อย หรือมีสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรท่าที่สองอีก เขาคงไม่ถึงขั้นอยู่อันดับรองที่โหล่หรอก”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วแบมือยักไหล่ “จะว่าไปก็ใช่”

ในตอนนี้เอง หนึ่งดาบสามเฉือนกลับเอ่ยถึงเรื่องเก่าอีกครั้ง “ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าถามข้า ว่าทำไมอันดับในโหมดแรงค์ถึงเป็นตัวแสดงถึงศักยภาพที่แท้จริงของบรรดาผู้ท้าชิงไม่ได้…

…ตอนนี้ข้าเข้าใจประเด็นนี้แล้ว”

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นบอกว่า “ถึงอย่างไรการจัดโหมดแรงค์ก็มีปัญหาในตัวมันเองอยู่แล้ว ยอดฝีมือของสำนักที่ทำดาเมจได้สูง เมื่ออยู่ในการประลองแบบนี้ก็ได้ตักตวงผลประโยชน์ไปเยอะมาก ดังนั้นในบรรดาแปดคนนี้ถึงไม่มีสำนักที่ความรู้พื้นฐานด้านป้องกันสูงอย่างเส้าหลิน แม้แต่อู่ตังก็มีแค่เสวียนเสี่ยวปี่คนเดียว…

…นั่นก็เป็นเพราะว่า สำนักที่ทำดาเมจได้ช้าเสียเปรียบมากในกติกาการประลองแบบนี้”

ขณะที่พูด ผู้ท้าชิงอีกสองคนของกลุ่มสามก็ถูกส่งไปในสังเวียนแล้ว เมื่อเห็นเงาร่างอันอ่อนช้อยงดงามของสะพานสวรรค์น้อยกำลังยืนถือกระบี่ มุมปากเยี่ยเว่ยหมิงก็โค้งยิ้มอย่างภูมิใจ “สำหรับจุดนี้ อีกเดี๋ยวสะพานสวรรค์น้อยก็ใช้ร่างกายตัวเองพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้ว”

“แต่จะว่าไปแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายหรือปล่า ถ้าออกไปจากตรงนี้ไม่ได้ ข้าก็คิดว่าจะลองหาแถวๆ นี้ดูสักหน่อยว่าข้างล่างสังเวียนเปิดโต๊ะเดิมพันหรือเปล่า หากมีข้าคงหารายได้พิเศษได้สักก้อน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 165 สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร (ขาดสิบเจ็ดฝ่ามือ)

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 165 สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร (ขาดสิบเจ็ดฝ่ามือ) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 165 สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร (ขาดสิบเจ็ดฝ่ามือ)

ฝ่ามือนี้ของเซียวเหยาถอนใจที่นำความตกตะลึงมาสู่เยี่ยเว่ยหมิง เมื่อเทียบกับประสบการณ์ตอนหนึ่งดาบสามเฉือนขึ้นสังเวียนครั้งแรก ตอนตัวเองทะลวงสามด่านต่อเนื่อง ตอนปลิดชีพถังซานไฉ่ ถือว่าฝ่ามือนี้น่าตกตะลึงยิ่งกว่า!

ตอนหนึ่งดาบสามเฉือนขึ้นสังเวียนครั้งแรก ก็แค่ทำให้เขาได้รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมกว่าเท่านั้น

ทว่าฝ่ามือที่อยู่ตรงหน้านี้ กลับโจมตีกระบวนการรับรู้อันมั่นคงของเขาที่มีต่อ ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’!

ก่อนจะถึงวันนี้ เยี่ยเว่ยหมิงเจอยอดฝีมือมาก็ไม่ใช่น้อยๆ ในจำนวนนั้นยังรวมหวงเย่าซือ สุดยอดผู้แข็งแกร่งเลเวลร้อยแปดสิบ จางซานเฟิงเลเวลสองร้อย หวงโส่วจุนที่ลึกล้ำเกินคาดเดา

ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังรู้สึกวา ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ เป็นฉากในยุทธภพที่มีฉากดาบและกระบี่สู้กัน

แต่พี่ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ พอเข้ามาก็ใช้ฝ่ามือเดียวเรียกพลังเป็นรูปมังกรได้เลย

เจ้าทำแบบนี้เท่ากับยกระดับโลกของจอมยุทธ์ไปถึงระดับโลกแฟนตาซีแล้ว

หรือว่าเดิมทีวิทยายุทธ์ระดับสูงของโลกนี้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว แต่สาเหตุที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็น ก็เพราะพี่ใหญ่พวกนั้นยังไม่ลงมืออย่างจริงจังเท่านั้นเอง

ความคิดมากมายแล่นผ่านเข้ามาในหัว แต่กลับไม่ส่งผลกระทบต่อการตอบสนองอันมีประสิทธิภาพของเยี่ยเว่ยหมิงแม้แต่น้อย

ขณะมองพลังฝ่ามือรูปมังกรเข้ามาประชิดตรงหน้า คิดว่าถ้าจะถอยหลบคงไม่ทันแน่นอน เยี่ยเว่ยหมิงจึงหมุนกระบี่อาญาสิทธิ์ในมือทันที เปลี่ยนเป็นกวาดออกมาในแนวขวาง แต่กลับต้องหยุดใช้ ‘พเนจรสุดขอบฟ้า’ ไว้กลางคัน เปลี่ยนมาใช้หนึ่งในกระบวนท่าป้องกันของเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ เพื่อสกัดพลังฝ่ามือรูปมังกรของเซียวเหยาถอนใจไว้ไดอย่างหวุดหวิด

พรึ่บ!

คมกระบี่และพลังฝ่ามือปะทะกัน แต่กลับส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหวอันน่าตกตะลึง

ภายใต้การโจมตีนี้ เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกได้ทันทีว่าพลังฝ่ามือของอีกฝ่ายนั้นดุดันทรงพลังถึงขีดสุด มันถ่ายทอดตามกระบี่อาญาสิทธิ์มาที่แขนของเขาราวกับผลักภูเขาพลิกทะเล แล้วก็ถล่มเข้ามาในร่างกายอีก ทำให้เขารู้สึกเจ็บหน้าอกอยู่พักหนึ่ง

พอมาคิดดูแล้ว หากก่อนหน้านี้เขาใช้ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ ปะทะซึ่งๆ หน้า จะต้องเสียเปรียบมากแน่นอน

หลังจากเปลี่ยนมาใช้ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ แล้ว ร่างกายก็ถอยหลังสามก้าวต่อเนื่องกันอย่างควบคุมไม่อยู่ แต่ละก้าวห่างกันประมาณครึ่งจั้ง หลังจากผ่านไปสามก้าว ตัวเองก็อยู่ใกล้สังเวียนแล้ว!

แต่การถอยแล้วถอยอีกของเขาครั้งนี้ ช่วยลดพลังอันดุดันของอีกฝ่ายได้พอดี แต่กลับทนรับพลังฝ่ามืออันน่าสะพรึงกลัวของอีกฝ่ายไม่ได้

เมื่อยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงมองไปยังยอดฝีมือพรรคกระยาจกที่แต่งกายเรียบร้อยหมดจดอีกครั้ง ในดวงตาเขากลับฉายแววตกตะลึงอย่างที่ปิดบังได้ยาก!

อานุภาพฝ่ามือของเขาก่อนหน้านี้ แม้จะไม่ได้องอาจห้าวหาญเท่ากับฝ่ามือของชวีหลิงเฟิง แต่กลับต่างจากอวี๋ชางไห่เวอร์ชั่นอ่อนแอไม่มาก!

อวี๋ชางไห่คือใครกัน

ประมุขของชิงเฉิง เป็นเจ้าสำนักเชียวนะ!

