ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 517 แยกกันทำภารกิจ

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 517 แยกกันทำภารกิจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 517 แยกกันทำภารกิจ

วิเคราะห์ตามหลักการปกติ ไม่ว่าจะเป็นสำนักภูเขาหิมะ หรือจอมกระบี่ขาวดำ หลังจากยืนยันข่าวแล้วว่าว่าอาจ่งถูกติงปู้ซานพาตัวไปแล้ว สิ่งแรกที่คิดได้ก็คือต้องไปตามหาที่อยู่ของอีกฝ่ายแน่นอน

แม้อีกฝ่ายพาตัวคนไปแล้วอาจจะไม่ได้กลับบ้านก็ตาม แต่เมื่อยังไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ ทางเลือกนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุดแน่นอน

ถ้าพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว ก็อาจจะเกิดสถานการณ์นั่งหัวเราะเยาะประมาณว่า ‘ใช้งานยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนัก ใช้ทรัพยากรในยุทธภพที่มากที่สุด ใช้เวลาตามหาอยู่ในยุทธภพอย่างลำบากลำบนสิบปีเต็มๆ ทำเอารู้กันทั้งใต้หล้า จนสุดท้ายตอนที่เจอคน กลับพบว่าอีกฝ่ายอยู่ที่บ้าน

ดังนั้นติงปู้ซานอาจจะไม่ได้กลับบ้าน แต่กำลังพลสองฝ่ายนั้นจะต้องไปหาดูสักเที่ยว

จุดประสงค์ที่เยี่ยเว่ยหมิงติดต่อหลี่วั่นจี ก็เพราะต้องการจ่ายเงินจำนวนหนึ่งแลกกับที่อยู่โดยละเอียดของติงปู้ซาน

จุดที่ไม่ได้เอ่ยถึงในต้นฉบับเดิมแบบนี้ หาเบาะแสที่เกี่ยวข้องจากกลยุทธ์ไม่เจอแน่นอน แต่ก็ไม่ใช่ความลับอะไรเช่นกัน ไปสุ่มถาม NPC ที่มีหน้ามีตาในยุทธภพสักคน ก็รู้แล้วว่าบ้านของสกุลติงจากลิ่วเหออยู่ที่ไหน เยอะกว่าคนที่รู้จักเกาะควันม่วงแน่นอน

ทว่าหลังจากส่งข้อความออกไป เขากลับได้รับคำตอบจากระบบว่า

[ติ๊ง! อีกฝ่ายปฏิเสธคำขอเป็นเพื่อนจากทุกคน]

หลังจากเห็นแจ้งเตือนระบบ เยี่ยเว่ยหมิงก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ทำไมก่อนหน้านี้มองไม่ออกนะ

เจ้าหมอนั่นสูงส่งเย็นชาขนาดนั้นเชียวหรือ

ในเมื่อทางนี้เดินไม่สะดวก เยี่ยเว่ยหมิงก็ทำได้เพียงทิ้งผลประโยชน์ที่อยู่ใกล้และเลือกผลประโยชน์ที่อยู่ไกล ค้นหารายชื่อของขุนเขาลำธารย่อมพานพบจากรายชื่อเพื่อน จากนั้นก็ส่งพิราบสื่อสารออกไปหนึ่งฉบับ

[ขุนเขาลำธาร ตอนนี้ข้าต้องการรู้ที่อยู่ของบ้านสกุลติงแห่งลิ่วเหอ…

อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่รู้ ข้ามั่นใจว่าลูกศิษย์ส่วนใหญ่ของสำนักภูเขาหิมะเคยไปแล้ว หรือไม่ก็กำลังอยู่ระหว่างทางไปพอดี เจ้าช่วยติดต่อให้ข้าหน่อย ข้ายินดีจ่ายหนึ่งร้อยเหรียญทองเพื่อซื้อตำแหน่งที่ตั้งนี้]…เยี่ยเว่ยหมิง

[เจ้ากำลังพูดถึงกลุ่มคนในภารกิจเนื้อเรื่องที่ตามไป๋วั่นเจี้ยนไปใช่ไหม…

…ไม่มีปัญหา เรื่องนี้ข้าจัดการเอง!…

…สหายเยี่ยแค่รอข่าวจากข้าก็พอ]…ขุนเขาลำธารย่อมพานพบ

คำตอบของขุนเขาลำธารตรงไปตรงมามาก ถึงขั้นกล่าวได้ว่าจะเหมาเรื่องทั้งหมดไว้ที่ตัวเองคนเดียว

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มบางๆ เจ้าหมอนี่มีคุณธรรมน้ำมิตรเหมือนกัน

หลังจากนั้นพักหนึ่ง พิราบสื่อสารของขุนเขาลำธารย่อมพานพบก็โผล่มาอีกครั้ง มาพร้อมตำแหน่งที่ตั้งโดยละเอียดของบ้านติงปู้ซาน

จากนั้นเยี่ยเว่ยหมิงก็ส่งเงินให้หนึ่งร้อยเหรียญทอง ผลปรากฏว่าอีกฝ่ายปฏิเสธที่จะรับไว้ ตอนที่เงินถูกปฏิเสธและส่งกลับมา ขุนเขาลำธารก็ส่งข้อความมาบอกต่อว่า

[ในทีมของไป๋วั่นเจี้ยน ครึ่งหนึ่งเป็นพี่น้องของข้า ข้าจึงถามที่อยู่พวกเขา เป็นเรื่องที่เอ่ยปากแค่คำเดียวก็ได้คำตอบแล้ว…

…สหายเยี่ยทำเช่นนี้ แสดงว่าไม่มองข้าเป็นสหายแล้วหรือ?]…ขุนเขาลำธารย่อมพานพบ

เยี่ยเว่ยหมิงอ่านแล้วอดส่ายหน้าไม่ได้ จากนั้นก็ส่งข้อความอีกครั้ง

[ขนาดพี่น้องแท้ๆ ยังคิดบัญชีกันชัดเจน ถึงอย่างไรก็ขอให้เจ้าช่วย เจ้าก็ต้องใช้หน้าตาของตัวเองเหมือนกันไม่ใช่หรือ]…เยี่ยเว่ยหมิง

[สหายเยี่ยคิดมากไปแล้ว สหายพวกนั้นยังไม่พูดอะไรเลย ปกติข้าก็ดูแลพวกเขาไม่ขาด นี่เป็นเรื่องที่เอ่ยปากคำเดียวก็จัดการได้จริงๆ…

…ถ้าสหายเยี่ยรู้สึกเกรงใจจริงๆ ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้าว่างหรือเปล่า ช่วยข้าทำภารกิจสักอย่างสิ…

…แน่นอนว่าข้าแบ่งปันภารกิจนี้กับเจ้าได้โดยตรง หลังจากทำสำเร็จแล้วทุกคนจะได้ผลตอบแทน]…ขุนเขาลำธารย่อมพานพบ

ที่แท้นี้เจ้าหมอนี่มีน้ำใจก็เพื่อสิ่งนี้นี่เอง

ทว่าในแผนการที่เยี่ยเว่ยหมิงพุ่งเป้าไปที่ติงตัง เขาเองก็ต้องออกแรงเช่นกัน

ถ้าตอนนี้ไปช่วยพวกขุนเขาลำธารทำภารกิจ ก็ต้องรีบทำเวลาหน่อย

แต่ในเมื่ออีกฝ่ายช่วยเหลือเขาแล้ว เขาก็ย่อมปฏิเสธคำขอของอีกฝ่ายไม่ได้ จึงทำได้เพียงตอบกลับว่า

[ถ้าภารกิจทางฝั่งเจ้าไม่ได้ใช้เวลามากเกินไป ข้าก็ช่วยเจ้าทำศึกโจมตีป้อมได้ แต่ถ้าเป็นภารกิจที่ต้องใช้เวลาหลายวันถึงจะทำครบตามขั้นตอน น้ำใจนี้ของเจ้า ข้าคงต้องติดไว้ก่อนแล้ว]…เยี่ยเว่ยหมิง

[ไม่ใช้เวลาเยอะมากหรอก!…

…ภารกิจของข้าจะเริ่มประมาณเที่ยงคืน อย่างมากก็ไม่เกินหนึ่งวัน…

…ตอนนี้พวกเรานั่งเรืออยู่บนแม่น้ำ ถ้าเจ้าเช่าเรือได้ ทางที่ดีก็รีบมารวมตัวกับพวกเรา มาเบิกค่าเรือที่ข้าได้…

…ข้าจะส่งตำแหน่งที่พวกเราอยู่กับเส้นทางเดินเรือไปให้เจ้า ส่วนท่าเรือกับเส้นทางที่จะไปดัก เจ้าเลือกเอาเองแล้วกัน]…ขุนเขาลำธารย่อมพานพบ

เมื่อโต้ตอบจดหมายกันเสร็จ เยี่ยเว่ยหมิงก็หันมาพูดกับสามสาวทันที “ยืนยันตำแหน่งที่ตั้งของบ้านติงปู้ซานได้แล้ว ข้าจะส่งรายละเอียดให้พวกเจ้า”

เขาเงียบไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวเสริมอีกว่า “แต่เพื่อให้ได้ข่าวนี้ ข้ารับปากขุนเขาลำธารแล้วว่าจะช่วยเขาทำภารกิจ จึงไปช่วยพวกเจ้าทำภารกิจไม่ได้แล้ว…

…เช่นนั้นต่อไปพวกเราก็แบ่งกำลังเป็นสามสาย”

ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็มองไปยังสะพานสวรรค์น้อยกับมั่วหรานแล้วพูดก่อนว่า “ภารกิจของพวกเจ้าง่ายมาก แค่ต้องเฝ้าตอไม้รอกระต่าย[1]ก็พอแล้ว ไปเฝ้าอยู่ที่บ้านของสกุลติงแห่งลิ่วเหอ รอให้ร่างแท้ของติงตังปรากฏตัวแล้วลงมือทันที กำจัดปัญหาที่จะตามมาในอนาคต!”

เขาชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวเสริมว่า “จากการวิเคราะห์ของข้า ร่างแท้ของติงตังนั่นเลเวลประมาณห้าสิบถึงเจ็ดสิบ ถ้าพวกเจ้าสองคนระวังตัวสักหน่อย การกำจัดนางก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา”

พอลองคิดดูอีกนิด เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังรู้สึกไม่ค่อยวางใจ จึงบอกสะพานสวรรค์น้อยอีกว่า “สะพานสวรรค์น้อย ที่ข้ามีกระบี่สองเล่มให้เจ้านำไปใช้ก่อน ถ้ามีพวกมันอยู่ในมือ ก็น่าจะเพิ่มโอกาสชนะได้บ้าง”

ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็นำกระบี่คมล้ำค่าอย่างกระบี่ชิงชัยกับกระบี่แสงทองยื่นให้สะพานสวรรค์น้อยโดยตรง

ด้วยนิสัยอย่างสะพานสวรรค์น้อย ถ้าเยี่ยเว่ยหมิงมอบกระบี่ให้โดยตรง นางจะต้องไม่รับไว้แน่นอน แต่ยืมใช้ชั่วคราวได้ไม่เป็นไร

หลังจากรับกระบี่สองเล่มมาแล้ว สะพานสวรรค์น้อยก็พยักหน้าให้เยี่ยเว่ยหมิงด้วยสีหน้าจริงจัง “ขอบใจนะ พี่ใหญ่เยี่ย มีกระบี่ล้ำค่าสองเล่มนี้แล้ว ข้ารับรองว่าทำภารกิจสำเร็จแน่นอน!”

“เจ้าอย่าเพิ่งรีบรับประกัน” เยี่ยเว่ยหมิงหลุดขำ “ตอนนี้ข้ายังไม่แน่ใจเลยว่าร่างแท้ของติงตังจะปรากฏตัวอยู่ที่บ้านเกิดหรือเปล่า เรื่องนี้ข้ามั่นใจแค่แปดส่วนเท่านั้น ยังมีความเป็นไปได้อีกสองส่วนว่าพวกเจ้าจะไปเสียเที่ยว”

มั่วหรานหัวเราะอยู่ข้างๆ “โอกาสแปดส่วนก็ไม่น้อยแล้ว คนทั่วไปทำได้ถึงขั้นนี้เสียที่ไหนกัน”

เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มบางๆ นับว่ายอมรับคำชมจากอีกฝ่ายแล้ว จากนั้นหันมาพูดกับน้องดาบอีก “ทางฝั่งข้ามีธุระกะทันหัน ภารกิจวิ่งเต้นนี้มีแต่ต้องรบกวนเจ้าต่อแล้ว…

…ตามที่บอกไว้ในกลยุทธ์ อาจ่งต้องปรากฎตัวที่เกาะควันม่วงแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางของสองจอมยุทธ์สกุลติง หรือกำลังพลสำนักภูเขาหิมะที่ตามมาข้างหลัง การหาเกาะควันม่วงให้เจอก็คือกุญแจสำคัญ…

…รอจนเจ้าหาเจอแล้ว ก็อย่าลืมส่งตำแหน่งมาให้ข้า หลังจากข้าช่วยขุนเขาลำธารทำภารกิจเสร็จ จะรีบเปลี่ยนพาหนะตามไปหาเจ้าทันที”

“จะให้ข้าวิ่งเต้นให้ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้” น้องดาบได้ยินแล้วขยิบตา “แต่ผลตอบแทนของภารกิจนี้เป็นของพวกเราสองคน เจ้าจะให้ข้าไปทำงานให้เปล่าๆ ไม่ได้หรอกใช่ไหม”

เยี่ยเว่ยหมิงใช้มือนวดจมูก “กับเซี่ยเยียนเค่อก่อนหน้านี้ ข้าก็สู้คนเดียวนะ”

“ข้าไม่สน” ครั้งนี้น้องดาบไม่สนวิธีการแล้ว ชี้เนื้อย่างที่เหลืออยู่ข้างกองไฟพวกนั้นพร้อมบอกว่า “ถ้าเจ้าจะให้ข้าวิ่งเต้นให้ ตอนที่ห่อเนื้อย่างพวกนี้ ต้องแบ่งให้ข้าครึ่งหนึ่ง!”

ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงถึงได้เข้าใจ ที่แท้สาเหตุที่วันนี้น้องดาบคิดเล็กคิดน้อยผิดปกติ ก็เป็นเพราะอยากกินเนื้อย่างของเขานี่เอง!

สำหรับของที่ใช้เวลาแค่นิดหน่อย อยากจะทำมากเท่าไรก็ได้แบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่ตระหนี่อยู่แล้ว ตอบรับเงื่อนไขของอีกฝ่ายอย่างใจกว้างทันที จากนั้นก็ให้สะพานสวรรค์น้อยกับมั่วหรานแบ่งส่วนที่เหลือทั้งหมดด้วย

กระทั่งหลังจากสามสาวต่างคนต่างแยกย้าย เยี่ยเว่ยหมิงกลับไม่รีบไปรวมตัวกับขุนเขาลำธารย่อมพานพบ แต่นำ ‘แก่นสารวิชากระบี่’ ที่ได้จากภารกิจก่อนหน้านี้ออกมาแทน

ว่ากันว่าการลับมีดมิได้เป็นอุปสรรคต่องานตัดไม้ เยี่ยเว่ยหมิงตัดสินใจว่าก่อนที่พบกับขุนเขาลำธารย่อมพานพบ จะเจียดเวลาสักเล็กน้อยเพื่อจัดเรียงผลตอบแทนก่อนหน้านี้ พยายามเพิ่มความสามารถเท่าที่จะเป็นไปได้ต่างหากคือหนทางที่ถูกต้อง

ยังไม่ต้องพูดถึงภารกิจของขุนเขาลำธารย่อมพานพบว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์อย่างไร แค่ภารกิจภาคต่อในแผนการของเขาอย่างเดียว ก็อาจจะต้องเจอกับศึกเดือดมากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว!

ก่อนจะถึงตอนนั้น ถ้าเพิ่มความสามารถได้หนึ่งส่วน ก็จะมีความมั่นใจขึ้นอีกหนึ่งส่วน

[1] เฝ้าตอไม้รอกระต่าย 守株待兔 อุปมาว่ารอผลลัพธ์โดยไม่ลงแรง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด