ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 529 ท่านติงซาน ควรเดินทางสู่ปรโลกได้แล้ว

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 529 ท่านติงซาน ควรเดินทางสู่ปรโลกได้แล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 529 ท่านติงซาน ควรเดินทางสู่ปรโลกได้แล้ว

BOSS เลเวลเก้าสิบเหมือนกัน ‘คุณภาพ’ ของติงปู๋ซื่อคนนี้ต้องดีกว่าพระทิเบตไร้นามที่ดรอป ‘กระบี่จงชง’ ตอนนั้นแน่นอน แต่เนื่องจากรางวัลถูกแบ่งไปให้ห้าคนในทีม ทำให้ดูน้อยลงเยอะมาก

แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ ก็ยังถือว่าเป็นผลตอบแทนจำนวนมากสำหรับคนในทีมเล็กอยู่ดี

อย่างไรเสีย การแบ่งรางวัลก็ไม่ได้หมายความว่าจะแบ่งรางวัลที่ติงปู๋ซื่อควรจะมีอยู่แล้วเป็นห้าส่วน แต่นั่นเป็นผลที่ได้จากการทำงานอันซับซ้อนของระบบ

ทีมห้าคนร่วมกันโจมตี BOSS คนเดียว รางวัลค่าประสบการณ์และค่าตบะที่ได้ต้องน้อยกว่าการสู้แบบตัวต่อตัวแน่นอน แต่ยอดรวมผลตอบแทนของทั้งห้าคนกลับสูงกว่าผลตอบแทนของคนเดียวเกินหนึ่งเท่า

ผลตอบแทนที่แต่ละคนได้รับ เท่ากับเจ็ดแปดส่วนตอนฆ่า BOSS แบบตัวต่อตัว

ศัตรูสามคนตายไปสองคนแล้ว เหลือติงปู้ซานคนเดียวยังจะหนีพ้นอีกหรือ

“ช้าก่อน!” เมื่อเห็นเยี่ยเว่ยหมิงกับน้องดาบที่อยู่บนพื้นกำลังลับอาวุธและโหยวโหยวที่ขี่อินทรีขาวบนวนอยู่เหนือศีรษะพวกเขา ติงปู้ซานที่รู้ตัวว่าสิ้นหวังแล้วจึงรีบบอกให้หยุด “ตอนนี้ตัดสินแพ้ชนะเรียบร้อยแล้ว อาตังกับเหล่าซื่อตายแล้วก็ฟื้นชีพได้อยู่ดี พวกเราไม่สู้หยุดตรงนี้ดีกว่าไหม ไม่มีความแค้นใดที่แก้ไม่ได้เสียหน่อย”

ถึงแม้จะเป็นมารเฒ่าอย่างปู้ซานปู๋ซื่อ แต่ยามเผชิญภัยคุกคามจากความตาย สุดท้ายก็ต้องร้องขอชีวิตอยู่ดี!

“หึ! คำพูดพวกนี้ ทำไมเจ้าไม่ไปพูดกับคนที่เคยถูกเจ้า ‘สังหารวันละไม่เกินสามคน’ ล่ะ” เยี่ยเว่ยหมิงแสยะยิ้ม จากนั้นโบกมือ “จัดการเขา”

จากนั้น ติงปู้ซานก็จมหายไปในเสียงมังกรคำราม ลมดาบ ปราณกระบี่ เงากรงเล็บและเสียงปืน

แต่ครั้งนี้ไม่มีเสียงแจ้งเตือนและเสียงประกาศจากระบบเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะพวกเยี่ยเว่ยหมิงแค่สกัดจุดทั้งหมดของติงปู้ซานไว้หลังจากโจมตีให้พิการ ไม่ได้ทำให้เขาตายทันที

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ปล่อยพิราบสื่อสารออกมาตัวหนึ่ง จากนั้นก็มองน้องดาบกับโหยวโหยวที่กระตือรือร้นอยากลอง เรื่องคลำศพใครจะเป็นคนทำ

โหยวโหยวยักไหล่ “ข้าอย่างไรก็ได้…”

“เจ้าทำแล้วกัน” ครั้งนี้น้องดาบกลับถ่อมตัวมาก “ข้าสนใจศัตรูที่เลเวลสูงสุดอย่างติงปู้ซานมากกว่า เจ้ามือปราบหน้าเหม็น ครั้งนี้ยกประโยชน์ให้เจ้าแล้ว ให้เขาไปคลำศพของสาวสวยอายุน้อยติงตังเถอะไป”

