ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 108 แลกของรางวัล

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 108 แลกของรางวัล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 108 แลกของรางวัล

หลังจากยืนยันเจ้าของป้ายอาญาสิทธิ์แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็มีท่าทีอยากจะทดลองเล่น อยากจะลองใช้เสื่อม้วนศพมนุษย์กลทองแดงที่สภาพยับเยินขึ้นมา

[ได้รับตำราลับ ‘ตระหนักรู้วิชากลไก’ ×1!]

แบบนี้ก็ได้เหรอ

การเก็บเกี่ยวที่เหนือความคาดหมายนี้ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงตื่นเต้นมาก เขารีบดูค่าสเตตัสของตำราลับเล่มนี้

[ตระหนักรู้วิชากลไก: บันทึกความรู้และประสบการณ์ใช้งานวิชากลไก หลังจากใช้แล้วจะเพิ่มค่าประสบการณ์วิชากลไก 2000 แต้ม!]

เป็นอย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ ในเมื่อการประลองคัดเลือกนี้ตั้งกติกาโดยใช้วิธีการเลี้ยงแมลงพิษ เช่นนั้นก็แสดงว่าต้องมีคนแน่นอน ถึงขนาดว่าอาจจะมีคนไม่น้อยที่โดนดักซุ่มโจมตีอยู่ใกล้กับค่ายส่งตัว

โดยเฉพาะหากต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่รับมือยาก มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ แต่บนตัวพวกเขากลับไม่มีทรัพย์สินเลย เช่นนั้นไม่สู้เที่ยวหลอกเอาเงินคนอื่นไปทั่วดีกว่า เก็บเกี่ยวคะแนนสะสมมากๆ หน่อย จากนั้นนั่งรอให้ภารกิจดันเจี้ยนจบลง แล้วค่อยถูกบังคับส่งออกไป

แน่นอน สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงเลือกอย่างนี้ก็คือ…

หากภารกิจคัดเลือกยังไม่จบลง กงเหย่เฉียนก็จะไม่รับของไว้

ในเมื่อออกไปแล้วก็ได้แต่รออยู่เฉยๆ ไม่สู้ตามหาหมาป่าอยู่ในดันเจี้ยนต่อไปดีกว่า

แต่สิ่งทำให้พวกเยี่ยเว่ยหมิงคิดไม่ถึงก็คือ เดิมทีพวกเขาคิดว่ามีเพียงการฆ่าหมาป่าเท่านั้นที่ทำให้ได้คะแนนสะสม แต่ตอนนี้กลับได้เก็บเกี่ยวแบบถึงอกถึงใจเพราะการตัดสินใจอันชาญฉลาดนี้

ตอนทั้งสามเดินไปถึงทางออกที่เจอกันก่อนหน้านี้ กลับพบว่ามนุษย์กลทองแดงที่เคยถูกผู้เล่นหลายสิบคนล้อมโจมตีจะยังมีชีวิตอยู่!

พวกผู้เล่นตายไปหมดแล้ว แต่ BOSS ที่ไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าไรยังมีชีวิตอยู่!

“เอ่อ…” ขณะมองมนุษย์กลทองแดงเดินวนอยู่ที่เดิม ซานเย่ว์ก็อดอ้าปากกว้างไม่ได้ เธอถามอย่างตกใจถึงขีดสุดว่า “มนุษย์กลทองแดงนี่ อย่าบอกนะว่าหลังจากฆ่าแล้วยังรีเฟรชออกมาใหม่ได้อีก”

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าทันที “เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ในข้อมูลแนะนำภารกิจบอกว่ามนุษย์กลทองแดงมีเพียงสิบตัว ถ้ารีเฟรชออกมาใหม่มันก็คนละเรื่องกันน่ะสิ อีกทั้งการออกแบบประเภทนี้ เดิมทีก็ไม่สอดคล้องกับการประลองโหมดเลี้ยงแมลงพิษสนามนี้อยู่แล้ว”

หนิวจื้อชุนที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าวเสริมเช่นกัน “ที่จริงพลังต่อสู้ของมนุษย์กลทองแดงก็ไม่ได้สูงมาก ทีมสามคนที่พลังแข็งแกร่งขึ้นมาหน่อย ถ้าอยากจะจัดการมันก็มีปัญหาแค่เรื่องเวลาเท่านั้น แต่ประเด็นก็คือหมาป่าเยอะเนื้อน้อย ถ้าพวกผู้เล่นแย่งชิงกันขึ้นมา ก็ต้องทำทุกวิถีทางอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว”

“ดังนั้น” เยี่ยเว่ยหมิงพูดต่อว่า “ผู้เล่นพวกนั้นที่ไม่มีความเชื่อใจระหว่างกัน ก็มีทางเลือกเพียงสองทาง หนึ่งคือฆ่ามอนสเตอร์ก่อน เพียงแต่ข้อตกลงแบบนี้ ขอเพียงมีใครสักคนแอบเล่นไม่ซื่อขึ้นมา ข้อตกลงนี้ก็จะถูกทำลายทันที ทางเลือกที่สองก็คือเข้าไปอยู่อีกโหมดหนึ่ง นั่นก็คือเข้าไปทำศึกเลือดระหว่างผู้เล่นด้วยกันก่อน สู้ไม่หยุดจนกว่าจะเหลือแค่คนเดียว”

หนิวจื้อชุนพยักหน้า “แต่มนุษย์กลทองแดงแม้จะไม่ได้พลังแข็งแกร่งมาก แต่ก็ทำให้ผู้เล่นตายได้สักคนสองคนอย่างไม่มีปัญหา ดังนั้น มนุษย์กลทองแดงตัวนี้ต้องเป็นตัวเดียวกับก่อนหน้านี้ไม่ผิดแน่ ครั้งนี้ข้าแนะนำให้พวกเราแบ่งไอเทมแบบสุ่มแล้วกัน”

เขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะโชคร้ายขนาดนั้นทุกครั้ง

ที่จริงตอนนี้ต่อให้หนิวจื้อชุนจะขอป้ายอาญาสิทธิ์แผ่นนี้โดยตรง พวกเยี่ยเว่ยหมิงก็จะไม่คัดค้านเช่นกัน ถึงอย่างไรเขากับซานเย่ว์ก็ได้สิ่งนี้มาคนละแผ่นแล้ว ได้มากกว่านี้ก็อาจจะไม่มีประโยชน์

แต่สำหรับคำขอนี้ของหนิวจื้อชุน เยี่ยเว่ยหมิงกลับตอบว่า “ไม่มีปัญหา แต่ศพเป็นของข้าแล้วกัน”

“สหายเยี่ยยังเรียนรู้วิชากลไกมาด้วยใช่ไหม”

เยี่ยเว่ยหมิงให้คำตอบเขาเป็นรอยยิ้มบางๆ ที่มีลับลมคมใน มือซ้ายงอนิ้วคำนวณ เตรียมตัวพร้อมฆ่ามอนสเตอร์แล้ว

ก็อย่างที่ทั้งสองคุยกันไว้ก่อนหน้านี้ พลังต่อสู้ของมนุษย์กลทองแดงไม่ได้แข็งแกร่ง เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง ทั้งสามใช้เวลาเพียงสามนาทีกว่า ก็โจมตีจนมันกลายเป็นเศษเหล็ก จากนั้นถือโอกาสดรอปป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูหนึ่งแผ่น

เมื่ออยู่ในโหมดแบ่งไอเทมแบบสุ่ม ป้ายอาญาสิทธิ์ตกลงในกระเป๋าสัมภาระของหนิวจื้อชุนแล้ว เขาตื้นตันใจจนกระโดดโลดเต้น หัวเราะดีใจจนน้ำตาไหล เหมือนเด็กน้อยที่น้ำหนักสองร้อยชั่ง

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ได้ตำราลับ ‘ตระหนักรู้วิชากลไก’ หนึ่งเล่มตามความปรารถนา

ทุกคนล้วนดีใจ

ตอนนี้สมาชิกทั้งสามคนในทีมล้วนมีป้ายอาญาสิทธิ์คนละแผ่น พวกเขาเดินทางอยู่ในแผนที่ดันเจี้ยนเพื่อสังหารหมาป่า ในระหว่างนั้น ทุกครั้งที่เห็นมนุษย์กลทองแดงถูกโจมตีจนพัง เยี่ยเว่ยหมิงก็จะใช้ผ้าห่มม้วนมันเก็บไว้ ถือโอกาสรับตำราลับ ‘ตระหนักรู้วิชากลไก’

