ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 72 กระบี่คู่ผนึกรวม

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 72 กระบี่คู่ผนึกรวม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 72 กระบี่คู่ผนึกรวม

“อธิบายไม่ทันแล้ว ใช้เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน! จันทราสุกสกาว!” ตอนที่เห็นอวี๋ชางไห่โจมตีเข้ามาแล้ว สะพานสวรรค์น้อยก็ร้อนใจจนกล่าวประโยคที่ไร้ตรรกะออกมา ก่อนจะแทงกระบี่ออกไปรับการโจมตีจากอวี๋ชางไห่ทันที

แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะไม่รู้ว่านางหนูคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ ก็ทำได้เพียงรักษาม้าตายดุจม้าเป็น[1]แล้ว

เมื่อสิ้นเสียงของสะพานสวรรค์น้อย กระบี่ชิงจู๋ในมือก็พลันแทงออกไปข้างหน้า ไม่สนใจกระบี่ยาวที่อวี๋ชางไห่แทงมาหาเขา เพียงใช้ท่ากระบี่ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้วนเวียนอยู่ตรงคอหอยของอีกฝ่าย

หากตอนนี้เป็นการสู้แบบตัวต่อตัว อวี๋ชางไห่ก็คงไม่สนใจการแลกดาเมจของเยี่ยเว่ยหมิงหรอก การโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงร้ายกาจ โจมตีคริติคอลดุดัน คนที่มีแถบพลังชีวิตยาวอย่างเขาพบได้น้อยมากในหมู่ผู้เล่นปัจจุบัน แต่ก็ต้องแยกด้วยว่าเทียบกับใคร!

หากเป็นผู้เล่นสองคนที่เลเวลใกล้เคียงกัน เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่กลัวที่จะนำดาเมจไปแลกดาเมจอยู่แล้ว

แต่การใช้วิธีการนี้โจมตี BOSS ก็ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย

ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่เลเวลของ BOSS เพิ่มถึงสิบเลเวล ก็ล้วนมีความต่างด้านคุณสมบัติอยู่แล้ว หลินจื้อเพ่ยที่เลเวลสามสิบห้าแม้จะเก่งมาก แต่เมื่อเทียบกับอวี๋ชางไห่ที่อยู่ตรงหน้านี้ ก็ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่อยู่คนละระดับกันเลย!

ถึงขั้นว่าต่อให้เป็นระหว่างเลเวลสามสิบเก้ากับเลเวลสี่สิบ ก็เป็นสองคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเช่นกัน!

เมื่อ BOSS เลเวลสี่สิบโจมตีสุดกำลัง ต่อให้โจมตีครั้งเดียวแล้วปลิดชีพเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ แต่ก็ใกล้เคียงแน่นอน การโจมตีครั้งนี้ของเยี่ยเว่ยหมิง เกรงว่าสำหรับอวี๋ชางไห่แล้ว คงไม่ใช่ภัยคุกคามที่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก

ยังดีที่เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้กำลังสู้อยู่คนเดียว ข้างกายเขายังมีสะพานสวรรค์น้อยอยู่อีกคน กระบี่ของนางกับเยี่ยเว่ยหมิงแทบจะลงมือพร้อมกัน แต่กลับอุดช่องโหว่ทั้งหมดในกระบวนท่าของเยี่ยเว่ยหมิงได้พอดี

ถ้าอวี๋ชางไห่ไม่เปลี่ยนกระบวนท่า ผลลัพธ์สุดท้ายเขาก็มีแต่ต้องอาศัยพลังภายในอันแข็งแกร่งของตัวเองทำให้สะพานสวรรค์น้อยสะเทือนถอยไปอีกครั้ง ส่วนกระบี่ชิงจู๋ของเยี่ยเว่ยหมิงก็แทงที่คอหรือไม่ก็บนหว่างคิ้วของเขาอย่างรุนแรงแน่นอน

ส่วนจะแทงไปโดนตรงไหน เกรงว่าคงต้องดูตามอารมณ์ของเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว!

เจ้าเด็กโง่สองคนนี้ ทำไมจู่ๆ ร่วมมือกันแล้วโหดขนาดนี้ล่ะ?

ชั่วพริบตานั้น อวี๋ชางไห่อาศัยสัญชาตญาณของผู้ฝึกยุทธ์เลือกสิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดให้กับตัวเองแล้ว

เขาเก็บกระบี่กลับมากะทันหัน เปลี่ยนจากโจมตีเป็นป้องกัน ขณะที่กำลังเหวี่ยงการโจมตีของทั้งสองคนออกไป เขาก็รีบถอยหลังไปไกลสามจั้ง หลุดออกนอกขอบเขตการโจมตีของทั้งสองคนแล้ว

อวี๋ชางไห่คนนี้ไม่เพียงแค่โจมตีได้ครอบคลุม แม้แต่วิชาตัวเบากับท่าร่างก็ปราดเปรียวมากเช่นกัน เรียกว่าเก่งจนหาตัวจับยากได้เลย!

ยังดีที่ในที่สุดก็เจอวิธีการต่อกรกับสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ไม่อย่างนั้นวันนี้ทีมสำนักมือปราบเทพจะต้องแพ้ย่อยยับให้กับการโจมตีของเจ้าหมอนี่แน่นอน แม้จนป่านนี้แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงจะยังไม่เข้าใจถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมในกระบี่ของเขาก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ตัวเองก็ยังแอบโล่งอกอยู่ดี

ขณะนี้เอง เสียงแจ้งเตือนของระบบที่ดังขึ้นอย่างล่าช้าก็ได้คลายความสงสัยในใจเขาแล้ว

[ติ๊ง! คุณกับผู้เล่นสะพานสวรรค์คริสตัลร่วมมือกันอย่างมีใจสื่อถึงกัน คปลดล็อกเอฟเฟ็กต์พิเศษบางส่วนของ ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยกใจพิสุทธิ์’ สำเร็จ เข้าสู่สถานะพิเศษ: กระบี่คู่ผนึกรวม (ไม่ใช่ฉบับดั้งเดิม)!]

[กระบี่คู่ผนึกรวม (ไม่ใช่ฉบับดั้งเดิม): กระบี่คู่ผนึกรวม เดิมทีเป็นขอบเขตระดับสูงของเคล็ดกระบี่สำนักสุสานโบราณ เป็นการผนึกพลังระหว่าง ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ กับ ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยก’ ใช้ท่าไม้ตายชื่อเดียวกันของเคล็ดกระบี่สองชุดนี้ สามารถสร้างเอฟเฟ็กต์อันน่าทึ่งได้

หมายเหตุ:

1. ตอนใช้กระบี่คู่ผนึกรวม สองฝ่ายที่ร่วมมือกันจะต้องละทิ้งจิตใจของตัวเอง ปกป้องคู่หูต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

2. สองฝ่ายที่ผนึกรวมยิ่งใกล้ชิดกันมากเท่าไร เอฟเฟ็กต์ของการผนึกรวมก็จะยิ่งดีเท่านั้น หากเป็นคู่รัก หรือสามีภรรยากัน ประสิทธิภาพก็จะสูงขึ้นอีกขั้น

3. สองฝ่ายที่ผนึกรวมยิ่งมีพลังใกล้เคียงกันเท่าไร ประสิทธิภาพของกระบี่คู่ผนึกรวมก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีพลังเหนือกว่าอีกฝ่ายเยอะเกินไป กลับจะส่งผลกระทบต่อเอฟเฟ็กต์ที่ได้

4. เนื่องจากเคล็ดวิชาที่คุณกับสะพานสวรรค์คริสตัลเรียนไม่ครอบคลุม เอฟเฟ็กต์ของกระบี่คู่ผนึกรวมจะถูกหักทิ้งเยอะมาก แสดงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาไม่ได้ ไม่ใช่แบบดั้งเดิม]

กระบี่คู่ผนึกรวม!

นี่คือเคล็ดวิชาโจมตีร่วมหรือ

หลังจากได้เห็นข้อความแจ้งเตือนจากระบบ เยี่ยเว่ยหมิงก็ฮึกเหิมทันที แต่จากนั้นก็มีเสียงเตือนดังขึ้นอีก

ที่แท้แล้วอวี๋ชางไห่ที่ถูกทั้งสองบีบให้ถอยไปยังไม่ได้ถอยไปทันที ร่างกายกลับมาอยู่บนพื้นเหมือนเดิมแล้ว เขาออกแรงเหยียดสองขาทันที พุ่งสังหารเข้ามาหาทั้งสองอีกครั้ง กระบี่ยาวในมือก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นเงากระบี่เต็มฟ้า ไม่น่าเชื่อว่าเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยจะถูกครอบอยู่ในนั้นแล้ว

ท่าไม่ดีแล้ว!

ที่จริงไม่ใช่แค่เยี่ยเว่ยหมิงเท่านั้น แม้แต่สะพานสวรรค์น้อยที่รู้จักเอฟเฟ็กต์ของ ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยกใจพิสุทธิ์’ มาตั้งนนานแล้ว นี่ก็เป็นครั้งแรกนางที่ได้ใช้มันร่วมกับคนอื่นเช่นกัน เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ ทั้งสองก็ทุ่มเทจิตใจและกำลังอ่านข้อมูลค่าสเตตัสของ ‘กระบี่คู่ผนึกรวม’ แต่ไม่ทันรอให้สะพานสวรรค์น้อยอ่านข้อมูลจบ อวี๋ชางไห่ก็เลี้ยวกลับมาแล้ว โจมตีเข้ามาหนึ่งกระบี่อย่างสุดกำลัง ทำเอาทั้งสองทำอะไรไม่ถูก

เยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยเพิ่งจะรู้จักกันไม่ถึงหนึ่งวัน อย่าว่าแต่คู่รักเลย เกรงว่าแม้แต่สหายก็ยังไม่นับด้วยซ้ำ เพียงแต่ในเกมนี้ตราบใดที่ยังไม่ตาย การตั้งใจให้ความร่วมมือโดยคิดว่าจะรักษาม้าเป็นเยี่ยงม้าตาย ถึงจะเติมเต็มเงื่อนไขพื้นฐานในการใช้ ‘กระบี่คู่ผนึกรวม’ ได้

ตอนนี้ถูกอวี๋ชางไห่โจมตีกะทันหัน ทั้งสองคนที่เดิมทีก็ไม่ได้ใจตรงกันอยู่แล้ว แน่นอนว่านึกไม่ออกอยู่แล้วว่าจะผนึกรวมอย่างไร ทั้งคู่ต่างคนต่างโบกกระบี่ปกป้องตัวเอง

และเมื่อเป็นเช่นนี้ เอฟเฟ็กต์ ‘กระบี่คู่ผนึกรวม’ ที่เพิ่งก่อตัวก็พังทลายลงในชั่วพริบตาเดียว เยี่ยเว่ยหมิงที่ใช้ท่ามังกรร่อนล่อหงส์ถูกทำให้สะเทือนจนถอยหลังไปหลายก้าว ส่วนสะพานสวรรค์น้อยที่ถูกอวี๋ชางไห่โจมตีสุดกำลัง ก็ถูกทำให้สะเทือนออกไปเช่นกัน ขณะตัวลอยอยู่กลางอากาศ นางกระอักเลือดสดคำเล็กออกมาคำหนึ่ง พลังชีวิตหายไปแล้วหนึ่งในหกส่วน

ในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ไม่ใช่แค่ถูกโจมตีถึงตัวหรือโดนพิษถึงจะเสียพลังชีวิต ที่จริงขณะกำลังต่อสู้กัน ต่อให้แค่ดาบกระบี่ชนกัน หรือหมัดฝ่ามือสัมผัสกัน ก็มีโอกาสโดนหักค่าพลังชีวิตเช่นกัน แน่นอนว่าถ้าอยากทำอย่างนี้ได้ จะต้องมีพลังเหนือกว่าโดยสมบูรณ์เพื่อบดขยี้ให้ได้ก่อน

ส่วนอวี๋ชางไห่ บังเอิญว่าเป็นผู้แข็งแกร่งโดยสมบูรณ์ที่บดขยี้ใครก็ได้เมื่อระเบิดพลังออกมาเต็มที่

ที่จริงยามเผชิญหน้ากับอวี๋ชางไห่ที่ระเบิดพลังออกมาเต็มที่ ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงก็ถูกอีกฝ่ายบดขยี้ได้โดยสิ้นเชิงเช่นกัน เพียงแต่เพราะผลจากโบนัสป้องกันที่มีเฉพาะในเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ถึงได้ลดเอฟเฟ็กต์กดอัดจากอีกฝ่ายได้ส่วนหนึ่ง ทำให้คะแนนของเขาถึงคาบเส้นพอดี ถึงไม่เสียค่าพลังชีวิตไป

เมื่อเห็นสะพานสวรรค์น้อยกระเด็นออกไป เยี่ยเว่ยหมิงที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางต้านทานอวี๋ชางไห่ได้โดยลำพังก็ใช้ปลายเท้าแตะพื้น อาศัยพลังจากกระบี่นี้ของอวี๋ชางไห่ ออกตัวทีหลังแต่ตามทันสะพานสวรรค์น้อย แล้วใช้มือข้างหนึ่งช้อนนางเข้ามาไว้ในอ้อมกอด

สะพานสวรรค์น้อยที่กำลังอยู่ในภาวะเสียแรงโน้มถ่วง เดิมทีในใจก็หวาดกลัวอยู่แล้ว จู่ๆ รู้สึกได้ว่ามือใหญ่ที่มีพลังและอบอุ่นมาคว้าแขนตัวเองไว้ ทำให้ความรู้สึกวิตกกังวลผ่อนคลายลงไม่น้อย จากนั้นเยี่ยเว่ยหมิงก็ออกแรงดึง ทำให้ทั้งตัวนางชนเข้ามาในอ้อมแขนที่กว้างและอบอุ่นอย่างควบคุมไม่ได้ นางรู้สึกปลอดภัยและหวานอบอุ่นทันที

ใบหน้าของสะพานสวรรค์น้อยที่เดิมทีขาวดุจหิมะ ตอนนี้เหมือนมีปุยเมฆสีแดงเรื่อลอยขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม

ทว่าวินาทีถัดมา นางกลับได้กลิ่นหอมเย้ายวนจากเนื้อย่าง

เมื่อตั้งใจมองดีๆ ก็เห็นเยี่ยเว่ยหมิงนำเนื้อหมาป่าย่างชิ้นหนึ่งมาจ่อตรงปากนางอย่างหยาบคายมาก ใบหน้าครึ่งซีกของนางเต็มไปด้วยน้ำมัน

“เพิ่มค่าสเตตัสได้ รีบกินสักคำ แล้วค่อยสู้ต่อ!”

[1] รักษาม้าตายดุจม้าเป็น 死马当成活马医 หมายถึง ทำสิ่งที่รู้ว่าไม่มีทางสำเร็จ หรือดันทุรังทำในสิ่งที่เกินความสามารถ เฉกเช่นเดียวกับการพยายามรักษาม้าตาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ 72 กระบี่คู่ผนึกรวม

Now you are reading ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ Chapter 72 กระบี่คู่ผนึกรวม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 72 กระบี่คู่ผนึกรวม

“อธิบายไม่ทันแล้ว ใช้เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน! จันทราสุกสกาว!” ตอนที่เห็นอวี๋ชางไห่โจมตีเข้ามาแล้ว สะพานสวรรค์น้อยก็ร้อนใจจนกล่าวประโยคที่ไร้ตรรกะออกมา ก่อนจะแทงกระบี่ออกไปรับการโจมตีจากอวี๋ชางไห่ทันที

แม้เยี่ยเว่ยหมิงจะไม่รู้ว่านางหนูคนนี้คิดจะทำอะไรกันแน่ แต่เรื่องมาถึงขั้นนี้ ก็ทำได้เพียงรักษาม้าตายดุจม้าเป็น[1]แล้ว

เมื่อสิ้นเสียงของสะพานสวรรค์น้อย กระบี่ชิงจู๋ในมือก็พลันแทงออกไปข้างหน้า ไม่สนใจกระบี่ยาวที่อวี๋ชางไห่แทงมาหาเขา เพียงใช้ท่ากระบี่ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้วนเวียนอยู่ตรงคอหอยของอีกฝ่าย

หากตอนนี้เป็นการสู้แบบตัวต่อตัว อวี๋ชางไห่ก็คงไม่สนใจการแลกดาเมจของเยี่ยเว่ยหมิงหรอก การโจมตีของเยี่ยเว่ยหมิงร้ายกาจ โจมตีคริติคอลดุดัน คนที่มีแถบพลังชีวิตยาวอย่างเขาพบได้น้อยมากในหมู่ผู้เล่นปัจจุบัน แต่ก็ต้องแยกด้วยว่าเทียบกับใคร!

หากเป็นผู้เล่นสองคนที่เลเวลใกล้เคียงกัน เยี่ยเว่ยหมิงย่อมไม่กลัวที่จะนำดาเมจไปแลกดาเมจอยู่แล้ว

แต่การใช้วิธีการนี้โจมตี BOSS ก็ไม่ต่างอะไรกับการรนหาที่ตาย

ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่เลเวลของ BOSS เพิ่มถึงสิบเลเวล ก็ล้วนมีความต่างด้านคุณสมบัติอยู่แล้ว หลินจื้อเพ่ยที่เลเวลสามสิบห้าแม้จะเก่งมาก แต่เมื่อเทียบกับอวี๋ชางไห่ที่อยู่ตรงหน้านี้ ก็ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่อยู่คนละระดับกันเลย!

ถึงขั้นว่าต่อให้เป็นระหว่างเลเวลสามสิบเก้ากับเลเวลสี่สิบ ก็เป็นสองคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเช่นกัน!

เมื่อ BOSS เลเวลสี่สิบโจมตีสุดกำลัง ต่อให้โจมตีครั้งเดียวแล้วปลิดชีพเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ แต่ก็ใกล้เคียงแน่นอน การโจมตีครั้งนี้ของเยี่ยเว่ยหมิง เกรงว่าสำหรับอวี๋ชางไห่แล้ว คงไม่ใช่ภัยคุกคามที่น่ากลัวขนาดนั้นหรอก

ยังดีที่เยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้กำลังสู้อยู่คนเดียว ข้างกายเขายังมีสะพานสวรรค์น้อยอยู่อีกคน กระบี่ของนางกับเยี่ยเว่ยหมิงแทบจะลงมือพร้อมกัน แต่กลับอุดช่องโหว่ทั้งหมดในกระบวนท่าของเยี่ยเว่ยหมิงได้พอดี

ถ้าอวี๋ชางไห่ไม่เปลี่ยนกระบวนท่า ผลลัพธ์สุดท้ายเขาก็มีแต่ต้องอาศัยพลังภายในอันแข็งแกร่งของตัวเองทำให้สะพานสวรรค์น้อยสะเทือนถอยไปอีกครั้ง ส่วนกระบี่ชิงจู๋ของเยี่ยเว่ยหมิงก็แทงที่คอหรือไม่ก็บนหว่างคิ้วของเขาอย่างรุนแรงแน่นอน

ส่วนจะแทงไปโดนตรงไหน เกรงว่าคงต้องดูตามอารมณ์ของเยี่ยเว่ยหมิงแล้ว!

เจ้าเด็กโง่สองคนนี้ ทำไมจู่ๆ ร่วมมือกันแล้วโหดขนาดนี้ล่ะ?

ชั่วพริบตานั้น อวี๋ชางไห่อาศัยสัญชาตญาณของผู้ฝึกยุทธ์เลือกสิ่งที่มีประโยชน์ที่สุดให้กับตัวเองแล้ว

เขาเก็บกระบี่กลับมากะทันหัน เปลี่ยนจากโจมตีเป็นป้องกัน ขณะที่กำลังเหวี่ยงการโจมตีของทั้งสองคนออกไป เขาก็รีบถอยหลังไปไกลสามจั้ง หลุดออกนอกขอบเขตการโจมตีของทั้งสองคนแล้ว

อวี๋ชางไห่คนนี้ไม่เพียงแค่โจมตีได้ครอบคลุม แม้แต่วิชาตัวเบากับท่าร่างก็ปราดเปรียวมากเช่นกัน เรียกว่าเก่งจนหาตัวจับยากได้เลย!

ยังดีที่ในที่สุดก็เจอวิธีการต่อกรกับสิ่งที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ไม่อย่างนั้นวันนี้ทีมสำนักมือปราบเทพจะต้องแพ้ย่อยยับให้กับการโจมตีของเจ้าหมอนี่แน่นอน แม้จนป่านนี้แล้ว เยี่ยเว่ยหมิงจะยังไม่เข้าใจถึงความลึกซึ้งยอดเยี่ยมในกระบี่ของเขาก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ตัวเองก็ยังแอบโล่งอกอยู่ดี

ขณะนี้เอง เสียงแจ้งเตือนของระบบที่ดังขึ้นอย่างล่าช้าก็ได้คลายความสงสัยในใจเขาแล้ว

[ติ๊ง! คุณกับผู้เล่นสะพานสวรรค์คริสตัลร่วมมือกันอย่างมีใจสื่อถึงกัน คปลดล็อกเอฟเฟ็กต์พิเศษบางส่วนของ ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยกใจพิสุทธิ์’ สำเร็จ เข้าสู่สถานะพิเศษ: กระบี่คู่ผนึกรวม (ไม่ใช่ฉบับดั้งเดิม)!]

[กระบี่คู่ผนึกรวม (ไม่ใช่ฉบับดั้งเดิม): กระบี่คู่ผนึกรวม เดิมทีเป็นขอบเขตระดับสูงของเคล็ดกระบี่สำนักสุสานโบราณ เป็นการผนึกพลังระหว่าง ‘เคล็ดกระบี่ฉวนเจิน’ กับ ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยก’ ใช้ท่าไม้ตายชื่อเดียวกันของเคล็ดกระบี่สองชุดนี้ สามารถสร้างเอฟเฟ็กต์อันน่าทึ่งได้

หมายเหตุ:

1. ตอนใช้กระบี่คู่ผนึกรวม สองฝ่ายที่ร่วมมือกันจะต้องละทิ้งจิตใจของตัวเอง ปกป้องคู่หูต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

2. สองฝ่ายที่ผนึกรวมยิ่งใกล้ชิดกันมากเท่าไร เอฟเฟ็กต์ของการผนึกรวมก็จะยิ่งดีเท่านั้น หากเป็นคู่รัก หรือสามีภรรยากัน ประสิทธิภาพก็จะสูงขึ้นอีกขั้น

3. สองฝ่ายที่ผนึกรวมยิ่งมีพลังใกล้เคียงกันเท่าไร ประสิทธิภาพของกระบี่คู่ผนึกรวมก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีพลังเหนือกว่าอีกฝ่ายเยอะเกินไป กลับจะส่งผลกระทบต่อเอฟเฟ็กต์ที่ได้

4. เนื่องจากเคล็ดวิชาที่คุณกับสะพานสวรรค์คริสตัลเรียนไม่ครอบคลุม เอฟเฟ็กต์ของกระบี่คู่ผนึกรวมจะถูกหักทิ้งเยอะมาก แสดงประสิทธิภาพสูงสุดออกมาไม่ได้ ไม่ใช่แบบดั้งเดิม]

กระบี่คู่ผนึกรวม!

นี่คือเคล็ดวิชาโจมตีร่วมหรือ

หลังจากได้เห็นข้อความแจ้งเตือนจากระบบ เยี่ยเว่ยหมิงก็ฮึกเหิมทันที แต่จากนั้นก็มีเสียงเตือนดังขึ้นอีก

ที่แท้แล้วอวี๋ชางไห่ที่ถูกทั้งสองบีบให้ถอยไปยังไม่ได้ถอยไปทันที ร่างกายกลับมาอยู่บนพื้นเหมือนเดิมแล้ว เขาออกแรงเหยียดสองขาทันที พุ่งสังหารเข้ามาหาทั้งสองอีกครั้ง กระบี่ยาวในมือก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นเงากระบี่เต็มฟ้า ไม่น่าเชื่อว่าเยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยจะถูกครอบอยู่ในนั้นแล้ว

ท่าไม่ดีแล้ว!

ที่จริงไม่ใช่แค่เยี่ยเว่ยหมิงเท่านั้น แม้แต่สะพานสวรรค์น้อยที่รู้จักเอฟเฟ็กต์ของ ‘เคล็ดกระบี่ดรุณีหยกใจพิสุทธิ์’ มาตั้งนนานแล้ว นี่ก็เป็นครั้งแรกนางที่ได้ใช้มันร่วมกับคนอื่นเช่นกัน เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ ทั้งสองก็ทุ่มเทจิตใจและกำลังอ่านข้อมูลค่าสเตตัสของ ‘กระบี่คู่ผนึกรวม’ แต่ไม่ทันรอให้สะพานสวรรค์น้อยอ่านข้อมูลจบ อวี๋ชางไห่ก็เลี้ยวกลับมาแล้ว โจมตีเข้ามาหนึ่งกระบี่อย่างสุดกำลัง ทำเอาทั้งสองทำอะไรไม่ถูก

เยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยเพิ่งจะรู้จักกันไม่ถึงหนึ่งวัน อย่าว่าแต่คู่รักเลย เกรงว่าแม้แต่สหายก็ยังไม่นับด้วยซ้ำ เพียงแต่ในเกมนี้ตราบใดที่ยังไม่ตาย การตั้งใจให้ความร่วมมือโดยคิดว่าจะรักษาม้าเป็นเยี่ยงม้าตาย ถึงจะเติมเต็มเงื่อนไขพื้นฐานในการใช้ ‘กระบี่คู่ผนึกรวม’ ได้

ตอนนี้ถูกอวี๋ชางไห่โจมตีกะทันหัน ทั้งสองคนที่เดิมทีก็ไม่ได้ใจตรงกันอยู่แล้ว แน่นอนว่านึกไม่ออกอยู่แล้วว่าจะผนึกรวมอย่างไร ทั้งคู่ต่างคนต่างโบกกระบี่ปกป้องตัวเอง

และเมื่อเป็นเช่นนี้ เอฟเฟ็กต์ ‘กระบี่คู่ผนึกรวม’ ที่เพิ่งก่อตัวก็พังทลายลงในชั่วพริบตาเดียว เยี่ยเว่ยหมิงที่ใช้ท่ามังกรร่อนล่อหงส์ถูกทำให้สะเทือนจนถอยหลังไปหลายก้าว ส่วนสะพานสวรรค์น้อยที่ถูกอวี๋ชางไห่โจมตีสุดกำลัง ก็ถูกทำให้สะเทือนออกไปเช่นกัน ขณะตัวลอยอยู่กลางอากาศ นางกระอักเลือดสดคำเล็กออกมาคำหนึ่ง พลังชีวิตหายไปแล้วหนึ่งในหกส่วน

ในเกม ‘วีรบุรุษนิรันดร์กาล’ ไม่ใช่แค่ถูกโจมตีถึงตัวหรือโดนพิษถึงจะเสียพลังชีวิต ที่จริงขณะกำลังต่อสู้กัน ต่อให้แค่ดาบกระบี่ชนกัน หรือหมัดฝ่ามือสัมผัสกัน ก็มีโอกาสโดนหักค่าพลังชีวิตเช่นกัน แน่นอนว่าถ้าอยากทำอย่างนี้ได้ จะต้องมีพลังเหนือกว่าโดยสมบูรณ์เพื่อบดขยี้ให้ได้ก่อน

ส่วนอวี๋ชางไห่ บังเอิญว่าเป็นผู้แข็งแกร่งโดยสมบูรณ์ที่บดขยี้ใครก็ได้เมื่อระเบิดพลังออกมาเต็มที่

ที่จริงยามเผชิญหน้ากับอวี๋ชางไห่ที่ระเบิดพลังออกมาเต็มที่ ต่อให้เป็นเยี่ยเว่ยหมิงก็ถูกอีกฝ่ายบดขยี้ได้โดยสิ้นเชิงเช่นกัน เพียงแต่เพราะผลจากโบนัสป้องกันที่มีเฉพาะในเคล็ดกระบี่ ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ถึงได้ลดเอฟเฟ็กต์กดอัดจากอีกฝ่ายได้ส่วนหนึ่ง ทำให้คะแนนของเขาถึงคาบเส้นพอดี ถึงไม่เสียค่าพลังชีวิตไป

เมื่อเห็นสะพานสวรรค์น้อยกระเด็นออกไป เยี่ยเว่ยหมิงที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีทางต้านทานอวี๋ชางไห่ได้โดยลำพังก็ใช้ปลายเท้าแตะพื้น อาศัยพลังจากกระบี่นี้ของอวี๋ชางไห่ ออกตัวทีหลังแต่ตามทันสะพานสวรรค์น้อย แล้วใช้มือข้างหนึ่งช้อนนางเข้ามาไว้ในอ้อมกอด

สะพานสวรรค์น้อยที่กำลังอยู่ในภาวะเสียแรงโน้มถ่วง เดิมทีในใจก็หวาดกลัวอยู่แล้ว จู่ๆ รู้สึกได้ว่ามือใหญ่ที่มีพลังและอบอุ่นมาคว้าแขนตัวเองไว้ ทำให้ความรู้สึกวิตกกังวลผ่อนคลายลงไม่น้อย จากนั้นเยี่ยเว่ยหมิงก็ออกแรงดึง ทำให้ทั้งตัวนางชนเข้ามาในอ้อมแขนที่กว้างและอบอุ่นอย่างควบคุมไม่ได้ นางรู้สึกปลอดภัยและหวานอบอุ่นทันที

ใบหน้าของสะพานสวรรค์น้อยที่เดิมทีขาวดุจหิมะ ตอนนี้เหมือนมีปุยเมฆสีแดงเรื่อลอยขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม

ทว่าวินาทีถัดมา นางกลับได้กลิ่นหอมเย้ายวนจากเนื้อย่าง

เมื่อตั้งใจมองดีๆ ก็เห็นเยี่ยเว่ยหมิงนำเนื้อหมาป่าย่างชิ้นหนึ่งมาจ่อตรงปากนางอย่างหยาบคายมาก ใบหน้าครึ่งซีกของนางเต็มไปด้วยน้ำมัน

“เพิ่มค่าสเตตัสได้ รีบกินสักคำ แล้วค่อยสู้ต่อ!”

[1] รักษาม้าตายดุจม้าเป็น 死马当成活马医 หมายถึง ทำสิ่งที่รู้ว่าไม่มีทางสำเร็จ หรือดันทุรังทำในสิ่งที่เกินความสามารถ เฉกเช่นเดียวกับการพยายามรักษาม้าตาย

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+