“ข้ารู้สึกชัดเจนว่าเจ้ากำลังว่าข้าอยู่นะ” แม้ปากจะพูดแบบนี้ แต่เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังก้าวขึ้นมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง แล้วเตะศพที่อยู่บนหลังคา จากนั้นไอเทมดรอปก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าทั้งสามคน

[วิชามือคว้าจับสกุลติง (ระดับกลาง): วิทยายุทธ์ที่ถ่ายทอดมาจากlกุลติงลิ่วเหอ วิชาคว้าจับต่อสู้ระยะใกล้อันยอดเยี่ยม]

เงื่อนไขการฝึก:

พละกำลัง: 100

ความว่องไว: 80

ค่าตระหนักรู้: 20

……

[ชุดลี่ว์หลัวกระดิ่งเงิน (อาวุธล้ำค่า): ชุดผ้ามุ้งสีเขียวมรกตที่ติดกระดิ่งสีเงินไว้เยอะมาก ตอนเคลื่อนไหวกระดิ่งจะส่งเสียงติงติงตังตังดึงดูดสายตาคนมาก]

ป้องกัน +500

ท่าร่าง +200

กำลังภายใน +20%

เลเวลทักษะอาวุธฉีเหมิน +1 (จำกัดเฉพาะผู้หญิง)

……

[ห่วงเงินติงตัง (ทองคำ): อาวุธประจำกายของหลานสาวเพียงคนเดียวของสกุลลิ่วเหอ]

โจมตี +400

ป้องกัน +100

กำลังภายใน +20%

[กระดิ่งเงินคลื่นมรกต (ทองคำ): ต่างหูคู่หนึ่งที่ทำขึ้นอย่างประณีต ใส่แล้วจะทำให้สดใสสะดุดตา]

พลังชีวิตสูงสุด +500

กำลังภายในสูงสุด +500

ค่าสเน่ห์ +1 (จำกัดเฉพาะผู้หญิง)

เงิน: 430 เหรียญทอง!

……

ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงคลำศพเสร็จแล้ว โหยวโหยวก็เตะศพติงปู๋ซื่อเช่นกัน สิ่งที่ได้ก็คือ

[วิชาแส้มังกรทอง (ระดับกลาง): วิชาอาวุธฉีเหมินที่มีน้อยในยุทธภพ แนวทางแตกต่างกับวิธีใช้อาวุธที่ถ่ายทอดอย่างแพร่หลายในยุทธภพ]

เงื่อนไขการฝึก:

พละกำลัง: 60

ความว่องไว: 100

ค่าตระหนักรู้: 25

……

[วิชามือคว้าจับสกุลติง (ระดับกลาง): …]

……

[รองเท้าลิ่วเหอ (อาวุธล้ำค่า) รองเท้าฟางที่ทำด้วยวิธีการลับของสกุลติงลิ่วเหอ มีผลบำรุงความแข็งแกร่ง]

ความแข็งแกร่ง +100

พละกำลัง +100

ท่าร่าง +200

พลังชีวิตสูงสุด +1000

……

[ชุดลิ่วเหอ (อาวุธล้ำค่า): ชุดที่งที่ทำด้วยวิธีการลับของสกุลติงลิ่วเหอ มีผลบำรุงความแข็งแกร่งให้ร่างกาย]

ความแข็งแกร่ง +300

พละกำลัง +100

กำลังภายในสูงสุด +1500

เงิน: 2330 เหรียญทอง!

……

ของที่เยี่ยเว่ยหมิงคลำได้ต้องไม่เยอะเท่าโหยวโหยวแน่นอน นี่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องความโชคดีหรือโชคร้าย อย่างไรเสียเลเวลของ BOSS ก็ห่างกันหมื่นแปดพันลี้อยู่แล้ว อัตราการดรอปไอเทมย่อมเทียบกันไม่ได้

มองอุปกรณ์ของทั้งสองแวบหนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงลังเลเล็กน้อยก่อนจะถามว่า “สำหรับเรื่องการแบ่งไอเทมครั้งนี้…”

“เรื่องนี้ยังไม่ต้องรีบ” น้องดาบขัดจังหวะเขา “ยังเหลือติงปู้ซานอีกคนที่ยังไม่ได้ฆ่า พวกเราหาที่ปลอดภัยซ่อนเขาไว้ก่อนเถอะ รอให้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่อยคุยเรื่องแบ่งของกันก็ยังไม่สาย”

เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่าที่นางพูดมีเหตุผลมากเช่นกัน

ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยังนับผลตอบแทนไม่หมด ต่อให้ร่างแผนการแบ่งของอะไรขึ้นมาก็อาจจะไม่สมเหตุสมผล ดีไม่ดีหลังจากฆ่าติงปู้ซานตายแล้ว อาจจะต้องร่างแผนการแบ่งทั้งหมดใหม่ก็ได้

หากเทียบกับการทำอย่างนั้น ไม่สู้รอให้จัดการเรื่องทุกอย่างหมดก่อน แล้วค่อยเรียกขุนเขาลำธารกับเซียนสาวน้อยนักกินออกมา เพื่อให้ทุกคนปรึกษาปัญหาเรื่องการแบ่งของด้วยกัน

ดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงจึงนำโลงไม้หนานมู่กับโลงไม้หวงฮว่าออกมาอย่างละใบ แบ่งใส่ศพติงปู๋ซื่อกับติงตัง ส่วนน้องดาบก็หิ้วติงปู้ซานที่เหลือลมหายใจอยู่เฮือกสุดท้ายขึ้นมา จากนั้นทั้งสามก็ไปยังทิศทางที่แตกต่างจากอาจ่งโดยสิ้นเชิง เข้าไปในป่าทึบแล้ว

ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ กลุ่มของเยี่ยเว่ยหมิง น้องดาบและโหยวโหยวแทบจะกลายเป็นกลุ่มที่ไร้คู่ต่อสู้บนเกาะควันม่วง

คนเดียวที่จะห้ามไม่ให้เขาฆ่าติงปู้ซานได้ ก็เหลือแค่อาจ่งคนเดียวแล้ว

ดังนั้น เรื่องเร่งด่วนของเขาตอนนี้ ก็คือซ่อนตัวติงปู้ซานที่กึ่งเป็นกึ่งตายเอาไว้ ไปหาจุดที่อาจ่งจะตามหาไม่พบ แล้วค่อยหาโอกาสเหมาะฆ่าเขาให้ตาย

ส่วนสาเหตุว่าทำไมพวกเขาไม่ฆ่าติงปู้ซานเพื่อดรอปอุปกรณ์เสียตอนนี้เลย ทำไมต้องพกภัยพิบัติแฝงนี้ไว้ข้างกาย?

นั่นก็ย่อมเป็นเพราะ…

[ประกาศระบบ: ผู้เล่นสะพานสวรรค์คริสตัล สำนักสุสานโบราณ ผู้เล่นมั่วหราน สำนักสุสานโบราณ สังหารติงตัง BOSS เลเวล 66 สำเร็จ]

[เนื่องจากติงตังเป็น BOSS โหมดปกติ หลังจากสังหารครั้งนี้จะไม่รีเฟรชอีก]

[ตั้งแต่นี้ไป ในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ จะไม่มีคนที่ชื่อติงตังอีก!]

[ผู้เล่นสองคนที่เข้ารวมการโจมตีสังหารจะได้รับรางวัลสังหารสิ้นซาก…]

[ประกาศระบบ: …]

……

ในป่าทึบที่ลับตาคนมากบนเกาะควันม่วง พอได้ยินเสียงประกาศที่ไพเราะ ในที่สุดบนใบหน้าเยี่ยเว่ยหมิงก็เผยรอยยิ้มที่พึงพอใจออกมาแล้ว

หลังจากรออีกประมาณสามนาที เห็นพิราบขาวตัวหนึ่งมาเกาะบนตัวเขา

หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงแน่ใจเนื้อหาที่อยู่ข้างในแล้ว ถึงได้หันไปมองติงปู้ซานที่เผยแววตาดุร้ายนอนอยู่บนพื้น พร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ท่านติงปู้ซาน ตอนนี้ได้จัดการเรื่องที่ควรจัดการหมดแล้ว ผู้น้อยจะส่งท่านออกเดินทางไปยังปรโลกแล้ว ท่านจะได้ไม่ทรมานมาก ไม่ต้องขอบคุณข้านะ นี่คือสิ่งที่ผู้น้อยพึงกระทำ”

ระหว่างที่พูด ก็มีเสียงมังกรคำรามดังแว่วมาจากฝ่ามือแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด