ตอนที่ 358 อานุภาพสะท้านฟ้า!

เพียงแค่ชั่วพบหน้ากัน เยี่ยเว่ยหมิงก็ตีฝ่าท่ากระบี่ของวานรแขนยักษ์ตัวนี้ได้แล้ว เพียงกระบี่เดียวก็ถูกจุดสำคัญตรงหว่างคิ้วของมัน ทั้งยังสร้างดาเมจน่ากลัวสูงถึงสามหมื่น!

กระบี่เก้าสะท้านฟ้าเป็นเคล็ดกระบี่ระดับสุดยอดวิชา ความยอดเยี่ยมของกระบวนท่า ความแข็งแกร่งของประสิทธิภาพ ดูจากจุดเดียวก็รู้ถึงภาพรวมแล้ว!

อิงตามบันทึกตำราลับ ตอนแรกที่พวกเยี่ยเว่ยหมิงส่ง ‘ตำรากระบี่พิชิตมาร’ ขึ้นไป สำนักมือปราบเทพก็ไม่ได้คืนให้กับหลินผิงจือทันที ก่อนหน้านั้นหวงโส่วจุนกับโหยวจิ้นเคยเห็นท่ากระบี่ที่บันทึกไว้ในตำราลับแล้ว

สำหรับยอดฝีมือทั่วไป ถึงขั้นว่าแม้แต่ในสายตาของโหยวจิ้น ท่ากระบี่ที่บันทึกอยู่ใน ‘ตำรากระบี่พิชิตมาร’ ล้วนเป็นกระบวนท่าแมวสามขาไร้น้ำยาที่ไม่เข้าขั้นในยุทธภพ มีเพียงการฝึกร่วมกับวิชาพิเศษที่อยู่ในนั้น จึงจะแสดงประสิทธิภาพอันน่ากลัวเหมือนภูตผีปีศาจออกมาได้

นี่ก็คือสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมคนรุ่นหลังของตระกูลหลินแม้จะเรียนรู้กระบวนท่าบนตำราลับแล้ว แต่ก็ยังเกือบถูกอวี๋ชางไห่คนเดียวฆ่าล้างตระกูล

บางที ตั้งแต่ตอนที่หลินผิงจือเฉือนความเป็นชายทิ้งแล้วฝึกกระบี่ อวี๋ชางไห่อาจทำสำเร็จไปแล้วก็ได้

แต่นี่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ที่สำคัญคือพวกโหยวจิ้นมองไม่ออกถึงจุดที่ยอดเยี่ยมในกระบวนท่าเหล่านี้ แต่หวงโส่วจุนกลับมองออก

เขาเพียงอ่านบันทึกตำราลับ เรียนรู้ท่ากระบี่ที่หลินผิงจือใช้ ก็เข้าใจถึงความยอดเยี่ยมที่อยู่ในนั้นแล้ว เพียงแต่ส่วนที่ยอดเยี่ยมมากมายในนั้นล้วนเกี่ยวข้องกับเงื่อนไขการฝึกอันโหดร้ายอย่าง ‘เฉือนความเป็นชายทิ้ง’ แม้คนนอกจะรับรู้ถึงจุดนี้ แต่ถ้าใจไม่เด็ดพอก็ไร้ประโยชน์

ทว่า หลังจากได้ ‘หนังสือจารึกของตู๋กู’ ที่เยี่ยเว่ยหมิงนำมาจากตู๋กูฉิวไป้ กลับทำให้หวงโส่วจุนเกิดแรงบันดาลใจในฉับพลัน เปรียบเทียบส่วนที่ยอดเยี่ยมมากมายใน ‘ตำรากระบี่พิชิตมาร’ กับเนื้อหาของจารึก แล้วค่อยใช้ความเข้าใจที่ตัวเองมีต่อเคล็ดกระบี่เพื่อปรับให้ได้สัดส่วนที่พอดีกัน สุดท้ายก็สร้างท่ากระบี่ล้ำเลิศที่กลับกลอก รวดเร็วและเปลี่ยนแปลงหลากหลายรวมอยู่ในท่าเดียว…ท่าปลุกปั่นกระบี่

ท่าปลุกปั่นกระบี่นี้แม้จะบอกว่าเป็นกระบวนท่าหนึ่ง แต่ความจริงกลับแฝงการเปลี่ยนแปลงไว้สามสิบหกแบบ จะเรียกว่าเป็นเคล็ดกระบี่ที่มีความร้ายกาจในตัวเองก็ไม่ถือว่ากล่าวเกินไป

นอกจากนี้ มันยังเป็นเพียงหนึ่งในกระบวนท่าของ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ เท่านั้น!

เมื่อถูกกระบวนท่านี้โจมตีซ้ำ วานรแขนยักษ์ก็เจ็บปวดจนร้องออกมา แต่แทนที่จะถอยกลับรุก โบกฟันไม้ไผ่หักในมือไม่หยุด ท่าทางดูเหมือน ‘กวาดล้างพันทัพ’ ในวิชาดาบ หรือวิชากระบองอะไรสักอย่างปนกัน แต่พอลงมือแล้วกลับเป็นท่ากระบี่ต่อเนื่องสามท่า กระบวนท่าเชื่อมโยงกัน ตอนออกท่าทางก็เชื่อมต่อกับหลายกระบวนท่าใน ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ได้พอดี กล่าวได้ว่าเป็นกระบวนท่าไร้ช่องโหว่

เนื่องจากเป็นกระบวนท่าที่มีอยู่ใน ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ระดับกลางเท่านั้น ดังนั้นเยี่ยเว่ยหมิงจึงไม่รู้ชื่อของมันโดยละเอียดเช่นกัน เพียงแต่ตอนที่ประมือกับวานรแขนยักษ์ครั้งก่อน เขาเคยเสียเปรียบเพราะท่านี้มาแล้ว จึงมีภาพฝังลึกอยู่ในความทรงจำ

เมื่อเห็นวานรแขนยักษ์ใช้ท่านี้อีกครั้งในระยะใกล้ ในใจเขาก็เข้าใจทันที เขาพลันเอนกายไปข้างหลัง ใช้ท่าทางหลบหลีกที่คล้ายกับ ‘สะพานเหล็กจินกัง’ ท่านี้แม้ดูเหมือน ‘สะพานเหล็กจินกัง’ ที่เห็นบ่อยในยุทธภพ แต่ความจริงกลับมีจุดที่ไม่เหมือนกัน

‘สะพานเหล็กจินกัง’ ที่ถ่ายทอดในยุทธภพล้วนเป็นเคล็ดวิชาที่วิวัฒนาการจากท่าม้า เป็นวิชาที่พิถีพิถันเรื่องพื้นฐานกังฟูที่สุด ต้องทำให้ได้ถึงขั้นที่ใช้หัวเข่ากลายเป็นแกนกลาง ทั้งร่างเอนไปข้างหลังเก้าสิบองศา ตัวขนานกับพื้นโดยไม่ล้ม ถึงจะนับว่าได้มาตรฐาน

การกระทำที่ฝ่าฝืนความรู้วิชากลศาสตร์แบบนี้ ล้วนอาศัยแรงเอวและสองเท้าเพื่อยึดเกาะพื้น

ขณะที่ร่างของเยี่ยเว่ยหมิงเอนล้มไปข้างหลัง สองเท้าและแรงเอวกลับผ่อนคลาย แต่ใช้อาวุธวิเศษกระบี่ชิงชัยในมือแทงลงไปที่พื้นข้างหลังในแนวเฉียง

ด้วยระดับความคมของกระบี่ชิงชัยและแรงของเยี่ยเว่ยหมิง เมื่ออยู่ในสถานการณ์ทั่วไป หากคิดจะแทงลงพื้นให้สุดด้ามก็ไม่ยากเลย แต่วินาทีถัดมาหลังจากปลายกระบี่แทงลงพื้น เขากลับเปลี่ยนจากแทงเป็นกดทันที กดจนตัวกระบี่โค้งงอ ขณะเดียวกันสองเท้าก็ลอยขึ้นจากพื้น อาศัยเพียงตัวกระบี่ที่โค้งงอรับน้ำหนักตัว เนื่องจากกระบวนท่านี้มีความเปลี่ยนแปลงที่ฝืนหลักการทั่วไปของวิทยายุทธ์ เขาจึงหลบหลีกกระบี่ที่สองของวานรแขนยักษ์ที่กวาดแนบพื้นเข้ามาได้อย่างชาญฉลาด

จากนั้น กระบี่ที่สามของวานรแขนยักษ์ก็กวาดตามออกมาติดๆ ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็อาศัยแรงสะท้อนกลับที่เกิดจากความเหนียวทนของกระบี่ชิงชัยดีดร่างลอยขึ้นมาจนหลบกระบี่ที่สามของวานรแขนยักษ์ได้ ขณะเดียวกันก็กวาดกระบี่ชิงชัยออกมาในองศาที่แทบจะเป็นไปไม่ได้ ปาดผ่านลำคอของวานรแขนยักษ์แล้ว

-37251!

กระบี่เก้าสะท้านฟ้า…ท่ากระเพื่อมกระบี่!

ทำคริติคอลดาเมจแบบระเบิดอีกครั้ง!

วานรแขนยักษ์ที่ถูกโจมตีรุนแรงซ้ำกำลังคิดหาโอกาสโต้ตอบ แต่กลับคาดไม่ถึงว่าหลังจากเยี่ยเว่ยหมิงโจมตีไปครั้งหนึ่งแล้ว ความเร็วบนตัวอีกฝ่ายก็ไม่ลดลงเลยสักนิด ไม่น่าเชื่อว่าอาศัยเพียงแรงส่งตอนกดกระบี่ล้ำค่ากับพื้นก่อนหน้านี้ ก็ทำให้ร่างลอยขึ้นจากพื้นได้เกือบสองจั้ง!

ท่ากระเพื่อมกระบี่ไม่ได้ขึ้นอยู่บนตัวกระบี่ แต่เป็นท่าร่างมหัศจรรย์ที่ใช้กระบี่แทนเท้า

ใช้ท่าร่างชี้นำท่ากระบี่ นี่ต่างหากคือแก่นแท้ของกระบี่นี้!

อิงตามที่บันทึกไว้ในตำราลับของหวงโส่วจุน ส่วนที่ยอดเยี่ยมของท่าใน ‘จารึกของตู๋กู’ มีเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ในทักษะยุทธ์ของหวงโส่วจุนเองกลับมีถึงสามส่วน อีกหกส่วนที่เหลือล้วนมาจากท่าร่างวิชาตัวเบาที่เยี่ยเว่ยหมิงเรียนรู้มา

ยิ่งเป็นท่าร่างระดับสูง ประสิทธิภาพก็ยิ่งแข็งแกร่ง!

อีกทั้งท่าร่างก็เป็นหนึ่งในรายการค่าสเตตัสที่มีค่าสูงสุดของเยี่ยเว่ยหมิงในตอนนี้ เมื่ออยู่ภายใต้การโจมตีนี้ ถึงได้ระเบิดดาเมจเกือบสี่หมื่นแต้มออกมา!

หลังจากโจมตีครั้งเดียวสำเร็จ เยี่ยเว่ยหมิงที่ลอยอยู่กลางอากาศกลับใช้แรงเอวพลิกตัวหนึ่งที เปลี่ยนเป็นท่าขาชี้ฟ้าและศีรษะลงพื้นแล้ว ขณะกำลังมองวานรแขนยักษ์ที่แยกเขี้ยวยิงฟันอยู่ข้างล่าง เขาก็พูดกลั้วหัวเราะว่า “ลิงบ้า เจ้าเคยได้ยินเคล็ดกระบี่ที่ตกลงมาจากฟ้าหรือเปล่า”

ขณะที่พูด ก็สาดซัดกำลังภายในใส่ตัวกระบี่ชิงชัยในมือ เมื่อกระบี่ล้ำค่าถูกกระตุ้นจากกำลังภายใน ก็เกิดเสียงกระบี่อันไพเราะทันที ขณะเดียวกันบนตัวกระบี่ก็มีปราณกระบี่กระเพื่อมขึ้นมาหนึ่งชั้น เมื่อร่างของเยี่ยเว่ยหมิงกำลังตกลงพื้น ก็ทั้งแทงทั้งฟันไปทางวานรแขนยักษ์ที่อยู่ข้างล่าง โจมตีต่อเนื่องห้ากระบี่ ตรงจุดที่คมกระบี่ชี้ไป ไม่น่าเชื่อว่าจะปิดตายทางถอยทั้งหมดของวานรแขนยักษ์แล้ว!

สองกระบี่ก่อนหน้านี้แตกต่างกัน แต่กระบี่ที่สาม เจ็ดส่วนมาจากความเข้าใจด้านวิทยายุทธ์ของของหวงโส่วจุนเอง สามส่วนมาจากแก่นสารของ ‘หนังสือจารึกของตู๋กู’ เมื่อเทียบสองกระบี่ก่อนหน้านี้ที่กลับกลอกและสวยวิจิตร กระบี่นี้กลับขึ้นอยู่กับกำลังภายในของตัวเองเป็นหลัก

อาศัยขั้นตอนระหว่างที่ร่างกำลังตกลงมาเพิ่มประสิทธิภาพของกระบี่นี้ ก็เหมือนคนคนหนึ่งยืนอยู่บนยอดเขา เมื่อทุ่มวัตถุแข็งชิ้นเล็กใดๆ ลงมา ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมดีกว่าการที่เจ้ายกของทุ่มใส่คนที่อยู่ตรงข้าม แรงเยอะกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า!

อาศัยข้างบนโจมตีข้างล่าง!

อาศัยความแข็งแกร่งโจมตีความอ่อนแอ!

อาศัยอำนาจข่มเหงคน!

ใช้กำลังที่เหนือกว่าโดยสมบูรณ์โค่นศัตรูแบบซึ่งๆ หน้า!

ภายใต้ลมกระบี่ที่ปลุกปั่น แม้แต่กิ่งไม้ใบหญ้าที่อยู่รอบๆ ก็ยังถูกพัดจนบิดเบี้ยวส่งเสียงซ่าๆ แค่คิดก็รู้แล้วว่าตอนนี้วานรแขนยักษ์ที่เป็นหนังหน้าไฟได้รับแรงกดดันขนาดไหน

ใช้เคล็ดกระบี่ที่ขึ้นชื่อว่าว่องไวแผ่วเบาได้อย่างดุดันก้าวร้าวขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลย นี่คือกระบวนท่าที่มีพลังทำลายล้างแข็งแกร่งที่สุดใน ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’…

ท่ากระบี่ร่วง!