แต่ตอนที่เวลาภารกิจใกล้จะสิ้นสุด พวกเขากลับคาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับมนุษย์กลทองแดงที่ยังไม่ตายหนึ่งตัว

ดังนั้น ในกระเป๋าสะพายหลังของเยี่ยเว่ยหมิงจึงมีป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูเพิ่มขึ้นมาอีกแผ่น

ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่ารัศมีสิบลี้เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ ตอนที่เวลาภารกิจสิบชั่วโมงสิ้นสุดลง แล้วทั้งสามถูกระบบบังคับส่งกลับไปที่หมู่บ้านชื่อสยา เยี่ยเว่ยหมิงก็เก็บศพของมนุษย์กลทองแดงได้ทั้งหมดแปดร่าง และได้ตำราลับ ‘ตระหนักรู้วิชากลไก’ ทั้งหมดแปดเล่มเช่นเดียวกัน

ไม่อย่างนั้นจะบอกได้หรือว่าภารกิจขนาดใหญ่นั้นยอดเยี่ยมเสมอ

สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือ แผนที่นี้ใหญ่เกินไปแล้ว ใหญ่จนต่อให้ทั้งสามเร่งความเร็วก็ยังเดินทางไม่ทั่วอยู่ดี สุดท้ายก็หามนุษย์กลทองแดงที่ยังมีชีวิตอีกสองตัวไม่เจอ ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงแอบรู้สึกเสียดายนิดหน่อย

ตอนที่นาฬิกาจับเวลานับถอยหลังจนเหลือหลักวินาที พวกเยี่ยเว่ยหมิงก็ไปปรากฏตัวอยู่บนสังเวียนกลางสนามประลองยุทธ์ ที่ออกไปพร้อมพวกเขายังมีผู้เล่นอีกสิบกว่าคน เมื่อคนพวกนี้ปรากฏตัว ก็เริ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ ทันที บ้างก็มีสายตาป้องกัน บางก็มีสายตาละโมบ เห็นได้ชัดว่ามีความคิดแตกต่างกันไป

ในตอนนี้เอง เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นข้างหูของทุกคนแล้ว

[ติ๊ง! การประลองคัดเลือกเข้าตระกูลมู่หรงจบลงแล้ว เชิญผู้เล่นที่เข้าร่วมประลองนำคะแนนสะสมไปแลกของรางวัลกับอาปี้ที่ลานตะวันออก เชิญผู้เล่นที่ได้ป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูไปหากงเหย่เฉียนที่โถงหลักเพื่อแลกเป็นระเบียบการเข้าสำนัก หรือแลกรางวัลที่สอดคล้องกัน]

หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ เยี่ยเว่ยหมิงก็บอกผ่านช่องทีมทันที [พวกเราไปแลกรางวัลคะแนนสะสมก่อน แล้วค่อยไปหากงเหย่เฉียน”

เมื่อเห็นข้อความนี้ ซานเย่ว์ก็พยักหน้าโดยจิตใต้สำนัก ส่วนหนิวจื้อชุนก็ยิ้มให้อย่างเข้าใจ

ทั้งสามคนมุ่งตรงไปยังลานตะวันออก ยังไม่ทันเดินออกจากสนามประลองยุทธ์ ข้างหลังก็มีเสียงต่อสู้ดังมาแล้ว พอหันกลับไปมอง กลับเห็นผู้เล่นคนหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปยังโถงหลักถูกผู้เล่นสิบกว่าคนล้อมโจมตี ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นแสงสีขาวไปแล้ว

เพียงแต่หลังจากผู้เล่นคนนั้นถูกฆ่าตายและดรอปของ ก็ไม่ได้มีป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูตกลงมา

จนกระทั่งตอนนี้ ถึงได้มี NPC คนหนึ่งของหมู่บ้านชื่อสยาออกมาอธิบายว่าหลังจากดันเจี้ยนนี้จบลง ก็จะไม่มีการดรอปป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูเพราะผู้เล่นตายอีก ขณะเดียวกันก็ประกาศตัดสิทธิ์การแลกรางวัลของผู้เล่นสิบกว่าคนที่เข้ามาล้อมโจมตี

ตอนที่ NPC โบกมือ คะแนนสะสมบนตัวผู้เล่นสิบกว่าคนนั้นก็กลายเป็นศูนย์ ตามด้วยเสียงร้องโวยวายกับเสียงด่าทอที่ดังก้องทั้งเขตลานบ้าน

หลังจากนั้น ก็มีผู้เล่นลองโจมตี NPC น่ารังเกียจที่ถอดผลงานจากความพยายามของพวกเขา ผลปรากฏว่าถูก NPC ที่ชื่อเฟิงปัวเอ้อที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้โจมตีจนกลายเป็นแสงสีขาวไปหมด…

เมื่อฉากอันวุ่นวายจบลง ทั้งสามคนก็มาถึงลานตะวันออกแล้ว ไปหา NPC ที่ชื่ออาปี้

ส่วน NPC ที่ชื่ออาปี้นั่นก็บอกกับผู้เล่นทุกคนที่มาหาเขาว่า “ส่งกติกาการแลกรางวัลไปที่อินเตอร์เฟสระบบของทุกคนแล้ว ทุกคนแลกเอาเองตามความต้องการได้เลย”

แตะเปิดหน้าอินเตอร์เฟสระบบ แต่กลับเห็นว่าวิธีการแลกคะแนนสะสมมีสองแบบ

1. นำคะแนนสะสมไปแลกค่าตบะได้โดยตรง อัตราการแลกอยู่ที่ 1:1

2. นำคะแนนสะสมมาแลกอุปกรณ์หรือยาเม็ดและไอเทมต่างๆ ได้ ตระกูลมู่หรงมีไอเทมให้แลกไม่ต่ำกว่าร้อยชนิด การแลกไอเทมแต่ละชนิดมีเงื่อนไขต่างกัน แต่ระบบได้ลิสต์รายการแลกเปลี่ยนอย่างเอาใจใส่ไว้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อมองคะแนนสะสม 16360 แต้มของตัวเอง เยี่ยเว่ยหมิงก็ยกมุมปากยิ้มด้วยความตื่นเต้นอยากทดลอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 108 แลกของรางวัล

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 108 แลกของรางวัล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 108 แลกของรางวัล

หลังจากยืนยันเจ้าของป้ายอาญาสิทธิ์แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็มีท่าทีอยากจะทดลองเล่น อยากจะลองใช้เสื่อม้วนศพมนุษย์กลทองแดงที่สภาพยับเยินขึ้นมา

[ได้รับตำราลับ ‘ตระหนักรู้วิชากลไก’ ×1!]

แบบนี้ก็ได้เหรอ

การเก็บเกี่ยวที่เหนือความคาดหมายนี้ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงตื่นเต้นมาก เขารีบดูค่าสเตตัสของตำราลับเล่มนี้

[ตระหนักรู้วิชากลไก: บันทึกความรู้และประสบการณ์ใช้งานวิชากลไก หลังจากใช้แล้วจะเพิ่มค่าประสบการณ์วิชากลไก 2000 แต้ม!]

เป็นอย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ ในเมื่อการประลองคัดเลือกนี้ตั้งกติกาโดยใช้วิธีการเลี้ยงแมลงพิษ เช่นนั้นก็แสดงว่าต้องมีคนแน่นอน ถึงขนาดว่าอาจจะมีคนไม่น้อยที่โดนดักซุ่มโจมตีอยู่ใกล้กับค่ายส่งตัว

โดยเฉพาะหากต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่รับมือยาก มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ แต่บนตัวพวกเขากลับไม่มีทรัพย์สินเลย เช่นนั้นไม่สู้เที่ยวหลอกเอาเงินคนอื่นไปทั่วดีกว่า เก็บเกี่ยวคะแนนสะสมมากๆ หน่อย จากนั้นนั่งรอให้ภารกิจดันเจี้ยนจบลง แล้วค่อยถูกบังคับส่งออกไป

แน่นอน สาเหตุสำคัญที่สุดที่ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงเลือกอย่างนี้ก็คือ…

หากภารกิจคัดเลือกยังไม่จบลง กงเหย่เฉียนก็จะไม่รับของไว้

ในเมื่อออกไปแล้วก็ได้แต่รออยู่เฉยๆ ไม่สู้ตามหาหมาป่าอยู่ในดันเจี้ยนต่อไปดีกว่า

แต่สิ่งทำให้พวกเยี่ยเว่ยหมิงคิดไม่ถึงก็คือ เดิมทีพวกเขาคิดว่ามีเพียงการฆ่าหมาป่าเท่านั้นที่ทำให้ได้คะแนนสะสม แต่ตอนนี้กลับได้เก็บเกี่ยวแบบถึงอกถึงใจเพราะการตัดสินใจอันชาญฉลาดนี้

ตอนทั้งสามเดินไปถึงทางออกที่เจอกันก่อนหน้านี้ กลับพบว่ามนุษย์กลทองแดงที่เคยถูกผู้เล่นหลายสิบคนล้อมโจมตีจะยังมีชีวิตอยู่!

พวกผู้เล่นตายไปหมดแล้ว แต่ BOSS ที่ไม่ได้แข็งแกร่งสักเท่าไรยังมีชีวิตอยู่!

“เอ่อ…” ขณะมองมนุษย์กลทองแดงเดินวนอยู่ที่เดิม ซานเย่ว์ก็อดอ้าปากกว้างไม่ได้ เธอถามอย่างตกใจถึงขีดสุดว่า “มนุษย์กลทองแดงนี่ อย่าบอกนะว่าหลังจากฆ่าแล้วยังรีเฟรชออกมาใหม่ได้อีก”

เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าทันที “เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ในข้อมูลแนะนำภารกิจบอกว่ามนุษย์กลทองแดงมีเพียงสิบตัว ถ้ารีเฟรชออกมาใหม่มันก็คนละเรื่องกันน่ะสิ อีกทั้งการออกแบบประเภทนี้ เดิมทีก็ไม่สอดคล้องกับการประลองโหมดเลี้ยงแมลงพิษสนามนี้อยู่แล้ว”

หนิวจื้อชุนที่อยู่ข้างๆ ก็กล่าวเสริมเช่นกัน “ที่จริงพลังต่อสู้ของมนุษย์กลทองแดงก็ไม่ได้สูงมาก ทีมสามคนที่พลังแข็งแกร่งขึ้นมาหน่อย ถ้าอยากจะจัดการมันก็มีปัญหาแค่เรื่องเวลาเท่านั้น แต่ประเด็นก็คือหมาป่าเยอะเนื้อน้อย ถ้าพวกผู้เล่นแย่งชิงกันขึ้นมา ก็ต้องทำทุกวิถีทางอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว”

“ดังนั้น” เยี่ยเว่ยหมิงพูดต่อว่า “ผู้เล่นพวกนั้นที่ไม่มีความเชื่อใจระหว่างกัน ก็มีทางเลือกเพียงสองทาง หนึ่งคือฆ่ามอนสเตอร์ก่อน เพียงแต่ข้อตกลงแบบนี้ ขอเพียงมีใครสักคนแอบเล่นไม่ซื่อขึ้นมา ข้อตกลงนี้ก็จะถูกทำลายทันที ทางเลือกที่สองก็คือเข้าไปอยู่อีกโหมดหนึ่ง นั่นก็คือเข้าไปทำศึกเลือดระหว่างผู้เล่นด้วยกันก่อน สู้ไม่หยุดจนกว่าจะเหลือแค่คนเดียว”

หนิวจื้อชุนพยักหน้า “แต่มนุษย์กลทองแดงแม้จะไม่ได้พลังแข็งแกร่งมาก แต่ก็ทำให้ผู้เล่นตายได้สักคนสองคนอย่างไม่มีปัญหา ดังนั้น มนุษย์กลทองแดงตัวนี้ต้องเป็นตัวเดียวกับก่อนหน้านี้ไม่ผิดแน่ ครั้งนี้ข้าแนะนำให้พวกเราแบ่งไอเทมแบบสุ่มแล้วกัน”

เขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะโชคร้ายขนาดนั้นทุกครั้ง

ที่จริงตอนนี้ต่อให้หนิวจื้อชุนจะขอป้ายอาญาสิทธิ์แผ่นนี้โดยตรง พวกเยี่ยเว่ยหมิงก็จะไม่คัดค้านเช่นกัน ถึงอย่างไรเขากับซานเย่ว์ก็ได้สิ่งนี้มาคนละแผ่นแล้ว ได้มากกว่านี้ก็อาจจะไม่มีประโยชน์

แต่สำหรับคำขอนี้ของหนิวจื้อชุน เยี่ยเว่ยหมิงกลับตอบว่า “ไม่มีปัญหา แต่ศพเป็นของข้าแล้วกัน”

“สหายเยี่ยยังเรียนรู้วิชากลไกมาด้วยใช่ไหม”

เยี่ยเว่ยหมิงให้คำตอบเขาเป็นรอยยิ้มบางๆ ที่มีลับลมคมใน มือซ้ายงอนิ้วคำนวณ เตรียมตัวพร้อมฆ่ามอนสเตอร์แล้ว

ก็อย่างที่ทั้งสองคุยกันไว้ก่อนหน้านี้ พลังต่อสู้ของมนุษย์กลทองแดงไม่ได้แข็งแกร่ง เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง ทั้งสามใช้เวลาเพียงสามนาทีกว่า ก็โจมตีจนมันกลายเป็นเศษเหล็ก จากนั้นถือโอกาสดรอปป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูหนึ่งแผ่น

เมื่ออยู่ในโหมดแบ่งไอเทมแบบสุ่ม ป้ายอาญาสิทธิ์ตกลงในกระเป๋าสัมภาระของหนิวจื้อชุนแล้ว เขาตื้นตันใจจนกระโดดโลดเต้น หัวเราะดีใจจนน้ำตาไหล เหมือนเด็กน้อยที่น้ำหนักสองร้อยชั่ง

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็ได้ตำราลับ ‘ตระหนักรู้วิชากลไก’ หนึ่งเล่มตามความปรารถนา

ทุกคนล้วนดีใจ

ตอนนี้สมาชิกทั้งสามคนในทีมล้วนมีป้ายอาญาสิทธิ์คนละแผ่น พวกเขาเดินทางอยู่ในแผนที่ดันเจี้ยนเพื่อสังหารหมาป่า ในระหว่างนั้น ทุกครั้งที่เห็นมนุษย์กลทองแดงถูกโจมตีจนพัง เยี่ยเว่ยหมิงก็จะใช้ผ้าห่มม้วนมันเก็บไว้ ถือโอกาสรับตำราลับ ‘ตระหนักรู้วิชากลไก’

แต่ตอนที่เวลาภารกิจใกล้จะสิ้นสุด พวกเขากลับคาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับมนุษย์กลทองแดงที่ยังไม่ตายหนึ่งตัว

ดังนั้น ในกระเป๋าสะพายหลังของเยี่ยเว่ยหมิงจึงมีป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูเพิ่มขึ้นมาอีกแผ่น

ความจริงได้พิสูจน์แล้วว่ารัศมีสิบลี้เป็นพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างใหญ่ ตอนที่เวลาภารกิจสิบชั่วโมงสิ้นสุดลง แล้วทั้งสามถูกระบบบังคับส่งกลับไปที่หมู่บ้านชื่อสยา เยี่ยเว่ยหมิงก็เก็บศพของมนุษย์กลทองแดงได้ทั้งหมดแปดร่าง และได้ตำราลับ ‘ตระหนักรู้วิชากลไก’ ทั้งหมดแปดเล่มเช่นเดียวกัน

ไม่อย่างนั้นจะบอกได้หรือว่าภารกิจขนาดใหญ่นั้นยอดเยี่ยมเสมอ

สิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือ แผนที่นี้ใหญ่เกินไปแล้ว ใหญ่จนต่อให้ทั้งสามเร่งความเร็วก็ยังเดินทางไม่ทั่วอยู่ดี สุดท้ายก็หามนุษย์กลทองแดงที่ยังมีชีวิตอีกสองตัวไม่เจอ ทำให้เยี่ยเว่ยหมิงแอบรู้สึกเสียดายนิดหน่อย

ตอนที่นาฬิกาจับเวลานับถอยหลังจนเหลือหลักวินาที พวกเยี่ยเว่ยหมิงก็ไปปรากฏตัวอยู่บนสังเวียนกลางสนามประลองยุทธ์ ที่ออกไปพร้อมพวกเขายังมีผู้เล่นอีกสิบกว่าคน เมื่อคนพวกนี้ปรากฏตัว ก็เริ่มกวาดสายตามองไปรอบๆ ทันที บ้างก็มีสายตาป้องกัน บางก็มีสายตาละโมบ เห็นได้ชัดว่ามีความคิดแตกต่างกันไป

ในตอนนี้เอง เสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้นข้างหูของทุกคนแล้ว

[ติ๊ง! การประลองคัดเลือกเข้าตระกูลมู่หรงจบลงแล้ว เชิญผู้เล่นที่เข้าร่วมประลองนำคะแนนสะสมไปแลกของรางวัลกับอาปี้ที่ลานตะวันออก เชิญผู้เล่นที่ได้ป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูไปหากงเหย่เฉียนที่โถงหลักเพื่อแลกเป็นระเบียบการเข้าสำนัก หรือแลกรางวัลที่สอดคล้องกัน]

หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ เยี่ยเว่ยหมิงก็บอกผ่านช่องทีมทันที [พวกเราไปแลกรางวัลคะแนนสะสมก่อน แล้วค่อยไปหากงเหย่เฉียน”

เมื่อเห็นข้อความนี้ ซานเย่ว์ก็พยักหน้าโดยจิตใต้สำนัก ส่วนหนิวจื้อชุนก็ยิ้มให้อย่างเข้าใจ

ทั้งสามคนมุ่งตรงไปยังลานตะวันออก ยังไม่ทันเดินออกจากสนามประลองยุทธ์ ข้างหลังก็มีเสียงต่อสู้ดังมาแล้ว พอหันกลับไปมอง กลับเห็นผู้เล่นคนหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าไปยังโถงหลักถูกผู้เล่นสิบกว่าคนล้อมโจมตี ชั่วพริบตาเดียวก็กลายเป็นแสงสีขาวไปแล้ว

เพียงแต่หลังจากผู้เล่นคนนั้นถูกฆ่าตายและดรอปของ ก็ไม่ได้มีป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูตกลงมา

จนกระทั่งตอนนี้ ถึงได้มี NPC คนหนึ่งของหมู่บ้านชื่อสยาออกมาอธิบายว่าหลังจากดันเจี้ยนนี้จบลง ก็จะไม่มีการดรอปป้ายอาญาสิทธิ์เข้าประตูเพราะผู้เล่นตายอีก ขณะเดียวกันก็ประกาศตัดสิทธิ์การแลกรางวัลของผู้เล่นสิบกว่าคนที่เข้ามาล้อมโจมตี

ตอนที่ NPC โบกมือ คะแนนสะสมบนตัวผู้เล่นสิบกว่าคนนั้นก็กลายเป็นศูนย์ ตามด้วยเสียงร้องโวยวายกับเสียงด่าทอที่ดังก้องทั้งเขตลานบ้าน

หลังจากนั้น ก็มีผู้เล่นลองโจมตี NPC น่ารังเกียจที่ถอดผลงานจากความพยายามของพวกเขา ผลปรากฏว่าถูก NPC ที่ชื่อเฟิงปัวเอ้อที่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้โจมตีจนกลายเป็นแสงสีขาวไปหมด…

เมื่อฉากอันวุ่นวายจบลง ทั้งสามคนก็มาถึงลานตะวันออกแล้ว ไปหา NPC ที่ชื่ออาปี้

ส่วน NPC ที่ชื่ออาปี้นั่นก็บอกกับผู้เล่นทุกคนที่มาหาเขาว่า “ส่งกติกาการแลกรางวัลไปที่อินเตอร์เฟสระบบของทุกคนแล้ว ทุกคนแลกเอาเองตามความต้องการได้เลย”

แตะเปิดหน้าอินเตอร์เฟสระบบ แต่กลับเห็นว่าวิธีการแลกคะแนนสะสมมีสองแบบ

1. นำคะแนนสะสมไปแลกค่าตบะได้โดยตรง อัตราการแลกอยู่ที่ 1:1

2. นำคะแนนสะสมมาแลกอุปกรณ์หรือยาเม็ดและไอเทมต่างๆ ได้ ตระกูลมู่หรงมีไอเทมให้แลกไม่ต่ำกว่าร้อยชนิด การแลกไอเทมแต่ละชนิดมีเงื่อนไขต่างกัน แต่ระบบได้ลิสต์รายการแลกเปลี่ยนอย่างเอาใจใส่ไว้เรียบร้อยแล้ว

เมื่อมองคะแนนสะสม 16360 แต้มของตัวเอง เยี่ยเว่ยหมิงก็ยกมุมปากยิ้มด้วยความตื่นเต้นอยากทดลอง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+