ต่อให้เป็นเวอร์ชั่นถูกตัดความเป็นชายทิ้งเมื่ออยู่ในโหมดภารกิจ แต่นั่นก็คือการดำรงอยู่อันน่าหวาดกลัวสำหรับผู้เล่นในปัจจุบันที่ยังห่างชั้นจนตามไม่ทันอยู่ดี!

ศิษย์พรรคกระยาจกที่สงบเสงี่ยมคนหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจะแสดงศักยภาพออกมาได้น่าหวาดกลัวขนาดนี้ ความแข็งแกร่งของเขาไม่เป็นรองหนึ่งดาบสามเฉือนเลย!

ทว่าตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงตกใจ ในใจของเซียวเหยาถอนใจนั้นตกใจยิ่งกว่าเขาเสียอีก!

ต้องทราบไว้ว่าในการตั้งค่าของเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ เมื่อเปลี่ยนท่ากลางคันจะทำให้ประสิทธิภาพลดลงเยอะมาก!

และหากจะอธิบายให้ละเอียด ก็ยังเป็นเพราะการตั้งค่าตอนเปลี่ยนสกิลในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’

หลังจากผู้เล่นอัปสกิลรายการใดก็ตามจนถึงเลเวลห้า ก็จะอยู่ในระดับที่เรียกว่า ‘ควบคุมได้อย่างยืดหยุ่น’ เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ถึงจะทำได้อย่างเยี่ยเว่ยหมิงที่ตะลีตะลานเปลี่ยนจากกระบวนท่าหนึ่งไปสู่อีกกระบวนท่าหนึ่งได้

แน่นอน ถ้าอยากจะทำให้ได้เหมือนเขาก่อนหน้านี้ ก็ต้องสลับระหว่างสองวิทยายุทธ์ที่แตกต่างกันอย่างรวดเร็ว ทั้งยังต้องอัปเลเวลของ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ กับ เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ไม่ให้ต่ำกว่าเลเวลห้าทั้งคู่ด้วย

หากเพิ่มเคล็ดกระบี่ฉวนเจินให้ถึงเลเวลห้า ก็จะหยุดใช้กลางคันได้ทุกเมื่อ หากเพิ่มเคล็ดกระบี่มังกรร่อนล่อหงส์ให้ถึงเลเวลห้า ก็จะบังคับใช้งานมันได้เช่นกัน

ขณะที่บังคับใช้งานมัน เมื่อเปลี่ยนท่ากะทันหัน ประสิทธิภาพก็จะอ่อนแอลงเยอะมาก แต่หากสกิลที่บังคับใช้งานยิ่งมีเลเวลสูง การลดทอนประสิทธิภาพก็จะน้อยลงเรื่อยๆ เช่นกัน

แต่ต่อให้เพิ่มวิทยายุทธ์จนถึงเลเวลสิบซึ่งเป็นระดับสมบูรณ์แล้ว หลังจากเปลี่ยนกระบวนท่ากะทันหัน ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้กระบวนท่าได้มีประสิทธิภาพเหมือนตอนยังไม่เปลี่ยน

เหมือนกับที่เยี่ยเว่ยหมิงหยุดใช้ ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ กลางคันแล้วบังคับใช้เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ แทนก่อนหน้านี้ การแสดงประสิทธิภาพออกมาได้สามถึงสี่ส่วนจากตอนปกติก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

อย่างไรเสีย ตอนนี้เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ของเขาก็เพิ่งถึงเลเวลหกเท่านั้นเอง!

เซียวเหยาถอนใจย่อมไม่รู้ถึงเลเวลเคล็ดกระบี่ของเยี่ยเว่ยหมิงอย่างละเอียด แต่หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงเปลี่ยนท่ากะทันหัน แล้วยังรับฝ่ามือที่ใช้ออกมาเต็มพลังของเขาได้โดยไม่บาดเจ็บแม้แต่น้อย จากจุดนี้ก็มองออกแล้วว่าศักยภาพที่แท้จริงของเยี่ยเว่ยหมิงเหนือกว่าเขาแน่นอน ถึงขั้นสูงกว่าเขาเยอะด้วย!

อย่างไรเสีย เมื่ออยู่ในสถานการณ์อย่างเมื่อครู่นี้ เขากลับทำไม่ได้แม้กระทั่งโจมตีให้อีกฝ่ายอยู่ในสถานะถูกควบคุมและเสียค่าพลังชีวิต

ต้องทราบไว้ว่า เขาใช้สุดยอดวิชาอันเลื่องชื่อของยุทธภพอย่าง สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร (ขาดสิบจ็ดฝ่ามือ) เชียวนะ!

เห็นได้ชัดว่าเซียวเหยาถอนใจคนนี้เป็นตัวละครโหดและเด็ดขาด พอโจมตียังไม่สำเร็จ ก็รีบก้าวตามขึ้นมาทันที จากนั้นใช้มือขวาวาดเป็นวงแล้วถล่มพลังรูปมังกรออกมาหนึ่งฝ่ามือ

ยังเป็นส่วนผสมเดิม ยังเป็นรสชาติที่คุ้นเคย

หลังจากผ่านการวิเคราะห์ก่อนหน้านี้แล้ว เซียวเหยาถอนใจก็แทบจะตัดสินได้ว่าศักยภาพโดยรวมของเยี่ยเว่ยหมิงบดขยี้เขาได้แน่นอน หากเยี่ยเว่ยหมิงคุมสถานการณ์นี้ได้มั่นคงเมื่อไร เขาก็จะหมดหวังในชัยชนะแล้ว!

โอกาสเพียงอย่างเดียวของเขาก็คืออาศัยเคล็ดฝ่ามือที่เป็นสุดยอดวิชาอันเผด็จการนี้บีบเยี่ยเว่ยหมิงให้ลงสังเวียนในอึดใจเดียว พยายามใช้เคล็ดฝ่ามือต่อไปเรื่อยๆ โดยอาศัยความได้เปรียบของฝ่ามือที่โจมตีออกไปก่อนหน้านี้เป็นพื้นฐาน

อะไรนะ เจ้าบอกว่าโจมตีสังหารหรือ

อย่าพูดเหลวไหล!

ขนาดเมื่อครู่นี้ยังทำให้เยี่ยเว่ยหมิงเสียค่าพลังชีวิตไม่ได้ นับประสาอะไรกับตอนนี้

ทว่าเยี่ยเว่ยหมิงที่เตรียมใจเอาไว้ก่อนแล้ว มีหรือที่จะถูกควบคุมได้ง่ายขนาดนั้น หากเทียบกับก่อนหน้านี้ที่ไม่ทันตั้งตัว เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้สุขุมเยือกเย็นขึ้นเยอะมาก เขาส่งกระบี่อาญาสิทธิ์ในมือออกไปเบาๆ ใช้ความเร็วปกติรับมือกับฝ่ามือที่ทำให้คนหลบไม่พ้นของอีกฝ่าย จากนั้นก็ถือโอกาสก้าวไปด้านข้างสองก้าว ขจัดประสิทธิภาพของฝ่ามือนี้ให้หายไปโดยสิ้นเชิง

เมื่อเห็นสุดยอดกระบวนท่าอันน่าภูมิใจของตัวเองถูกเยี่ยเว่ยหมิงทำลายง่ายดายขนาดนี้ เซียวเหยาถอนใจก็แอบตระหนก เขาเคยคิดว่าหากโจมตีซ้ำด้วยกระบวนท่าเดิม ผลลัพธ์คงไม่ดีเท่าใช้ครั้งแรกแน่นอน แต่กลับนึกไม่ถึงว่าความแตกต่างระหว่างครั้งแรกกับครั้งที่สองจะแตกต่างกันมากขนาดนี้!

ฝ่ามือสุดแข็งแกร่งที่โจมตีจนเยี่ยเว่ยหมิงจนตรอกก่อนหน้านี้ ตอนนี้กลับถูกอีกฝ่ายกำจัดทิ้งได้อย่างง่ายดาย ถึงขั้นว่าไม่มีผลควบคุมเลยแม้แต่น้อย อีกฝ่ายควรจะถอยไปตรงไหนก็ถอยไปตรงนั้น แล้วยังอยากจะอาศัยฝ่ามือนี้บีบให้อีกฝ่ายลงสังเวียนอีกหรือ

เห็นได้ชัดว่าคิดมากเกินไปแล้ว!

แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เซียวเหยาถอนใจก็ไม่มีหนทางอื่นแล้วเช่นกัน ขณะมองเยี่ยเว่ยหมิงถอยออกไปอย่างไม่สะทกสะท้าน เขากลับทำได้เพียงก้าวขึ้นมาอีกก้าว แล้ววาดฝ่ามือเหมือนเดิมถล่มออกมาอีกครั้ง

แม้ในใจเยี่ยเว่ยหมิงจะสงสัยว่าทำไมเจ้าหมอนี่ถึงใช้แต่ท่านี้ แต่มือกลับใช้ท่าของเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ กำจัดพลังฝ่ามือของเขาอีกครั้ง จากนั้นกวาดมองหน้าสกิลขอตัวเองแวบหนึ่ง ทำให้ตาเป็นประกายทันที

เขาเพิ่งจะรับมือกับฝ่ามือของอีกฝ่ายไปสองครั้ง แต่ค่าประสบการณ์ของ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ดันเพิ่มพรวดขึ้นสองร้อยกว่าแต้มแล้ว!

เยี่ยเว่ยหมิงที่เหมือนได้ค้นพบโลกใหม่เผยรอยยิ้มตื่นเต้นบนใบหน้า แม้แต่สายตาที่มองเซียวเหยาถอนใจก็เปลี่ยนไปแล้ว

พี่ชายคนนี้อย่างเจ๋ง!

นี่มันคู่ต่อสู้อะไรกัน นี่เป็นสุดที่รัก EXP ชัดๆ!

หากต่อสู้กันไปอย่างนี้สามถึงห้านาที เคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ของเขาจะอัปเลเวลได้หรือเปล่า

พอนึกถึงตรงนี้ เยี่ยเว่ยหมิงแทนที่จะรีบฉวยโอกาสโต้ตอบ แต่กลับกวาดกระบี่อาญาสิทธิ์ออกมาในแนวขวางอย่างไม่รีบร้อน “น่าสนใจ ทำต่อไปสิ!”

ทว่าเซียวเหยาถอนใจได้ยินแล้วกลับใช้สองเท้าแตะพื้น พอลอยออกไปไกลประมาณหนึ่งจั้ง ก็กุมหมัดคารวะเยี่ยเว่ยหมิง “ไม่ต้องสู้แล้ว ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า ยอมแพ้จากใจจริง”

พอพูดจบ ก็ไม่รอให้เยี่ยเว่ยหมิงแสดงท่าที หันตัวกระโดดลงจากสังเวียนไปเลย กล่าวได้ว่าแพ้อย่างสง่างาม

แม่งเอ๊ย หลงดีใจไปฟรีๆ!

กลับมานั่งบนเก้าอี้ผู้ท้าชิงหมายเลขสองอีกครั้ง หนึ่งดาบสามเฉือนที่นั่งอยู่ข้างกันกลับถามด้วยน้ำเสียงที่เจือความรู้สึกขำขัน “เป็นอะไรไป รู้สึกว่าแรงกดดันจากสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรช่วยให้เจ้าฝึกทักษะยุทธ์ เลยคิดจะสู้ต่ออย่างนั้นหรือ”

“นั่นคือสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรหรือ” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้า “น่าเสียดายที่เจ้าหมอนั่นยอมแพ้ง่ายเกินไปแล้ว แม้แต่จะพยายามอีกสักหน่อยก็ไม่ยอม ไหนจะกระบวนท่าเดียวที่เขาใช้ซ้ำไปซ้ำมาอีก ใช้แค่นั้นก็พอแล้ว”

“เจ้าเข้าใจเขาผิดไปแล้วจริงๆ” หนึ่งดาบสามเฉือนกล่าวว่า “สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรเป็นสุดยอดวิชา จะเรียนรู้ได้ง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร เขาเรียนได้ฝ่ามือเดียวก็ถือว่าสุดยอดแล้ว เจ้าหวังจะให้เขาเรียนให้ครบสิบแปดฝ่ามือเชียวหรือ…

…ส่วนที่บอกว่าทำไมเขาไม่สู้กับเจ้าต่ออีกสักหน่อย ข้าคิดว่ากำลังภายในของเขาคงใกล้หมดแล้วกระมัง…

…ถึงอย่างไร เคล็ดฝ่ามือสุดโหดอย่างสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรก็สิ้นเปลืองกำลังภายในสุดๆ อยู่แล้ว การที่เขาโจมตีได้สามฝ่ามือต่อเนื่องกัน ก็ถือว่ามีกำลังภายในเยอะมากแล้ว เจ้าอย่าหวังมากไปหน่อยเลย”

หนึ่งดาบสามเฉือนยิ้มบางๆ แล้วกล่าวอย่างแน่ใจมากว่า “ขอเพียงกำลังภายในของเขาเพิ่มขึ้นอีกหน่อย หรือมีสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรท่าที่สองอีก เขาคงไม่ถึงขั้นอยู่อันดับรองที่โหล่หรอก”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วแบมือยักไหล่ “จะว่าไปก็ใช่”

ในตอนนี้เอง หนึ่งดาบสามเฉือนกลับเอ่ยถึงเรื่องเก่าอีกครั้ง “ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้เจ้าถามข้า ว่าทำไมอันดับในโหมดแรงค์ถึงเป็นตัวแสดงถึงศักยภาพที่แท้จริงของบรรดาผู้ท้าชิงไม่ได้…

…ตอนนี้ข้าเข้าใจประเด็นนี้แล้ว”

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นบอกว่า “ถึงอย่างไรการจัดโหมดแรงค์ก็มีปัญหาในตัวมันเองอยู่แล้ว ยอดฝีมือของสำนักที่ทำดาเมจได้สูง เมื่ออยู่ในการประลองแบบนี้ก็ได้ตักตวงผลประโยชน์ไปเยอะมาก ดังนั้นในบรรดาแปดคนนี้ถึงไม่มีสำนักที่ความรู้พื้นฐานด้านป้องกันสูงอย่างเส้าหลิน แม้แต่อู่ตังก็มีแค่เสวียนเสี่ยวปี่คนเดียว…

…นั่นก็เป็นเพราะว่า สำนักที่ทำดาเมจได้ช้าเสียเปรียบมากในกติกาการประลองแบบนี้”

ขณะที่พูด ผู้ท้าชิงอีกสองคนของกลุ่มสามก็ถูกส่งไปในสังเวียนแล้ว เมื่อเห็นเงาร่างอันอ่อนช้อยงดงามของสะพานสวรรค์น้อยกำลังยืนถือกระบี่ มุมปากเยี่ยเว่ยหมิงก็โค้งยิ้มอย่างภูมิใจ “สำหรับจุดนี้ อีกเดี๋ยวสะพานสวรรค์น้อยก็ใช้ร่างกายตัวเองพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้ว”

“แต่จะว่าไปแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายหรือปล่า ถ้าออกไปจากตรงนี้ไม่ได้ ข้าก็คิดว่าจะลองหาแถวๆ นี้ดูสักหน่อยว่าข้างล่างสังเวียนเปิดโต๊ะเดิมพันหรือเปล่า หากมีข้าคงหารายได้พิเศษได้สักก้อน!”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+